ชุดนักบุญหญิงสีขาวถูกสวมลงบนร่างกายของฉัน ทักษะการแต่งหน้าทำผมของมาไคนั้นน่าทึ่งมากทีเดียว เขาบอกว่าตัวเองฝึกอย่างหนักเพื่อที่จะมารับใช้และดูแลเธอ เขาเดินออกไปจากห้องนอนของตัวเองเพื่อขออนุญาตไปเตรียมตัวบ้าง เพราะเขาเองก็จะต้องเข้าร่วมพิธีนี้เหมือนกัน เมื่ออยู่คนเดียวฉันคิดว่าจะต้องคุยกับระบบของเกมนี้ให้รู้เรื่องสักหน่อย “นี่ ฉันต้องการคู่มือการใช้ อย่างเช่นวิธีการเพิ่มค่าเสน่ห์ของตัวเองหรือว่าวิธีที่ทำให้ตัวละครในเกมนี้มาสนใจอะไรแบบนั้น.." “ติ้ง!!” "วิธีเพิ่มค่าเสน่ห์ทางลัดนั้น..ไม่มีค่ะคุณผู้เล่น เพราะค่าเสน่ห์ของคุณผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณผู้เล่นสามารถพิชิตใจตัวละครในเกมนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่นในตอนนี้คุณผู้เล่นมีค่าเสน่ห์อยู่ที่ 25 ค่าเสน่ห์ที่เพิ่มมา 5 หน่วยนั้นเพิ่มมาจากค่าเสน่ห์ของคุณอัศวินมาไคที่ลดลง หากคุณผู้เล่นสามารถพิชิตใจคุณอัศวินมาไคได้ ค่าเสน่ห์ของผู้เล่นจะเพิ่มมาเป็น 35 จาก 20 นั่นหมายความว่าค่าเสน่ห์จะเพิ่มขึ้นในทุกครั้งที่สามารถพิชิตใจตัวละครชายได้..มีข้อควรระวังด้วยนะคะ หากว่าคุณผู้เล่นพบเจอตัวละครชายที่มีค่าเสน่ห์มากเกินไป ในบางครั้งจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้โปรดระมัดระวังการเข้าใกล้ตัวละครที่คุณผู้เล่นไม่สามารถต่อสู้ได้ด้วยนะคะ” “......” ไม่เห็นจะมีประโยชน์เลยสักนิดเดียว วิธีเพิ่มค่าเสน่ห์นั้นมีวิธีเดียวคือการพิชิตใจ แล้วใครมันจะไปพิชิตใจคนอื่นได้ถ้าค่าเสน่ห์ของตัวเองยังมีแค่ 25 แบบนี้.. หากฉันเจอท่านคาดินันอีกครั้งก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดออกมาจากเงื้อมมือของเขาได้ไหม.. แค้น..ชะมัดเลย!! เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับนักบุญผู้หนึ่งที่เดินเข้ามา “ได้เวลาแล้วครับท่านนักบุญหญิง..” หากจำไม่ผิดนี่คือฟลิน นักบุญผู้อุทิศตนเพื่อรับใช้ท่านคาดินัน ขนาดฟลินยังใช้ 30 ค่าเสน่ห์เพื่อพิชิตใจเลย..แล้วค่าเสน่ห์ของเธอที่เริ่มต้นจาก 20 คิดดูสิว่ามันน่าสมเพชขนาดไหน นี่คือเหตุผลที่ฉันไม่อยากจะอยู่ในบทของนักบุญหญิงเลย นังเกมตัวดีอย่าให้ฉันออกไปนะโว้ย! “อา..ฉันอยากจะรอมาไคก่อนค่ะ เขากำลังไปเตรียมตัว คาดว่าอีกไม่นานน่าจะเสร็จ..” ฟลินหรี่ตามองหน้าของจานีค เขาแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ “สิ่งแรกที่ท่านนักบุญหญิงต้องพึงระลึกเอาไว้เสมอคือ..ท่านไม่ควรให้ท่านคาดินัน รอนาน และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะพูดจาไม่ดีกับท่านผู้สูงส่งผู้นั้น ตระหนักให้มากว่าท่านคือผู้รับใช้พระเจ้าและท่านคาดินันคือตัวแทนของพระเจ้า..อย่าได้กล่าวเช่นนี้อีกนะครับ และท่านควรรีบเดินตามข้ามาเดี๋ยวนี้” จานีครู้สึกได้ในทันทีว่าเธอกำลัง.. “กลัว” เพราะอีกฝ่ายมีอำนาจมากกว่าเธอ และมีค่าพลังที่มากกว่าเธออีกด้วย ฉะนั้นแล้วนี่ต่างหากคือเรื่องจริงที่ควรตระหนักถึง เธอคือมดปลวกตัวน้อยตัวนิดที่อยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่ เธอไม่ควร..ขัดใจใครทั้งนั้น แต่ใครมันจะไปตามใจคนอื่นได้ขนาดนั้นวะ!! หงุดหงิดชะมัดที่ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากการเดินตามเขาไป เมื่อประตูของห้องโถงเปิดออก สิ่งแรกที่จานีคเห็นคือท่าน คาดินันอัมโบรเซอร์ที่อยู่ในชุดสีขาวปักด้วยดิ้นสีทอง ส่วนนักบุญคนอื่นๆ อยู่ในชุดสีดำขลิบขาว มีแค่เธอและท่านคาดินันเท่านั้นที่สวมชุด สีขาว “เรากำลังรอเจ้าอยู่พอดีเลยจานีค มานี่สิ..” เขายื่นมือออกมาเพื่อให้เธอจับ แน่นอนว่าฉันลังเลแต่สายตาของฟลินที่มองมามันเหมือนกับว่าเขาจะตรงเข้ามาต่อยฉัน หากว่าฉันปฏิเสธที่จะจับมือนั้น.. จานีควางมือลงบนมือของท่านคาดินัน เขาจับจูงมือเธอขึ้นมายังแท่นภาวนาด้านบน ก่อนจะเริ่มกล่าวบทสวดในภาษาที่ฉันเองก็ฟังไม่ออก “ข้าขอทำความเคารพแด่ท่านคาดินัน ข้าขอทำความเคารพแด่ท่านนักบุญหญิง ขอให้ทั้งสองท่านคือขั้วมหาอำนาจที่แสนยิ่งใหญ่ในจักรวรรดิ” คำเยินยอสรรเสริญพวกนั้นทำให้แกรนด์ดยุคไมเนอร์นิ่วหน้า อำนาจของวิหารมีมากเกินไปแล้ว และหน้าที่ข้าเขาคือการเข้ามาช่วยเหลือน้องชายให้หมอนั่นดึงนักบุญหญิงผู้นั้นมาอยู่ฝ่ายราชวงศ์ให้ได้ แซลัสปรายสายตาไปมองหน้าของแกรนด์ดยุค ก่อนที่เขาจะโอบไหล่ของจานีคเอาไว้ “จากนี้ไปเราจะต้องเข้าไปในนี้กันสองคน..ในน้ำตกศักดิ์สิทธิ์..” จานีครู้สึกประหม่ามากพอสมควร เธอพยายามยกมือขึ้นมาเพื่อดันเขาออกไป หลายครั้งหลายหน แต่ข้อความเฮงซวยพวกนั้นก็เด้งขึ้นมาไม่หยุดหย่อนเลย คุณผู้เล่นไม่สามารถปฏิเสธเสน่ห์อันร้ายกาจของคาดินันแซลัสได้ ยกมือขึ้นมาผลักเขาออกไม่ได้นะคะ.. จานีคกำมือแน่น “ข้าต้องการ..รอคอยอัศวินของข้าค่ะ” แซลัสแสยะยิ้มที่มุมปาก “ตอนนี้อัศวินของเจ้าคงกำลังนอนหลับอย่างสบายอยู่บนเตียง เขาไม่มาหรอกจานีค จากนี้ไปจะมีแค่ข้ากับเจ้าสองคนเท่านั้น..เล่าให้ฟังหน่อยสิว่าเมื่อคืนนี้..ตกลงเขาเลียจนเจ้าเปียกหรือว่าเลียได้ห่วยแตกจนเจ้าหมดอารมณ์ล่ะ” เอาอีกแล้ว ความร้อนที่ผุดขึ้นมากลางร่างกายพวกนี้ก่อตัวขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุเพียงแค่เธอมองสบตากับเขาเท่านั้น.. เสน่ห์ 100 พลังทำลายล้างของมันรุนแรงมากขนาดนี้เลยงั้นเรอะ แม้จะหายใจยังทำได้ลำบากเต็มที ประตูถูกปิดลงเมื่อคาดินันแซลัสได้นำพาให้จานีคเดินเข้าไปด้านในน้ำตกศักดิ์สิทธิ์ “ข้าต้องถอดเสื้อตัวนอกออกก่อน หากเสื้อนี่เปียกคงเป็นเรื่องใหญ่..ส่วนเจ้าเดินลงไปก่อนเลยจานีค” เบื้องหน้าคือน้ำตกขนาดเล็กที่เธอมองไม่เห็นต้นน้ำเลยด้วยซ้ำ ที่นี่มีเพียงสิ่งปลูกสร้างแสนหรูหราที่สร้างขึ้นมาล้อมรอบน้ำตกแห่งนี้ ทิวทัศน์ที่สวยงามพวกนี้ทำให้จานีครู้สึกราวกับกำลังต้องมนต์ เธอเดินลงไปในน้ำตกตามคำสั่งของท่านคาดินัน แซลัสถอดเสื้อตัวนอกของเขาก่อนที่เขาจะเดินลงตามไป “นี่คือพิธีหนึ่งอย่างเพื่อที่จะประกาศก้องให้ทุกคนล่วงรู้ว่านักบุญหญิงเข้ารับการแต่งตั้งจากข้าแล้ว” เขายกมือขึ้นมากุมใบหน้านั้นของเธอเอาไว้ จานีคเบือนหน้าหนีในทันที “เรา..ต้องทำอะไรบ้าง แช่น้ำที่นี่นานแค่ไหน ข้าถึงจะออกไปข้างนอกได้” เธออึดอัดและไม่ชอบใจที่ทำอะไรดังใจคิดไม่ได้เพราะค่าเสน่ห์ที่มากมายของเขา “ฮะ..ฮ่า จานีคเจ้าคิดว่าเรามาที่นี่เพื่อแช่น้ำให้ตัวเปื่อยแล้วขึ้นไปอย่างนั้นหรือ..พิธีนี้เดิมทีมันคือการป่าวประกาศถึงการยอมรับเจ้าเป็นนักบุญหญิงก็จริงแต่อีกนัยหนึ่ง มันคือการบอกกล่าวให้เจ้ารู้เอาไว้ว่า หนึ่งในหน้าที่ที่สำคัญของเจ้าคือการทำให้ข้าพึงพอใจ เอาล่ะจานีค หากรู้เช่นนั้นแล้วเจ้าช่วย..จัดการสิ่งที่กำลังตื่นตัวอยู่ตอนนี้ของข้าหน่อยสิ” จานีคกำลังกรีดร้องในใจ เพราะทันทีที่เขาสั่ง ร่างกายของเธอก็ไร้ซึ่งการควบคุมในทันที เธอนั่งลงเบื้องหน้าเขาก่อนจะยกมือขึ้นมาเพื่อสัมผัส "สิ่งนั้น" นี่มันเลวร้ายที่สุด! เพราะเธอไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งของเขาได้เลย “อ้าปากให้กว้างๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมาด้วย ข้าอยากมองหน้าเจ้าตอนที่เจ้ากำลังกลืนมัน..แบบนั้นจานีค เจ้าควรรู้ว่าระหว่างเรามันแตกต่างกัน..อา..แล้วเจ้าก็คือของเล่นของข้า”
ทันทีที่มาไคออกมาจากห้องของท่านนักบุญหญิงสิ่งแรกที่เขาเห็นคือนักบุญฟลิน ที่กำลังยืนรออยู่หน้าห้องเขา“เพราะใกล้ที่จะเริ่มพิธีอันแสนศักดิ์สิทธิ์แล้ว ท่านคาดินันจึงเมตตาให้ข้านำชุดนี่มาให้ท่านอัศวินครับ ช่วยกรุณาแต่งกายอย่างเต็มยศเพื่อที่จะได้ปกป้องท่านนักบุญหญิงด้วยนะครับ”มาไคก้มหน้าลงเพื่อเป็นการขอบคุณ เขารับกล่องเสื้อผ้านั้นมาด้วยความรู้สึกไม่ไว้ใจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่สามารถปฏิเสธการรับสิ่งของที่ท่านคาดินันส่งให้ได้“ฝากท่านนักบุญไปขอบคุณท่านคาดินันด้วยนะครับ”ฟลินพยักหน้า แน่นอนว่าเขาจะต้องยืนอยู่หน้าห้องของท่านอัศวินเพื่อส่งท่านอัศวินเข้าห้องตามมารยาทมาไคเข้ามาในห้องพักของตนเอง เขาวางกล่องปริศนานั้นเอาไว้ก่อนจะเดินไปยกแก้วน้ำชาที่เย็นชืดขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหาย หากช้ากว่านี้อีกนิดเดียว ในบางทีเขาอยากจะกระโดดขย้ำท่านจานีคไปแล้วก็ได้ หรือไม่เขาอาจจะเผลอใช้มือของตัวเองสัมผัสลงไปบนเนินอกที่เต่งตึงนั้นสักครั้ง ไล้ไปตามหน้าท้องคอดกิ่วหรือไม่ก็ตามเส้นขนสีเงินที่ขึ้นอยู่รำไรที่ด้านล่าง แม้กระทั่งในจุดที่ลับที่สุดก็ยังคงมีสีที่เหมือนกับดอกกุหลาบ..ท่านจานีคของเขานั้น..งดง
ความนุ่มอุ่นอันน่าพึงพอใจกำลังโอบรัดตัวตนของเขาที่กำลังขยายตัวอยู่ในปาก คราแรกแซลัสไม่คิดด้วยซ้ำว่าปากเล็กๆ ของเธอจะอ้าออกเพื่อรับเขาเข้าไปได้..แต่ทว่าเธอทำได้มันน่ารักตรงไหนรู้ไหม ตรงที่ถึงแม้ว่าท่าทางของเธอจะแสดงออกถึงความจำนน แต่ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับมิได้เป็นเช่นนั้น เธอจ้องมองราวกับว่าจะทำให้เขาจุมพิตที่ปลายเท้าของเธอให้ได้ในสักวันหนึ่งนี่คือความสนุกสนานเล็กๆ ของแซลัส การต่อต้านที่แสนหวานและเกลียวลิ้นที่ค่อยๆ เล็มชิมจุดอ่อนไหวที่ส่วนปลายอย่างเชื่องช้าเขาร้องครางลอดใต้ไรฟัน ส่วนกลางกำลังขยายใหญ่อีกครั้งหนึ่งราวกับร่างกายของเขากำลังจะบอกว่าไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป ในวินาทีที่เธอพรมจูบส่วนหัวไปตลอดท่อนลำเขากดเข้าที่ท้ายทอยของเธอเพื่อบ่งบอกให้จานีคอ้าปากออกเพื่อรับเขาเข้าไปในนั้น เขาขยับเอวกระทั้นเข้าไปในริมฝีปากนุ่มๆตามอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ภายในมือของจานีคจับเข้าที่บั้นท้ายของท่านแซลัส เธอกำลังพยายามผลักเขาออกไป เพราะดูเหมือนว่าตัวเธอจะหายใจไม่ทัน แต่มันไม่เป็นผล..เขากระทั้นเข้าไปอีกพักหนึ่งก่อนที่ในปากจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวอ่อนๆ และรสฝาดเฝื่อนที่กำลังเอ่อท้นเข้ามาในริมฝีปากเขา
มาไคอุ้มเธอออกไป และในทันทีที่จานีค อยู่ในอ้อมแขนนั้น เธอก็หลับตาลงในทันทีราวกับว่าร่างกายนั้นไม่สามารถยืนไหวตั้งแต่แรก เธอแค่รอให้ประตูนี้เปิดเท่านั้น ถึงจะแสดงท่าทางอ่อนแอออกมาแซลัสแค่นหัวเราะ เขาเดินออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เช่นเดียวกันกับใบหน้าที่เขาเดินเข้าไปฟลินรีบเดินเข้ามาหานายท่านของเขาในทันที“มีอะไรจะรับสั่งให้ข้าไปจัดการไหมครับ อย่างเช่น..ให้ข้าจัดการขับไล่สตรีผู้นั้นออกจากการเป็นนักบุญหญิง”หากว่าสตรีผู้นั้นไม่สามารถทำให้ท่านผู้สูงศักดิ์นี้พึงพอใจแล้วละก็ ฟลินก็ไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องเก็บนางเอาไว้“ใจเย็นก่อนฟลิน นางพึ่งจะเข้ามารับตำแหน่งนักบุญหญิง จะให้นางออกไปจากที่นี่หลังจากที่เข้ามาเพียงแค่วันเดียวได้อย่างไรกัน จะมีคนกล่าวออกมาว่าวิหารของเราใจร้าย ข้าไม่ต้องการให้เรื่องมันเป็นเช่นนั้น อีกอย่าง..ข้าถูกใจนางนะ”จานีคคือเรื่องสนุกเล็กๆ ในชีวิตของแซลัส เขาคิดว่ามันเป็นเช่นนั้น..การได้มองเห็นทุกความทรมานที่มันมาจากความเย่อหยิ่งของนางทำให้เขา..รู้สึกสนุกเหมือนกับมองเห็นพวกหนูที่กำลังตะเกียกตะกายขึ้นมาจากท่อน้ำอันแสนโสมมเก็บนางเอาไว้ดูเล่นน่าจะดี ก็จานีคน
เมื่อมาไคกลับมาถึงวิหาร เขาก็รีบถือห่อยาไปที่ห้องครัวในทันทีก่อนจะทำการต้มยาตามที่หมอหลวงสั่งมา เขาเป็นห่วงท่านจานีคมากทีเดียว แต่ทว่าเพราะในยามนี้ท่านจานีคมีพี่ชายของเขาคอยดูแลอยู่ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเบาใจไปได้บ้าง ว่าท่านจานีคจะปลอดภัยภายใต้การดูแลของไมเนอร์เราคือฝาแฝดที่ไมเนอร์เป็นผู้ลืมตาดูโลกออกมาก่อน แต่ทว่าใบหน้าของเรากลับไม่ได้เหมือนกันขนาดที่จะมองเป็นคนคนเดียว เขามีเส้นผมสีแดงเหมือนกับท่านแม่ แต่ไมเนอร์กลับมีเส้นผมสีดำที่เหมือนท่านพ่อมากกว่าเขาเลือกที่จะสละยศแกรนด์ดยุคให้ไมเนอร์ หลังจากนั้นเขาก็พาตัวเองมาเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ส่วนหนึ่งมาไคไม่อยากให้ระหว่างเราสองพี่น้องมีเรื่องของการแย่งชิงอำนาจเกิดขึ้นมา เขาอยากให้ความสัมพันธ์ของพี่น้องคงอยู่..ฉะนั้นแล้วอะไรที่เขาพอจะเสียสละให้ไมเนอร์ได้ มาไคยินดีที่จะทำมาไคถือถ้วยยาเดินตรงไปยังห้องพักของท่านจานีค เขาเปิดประตูอย่างแผ่วเบาเพราะคิดว่าท่านจานีคคงกำลังนอนหลับอยู่..บอกตามตรงว่ามาไคแปลกใจเล็กน้อยที่เขาไม่เห็นไมเนอร์นั่งเฝ้าอยู่ที่ข้างเตียงตามที่เขาร้องขอ..เขาเดินตรงไปที่เตียงนอน และสิ่งที่เขาเห็นมันคือท่านจานีคที่กำลังนอนหลับอย
ตอนนี้ค่าเสน่ห์ของฉันนั้นเพิ่มขึ้นมาเป็น 30 แล้ว เพิ่มมาจากเดิมอีก 5 น่าจะเพิ่มมาจากความสงสารและเห็นใจของท่านมาไคแน่นอนแล้วถ้าหากว่าไม่มีอะไรผิดพลาด หากว่าฉันสามารถพิชิตใจของมาไคได้แล้ว ฉันอาจจะสามารถพิชิตใจพี่ชายของมาไคต่อได้เลยก็ได้เพราะว่า แกรนด์ดยุคไมเนอร์นั้นใช้ค่าพลังในการพิชิตใจ 45...มันอาจจะไม่ได้ยาก...“แค่ก..แค่ก”เสียงไอนั้นทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะหยิบน้ำอุ่นส่งให้มาไค สามวันหลังจากที่ฉันนอนซมอยู่บนเตียง ฉันหายดีราวกับไม่เคยป่วยมาก่อน อาจจะเพราะพิษไข้พวกนั้นย้ายจากฉันไปติดพวกเขาสองคนแทน ทั้งท่านมาไคและท่านไมเนอร์ต่างกำลังนอนป่วยกันอยู่ในตอนนี้“นี่คือความผิดของข้าใช่ไหมคะ ท่านมาไคไม่ต้องเป็นห่วงเพราะว่าข้าจะดูแลท่านเอง ให้สาสมกับที่ท่านดูแลข้าเป็นอย่างดีในระหว่างที่ข้ากำลังป่วย”ถึงแม้ว่าจะผ่านมาหลายวันแล้วก็ตามหลังจากที่ฉันเข้ารับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการกับท่านคาดินันแซลัส หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกเลย ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดี หากว่าฉันยังไม่มีค่าเสน่ห์ถึง100ก็ไม่ควรเสนอหน้าไปต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่งแบบนั้นหรอกวิหารกว้างใหญ่มากทีเดียว และที่พักของนักบุญหญิงก็เ
แค่กลืนน้ำลายมาไคยังรู้สึกเจ็บคอเลย เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดูท่าทีตั้งอกตั้งใจของท่านจานีค..ที่กำลังเช็ดตัวให้เขาอยู่เธอเอื้อมมือมาแตะลงบนหน้าผากของเขาเบาๆ เช่นเดียวกันกับที่เขาเคยทำกับเธอเมื่อหลายวันก่อน เพื่อวัดไข้และตัวของเขายังร้อน ยิ่งที่แก้มทั้งสองข้างน่าจะร้อนมากกว่าปกติหลายเท่าตัวเพราะในตอนนี้เขากำลังเขินอายอยู่..หลังฝ่ามือของฉัน มันร้อนและการเช็ดตัวที่พึ่งทำไปมันไม่ได้ทำให้เขาตัวเย็นลงเลยหรือว่าจะต้องถอดกางเกงของเขาออกมาด้วยนะ มันถึงจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเขานั้นกลับมาเป็นปกติ เพราะความเป็นห่วงจึงไม่ได้ทำให้จานีคคำนึงถึงผลที่จะตามมา อีกทั้งในใจของเธอยังมีความแน่วแน่ว่าจะทำให้ท่านมาไคหายป่วย มากกว่าที่จะคิดเรื่องลามกและการพิชิตใจของเขาปลายนิ้วเล็กๆ นั่นกำลังเลื่อนลงไปที่ด้านล่าง ก่อนจะถอดกางเกงที่มาไคสวมอยู่ออกทางปลายเท้าเขาสะดุ้งเฮือก แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการขัดขืน ในใจของมาไคคิดว่าคนที่คิดเรื่องสกปรกพวกนั้นมันคงเป็นเขาแค่คนเดียวเท่านั้น ส่วนท่านจานีค..ท่านสูงส่งมากเกินกว่าจะคิดเรื่องอะไรพวกนั้น..เขากำลังละอายต่อราคะที่กำลังแผดเผาในใจ ละอายมากเสียจนไม่กล้าลืมตาข
จานีคเดินกลับมาที่ห้อง เพราะมาไคบอกด้วยใบหน้าที่แดงจัดว่าเขาต้องการนอนพักผ่อน และเขากลัวว่าไข้จะกลับมาติดเธออีกครั้งหนึ่งฉันคิดว่าในบางทีเรื่องพวกนี้มันอาจไม่ง่ายต่อการรับมือและเธอควรที่จะให้เวลาเขาสักหน่อย กับการ..ยอมรับว่าตัวเองได้ทำเรื่องที่ไม่คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์อีกต่อไปแต่ว่าคนเราจะถือครองพรหมจรรย์ไปทำไมกันนะ เกิดมาก็ควรจะใช้ชีวิตแซ่บๆ ไปสิอัศวินที่ยืนอยู่หน้าห้องก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพนักบุญหญิง“ท่านคาดินันเรียกหาท่านนักบุญหญิงเป็นการส่วนตัวครับ..และท่านนักบุญฟลินย้ำว่าท่านนักบุญหญิงควรจะรีบไปเพื่อไม่ให้ท่านคาดินันรอนาน”พึ่งบ่นถึงแท้ๆว่าสบายใจดีจังเลยที่ไม่ได้เห็นหน้าคาดินันผู้นั้น แต่นี่เธอจะต้องไปพบเจอเขาอีกแล้วงั้นเรอะจานีคไม่เต็มใจเดินตามอัศวินผู้นั้นไปสักเท่าไหร่นัก แต่อย่างที่รู้เธอเลี่ยงไม่ได้ และเพราะระยะทางของที่พักนักบุญหญิงกับคาดินันห่างไกลกันมากพอสมควรเมื่อมาถึงที่ห้องทำงานของท่านคาดินัน ประตูห้องทำงานที่สูงมากกว่าสี่เมตรก็เปิดออก“สวัสดียามบ่ายจานีค รีบเดินเข้ามาสิข้ามีเรื่องราวมากมายที่จะพูดคุยกับเจ้า..แน่นอนว่าเป็นการส่วนตัว”แซลัสเบนสายไปมองที่
นิ้วยาวแข็งแรงสอดลึกเข้ามาด้านใน ยิ่งเข้ากระทั้นปลายนิ้วเข้ามา จานีคก็ยิ่งกัดริมฝีปากแน่นมากยิ่งขึ้นแซลัสแสยะยิ้มเมื่อเขารับรู้ได้ถึงแรงตอดรัดอันแสนกระตือรือร้น ด้านในของเธอมันคับแคบมากทีเดียว อาจจะเพราะไม่มีใครเคยได้ล่วงผ่านเข้าไป..แค่เพียงหนึ่งนิ้วที่กดแทรกยังแทบขยับไม่ได้ด้วยซ้ำ นี่หากว่าเธอไม่เปียกชุ่มมากขนาดนี้ มีหวังเข้าไปไม่ได้อย่างแน่นอนว่าแต่ก่อนหน้านี้ระหว่างจานีคและอัศวินผู้นั้นทำอะไรกันนะ..หมอนั่นต้องเป็นมนุษย์ที่โง่เขลามากแค่ไหน ถึงได้ปล่อยให้จานีคยังไร้ซึ่งรอยขีดข่วนเช่นนี้หากว่าเขาเป็นหมอนั่น ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้จานีครอดพ้นมือของเขาไปได้หรอกไม่มีทาง!“อะ..อ๊า!”เจ็บ! ทว่ามันคือความเจ็บปวดที่ดูเหมือนความรู้สึกสุขสมจะมีชัยเหนือกว่า ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ร้องครางออกมาให้เขาได้ใจ พยายามไม่เปล่งเสียงแต่ทว่าการเก็บกลั้นเสียงของตัวเองนั้นทำได้ยากเต็มที ทั้งที่เสียงนั้นไม่มีอะไรน่าฟังแท้ๆ แต่เธอกับหยุดเปล่งเสียงออกไปไม่ได้เลยทรมาน..ทรมานมากเหลือเกินในช่วงเวลานี้ มีความรู้สึกมากมายผสมปนเปตีกันอยู่ในหัว ทั้งความรู้สึกไม่ยินยอม ความอยากจะเอาชนะและ..ความหลงใหลที่ทำให้เธอ
แสดงสปอยล์“ติ้ง!!”เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นมา พร้อมกับกรอบข้อความสีเขียวที่เด้งขึ้น“คุณสามารถพิชิตใจ ตัวละคร “มาไค ไบร์ดัว” ได้แล้วค่ะ มาเก็บค่าความรู้สึกของเขาให้ถึงหนึ่งร้อย เพื่อหลีกเลี่ยงการจบแบบ Bad Ending โปรดระมัดระวังทุกการกระทำที่จะนำไปสู่โศกนาฏกรรมของความรักด้วยนะคะ”ค่าเสน่ห์ ณ ปัจจุบัน 35ดวงตาของจานีคเบิกกว้างในทันทีที่ข้อความพวกนั้นเด้งขึ้นมาไม่หยุดหย่อน เธอตกใจกับเรื่องแบดเอนดิ้งนิดหน่อย แต่คิดว่ามันน่าจะมีเวลาให้เธอได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับมัน แต่ในตอนนี้สิ่งที่น่าตกใจมากที่สุดคือความรู้สึกของท่านมาไคดูเหมือนว่าเขาจะหวั่นไหวกับเธอมากทีเดียว..และจากที่คิดว่าเมื่อพิชิตใจตัวละครนั้นๆ ได้แล้วเรื่องจะจบแต่ก็ไม่จบอีก..เธอจะต้องทำให้ค่าความรักสีชมพูของเขาเพิ่มขึ้นด้วย..และในตอนนี้ค่าความรู้สึกของมาไคคือ..37 หมายความว่าเธอต้องทำให้เขาชอบเธอมากขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าตัวเลขที่กำลังกะพริบนี่จะเพิ่มสูงขึ้นถึง..100“หนาว..รึเปล่าครับ เพราะไม่มีน้ำอุ่นข้าจึงจำใจต้องให้ท่านจานีคอาบน้ำเย็นไปก่อน”เธอมองหน้าเขา นี่เป็นครั้งแรกที่แค่มองใบหน้านั้นหัวใจก็เต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก..มีหลายอย
จานีคหลับตาลงในอ้อมแขนของมาไค เขาถือเป็นอัศวินที่ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดีและไร้ที่ติ เขาถอดเสื้อคลุมของตัวเองมาคลุมให้เธอ เพื่อไม่ให้มีใครพบเห็นใบหน้าของเธออีกทั้งยังพาเธอเดินอ้อมมาทางข้างหลังเพื่อหลีกเลี่ยงขุนนางที่เดินไปเดินมาเต็มวิหารอีกด้วยทุกอย่างมันดีไปหมดเหมือนในนิยายรักโรแมนติก แต่ติดอยู่ที่..ในร่างกายของเธอยังคงมีไอ้แท่งบ้าๆ นั้นอยู่เนี่ยนะสิ ร่างกายเลยร้อนไปหมด ตรงจุดที่เขาสัมผัสคล้ายจะมีไฟลุกไหม้เธอไม่อยากคิดเรื่องไม่ดีกับมาไคเท่าไหร่นัก เพราะจานีคตั้งใจว่าจะค่อยเป็นค่อยไปกับเขาท่านมาไคไม่ใช่ตัวละครที่พิชิตแล้วก็จบกันไป แต่ว่าเขา..ดันเป็นอัศวินที่จะอยู่ข้างกายของเธอตลอด เพราะฉะนั้นแล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอและเขา มันควรมีความจริงใจหรือว่าความรู้สึกเข้าไปด้วย ไม่ใช่คิดแต่จะเลื่อนขั้นค่าเสน่ห์เพียงอย่างเดียว“ทะ..ท่านมาไคคะ ช่วยแวะที่ตึกร้างด้านหน้าให้หน่อยได้ไหมคะ..คะ..คือว่า..ข้า”ในขณะที่เธอกำลังหาเหตุผลเขาก็เดินตรงไปยังตึกร้างนั้นในทันทีโดยที่ไม่คิดถามหาเหตุผลเขารู้อยู่แล้วว่ามันมีบางอย่างที่ผิดปกติอยู่ในร่างกายของท่านจานีค และมาไคกำลังปั้นหน้าเย็นชาเพื่อไม
“คำปฏิญาณพวกนั้นเจ้าอยากฟังมันจริงๆ ใช่ไหมจานีค..”ไม่ได้นึกอยากฟังสักนิดแต่แล้วเธอมีทางเลือกงั้นหรือ..ถ้าหากว่าฉันสามารถเลือกหนทางเดินของตัวเองได้ หากว่าสามารถทำตามที่ใจตัวเองต้องการหรือแม้กระทั่งการกล่าวปฏิเสธเขาได้ ฉันคิดว่าในบางทีหัวใจที่แสนแข็งกร้าวของฉัน มันอาจจะเต้นแรงขึ้นมานิดหน่อยกับชายที่ดูสมบูรณ์แบบเบื้องหน้าไปได้บ้าง แต่ทว่านี่มัน..ไม่มีสักเสี้ยวในหัวใจ ยามที่ฉันมีสติครบถ้วนแบบที่ไม่ได้ถูกเขาล่อลวง ฉันไม่นึกหวั่นไหวกับท่านแซลัสเลยไม่มีเลยสักนิดเดียวที่จะสั่นไหวหรืออะไรทั้งนั้น มีเพียงความอยากเอาชนะ..และถ้าหากว่าฉันสามารถทำได้ ฉันอยากให้ครั้งแรกของเรา เกิดขึ้นมาในตอนที่ฉันมีค่าพลัง 100 ส่วนเขามีค่าพลังน้อยกว่านั้น ฉันอยากให้เขารับรู้ถึงความรู้สึกที่ต้องยอมจำนนทั้งๆ ที่ในใจไม่ได้เป็นเช่นนั้น..มันทรมาน มากเลยนะทรมานมากจริงๆ ให้ตายสิ“..หากมันยากที่ท่านจะกล่าว เช่นนั้นก็มิควรหยิบยกประเด็นที่ทำให้ข้าอยากรู้ขึ้นมาคะ”ไม่ควรเริ่มมันตั้งแต่แรกหากจะมามัวลังเลเช่นนี้แซลัสแสยะยิ้ม เขาไล้ปลายนิ้วขึ้นไปยังขอบของกางเกงซับในก่อนจะถอดมันออกมา กางเกงซับในที่เล็กมากเมื่ออยู่ในมือเขา ตรง
มาไคยกมือขึ้นมานวดที่หว่างคิ้วเบาๆ เมื่อพี่ชายของเขาบอกเล่าเรื่องที่เกิดให้เขาฟัง และในยามนี้ท่านนักบุญหญิงกำลังอยู่ในห้องที่เป็นดังนรกกับท่านคาดินันอัมโบรเซอร์“ข้าทำ..อะไรไม่ได้เลย เมื่อได้ยินเสียงร้องขอที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของท่านนักบุญหญิง..”ท่านจานีคพยายามอย่างเต็มที่ที่จะดันหลังของไมเนอร์ออกมา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เขาและพี่ชายไม่ควรอยู่เฉยๆ เพื่อรอคอยการกลับมาของท่าน..“เราต้องช่วยท่านนะไมเนอร์”ไมเนอร์พยักหน้า“เรื่องนั้นข้ารู้แล้วข้ากำลังคิดอยู่มาไค จะทำอย่างไรให้ท่านหญิงออกมาจากห้องนั้น..ต้องสร้างสถานการณ์หรือว่าอะไรที่มันน่าเชื่อถือดีล่ะ..”ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เคาน์ดาโกแบทก็เดินมาหยุดอยู่ที่ห้องของท่านนักบุญหญิง“รายงานท่านนักบุญให้หน่อยสิว่าข้า..มาขอเข้าพบเป็นการส่วนตัว”ไมเนอร์กะพริบตาเบาๆ ก่อนที่เขาจะนึกอะไรออก“เจ้ารีบเข้าไปเอาเสื้อผ้าชุดใหม่ของท่านนักบุญหญิงติดมือไปด้วย แล้วรีบวิ่งไปที่ห้องทำงานของท่านคาดินัน บอกกล่าวทหารหน้าประตูว่าท่านเคาน์มาขอเข้าพบเป็นการด่วน เจ้ารู้ใช่ไหมว่าแค่ลำพังชื่อของท่านเคาน์ดาโกแบทไม่ได้มีน้ำหนักมาพอที่ท่าน
ไมเนอร์รอคอย เขาอดทนรอคอยจนขุนนางและคนอื่นๆ ออกไปจนหมด เหลือเพียงแค่เขาอยู่ในห้องนี้กับท่านคาดินันและท่านนักบุญหญิงที่กำลังนั่งอยู่ข้างล่างเขาถอดเสื้อตัวนอกมาคลุมให้เธอ เพราะสภาพของท่านจานีคในตอนนี้มันอันตรายมากเกินไป อันตรายต่อหัวใจน่ะ เส้นผมของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย ส่วนชุดที่สวมก็ดูไม่เป็นทางการเท่าไหร่นัก กระโปรงยับไปหมด อาจจะเพราะนั่งอยู่ข้างล่างนาน..“เป็นอย่างไรแกรนด์ดยุค รสชาติของความตื่นเต้นและเร้าใจทำให้ท่านเกือบอดใจไม่ไหวเลยใช่ไหมครับ ตอนนี้ท่านก็พานางออกมาจากตรงนั้นได้แล้ว”แซลัสเข้าประเด็นในทันที โดยที่เขาไม่รอคอยให้แกรนด์ดยุคแห่งไบร์ดัวได้กล่าวคำใด“ทำไมท่านนักบุญหญิงถึงอยู่ที่นี่ครับ ท่านคาดินันพานางมาที่นี่ทำไมกัน”จานีคคลานออกมาจากใต้โต๊ะ ทันทีที่เธอลุกขึ้นยืนเธอก็เลือกที่จะยืนด้านหลังของท่านไมเนอร์ การกระทำเช่นนั้นยิ่งทำให้แซลัสเดือดดาลมากกว่าเก่า“โอ้แกรนด์ดยุค นั่นคือคำถามที่ท่านกำลังสงสัยจริงๆ อย่างนั้นหรือครับ ที่นี่คือห้องทำงานของข้า ถึงแม้ในบางเวลามันจะเป็นห้องประชุมก็เถอะ ข้าพาจานีคมาที่นี่..มิได้มีเจตนาพานางมาสวดมนต์อย่างแน่นอน และ..เจ้าควรเดินเข้ามาหาข้าได้แล
“การอุทิศตนเพื่อจักรวรรดิของท่านแกรนด์ดยุคช่างน่านับถือมากเหลือเกินนะครับ..เช่นนั้นแล้วมิสู้เรามาสลับที่กันดีกว่า ตรงนั้นเป็นทางลมพอดีอาจจะทำให้อาการไม่สบายของท่านแกรนด์ดยุคมันเลวร้ายลงไปมากยิ่งขึ้น..”การพยายามของคาดินันแซลัสนั้นทำให้ไมเนอร์เริ่มรู้สึกรำคาญใจ บุรุษผู้นั้นต้องการจะนำพาจานีคไปจากเขาให้ได้อย่างนั้นสินะช่างบังเอิญดีเหลือเกินที่หน้าที่ของเขาคือการปกป้องเธอเอาไว้ไมเนอร์เอื้อมมือไปดันใบหน้าของจานีคออกเล็กน้อย เขากำลังมีความสุขชนิดที่ว่าไม่เคยได้รับความรู้สึกเช่นนี้ที่ใดมาก่อนเขาต้องปกป้องเธอเอาไว้“ไม่รู้ว่าเหตุใดในวันนี้ท่านคาดินันถึงได้กล่าวชื่อของข้าออกมามากกว่าปกติ ช่วยเลิกสนใจข้าแล้วเร่งประชุมกันเถิด อย่างน้อยก็เพื่อจะหาข้อสรุปในเรื่องของกำลังทหารที่จะเดินขบวนและเงินสนับสนุนงานวันชาติในครั้งนี้ด้วย”ที่แกรนด์ดยุคกล่าวออกมานั้นไม่ผิดแม้แต่ครึ่งคำ เพราะดูเหมือนวันนี้ท่านคาดินันจะสนอกสนใจแกรนด์ดยุคมากเป็นพิเศษ ในทุกครั้งที่พูดคุยถึงเรื่องการประชุม ท่านคาดินันมักจะวนกลับมาเข้าเรื่องของ แกรนด์ดยุคอยู่เสมออะไรกันนะที่ทำให้เสาหินอันแข็งแกร่งของวิหารสักดิ์สิทธิ์ ไม่แม้แต่
ใครบ้างที่จะสามารถทำตัวให้เป็นปกติ เมื่อมีสตรีที่งดงามมากจนแทบหยุดหายใจกำลังนั่งอยู่ตรงกลางหว่างขาของเขา..ไมเนอร์กำลังย้ำกับตัวเองอีกครั้งว่าตามทฤษฎีแล้วนี่คือเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ก็แค่ปฏิกิริยาของร่างกายที่..มันเกินการควบคุมเท่านั้นเอง“....”นี่คืออะไรกัน ท่าทางเช่นนี้คือเขาต้องการจะปกปิดเธองั้นเหรอ ว่าส่วนนั้นของเขามันไม่ได้ตื่นตัวขึ้นมาจานีคอยากจะหัวเราะแต่ทว่าในยามนี้เธออยากจะทำให้ใบหน้าที่แสนงดงามของท่านคาดินันแซลัสบิดเบี้ยวดูสักหน่อย ฉะนั้นแล้วหากเขาเห็นท่าทีผิดปกติของท่านไมเนอร์ ในบางทีเขาอาจจะนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ก็ได้ และนั่นมันน่าสนุก..อีกทั้งเธออยากจะลองสัมผัสบุรุษที่กล้ามานอนกอดเธอทั้งคืนโดยที่ไม่ยอมบอกเธอด้วยว่าเขาไม่ใช่ท่านมาไคจานีคยกมือขึ้นมาเพื่อที่จะจับมือของเขาออก ปลายนิ้วแตะสัมผัสโดนบางอย่างที่แข็งขืน ฝ่ามือยังคงไล้วนเวียนอยู่ใต้สะดืออย่างเชื่องช้า เธอคลึงเป้ากางเกงของเขาอย่างใจเย็น สัมผัสภายนอกให้พอรู้สึกคุ้นเคยไมเนอร์เงยหน้าขึ้นในทันทีเพื่อไปมองทางอื่น เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะจดจ่อไปที่งานที่กำลังประชุมกันอยู่นี้“หากเป็นดังเช่นที่ท่านแกรนด์ดยุคกล่าวมาเช่นนั
“เอาล่ะเรามาเริ่ม..การหารือเกี่ยวกับการจัดงานวันชาติกันดีกว่านะ เริ่มจากท่านแกรนด์ดยุคก่อนเป็นไง ท่านมีข้อเสนอแนะอะไรที่ต้องการเป็นพิเศษรึเปล่า”ไมเนอร์ที่กำลังมองสบตากับจานีคพลันสะดุ้ง เมื่อชื่อของเขามันถูกกล่าวออกมาจากริมฝีปากของท่านคาดินัน แต่ไหนแต่ไร ท่านคาดินันผู้นั้นไม่เคยสนใจเขาเลย ทว่าในยามนี้กลับเอ่ยชื่อเขาและเอ่ยถามความเห็นจากเขาเนี่ยนะ?ช่างน่าตลกยิ่งนักไมเนอร์ขยับท่าทางให้ดี ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มให้กับทุกคนด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแฝดกันแต่มาไคเป็นพวกพูดไม่เก่ง ตรงข้ามกับไมเนอร์อย่างสิ้นเชิง“เรื่องนั้นข้าเห็นดีเห็นงามด้วยกับทางวิหารอยู่แล้วครับ และองค์รัชทายาทเองก็คิดเช่นเดียวกัน แต่ข้าอยากจะเสนอให้ท่านนักบุญหญิง อยู่ในขบวนรถม้าที่จะวิ่งไปตามท้องถนนหนทางเพื่อให้ชาวบ้านหรือว่าชาวเมืองได้ยลโฉมสตรีที่เป็นเทพธิดาของพระเจ้า..”จานีควางคางของเธอลงบนขาของไมเนอร์ เพราะใต้โต๊ะนี่มันไม่ได้กว้างอะไรเลย อีกทั้ง..ในร่างกายของเธอยังมีแท่งมหัศจรรย์นั่นที่กำลังกวนสมาธิของเธออยู่เขาต้องการอะไรกันแน่..ถึงได้เสนอไปแบบนั้น หรือต้องการให้นักบุญหญิงอย่างเธอมีอำนาจขึ้นมาบ้าง..เธ
นิ้วยาวแข็งแรงสอดลึกเข้ามาด้านใน ยิ่งเข้ากระทั้นปลายนิ้วเข้ามา จานีคก็ยิ่งกัดริมฝีปากแน่นมากยิ่งขึ้นแซลัสแสยะยิ้มเมื่อเขารับรู้ได้ถึงแรงตอดรัดอันแสนกระตือรือร้น ด้านในของเธอมันคับแคบมากทีเดียว อาจจะเพราะไม่มีใครเคยได้ล่วงผ่านเข้าไป..แค่เพียงหนึ่งนิ้วที่กดแทรกยังแทบขยับไม่ได้ด้วยซ้ำ นี่หากว่าเธอไม่เปียกชุ่มมากขนาดนี้ มีหวังเข้าไปไม่ได้อย่างแน่นอนว่าแต่ก่อนหน้านี้ระหว่างจานีคและอัศวินผู้นั้นทำอะไรกันนะ..หมอนั่นต้องเป็นมนุษย์ที่โง่เขลามากแค่ไหน ถึงได้ปล่อยให้จานีคยังไร้ซึ่งรอยขีดข่วนเช่นนี้หากว่าเขาเป็นหมอนั่น ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้จานีครอดพ้นมือของเขาไปได้หรอกไม่มีทาง!“อะ..อ๊า!”เจ็บ! ทว่ามันคือความเจ็บปวดที่ดูเหมือนความรู้สึกสุขสมจะมีชัยเหนือกว่า ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ร้องครางออกมาให้เขาได้ใจ พยายามไม่เปล่งเสียงแต่ทว่าการเก็บกลั้นเสียงของตัวเองนั้นทำได้ยากเต็มที ทั้งที่เสียงนั้นไม่มีอะไรน่าฟังแท้ๆ แต่เธอกับหยุดเปล่งเสียงออกไปไม่ได้เลยทรมาน..ทรมานมากเหลือเกินในช่วงเวลานี้ มีความรู้สึกมากมายผสมปนเปตีกันอยู่ในหัว ทั้งความรู้สึกไม่ยินยอม ความอยากจะเอาชนะและ..ความหลงใหลที่ทำให้เธอ