“ไมเนอร์..เจ้ารู้ดีว่าน้องเป็นคนอย่างไร มาไคเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขามักจะเก็บทุกเรื่องเอาไว้ในหัวใจดวงน้อยของเขา ฉะนั้นแล้วในฐานะที่เจ้าคือพี่..อย่าปล่อยให้หัวใจดวงน้อยๆ ของมาไคแบกรับเรื่องราวมากมายเอาไว้เพียงลำพังนะลูกรัก..”
ไมเนอร์รู้ดีว่าชีวิตของเขาในตอนนี้ คนที่เรียกได้ว่าครอบครัวคือท่านแม่และมาไค ท่านพ่อของเราด่วนจากไปด้วยโรคร้าย และในวันที่เขากำลังจะขึ้นเป็นผู้นำตระกูล เหล่าญาติของท่านพ่อก็มาคัดค้านกันอย่างเต็มที่ เพราะทุกคนคิดว่าเด็กอายุ 15 ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะขึ้นเป็นผู้นำ ตระกูลไบร์ดัว แต่อีกเหตุผลหลักก็คือ หากพวกนั้นสามารถผลักเขาออกไปจากตำแหน่งและขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลแทนได้ ทั้งอำนาจและเงินทองมากมายที่ท่านพ่อสร้างมาก็จะตกเป็นของคนผู้นั้น “พินัยกรรมได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงเรื่องที่ข้าจะต้องได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลไบร์ดัว ฉะนั้นแล้วไม่มีเหตุผลอันใดที่ข้าจะต้องทนฟังเสียงของญาติที่กระหายในเงินทองและอำนาจ!!” เขาต้องแข็งแกร่ง ไมเนอร์บอกตัวเองเช่นนั้น หากอยากปกป้องตำแหน่งแกรนด์ ดยุคเอาไว้ ปกป้องท่านแม่และน้องชายเขาจะแสดงด้านที่อ่อนแอออกมาไม่ได้ เมื่อพินัยกรรมถูกเปิดออก คนพวกนั้นก็เงียบปากลงในทันที แต่การเงียบของพวกเขานั้นมิใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการตามหาโอกาสที่จะโค่นล้มต้นกล้าต้นน้อยที่พึ่งจะผลิใบออกมาต่างหาก แน่นอนว่าการขึ้นเป็นแกรนด์ดยุคของไมเนอร์มันไร้ความมั่นคง เราไม่มีญาติทางฝ่ายท่านพ่อสนับสนุนเลย ส่วนญาติฝ่ายท่านแม่ก็จ้องแต่จะขอเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มาไคยืนมองรูปวาดภาพเหมือนของท่านพ่อ เขากำลังภาวนาอย่างแรงกล้า ขอให้มีใครสักคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพี่ชายของเขาด้วยเถิด มาไคยืนอยู่ตรงนั้นนานสองนาน สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นปาฏิหาริย์หรือว่าพรวิเศษ เขามองไปที่กระจกเงาบนหน้าต่าง สิ่งที่สะท้อนกลับมาภายใต้แสงจันทร์นั้นมันคือ..ใบหน้าของเขาเอง มาไคหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปที่คอกม้า เขาจูงม้าตัวเก่งออกมาก่อนจะควบขี่มันไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ ไม่มีใครจะช่วยเหลือไมเนอร์ได้ นอกจากเขา “มาไค พ่อรู้ว่าลูกเองก็ชอบเรียนไม่แพ้กัน พ่อรู้ว่าลูกชอบเรื่องการทำธุรกิจและยังชอบการศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อีกด้วย พ่อรู้ว่าที่ลูกเลือกจะหันหลังให้สิ่งที่ตัวเองชอบ เพื่อมาจับดาบฟันหุ่นฟางอยู่ตรงนี้ เพราะลูกไม่อยากให้เกิดความเปรียบเทียบขึ้นใช่หรือไม่” มาไคในวันเด็กนั้นไม่ตอบคำถามของท่านพ่อ เขาเลือกที่จะเงียบ..แทนการที่จะตอบคำถามเพื่อเอาหน้า “พ่อรู้ลูกรัก พ่อรู้ว่าลูกคือเด็กที่มีจิตใจดีแค่ไหน แค่การแสดงออกของลูกมันอาจ..นิ่งเฉยไปสักหน่อย พี่ของลูก..ไมเนอร์เขาไม่ได้สมบูรณ์แบบดังเช่นที่ลูกคิด ไมเนอร์จะตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อออกมาฟันดาบที่ลานฝึก เขามีเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อจะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก พอถึงเวลาตีห้า เขาต้องรีบกลับไปที่ห้องนอนเพื่ออาบน้ำและอ่านหนังสือ..เขาไม่ถนัดในเรื่องการเรียนเล่น และกับบางบทเรียนมันยากมากเหลือเกิน แต่ไมเนอร์ก็ไม่คิดถอดใจ..พี่ชายของลูกเองก็พยายามอย่างมากเหมือนกันมาไค เพื่อที่จะปกป้องลูกเอาไว้กับสิ่งที่ลูกชอบ ไมเนอร์คิดว่าลูกชอบฟันดาบ เขาจึงไม่เคยรบเร้าให้ลูกไปเรียนหนังสือด้วยเลยสักครั้ง..” พ่อลูบผมของเขาเบาๆ พร้อมกับส่งยิ้มที่แสนอ่อนโยนมาให้ “สิ่งที่พ่อจะบอกลูกคือ ไมเนอร์จะพยายามปกป้องลูกและท่านแม่อย่างแน่นอนในวันที่พ่อไม่อยู่ตรงนี้ แต่ไมเนอร์เขาไม่ได้สมบูรณ์แบบ เขายังมีบางอย่างที่ไม่รู้และบางอย่างที่ขาดนั้น..ลูกต้องช่วยพี่เพื่ออุดรอยรั่วที่ไมเนอร์ขาดนะมาไค พ่อโชคดีที่สุดที่มีลูกที่รักและเป็นห่วงกันเช่นนี้ ในวันที่พ่อไม่อยู่ลูกแค่ดูพี่ชายอยู่ห่างๆ ก็พอ พ่อมั่นใจว่าต่อให้ไม่ไหวแต่ไมเนอร์ก็จะไม่ปริปากเพื่อขอความช่วยเหลือจากลูกอย่างแน่นอน แต่เมื่อถึงวันนั้น..วันที่บ่าเล็กๆ ของไมเนอร์แบกความกดดันเอาไว้ไม่ไหว ลูกต้องช่วยพี่นะมาไค” คำกล่าวของพ่อยังคงก้องอยู่ในหัว ลมเย็นๆ ที่ปะทะใบหน้าช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นและเมื่อแสงแรกของดวงตะวันปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้า มาไคก็เดินทางมาที่พระราชวังแล้ว เสด็จลุงต้องช่วยเขาสิ เกิดมาหลานชายเช่นเขาและท่านพี่ไมเนอร์ไม่เคยขอความช่วยเหลืออะไรเลย..แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ช่วยสนับสนุนไมเนอร์ให้ขึ้นเป็นแกรนด์ดยุคผู้ทรงเกียรติด้วยเถิด!! “มาไคหลานรัก แน่นอนว่าลุงชอบความกล้าหาญของหลานมากที่หลานถึงกับมาหาลุงที่นี่เพื่อพี่ชาย แต่เรื่องอำนาจในขุนนาง ลุงไม่สามารถแทรกแซงได้..” มาไคคุกเข่าลง “เพราะท่านพ่อของหลานด่วนจากไป ชีวิตของหลานและพี่ชายจึงเป็นเช่นนี้ ชีวิตของลูกชายเมื่อขาดบิดาไปย่อมเหมือนกับว่าวที่สายป่านขาด ลอยไปอย่างไร้ทิศทาง..หากครั้งนี้เสด็จลุงทรงมีพระเมตตา ช่วยเหลือหลานสักครั้ง..หลานสาบานว่าจะนำพาองค์รัชทายาทให้ขึ้นสู่บัลลังก์ได้โดยไร้ข้อกังขา ชื่อของแกรนด์ดยุคไบร์ดัวจะถูกลงนามในทุกครั้งเพื่อสนับสนุนองค์รัชทายาทในอนาคต..ได้โปรดเถิดเสด็จลุง ทรงล่วงรู้ว่าการที่หลานมาที่นี่..เพราะหลานไม่มีที่พึ่งพิงอีกแล้ว หลานต้องรักษาไบร์ดัวเอาไว้..เพื่อแสดงความภักดีต่อองค์รัชทายาท.” อีธานอายุแปดขวบเบนสายตามองไปยังญาติผู้พี่ของเขา เขาเดินเข้าไปหาเสด็จพ่อก่อนจะคุกเข่าลง “ลูก..อยากได้คนที่ไว้ใจได้พ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งท่านพี่มาไคและท่านพี่ไมเนอร์จะต้องไม่มีวันทรยศลูกอย่างแน่นอน ช่วยพวกเขาสักคราเพื่อลูกเถิดพ่ะย่ะค่ะ” องค์จักรพรรดิพ่นลมหายใจออกมาทางปลายจมูก พระองค์ทรงยกยิ้มขึ้นมาด้วยความยินดี การกระทำของอีธานและมาไค มันเหมือนในช่วงวัยของพระองค์ที่ยังคงวัยเยาว์ พระองค์คือพี่และมาคัสคือน้อง.. และเราสองพี่น้องไม่เคยทรยศหรือว่าหักหลังกันเลย “ประกาศราชโองการออกไป เลื่อนพิธีแต่งตั้งแกรนด์ดยุคอย่างเป็นทางการเข้ามาให้เร็วหน่อย วันนั้นข้าจะไปด้วยพร้อมกับส่งมอบตราประทับด้วยตัวข้าเอง อย่าลืมคำมั่นที่เจ้าให้เอาไว้กับลุงนะมาไค จงนำพาให้อีธานก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งองค์จักรพรรดิอย่างราบรื่น ถึงแม้ว่าในช่วงเวลานั้นลุงจะยังอยู่หรือว่าตายจากไปแล้วก็ตาม..” มาไคก้มหน้าลงอีกครั้ง “หลานขอให้คำมั่นพ่ะย่ะค่ะ!!” . . วันแต่งตั้งแกรนด์ดยุคไบร์ดัว องค์จักรพรรดิปรากฏขึ้นมาในงานพร้อมกับส่งมอบตราประทับและทหารจำนวนหนึ่งให้แก่ไมเนอร์ พร้อมกับประกาศก้องว่าใครที่ไม่เคารพแกรนด์ดยุคคนใหม่ ก็เท่ากับไม่ภักดีต่อราชวงศ์ ไมเนอร์มองไปที่มาไค เขาส่งยิ้มให้น้องชายและเมื่อพิธีแต่งตั้งสิ้นสุดลง เขาถอดมงกุฎและสายสะพายที่สวมไปสวมให้น้องชาย “มันเป็นของเจ้าด้วยมาไค..ตำแหน่ง แกรนด์ดยุคนี้มันไม่ใช่ของพี่เพียงคนเดียวแต่มันคือของเจ้าด้วยนะ..” มาไคจับบนสายสะพายก่อนที่เขาจะฉีกยิ้มกว้างออกมา เขาส่งคืนมงกุฎและสายสะพายนั้นกลับให้ไมเนอร์ “ข้ารู้แล้วว่ามันเป็นของข้าด้วย แต่ในยามที่พี่สวมมันเอาไว้ ดูเหมาะสมกว่าข้าสวมเยอะเลย จากนี้พี่ก็จงเป็นแกรนด์ดยุคของพี่ไป ส่วนข้าจะปกป้องพี่เอง!” ไมเนอร์ยกมือขึ้นมากอดน้องชายเอาไว้ “ขอบคุณมาไค..ต้องขอบคุณเจ้ามากจริงๆ” . . . จบตอนพิเศษ120 ?ค่าตัวเลขที่ปรากฏต่อสายตานั้นทำให้จานีคต้องกะพริบตาซ้ำอีกครั้ง ใช่แล้วในคราแรกเธอคิดว่าตัวเอง..ตาฝาด ตาฝาดไปแน่ๆ แต่ทว่าสิ่งที่บอกกับเธอว่านี่คือเรื่องจริง ตัวเลขที่เธอเห็นมันไม่ใช่ในความฝันก่อนวันหวยออกแต่อย่างใด มันคือค่าเสน่ห์ที่จะต้องพิชิตใจเจ้าของร่างที่นั่งอยู่ข้างเธอจริงๆ“คุณกำลังตกอยู่ในสถานะถูกล่อลวง”“เควสพิเศษปรากฏ ทำความรู้จักตัวละครลึกลับเพื่อปูทางไปยังตอนจบแสนสุข แค่ทำให้ตัวละครลีออน วอลต์ สนใจในตัวคุณเท่านั้น”สำเร็จภารกิจ ได้รับค่าเสน่ห์เพิ่มจำนวน 5 หน่วยภารกิจล้มเหลว –ค่าเสน่ห์ 5 หน่วยหากถูกลบค่าเสน่ห์ ความสามารถในการพิชิตใจของไมเนอร์ ไบร์ดัวจะถูกยกเลิกเพราะคุณผู้เล่นมีค่าพลังไม่ถึง 45 ตามกำหนดกรุณาทำเควสพิเศษ อย่างระมัดระวังด้วยนะคะ“.......”นี่ฉันจะต้องคำเควสในสภาพที่ตัวเองถูกล่อลวงแบบนี้จริงดิ ร่างกายร้อนแทบมอดไหม้ สองแก้มแดงเห่อร้อนคล้ายจะมีควันพุ่งออกมา แค่รับมือท่านคาดินันแซลัสที่กำลังเอาแต่ใจก็เกินความสามารถแล้ว ยังจะต้องมาพบเจอกับการต้องทำให้..นักเวทลีออนสนใจอีกงั้นเรอะ!!แต่การยินยอมนั่งอยู่เฉยๆ เพื่อมองดูค่าเสน่ห์ของตัวเองลดลงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถ
“ตอนนี้เราไม่เหลือทางเลือกแล้วลูกรักไม่ว่าอย่างไร ในเช้าวันพรุ่งนี้รถม้าของวิหารศักดิ์สิทธิ์จะเดินทางมาที่นี่ หากไม่มีสตรีใดเดินขึ้นบนรถม้า เราจะตายกันหมดนะจานีค..นั่นลูกกำลังฟังพ่ออยู่รึเปล่า?”แม่งเอ้ย!! สุดท้ายไอ้เกมบ้านี่ก็ส่งฉันมาในบทบาทสุดรันทดอย่างบทบาทของนักบุญหญิงงั้นเรอะก็บอกว่าไม่เอาบทบาทนี้ไงล่ะโว้ย!!ทันทีที่ฉันบ่นจบ หน้าต่างของเกมเด้งขึ้นมาในทันทีนักบุญหญิง จานีคแห่งตระกูลโอเรียสค่าเสน่ห์ 20พลังเวท -2ความฉลาด 10ความร่ำรวย -20ความสวย 98นั่นแหละ นั่นคือปัญหาที่ฉันกำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ ตัวฉันเห็นแก่เงินอันน้อยนิดในการหาผู้ทดลองเล่นในเกมเสมือนจริง เพราะแบบนั้นก็เลยสมัครไปและได้รับคัดเลือกมา..แต่ทว่าทันทีที่เข้ามาในเกมนี้ฉันก็พบว่าข้อตกลงของเกมที่ได้ให้คำมั่นกับฉันเอาไว้มันไม่ตรงตามที่ตกลงกันเอาไว้เลยข้อแรก..ฉันออกจากเกมนี้ไปไม่ได้จนกว่าจะผ่านรูททั้งหมด ซึ่งตัวละครชายในเกมนี้มีสิบคน..ใช่แล้วสิบคน จะผ่านทั้งสิบคนไปได้ไม่ใช่ว่าจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเลยงั้นเรอะ!และข้อสอง ฉันเขียนลงไปในใบสัญญาด้วยตัวบรรจงว่าบทบาทที่ฉันอยากได้ คือ..องค์หญิง..คือบทบาทองค์หญิงไงละโว้
ผมสีทองของเขานั้นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังเปล่งประกายอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่เจิดจ้าและในวินาทีที่เขาสั่งให้ฉันเดินเข้าไปหาเขา ฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังถูกมนต์สะกด เพราะค่าเสน่ห์ของเขานั้นมันมากเกินกว่าที่เธอจะยอมรับได้นี่คือตัวละครตัวที่สิบที่ฉันจะต้องพิชิต แต่ทว่าทำไม..ฉันต้องเจอเขาเป็นคนที่สองด้วยนะ นี่มันไม่ยุติธรรมเลยค่าเสน่ห์20ของฉันจะเอาอะไรไปสู้กับค่าเสน่ห์100ของเขากันนะ บ้าชะมัดเลย!“ขออภัยด้วยครับท่านค่าดินัน แต่ท่านนักบุญหญิงพึ่งจะเดินทางมาที่นี่ และข้าอยากพานางไปที่ห้องพักก่อน..อีกทั้งท่านนักบุญหญิงต้องเปลี่ยนชุดและเข้าร่วมพิธีต้อนรับอีกนะครับ..”ดวงตาของแซรัสหรี่ลงเล็กน้อย เขากำลังไม่พอใจ ไม่พอใจอย่างมากที่มาไคกำลังขัดขวางเขาแต่ทว่านี่มันพึ่งจะเริ่มต้น ยังมีเวลาอีกมากมายให้เขาได้เพลิดเพลินไปกับการดื่มด่ำกับร่างกายที่แสนหอมหวานนั่น..“เช่นนั้นเจ้าก็พานักบุญหญิงคนใหม่ของเราไปที่พักเถิดมาไค..”อัศวินศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นไม่ธรรมดาเพราะพี่ชายของเจ้านั่นคือแกรนด์ดยุคและยศของหมอนั่นคือท่านชายด้วยซ้ำเขาไม่อยากจะมีปัญหาที่มากวนใจ อะไรที่ปล่อยไปได้ก็ควรจะปล่อยไปก่
มาไคยกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเอง เมื่อกระดิ่งถูกสั่นขึ้นและในยามนี้เขาจะต้องเดินทางไปที่ห้องนอนของท่านนักบุญหญิงนางงดงาม..ถึงแม้จะมิได้เย้ายวนเท่าไหร่ แต่ทว่ารอยยิ้มนั้นก็ทำให้เขารู้สึกสั่นไหวได้ไม่ยากเขาไม่รู้ว่าท่านนักบุญจะเรียกใช้ด้วยเหตุผลอันใด แต่ทว่าเขาไม่มีเหตุผลให้ตัวเองปฏิเสธการรับใช้ท่านนักบุญหญิงมาไคดึงสติของตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็วเพื่อที่เขาจะได้เดินไปที่ห้องของท่านนักบุญหญิงด้วยใบหน้าที่เฉยชาต่อทุกสิ่ง ทันทีที่เขาเข้ารับการปฏิญาณตน นั่นหมายความว่าเขาจะต้องคงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของตนเอง อีกหน้าที่หนึ่งของอัศวินศักดิ์สิทธิ์คือการรับใช้ท่านนักบุญหญิง รับใช้ที่ว่านั่นคือ..การรับใช้แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงเธอดูเหมือนลูกกระต่ายตัวน้อยที่ตื่นกลัวในยามที่เห็นหน้าท่านคาดินัน ท่านนักบุญหญิงสั่นไหวมากจนเขารู้สึกเป็นห่วง ถึงได้ก้าวเข้าไปเพื่อที่จะขัดขวางการชักชวนของท่านคาดินัน เขารู้ว่านั่นคือการ กระทำที่อุกอาจเป็นอย่างยิ่ง อัศวินเช่นเขาไม่ควรขัดใจท่านคาดินัน..แต่ตัวของท่านคาดินันเองก็ขัดใจเขาไม่ได้เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแค่อัศวินศักดิ์สิทธิ์แต่เพราะยศเก่าของเขาคือยศท่านช
ชุดนักบุญหญิงสีขาวถูกสวมลงบนร่างกายของฉัน ทักษะการแต่งหน้าทำผมของมาไคนั้นน่าทึ่งมากทีเดียว เขาบอกว่าตัวเองฝึกอย่างหนักเพื่อที่จะมารับใช้และดูแลเธอเขาเดินออกไปจากห้องนอนของตัวเองเพื่อขออนุญาตไปเตรียมตัวบ้าง เพราะเขาเองก็จะต้องเข้าร่วมพิธีนี้เหมือนกันเมื่ออยู่คนเดียวฉันคิดว่าจะต้องคุยกับระบบของเกมนี้ให้รู้เรื่องสักหน่อย“นี่ ฉันต้องการคู่มือการใช้ อย่างเช่นวิธีการเพิ่มค่าเสน่ห์ของตัวเองหรือว่าวิธีที่ทำให้ตัวละครในเกมนี้มาสนใจอะไรแบบนั้น.."“ติ้ง!!”"วิธีเพิ่มค่าเสน่ห์ทางลัดนั้น..ไม่มีค่ะคุณผู้เล่น เพราะค่าเสน่ห์ของคุณผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณผู้เล่นสามารถพิชิตใจตัวละครในเกมนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่นในตอนนี้คุณผู้เล่นมีค่าเสน่ห์อยู่ที่ 25 ค่าเสน่ห์ที่เพิ่มมา 5 หน่วยนั้นเพิ่มมาจากค่าเสน่ห์ของคุณอัศวินมาไคที่ลดลง หากคุณผู้เล่นสามารถพิชิตใจคุณอัศวินมาไคได้ ค่าเสน่ห์ของผู้เล่นจะเพิ่มมาเป็น 35 จาก 20 นั่นหมายความว่าค่าเสน่ห์จะเพิ่มขึ้นในทุกครั้งที่สามารถพิชิตใจตัวละครชายได้..มีข้อควรระวังด้วยนะคะ หากว่าคุณผู้เล่นพบเจอตัวละครชายที่มีค่าเสน่ห์มากเกินไป ในบางครั้งจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้โปรดระมั
ทันทีที่มาไคออกมาจากห้องของท่านนักบุญหญิงสิ่งแรกที่เขาเห็นคือนักบุญฟลิน ที่กำลังยืนรออยู่หน้าห้องเขา“เพราะใกล้ที่จะเริ่มพิธีอันแสนศักดิ์สิทธิ์แล้ว ท่านคาดินันจึงเมตตาให้ข้านำชุดนี่มาให้ท่านอัศวินครับ ช่วยกรุณาแต่งกายอย่างเต็มยศเพื่อที่จะได้ปกป้องท่านนักบุญหญิงด้วยนะครับ”มาไคก้มหน้าลงเพื่อเป็นการขอบคุณ เขารับกล่องเสื้อผ้านั้นมาด้วยความรู้สึกไม่ไว้ใจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่สามารถปฏิเสธการรับสิ่งของที่ท่านคาดินันส่งให้ได้“ฝากท่านนักบุญไปขอบคุณท่านคาดินันด้วยนะครับ”ฟลินพยักหน้า แน่นอนว่าเขาจะต้องยืนอยู่หน้าห้องของท่านอัศวินเพื่อส่งท่านอัศวินเข้าห้องตามมารยาทมาไคเข้ามาในห้องพักของตนเอง เขาวางกล่องปริศนานั้นเอาไว้ก่อนจะเดินไปยกแก้วน้ำชาที่เย็นชืดขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหาย หากช้ากว่านี้อีกนิดเดียว ในบางทีเขาอยากจะกระโดดขย้ำท่านจานีคไปแล้วก็ได้ หรือไม่เขาอาจจะเผลอใช้มือของตัวเองสัมผัสลงไปบนเนินอกที่เต่งตึงนั้นสักครั้ง ไล้ไปตามหน้าท้องคอดกิ่วหรือไม่ก็ตามเส้นขนสีเงินที่ขึ้นอยู่รำไรที่ด้านล่าง แม้กระทั่งในจุดที่ลับที่สุดก็ยังคงมีสีที่เหมือนกับดอกกุหลาบ..ท่านจานีคของเขานั้น..งดง
ความนุ่มอุ่นอันน่าพึงพอใจกำลังโอบรัดตัวตนของเขาที่กำลังขยายตัวอยู่ในปาก คราแรกแซลัสไม่คิดด้วยซ้ำว่าปากเล็กๆ ของเธอจะอ้าออกเพื่อรับเขาเข้าไปได้..แต่ทว่าเธอทำได้มันน่ารักตรงไหนรู้ไหม ตรงที่ถึงแม้ว่าท่าทางของเธอจะแสดงออกถึงความจำนน แต่ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับมิได้เป็นเช่นนั้น เธอจ้องมองราวกับว่าจะทำให้เขาจุมพิตที่ปลายเท้าของเธอให้ได้ในสักวันหนึ่งนี่คือความสนุกสนานเล็กๆ ของแซลัส การต่อต้านที่แสนหวานและเกลียวลิ้นที่ค่อยๆ เล็มชิมจุดอ่อนไหวที่ส่วนปลายอย่างเชื่องช้าเขาร้องครางลอดใต้ไรฟัน ส่วนกลางกำลังขยายใหญ่อีกครั้งหนึ่งราวกับร่างกายของเขากำลังจะบอกว่าไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป ในวินาทีที่เธอพรมจูบส่วนหัวไปตลอดท่อนลำเขากดเข้าที่ท้ายทอยของเธอเพื่อบ่งบอกให้จานีคอ้าปากออกเพื่อรับเขาเข้าไปในนั้น เขาขยับเอวกระทั้นเข้าไปในริมฝีปากนุ่มๆตามอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ภายในมือของจานีคจับเข้าที่บั้นท้ายของท่านแซลัส เธอกำลังพยายามผลักเขาออกไป เพราะดูเหมือนว่าตัวเธอจะหายใจไม่ทัน แต่มันไม่เป็นผล..เขากระทั้นเข้าไปอีกพักหนึ่งก่อนที่ในปากจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวอ่อนๆ และรสฝาดเฝื่อนที่กำลังเอ่อท้นเข้ามาในริมฝีปากเขา
มาไคอุ้มเธอออกไป และในทันทีที่จานีค อยู่ในอ้อมแขนนั้น เธอก็หลับตาลงในทันทีราวกับว่าร่างกายนั้นไม่สามารถยืนไหวตั้งแต่แรก เธอแค่รอให้ประตูนี้เปิดเท่านั้น ถึงจะแสดงท่าทางอ่อนแอออกมาแซลัสแค่นหัวเราะ เขาเดินออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เช่นเดียวกันกับใบหน้าที่เขาเดินเข้าไปฟลินรีบเดินเข้ามาหานายท่านของเขาในทันที“มีอะไรจะรับสั่งให้ข้าไปจัดการไหมครับ อย่างเช่น..ให้ข้าจัดการขับไล่สตรีผู้นั้นออกจากการเป็นนักบุญหญิง”หากว่าสตรีผู้นั้นไม่สามารถทำให้ท่านผู้สูงศักดิ์นี้พึงพอใจแล้วละก็ ฟลินก็ไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องเก็บนางเอาไว้“ใจเย็นก่อนฟลิน นางพึ่งจะเข้ามารับตำแหน่งนักบุญหญิง จะให้นางออกไปจากที่นี่หลังจากที่เข้ามาเพียงแค่วันเดียวได้อย่างไรกัน จะมีคนกล่าวออกมาว่าวิหารของเราใจร้าย ข้าไม่ต้องการให้เรื่องมันเป็นเช่นนั้น อีกอย่าง..ข้าถูกใจนางนะ”จานีคคือเรื่องสนุกเล็กๆ ในชีวิตของแซลัส เขาคิดว่ามันเป็นเช่นนั้น..การได้มองเห็นทุกความทรมานที่มันมาจากความเย่อหยิ่งของนางทำให้เขา..รู้สึกสนุกเหมือนกับมองเห็นพวกหนูที่กำลังตะเกียกตะกายขึ้นมาจากท่อน้ำอันแสนโสมมเก็บนางเอาไว้ดูเล่นน่าจะดี ก็จานีคน
120 ?ค่าตัวเลขที่ปรากฏต่อสายตานั้นทำให้จานีคต้องกะพริบตาซ้ำอีกครั้ง ใช่แล้วในคราแรกเธอคิดว่าตัวเอง..ตาฝาด ตาฝาดไปแน่ๆ แต่ทว่าสิ่งที่บอกกับเธอว่านี่คือเรื่องจริง ตัวเลขที่เธอเห็นมันไม่ใช่ในความฝันก่อนวันหวยออกแต่อย่างใด มันคือค่าเสน่ห์ที่จะต้องพิชิตใจเจ้าของร่างที่นั่งอยู่ข้างเธอจริงๆ“คุณกำลังตกอยู่ในสถานะถูกล่อลวง”“เควสพิเศษปรากฏ ทำความรู้จักตัวละครลึกลับเพื่อปูทางไปยังตอนจบแสนสุข แค่ทำให้ตัวละครลีออน วอลต์ สนใจในตัวคุณเท่านั้น”สำเร็จภารกิจ ได้รับค่าเสน่ห์เพิ่มจำนวน 5 หน่วยภารกิจล้มเหลว –ค่าเสน่ห์ 5 หน่วยหากถูกลบค่าเสน่ห์ ความสามารถในการพิชิตใจของไมเนอร์ ไบร์ดัวจะถูกยกเลิกเพราะคุณผู้เล่นมีค่าพลังไม่ถึง 45 ตามกำหนดกรุณาทำเควสพิเศษ อย่างระมัดระวังด้วยนะคะ“.......”นี่ฉันจะต้องคำเควสในสภาพที่ตัวเองถูกล่อลวงแบบนี้จริงดิ ร่างกายร้อนแทบมอดไหม้ สองแก้มแดงเห่อร้อนคล้ายจะมีควันพุ่งออกมา แค่รับมือท่านคาดินันแซลัสที่กำลังเอาแต่ใจก็เกินความสามารถแล้ว ยังจะต้องมาพบเจอกับการต้องทำให้..นักเวทลีออนสนใจอีกงั้นเรอะ!!แต่การยินยอมนั่งอยู่เฉยๆ เพื่อมองดูค่าเสน่ห์ของตัวเองลดลงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถ
“ไมเนอร์..เจ้ารู้ดีว่าน้องเป็นคนอย่างไร มาไคเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขามักจะเก็บทุกเรื่องเอาไว้ในหัวใจดวงน้อยของเขา ฉะนั้นแล้วในฐานะที่เจ้าคือพี่..อย่าปล่อยให้หัวใจดวงน้อยๆ ของมาไคแบกรับเรื่องราวมากมายเอาไว้เพียงลำพังนะลูกรัก..”ไมเนอร์รู้ดีว่าชีวิตของเขาในตอนนี้ คนที่เรียกได้ว่าครอบครัวคือท่านแม่และมาไคท่านพ่อของเราด่วนจากไปด้วยโรคร้าย และในวันที่เขากำลังจะขึ้นเป็นผู้นำตระกูล เหล่าญาติของท่านพ่อก็มาคัดค้านกันอย่างเต็มที่ เพราะทุกคนคิดว่าเด็กอายุ 15 ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะขึ้นเป็นผู้นำ ตระกูลไบร์ดัว แต่อีกเหตุผลหลักก็คือ หากพวกนั้นสามารถผลักเขาออกไปจากตำแหน่งและขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลแทนได้ ทั้งอำนาจและเงินทองมากมายที่ท่านพ่อสร้างมาก็จะตกเป็นของคนผู้นั้น“พินัยกรรมได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงเรื่องที่ข้าจะต้องได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลไบร์ดัว ฉะนั้นแล้วไม่มีเหตุผลอันใดที่ข้าจะต้องทนฟังเสียงของญาติที่กระหายในเงินทองและอำนาจ!!”เขาต้องแข็งแกร่ง ไมเนอร์บอกตัวเองเช่นนั้น หากอยากปกป้องตำแหน่งแกรนด์ ดยุคเอาไว้ ปกป้องท่านแม่และน้องชายเขาจะแสดงด้านที่อ่อนแอออกมาไม่ได้เมื่อพิ
จานีคกระตุกยิ้มที่มุมปาก..นี่เขายังมีของแบบนั้นเก็บเอาไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานอีกอย่างนั้นหรือ? บางทีรสนิยมของท่านคาดินันอาจจะไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองก็ได้ และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยในการที่จะพิชิตใจเขาได้น่ะ“เรื่องนั้น..ข้าคิดว่าท่านแซลัสควรให้ข้าได้พักหรือว่าทำใจสักหน่อยนะคะ เพราะเมื่อวานนี้กว่าจะนำพาเจ้าแท่งสีเหลืองทองนั้นออกจากร่างกายได้..ข้าก็แทบจะตายเหมือนกัน..หากมันจะเอาออกยากเย็นเช่นนั้นท่านก็ควรจะบอกกล่าวกับข้าก่อนสิคะ..”เธอกะพริบตาเบาๆ เพื่อมองหน้าเขา การแสดงออกของจานีคนั้นสบายๆ มากกว่าทุกวัน นั่นทำให้แซลัสกำลังประเมินความคิดของเธออยู่..ปกติแล้วเธอจะเกร็งมากๆ เมื่ออยู่ใกล้ๆ เขา แถมในแววตานั้นยังมีวี่แววความเกลียดชังฉายชัดออกมาอีกด้วยเขาไม่ชินกับจานีคที่ดูน่ารักและออดอ้อนคนนี้เลย หรือเธอคิดว่านี่นั่งข้างๆ ของเขานั้นปลอดภัย คงคิดว่าในห้องประชุมนี้มีผู้คนมากมาย และเขาคงไม่กล้าที่จะทำอะไรเธออย่างนั้นสินะประมาทเกินไปแล้วจานีค..เขาไม่ใช่คนที่จะยินยอมพลาดโอกาสทองในการทำให้ใบหน้านั้นเกิดการปั่นป่วนจนรอยยิ้มที่แสนมั่นใจนั่นจางหายไปจากใบหน้านั้น..แซลัสยกมือขึ้นมาเท้าคางเขากำลังอยู
แซลัสจ้องมองใบหน้าของจานีคไม่ละสายตา การพบเจอเธอไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไรเลย เพราะเมื่อวานมีชื่อของเธอถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก อาจจะทำให้จานีคคิดว่าเธอควรมาเข้าร่วมประชุมเพื่อไม่ให้ชื่อของตัวเองถูกพูดถึงในทางไม่ดีเธอมาที่นี่ไม่แปลก แต่แปลกที่บุรุษที่เธอเดินมาด้วยคือเคาน์ดาโกแบท บุรุษผู้ได้ชื่อว่านอนกับสตรีไม่เลือกหน้า หรือว่านางอ่อนต่อโลกมากขนาดที่ว่าไม่รู้ชื่อเสียงที่เลวร้ายของท่านเคาน์กันนะ..มิรู้หรืออย่างไรว่าการเดินมากับบุรุษเช่นนั้นจะทำให้ชื่อเสียงของเธอยิ่งแปดเปื้อนมากกว่าเดิม“อันที่จริงข้าจัดเตรียมที่นั่งสำหรับท่านนักบุญหญิงของเราเอาไว้แล้ว..จานีคมานั่งตรงนี้สิ”ความรู้สึกขุ่นเคืองอัดแน่นเต็มอก แต่ แซลัสก็ยังคงปั้นหน้ายิ้มแย้มให้แก่จานีคอยากปฏิเสธชะมัด แต่ก็นั่นแหละคำสั่งของเขาเธอขัดได้ที่ไหนกัน เมื่อข้อความสีแดงเด้งขึ้นมา เธอก็แทบไม่สามารถคงสติเอาไว้ได้เลยด้วยซ้ำ“ขออภัยด้วยนะคะท่านเคาน์..”เธอย่อตัวลงก่อนจะเดินไปยังที่นั่งข้างๆ ท่านคาดินันแซลัส ฟลอยด์กัดฟันกรอด เขาอุตส่าห์ได้โอกาสดีๆ ที่ถือครองเอาไว้ทั้งที เจ้าหัวเหลืองนี่กล้าดีอย่างไรมาแย่งนักบุญจานีคไปจากเขาน่ะเขาขึงตาใส่ค
มาไคเผลอยิ้มที่มุมปาก เมื่อเขามองเห็นริมฝีปากที่เชิดรั้นขึ้นเล็กน้อยของท่านจานีค หลังจากอยู่ด้วยกันมาสักระยะมันทำให้เขาเข้าใจในทันทีว่าช่วงเวลานี้ คงกำลังมีเรื่องอะไรสักอย่างที่ทำให้ท่านจานีคไม่พอใจ และไอ้เรื่องที่ว่านั่นก็ยืนทึ่มอยู่เบื้องหน้าของเขาหรือไม่..บางทีเขาควรจะพูดคุยกับพี่ชายให้รู้เรื่อง เพราะตัวของไมเนอร์ก็คงแบกความรู้สึกผิดเอาไว้เช่นเดียวกัน กับเขาท่านจานีคเป็นผู้ออกปากพูดคุยแต่กับไมเนอร์ที่ไม่ได้อยู่กับท่านจานีคตลอดเวลา..คงเป็นหน้าที่ของเขาสินะที่จะต้อง..พูดคุยกับพี่ชายให้เข้าใจ“บังเอิญจังเลยนะครับท่านนักบุญ..เรากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ห้องประชุมเหมือนกันพอดีเลย หากว่าท่านไม่รังเกียจเช่นนั้นเข้าไปในนั้นพร้อมกันกับข้าดีไหมครับ”จานีคที่กำลังนึกโกรธทั้งไมเนอร์และมาไค เมื่อเธอมาเจอคนน่ารำคาญอย่างเคาน์ ฟลอยด์ ใจจริงเธออาจจะด่าเขานะ แต่..การใจร้อนไม่ใช่เรื่องที่ดี อีกทั้งในอนาคตเขาคือหนึ่งในตัวละครที่เธอต้องพิชิตใจด้วยนะสิ“ด้วยความยินดีค่ะท่านเคาน์”ฟลอยด์ยิ้มหน้าระรื่น ไม่เสียแรงจริงๆ ที่เขามาดักรออยู่ตรงนี้ บรรยากาศระหว่างท่านนักบุญหญิงและท่านแกรนด์ดยุคไม่ดีเท่าไหร่นัก นี่
มาไคยืนอยู่ด้านหลังของท่านนักบุญหญิงจานีค จากมุมที่เขายืนอยู่นี้สามารถมองเห็นแววตาที่ไม่ประสงค์ดีนั้นได้อย่างชัดเจน เขาไม่ชอบขุนนางผู้นี้แต่ก็มิอาจปฏิเสธการเข้าพบนี้ได้เช่นกันถึงเป็นเคาน์แต่ตระกูลดาโกแบทก็มีอำนาจมากพอสมควรในเรื่องของการค้าเรือสำเภาทุกลำในจักรวรรดิแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ติดชื่อของตระกูลดาโกแบทเอาไว้บนลำเรือทั้งนั้น เขาคิดว่าการที่ท่านนักบุญหญิงได้พูดคุยกับท่านเคาน์อาจจะส่งผลดีต่อตัวของท่านนักบุญหญิงเองแต่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อสายตาที่มองมามันเต็มไปด้วยความรู้สึกหยาบช้า!จานีคยกแก้มน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่วงท่าที่สง่างาม เธอไม่มีร่องรอยของความหวั่นไหวใดๆ เลยถึงแม้ว่าจะนั่งตรงข้ามกับบุรุษที่ครองใจสตรีทั่วทั้งจักรวรรดิ..“อย่างที่ท่านนักบุญทราบว่านอกจากราชวงศ์ ตระกูลไบร์ดัว ก็มีตระกูลดาโกแบทของข้าเท่านั้นที่เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในงานวันชาติครั้งนี้ และ..ข้าคือผู้สนับสนุนหลักของวิหาร..เม็ดเงินมหาศาลที่ข้าสั่งให้ช่างปูผนังและหินอ่อนทั่วทุกพื้นที่ของเรือนพักท่านนักบุญ ก็คือความคิดของข้าทั้งนั้น..ข้าเอ่ยมาเช่นนั้นท่านน่าจะพอเดาได้แล้วใช่ไหมครับว่าข้าหมายถึงสิ
แซลัสยกมือขึ้นมาเสยเส้นผมสีทองไปไว้ที่ด้านหลัง เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีอำพันเหม่อมองออกไปยังเรือนพักส่วนที่เป็นหลังคาสีทองและสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลังที่พักของนักบุญหญิง..แล้วแท่งอัญมณีที่เขาเป็นผู้กดแทรกมันเข้าไปในร่างกายของเธอ ยามนี้มันมิได้อยู่ในร่างกายของเธออีกต่อไปเขาแค่นหัวเราะออกมาพร้อมกับคลายชุดคลุมอาบน้ำที่กำลังสวมอยู่เพื่อให้ลมเย็นยามราตรีพัดผ่านร่างกายของเขาไก..อย่างน้อยเขาก็หวังว่าลมเย็นๆ นั่นจะช่วยทำให้ความเร่าร้อนที่อยู่ในใจจางหายไปได้บ้างเขาไม่อยากปล่อยเธอไป ไม่ได้อยากปล่อยมือจากร่างกายนั้นเลย..แต่เพราะการรั้งเอาไว้มันไม่มีประโยชน์..เขาทำร้าย ทรมาน บังคับ และอีกมากมายที่เขากระทำกับเธอเพื่อให้จานีคผู้นั้นตระหนักให้มากว่านางกำลังอยู่ในอุ้งมือของเขา อยากให้นางเห็นว่าเขาคือผู้กุมชีวิตของนางเอาไว้ อยากให้นางเทิดทูนบูชาเขาให้มาก..แต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม คำกล่าวสรรเสริญที่ไร้ค่าไร้ราคาเพราะมันไม่ได้มาจากหัวใจ เธอยังคงต่อต้านเขาเท่าที่มือเล็กๆ ทั้งสองข้างนั้นจะมีแรง..หงุดหงิดชะมัด! หงุดหงิดอย่างถึงที่สุด หงุดหงิดจนไม่อยากจะทำอะไรเลย..ให้ตายสิ!!“ได้เวลาพักผ่อนแล้วนะครับท่า
หลังจากการปลดปล่อยสิ้นสุดลง ความร้อนก็ยังไม่หายไปจากร่างกาย สีหน้าของไมเนอร์สุขสมราวกับตกอยู่ในภวังค์ความสวยงามที่แท้จริงมิใช่ใบหน้าแต่ทว่ามันคือร่างกายและจิตใจของเธอต่างหาก สิ่งที่เย้าย้วนมิใช่ท่าทีหรือการแสดงออก แต่มันเสียงร้องครางแสนหวานที่ทำเอาเขาเกือบคลั่ง ความเบาสบายแผ่กระจายทั่วร่าง เมื่อละอองแห่งความสุขถูกปลดปล่อยออกมาไมเนอร์ฝังปลายจมูกโด่งเป็นสันของเขาซุกไปที่ซอกคอของเธอในยามนี้บางอย่างกำลังประจักษ์แจ้งแก่ใจ ว่าท่านจานีคนั้นเย้ายวนและมีเสน่ห์เป็นที่สุด“ติ้ง!!”“การแจ้งเตือนจากระบบค่ะ ค่าเสน่ห์ของคุณผู้เล่นเพิ่มขึ้นมาจาก 35 เป็น 38 หน่วย ยินดีกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยนะคะ หากค่าเสน่ห์ของคุณผู้เล่นเพิ่มขึ้นถึง 40 หน่วย จะมีเควสพิเศษมาให้ทำเพื่อเพิ่มค่าความสามารถค่ะ ทั้งค่าความฉลาดและค่าพลังเวท พยายามเข้านะคะ”เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้นมา จานีคไม่มีแรงแม้แต่จะปรือตาขึ้นมามองมันด้วยซ้ำ เธอกำลังเหนื่อยเป็นอย่างมาก วันนี้มันหนักหนามากเหลือเกินสำหรับเธอ และในยามนี้ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่งานของเธอก็ยังไม่จบ..ถึงแม้ว่าเธอจะเหนื่อยแต่คำมั่นสัญญาที่ให้เอาไว้กับท่านมาไคก
มือแกร่งแหวกเรียวขาออกกว้างขึ้น ใบหน้ายื่นเข้ามาในจุดนั้นระยะประชิด เขาแนบริมฝีปากลงไปบนก่อนจะเริ่มใช้ลิ้นปาดเลียจากปุ่มเนื้อเล็กๆ ที่นูนขึ้นเพราะร่างกายไวต่อสัมผัสอยู่แล้วทำให้เพียงแค่ถูกลิ้นของเขาสัมผัสนิดหน่อย ร่างก็เหมือนกำลังลอยขึ้นสูงเลยริมฝีปากเจ้าเล่ห์พรมจูบตรงนั้น ทั้งยังดูดดุนพื้นที่น่าอายอีก“อะ..อึ่ก!!”เธอร้องครางออกมาเพราะดูเหมือนปลายนิ้วของไมเนอร์จะแตะสัมผัสลงไปบนแท่งสีทองที่อยู่ในร่างกาย เขาทำในเรื่องที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนนั่นคือการขยับมัน..ไม่ได้ดึงออกแต่กลับขยับมันเบาๆ ให้เคลื่อนไวไปในร่างกายของเธอลิ้นของเขาละเลงบนส่วนนั้น สะกิดเลียกระทั่งเม็ดเสียวขยายใหญ่ ไมเนอร์รวบตัวของจานีคเอาไว้ไม่ยอมให้เธอถดหรือว่าถอยหนีมาไคละริมฝีปากนั้นออกจากกลีบปากที่แสนเย้ายวนของเธอ.. เขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะให้ท่านจานีคพิงลงมาบนร่างกายของเขานี่ดูเหมือนกับว่ามาไคกำลังหวังดีแต่ไม่เลย เพราะมือของเขาสอดมาจากด้านหลังและมันกำลังบีบเคล้นลงไปบนก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นทั้งสองข้าง“อะ..อ๊า!!”บอกตามตรงว่าถึงแม้ว่าตัวเธอจะเคยผ่านเรื่องเช่นนี้มาหลายครั้ง แต่ทว่าไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะได้ทำแบบสามคนสักที