Share

ตอนที่25 คนหัวแข็ง

“หืมม...คุณธีเนี่ยนะคะโดนแม่บังคับสมัยนี้ยังจะบังคับกันอีกเหรอคะ”

ลีลาวดีได้ฟังเช่นนั้นก็ลดอารมณ์อ่อนลงเธอเองก็พึ่งเคยเจอผู้ชายที่ถูกแม่บังคับนี่แหละปกติเคยได้ยินแต่ผู้หญิงถูกบังคับแต่มันก็น้อยมากๆแล้วในสมัยนี้เพราะหลายครอบครัวเขาก็หันมาเลี้ยงลูกแบบใหม่กันแล้ว

“ใช่สิ...ตอนนั้นผมผิดเองที่ไม่กล้าออกนอกกรอบแต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่านอกกรอบมันทำให้ผมเป็นตัวเองมากแค่ไหน”

ธีภพยอมรับว่าเมื่อก่อนเขาเป็นเด็กที่อยู่ในกรอบตั้งแต่เด็กจนโตด้วยเหตุการณ์หลายๆอย่างที่แม่ของเขาชอบบังคับมันทำให้เขาอึดอัดหัวใจอย่างมากจนหลังจากที่เขาถอนหมั้นกับทอฝันเขาคิดว่าควรที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะว่าเขานั้นไม่อยากจะอึดอัดแบบนี้ต่อไปและอยากจะเป็นตัวของตัวเองตอนนี้เขาก็ออกมาอยู่ตัวคนเดียวได้นานแล้วด้วยอีกอย่างก็ลงทุนทำธุรกิจทุกอย่างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองโดยที่ไม่สนสมบัติของพ่อและแม่ของเขาที่สร้างเอาไว้ให้

“ตอนนี้คุณธีก็เป็นคนหัวแข็งแล้วสิคะ”

“คนหัวแข็ง???”

“ใช่ค่ะป้าดวงบอกว่าคนที่ไม่ฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่คือคนหัวดื้อหัวแข็งค่ะ”

ลีลาวดีเห็นชายหนุ่มทำสีหน้างงก็คิดว่าชายหนุ่มนั้นคงไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดแน่เลยจึงอธิบายให้ฟังว่าเธอนั้นไปได้คำนี้มาจากไหนและแปลว่าอะไร

“5555เธอก็ช่างหาคำเปรียบเทียบนะ...เชื่อฟังผู้ใหญ่มันเป็นเรื่องที่ดีแต่ก็ต้องดูว่าเรื่องไหนทำได้เรื่องไหนทำไม่ได้”

เมื่อได้ฟังคำอธิบายของหญิงสาวก็ทำเอาชายหนุ่มนั้นหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมบอกกับเธอให้เข้าใจเสียใหม่ว่าเขานั้นไม่ได้เป็นคนหัวแข็งแต่เขานั้นเลือกที่จะทำในส่งที่ควรทำต่างหากแต่จะว่าไปเขาก็แอบมีค้ากับสิ่งที่หญิงสาวบอกเหมือนกัน

“แล้วอีกกี่ปีถึงเรียนจบ”

ธีภพรู้สึกว่าการได้คุยกับลีลาวดีนั้นทำให้เขาได้อารมณ์ดีขึ้นเยอะอีกอย่างเขาเห็นเธอทำงานพารทไทม์แบบนี้ก็อยากจะรู้ว่าอีกกี่ปีเธอถึงจะเรียนจบเพราะเผื่อว่าเธอใกล้จะเรียนจบแล้วเขาจะได้ช่วยหางานให้เธอ

“อีกสองปีค่ะ”

ลีลาวดีหันมาตอบชายหนุ่มพร้อมชูสองนิ้วอย่างอารมณ์ดีเธอได้พูดถึงเรื่องเรียนว่าอีกแค่สองปีจบทำไรเธอก็ชื่นใจทุกทีว่าอีกแค่สองปีเท่านั้นเธอก็จะจบแล้ว

“อืม...ตั้งใจเรียนล่ะ”

ธีภพพยักหน้ารับรู้แสดงว่าหญิงสาวก็น่าจะอายุประมาณยี่สิบพร้อมบอกให้เธอนั้นตั้งใจเรียน

“ลีก็ตั้งใจอยู่ค่ะแต่ลีมันเป็นเด็กเข้าใจยากค่ะ...แบบโง่ๆหน่อยอ่ะค่ะแล้วคุณธีเรียนจบมากี่ปีแล้วคะบอกหน่อยได้ไหมคะว่าก่อนจบมันจะเรียนยากกว่านี้ไหมเพราะขนาดลีอยู่แค่ปีสองยังปวดหัวจะระเบิดเลยค่ะ”

ลีลาวดีเองดีใจที่อีกสองปีจะจบแต่เธอก็อดบ่นไม่ได้ว่าการที่จะจบนั้นมันไม่ได้ง่ายสำหรับเธอเลยเพราะหัวสมองเธอมันไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรง่ายๆสักเท่าไรคณะที่เธอเรียนก็ยากเสียด้วยเธออยากเก่งก็เลยเลือกบริหารธุรกิจเธอเคยได้ยินคนพูดมาว่าหากจบจากสาขานี้แล้วไปทำงานจะได้เงินดีเธอเลยเลือกถ้าย้อนกลับไปได้เธอก็จะเลือกอะไรที่มันง่ายกว่านี้พร้อมทั้งยังถามชายหนุ่มอีกว่าเขานั้นเรียนจบมากี่ปีแล้วเพราะว่าเธอนั้นอยากจะขอคำปรึกษาในด้านการเรียนบ้างเพราะชายหนุ่มเป็นถึงเจ้าของธุรกิจก็คงจะเก่งน่าดู

“อืมม...หลังจากที่จบโทมาก็ประมาณสิบสี่ปีได้นะ”

“ห๊ะ...นี่คุณธีอายุเท่าไรคะเนี่ย”

ลีลาวดีถึงกับตกใจในจำนวนปีที่ชายหนุ่มเป็นคนบอกกับเธอว่าเขานั้นจบมากี่ปีพร้อมถามคนตรงหน้าให้หายคาใจว่าเขานั้นอายุกี่ปี

“สามสิบแปด”

ชายหนุ่มหันมาบอกอายุกับหญิงสาวหน้าตาเฉยแต่คนที่ค่อยๆยื่นหน้ามามองใบหน้าของเขาแปลกๆก็เป็นหญิงสาวนี่แหละ

“จริงเหรอคะ....ทำไมคุณธีหน้าเด็กจังเลยคะ...รูขุมขนก็ไม่กว้างเท่าไร...ฮั่นแน่..พึ่งโบท็อคมาใช่ไหมคะ”

ลีลาวดีจ้องมองใบหน้าหล่อใสมีไรหนวดเล็กๆของเขาเธอก็รู้สึกทึ่งที่ผู้ชายอายุ38แล้วยังดูเด็กและหล่อเหลาอยู่มากพร้อมทั้งยกมือชี้ไปที่ใบหน้าน้าชายหนุ่มพร้อมอมยิ้มกล่าวหาว่าเขาคงจะพึ่งโบท็อคมาเป็นแน่

“อย่ามายุ่งกับหน้าผมเลย...เข้าเรื่องเรียนกันดีกว่าถ้าคุณสมองไม่ดีขอแค่คุณเปิดใจที่จะเรียนรู้ตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆอย่าเอาคำว่าเบื่อคำว่าขี้เกียจมาใส่สมองแค่นี้ก็เข้าใจอะไรง่ายๆแล้วลองทำดู”

ธีภพต้องรีบเอี้ยวตัวหนีหญิงสาวที่ยื่นหน้ามาใกล้เขาจนดวงตากลมโตของเธอคู่นั้นสะกดเขาไปครู่หนึ่งเขาใช้มือจับใบหน้าของเธอให้ออกห่างจากเขาพร้อมบอกให้คุยถึงเรื่องเรียนของเธอจะดีกว่าพร้อมให้คำแนะนำกับหญิงสาวเรื่องเรียนเป็นทริคง่ายๆที่เขาเคยใช้แล้วได้ผลทุกวันนี้เขาก็เอาทริคแบบนี้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ด้วย

“อืมม...ลีจะลองดูนะคะ”

ลีลาวดีนั่งยิ้มตาหยีเธอขยับปากมากไม่ได้เอก็ใช้ตาส่งยิ้มให้เขาแทนก็แล้วกันที่ช่วยแนะนำอะไรดีๆให้คนสมองช้าอย่างเธอ

“ตาธี”

“คุณแม่”

ธีภพที่กำลังนั่งคุยอยู่กับหญิงสาวอย่างอารมณ์ดีเขาก็ต้องหุบยิ้มทันทีเพราะจำได้ว่าเสียงเรียกชื่อเขานั้นเป็นเสียงของใคร

“กลับมาจากญี่ปุ่นทำไมไม่บอกแม่นี่ถ้าหนูวีไม่บอกแม่ก็คงจะไม่รู้...”

นาราเดินออกมาจากรถตู้คันหรูพร้อมตรงมาหาลูกชายของเธอทันทีหญิงวัยหกสิบแต่ยังดูสวยส่าแข็งแรงเดินตรงมาหาลูกชายของเธอพร้อมต่อว่าทันทีว่าเขานั้นไม่ยอมบอกกับครอบครัวว่ากลับมาที่ไทยแล้ว

“ผมพึ่งกลับมานี่ครับพรุ่งนี้ก็ว่าจะเข้าไปที่บ้าน”

ธีภพรู้ตัวการที่ทำให้แม่เขานั้นมาโวยใส่เขาแล้วเธอเป็นเลขาที่แม่ของเขานั้นจัดหามาให้เขาเองเพราะว่าอยากจะจับคู่ให้พร้อมบอกกับคนเป็นแม่ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่บอกแต่เขาพึ่งมาถึง

“พูดแบบนี้แสดงว่าจะไม่กลับไปอยู่บ้านเราใช่ไหมไม่ได้นะแม่ปล่อยแกมามากพอแล้วยังไงแกก็ต้องกลับไปอยู่ที่บ้าน”

นาราได้ยินคำที่ลูกชายของเธอพูดก็รู้ทันทีว่าธีภพนั้นคงอยู่บ้านที่ตัวเองซื้อเช่นเคยแต่ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้วเพราะเธอยอมปล่อยลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอให้อยู่นอกกรอบนานพอแล้ว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status