หน้าหลัก / รักโบราณ / ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก / บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (1/4)

แชร์

บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (1/4)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-24 21:00:10

7

อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ

           

            ย้อนกลับไปเมื่อเก้าปีก่อนตอนนั้นเขาอายุเพียงสิบสองปี ส่วนนางเป็นเจ้าก้อนแป้งอายุห้าขวบปี เขาซึ่งเป็นศิษย์ของท่านราชครูจางเหว่ยสามารถเข้าออกจวนจางได้ราวกับจวนของตนเอง ส่วนหนึ่งก็เพราะชินอ๋องและท่านราชครูจางเป็นสหายกัน จึงย้ายออกจากวังแล้วมาปลูกเรือนอยู่ข้างๆ จวนจาง

            “พี่ชายท่านเป็นใครหรือเจ้าคะ”

            “ไปให้พ้น อย่ามายุ่งกับข้า”

            “รูปก็งามแต่เหตุใดปากถึงได้กล่าววาจาไม่น่าฟัง” สตรีตัวน้อยกล่าวพลางเอานิ้วชี้แตะคางตน ดวงตาที่จับจ้องเขาเต็มไปด้วยความสงสัย

            ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูนั่นทำให้เขาอ่อนลงและยอมพูดคุยกับนาง นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เราสองคนได้พบกัน เขาสนทนาและมาเล่นเป็นเพื่อนเด็กน้อยอยู่หลายครั้งโดยที่ไม่รู้จักกันแม้แต่ชื่อแซ่

            เนิ่นนานเกือบเจ็ดวันกว่าเขาจะทราบว่าแท้จริงเจ้าก้อนแป้งน่าเอ็นดู คือสตรีที่บุรุษตระกูลจางทุกคนหวงแหนดุจแก้วตาดวงใจ และวันนั้นมันก็มาพร้อมกับความสงสัยที่ทำให้เขาคาใจมาจนถึงทุกวันนี้

            “แฮ่กๆ เหนื่อยชะมัด เมื่อใดขาข้าจะยาวเช่นผู้อื่น” เสียงของเด็กน้อยผู้หนึ่งดังขึ้น

            “ฮึก...ฮึก” เขาพยายามกลั้นสะอื้นเพราะไม่อยากแสดงให้เด็กน้อยวัยห้าขวบได้เห็นด้านที่อ่อนแอ

            “นั่นเสียงผี หรือไม่”

            “ผะ ผีบุรุษ” สตรีตัวน้อยร้องออกมาเสียงตะกุกตะกัก ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม อยากวิ่งหนีใจแทบขาด แต่สองเท้าไม่ยอมขยับ

            “ข้าไม่ใช่ผี เจ้าจำพี่ชายผู้นี้ไม่ได้แล้วหรือ” เด็กชายวัยสิบสองกล่าวหลังจากเช็ดคราบน้ำตาบนหน้าเรียบร้อยแล้ว

            “ท่านเพิ่งตายใหม่สินะ คงยังไม่รู้ตัว ไว้ข้าจะทำบุญทำทานไปให้ ท่านอย่าได้มาหลอกมาหลอนข้าเลย” เด็กน้อยใช้สองมือปิดตาด้วยความกลัว ร่างเล็กสั่นเทา ไม่มีสติมากพอจะรับรู้ในสิ่งที่เขากล่าว

            “เจ้าเด็กโง่เง่า ข้าคือพี่ชายรูปงามของเจ้า ไม่ได้เจอกันสองวัน เจ้าลืมข้าแล้วหรือ” เขากล่าวพลางดึงมือนางที่ยกขึ้นมาปิดตาออก

            “พี่ชาย ท่านอย่าได้หลอกข้าเช่นนี้สิเจ้าคะ ข้ากลัว” นางกล่าวพลางโผเข้าไปกอดบุรุษตรงหน้า

            ก็มารยาไปเช่นนั้นแหละจะได้ดูเป็นเด็กน่าเอ็นดู แท้จริงนางจะกลัวไปทำไมผี ในเมื่อตนเองก็ตายเป็นผีก่อนจะมาเกิดเป็นจางชิงหนี่ว์

            ที่พิเศษกว่าผู้อื่นหน่อยก็คือนางจำเรื่องราวในชาติก่อนของตนได้จึงรู้ดีว่าที่แห่งนี้เป็นเพียงนิยายเรื่องหนึ่งที่ตนเคยอ่าน

            “...” เขายืนนิ่งไม่ขยับ

            “แล้วท่านเป็นอันใด เหตุใดถึงได้มานั่งร้องไห้คนเดียวที่นี่เจ้าคะ” นางเอ่ยถามด้วยท่าทางไร้เดียงสา ดวงตาที่จับจ้องเขาฉายแววสงสัยใคร่รู้

            “ข้าไม่ได้ร้องไห้ เจ้าได้ยินผิดแล้ว ข้าเพียงแค่กำลังเสียใจ”

            “พี่ชายท่านเสียใจเรื่องอันใดเจ้าคะ ท่านสามารถกล่าวกับข้าได้”

            “มารดาข้าตายแล้ว”

            อ๋อ...เข้าใจแล้วมารดาจากลา บุตรชายถึงได้มานั่งร้องไห้เงียบๆ อยู่ในที่ลับตาคน เด็กชายผู้นี้คงมาจากตระกูลใหญ่สินะ บุรุษยุคนี้มักจะถูกสั่งสอนไม่ให้ร้องไห้ แต่ก็นะไม่ว่าจะบุรุษหรือสตรี เมื่อเสียใจก็ควรจะหลั่งน้ำตาบ้าง จะได้ปลดปล่อยความโศกเศร้าที่อยู่ภายในจิตใจ

            “แม่ท่านหรือเจ้าคะ ข้าเสียใจด้วย”

            “อืม”

            “เช่นนั้นหากท่านอยากร้องไห้ก็ร้องเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนท่านเอง”

            “ข้าบอกแล้วอย่างไร ว่าข้าไม่ได้ร้องไห้ เป็นบุรุษห้ามหลั่งน้ำตาง่ายๆ ไม่ใช่หรือ”

            ยังไม่ยอมรับอีกทั้งๆ ที่น้ำตาแทบจะไหลรินออกมาจากดวงตาแล้ว

            “ท่านอย่าไปฟังพวกคนตัวโตกล่าวให้มาก หากดีใจก็หัวเราะออกมา หากเสียใจก็ร้องไห้ แต่ท่านต้องร้องไห้แค่ตอนอยู่กับข้าเท่านั้นนะเจ้าคะ”

            “เพราะเหตุใด” คนตัวโตที่นางกล่าวคงหมายถึงพวกผู้ใหญ่

            “เพราะข้าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับให้ ไม่บอกใคร เมื่อเราเสียใจหากไม่ร้องไห้ออกมาน้ำตาจะท่วมอยู่ด้านในจนโศกเศร้าทำอันใดก็ไม่ได้นะเจ้าคะ และข้าก็คิดว่าท่านแม่ของท่านคงไม่อยากให้ท่านเก็บความโศกเศร้านี้ไว้กับตัวหรอกเจ้าค่ะ ดังนั้นท่านต้องปลดปล่อยมันออกมาทางน้ำตา”

            “เป็นเช่นนั้นหรือ” กล่าวจบน้ำตาของเด็กชายวัยสิบสองก็เริ่มไหลรินอีกครั้ง

            “เจ้าค่ะ ร้องออกมาเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะไม่ล้อท่าน” แม่ตายทั้งคน ใครบ้างไม่อยากร้องไห้

            “ฮึก เจ้าจะไม่บอกใครจริงๆ นะ”

            “อืม ข้าสัญญา” สตรีตัวน้อยกล่าวและชูนิ้วก้อยให้ ก่อนจะจับมือเขามาแล้วใช้นิ้วก้อยของเขามาเกี่ยวกับของนาง

            “ขอบคุณ” กล่าวจบเขาก็ร้องไห้ออกมาด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

            เนิ่นนานนับเค่อที่เด็กชายแปลกหน้าที่นางไม่รู้จักชื่อนั่งร้องไห้ จนนางเริ่มกลัวเขาจะปวดหัว จึงลุกยืนขึ้นแล้วเข้าไปรั้งศีรษะเขามาพิงตัวนางไว้ก่อนจะโอบกอด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (2/4)

    เนิ่นนานนับเค่อที่เด็กชายแปลกหน้าที่นางไม่รู้จักชื่อนั่งร้องไห้ จนนางเริ่มกลัวเขาจะปวดหัว จึงลุกยืนขึ้นแล้วเข้าไปรั้งศีรษะเขามาพิงตัวนางไว้ก่อนจะโอบกอด “ท่านแม่ของท่าน แท้จริงนางไม่ได้อยากจะทิ้งท่านไปเช่นนี้หรอก แต่เพราะนางเห็นท่านเติบใหญ่เป็นคนที่ดีและน่าภูมิใจ นางจึงหมดห่วง” “ฮือ...” “แม้ว่าตอนนี้นางจะไม่ได้โอบกอดท่านแล้ว แต่นางยังคงอยู่ตรงนี้” เด็กหญิงตัวน้อยชี้ไปที่อกของเขา “ภาพความทรงจำที่ดีงามระหว่างท่านและนางจะไม่มีใครมาลบล้างไปได้ ข้าเชื่อว่านางยังคงมองดูท่านจากที่ตรงโน้น แม้ท่านจะเสียใจแต่ข้าว่านางคงอยากเห็นท่านเติบโตเป็นบุรุษที่องอาจและเก่งกาจ” “ปล่อยข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-24
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (3/4)

    เรื่องราวเกี่ยวกับนางจึงค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของเขาจนกระทั่งได้เจอกันอีกครั้งในวันนั้น... ด้านองค์รัชทายาทที่สวมรอยเดินตามสาวใช้คนสนิทของคุณหนูเจิ้งแทน กว่าเสี่ยวยาจะรู้ตัวก็พาบุรุษที่คุณหนูไม่อยากพบเจอมาหาถึงหน้าเรือนนอน “องค์...” สาวใช้ยังกล่าวไม่ทันจบก็ถูกปิดปากด้วยมือของบุรุษผู้หนึ่งก่อนที่ผู้สูงศักดิ์จะพยักหน้าส่งสัญญาณให้คนของตนพาตัวออกไป ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูจากผู้ที่ยืนอยู่หน้าห้อง ทำให้เจิ้งเข่อชิงรีบสาวเท้าก้าวมาที่ประตูก่อนจะเปิดออกด้วยสีหน้ายินดี รอยยิ้มของนางค้างแข็งไปชั่วขณะเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่หน้าห้องหาใช่สตรีที่ตนรอคอย ดวงหน้าหวานแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงไร้รอยยิ้ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-24
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (4/4)

    “เรื่องถอนหมั้น...” เจิ้งเข่อชิงกำลังจะกล่าวถึงเรื่องราวที่เขามีสตรีที่พึงใจ แต่เขากลับเอ่ยแทรกขึ้นอย่างเสียมารยาท “ก่อนที่จะกล่าวเรื่องนั้น ขอให้ข้าได้อธิบายเรื่องที่ชาวบ้านพวกนั้นเล่าลือก่อนได้หรือไม่” “เจ้าค่ะ” นางตอบรับพลางรอดูว่าบุรุษผู้นี้จะปั้นเรื่องอันใดขึ้นมาหลอกนางอีก “แท้จริงเรื่องราวไม่มีอันใดเลย วันนั้นข้าแค่ออกไปหาอาหารเลิศรสกินที่โรงเตี๊ยมเหอหยวนกับหลิวเฟิงเหมียน แต่บังเอิญไปเจอน้องสาวของเขาและสหายที่ชื่อสวี่ลู่ฟาง จึงได้ร่วมโต๊ะ ก่อนกลับคุณหนูเมิ่งร่ำร้องให้พี่ชายพาไปซื้อเครื่องประดับ แต่สหายของนางต้องรีบกลับจวน นางจึงขอร้องให้ข้าไปส่งสตรีผู้นั้นที่จวนสวี่ เรื่องราวมีเพียงแค่นี้” เขาก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดชาวบ้านถึงได้เล่าลือไปไกลถึงเพียงนั้น&nbs

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-24
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (1/4)

    8บุรุษเอาแต่ใจ จางชิงหนี่ว์ขยับตัวเล็กน้อยอย่างรู้สึกอึดอัด เมื่อบุรุษที่นั่งอยู่ข้างๆ เท้าคางจ้องมองนางด้วยแววตายากจะคาดเดา “ชินอ๋อง เอ่อ...พี่อันฉีเจ้าคะ ข้าว่าท่านควรปล่อยข้อมือข้าได้แล้ว” จับธรรมดาสามัญนางคงไม่ว่าอันใด หากแต่เขาขยับนิ้วราวกับกำลังลูบไล้ข้อมือนาง ‘บุรุษผู้นี้แท้จริงเป็นคนวิปริตผิดแผก ชอบกินเต้าหู้สตรีหรือนี่’ นางควรจะสงสารสวี่ลู่ฟางดีหรือไม่ “ขออภัยพี่ลืม” เขากล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะยอมปล่อยข้อมือนางแต่โดยดี หลังจากสัมผัสผิวนุ่มเนียนของนางจนพอใจ ข้อมือยังนุ่มน่าลูบไล้เช่นนี้ แล้วแก้มพองๆ นั่นจะน่าบีบน่าจุมพิตสักเพียงใด “ข้าคงต้องขอตัวกลับจวนแล้วเจ้าค่ะ หากท่านอยากนั่งรอองค์รัชทายาทต่อก็เชิญตามสบายนะเจ้าคะ” “...” เมื่อเห็นตัวซวยที่ตนไม่อยากอยู่ใกล้ นิ่งเงียบ นางจึงลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปที่โถงงานเลี้ยงเพื่อบอกลาเจ้าของจวน มางานเลี้ยงจวนเขาอย่างไรก็ควรจะมีมารยาทจะไปจะมาต้องบอกกล่าวไม่ให้เสียชื่อวงศ์ตระกูล ไม่รู้ว่าเจิ้งเข่อชิงจะเป็นอย่างไรบ้าง องค์รัชทายาทผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-25
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (2/4)

    “นี่ท่าน ลอบเข้าจวนข้าอีกแล้วนะเจ้าคะ” ตั้งแต่เขาให้ความร่วมมือรีบพานางกลับจวน นางรู้สึกได้ว่าแท้จริงเขาไม่ได้น่ากลัวดังเช่นที่เจอกันในวันแรก พรึ่บ บุรุษในอาภรณ์สีดำกระโดดลงจากต้นไม้ สองเท้าแตะพื้นอย่างสวยงาม “วันนี้เจ้าแต่งตัวงดงามถึงเพียงนี้ ไปเที่ยวเล่นที่ใดมา” “ข้าไปงานปักปิ่นของสหายมาเจ้าค่ะ” “สหายเจ้าก็ปักปิ่นแล้ว เจ้าเล่าเมื่อใดจะปักปิ่น” “อีกไม่นานเจ้าค่ะ” “ข้ามาร่วมงานได้หรือไม่” “ขออภัยที่ข้าต้องปฏิเสธ” หากเขามา นางจะให้คำอธิบาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-25
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (3/4)

    ‘ข้าจะรอดู’ คนที่คิดเข้าข้างตนเองไปไกลกล่าวพลางซ่อนรอยยิ้มไว้ในสีหน้าอย่างแนบเนียน “เรื่องที่เจ้าต้องการปรึกษาข้ามีเพียงเรื่องเกี้ยวบุรุษ?” “มีอีกหนึ่งเรื่องเจ้าค่ะ” “กล่าวมา...” “หากวันหนึ่งท่านพึงใจสตรีผู้หนึ่งเข้า แล้วข้าไปทำให้คนรักของท่านไม่ถูกใจ ท่านจะสังหารข้าตามที่นางต้องการหรือไม่” “เหตุใดข้าต้องสังหารเจ้าเพื่อนางด้วย” มันคือคำถามอันใดกัน เขาไม่เข้าใจ “ตอบข้ามาสิเจ้าคะ ว่าท่านจะสังหารข้า ตามคำขอของสตรีที่ท่านรักหรือไม่”&n

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (4/4)

    “มาจากเขา แต่ข้าให้ท่านพ่อส่งคืนไปแล้ว เหตุใดมันถึงมาอยู่บนหัวข้า” เจิ้งเข่อชิงครุ่นคิดก่อนที่นัยน์ตาหงส์จะเบิกกว้างอีกครั้ง ต้องเป็นตอนนั้นแน่ๆ ที่เขาช่วยประคองไม่ให้นางตกจากเก้าอี้ตอนนั้นนางรู้สึกตึงๆ บนหัว แต่ก็ไม่ได้คิดอันใดเพราะคิดว่าปิ่นที่ปักอยู่หลายอันอาจจะไปชนโดนเขา ‘น่าชังนักโจวเฟยหลง’ นางปฏิเสธอย่างชัดเจนก็ยังดื้อดึงที่จะมอบให้ “เช่นนั้นเราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ” “เก็บไว้ในหีบ หากถึงเวลาข้าจะส่งคืนเขาด้วยตนเอง” หากหมดพันธะต่อกันนางจะรีบส่งคืนให้เร็วที่สุด ไม่กี่วันต่อมาคุณหนูเจิ้งก็มาเยือนจวนจางเพื่อชักชวนให้นางไปเยี่ยมหวังเยว่ฉิงท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 9 สตรีชาเขียว (1/4)

    9สตรีชาเขียว “ช่างเสียมารยาทจริงๆ ที่เข้าห้องผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” คุณหนูเจิ้งกล่าวตำหนิแต่ก็ยังไม่ยอมผละออกห่างจากนาง “เข่อชิง เจ้าคิดว่าตนกำลังทำอันใดอยู่” คำกล่าวของบุรุษสูงศักดิ์ทำให้นางรู้สึกงุนงงแล้ว มาโรงเตี๊ยมที่มีอาหารเลิศรส หากไม่มากินข้าวจะให้มาทำอันใดอีก เอ่อ...ข้าลืมไปองค์รัชทายาทผู้นี้นอกจากเรื่องการบริหารบ้านเมืองแล้ว เรื่องอื่นเขาไม่ฉลาดเอาเสียเลย มิเช่นนั้นคงไม่ถูกสตรีดอกบัวขาวล่อลวงเอาไปเป็นทาสรักหรอก “องค์รัชทายาท พระองค์ได้โปรดกลับห้องของพระองค์ไปเถิดเพคะ อย่าได้มายุ่งเกี่ยวกับหม่อมฉันและสหาย” นอกจากจะเอ่ยวาจาแล้ว สหายของนางยังส่งสายตาตำหนิคู่หมาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-27

บทล่าสุด

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู (1/1)

    การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู มีคนมากมายที่อาจจะสงสัยว่าเหตุใดท่านราชครูจางเหว่ยถึงได้เร่งรีบตบแต่งเถ้าแก่เนี้ยร้านขายภาพวาดซือซือเข้าจวนจาง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีข่าวลือว่าคบหากัน หรืออาจจะเป็นเพราะได้เห็นบทเรียนจากการเล่าลือเรื่องของคุณหนูสวี่ ที่จู่ๆ คนเหล่านั้นบังเอิญลิ้นขาดกลายเป็นคนพูดไม่ได้ แต่โชคดีหนึ่งในนั้นมีคนเขียนอักษรได้ จึงได้เขียนเตือนคนรอบตัวไม่ให้เล่าลือเรื่องราวเกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์หรือตระกูลที่ใกล้ชิดราชวงศ์ สุดท้ายจึงไม่มีใครกล้าเล่าลือหรือสงสัยถึงความเร่งรีบของท่านราชครู “พี่เหว่ย ท่านจะไม่เสียใจทีหลังห

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮองเฮาพบปะสหาย (1/1)

    ฮองเฮาพบปะสหาย ภายในจวนท่านราชเลขาฯจาง วุ่นวายไม่น้อยเมื่อมีผู้สูงศักดิ์มาเยือนโดยได้นัดหมายกันล่วงหน้า “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” ชินอ๋องที่เพิ่งลงจากรถม้าแสดงความเคารพโอรสสวรรค์และฮองเฮา “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ” พระชายาสกุลจางที่ลงรถม้ามาภายหลังทำความเคารพอีกฝ่ายเช่นกัน “ตามสบายเถิด พวกเจ้าเป็นสหายของเราใช้คำธรรมดาสามัญเถิด”

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ (2/2)

    “เจ้าโอบอุ้มบุตรชายของเราให้แน่นๆ ส่วนเจ้าพี่จะจับให้แน่นๆ เอง” กล่าวจบเขาก็ใช้วิชาตัวเบาโอบอุ้มพานางและบุตรชายกลับตำหนัก ทันทีที่ถึงตำหนักโจวหลี่หมิงถูกส่งตัวให้ซานจี สาวใช้ประจำตัวคนใหม่ของนางที่ทางพระสวามีหามาให้ แน่นอนว่านางมิใช่สาวใช้ธรรมดา เพราะสตรีผู้นี้คือองครักษ์เงาที่ถูกฝึกมาอย่างหนักเพื่อดูแลดวงใจของท่านอ๋อง “นำไปซื่อจื่อไปมอบให้แม่นมแล้วเจ้าไปพัก ข้าจะดูแลพระชายาเอง” บุรุษที่ชื่นชอบการปรนนิบัติฮูหยินกล่าว “แงๆ” แม้จะดีดดิ้นเพียงใด แต่บุตรชายมีหรือจะต่อต้านบิดาได้ “ท่านพี่ หากลูกไม่อยากไป...” ไม่มีมาร

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ (1/2)

    เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ ดวงตาเมล็ดซิ่งทอดมองผืนดินที่เขียวชอุ่มไปด้วยพืชผัก ที่ดินผืนนี้นางใช้เงินที่ได้จากการวาดภาพขายมาซื้อเก็บไว้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับบ่าวรับใช้ผู้ภักดีทั้งสอง ก่อนหน้าที่นางจะแต่งเข้าตำหนักอ๋องไม่นาน นางก็จัดการให้จื่อรั่วและจื่อเป่าที่ความสัมพันธ์คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกันก่อนจะคืนสัญญาทาสแล้วให้ทั้งสองคนย้ายมาปลูกจวนอยู่บนที่ผืนนี้ “พระชายาท่านนั่งพักดื่มน้ำก่อนเถิดเพคะ รอแดดร่มลมตกค่อยออกไปเดินดูด้านนอก”&

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) (2/2)

    “เช่นนั้นก่อนจะลงโทษน้อง ท่านพี่กินข้าวก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ” “มิต้อง” กล่าวจบเขาก็รั้งนางเข้าไปแนบชิด มือใหญ่จับยึดคางเรียวเอาไว้ริมฝีปากร้อนกดลงบนกลีบปากบาง ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนางอย่างเอาแต่ใจ ในขณะที่มือช่วยปลดเปลื้องอาภรณ์ให้นางอย่างรวดเร็ว ช่างใจร้อนเสียจริง... ดวงหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย เมื่อพระสวามีของตนที่เพิ่งถอนจุมพิตเร่าร้อนเมื่อครู่ จับจ้องนางราวกับหมาป่าหิวกระหาย “น้องหญิงของพี่เลิศรสกว่าอาหารใดๆ” กล่าวจบเขาก็ช้อนเรือนร่างเปลือยเปล่าเข้าหลังฉากกั้น ว่ากันว่าฮองเฮาชื่นชอบการแช่น้ำร้อน ภายในตำหนักจึงมีบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่อยู่ติดห้องบรรทม 

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) (1/2)

    ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) นัยน์ตาดำของบุรุษสูงศักดิ์จับจ้องใบหน้าของสตรีที่ตนรักอย่างไม่ละสายตา มือใหญ่ช่วยคีบอาหารใส่ชามให้นางอย่างเอาใจ “ท่านพี่กินบ้างเถิดเจ้าค่ะ อย่ามัวแต่คีบให้ข้าเลยเจ้าค่ะ” แม้ยามนี้ทั้งสอ

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (4/4)

    “เอ่อ...ท่านช่วยพาข้าลงจากหลังม้าได้หรือไม่เจ้าคะ” สิ้นเสียงนาง รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าไร้ที่ติแม้จะหล่อเหลาน้อยกว่าชินอ๋องซื่อจื่อ แต่ทว่าก็มีสตรีไม่น้อยที่ชื่นชอบบุรุษผู้นี้ หลังจากที่นางได้ขี่ม้าตัวเดียวกับบุรุษที่สตรีหลายคนหมายปอง นางก็มักจะเจอเขาที่เหลาอาหารหรือโรงเตี๊ยมอยู่บ่อยครั้ง เพราะไม่สบายใจกับสายตาจาบจ้วงของบุรุษในวันนั้นนางจึงไม่กล้าไปที่ร้านบะหมี่เนื้อของท่านป้าผู้นั้นอีก แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องแปลกหรือไม่ นางมักจะเจอท่านราชเลขาฯจางผู้นั้นอยู่บ่อยครั้ง วันนี้ก็เช่นกัน “ดูเหมือนเจ้าจะชื่นชอบการออกมากินข้าวนอกจวน มิทราบว่าพ่อครัวจวนหวังทำอาหารไม่อร่อยหรือ” เขามานั่งร่วมโต๊ะโดยที่นางไม่ต้องเชิญทุกครา จนกลายเป็นความเคยชิ

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (3/4)

    “ข้าอิ่มแล้วเจ้าค่ะ ได้โปรดยกเท้าที่เหยียบชายอาภรณ์ข้าด้วยเจ้าค่ะ” “เจ้ารู้หรือไม่ มีขอทานและคนยากจนที่ไม่มีแม้แต่ข้าวจะกิน หากคนพวกนั้นมาเห็นเจ้ากินเหลือเช่นนั้น พวกเขาคงตัดพ้อ พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้กินบะหมี่น้ำธรรมดา แต่เจ้าที่เป็นคุณหนูกลับกินทิ้งกินขว้าง กินเพียงคำสองคนไม่ถูกใจก็ทิ้ง จะว่าไปก็น่าสงสารชาวบ้านที่เขาทำปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์นะ พวกเขาลำบากเพียงใดกว่าจะปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์มาเพื่อเป็นอาหารให้พวกเราได้กิน...” “พอแล้วเจ้าค่ะ ข้ากินให้หมดก็ได้” คุณหนูหวังกล่าวก่อนจะนั่งลงตามเดิม มือเรียวหยิบตะเกียบมาคีบกินบะหมี่เนื้อที่ตนกินค้างไว้ พร้อมกับบะหมี่เนื้อที่เขาสั่งถูกนำมาให้พอดี มุมปากของเขาหยักยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของนาง จางชิงเทียนกินบะหมี่เนื้อไปลอบมองสหายของน้องสาวไป เขาเพิ่งสังเกตว่าคุณหน

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (2/4)

    “ข้าเห็นเจ้าเดินออกจากโรงเตี๊ยมจึงเดินตามเพียงเท่านั้น” กล่าวจบสายตาของท่านราชเลขาฯ ก็จับจ้องดวงหน้าหวานที่มักจะส่งยิ้มให้เขาอยู่เสมอ แต่ทว่าวันนี้กลับบึ้งตึง “ท่านป้าเจ้าขา วันนี้ข้าต้องไปแล้ว ท่านมาเก็บโต๊ะเถิดเจ้าค่ะ คุณชายพวกนี้จะได้มีโต๊ะนั่งไม่ต้องมายืนจ้องผู้อื่นให้เสียมารยาทเช่นนี้” กล่าวจบนางก็วางเหรียญอีแปะลงบนโต๊ะก่อนจะเดินออกจากร้านไป ตั้งแต่ต้นจนจบนางไม่ทักทายเขาเช่นที่เคยทำ ต้องเป็นเพราะที่เขากล่าววาจาไม่ดีใส่นางในวันนั้นเป็นแน่ “ชิงเทียนเจ้ารู้จักคุณหนูผู้นั้นหรือ” “เจ้าชอบนางหรือ” “ใช่ ข้าอยากเกี้ยวพานาง ในเมืองหลวงนี้จะมีคุณหนูส

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status