หน้าหลัก / รักโบราณ / ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก / บทที่ 6 ตัวซวยที่ไม่อยากเข้าใกล้ (4/4)

แชร์

บทที่ 6 ตัวซวยที่ไม่อยากเข้าใกล้ (4/4)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-23 22:30:17

          “หึ” โกหกทั้งเพ นางเกลียดเขาเพียงเพราะเขาเป็นชินอ๋องซื่อจื่อ

            “พระองค์จะเชื่อที่หม่อมฉันกล่าวหรือไม่ก็แล้วแต่ หม่อมฉันขอตัวเพคะ” นางจะลุกหนี แต่มือใหญ่ของเขาคว้าข้อมือของนางเอาไว้ก่อนจะดึงรั้ง

            “เจ้ายังไปไม่ได้”

            “ชินอ๋องซื่อจื่อ พระองค์จะเอาแต่ใจเช่นนี้ไม่ได้ พระองค์ไม่มีสิทธิ์มาห้ามหม่อมฉัน” ตัวซวยผู้นี้เหตุใดถึงได้หน้าหนาหน้าทน นางแสดงตัวว่าไม่อยากอยู่ใกล้มากถึงเพียงนี้ ก็ยังดื้อรั้น

            “หึ” กล่าวถึงสิทธิ์หรือ หากตอนนั้นนางไม่เอ่ยปฏิเสธคำของฮ่องเต้และบิดาเขาด้วยท่าทางไร้เดียงสา วันนี้เขาและนางก็คงได้กลายเป็นคู่หมั้น

            “ปล่อยหม่อมฉันนะเพคะ” ยิ่งนางพยายามแกะมือบุรุษผู้นี้เพียงใด มือนั้นยิ่งกำแน่นจนนางเจ็บ

            “หากเจ้าไม่มานั่งคุยกับข้าดีๆ ข้าก็จะจับไว้เช่นนี้” ไม่ยอมปล่อย

            “แต่หม่อมฉันเจ็บนะเพคะ” สิ้นเสียงที่นางกล่าวมือใหญ่ก็ปล่อยออกก่อนจะเปลี่ยนมาพันธนาการเอวคอดของนางไว้แล้วรั้งตัวนางให้เข้าไปใกล้มากกว่าเดิม

            ตอนนี้จึงกลายเป็นเขานั่งกอดเอวนางที่ยืนอยู่ ใบหน้าของบุรุษรูปงามนิ่งเฉยจนยากจะคาดเดาอารมณ์

            “ชินอ๋องซื่อจื่อได้โปรดปล่อยหม่อมฉันเถิดเพคะ หากพระองค์ทำเช่นนี้แล้วมีใครมาเห็นเข้าหม่อมฉันจะเสียหายเอาได้”

            “...” ท่าทางนิ่งเฉยของอีกฝ่ายทำให้นางได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันก่อนจะพยายามเค้นน้ำตาเพื่อให้ดูน่าสงสาร

            “ได้โปรดให้เกียรติหม่อมฉันด้วยเพคะ” จางชิงหนี่ว์ก้มหน้ามองใบหน้าบุรุษรูปงามแต่ทว่าหยาบคายด้วยดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำ ท่าทางราวกับดอกสาลี่ต้องฝนของนางทำให้มือใหญ่คลายออก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย เขาเปลี่ยนเป็นจับตัวนางให้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ มือใหญ่เปลี่ยนมาจับข้อมือนางไว้แทน

            ‘โถ่เอ๊ย! ไม่คิดจะหลงกลมารยาของสตรีเลยหรือ ใช่สิ...มารยาของข้าจะไปสู้มารยาดอกบัวขาวที่ท่านหลงใหลได้อย่างไร’ นั่นมันดอกบัวขาวชั้นเซียน ไม่ว่าบุรุษมากอำนาจและเก่งกาจเพียงใดก็ยังต้องกลายเป็นคนโง่เง่าตกหลุมพรางมารยาของสตรีเช่นสวี่ลู่ฟาง

            “ชินอ๋องซื่อจื่อได้โปรดปล่อยข้อมือหม่อมฉันด้วยเพคะ หม่อมฉันไม่ลุกไปไหนแล้ว”

            “อันฉี...เรียกข้าว่าอันฉีก่อน”

            “...”

            “เจ้าไม่อยากเอ่ยปากก็ไม่เป็นไร นั่งด้วยกันเช่นนี้แหละ”

            “เฮ้อ...พระองค์อายุมากกว่าหม่อมฉันหลายปี จะให้เรียกนามเฉยๆ จะดูไม่เหมาะสมนะเพคะ” ชายผู้นี้รุ่นราวคราวเดียวกับพี่ชายนาง หากเรียกเช่นนั้นจะไม่ดูตีสนิทเกินไปหรือ

            “เช่นนั้นเรียกข้า พี่อันฉี” จะให้เรียกพี่ชายเช่นเมื่อก่อนคงจะไม่ได้ ในเมื่อเจอกันครานี้เขาไม่ได้อยากเป็นพี่ชายนางแล้ว

            “...”

            “หากไม่เรียกข้าก็จะจับมือเจ้าเช่นนี้แหละ แล้วคำราชาศัพท์เหล่านั้นก็ไม่ต้องกล่าวให้ยุ่งยาก”

            “พี่อันฉีเจ้าคะ ได้โปรดปล่อยมือข้าเถิดเจ้าค่ะ” กล่าวจบก็ลอบกลอกตาขึ้นมองท้องฟ้าครู่หนึ่งพลางต่อว่าตนเองที่ไม่น่าออกจากจวนเลย

            จะว่าไปลางไม่ดีตั้งแต่พี่ใหญ่ต้องรีบเข้าวังกะทันหันแล้ว เหตุใดตอนนั้นนางไม่ฉุกคิด

            “อืม พูดเช่นนี้ค่อยรื่นหูหน่อย” เขากล่าวและปล่อยมือออกจากข้อมือนางแต่โดยดี

            ‘รื่นหูจวนท่านน่ะสิ ไปอยู่ให้ห่างจากข้าเลยนะเจ้าตัวซวย’ หากนางเอกรู้เข้าแล้วไม่พอใจ ไปยุแยงตัวร้าย สุดท้ายนางมิต้องถูกสังหารตามเดิมหรือ

            พยายามหลีกเลี่ยงมาตั้งเก้าปี เหตุใดถึงได้มาพลาดเอาวันนี้ ไม่น่าเลยจริงๆ ชิงหนี่ว์

            “เจ้าจะไม่บอกพี่จริงๆ หรือหนี่ว์เอ๋อร์ ว่าเหตุใดเจ้าถึงกันตัวเองให้ออกห่างจากพี่ ทันทีที่รู้ว่าพี่คือชินอ๋องซื่อจื่อ” น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยกับคำแทนตัวของเขาทำให้นางขนลุกพลันสั่นสะท้านไปทั้งตัว

            “ชินอ๋องซื่อจื่อ...เอ่อ พี่อันฉีได้โปรดแทนตัวเองว่าข้าเถิดเจ้าค่ะ ท่านกล่าวเช่นนี้ข้าไม่คุ้นเคย”

            “ตอนเด็กๆ พี่ก็กล่าวกับเจ้าเช่นนี้”

            “แต่ตอนนี้เราสองคนเติบใหญ่แล้วเจ้าค่ะ ทำเช่นเดิมคงจะมิเหมาะสม” อีกอย่างห่างเหินกันเก้าปีกว่า หรือจะกล่าวว่าเกือบจะสิบปีก็ได้ จะให้กลับไปเป็นเช่นวัยเด็กคงจะมิได้

            แล้วนางก็ไม่อยากแสดงออกถึงความสนิทสนมกับบุรุษรูปงามที่สตรีเกือบทั้งแคว้นหมายปอง

            “เหมาะไม่เหมาะ พี่ตัดสินเอง เอาเถิดอย่าได้สนใจผู้อื่นเลย” สักวันหนึ่งนางจะได้คุ้นเคยกับความสนิทสนมนี้

            ‘หากรู้ว่าจะเติบโตมาเป็นบุรุษเช่นนี้ นางคงไม่พาตัวเองไปใกล้เขาในตอนนั้น’

            เพราะนางเอาแต่ลอบด่าอีกฝ่ายในใจจึงไม่ได้สังเกตเห็นแววตาล้ำลึกยากจะคาดเดาของเขา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (1/4)

    7อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ ย้อนกลับไปเมื่อเก้าปีก่อนตอนนั้นเขาอายุเพียงสิบสองปี ส่วนนางเป็นเจ้าก้อนแป้งอายุห้าขวบปี เขาซึ่งเป็นศิษย์ของท่านราชครูจางเหว่ยสามารถเข้าออกจวนจางได้ราวกับจวนของตนเอง ส่วนหนึ่งก็เพราะชินอ๋องและท่านราชครูจางเป็นสหายกัน จึงย้ายออกจากวังแล้วมาปลูกเรือนอยู่ข้างๆ จวนจาง “พี่ชายท่านเป็นใครหรือเจ้าคะ” “ไปให้พ้น อย่ามายุ่งกับข้า” “รูปก็งามแต่เหตุใดปากถึงได้กล่าววาจาไม่น่าฟัง” สตรีตัวน้อยกล่าวพลางเอานิ้วชี้แตะคางตน ดวงตาที่จับจ้องเขาเต็มไปด้วยความสงสัย ท่าทางน่ารักน่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-24
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (2/4)

    เนิ่นนานนับเค่อที่เด็กชายแปลกหน้าที่นางไม่รู้จักชื่อนั่งร้องไห้ จนนางเริ่มกลัวเขาจะปวดหัว จึงลุกยืนขึ้นแล้วเข้าไปรั้งศีรษะเขามาพิงตัวนางไว้ก่อนจะโอบกอด “ท่านแม่ของท่าน แท้จริงนางไม่ได้อยากจะทิ้งท่านไปเช่นนี้หรอก แต่เพราะนางเห็นท่านเติบใหญ่เป็นคนที่ดีและน่าภูมิใจ นางจึงหมดห่วง” “ฮือ...” “แม้ว่าตอนนี้นางจะไม่ได้โอบกอดท่านแล้ว แต่นางยังคงอยู่ตรงนี้” เด็กหญิงตัวน้อยชี้ไปที่อกของเขา “ภาพความทรงจำที่ดีงามระหว่างท่านและนางจะไม่มีใครมาลบล้างไปได้ ข้าเชื่อว่านางยังคงมองดูท่านจากที่ตรงโน้น แม้ท่านจะเสียใจแต่ข้าว่านางคงอยากเห็นท่านเติบโตเป็นบุรุษที่องอาจและเก่งกาจ” “ปล่อยข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-24
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (3/4)

    เรื่องราวเกี่ยวกับนางจึงค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของเขาจนกระทั่งได้เจอกันอีกครั้งในวันนั้น... ด้านองค์รัชทายาทที่สวมรอยเดินตามสาวใช้คนสนิทของคุณหนูเจิ้งแทน กว่าเสี่ยวยาจะรู้ตัวก็พาบุรุษที่คุณหนูไม่อยากพบเจอมาหาถึงหน้าเรือนนอน “องค์...” สาวใช้ยังกล่าวไม่ทันจบก็ถูกปิดปากด้วยมือของบุรุษผู้หนึ่งก่อนที่ผู้สูงศักดิ์จะพยักหน้าส่งสัญญาณให้คนของตนพาตัวออกไป ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูจากผู้ที่ยืนอยู่หน้าห้อง ทำให้เจิ้งเข่อชิงรีบสาวเท้าก้าวมาที่ประตูก่อนจะเปิดออกด้วยสีหน้ายินดี รอยยิ้มของนางค้างแข็งไปชั่วขณะเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่หน้าห้องหาใช่สตรีที่ตนรอคอย ดวงหน้าหวานแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงไร้รอยยิ้ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-24
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (4/4)

    “เรื่องถอนหมั้น...” เจิ้งเข่อชิงกำลังจะกล่าวถึงเรื่องราวที่เขามีสตรีที่พึงใจ แต่เขากลับเอ่ยแทรกขึ้นอย่างเสียมารยาท “ก่อนที่จะกล่าวเรื่องนั้น ขอให้ข้าได้อธิบายเรื่องที่ชาวบ้านพวกนั้นเล่าลือก่อนได้หรือไม่” “เจ้าค่ะ” นางตอบรับพลางรอดูว่าบุรุษผู้นี้จะปั้นเรื่องอันใดขึ้นมาหลอกนางอีก “แท้จริงเรื่องราวไม่มีอันใดเลย วันนั้นข้าแค่ออกไปหาอาหารเลิศรสกินที่โรงเตี๊ยมเหอหยวนกับหลิวเฟิงเหมียน แต่บังเอิญไปเจอน้องสาวของเขาและสหายที่ชื่อสวี่ลู่ฟาง จึงได้ร่วมโต๊ะ ก่อนกลับคุณหนูเมิ่งร่ำร้องให้พี่ชายพาไปซื้อเครื่องประดับ แต่สหายของนางต้องรีบกลับจวน นางจึงขอร้องให้ข้าไปส่งสตรีผู้นั้นที่จวนสวี่ เรื่องราวมีเพียงแค่นี้” เขาก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดชาวบ้านถึงได้เล่าลือไปไกลถึงเพียงนั้น&nbs

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-24
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (1/4)

    8บุรุษเอาแต่ใจ จางชิงหนี่ว์ขยับตัวเล็กน้อยอย่างรู้สึกอึดอัด เมื่อบุรุษที่นั่งอยู่ข้างๆ เท้าคางจ้องมองนางด้วยแววตายากจะคาดเดา “ชินอ๋อง เอ่อ...พี่อันฉีเจ้าคะ ข้าว่าท่านควรปล่อยข้อมือข้าได้แล้ว” จับธรรมดาสามัญนางคงไม่ว่าอันใด หากแต่เขาขยับนิ้วราวกับกำลังลูบไล้ข้อมือนาง ‘บุรุษผู้นี้แท้จริงเป็นคนวิปริตผิดแผก ชอบกินเต้าหู้สตรีหรือนี่’ นางควรจะสงสารสวี่ลู่ฟางดีหรือไม่ “ขออภัยพี่ลืม” เขากล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะยอมปล่อยข้อมือนางแต่โดยดี หลังจากสัมผัสผิวนุ่มเนียนของนางจนพอใจ ข้อมือยังนุ่มน่าลูบไล้เช่นนี้ แล้วแก้มพองๆ นั่นจะน่าบีบน่าจุมพิตสักเพียงใด “ข้าคงต้องขอตัวกลับจวนแล้วเจ้าค่ะ หากท่านอยากนั่งรอองค์รัชทายาทต่อก็เชิญตามสบายนะเจ้าคะ” “...” เมื่อเห็นตัวซวยที่ตนไม่อยากอยู่ใกล้ นิ่งเงียบ นางจึงลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปที่โถงงานเลี้ยงเพื่อบอกลาเจ้าของจวน มางานเลี้ยงจวนเขาอย่างไรก็ควรจะมีมารยาทจะไปจะมาต้องบอกกล่าวไม่ให้เสียชื่อวงศ์ตระกูล ไม่รู้ว่าเจิ้งเข่อชิงจะเป็นอย่างไรบ้าง องค์รัชทายาทผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-25
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (2/4)

    “นี่ท่าน ลอบเข้าจวนข้าอีกแล้วนะเจ้าคะ” ตั้งแต่เขาให้ความร่วมมือรีบพานางกลับจวน นางรู้สึกได้ว่าแท้จริงเขาไม่ได้น่ากลัวดังเช่นที่เจอกันในวันแรก พรึ่บ บุรุษในอาภรณ์สีดำกระโดดลงจากต้นไม้ สองเท้าแตะพื้นอย่างสวยงาม “วันนี้เจ้าแต่งตัวงดงามถึงเพียงนี้ ไปเที่ยวเล่นที่ใดมา” “ข้าไปงานปักปิ่นของสหายมาเจ้าค่ะ” “สหายเจ้าก็ปักปิ่นแล้ว เจ้าเล่าเมื่อใดจะปักปิ่น” “อีกไม่นานเจ้าค่ะ” “ข้ามาร่วมงานได้หรือไม่” “ขออภัยที่ข้าต้องปฏิเสธ” หากเขามา นางจะให้คำอธิบาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-25
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (3/4)

    ‘ข้าจะรอดู’ คนที่คิดเข้าข้างตนเองไปไกลกล่าวพลางซ่อนรอยยิ้มไว้ในสีหน้าอย่างแนบเนียน “เรื่องที่เจ้าต้องการปรึกษาข้ามีเพียงเรื่องเกี้ยวบุรุษ?” “มีอีกหนึ่งเรื่องเจ้าค่ะ” “กล่าวมา...” “หากวันหนึ่งท่านพึงใจสตรีผู้หนึ่งเข้า แล้วข้าไปทำให้คนรักของท่านไม่ถูกใจ ท่านจะสังหารข้าตามที่นางต้องการหรือไม่” “เหตุใดข้าต้องสังหารเจ้าเพื่อนางด้วย” มันคือคำถามอันใดกัน เขาไม่เข้าใจ “ตอบข้ามาสิเจ้าคะ ว่าท่านจะสังหารข้า ตามคำขอของสตรีที่ท่านรักหรือไม่”&n

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 8 บุรุษเอาแต่ใจ (4/4)

    “มาจากเขา แต่ข้าให้ท่านพ่อส่งคืนไปแล้ว เหตุใดมันถึงมาอยู่บนหัวข้า” เจิ้งเข่อชิงครุ่นคิดก่อนที่นัยน์ตาหงส์จะเบิกกว้างอีกครั้ง ต้องเป็นตอนนั้นแน่ๆ ที่เขาช่วยประคองไม่ให้นางตกจากเก้าอี้ตอนนั้นนางรู้สึกตึงๆ บนหัว แต่ก็ไม่ได้คิดอันใดเพราะคิดว่าปิ่นที่ปักอยู่หลายอันอาจจะไปชนโดนเขา ‘น่าชังนักโจวเฟยหลง’ นางปฏิเสธอย่างชัดเจนก็ยังดื้อดึงที่จะมอบให้ “เช่นนั้นเราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ” “เก็บไว้ในหีบ หากถึงเวลาข้าจะส่งคืนเขาด้วยตนเอง” หากหมดพันธะต่อกันนางจะรีบส่งคืนให้เร็วที่สุด ไม่กี่วันต่อมาคุณหนูเจิ้งก็มาเยือนจวนจางเพื่อชักชวนให้นางไปเยี่ยมหวังเยว่ฉิงท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26

บทล่าสุด

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู (1/1)

    การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู มีคนมากมายที่อาจจะสงสัยว่าเหตุใดท่านราชครูจางเหว่ยถึงได้เร่งรีบตบแต่งเถ้าแก่เนี้ยร้านขายภาพวาดซือซือเข้าจวนจาง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีข่าวลือว่าคบหากัน หรืออาจจะเป็นเพราะได้เห็นบทเรียนจากการเล่าลือเรื่องของคุณหนูสวี่ ที่จู่ๆ คนเหล่านั้นบังเอิญลิ้นขาดกลายเป็นคนพูดไม่ได้ แต่โชคดีหนึ่งในนั้นมีคนเขียนอักษรได้ จึงได้เขียนเตือนคนรอบตัวไม่ให้เล่าลือเรื่องราวเกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์หรือตระกูลที่ใกล้ชิดราชวงศ์ สุดท้ายจึงไม่มีใครกล้าเล่าลือหรือสงสัยถึงความเร่งรีบของท่านราชครู “พี่เหว่ย ท่านจะไม่เสียใจทีหลังห

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮองเฮาพบปะสหาย (1/1)

    ฮองเฮาพบปะสหาย ภายในจวนท่านราชเลขาฯจาง วุ่นวายไม่น้อยเมื่อมีผู้สูงศักดิ์มาเยือนโดยได้นัดหมายกันล่วงหน้า “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” ชินอ๋องที่เพิ่งลงจากรถม้าแสดงความเคารพโอรสสวรรค์และฮองเฮา “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ” พระชายาสกุลจางที่ลงรถม้ามาภายหลังทำความเคารพอีกฝ่ายเช่นกัน “ตามสบายเถิด พวกเจ้าเป็นสหายของเราใช้คำธรรมดาสามัญเถิด”

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ (2/2)

    “เจ้าโอบอุ้มบุตรชายของเราให้แน่นๆ ส่วนเจ้าพี่จะจับให้แน่นๆ เอง” กล่าวจบเขาก็ใช้วิชาตัวเบาโอบอุ้มพานางและบุตรชายกลับตำหนัก ทันทีที่ถึงตำหนักโจวหลี่หมิงถูกส่งตัวให้ซานจี สาวใช้ประจำตัวคนใหม่ของนางที่ทางพระสวามีหามาให้ แน่นอนว่านางมิใช่สาวใช้ธรรมดา เพราะสตรีผู้นี้คือองครักษ์เงาที่ถูกฝึกมาอย่างหนักเพื่อดูแลดวงใจของท่านอ๋อง “นำไปซื่อจื่อไปมอบให้แม่นมแล้วเจ้าไปพัก ข้าจะดูแลพระชายาเอง” บุรุษที่ชื่นชอบการปรนนิบัติฮูหยินกล่าว “แงๆ” แม้จะดีดดิ้นเพียงใด แต่บุตรชายมีหรือจะต่อต้านบิดาได้ “ท่านพี่ หากลูกไม่อยากไป...” ไม่มีมาร

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ (1/2)

    เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ ดวงตาเมล็ดซิ่งทอดมองผืนดินที่เขียวชอุ่มไปด้วยพืชผัก ที่ดินผืนนี้นางใช้เงินที่ได้จากการวาดภาพขายมาซื้อเก็บไว้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับบ่าวรับใช้ผู้ภักดีทั้งสอง ก่อนหน้าที่นางจะแต่งเข้าตำหนักอ๋องไม่นาน นางก็จัดการให้จื่อรั่วและจื่อเป่าที่ความสัมพันธ์คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกันก่อนจะคืนสัญญาทาสแล้วให้ทั้งสองคนย้ายมาปลูกจวนอยู่บนที่ผืนนี้ “พระชายาท่านนั่งพักดื่มน้ำก่อนเถิดเพคะ รอแดดร่มลมตกค่อยออกไปเดินดูด้านนอก”&

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) (2/2)

    “เช่นนั้นก่อนจะลงโทษน้อง ท่านพี่กินข้าวก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ” “มิต้อง” กล่าวจบเขาก็รั้งนางเข้าไปแนบชิด มือใหญ่จับยึดคางเรียวเอาไว้ริมฝีปากร้อนกดลงบนกลีบปากบาง ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนางอย่างเอาแต่ใจ ในขณะที่มือช่วยปลดเปลื้องอาภรณ์ให้นางอย่างรวดเร็ว ช่างใจร้อนเสียจริง... ดวงหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย เมื่อพระสวามีของตนที่เพิ่งถอนจุมพิตเร่าร้อนเมื่อครู่ จับจ้องนางราวกับหมาป่าหิวกระหาย “น้องหญิงของพี่เลิศรสกว่าอาหารใดๆ” กล่าวจบเขาก็ช้อนเรือนร่างเปลือยเปล่าเข้าหลังฉากกั้น ว่ากันว่าฮองเฮาชื่นชอบการแช่น้ำร้อน ภายในตำหนักจึงมีบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่อยู่ติดห้องบรรทม 

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) (1/2)

    ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) นัยน์ตาดำของบุรุษสูงศักดิ์จับจ้องใบหน้าของสตรีที่ตนรักอย่างไม่ละสายตา มือใหญ่ช่วยคีบอาหารใส่ชามให้นางอย่างเอาใจ “ท่านพี่กินบ้างเถิดเจ้าค่ะ อย่ามัวแต่คีบให้ข้าเลยเจ้าค่ะ” แม้ยามนี้ทั้งสอ

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (4/4)

    “เอ่อ...ท่านช่วยพาข้าลงจากหลังม้าได้หรือไม่เจ้าคะ” สิ้นเสียงนาง รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าไร้ที่ติแม้จะหล่อเหลาน้อยกว่าชินอ๋องซื่อจื่อ แต่ทว่าก็มีสตรีไม่น้อยที่ชื่นชอบบุรุษผู้นี้ หลังจากที่นางได้ขี่ม้าตัวเดียวกับบุรุษที่สตรีหลายคนหมายปอง นางก็มักจะเจอเขาที่เหลาอาหารหรือโรงเตี๊ยมอยู่บ่อยครั้ง เพราะไม่สบายใจกับสายตาจาบจ้วงของบุรุษในวันนั้นนางจึงไม่กล้าไปที่ร้านบะหมี่เนื้อของท่านป้าผู้นั้นอีก แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องแปลกหรือไม่ นางมักจะเจอท่านราชเลขาฯจางผู้นั้นอยู่บ่อยครั้ง วันนี้ก็เช่นกัน “ดูเหมือนเจ้าจะชื่นชอบการออกมากินข้าวนอกจวน มิทราบว่าพ่อครัวจวนหวังทำอาหารไม่อร่อยหรือ” เขามานั่งร่วมโต๊ะโดยที่นางไม่ต้องเชิญทุกครา จนกลายเป็นความเคยชิ

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (3/4)

    “ข้าอิ่มแล้วเจ้าค่ะ ได้โปรดยกเท้าที่เหยียบชายอาภรณ์ข้าด้วยเจ้าค่ะ” “เจ้ารู้หรือไม่ มีขอทานและคนยากจนที่ไม่มีแม้แต่ข้าวจะกิน หากคนพวกนั้นมาเห็นเจ้ากินเหลือเช่นนั้น พวกเขาคงตัดพ้อ พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้กินบะหมี่น้ำธรรมดา แต่เจ้าที่เป็นคุณหนูกลับกินทิ้งกินขว้าง กินเพียงคำสองคนไม่ถูกใจก็ทิ้ง จะว่าไปก็น่าสงสารชาวบ้านที่เขาทำปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์นะ พวกเขาลำบากเพียงใดกว่าจะปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์มาเพื่อเป็นอาหารให้พวกเราได้กิน...” “พอแล้วเจ้าค่ะ ข้ากินให้หมดก็ได้” คุณหนูหวังกล่าวก่อนจะนั่งลงตามเดิม มือเรียวหยิบตะเกียบมาคีบกินบะหมี่เนื้อที่ตนกินค้างไว้ พร้อมกับบะหมี่เนื้อที่เขาสั่งถูกนำมาให้พอดี มุมปากของเขาหยักยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของนาง จางชิงเทียนกินบะหมี่เนื้อไปลอบมองสหายของน้องสาวไป เขาเพิ่งสังเกตว่าคุณหน

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (2/4)

    “ข้าเห็นเจ้าเดินออกจากโรงเตี๊ยมจึงเดินตามเพียงเท่านั้น” กล่าวจบสายตาของท่านราชเลขาฯ ก็จับจ้องดวงหน้าหวานที่มักจะส่งยิ้มให้เขาอยู่เสมอ แต่ทว่าวันนี้กลับบึ้งตึง “ท่านป้าเจ้าขา วันนี้ข้าต้องไปแล้ว ท่านมาเก็บโต๊ะเถิดเจ้าค่ะ คุณชายพวกนี้จะได้มีโต๊ะนั่งไม่ต้องมายืนจ้องผู้อื่นให้เสียมารยาทเช่นนี้” กล่าวจบนางก็วางเหรียญอีแปะลงบนโต๊ะก่อนจะเดินออกจากร้านไป ตั้งแต่ต้นจนจบนางไม่ทักทายเขาเช่นที่เคยทำ ต้องเป็นเพราะที่เขากล่าววาจาไม่ดีใส่นางในวันนั้นเป็นแน่ “ชิงเทียนเจ้ารู้จักคุณหนูผู้นั้นหรือ” “เจ้าชอบนางหรือ” “ใช่ ข้าอยากเกี้ยวพานาง ในเมืองหลวงนี้จะมีคุณหนูส

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status