Home / รักโบราณ / ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก / บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (2/4)

Share

บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (2/4)

last update Last Updated: 2025-03-24 21:30:32

             เนิ่นนานนับเค่อที่เด็กชายแปลกหน้าที่นางไม่รู้จักชื่อนั่งร้องไห้ จนนางเริ่มกลัวเขาจะปวดหัว จึงลุกยืนขึ้นแล้วเข้าไปรั้งศีรษะเขามาพิงตัวนางไว้ก่อนจะโอบกอด

            “ท่านแม่ของท่าน แท้จริงนางไม่ได้อยากจะทิ้งท่านไปเช่นนี้หรอก แต่เพราะนางเห็นท่านเติบใหญ่เป็นคนที่ดีและน่าภูมิใจ นางจึงหมดห่วง”

            “ฮือ...”

            “แม้ว่าตอนนี้นางจะไม่ได้โอบกอดท่านแล้ว แต่นางยังคงอยู่ตรงนี้” เด็กหญิงตัวน้อยชี้ไปที่อกของเขา

            “ภาพความทรงจำที่ดีงามระหว่างท่านและนางจะไม่มีใครมาลบล้างไปได้ ข้าเชื่อว่านางยังคงมองดูท่านจากที่ตรงโน้น แม้ท่านจะเสียใจแต่ข้าว่านางคงอยากเห็นท่านเติบโตเป็นบุรุษที่องอาจและเก่งกาจ”

            “ปล่อยข้าได้แล้ว”

            “ท่านรู้สึกดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่”

            “อืม” พอได้ร้องไห้ปลดปล่อยน้ำตา มันทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

            “ท่านแม่ของพี่ชายต้องดีใจที่ท่านเข้มแข็งถึงเพียงนี้”

            “อืม ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าอายุแค่ห้าขวบจริงๆ หรือ เหตุใดถึงได้ช่างเจรจานัก”

            “ข้าน่ะหรือ ห้าขวบ หกขวบ หรือเจ็ดขวบแหละมั้ง” นางแสร้งนับนิ้วผิดๆ ถูกๆ ให้ดูคล้ายเด็กน้อยไร้เดียงสา

            “ชิงหนี่ว์ เจ้ามาอยู่ที่นี่เอง ลุงเดินหาทั่วจวนเลย”

            “อ่ะ...ท่านลุงข้ามาแล้วรีบเช็ดน้ำตาเร็วเข้า” กล่าวจบนางก็รีบยัดผ้าเช็ดหน้าของตนใส่มือเขา ซึ่งเด็กชายที่ดูจะอายุมากกว่านางเล็กน้อยรีบทำตามแต่โดยดี

            “มาหลบอยู่ที่นี่นี่เอง แล้วเจ้ากำลังนั่งคุยกับใครอยู่หรือ” บุรุษที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เอ่ยถาม

            “แค่พี่ชายผู้หนึ่งที่หลงทางมาเจ้าค่ะ” นางรีบก้าวเท้าขึ้นหน้าเพื่อยืนบังเด็กชายที่นั่งอยู่ไม่ให้ท่านลุงเห็น

            “พี่ชายหรือ ในจวนลุงไม่มีเด็กผู้ชายนะชิงหนี่ว์”

            ‘ท่านลุงไม่เห็นเขาเช่นนี้หรือว่าเขาจะเป็นผีจริงๆ นี่ข้าเล่นกับผีมาตั้งหลายวันหรือ’ เพียงแค่คิดขนนางก็ลุกเกรียว ก่อนจะหันกลับไปมองด้านหลังเพื่อดูให้แน่ใจ

            ‘ยังอยู่ เฮ้อ...โล่งอกไปที’ นางคิดก่อนจะส่งยิ้มให้เด็กชายแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับท่านลุง

            “เจ้าเด็กดื้อบอกมาซะดีๆ ว่าแอบมาทำอันใดที่ท้ายจวนลุงเช่นนี้”

            “ข้าก็แค่...” นางกำลังจะหาเรื่องแก้ตัว แต่คนที่อยู่ด้านหลังนางลุกยืนขึ้นเสียก่อน แล้วก้าวเท้าขึ้นมายืนอยู่ข้างนาง

            “คารวะท่านอาจารย์ขอรับ”

            “ที่แท้พี่ชายที่หลงทางมาก็คือพระองค์นั่นเอง”

            “ขออภัยที่เปิ่นหวางเข้ามาในจวนของท่านอาจารย์โดยมิได้บอกกล่าว เปิ่นหวางเพียงแค่อยากหาที่เงียบๆ เท่านั้น"

            “มิต้องกล่าวอันใดหรอก อาจารย์เข้าใจพระองค์ หากยังไม่พร้อมพระองค์จะยังไม่กลับจวนก็ได้ อาจารย์จะแจ้งชินอ๋องให้” สิ้นคำกล่าวจางชิงหนี่ว์ก็รีบก้าวเท้าถอยไปด้านข้างทันที

            ‘ชินอ๋อง! บุรุษผู้นี้คงมิใช่โจวอันฉี ชินอ๋องซื่อจื่อผู้นั้นหรอกนะ’

            “ขอบคุณอาจารย์” เขากล่าวก่อนจะหันไปมองเด็กน้อยที่มองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว

            “ท่านลุงเจ้าขา พี่ชายผู้นี้คือใครหรือเจ้าคะ” เพราะต้องการยืนยันความคิดตน นางจึงเอ่ยปากถามออกไป

            “เขามีนามว่า โจวอันฉี เป็นบุตรชายคนเดียวของชินอ๋อง”

            ‘ตายห่าละงานนี้’ แม้จะพยายามซ่อนสีหน้าตกใจและตื่นกลัว แต่เพราะยังเป็นเด็กจึงไม่อาจเก็บสีหน้าได้เก่งเท่าใด

            “ขออภัยเพคะ ที่เมื่อครู่หม่อมฉันล่วงเกินพระองค์” ท่าทางที่เปลี่ยนไปของเด็กหญิงวัยห้าขวบทำให้จางเหว่ย ผู้เป็นลุงรู้สึกแปลกใจ

            “มิเป็นไร” เขากล่าวพลางก้าวเดินเข้าไปใกล้ แต่สตรีตัวน้อยช่างเจรจาเมื่อครู่กลับถอยห่าง

            “ชิงหนี่ว์ของลุงช่างรู้ความ”

            “ท่านลุงเจ้าขา ข้าอยากกินขนมแล้ว ท่านพูดคุยกับชินอ๋องซื่อจื่อไปก่อนนะเจ้าคะ ข้าไปล่ะ”

            “ประเดี๋ยวก่อน...” โจวอันฉีส่งเสียงเรียก แต่นางมีหรือจะสน

            “เป็นเพียงแค่เด็กน้อย ขาก็สั้นแต่เดินเร็วนักแล” ผู้เป็นลุงอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของหลานสาว

            “นางเป็นใครหรือขอรับท่านอาจารย์”

            “นางคือบุตรสาวคนเล็กของแม่ทัพประจิม จางหย่ง นามว่าชิงหนี่ว์”

            “ชิงหนี่ว์” เมื่อครู่ยังพูดคุยช่างเจรจา แต่เหตุใดพอรู้ว่าเขาคือใคร นางถึงได้ไม่ยอมใกล้ถึงเพียงนั้น

            “นางเป็นแค่เด็กน้อย หากทำอันใดให้พระองค์ไม่พอใจ ก็อย่าได้ถือสาเลย”

            “ขอรับ” เขาตอบรับพลางยกมือขึ้นแตะอกเสื้อที่เพิ่งเอาผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยยัดไว้

            หนีไปก่อนเช่นนี้ เขาจะคืนผ้าเช็ดหน้าให้นางได้อย่างไร

            และหลังจากวันนั้นหลานสาวของท่านราชครูจางเหว่ยก็ไม่มาที่จวนจางอีกเลย ตัวตนของนางก็ดูเหมือนจะค่อยๆ ลบเลือนไปจากเมืองหลวง มีเพียงเสียงเล่าลือที่ว่าหลังจากที่ปฏิเสธฮ่องเต้ไม่หมั้นหมายกับชินอ๋องซื่อจื่ออย่างเขา จางชิงเทียนที่หวงแหนน้องสาวไม่ยอมให้นางออกจากจวนไปไหน ขนาดท่านราชครูและอดีตราชครูหากอยากเจอหลานสาวก็ต้องมาหาที่จวน

            เรื่องราวเกี่ยวกับนางจึงค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของเขาจนกระทั่งได้เจอกันอีกครั้งในวันนั้น...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (3/4)

    เรื่องราวเกี่ยวกับนางจึงค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของเขาจนกระทั่งได้เจอกันอีกครั้งในวันนั้น... ด้านองค์รัชทายาทที่สวมรอยเดินตามสาวใช้คนสนิทของคุณหนูเจิ้งแทน กว่าเสี่ยวยาจะรู้ตัวก็พาบุรุษที่คุณหนูไม่อยากพบเจอมาหาถึงหน้าเรือนนอน “องค์...” สาวใช้ยังกล่าวไม่ทันจบก็ถูกปิดปากด้วยมือของบุรุษผู้หนึ่งก่อนที่ผู้สูงศักดิ์จะพยักหน้าส่งสัญญาณให้คนของตนพาตัวออกไป ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูจากผู้ที่ยืนอยู่หน้าห้อง ทำให้เจิ้งเข่อชิงรีบสาวเท้าก้าวมาที่ประตูก่อนจะเปิดออกด้วยสีหน้ายินดี รอยยิ้มของนางค้างแข็งไปชั่วขณะเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่หน้าห้องหาใช่สตรีที่ตนรอคอย ดวงหน้าหวานแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงไร้รอยยิ้ม

    Last Updated : 2025-03-24
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (4/4)

    “เรื่องถอนหมั้น...” เจิ้งเข่อชิงกำลังจะกล่าวถึงเรื่องราวที่เขามีสตรีที่พึงใจ แต่เขากลับเอ่ยแทรกขึ้นอย่างเสียมารยาท “ก่อนที่จะกล่าวเรื่องนั้น ขอให้ข้าได้อธิบายเรื่องที่ชาวบ้านพวกนั้นเล่าลือก่อนได้หรือไม่” “เจ้าค่ะ” นางตอบรับพลางรอดูว่าบุรุษผู้นี้จะปั้นเรื่องอันใดขึ้นมาหลอกนางอีก “แท้จริงเรื่องราวไม่มีอันใดเลย วันนั้นข้าแค่ออกไปหาอาหารเลิศรสกินที่โรงเตี๊ยมเหอหยวนกับหลิวเฟิงเหมียน แต่บังเอิญไปเจอน้องสาวของเขาและสหายที่ชื่อสวี่ลู่ฟาง จึงได้ร่วมโต๊ะ ก่อนกลับคุณหนูเมิ่งร่ำร้องให้พี่ชายพาไปซื้อเครื่องประดับ แต่สหายของนางต้องรีบกลับจวน นางจึงขอร้องให้ข้าไปส่งสตรีผู้นั้นที่จวนสวี่ เรื่องราวมีเพียงแค่นี้” เขาก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดชาวบ้านถึงได้เล่าลือไปไกลถึงเพียงนั้น&nbs

    Last Updated : 2025-03-24
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (1/4)

    8บุรุษเอาแต่ใจ จางชิงหนี่ว์ขยับตัวเล็กน้อยอย่างรู้สึกอึดอัด เมื่อบุรุษที่นั่งอยู่ข้างๆ เท้าคางจ้องมองนางด้วยแววตายากจะคาดเดา “ชินอ๋อง เอ่อ...พี่อันฉีเจ้าคะ ข้าว่าท่านควรปล่อยข้อมือข้าได้แล้ว” จับธรรมดาสามัญนางคงไม่ว่าอันใด หากแต่เขาขยับนิ้วราวกับกำลังลูบไล้ข้อมือนาง ‘บุรุษผู้นี้แท้จริงเป็นคนวิปริตผิดแผก ชอบกินเต้าหู้สตรีหรือนี่’ นางควรจะสงสารสวี่ลู่ฟางดีหรือไม่ “ขออภัยพี่ลืม” เขากล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะยอมปล่อยข้อมือนางแต่โดยดี หลังจากสัมผัสผิวนุ่มเนียนของนางจนพอใจ ข้อมือยังนุ่มน่าลูบไล้เช่นนี้ แล้วแก้มพองๆ นั่นจะน่าบีบน่าจุมพิตสักเพียงใด “ข้าคงต้องขอตัวกลับจวนแล้วเจ้าค่ะ หากท่านอยากนั่งรอองค์รัชทายาทต่อก็เชิญตามสบายนะเจ้าคะ” “...” เมื่อเห็นตัวซวยที่ตนไม่อยากอยู่ใกล้ นิ่งเงียบ นางจึงลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปที่โถงงานเลี้ยงเพื่อบอกลาเจ้าของจวน มางานเลี้ยงจวนเขาอย่างไรก็ควรจะมีมารยาทจะไปจะมาต้องบอกกล่าวไม่ให้เสียชื่อวงศ์ตระกูล ไม่รู้ว่าเจิ้งเข่อชิงจะเป็นอย่างไรบ้าง องค์รัชทายาทผ

    Last Updated : 2025-03-25
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (2/4)

    “นี่ท่าน ลอบเข้าจวนข้าอีกแล้วนะเจ้าคะ” ตั้งแต่เขาให้ความร่วมมือรีบพานางกลับจวน นางรู้สึกได้ว่าแท้จริงเขาไม่ได้น่ากลัวดังเช่นที่เจอกันในวันแรก พรึ่บ บุรุษในอาภรณ์สีดำกระโดดลงจากต้นไม้ สองเท้าแตะพื้นอย่างสวยงาม “วันนี้เจ้าแต่งตัวงดงามถึงเพียงนี้ ไปเที่ยวเล่นที่ใดมา” “ข้าไปงานปักปิ่นของสหายมาเจ้าค่ะ” “สหายเจ้าก็ปักปิ่นแล้ว เจ้าเล่าเมื่อใดจะปักปิ่น” “อีกไม่นานเจ้าค่ะ” “ข้ามาร่วมงานได้หรือไม่” “ขออภัยที่ข้าต้องปฏิเสธ” หากเขามา นางจะให้คำอธิบาย

    Last Updated : 2025-03-25
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (3/4)

    ‘ข้าจะรอดู’ คนที่คิดเข้าข้างตนเองไปไกลกล่าวพลางซ่อนรอยยิ้มไว้ในสีหน้าอย่างแนบเนียน “เรื่องที่เจ้าต้องการปรึกษาข้ามีเพียงเรื่องเกี้ยวบุรุษ?” “มีอีกหนึ่งเรื่องเจ้าค่ะ” “กล่าวมา...” “หากวันหนึ่งท่านพึงใจสตรีผู้หนึ่งเข้า แล้วข้าไปทำให้คนรักของท่านไม่ถูกใจ ท่านจะสังหารข้าตามที่นางต้องการหรือไม่” “เหตุใดข้าต้องสังหารเจ้าเพื่อนางด้วย” มันคือคำถามอันใดกัน เขาไม่เข้าใจ “ตอบข้ามาสิเจ้าคะ ว่าท่านจะสังหารข้า ตามคำขอของสตรีที่ท่านรักหรือไม่”&n

    Last Updated : 2025-03-26
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (4/4)

    “มาจากเขา แต่ข้าให้ท่านพ่อส่งคืนไปแล้ว เหตุใดมันถึงมาอยู่บนหัวข้า” เจิ้งเข่อชิงครุ่นคิดก่อนที่นัยน์ตาหงส์จะเบิกกว้างอีกครั้ง ต้องเป็นตอนนั้นแน่ๆ ที่เขาช่วยประคองไม่ให้นางตกจากเก้าอี้ตอนนั้นนางรู้สึกตึงๆ บนหัว แต่ก็ไม่ได้คิดอันใดเพราะคิดว่าปิ่นที่ปักอยู่หลายอันอาจจะไปชนโดนเขา ‘น่าชังนักโจวเฟยหลง’ นางปฏิเสธอย่างชัดเจนก็ยังดื้อดึงที่จะมอบให้ “เช่นนั้นเราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ” “เก็บไว้ในหีบ หากถึงเวลาข้าจะส่งคืนเขาด้วยตนเอง” หากหมดพันธะต่อกันนางจะรีบส่งคืนให้เร็วที่สุด ไม่กี่วันต่อมาคุณหนูเจิ้งก็มาเยือนจวนจางเพื่อชักชวนให้นางไปเยี่ยมหวังเยว่ฉิงท

    Last Updated : 2025-03-26
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 9 สตรีชาเขียว (1/4)

    9สตรีชาเขียว “ช่างเสียมารยาทจริงๆ ที่เข้าห้องผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” คุณหนูเจิ้งกล่าวตำหนิแต่ก็ยังไม่ยอมผละออกห่างจากนาง “เข่อชิง เจ้าคิดว่าตนกำลังทำอันใดอยู่” คำกล่าวของบุรุษสูงศักดิ์ทำให้นางรู้สึกงุนงงแล้ว มาโรงเตี๊ยมที่มีอาหารเลิศรส หากไม่มากินข้าวจะให้มาทำอันใดอีก เอ่อ...ข้าลืมไปองค์รัชทายาทผู้นี้นอกจากเรื่องการบริหารบ้านเมืองแล้ว เรื่องอื่นเขาไม่ฉลาดเอาเสียเลย มิเช่นนั้นคงไม่ถูกสตรีดอกบัวขาวล่อลวงเอาไปเป็นทาสรักหรอก “องค์รัชทายาท พระองค์ได้โปรดกลับห้องของพระองค์ไปเถิดเพคะ อย่าได้มายุ่งเกี่ยวกับหม่อมฉันและสหาย” นอกจากจะเอ่ยวาจาแล้ว สหายของนางยังส่งสายตาตำหนิคู่หมาย

    Last Updated : 2025-03-27
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 9 สตรีชาเขียว (2/4)

    “ข้าไม่ได้คิดอันใดกับคุณหนูสวี่จริงๆ เจ้าอย่าได้คิดยัดเยียดข้าให้ผู้อื่น” แม้อยากจะเร่งรัดให้เกิดงานหมั้นหมาย แต่ทว่าฮ่องเต้และฮองเฮากลับไม่ยินยอม ทั้งสองพระองค์ต้องการให้เขาจัดการตนเองให้ปราศจากข่าวลือเสียก่อน ซึ่งเขาก็คงต้องรีบลงมือทำ มิเช่นนั้นสตรีผู้นี้ก็คงเข้าใจผิดไม่เลิก ใครกันบังอาจปล่อยข่าวลือน่ารังเกียจพวกนั้น เขาไม่เคยรักใคร่ไยดีสวี่ลู่ฟางแม้แต่น้อย เหตุใดเรื่องราวถึงใดถูกเล่าลือไปเช่นนั้น “ปากก็กล่าววาจาหลอกลวง แต่ท่านคงลืมไปแล้วว่าผู้อื่นไม่ได้ตามืดบอดถึงจะมองไม่เห็นว่าท่านนัดเจอและไปไหนมาไหนกับนางอยู่บ่อยครั้ง หากท่านพึงใจนางก็ควรรีบยกเลิกการหมั้นหมายกับข้า” นางจะได้ไปหาวิธีทำให้ตนเองได้อยู่กับสตรีที่ตนพึงใจเช่นกัน หากสตรีผู้นั้นเป็นชิงหนี่ว์นา

    Last Updated : 2025-03-27

Latest chapter

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 14 เงื่อนไขการเป็นพระชายา (5/5)

    แม้จะรู้ว่าความรู้สึกที่แท้จริงของตนเป็นเช่นไร นางก็คิดจะเก็บงำเอาไว้ เพราะคิดว่าคนที่นางพึงใจนั้นไม่มีค่ามากพอที่จะเอาความสุขทั้งชีวิตไปแลกมา นางไม่อยากกลายเป็นสตรีร้ายกาจต้องการเศษเสี้ยวความเมตตาจากเขาที่เพียงแค่เขาปรายตาหันมามองก็หัวใจเต้นระรัวไปหลายวัน “เข่อชิง เจ้าไม่รักข้าแล้วก็ไม่เป็นไร ขอแค่อย่าปิดกั้นข้าจะได้หรือไม่ ให้ข้าได้พิสูจน์ตนเองได้หรือไม่” สีหน้าอ้อนวอนของเขาทำให้นางใจเต้นระรัว “ท่านทำถึงเช่นนี้เพื่ออันใด มันไม่ดีต่อตัวท่านเองเลยแม้แต่น้อย” “เพราะข้ารักเจ้า รักมากกว่าทุกสิ่ง ข้ายินยอมที่จะแลกทุกสิ่งเพื่อมีเจ้าเคียงข้าง เรื่องราวในกาลก่อนที่ข้าเคยทำร้ายจิตใจเจ้า เคยทำให้เจ้าลำบากทั้งที่ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ข้าขอโทษ ให้โอกาสข้าได้หรือไม่” กล่าวจบบุรุษสูงศักดิ์ก็คุกเข่าลงกับพื้น ยอมละทิ้งซึ่งศักด

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 14 เงื่อนไขการเป็นพระชายา (4/5)

    “นี่คิดจะโกงตั้งแต่อาหญิงเจ้ายังไม่ได้เริ่มจัดงานเลยหรือ” “องครักษ์ของข้าก็หน้าตาดีไม่น้อย อย่างไรท่านก็ได้กำไร” “กล่าวเช่นนี้เจ้ารู้รายละเอียดของการประกวดหรือไม่” หลานชายนางคงยังไม่ทราบว่าการประชันบุรุษรูปงามที่คุณหนูจางกล่าวถึงคือการให้บุรุษที่เข้าร่วมประชันถอดอาภรณ์ด้านบน หรือเรียกง่ายๆ ว่าเปลือยอก “รู้แล้วอย่างไร ไม่รู้แล้วอย่างไร” องครักษ์มีหน้าที่ต้องทำตามคำสั่งของเขา มิอาจขัดขืนได้ “เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า บุรุษที่เข้าร่วมแข่งขัน ขอที่รูปงามหน่อยก็แล้วกัน” “ได้ขอรับ ท่านอาหญิงดูดีใจมากนะขอรับที่จะได้เป็นป้าสะใภ้ของนาง” 

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 14 เงื่อนไขการเป็นพระชายา (3/5)

    “คือข้ากลับไปคิดดูว่าหากเถ้าแก่หอชายงามไม่ยินยอมให้เรานำชายงามเหล่านั้นมาประชันแข่งขัน ข้าจึงคิดว่าหรือเราจะมองหาบัณฑิตรูปงามแต่ทว่ายากจนมาแข่งขันแทน หากใครได้อันดับหนึ่งเราก็ตอบแทนด้วยการมอบตำลึงให้จำนวนหนึ่งพร้อมกับภาพวาดของปรมาจารย์ลู่ซือ ที่ชื่อความดีใจ” “ภาพวาดปรมาจารย์ลู่ซือหรือ ความดีใจวาดเสร็จแล้วหรือ” “แท้จริงเสร็จนานแล้วเจ้าค่ะ เพียงแต่ภาพความอาวรณ์เพิ่งปล่อยขายไปเมื่อสองปีก่อน ข้าจึงอยากให้ทิ้งระยะห่างสักนิด” “แต่ภาพวาดของปรมาจารย์ลู่ซือนั้น พี่ว่ามันสูงค่าเกินกว่าจะนำมามอบให้เป็นรางวัลของผู้ชนะ” “พวกบัณฑิตนั้นถือศักดิ์ศรีเป็นสำคัญหากรางวัลของผู้ชนะไม่สูงค่าพอ เกรงว่าจะไม่มีใครยอมเข้าแข่งขัน”&n

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 14 เงื่อนไขการเป็นพระชายา (2/5)

    “ดีขึ้นหรือไม่เจ้าคะ มองเห็นข้าชัดหรือไม่” สตรีที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยฝุ่นผงถ่านดูมอมแมม โบกมือไปมาตรงหน้าพลางจับจ้องเขาด้วยแววตาห่วงใย “...” “แย่แล้ว หรือเขาจะมองไม่เห็นข้าจึงไม่ตอบอันใด ไม่ได้การแล้วต้องรีบตามหมอ” จางชิงหนี่ว์เริ่มร้อนรนเมื่อเห็นการตอบสนองของอีกฝ่ายไม่ค่อยน่าไว้ใจ “ช้าก่อน ข้ามองเห็นเจ้าแล้ว” “เห็นแล้วเหตุใดไม่ตอบข้า ทำเอาข้าใจคอไม่ดี” “ข้านึกว่าเสี่ยวมาวตกโคลน จึงตกใจชั่วครู่” “หน้าข้าเป

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 14 เงื่อนไขการเป็นพระชายา (1/5)

    14 เงื่อนไขการเป็นพระชายา ช่างเป็นโชคดีของนางจริงๆ พี่ใหญ่ได้รับราชโองการให้เป็นตัวแทนฮ่องเต้ กำกับดูแลกรมพิธีการที่เป็นผู้จัดพิธีหมั้นหมายขององค์รัชทายาท รวมทั้งเตรียมงานอภิเษกสมรสที่จะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า จางชิงเทียนจึงต้องออกจากจวนตั้งแต่เช้าตรู่และกลับจวนกลางดึก นางจึงรอดพ้นจา

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 13 ว่าด้วยเรื่องขนมกุ้ยฮวา (4/4)

    บุรุษในอาภรณ์สีดำลายพยัคฆ์ปักทองอุ้มนางมาที่รถม้าที่มีตราสัญลักษณ์จวนชินอ๋อง เขาวางนางลงก่อนจะทรุดตัวนั่งใกล้มากจนแนบชิด “พี่อันฉีเจ้าขา รถม้าจวนอ๋องกว้างไม่น้อย อย่างไรท่านขยับออกไปหน่อยได้หรือไม่” ที่ก็ตั้งกว้างจะมานั่งเบียดนางด้วยเหตุใด “เจ้าช่างดื้อรั้น พี่บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่ายัดเยียดพี่ให้สตรีอื่น” “ข้าไม่ได้ทำเช่นนั้นนะเจ้าคะ ข้ารีบกลับจวนจริงๆ” “ข้าไม่ได้ทำเช่นนั้นนะเจ้าคะ ข้ารีบกลับจวนจริงๆ” “ได้ยินมาว่าเจ้าชอบกินขนมกุ้ยฮวาหรือ” “เจ้าค่ะ” เขาคงเคยได้ยินที่นางกล่าวกับสหายในงา

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 13 ว่าด้วยเรื่องขนมกุ้ยฮวา (3/4)

    ไม่ๆ อย่าให้ความอยากรู้อยากเห็นอยู่เหนือสิ่งใด เมื่อคิดได้เช่นนั้นคุณหนูจางจึงเดินไปทางที่ทั้งสองคนกำลังยืนอยู่ ดวงหน้าหวานก้มลงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสังเกตเห็น โชคดีอีกอย่างคือตอนนี้นางยังปกปิดใบหน้าครึ่งล่างด้วยผ้าที่ให้จื่อเป่าไปหาซื้อมาให้ก่อนหน้านี้ ‘ให้หม่อมฉันยืนรอด้วยนะเพคะ’ น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยช่างอ่อนหวานพาให้จิตใจบุรุษเคลิบเคลิ้ม แต่เพราะกำลังรีบร้อนนางจึงไม่ทันได้ยินหรอกว่าอีกฝ่ายตอบกลับเช่นไร เนื่องจากเอาแต่ครุ่นคิดนางจึงไม่ทันได้รู้ตัวว่าสาวใช้ของตนเดินนำหน้าไปไกลแล้ว ‘อาภรณ์ข้าเกี่ยวอันใดหรือไม่’ เหตุใดนางถึงรู้สึกตึงๆ บริเวณแขนเสื้อ “คารวะคุณหนูจางเจ้าค่ะ” เสียงอ่อนหวานของสตรีดึงความสนใจของนางจนนางต้องหันกลับไปมอง

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 13 ว่าด้วยเรื่องขนมกุ้ยฮวา (2/4)

    “ลืมทักไปเลยว่าได้ปิ่นไม้จากที่ใดมา ช่างงดงามและประณีตจริงๆ” “ดอกหมู่ตานเป็นดอกไม้ที่พระชายาของชินอ๋องชื่นชอบ สุดท้ายจึงกลายเป็นดอกไม้ประจำพระองค์ไปโดยปริยาย” “เจ้าจะบอกว่าปิ่นนั่นเป็นของพระชายาชินอ๋อง เช่นนั้นก็หมายความว่าชินอ๋องซื่อจื่อได้หมายตาชิงหนี่ว์ตัวน้อยของข้าไว้นะสิ” “กล่าวออกมาได้เต็มปากเต็มคำ ดูท่านอาหญิงจะรักและเอ็นดูนางมาก” บุรุษไร้ยางอายที่เมื่อสักครู่ซ่อนตัวอยู่หลังร้านทำสีหน้ายุ่งเหยิง เหตุใดแพรพรรณล้ำค่าที่ตนได้รับมอบหมายจากมารดาให้นำมามอบให้ท่านอาหญิง กลับกลายเป็นอาภรณ์มอบให้สตรีไร้หัวนอนปลายเท้าผู้นั้น นอกจากใบหน้าที่งดงามเขาก็ไม่เห็นว่ามีอันใดที่จะทำให้อาหญิงเอ็นดูอีกฝ่ายได้&nb

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 13 ว่าด้วยเรื่องขนมกุ้ยฮวา (1/4)

    13 ว่าด้วยเรื่องขนมกุ้ยฮวา ในวันนี้นางได้นัดหมายกับพี่ใหญ่ว่าจะออกไปซื้อของใช้ที่ตลาดด้วยกัน แต่เพราะฮ่องเต้มีเรื่องสำคัญจึงเรียกตัวเข้าวังเป็นการเร่งด่วน นางจึงออกมาเดินตลาดกับจื่อรั่วและจื่อเป่า ร้านขายภาพวาดซือซือเป็นร้านที่ติดต

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status