บทที่ 1 โรสริน
“ตาย ตายแล้ว สายแล้ว”
ตึก ตึก ตึก แฉะ แฉะ
เสียงฝีเท้ากระทบพื้นน้ำนองบนฟุตบาทหลังจากลงรถประจำทางวิ่งเข้าสู่ลานจอดรถ แล้วตัดเข้าทางหน้าตึกอาคารสำนักงาน
“นี่ ๆ พวกเธอเร็วเข้าสิ มิสเตอร์จะมาถึงแล้วนะ”
พรึบ!
โรสริน บุรณศิริ หุบร่มสีสดใสหลากสีที่เธอซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ หลังจากวิ่งฝ่าฝนเข้ามายังสำนักงานอาคารขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนถนนย่านธุรกิจชื่อดังใจกลางเมืองกรุงเทพ
สาวร่างสูงระหงกว่าหญิงสาวโดยทั่วไปอายุร่วมจะยี่สิบเจ็ดปี ยกมือเรียวรีดน้ำออกจากเส้นผมที่เธอลืมมัดก่อนออกจากหอพัก น้ำไหลหยดลงพื้นหน้าอาคารก่อนเดินเข้าไปด้านใน หยดน้ำฝนไหลเป็นทางลงจากร่างอันเปียกชุ่มโชก
โรสรินขยับแว่นหนากลมบนหน้าเรียวเล็กน้อยจ้องดูความวุ่นวายของเช้าวันจันทร์ อากาศเย็นฉ่ำเพราะฝนเทอย่างหนักจนแว่นตาเกิดไอน้ำ เดินไปยังเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับชะโงกหน้าเปียกฝนไปยังสาวสวยด้านหน้า
“ปรียา วันนี้มีอะไรกันเหรอ หรือมีตรวจงาน”
ด้วยความสงสัยจึงชะโงกหน้าออกไปไม่ทันคิดรอบคอบ จนปรียา สาวสวยประจำเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับที่จัดได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของบริษัทเบ้ปากมองโรสรินที่เปียกไปทั้งตัว
“ยี้ โรส เธอถอยไปไกล ๆ เลย เปียกขนาดนี้ดูสิเลอะไปหมด”
ปรียาโบกมือไล่ก้มหยิบผ้าเช็ดโต๊ะขึ้นมาเช็ดเคาน์เตอร์บ่นไปพราง
“ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขา เซ่อซ่า สมแล้วที่ขึ้นคาน”
โรสรินยิ้มแหย่ยักไหล่แต่มีแอบแลบลิ้นให้สาวสวย คำที่ได้ยินจนชินหู เซ่อซ่า สาวโสด ขึ้นคาน รถไฟขบวนสุดท้าย
เธอชินเสียแล้วกับคำพูดพวกนี้ ไม่สนใจร่างเปียกน้ำของตัวเอง ยืนตื้ออยู่ตรงเคาน์เตอร์จนกระทั่งแม่บ้านของบริษัทเดินออกมา
“ตายแล้วคุณโรส ทำไมถึงเปียกแบบนั้นดูสิ แล้วน้ำหยดเป็นทางเลย”
“มาก็ดีเลยป้า จัดการที่พื้นด้วย ยายโรสมันทำไว้”
ป้าแม่บ้านขมวดคิ้วเมื่อได้ยินปรียาพูดมะนาวไม่มีน้ำ มองไปทางโรสรินนักบัญชีสาวของบริษัทยังยืนนิ่งพิงเคาน์เตอร์ไม่รู้สึกรู้สมว่าโดนปรียาพูดกระแหนะกระแหน
“แล้วทำไมเปียกแบบนั้นคะคุณโรส”
“รีบค่ะป้าบัว กลัวไม่ทันเข้างาน แล้วนี่สรุปเกิดอะไรขึ้นในเช้าวันนี้ ถามปรียา ปรียาก็ไม่ยอมตอบ”
ปรียามองค้อนหนึ่งครั้งก่อนหยิบกระจกใต้โต๊ะขึ้นส่องเพื่อเลี่ยงการพูดคุยกับโรสริน
ป้าบัวแม่บ้านเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมไม้ถูพื้นอันใหญ่ โรสรินรอจนกระทั่งป้าบัวจัดการกับน้ำที่เธอทำไว้ตามทางจนเสร็จ กระโดดดักป้าไว้ก่อนเดินกลับเข้าไปทางด้านหลังอาคาร
“ป้าบัว สรุปวันนี้มีอะไรกัน”
“คุณโรสไม่รู้หรือคะ วันนี้บอสใหญ่คนใหม่เข้าตรวจสำนักงาน”
หน้าหวานใต้แว่นอันโตหนาเตอะคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น
“อ้าวนี่โรสไม่รู้เรื่องเลย เมื่อวันเสาร์โรสลางานเพราะป่วยค่ะป้าบัว”
“คุณโรสรีบไปเตรียมตัวเถอะค่ะ คงได้เรียกประชุมใหญ่แน่นอน”
“ขอบคุณค่ะป้าบัว”
โรสรินกลับหลังรีบผลุนผลันเดินแกมวิ่งเมื่อรู้ว่าบอสใหญ่คนใหม่กำลังเข้ามาตรวจงานที่สำนักงานใหญ่วันนี้
บริษัทสินธุที่โรสรินทำงานอยู่ เป็นบริษัทนำเข้าพลังงานน้ำมันและประสบปัญหาทางการเงินย่ำแย่มานานหลายปี ตัวเธอเป็นพนักงานบัญชี เธอทราบดีถึงผลการขาดทุนสะสมจนแปลกใจว่าบริษัทยังสามารถดำรงประคองตัวเองมาได้หลายปี จนกระทั่งบริษัทปิโตรรัสเข้ามาซื้อกิจการไปเมื่อปีก่อน
เธอเองได้โบนัสน้อยลงทุกปีหากแต่ยังฝืนทำอยู่เพราะไม่อยากหางานใหม่ เริ่มต้นใหม่ อีกอย่างในตอนนี้เธออาจได้ขึ้นเป็นรองหัวหน้าแผนกบัญชีเนื่องจากตำแหน่งกำลังจะว่างลงภายในสิ้นปีนี้เพราะถึงเวลาเกษียรณอายุ
โรสรินมองตัวเองในลิฟต์ขนาดย่อม ไม่ได้คิดอะไรกับสภาพเปียกโชกตัวเองที่สะท้อนในผนังลิฟต์มันปลาบ อย่างไรอีกไม่นานเสื้อผ้าเหล่านี้ก็จะแห้งในที่สุด ร่างระหงยักไหล่ไม่ใส่ใจ
“เอะนั่นอะไร?”
โรสรินชะโงกหน้าไปใกล้กระจกลิฟต์ เขี่ยใบไม้ชิ้นเล็กที่ติดอยู่บนผมที่กระเซอะกระเซิงหยิกหยอง เธอเกลียดผมตัวเป็นที่สุด มันหยักเป็นลอนและพอเปียกน้ำลอนก็ยิ่งฟูออกชี้โด่ชี้เด่
ติ๊ง!
เสียงลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นยี่สิบซึ่งเป็นชั้นแผนกบัญชี อาคารหลังนี้มีทั้งหมดสี่สิบชั้น หากแต่แบ่งชั้นล่างสิบห้าชั้นสำหรับให้เช่า รายรับในส่วนนี้ถือเป็นรายรับที่ทำกำไรให้บริษัทมากยิ่งกว่ากำไรจากน้ำมันเสียอีก
“มาสักทีแม่คุณ”
เสียงวางอำนาจดังออกมาจากห้องด้านในก่อนที่ใบหน้ากลมดิกของหัวหน้าแผนกบัญชีพิสุทธิ์จะโผล่หน้าออกมา กวักมือเรียก
“ค่ะหัวหน้า”
“แล้วทำไมเปียกแบบนี้โรส โอ๊ย! แล้วถ้าโดนเรียกขึ้นไปประชุมจะทำยังไง”
“เขามาแล้วเหรอคะหัวหน้า”
“มาแล้วสิ มาก่อนใครเลย ขนาดพี่ยามด้านหน้ายังตกใจ”
“แล้ว แล้ว?”
“ไป ไป เข้าไปดูแลตัวเองในห้องน้ำก่อน เป่าผมให้แห้งด้วยล่ะ”
โรสรินรีบจ้ำอ้าวเข้าห้องน้ำทันทีหลังจากหัวหน้าพิสุทธิ์หลุน ๆ หลังไล่
“ตายแล้วยายโรส”
โรสรินอุทานให้ตัวเองเมื่อเห็นสภาพชัด ๆ ในกระจกห้องน้ำ วันนี้เธอสวมกระโปรงยีนส์และเสื้อยืดข้างในทับด้วยสูทสีเข้มแบบผู้ชาย ผมชี้ฟูไปทุกทิศทางทำให้สารรูปของเธอยิ่งกว่าวันไหน ๆ
มือเรียวไร้เครื่องประดับดึงแว่นออกมาเช็ดกับเสื้อยืดก่อนสวมกลับเข้าไปใหม่ มองอย่างไรจะใส่แว่น สวมแว่น มันก็ยังเหมือนเดิม
ใบหน้าแม้ว่าเรียวรูปไข่ แต่ไม่ได้ทำให้เธอสวยขึ้นมา โรสรินใช้มือสางผมลวก ๆ ล้วงกระเป๋าควานหายางมัดผม
“ให้ตายเถอะยายโรส เธอมันสับเพร่าจริง ๆ”
โรสรินทิ้งแขนลงข้างลำตัวอย่างสิ้นหวังเมื่อหายางมัดผมไม่เจอ เธอถอดเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่เปียกน้ำออกสลัด ๆ พาดไว้ที่ประตูห้องน้ำ
“ผัวะ”
“โรส เร็ว ข้างบนเรียกแล้ว”
“ฮะ!! เดี๋ยวค่ะหัวหน้า ตัวยังไม่แห้งเลย หัวหน้า!”
พิสุทธิ์ไม่สนใจเสียงประท้วงดึงมือโรสรินลากออกจากห้องนั้นทันที เดินตรงไปทางลิฟต์โดยมีเสียงประท้วงไปตลอดทาง
“ไปถึงแล้วนิ่งเงียบนะโรส ห้ามพูด ห้ามเถียง เดี๋ยวหัวหน้าจัดการเอง”
“ทำไมล่ะคะ บอสคนใหม่ดุมากเหรอคะ”
“เออน่า บอกก็ทำตาม”
“พรืด!! ดูหัวหน้าสิ”
เสียงสองของหัวหน้าอย่างชายไม่แท้ทำโรสรินหัวเราะออกมา
“ไม่ขำเลยนะยายโรส ถ้าแผนกเราโดนเล่นงาน เธอคงไม่ได้มายืนหัวเราะอยู่ตรงนี้แน่ ๆ”
“ค่าหัวหน้า”
โรสรินหงอยลงชำเลืองมองตัวเองอีกครั้งที่กระจกในลิฟต์ก่อนจะยักไหล่ คงทำอะไรไม่ได้กับสภาพของเธออีกแล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามาได้”
โรสรินได้ยินเสียงของผู้อำนวยการแผนกจัดการทั่วไปเอ่ยอนุญาต เธอไม่เคยขึ้นมาชั้นที่สามสิบแปดเนื่องจากเป็นส่วนของผู้บริหารระดับสูง ชั้นสูงสุดที่เธอขึ้นมาคงเป็นชั้นสามสิบซึ่งทำเป็นห้องประชุมทั้งหมด
ประตูบานใหญ่หนาหนักหรูหราประดับคิ้วขอบทองเหลือง การตกแต่งแตกต่างไปจากชั้นอื่นมากนัก แม้แต่พื้นกระเบื้องยังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อนลายเมฆสลับผิดไปจากกระเบื้องธรรมดาชั้นล่าง
หน้าหวานก้มหน้านิ่งขยับแว่นให้กลับเข้าที่ มองตามเท้าหัวหน้าด้านหน้าขณะก้าวเดิน พยายามเดินตามไม่แตกแถวออก ให้ลำตัวของหัวหน้าบังเธอจากสายตาแต่มันเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อโรสรินสูงถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสองเซนติเมตร
ใจนักบัญชีสาวต้องการเงยหน้าขึ้นมองแต่ทำไม่ได้ ขณะที่เจ้านายข้างหน้าพูดคุยเสียงงึมงำไม่ดังมากนัก ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอชำเลืองไปทางซ้ายซึ่งพอดีกับตู้หนังสือบานใหญ่ที่เป็นกระจก
ชายหนุ่มหลังโต๊ะทำงานใหญ่นั่งพิงพนักเก้าอี้ยกเท้าขึ้นพาดเข่าดูสบาย ๆ หากแต่รังสีบางอย่างแผ่กระจายออก ร่างสูงใหญ่กว่ามาตรฐานชายไทยมาก
โรสรินทราบมาก่อนว่าเจ้าของคนใหม่เป็นคนรัสเซีย แต่ไม่คาดคิดว่ารูปร่างจะสูงใหญ่ขนาดนี้ ผมสีน้ำตาลเข้มออกดำหวีเรียบด้วยแว็กซ์ผมเรียบร้อยไม่มีแม้แต่ปอยเส้นผมหลุดออกมา สูททำงานเรียบเนี้ยบสีเข้มเข้ากันทั้งชุด แต่ไม่ผูกเนคไท คอเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในปลดกระดุมลงสองเม็ดเปิดอ้าออกจนเห็นสีผิวทองแดงด้านใน
โรสรินรู้สึกเสียดายที่ไม่เห็นสีดวงตา นั่นเพราะเงาสะท้อนในกระจกไม่ได้ทำให้เธอมองเห็นได้ถึงขนาดนั้น ข้อศอกยันกับหัวเข่าลูบคางตัวเองเบาๆ ทั้งใหญ่และหนา ชายแขนเสื้อร่นลงเล็กน้อยเห็นนาฬิกาหรูราคาแพงรุ่นลิมิเต็ด
ควับ!!I
โรสรินสะดุ้งหันกลับทันควัน เมื่อจู่ ๆ เจ้านายคนใหม่หันหน้าไปทางกระจกดั่งรู้ว่ามีคนแอบมอง จ้องเธอผ่านเงาในกระจก
ตุบ ตุบ!!
เสมือนภายในห้องเงียบเสียงลงจนโรสรินได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเองดังกระหน่ำโครมคราม เหงื่อซึมตามฝ่ามือจากความตื่นเต้น ดวงตาคมกล้าตวัดมองเพียงไม่กี่วินาทีพลันทำให้เธอตื่นกลัว ดวงตาหรี่คมดั่งพยัคฆ์ร้าย
บทที่ 2 อเล็กวานเดอร์“ออกไปได้” โรสรินผ่อนลมหายใจเบา ๆ เมื่อได้ยินเสียงผู้อำนวยการสั่งให้ออกจากห้อง โชคดีที่ไม่ต้องแนะนำตัวไม่อย่างนั้นมีหวังเธออาจเป็นลมไปก็ได้“ครับ ขอตัวก่อนครับ”เธอได้ยินหัวหน้าพิสุทธิ์เอ่ยขอตัวร่างระหงสูงโปร่งรีบหันหลังตามหัวหน้าแผนกออกไปทันที“เดี๋ยวก่อน”เสียงทุ้มวางอำนาจเอ่ยขึ้นจนทำให้เธอและหัวหน้าพิสุทธิ์ชะงักเท้า เธอไม่กล้าหันกลับไปมองแม้แต่น้อย ยืนนิ่งก้มหน้ามือกุมไว้ด้วยกันข้างหน้าลำตัว“ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ได้แนะนำตัว”เสียงภาษาอังกฤษสำเนียงเปล่งอย่างคนรัสเซียทำโรสรินสะดุ้ง หัวหน้าพิสุทธิ์กระทุ้งเธอด้วยข้อศอกให้เธอหันหลังกลับไป เธอจึงจำใจหันกลับไปทั้งตัวหากแต่ยังก้มหน้านิ่ง“เธอทำงานแผนกบัญชีครับคุณตูร์เกเนฟ เก่งและขยัน ผมกำลังจะมอบ ..”“เงยหน้าขึ้น”โรสรินยังนิ่ง ร่างบางสั่นเล็กน้อย ก้มหน้าไม่ยอมเงยเอี้ยวหน้ามองหัวหน้าพิสุทธิ์ที่ทำหน้าบุ้ยใบ้ให้เธอเงยหน้า โรสรินยังส่ายน้อย ๆ เป็นเชิงปฏิเสธทันควัน“ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษหรือไง”ร่างระหงสะดุ้งตกใจ เสียงกัมปนาทตะคอกออกมา หน้างามเลิ่กลั่กกัดริมฝีปากแน่น ก่อนเงยหน้าขึ้นอ
บทที่ 3 ตานี้หื่นกามร่างระหงด้วยความสูงกว่าหญิงไทยทั่วไปนั่งเงียบอยู่ในรถแท็กซี่ กำลังมุ่งหน้าไปทางโรงแรมหรูเกินระดับห้าดาว โรสรินอยู่ในชุดราตรีสำหรับงานกลางคืนตัวสั้นอย่างที่เธอไม่เคยสวมใส่มาก่อน ชุดที่เจ้าของร้านคะยั้นคะยอบอกว่าเธอต้องสวมชุดนี้เพราะมันเกิดมาเพื่อเธอมือเรียวกำกระเป๋าหรูที่ยืมมาจากร้านเสริมสวยเช่นกันไว้แน่น ไม่มั่นใจในตนเอง ข้างในมีแว่นตาหนาที่เธอสวมเป็นประจำ เธอลูบใบหน้าเรียวที่ปราศจากแว่นปิดอย่างไม่แน่ใจ“คุณแท็กซี่คะ ถามหน่อยเถอะคะ ฉันสวยไหมคะ”“ฮ่า ฮ่า คุณนี่ตลกดีนะครับ ถ้าคุณอยากจะได้คำชมก็พูดตรง ๆ เลยสิครับ มาแกล้งถามทำไม”“ไม่ค่ะ ฉันถามจริงๆ ฉันสวยไหมคะ”โรสรินหรี่ตาลงเพ่งมองคนขับแท็กซี่ ดวงตาพร่ามัวไร้แว่น เธอเอนตัวมาด้านหน้าเพ่งมองไปยังมิเตอร์ที่กำลังวิ่งอยู่“สวยสิครับ คุณสวยมาก นี่กำลังจะไปงานหรือครับ”“ค่ะ เลี้ยงรับเจ้านายคนใหม่ จะถึงหรือยังคะ”“เลี้ยวข้างหน้าแล้วครับ”โรสรินเอนหลังไปดั่งเดิมล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมา เธอยกเข้ามาใกล้ใบหน้าเพื่อดูเวลา ตอนนี้เกือบสามทุ่มแล้ว เธอมาช้ามากเพราะผมของเธอทำให้ช่างเสริมสวยต้องเสียเวลาไปเกือบชั่วโมงเธอยกมือจับทรงผม ต
บทที่ 4 ฉันไม่รู้จักคุณ“คนนั้นใครน่ะ”“ไหน”“เนี่ย”โรสรินเดินไปตามโต๊ะต่าง ๆ อย่างมืดมัว เธอไม่รู้ว่าเสียงใครพูดอะไรบ้างเพราะเสียงเพลงกลบทับไปหมด เธอต้องหาโต๊ะของหัวหน้าพิสุทธิ์ให้เจอ“ฮัดเช้ย!”แอร์ภายในผับเย็นจัดและควันบุหรี่ตลบอบอวล เธอยังมุ่งหน้าเดินไปแต่ละโต๊ะโดยหวังว่าหัวหน้าพิสุทธิ์เมื่อเห็นเธอคงจะฉุดเธอไว้โอ๊ยไม่ไหวแล้ว น้ำมูกกำลังไหลจากอาการภูมิแพ้เธอเดินต่อไปจนถึงบาร์เครื่องดื่ม ผับหรูหราเคาน์เตอร์ยาวและด้านหลังมีแผงวางขวดเหล้าราคาแพงจำนนวนมาก เธอพาร่างงดงามเย้ายวนไม่รู้ตัวเข้าไปนั่งเก้าอี้สตูทรงสูงที่ว่างอยู่“น้องคะ พี่จะสั่งเครื่องดื่ม เออ ต้องจ่ายเงินไหมคะ”โรสรินถามบาร์เทนเดอร์ออกอาการเขินอายเล็กน้อย เธอต้องประหยัดรัดเข็มขัดตั้งแต่วันนี้ การถูกพักงานสามเดือนอาจทำให้เงินเก็บของเธอหมดเกลี้ยงได้ถ้าเธอบริหารไม่ดี“ไม่ต้องครับ ทุกอย่างสั่งได้ฟรี”“โอเค งั้นขอเครื่องดื่มให้พี่หนึ่งแก้ว อะไรก็ได้”“รอสักครู่ครับ”โรสรินนั่งบนเก้าอี้สูงแบบหมุนได้รอบ เธอหมุนเก้าอี้กลับไปด้านในคลับที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน ดูจากจำนวนคนที่มาแล้วเธอคาดว่าพนักงานคงพ่วงเพื่อน ๆ ที่ไม่ใช่พนักงานมาด้วย
บทที่ 5 จะเริ่มอ่อยยังไงดี“ดาลยาค่ะ”“ชื่อแปลกดีจังเลยค่ะ”“ค่ะ เป็นภาษารัสเซีย”“รัสเซีย น่าขัน ทำไมวันนี้ฉันถึงเจอแต่คนรัสเซีย”โรสรินแสร้งล้างมือต่อเพื่อยืนสงบจิตใจหลังจากที่ได้ยินเพื่อนร่วมงานนินทา ถ้าเธอได้กลับไปทำงานอีกเมื่อไร เธอจะหาทางเล่นงานให้ได้“ฉันสังเกตว่าคุณเดิน เออ จะเรียกยังไงดี คุณเดินเหมือนไม่ค่อยตรงเท่าไร”โรสรินหัวเราะแห้ง ๆ ก่อนจะหยิบแว่นตาหนาขึ้นมาจากกระเป๋าให้ดู“เนี่ยค่ะ ฉันสายตาสั้น แล้ววันนี้ก็ยุ่งมากจนไม่ทันได้ซื้อคอนเทคเลนส์ ก็เลยแทบจะคลำทางเอาเลยค่ะ”“ถึงว่า..”“ถึงว่าอะไรคะ”“ไม่มีอะไรค่ะ เรียบร้อยแล้วเข้าไปในผับกันดีกว่าค่ะ”โรสรินยิ้มออกมาเล็กน้อย มองดาลยาที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำนึกขึ้นได้เหมือนเพิ่งรู้ตัว นี่เจ้าหื่นให้เธอมาเฝ้าเราไว้หรือเนี่ย!ขณะที่เดินผ่านเข้าไปในผับ เธอได้ยินเสียงปรียาตะโกนพูดเพราะเพลงในผับดังมาก เสียงมาจากทางใดทางหนึ่งข้างหน้าเธอ“อยากจะเข้าไปทำความรู้จักจังเลย อเล็กซานเดอร์หล่อชะมัด ใครนะจะโชคดีเด็ดเขาไปในคืนนี้”โรสรินยิ้มเยือน แค่ไม่นานคนพวกนี้ก็รู้จักชื่อชายหื่นกามคนนั้นเสียแล้ว สงสัยเขาคงหล่อมากอย่างที่พวกเธอพูดมา“แต่ไม่มีว
บทที่ 6 ขับให้เร็วกว่านี้“อื้อ”เสียงหวานทักท้วงในลำคอก่อนจะยอมให้เขารุกรานเข้าไปในโพรงปาก ลิ้นสากหยอกเย้าให้เธอตอบรับ เพียงแค่โรสรินใช้ลิ้นตอบสนองเบา ๆ อเล็กซานเดอร์รีบผละออกทันที ดึงเธอลงจากเก้าอี้จนโรสรินตัวเอน“จะรีบไปไหนละคะ เรายังจูบไม่เสร็จเลย”“เราได้จูบกันแน่นอนสาวน้อย แต่ไม่ใช่ที่นี่”มือแกร่งคว้าใต้รักแร้ไว้ดึงให้เดินตามอย่างรวดเร็ว อาการเมาของโรสรินมากกว่าที่เธอคาดคิด เพียงเท้าลงจากเก้าอี้สัมผัสพื้นพลันรู้สึกว่าพื้นเอียงทันทีจนร่างระหงเดินไม่ตรงทาง ถ้าไม่มีพ่อหนุ่มหื่นกามคอยพยุงเธอคงจะล้มไปแล้ว“อือ ช้า ๆ หน่อยสิคะ”เสียงหวานอ้อนเล็กน้อย อเล็กซานเดอร์ค่อยผ่อนฝีเท้าลงบ้าง ใจเขาต้องการอุ้มสาวสวยชุดดำคนนี้แต่มันดูเอิกเกริกเกินไป สายตายังสังเกตเห็นพนักงานในผับเหลียวมองอเล็กซานเดอร์มองดาลยา เขาส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดรีบไปนำรถมารับที่หน้าโรงแรม ยังนึกแปลกใจตัวเองที่คิดหอบหิ้วเธอกลับไปด้วยยังที่พัก เพราะตามปกติเขามักมีเซ็กซ์ที่โรงแรมเสมอเอี๊ยด!ปัง
บทที่ 7 NC“คุณสวยโรส อย่าทรมานผมเลยนะคนดี”น้ำเสียงปลอบประโลมไม่ช่วยให้เธอคลายใจ สติเธอกำลังกลับคืนมาและพบว่าเธอกำลังล้มลงบนเตียงโดยมีร่างสูงตามติดคร่อมเธอไว้เขาพรมจูบไปตามใบหน้าเธอ มือน้อยยันบ่าแกร่งไร้ไขมันไว้ หน้าหวานคมเบี่ยงหนี เขาจึงซุกลงซอกคอเลียเป็นทางจนเธอเปียกชื้นมือร้อนกอบอกอวบอิ่มเคล้นคลึง ลิ้นสากลากลงจนถึงยอดถันเล็กสวยที่ชูชันรับปากที่ครอบลงมา“อือ อเล็ก อือ”“ใช่ คุณสวยไปหมดทั้งตัวโรส”เขาดูดยอดถันเสียงดัง ใช้ลิ้นแตะตวัดหยอกล้อ มือบีบเต้างามให้ตั้งขึ้น“ผมอยากเลียคุณทั้งตัว โรส ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้ผมเป็นแบบนี้ โรส”ลิ้นร้อนลากลงตรงแอ่งใจกลางหน้าท้องแบนเรียบ เขาตวัดเลียร่องบุ๋มน้อย ๆ ลากลงพร้อมค่อยดึงชุดราตรีสีดำลงไปตามเนินสะโพกกลมมน มือใหญ่จับร่างระหงพลิกตะแคงลากชุดลงไปตามขอบโค้งขาว ปลายนิ้วสัมผัสผิวนุ่มพรมจูบไล้ตามชุดที่ถูกดึงออกสติสาวโสดไร้ประสบการณ์แม้พร่าเลือนด้วยพิศวาสแต่ยังพอรับรู้ว่าคนร่างโตกำลังทำสิ่งใด โรสรินคว้าเส้นผมของอเล็กซานเดอร์ไ
บทที่ 8 NC“โรส เช้าแล้วครับคนสวย”อเล็กซานเดอร์เฝ้าวอแวสาวน้อยตั้งแต่ยังไม่รุ่งสาง เขานอนรออย่างอดทนมาทั้งคืนจนเอ็นใหญ่ตั้งลำขึ้น เขาเอาท่อนแกร่งถูไถแก้มก้นสาวน้อยที่ยังนอนหลับใหลไม่รู้เรื่อง“ฟอด!”ปากหนาหอมไหล่บางเนียนขาวผ่องเสียงดัง เขาดันร่างโรสรินให้นอนค่ำ ไล่พรมจูบลากไปตามแผ่นหลังทีละน้อยตอนนี้แสงท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ทำให้อเล็กซานเดอร์มองเห็นสาวน้อยที่นอนสลบไสลได้อย่างชัดเจน เธอมีผิวที่สวยเป็นบ้าและหอมสมชื่อกุหลาบเขาลากลิ้นตามร่องแผ่นหลังลงไปเรื่อย ๆ เสียงอืออาของสาวน้อยเริ่มดังขึ้นอย่างขัดยังมีเรื่องค้างคากันอยู่เมื่อคืนและเขาจะทำให้แน่ใจว่าหญิงสาวที่โดนเขาเปิดบริสุทธิ์จะไม่มีทางไปนอนกับใครอีกขยับร่างใหญ่ลงพรมจูบไปตามร่างกายสาวงดงาม ส่วนเว้าส่วนโค้งตรงเอวกิ่ว สู่สะโพกผายมนกลมเนียนนวล ขยับหน้าใกล้แก้มก้นงอนงามสวยเต็มตึงมือเป็นลูก ลงแรงกัดเบา ๆ จนร่างบางสะดุ้งอกแกร่งขยับกระเพื่อมหัวเราะในลำคอ สาวสวยตื่นแล้วต่างหากแต่แกล้งนอนหลับ ลิ้นลากเลยไปตามร่องก้น มือใหญ
บทที่ 9 เผ่นติ๊งทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ดาลยาเลขานุการและบอดี้การ์ดส่วนตัวเดินออกมา โรสรินชะงักไปเล็กน้อย เมื่อได้เห็นหน้าชัด ๆ เธอคือคนเดียวกับเลขาสาวที่อยู่ข้างกายเขาในห้องประชุมเมื่อวาน“อ้าวคุณโรส จะไปแล้วเหรอคะ เจ้านายไปไหนคะ”โรสรินนิ่ง ดาลยาจำเธอไม่ได้เช่นกัน จึงค่อยผ่อนลมหายใจออกมาแสร้งพูดไม่แยแส“อาบน้ำค่ะ เขาคงไม่ถูกใจโรสเท่าไรมั้งคะคุณดาลยา ไล่โรสกลับแล้วไม่ไปส่งด้วย”โรสรินลอบมองดาลยาเงียบงันไปก่อนพยักหน้ารับขยับร่างเบี่ยงออกให้โรสรินเดินเข้าลิฟต์ไปแต่โดยดีเธอโล่งอกแอบผ่อนลมหายใจก่อนจะส่งยิ้มหวานสุดใจให้เลขาสาวของอเล็กซานเดอร์ประตูค่อยปิดลงอย่างช้า ๆ โรสรินยังแสร้งยืนโบกมือลาให้ดาลยาโดยที่สาวสวยคนนั้นยังยืนนิ่งอย่างใช้ความคิดพระเจ้า ประตูปิดเร็ว ๆ หน่อยได้ไหม ขอร้องติ๊งโรสรินพิงร่างกับผนังลิฟต์ เข่าแทบทรุดเมื่อประตูลิฟต์ปิด เธอกดปุ่มชั้นยี่สิบห้า มันไม่ใช่ชั้นแผนกบัญชีแต่เธอต้องเปลี่ยนไปใช้บันไดหนีไฟแทน