Share

ของหวงมาเฟีย
ของหวงมาเฟีย
Author: พริมริน

บทที่ 1 โรสริน

บทที่ 1 โรสริน

“ตาย ตายแล้ว สายแล้ว”

ตึก ตึก ตึก แฉะ แฉะ

เสียงฝีเท้ากระทบพื้นน้ำนองบนฟุตบาทหลังจากลงรถประจำทางวิ่งเข้าสู่ลานจอดรถ แล้วตัดเข้าทางหน้าตึกอาคารสำนักงาน

“นี่ ๆ พวกเธอเร็วเข้าสิ มิสเตอร์จะมาถึงแล้วนะ”

พรึบ!

โรสริน บุรณศิริ หุบร่มสีสดใสหลากสีที่เธอซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ หลังจากวิ่งฝ่าฝนเข้ามายังสำนักงานอาคารขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนถนนย่านธุรกิจชื่อดังใจกลางเมืองกรุงเทพ

สาวร่างสูงระหงกว่าหญิงสาวโดยทั่วไปอายุร่วมจะยี่สิบเจ็ดปี ยกมือเรียวรีดน้ำออกจากเส้นผมที่เธอลืมมัดก่อนออกจากหอพัก น้ำไหลหยดลงพื้นหน้าอาคารก่อนเดินเข้าไปด้านใน หยดน้ำฝนไหลเป็นทางลงจากร่างอันเปียกชุ่มโชก

โรสรินขยับแว่นหนากลมบนหน้าเรียวเล็กน้อยจ้องดูความวุ่นวายของเช้าวันจันทร์ อากาศเย็นฉ่ำเพราะฝนเทอย่างหนักจนแว่นตาเกิดไอน้ำ  เดินไปยังเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับชะโงกหน้าเปียกฝนไปยังสาวสวยด้านหน้า

“ปรียา วันนี้มีอะไรกันเหรอ หรือมีตรวจงาน”

ด้วยความสงสัยจึงชะโงกหน้าออกไปไม่ทันคิดรอบคอบ จนปรียา สาวสวยประจำเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับที่จัดได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของบริษัทเบ้ปากมองโรสรินที่เปียกไปทั้งตัว

“ยี้ โรส เธอถอยไปไกล ๆ เลย เปียกขนาดนี้ดูสิเลอะไปหมด”

ปรียาโบกมือไล่ก้มหยิบผ้าเช็ดโต๊ะขึ้นมาเช็ดเคาน์เตอร์บ่นไปพราง

“ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขา เซ่อซ่า สมแล้วที่ขึ้นคาน”

โรสรินยิ้มแหย่ยักไหล่แต่มีแอบแลบลิ้นให้สาวสวย คำที่ได้ยินจนชินหู เซ่อซ่า สาวโสด ขึ้นคาน รถไฟขบวนสุดท้าย

เธอชินเสียแล้วกับคำพูดพวกนี้ ไม่สนใจร่างเปียกน้ำของตัวเอง ยืนตื้ออยู่ตรงเคาน์เตอร์จนกระทั่งแม่บ้านของบริษัทเดินออกมา

“ตายแล้วคุณโรส ทำไมถึงเปียกแบบนั้นดูสิ แล้วน้ำหยดเป็นทางเลย”

“มาก็ดีเลยป้า จัดการที่พื้นด้วย ยายโรสมันทำไว้”

ป้าแม่บ้านขมวดคิ้วเมื่อได้ยินปรียาพูดมะนาวไม่มีน้ำ มองไปทางโรสรินนักบัญชีสาวของบริษัทยังยืนนิ่งพิงเคาน์เตอร์ไม่รู้สึกรู้สมว่าโดนปรียาพูดกระแหนะกระแหน

“แล้วทำไมเปียกแบบนั้นคะคุณโรส”

“รีบค่ะป้าบัว กลัวไม่ทันเข้างาน แล้วนี่สรุปเกิดอะไรขึ้นในเช้าวันนี้ ถามปรียา ปรียาก็ไม่ยอมตอบ”

ปรียามองค้อนหนึ่งครั้งก่อนหยิบกระจกใต้โต๊ะขึ้นส่องเพื่อเลี่ยงการพูดคุยกับโรสริน

ป้าบัวแม่บ้านเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมไม้ถูพื้นอันใหญ่ โรสรินรอจนกระทั่งป้าบัวจัดการกับน้ำที่เธอทำไว้ตามทางจนเสร็จ กระโดดดักป้าไว้ก่อนเดินกลับเข้าไปทางด้านหลังอาคาร

“ป้าบัว สรุปวันนี้มีอะไรกัน”

“คุณโรสไม่รู้หรือคะ วันนี้บอสใหญ่คนใหม่เข้าตรวจสำนักงาน”

หน้าหวานใต้แว่นอันโตหนาเตอะคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น

“อ้าวนี่โรสไม่รู้เรื่องเลย เมื่อวันเสาร์โรสลางานเพราะป่วยค่ะป้าบัว”

“คุณโรสรีบไปเตรียมตัวเถอะค่ะ คงได้เรียกประชุมใหญ่แน่นอน”

“ขอบคุณค่ะป้าบัว”

โรสรินกลับหลังรีบผลุนผลันเดินแกมวิ่งเมื่อรู้ว่าบอสใหญ่คนใหม่กำลังเข้ามาตรวจงานที่สำนักงานใหญ่วันนี้

บริษัทสินธุที่โรสรินทำงานอยู่ เป็นบริษัทนำเข้าพลังงานน้ำมันและประสบปัญหาทางการเงินย่ำแย่มานานหลายปี ตัวเธอเป็นพนักงานบัญชี เธอทราบดีถึงผลการขาดทุนสะสมจนแปลกใจว่าบริษัทยังสามารถดำรงประคองตัวเองมาได้หลายปี จนกระทั่งบริษัทปิโตรรัสเข้ามาซื้อกิจการไปเมื่อปีก่อน

เธอเองได้โบนัสน้อยลงทุกปีหากแต่ยังฝืนทำอยู่เพราะไม่อยากหางานใหม่ เริ่มต้นใหม่ อีกอย่างในตอนนี้เธออาจได้ขึ้นเป็นรองหัวหน้าแผนกบัญชีเนื่องจากตำแหน่งกำลังจะว่างลงภายในสิ้นปีนี้เพราะถึงเวลาเกษียรณอายุ

โรสรินมองตัวเองในลิฟต์ขนาดย่อม ไม่ได้คิดอะไรกับสภาพเปียกโชกตัวเองที่สะท้อนในผนังลิฟต์มันปลาบ อย่างไรอีกไม่นานเสื้อผ้าเหล่านี้ก็จะแห้งในที่สุด ร่างระหงยักไหล่ไม่ใส่ใจ

“เอะนั่นอะไร?”

โรสรินชะโงกหน้าไปใกล้กระจกลิฟต์ เขี่ยใบไม้ชิ้นเล็กที่ติดอยู่บนผมที่กระเซอะกระเซิงหยิกหยอง เธอเกลียดผมตัวเป็นที่สุด มันหยักเป็นลอนและพอเปียกน้ำลอนก็ยิ่งฟูออกชี้โด่ชี้เด่

ติ๊ง!

เสียงลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นยี่สิบซึ่งเป็นชั้นแผนกบัญชี อาคารหลังนี้มีทั้งหมดสี่สิบชั้น หากแต่แบ่งชั้นล่างสิบห้าชั้นสำหรับให้เช่า รายรับในส่วนนี้ถือเป็นรายรับที่ทำกำไรให้บริษัทมากยิ่งกว่ากำไรจากน้ำมันเสียอีก

“มาสักทีแม่คุณ”

เสียงวางอำนาจดังออกมาจากห้องด้านในก่อนที่ใบหน้ากลมดิกของหัวหน้าแผนกบัญชีพิสุทธิ์จะโผล่หน้าออกมา กวักมือเรียก

“ค่ะหัวหน้า”

“แล้วทำไมเปียกแบบนี้โรส โอ๊ย! แล้วถ้าโดนเรียกขึ้นไปประชุมจะทำยังไง”

“เขามาแล้วเหรอคะหัวหน้า”

“มาแล้วสิ มาก่อนใครเลย ขนาดพี่ยามด้านหน้ายังตกใจ”

“แล้ว แล้ว?”

“ไป ไป เข้าไปดูแลตัวเองในห้องน้ำก่อน เป่าผมให้แห้งด้วยล่ะ”

โรสรินรีบจ้ำอ้าวเข้าห้องน้ำทันทีหลังจากหัวหน้าพิสุทธิ์หลุน ๆ หลังไล่

“ตายแล้วยายโรส”

โรสรินอุทานให้ตัวเองเมื่อเห็นสภาพชัด ๆ ในกระจกห้องน้ำ วันนี้เธอสวมกระโปรงยีนส์และเสื้อยืดข้างในทับด้วยสูทสีเข้มแบบผู้ชาย ผมชี้ฟูไปทุกทิศทางทำให้สารรูปของเธอยิ่งกว่าวันไหน ๆ

มือเรียวไร้เครื่องประดับดึงแว่นออกมาเช็ดกับเสื้อยืดก่อนสวมกลับเข้าไปใหม่ มองอย่างไรจะใส่แว่น สวมแว่น มันก็ยังเหมือนเดิม

ใบหน้าแม้ว่าเรียวรูปไข่ แต่ไม่ได้ทำให้เธอสวยขึ้นมา โรสรินใช้มือสางผมลวก ๆ ล้วงกระเป๋าควานหายางมัดผม

“ให้ตายเถอะยายโรส เธอมันสับเพร่าจริง ๆ”

โรสรินทิ้งแขนลงข้างลำตัวอย่างสิ้นหวังเมื่อหายางมัดผมไม่เจอ เธอถอดเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่เปียกน้ำออกสลัด ๆ พาดไว้ที่ประตูห้องน้ำ

“ผัวะ”

“โรส เร็ว ข้างบนเรียกแล้ว”

“ฮะ!! เดี๋ยวค่ะหัวหน้า ตัวยังไม่แห้งเลย หัวหน้า!”

พิสุทธิ์ไม่สนใจเสียงประท้วงดึงมือโรสรินลากออกจากห้องนั้นทันที เดินตรงไปทางลิฟต์โดยมีเสียงประท้วงไปตลอดทาง

“ไปถึงแล้วนิ่งเงียบนะโรส ห้ามพูด ห้ามเถียง เดี๋ยวหัวหน้าจัดการเอง”

“ทำไมล่ะคะ บอสคนใหม่ดุมากเหรอคะ”

“เออน่า บอกก็ทำตาม”

“พรืด!! ดูหัวหน้าสิ”

เสียงสองของหัวหน้าอย่างชายไม่แท้ทำโรสรินหัวเราะออกมา

“ไม่ขำเลยนะยายโรส ถ้าแผนกเราโดนเล่นงาน เธอคงไม่ได้มายืนหัวเราะอยู่ตรงนี้แน่ ๆ”

“ค่าหัวหน้า”

โรสรินหงอยลงชำเลืองมองตัวเองอีกครั้งที่กระจกในลิฟต์ก่อนจะยักไหล่ คงทำอะไรไม่ได้กับสภาพของเธออีกแล้ว

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เข้ามาได้”

โรสรินได้ยินเสียงของผู้อำนวยการแผนกจัดการทั่วไปเอ่ยอนุญาต เธอไม่เคยขึ้นมาชั้นที่สามสิบแปดเนื่องจากเป็นส่วนของผู้บริหารระดับสูง ชั้นสูงสุดที่เธอขึ้นมาคงเป็นชั้นสามสิบซึ่งทำเป็นห้องประชุมทั้งหมด

ประตูบานใหญ่หนาหนักหรูหราประดับคิ้วขอบทองเหลือง การตกแต่งแตกต่างไปจากชั้นอื่นมากนัก แม้แต่พื้นกระเบื้องยังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อนลายเมฆสลับผิดไปจากกระเบื้องธรรมดาชั้นล่าง

หน้าหวานก้มหน้านิ่งขยับแว่นให้กลับเข้าที่ มองตามเท้าหัวหน้าด้านหน้าขณะก้าวเดิน พยายามเดินตามไม่แตกแถวออก ให้ลำตัวของหัวหน้าบังเธอจากสายตาแต่มันเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อโรสรินสูงถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสองเซนติเมตร

ใจนักบัญชีสาวต้องการเงยหน้าขึ้นมองแต่ทำไม่ได้ ขณะที่เจ้านายข้างหน้าพูดคุยเสียงงึมงำไม่ดังมากนัก ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอชำเลืองไปทางซ้ายซึ่งพอดีกับตู้หนังสือบานใหญ่ที่เป็นกระจก

ชายหนุ่มหลังโต๊ะทำงานใหญ่นั่งพิงพนักเก้าอี้ยกเท้าขึ้นพาดเข่าดูสบาย ๆ หากแต่รังสีบางอย่างแผ่กระจายออก ร่างสูงใหญ่กว่ามาตรฐานชายไทยมาก

โรสรินทราบมาก่อนว่าเจ้าของคนใหม่เป็นคนรัสเซีย แต่ไม่คาดคิดว่ารูปร่างจะสูงใหญ่ขนาดนี้ ผมสีน้ำตาลเข้มออกดำหวีเรียบด้วยแว็กซ์ผมเรียบร้อยไม่มีแม้แต่ปอยเส้นผมหลุดออกมา สูททำงานเรียบเนี้ยบสีเข้มเข้ากันทั้งชุด แต่ไม่ผูกเนคไท คอเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในปลดกระดุมลงสองเม็ดเปิดอ้าออกจนเห็นสีผิวทองแดงด้านใน

โรสรินรู้สึกเสียดายที่ไม่เห็นสีดวงตา นั่นเพราะเงาสะท้อนในกระจกไม่ได้ทำให้เธอมองเห็นได้ถึงขนาดนั้น ข้อศอกยันกับหัวเข่าลูบคางตัวเองเบาๆ ทั้งใหญ่และหนา ชายแขนเสื้อร่นลงเล็กน้อยเห็นนาฬิกาหรูราคาแพงรุ่นลิมิเต็ด

ควับ!!I

โรสรินสะดุ้งหันกลับทันควัน เมื่อจู่ ๆ เจ้านายคนใหม่หันหน้าไปทางกระจกดั่งรู้ว่ามีคนแอบมอง จ้องเธอผ่านเงาในกระจก

ตุบ ตุบ!!

เสมือนภายในห้องเงียบเสียงลงจนโรสรินได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเองดังกระหน่ำโครมคราม เหงื่อซึมตามฝ่ามือจากความตื่นเต้น ดวงตาคมกล้าตวัดมองเพียงไม่กี่วินาทีพลันทำให้เธอตื่นกลัว ดวงตาหรี่คมดั่งพยัคฆ์ร้าย

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status