Share

ตอนที่30 ไม่ใช่ลูกผมใช่ไหม

“มาทำอะไรตรงนี้”

“เอ่อ...แพรแค่มาเดินเล่นค่ะ..”

แพรวาตกใจจนสะดุ้งเฮือกเพราะเธอมัวแต่มองหานิดหน่อยอย่างใจจดใจจ่อจึงไม่ทันได้สังเกตว่าชายหนุ่มนั้นกำลังเดินเข้ามาหาเธอด้วยความที่ไม่อยากให้ชายหนุ่มสงสัยเธอจึงตอบกับเขาไปว่าเธอเพียงแค่ออกมาเดินเล่นเท่านั้น

“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณกลับบ้านกันก่อนเถอะ”

ภูดิษฐ์บอกหญิงสาวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมเดินไปขึ้นรถโดยมีหญิงสาวนั้นเดินตามไปแต่โดยดีเพราะเธอเองก็ไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าเจ้าของไร่ที่นี่มาหาเธอถึงที่พักขี้เกียจถูกมองไม่ดี

“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับแพรคะ”

เมื่อมาถึงบ้านแล้วแพรวาก็เริ่มเปิดประเด็นถามถึงเรื่องที่ชายหนุ่มบอกว่ามีเรื่องที่จะคุยกับเธอทันทีเพราะเธอก็ไม่ได้อยากให้เขาอยู่ที่นี่นานเท่าไรถ้าเป็นไปได้

“คุณรู้...ว่าผมไม่ใช่พ่อของลูกในท้องพิมใช่หรือเปล่า”

ภูดิษฐ์หันมาถามหญิงสาวเสียงสั่นเครือตอนนี้หน้าของเขาแดงกล่ำน้ำตาคลอและมีสายตาที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

“แพรพยายามบอกคุณตั้งแต่แรกแล้วแต่คุณก็ไม่ฟังแพรเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์คนที่มันมีทิฐิบดบังยู่ในใจใครพูดอะไรก็ไม่เชื่อทั้งนั้นแหละค่ะ”

แพรวารู้สึกอึ้งเล็กน้อยกับคำถามของชายหนุ่มไม่ใช่ว่าเธออยากจะปิดบังเขาแต่เธอนั้นเคยพยายามบอกเขาตั้งแต่คราแรกแล้วแค่เขานั้นไม่เปิดใจรับฟังเองอีกอย่างเธอก็ไม่ได้มีหลักฐานในมือเพื่อที่จะยืนยันอีกด้วยเลยปล่อยเลยตามเลยคิดเสียว่าเป็นกรรมที่เธอนั้นต้องชดใช้

“ผมอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด...”

“คุณแน่ใจว่าคุณจะรับได้”

“ผมแน่ใจ”

แพรวารู้ว่าชายหนุ่มคงต้องไปรู้อะไรมาถึงมาพูดกับเธอแบบนี้หากเขาอยากให้เธอเล่าเรื่องราวให้ฟังทั้งหมดเธอก็จะเล่าแต่ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าหากชายหนุ่มได้ฟังแล้วนั้นจะรับได้หรือไม่เธอจึงต้องถามเขาเพื่อความแน่ใจเพราะดูชายหนุ่มนั้นดูจะรักและเชื่อใจพริมาเสียเหลือเกิน

แพรวาตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ชายหนุ่มฟังในเมื่อเขาเปิดใจที่จะรับฟังเธอก็ขอเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาที่เธอนั้นรู้เพื่อล้างตราบาปให้กับเธอก็แล้วกัน

ตลอดเวลาที่แพรวารู้จักพริมมาเธอรู้เพียงแค่ว่าพริมานั้นเป็นเด็กกำพร้าที่มีพี่ชายที่อยู่ต่างจังหวัดส่งให้เรียนเสาร์อาทิตย์ก็จะกลับบ้านครั้งนึงแต่เธอก็ไม่เคยปริปากบอกใครว่าบ้านของเธออยู่ที่ไหนพริมาเริ่มคบกับเมฆินตั้งแต่หญิงสาวอยู่ปีสองเรื่องนี้แพรวาก็รู้เห็นตั้งแต่แรกและแพรวาเองก็รับรู้มาโดยตลอดว่าแฟนของพริมานั้นมีแค่เมฆินคนเดียว

จนกระทั่งวันเกิดเรื่องพริมมาเป็นคนร้องห่มร้องให้มาหาแพรวาพร้อมบอกว่าเธอท้องกับเมฆินแต่เมฆินปัดที่จะไม่รับผิดชอบพริมาเลยขอให้แพรวาช่วยพาไปหาเมฆินที่คอนโดของชายหนุ่มในตอนนั้นแพรวาปล่อยให้เมฆินได้คลียกับพริมาสองคนในห้องส่วนเธอรออยู่ที่โซฟารับแขก

แพรวาเองได้ยินทั้งสองมีปากเสียงกันประมาณว่าเมฆินยังไงก็ไม่ยอมรับผิดชอบเธอเลยคิดว่าควรที่จะแอบถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานแต่มือถือของเธอดันแบตหมดจึงหยิบมือถือของพริมาที่วางอยู่ข้างนอกมาถ่ายแทน

นานสองนานทำอย่างไรเมฆินก็ไม่ยอมรับผิดชอบพริมาเสียใจมากแพรวาจึงต้องพาตัวเธอกลับในตอนจะกลับพริมาเป็นคนขอที่จะขับรถเองเพราะรู้ว่าแพรวาขับรถตอนกลางคืนไม่ค่อยแข็งแต่ใครจะรู้ว่าพริมานั้นคิดสั้นโดยการที่จะขับรถให้มันชนเพื่อฆ่าตัวตายเมื่อแพรวารู้ว่าเพื่อนของเธอจะคิดสั้นเพราะจับสังเกตได้ทั้งคู่จึงมีปากเสียงกันจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น

แพรวานั้นเห็นว่ารถกำลังจะระเบิดเธอจึงลากตัวเธอเองออกจากรถพร้อมพยายามดึงร่างที่นองแต่เลือดของเพื่อนเธอออกมานอกรถและสลบอยู่ใกล้ๆแถวนั้นจนมีคนมาเจอและพาเธอส่งโรงพยาบาลแพรวาเป็นคนรับผิดเองทั้งหมดเพราะรู้ว่าพริมานั้นเสียชีวิตเรื่องนี้ไม่มีใครอยากจะให้เกิดเธอเองก็เสียใจมาจนถึงทุกวันนี้

“ฮึก...ฮือๆๆ...ผมขอโทษยกโทษให้ผมด้วย...ผมขอโทษ...ผมขอโทษ”

ภูดิษฐ์ฟังเรื่องราวที่แพรวาเล่าไปเขาก็พลางร้องให้สะอึกสะอื้นแบบไม่สนความเป็นลูกผู้ชายตอนนี้เขาเสียใจจนไม่รู้จะเสียใจยังไงแล้วพร้อมลงไปนั่งบนพื้นตรงหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ที่โซฟาพร้อมก้มหัวขอโทษเธอด้วยความรู้สึกผิดสุดหัวใจตอนนี้ตัวของเขาสั่นไปทั้งตัวเพราะกำลังสะอื้น

“นี่คุณ...คุณ...คุณภู...ตั้งสติก่อนค่ะ”

แพรวาเองก็ถึงกับคิ้วขมวดเป็นปมไหนคราแรกเขาบอกว่าจะทำใจได้แต่ตอนนี้ร้องให้เสียหมาเสียอย่างนั้นในใจของเธอก็แอบสะใจเล็กๆอยู่เหมือนกันที่เขาเคยทำกับเธอจนร้องให้แบบนี้มาแล้วแต่พอเห็นสภาพเขาตอนนี้ในใจเธอก็อดสงสารไม่ได้จริงๆเธอรู้ว่าเขาคงจะเจ็บปวดมากเพราะโดนคนที่ตัวเองรักหลอกจนดูเป็นคนโง่ขนาดนี้

แพรวาเองก็ไม่รู้จะปลอบคนที่สะอึกสะอื้นไม่หยุดอย่างไรคราแรกเธอได้เพียงแต่ลูบหลังปลอบใจคนที่นั่งตัวสั่นอยู่ด้านหน้าแต่เมื่อเห็นว่ามันจะไม่ได้ผลแล้วเสียงร้องของเขาก็ดังขึ้นเรื่อยๆอีกเธอจึงลงไปนั่งกอดปลอบเขาอย่างที่แม่ของเธอเคยปลอบตอบเธอร้องให้ตอนเด็กๆ

“เอ่อ...จะร้องก็ร้องออกมาให้หมดแต่ลดเสียงลงกว่านี้ได้ไหม”

“อืมมม..อึก..”

แพรวาสะดุ้งเล็กน้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็กอดรัดเธอตอบเสียอย่างนั้นเธอจำได้เลยว่าเขามีอาการเหมือนเธอตอนเด็กๆไม่มีผิดเมื่อเสียใจแล้วมีคนมากอดปลอบเธอก็จะรีบกอดตอบทันทีเพราะมันจะทำเธอดีขึ้นอย่างรวดเร็วเธอคิดว่าเขาก็คงจะเป็นแบบนั้นเช่นกัน

ชายหนุ่มเองไม่ค่อยได้มีใครปลอบเขาแบบนี้มาก่อนแต่เมื่อหญิงสาวกอดเขาเอาไว้อย่างน้ำให้เขาดีขึ้นมากตอนนี้เขาพยายามลดการร้องให้สะอื้นให้มันน้อยลงตามที่หญิงสาวบอกแต่ก็ยังมีน้ำตาไหลมาไม่หยุดอยู่ดีความรู้สึกผิดหวังและความรู้สึกผิดกับหญิงสาวมันปะปนกันมาทีเดียวหมด

ตอนที่ภูดิษฐ์นั้นเจอกับพริมาครั้งแรกก็ตอนที่เธอนั้นพึ่งเรียนจบมัธยมปลายเธอเป็นเด็กเรียนดีอ่อนหวานช่างเอาใจเป็นลูกของคนงานในไร่เขาเองเขาเห็นเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่งก็เท่านั้นแต่เมื่อพ่อกับแม่ของเธอเสียเขาจึงรับเป็นผู้ปกครองของเธอและส่งให้เธอเรียนมหาวิทยาลัยด้วยความที่หญิงสาวอยากสบายเธอจึงเข้าหาพ่อเลี้ยงหนุ่มแห่งไร่ภูตะวันพยายามหว่านเสน่ห์ให้คนขี้เหงาอย่างเขานั้นหลงจนแอบได้เสียกันโดยที่ไม่มีใครรู้คนงานในไร่ที่เห็นพริมาเข้าออกบ้านชายหนุ่มได้ง่ายก็คิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงแค่ผู้ปกครองของเธอเท่านั้นเพราะพริมาเองไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของเธอกับชายหนุ่ม

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status