บทที่ 4 ฉันไม่รู้จักคุณ
“คนนั้นใครน่ะ”
“ไหน”
“เนี่ย”
โรสรินเดินไปตามโต๊ะต่าง ๆ อย่างมืดมัว เธอไม่รู้ว่าเสียงใครพูดอะไรบ้างเพราะเสียงเพลงกลบทับไปหมด เธอต้องหาโต๊ะของหัวหน้าพิสุทธิ์ให้เจอ
“ฮัดเช้ย!”
แอร์ภายในผับเย็นจัดและควันบุหรี่ตลบอบอวล เธอยังมุ่งหน้าเดินไปแต่ละโต๊ะโดยหวังว่าหัวหน้าพิสุทธิ์เมื่อเห็นเธอคงจะฉุดเธอไว้
โอ๊ยไม่ไหวแล้ว น้ำมูกกำลังไหลจากอาการภูมิแพ้
เธอเดินต่อไปจนถึงบาร์เครื่องดื่ม ผับหรูหราเคาน์เตอร์ยาวและด้านหลังมีแผงวางขวดเหล้าราคาแพงจำนนวนมาก เธอพาร่างงดงามเย้ายวนไม่รู้ตัวเข้าไปนั่งเก้าอี้สตูทรงสูงที่ว่างอยู่
“น้องคะ พี่จะสั่งเครื่องดื่ม เออ ต้องจ่ายเงินไหมคะ”
โรสรินถามบาร์เทนเดอร์ออกอาการเขินอายเล็กน้อย เธอต้องประหยัดรัดเข็มขัดตั้งแต่วันนี้ การถูกพักงานสามเดือนอาจทำให้เงินเก็บของเธอหมดเกลี้ยงได้ถ้าเธอบริหารไม่ดี
“ไม่ต้องครับ ทุกอย่างสั่งได้ฟรี”
“โอเค งั้นขอเครื่องดื่มให้พี่หนึ่งแก้ว อะไรก็ได้”
“รอสักครู่ครับ”
โรสรินนั่งบนเก้าอี้สูงแบบหมุนได้รอบ เธอหมุนเก้าอี้กลับไปด้านในคลับที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน ดูจากจำนวนคนที่มาแล้วเธอคาดว่าพนักงานคงพ่วงเพื่อน ๆ ที่ไม่ใช่พนักงานมาด้วยอย่างแน่นอน ปากบางเม้มอย่างไม่พอใจเมื่อคิดถึงเม็ดเงินที่ต้องจ่ายให้กับคนพวกนี้ แต่เธอเป็นเพียงพนักงานบัญชีเท่านั้นคงไม่สามารถมีปากมีเสียงอะไรได้
“ได้แล้วครับ”
โรสรินนั่งอยู่บนเก้าอี้สตูลตัวสูง เท้าไม่ติดพื้น ขาเรียวยาวสวยห้อยอยู่บนเก้าอี้หมุนตัวกลับไม่ทันมองจนหัวเข่ามนชนเข้ากับร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่ง มือใหญ่จับหัวเข่าเธอไว้ทันทีเพื่อหยุดเก้าอี้
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
เสียงทุ้มคุ้นหูทำให้โรสรินหน้าง้ำทันที เธอจำเสียงนี้ได้ ผู้ชายหื่นกามคนนั้น สะบัดขาออกจากการเกาะกุม หันตัวไปรับแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ ก่อนจะเบ้หน้าเพราะเป็นเครื่องผสมแอลกอฮอล์
“น้องคะ นี่มันเหล้า?”
“อ้าว พี่ไม่ดื่มเหล้าเหรอครับ เออ ผมขอโทษด้วยครับเดี๋ยวเปลี่ยนใหม่ครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ดื่มได้ สบายมาก”
โรสรินรีบปฏิเสธทั้งที่ในใจไม่ค่อยอยากจะดื่มนัก ซึ่งอันที่จริงเธอดื่มแอลกอฮอล์ไม่ค่อยได้เลยต่างหาก วิถีชีวิตประจำวันของเธอไม่เอื้ออำนวยให้เธออกเที่ยวมากนัก โรสรินแอบชำเลืองมองด้านขวามือเห็นมือแกร่งรับเครื่องดื่มแรงมาจากบาร์เทนเดอร์แล้ว
เรื่องอะไรที่ฉันจะให้เขารู้ว่าคออ่อน ขืนเขารู้มีหวังคิดมอมเหล้าฉันแน่เลย นั่นเขาล้วงอะไรออกมาจากกระเป๋า!
โรสรินรีบเอามือปิดปากแก้วทันทีเพราะกลัวว่าเขาจะหย่อนยาอะไรลงไป
อเล็กซานเดอร์มองสาวน้อยที่รับเครื่องดื่มไปและทำหน้าเบ้เมื่อยกจิบ เขาเห็นแล้วว่าเธออาจไม่ใช่นักดื่ม ดีเลยเพราะเขาไม่ชอบให้ผู้หญิงของเขามีกลิ่นเหล้ายามที่พันพัวกันบนเตียง
มือล้วงหยิบซิการ์มวนเล็กออกจากกล่องเหล็กที่เขาพกติดตัวไว้ยามออกเที่ยว ซิการ์ขนาดเล็กพอเหมาะสำหรับการสูบไม่เกินสิบห้านาทีต่อมวน
โรสรินแอบลอบมองขณะที่เขาจุดซิการ์ขึ้นสูบ กลิ่นของมันไม่เหมือนบุหรี่ทั่วไป เป็นกลิ่นใบยาสูบหอมแปลก ๆ เธอเห็นกรามแกร่งของเขาตอบลงเพราะการสูดซิการ์อย่างแรงในขณะที่เริ่มจุด และปล่อยออกโดยไม่ซี้ดเข้าปอดเหมือนบุหรี่ทั่วไป ใบหน้าเรียวสวยมีแววฉงนแต่ยังเม้มปากนิ่ง
“คุณยังไม่ได้บอกชื่อเลย”
โรสรินได้ยินคำสั่งจากผู้ชายคนข้าง ๆ เชอะ! ฉันไม่ใช่ลูกน้องสักหน่อย จึงแสร้งหันกลับไปทางเวทีร้องเพลงขยับปากงึมงำตามท่อนเนื้อที่นักร้องกำลังร้อง
“เต้นรำกันไหม”
“ไม่”
“เฮ้ สาวน้อย ผมถามชื่อคุณก็ไม่บอก ผมชวนเต้นรำก็ไม่ยอม ผมต้องทำยังไงเนี่ย”
ร่างสูงใหญ่ขยับมาขวางข้างหน้าเธอ กั้นเธอจากเวทีของผับ จนโรสรินหน้าเง้าอย่างขัดใจ
“ฉันไม่รู้จักคุณ เราไม่รู้จักกัน ทำไมฉันต้องบอกชื่อคุณหรือเต้นรำกับคุณด้วย”
โรสรินตะโกนเสียงดังแข่งกับเสียงดนตรี ตาจับจ้องไปยังหนุ่มหื่นกามที่ตามตื้อเธอไม่หยุด ร่างสูงเขาบังเวทีจนมิดขณะที่ในมือยังถือซิการ์ เขาช่างดูผิดแผกแตกต่างเหลือเกินเมื่อเทียบกับผับแห่งนี้
“งั้นเอาแบบนี้ ผมบอกคุณก่อน แล้วคุณค่อยบอกชื่อของคุณดีไหม”
อเล็กซานเดอร์จับสังเกตเห็นสาวน้อยว่านิ่งเงียบลง หรือเธออาจจะไม่ได้เล่นตัวจริง ๆ
“ผมชื่ออเล็กซานเดอร์ เรียกผมว่าอเล็กก็ได้”
“ชื่อคุณคงจะโหลน่าดู วันนี้ฉันก็เพิ่งรู้จักคนชื่ออเล็กซานเดอร์มาหนึ่งคน”
“ว่าไงนะ!”
“ช่างเถอะ คุณไม่เหมือนเขาหรอก ฉันชื่อโรส”
เธอบอกเพียงชื่อโรส ร่างบางเริ่มรู้สึกได้ว่าแอลกอฮอล์กำลังเริ่มออกฤทธิ์ นั่นคงเพราะท้องของเธอว่างเปล่า เมื่อหัวค่ำยุ่งมากกับการแปลงโฉมให้ตัวเองจนป่านนี้จึงยังไม่ได้ทานอาหารเย็น
“โรส เป็นชื่อที่เพราะ”
อเล็กซานเดอร์ค่อยผ่อนลมหายใจโล่งอก โรสรินผ่อนคลายลงแล้วและยิ้มออกมาเล็กน้อย และเพียงแค่ยิ้มนี้เท่านั้นพลันทำให้เขาแทบเข่าอ่อน
ใบหน้าหวานคมละมุนงดงามท่ามกลางแสงไฟหน้าเคานเตอร์ที่สาดส่องลงมาด้านบนศีรษะของเธอพอดีจนเกิดเงาสะท้อน เส้นผมหยิกเป็นลอนดกหนาดูนุ่มดั่งแพรไหม รอยยิ้มทำให้เธอดูหวานจนใจชายหนุ่มเต้นรัว
ร่างกายชายโผนทะยานด้วยความต้องการกระโจนเข้าหา ทั้ง ๆ ที่เพิ่งได้เจอกันเธอไม่ถึงชั่วโมง ซึ่งตามปกติอเล็กซานเดอร์ไม่เคยมักง่าย ถึงแม้ว่าเขาจะชอบเซ็กซ์ มีผู้หญิงมากมายแวะเวียนเปลี่ยนหน้า แต่ผู้หญิงทุกคนต้องถูกกลั่นกรองมาจากดาลยาและเก็บเป็นความลับยิ่งยวด
“ฮัดเช้ย!”
โรสรินหงุดหงิด อากาศในผับย่ำแย่จนเธอจามออกมาอีกครั้งแม้จะไม่แรงมากหากแต่ทำให้น้ำมูกเริ่มไหล มือควานในกระเป๋าหายาเม็ดเล็กที่เธอต้องพกติดตัวเสมอ
“นั่นคุณกินอะไรน่ะ คุณเล่นยาอย่างนั้นเหรอ!”
อเล็กซานเดอร์พลันตกตะลึงถามเสียงดังจนเกือบตะโกน หน้าขมึงทึงเมื่อเห็นโรสรินหยิบยาเม็ดเล็กออกมาจากกระเป๋า เขาไม่เล่นยาและไม่ชอบผู้หญิงเล่นยาด้วย
“ยาแก้แพ้น่ะ ฉันจะไม่ไหวแล้ว หายใจไม่ออก”
“แต่คุณจะกินพร้อมเหล้าไม่ได้นะโรส ให้ตายเถอะ ไม่มีใครเคยสอนคุณหรือไงว่าห้ามกินยาพร้อมแอลกอฮอล์”
อเล็กซานเดอร์คว้ามือบางไว้ได้ทันก่อนที่โรสรินจะเอาเข้าปาก เธอหันควับถลึงตาใส่ผู้ชายร่างโต
“คุณมายุ่งอะไรด้วย ฉันหายใจไม่ออก”
“ถ้างั้นทำไมคุณไม่ลองออกไปข้างนอกก่อนล่ะ แล้วค่อยกลับเข้ามาใหม่”
โรสรินสะบัดมือออกลุกลงยืนเริ่มเซเล็กน้อยแต่ยังไหว เดินผ่าน อเล็กซานเดอร์ไปอย่างไม่แยแส เขารีบส่งสัญญาณให้ดาลยาเดินตามโรสรินไปทันที
ด้วยสายตาพร่ามัวทำให้การเดินเป็นไปได้อย่างยากลำบากหากไม่มีดาลยาพาเดินนำไปตลอดทาง
“ฉันจะไปห้องน้ำก่อนค่ะ”
โรสรินเห็นดาลยาทำเพียงพยักหน้าตกลงแล้วเดินนำเธอ ร่างโปร่งบางค่อยกระย่องกระแย่งตามบนรองเท้าส้นสูงที่เริ่มกัดเท้า
“รอด้วยสิคะ” โรสรินเอ่ยท้วง
“คุณเดินไม่ถนัดหรือคะ”
ดาลยาเอ่ยถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่าสาวสวยคนนี้เดินไม่ตรงทางนักและข้อเท้าพลิกลงหลายครั้งตลอดเวลาที่เดิน
“ค่ะ ปกติไม่ค่อยได้ใส่ มันเลยกัดนิดหน่อย”
ดาลยาเหลือบมองโรสรินอีกครั้ง หญิงสาวแต่งตัวเซ็กซี่แต่กลับดูเหมือนไม่ค่อยประสา อย่างรองเท้าส้นสูงปกติเธอเห็นผู้หญิงของเจ้านายเดินคล่องอย่างกับอะไร
โรสรินหยุดลงหน้ากระจกในห้องน้ำกำลังจะหยิบแว่นขึ้นใส่เพราะตอนนี้ตาเธอพร่ามันเหลือเกินและมันทำให้เธอเวียนศีรษะ
“นี่เธอ เห็นยายโรสรินมางานบ้างหรือยัง”
โรสรินชะงักมือ เธอจ้องผ่านเงาสะท้อนของกระจกมันพร่าเลือนจนเห็นไม่ชัดว่าใครกำลังพูดถึงเธออยู่ แต่เธอจำเสียงนี่ได้ ปรียาพนักงานต้อนรับของบริษัทกับผู้หญิงอีกคนแผนกต้อนรับเหมือน
“ยังเลย สงสัยคงจะอายไม่กล้ามาแล้วล่ะ เห็นว่าโดนพักงานนี่”
“ใช่ ถึงไม่โดนพักงานก็คงไม่กล้าโผล่มาหรอก ดูสารรูปสิ”
“ฮ่า ฮ่า ใช่ ใช่ สารรูปแบบนั้นใครจะไปจีบลง แต่ละวันแต่งตัวมาทำงานยังกับแม่บ้านของบริษัทหนีเที่ยว”
“โอ๊ย ฮ่า ฮ่า ปากเธอก็ร้ายใช่ย่อยนะเนี่ย แต่ยายนั้นก็น่าสงสารนะ ป่านนี้คงนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่บนเตียงนอนแล้วมั้ง”
ขณะที่โรสรินยืนนิ่งมองตัวเองในกระจก เสียงหัวเราะของสองสาวบาดใจ กระทั่งเสียงทั้งหมดหายไปจากห้องน้ำ เธอเหลือบตามองดาลยาที่ยังยืนอยู่ด้านข้างนิ่งเฉย ดาลยาฟังภาษาไทยไม่ออก โรสรินผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“คุณชื่ออะไรคะ”
โรสรินเอ่ยถามผู้หญิงที่มากับอเล็กซานเดอร์ หล่อนคงสวยเธอเดาเอาจากภาพโครงหน้าที่เลือนลาง สูงขายาว แต่งตัวดี
บทที่ 5 จะเริ่มอ่อยยังไงดี“ดาลยาค่ะ”“ชื่อแปลกดีจังเลยค่ะ”“ค่ะ เป็นภาษารัสเซีย”“รัสเซีย น่าขัน ทำไมวันนี้ฉันถึงเจอแต่คนรัสเซีย”โรสรินแสร้งล้างมือต่อเพื่อยืนสงบจิตใจหลังจากที่ได้ยินเพื่อนร่วมงานนินทา ถ้าเธอได้กลับไปทำงานอีกเมื่อไร เธอจะหาทางเล่นงานให้ได้“ฉันสังเกตว่าคุณเดิน เออ จะเรียกยังไงดี คุณเดินเหมือนไม่ค่อยตรงเท่าไร”โรสรินหัวเราะแห้ง ๆ ก่อนจะหยิบแว่นตาหนาขึ้นมาจากกระเป๋าให้ดู“เนี่ยค่ะ ฉันสายตาสั้น แล้ววันนี้ก็ยุ่งมากจนไม่ทันได้ซื้อคอนเทคเลนส์ ก็เลยแทบจะคลำทางเอาเลยค่ะ”“ถึงว่า..”“ถึงว่าอะไรคะ”“ไม่มีอะไรค่ะ เรียบร้อยแล้วเข้าไปในผับกันดีกว่าค่ะ”โรสรินยิ้มออกมาเล็กน้อย มองดาลยาที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำนึกขึ้นได้เหมือนเพิ่งรู้ตัว นี่เจ้าหื่นให้เธอมาเฝ้าเราไว้หรือเนี่ย!ขณะที่เดินผ่านเข้าไปในผับ เธอได้ยินเสียงปรียาตะโกนพูดเพราะเพลงในผับดังมาก เสียงมาจากทางใดทางหนึ่งข้างหน้าเธอ“อยากจะเข้าไปทำความรู้จักจังเลย อเล็กซานเดอร์หล่อชะมัด ใครนะจะโชคดีเด็ดเขาไปในคืนนี้”โรสรินยิ้มเยือน แค่ไม่นานคนพวกนี้ก็รู้จักชื่อชายหื่นกามคนนั้นเสียแล้ว สงสัยเขาคงหล่อมากอย่างที่พวกเธอพูดมา“แต่ไม่มีว
บทที่ 6 ขับให้เร็วกว่านี้“อื้อ”เสียงหวานทักท้วงในลำคอก่อนจะยอมให้เขารุกรานเข้าไปในโพรงปาก ลิ้นสากหยอกเย้าให้เธอตอบรับ เพียงแค่โรสรินใช้ลิ้นตอบสนองเบา ๆ อเล็กซานเดอร์รีบผละออกทันที ดึงเธอลงจากเก้าอี้จนโรสรินตัวเอน“จะรีบไปไหนละคะ เรายังจูบไม่เสร็จเลย”“เราได้จูบกันแน่นอนสาวน้อย แต่ไม่ใช่ที่นี่”มือแกร่งคว้าใต้รักแร้ไว้ดึงให้เดินตามอย่างรวดเร็ว อาการเมาของโรสรินมากกว่าที่เธอคาดคิด เพียงเท้าลงจากเก้าอี้สัมผัสพื้นพลันรู้สึกว่าพื้นเอียงทันทีจนร่างระหงเดินไม่ตรงทาง ถ้าไม่มีพ่อหนุ่มหื่นกามคอยพยุงเธอคงจะล้มไปแล้ว“อือ ช้า ๆ หน่อยสิคะ”เสียงหวานอ้อนเล็กน้อย อเล็กซานเดอร์ค่อยผ่อนฝีเท้าลงบ้าง ใจเขาต้องการอุ้มสาวสวยชุดดำคนนี้แต่มันดูเอิกเกริกเกินไป สายตายังสังเกตเห็นพนักงานในผับเหลียวมองอเล็กซานเดอร์มองดาลยา เขาส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดรีบไปนำรถมารับที่หน้าโรงแรม ยังนึกแปลกใจตัวเองที่คิดหอบหิ้วเธอกลับไปด้วยยังที่พัก เพราะตามปกติเขามักมีเซ็กซ์ที่โรงแรมเสมอเอี๊ยด!ปัง
บทที่ 7 NC“คุณสวยโรส อย่าทรมานผมเลยนะคนดี”น้ำเสียงปลอบประโลมไม่ช่วยให้เธอคลายใจ สติเธอกำลังกลับคืนมาและพบว่าเธอกำลังล้มลงบนเตียงโดยมีร่างสูงตามติดคร่อมเธอไว้เขาพรมจูบไปตามใบหน้าเธอ มือน้อยยันบ่าแกร่งไร้ไขมันไว้ หน้าหวานคมเบี่ยงหนี เขาจึงซุกลงซอกคอเลียเป็นทางจนเธอเปียกชื้นมือร้อนกอบอกอวบอิ่มเคล้นคลึง ลิ้นสากลากลงจนถึงยอดถันเล็กสวยที่ชูชันรับปากที่ครอบลงมา“อือ อเล็ก อือ”“ใช่ คุณสวยไปหมดทั้งตัวโรส”เขาดูดยอดถันเสียงดัง ใช้ลิ้นแตะตวัดหยอกล้อ มือบีบเต้างามให้ตั้งขึ้น“ผมอยากเลียคุณทั้งตัว โรส ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้ผมเป็นแบบนี้ โรส”ลิ้นร้อนลากลงตรงแอ่งใจกลางหน้าท้องแบนเรียบ เขาตวัดเลียร่องบุ๋มน้อย ๆ ลากลงพร้อมค่อยดึงชุดราตรีสีดำลงไปตามเนินสะโพกกลมมน มือใหญ่จับร่างระหงพลิกตะแคงลากชุดลงไปตามขอบโค้งขาว ปลายนิ้วสัมผัสผิวนุ่มพรมจูบไล้ตามชุดที่ถูกดึงออกสติสาวโสดไร้ประสบการณ์แม้พร่าเลือนด้วยพิศวาสแต่ยังพอรับรู้ว่าคนร่างโตกำลังทำสิ่งใด โรสรินคว้าเส้นผมของอเล็กซานเดอร์ไ
บทที่ 8 NC“โรส เช้าแล้วครับคนสวย”อเล็กซานเดอร์เฝ้าวอแวสาวน้อยตั้งแต่ยังไม่รุ่งสาง เขานอนรออย่างอดทนมาทั้งคืนจนเอ็นใหญ่ตั้งลำขึ้น เขาเอาท่อนแกร่งถูไถแก้มก้นสาวน้อยที่ยังนอนหลับใหลไม่รู้เรื่อง“ฟอด!”ปากหนาหอมไหล่บางเนียนขาวผ่องเสียงดัง เขาดันร่างโรสรินให้นอนค่ำ ไล่พรมจูบลากไปตามแผ่นหลังทีละน้อยตอนนี้แสงท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ทำให้อเล็กซานเดอร์มองเห็นสาวน้อยที่นอนสลบไสลได้อย่างชัดเจน เธอมีผิวที่สวยเป็นบ้าและหอมสมชื่อกุหลาบเขาลากลิ้นตามร่องแผ่นหลังลงไปเรื่อย ๆ เสียงอืออาของสาวน้อยเริ่มดังขึ้นอย่างขัดยังมีเรื่องค้างคากันอยู่เมื่อคืนและเขาจะทำให้แน่ใจว่าหญิงสาวที่โดนเขาเปิดบริสุทธิ์จะไม่มีทางไปนอนกับใครอีกขยับร่างใหญ่ลงพรมจูบไปตามร่างกายสาวงดงาม ส่วนเว้าส่วนโค้งตรงเอวกิ่ว สู่สะโพกผายมนกลมเนียนนวล ขยับหน้าใกล้แก้มก้นงอนงามสวยเต็มตึงมือเป็นลูก ลงแรงกัดเบา ๆ จนร่างบางสะดุ้งอกแกร่งขยับกระเพื่อมหัวเราะในลำคอ สาวสวยตื่นแล้วต่างหากแต่แกล้งนอนหลับ ลิ้นลากเลยไปตามร่องก้น มือใหญ
บทที่ 9 เผ่นติ๊งทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ดาลยาเลขานุการและบอดี้การ์ดส่วนตัวเดินออกมา โรสรินชะงักไปเล็กน้อย เมื่อได้เห็นหน้าชัด ๆ เธอคือคนเดียวกับเลขาสาวที่อยู่ข้างกายเขาในห้องประชุมเมื่อวาน“อ้าวคุณโรส จะไปแล้วเหรอคะ เจ้านายไปไหนคะ”โรสรินนิ่ง ดาลยาจำเธอไม่ได้เช่นกัน จึงค่อยผ่อนลมหายใจออกมาแสร้งพูดไม่แยแส“อาบน้ำค่ะ เขาคงไม่ถูกใจโรสเท่าไรมั้งคะคุณดาลยา ไล่โรสกลับแล้วไม่ไปส่งด้วย”โรสรินลอบมองดาลยาเงียบงันไปก่อนพยักหน้ารับขยับร่างเบี่ยงออกให้โรสรินเดินเข้าลิฟต์ไปแต่โดยดีเธอโล่งอกแอบผ่อนลมหายใจก่อนจะส่งยิ้มหวานสุดใจให้เลขาสาวของอเล็กซานเดอร์ประตูค่อยปิดลงอย่างช้า ๆ โรสรินยังแสร้งยืนโบกมือลาให้ดาลยาโดยที่สาวสวยคนนั้นยังยืนนิ่งอย่างใช้ความคิดพระเจ้า ประตูปิดเร็ว ๆ หน่อยได้ไหม ขอร้องติ๊งโรสรินพิงร่างกับผนังลิฟต์ เข่าแทบทรุดเมื่อประตูลิฟต์ปิด เธอกดปุ่มชั้นยี่สิบห้า มันไม่ใช่ชั้นแผนกบัญชีแต่เธอต้องเปลี่ยนไปใช้บันไดหนีไฟแทน
บทที่ 10 อีกสามเดือนเจอกันบ้าฉิบ! สาวน้อยนั่นหายตัวไปได้ยังไงอเล็กซานเดอร์นั่งหน้าขรึมตรงโถงด้านหน้ามองเหล่าพนักงานที่ผู้อำนวยการเกณฑ์ออกมายืนเรียงแถว ทำราวกับว่าเกิดเรื่องใหญ่เรื่องโต“ว่าไงดาลยา”“ค่ะ ตรวจกล้องทุกชั้นแล้วค่ะ เดินออกมาจากชั้นที่ยี่สิบห้าแล้วไม่เห็นออกมาจากลิฟต์ชั้นไหนอีกเลยค่ะ”“แล้วไอ้บันหนีไฟของที่นี่มันเป็นระบบห่าเหวอะไร!!”ผู้อำนวยการหัวหดก้มหน้างุดทันทีที่เสียงตะโกนกัมปนาทดังขึ้นจากอเล็กซานเดอร์“ระบบของที่นี่หละหลวมมากค่ะบอส คนสามารถเข้าไปใช้เข้าออกได้ตามใจ ด้านหน้าและภายในบันหนีไฟแต่ละชั้นไม่มีกล้องวงจรปิดค่ะ”ใบหน้าแกร่งหน้าคล้ำด้วยแรงโกรธ ดาลยาแทบไม่เคยเห็นบอส หนุ่มเป็นแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องผู้หญิง“เธอเป็นพนักงานที่นี่ ไปสืบมา”ดาลยาพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องไป เหลือบมองคนที่ยังยืนอยู่เรียงแถวแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยอ่อนใจ ผู้อำนวยการของที่นี่ปวกเปียกและสมองตื้นเขิน คงไม่แคล้วได้โดยบอสหนุ่มเปลี่ยนตัวแน่
บทที่ 11 สองเดือนผ่านไปสองเดือนผ่านไป“นี่ ๆ เห็นยายโรสตอนนี้ไหม”เสียงปรียาพนักงานต้อนรับเอ่ยถามเพื่อนร่วมงานที่นั่งข้าง ๆ กัน“ทำไมเหรอ”“ก็เดี๋ยวนี้แต่งตัวดีขึ้นเยอะเลย ดูสิเดินมาโน้นแล้ว”ปรียาชี้ชวนให้เพื่อนดูหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งสวมกางเกงทำงานพอดีตัวเสื้อเชิ้ตผ้าบางคลุมทับด้วยเสื้อสูทแบบผู้หญิงตัดเนี้ยบ ทรงผมที่เคยปล่อยกระเซอะกระเซิงมัดรวบเรียบร้อยปล่อยลูกผมด้านข้างกรอบใบหน้ารับหน้าหวานคมรองเท้าส้นสูงไม่มากสำหรับผู้หญิงที่โรสรินหัดใส่มาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว ทำให้เพิ่มความสูงสง่ายิ่งขึ้น และคอนเทคเลนส์สำหรับคนสายตาสั้นทำให้ดวงตาที่เคยคมหวานยิ่งโตขึ้นเจิดจ้าจนคนต้องมองเหลียวหลังโรสรินมั่นใจขึ้นและไม่หวั่นว่าใครจ้องนินทา เธอเหลือบมองปรียาและเพื่อนร่วมงานตรงเคาน์เตอร์ ยิ้มมุมปากเล็กน้อยทำให้เธอดูสวยร้ายยิ่งกว่าเดิมปรียามองโรสรินเดินผ่านเคาน์เตอร์ด้านหน้าไปไม่เอ่ยสวัสดียามเช้าเหมือนเมื่อก่อนที่โดนพักงาน ในใจให้อิจฉาที่จู่ ๆ สาวทึนทึกอย่างหล่อนสวยขึ้นมาเ
บทที่ 12 ไปทานมื้อเที่ยง!!“ว่าไงนะคะหัวหน้า!”“ข้างบนเรียกตัวเธอขึ้นไปทำงานชั้นบน”“ไม่ ไม่ โรสทำเป็นแต่บัญชี ทำอย่างอื่นไม่เป็น”ดวงตาหวานเบิกกว้างมองหัวหน้าพิสุทธิ์ที่จู่ ๆ เกิดออกมาจากห้องทำงานสีหน้าไม่สู้ดีนัก มองลูกน้องสาวมากฝีมือก่อนจะโพล่งคำสั่งจากเบื้องบน“ฉันก็ไม่รู้จะว่ายังไงเพราะแผนกบัญชีคงต้องขาดคน แต่โรส นั่นมันประธานบริษัท เราจะขัดคงไม่ได้ เธอก็ขึ้นไปทำงานสักเดือนคงไม่เป็นอะไรหรอก”หัวหน้าพิสุทธิ์ขยับตัวลงนั่งที่เก้าอี้ใกล้โรสริน จ้องตาหวานกลมสงสัย“เดือน?”โรสรินเบือนหน้าหนีหยิบสมุดบัญชีเล่มโตขึ้นมาแสร้งทำงานต่อ แม้ดวงตาจะหวาดหวั่นไหวระริก“ก็น่าจะนะ คุณอเล็กคงต้องบินไป ๆ มา ๆ เผลอทำได้ไม่กี่วันอาจจะบินกลับก็ได้”มือเรียวหมดแรงยอมรับความจริงว่าเธอคงไม่มีวันหนีชายร่างสูงใหญ่คนนั้นพ้น นั่งปล่อยตัวทิ้งร่างไปกับโต๊ะทำงาน ใบหน้างามฟุบลงกับโต๊ะ“รีบนะ เขาบอกให้ขึ้นไปเดี๋ยวนี้เลย”หัวหน้าพิสุทธิ์ย้ำอีกครั้งพร้อมลุกจากเก้าอี้เมื่อมองไม่เห็นพิรุธ