มาไคยืนอยู่ด้านหลังของท่านนักบุญหญิงจานีค จากมุมที่เขายืนอยู่นี้สามารถมองเห็นแววตาที่ไม่ประสงค์ดีนั้นได้อย่างชัดเจน เขาไม่ชอบขุนนางผู้นี้แต่ก็มิอาจปฏิเสธการเข้าพบนี้ได้เช่นกัน
ถึงเป็นเคาน์แต่ตระกูลดาโกแบทก็มีอำนาจมากพอสมควรในเรื่องของการค้า เรือสำเภาทุกลำในจักรวรรดิแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ติดชื่อของตระกูลดาโกแบทเอาไว้บนลำเรือทั้งนั้น เขาคิดว่าการที่ท่านนักบุญหญิงได้พูดคุยกับท่านเคาน์อาจจะส่งผลดีต่อตัวของท่านนักบุญหญิงเอง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อสายตาที่มองมามันเต็มไปด้วยความรู้สึกหยาบช้า! จานีคยกแก้มน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่วงท่าที่สง่างาม เธอไม่มีร่องรอยของความหวั่นไหวใดๆ เลยถึงแม้ว่าจะนั่งตรงข้ามกับบุรุษที่ครองใจสตรีทั่วทั้งจักรวรรดิ.. “อย่างที่ท่านนักบุญทราบว่านอกจากราชวงศ์ ตระกูลไบร์ดัว ก็มีตระกูลดาโกแบทของข้าเท่านั้นที่เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในงานวันชาติครั้งนี้ และ..ข้าคือผู้สนับสนุนหลักของวิหาร..เม็ดเงินมหาศาลที่ข้าสั่งให้ช่างปูผนังและหินอ่อนทั่วทุกพื้นที่ของเรือนพักท่านนักบุญ ก็คือความคิดของข้าทั้งนั้น..ข้าเอ่ยมาเช่นนั้นท่านน่าจะพอเดาได้แล้วใช่ไหมครับว่าข้าหมายถึงสิ่งใด” จานีคระบายยิ้มหวานให้กับท่านเคาน์ การที่เขามาหาเธอตั้งแต่เช้าตรู่แล้วหยิบยกเรื่องการเงินขึ้นมาพูดถึงเป็นอันดับแรกเท่านี้ก็พอจะบอกได้แล้วว่าสิ่งที่บุรุษรูปงามผู้นี้ต้องการจากเธอ น่าจะเป็น..การร่วมหลับนอนกับเขาสักสองสามครั้ง เพื่อแลกกับอำนาจที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยของนักบุญหญิง จริงๆ ในใจอยากจะด่ากราดออกมาแบบสาดเสียเทเสียว่าเธอไม่ได้ขายร่างกายนี้เพื่อเงินนะไอ้คนหื่นกามแต่เพราะ..ข้อความที่เด้งอยู่ข้างหน้าต่างหาก ชื่อฟลอยด์ ดาโกแบท ค่าเสน่ห์ที่สามารถพิชิตใจได้ 60 พลังเวท 30 พละกำลัง 60 ค่าความฉลาด 100 ค่าความหล่อ 100 ค่าความร่ำรวย 89 ความหล่อเธอไม่เถียง เรื่องความรวยก็เถียงไม่ได้ แต่เรื่องนิสัยความมั่นหน้ามั่นใจของเขา จานีคไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่นัก เขาดูเหมือนท่านคาดินันอีกคนที่ต่ำช้าและ..ดูสนใจเรื่องบนเตียงมากเสียจนมันน่าเกลียด “หากท่านเคาน์ไม่บอกกล่าวข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะเดาเรื่องที่ท่านเคาน์ต้องการได้อย่างไรกันคะ ตั้งแต่เล็กจนโตมีแต่ผู้คนด่าทอข้าเรื่องความไม่ทันคน ท่านเคาน์ได้โปรดเห็นแก่ความโง่เขลาของข้า บอกสิ่งที่ท่านต้องการมาเถิด” แค่เห็นแววตานั้น ฟลอยด์ก็รู้แล้วว่าเธอเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ แต่ที่เธอแกล้งโง่เพื่อที่จะทำให้เขากล่าวเรื่องเช่นนั้นออกมาตรงๆ เพื่อสร้างความอับอายให้เขางั้นหรือ ดูจากที่เธอบอกให้เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา นั่นก็หมายความว่าเธอคิดจะปฏิเสธข้อเสนอของเขาแล้ว นักบุญหญิงจานีค..ท่านคือสตรีที่งดงาม แต่เรื่องการแกล้งโง่ท่านทำได้ห่วยมากพอสมควร หลังจากที่เคาน์ดาโกแบทล่วงรู้คำตอบในใจแล้วว่าเขาไม่สามารถใช้หน้าตาและเงินทองมายั่วยวนนักบุญหญิงคนใหม่ได้ เช่นนั้นเขาจึงพุ่งเป้าไปที่อัศวินศักดิ์สิทธิ์แทน “ข้าแค่แวะมาเยี่ยมเท่านั้น เผื่อวันข้างหน้าเราจะได้ทำงานร่วมกันอย่างไม่ติดขัด ยกตัวอย่างเช่นในวันพิธีสถาปนาองค์รัชทายาทที่จะจัดขึ้นในอีกห้าเดือน..หากพวกเจ้าต้องการอำนาจของดาโกแบทในการลงนามเพื่อยอมรับองค์จักรพรรดิองค์ใหม่ เจ้า..อัศวินศักดิ์สิทธิ์ เจ้าสามารถพานักบุญหญิงไปเข้าพบข้าเป็นการส่วนตัวได้เลยนะ..ข้ายินดีต้อนรับ” มาไคไม่ได้อยู่ในสถานะจะมีปากเสียงกับเคาน์ผู้เรืองอำนาจ เขาจึงก้มหน้าลงโดยไม่กล่าวคำใดออกมา “เช่นนั้นพบเจอกันที่ห้องประชุมนะครับท่านนักบุญหญิง..หรือหากเปลี่ยนใจอยากรู้จักข้ามากกว่า ข้าพักอยู่ที่นี่อีกคืน ประตูห้องของข้านั้นกลอนมันไม่ค่อยดีเท่านั้นแค่ท่านผลักเข้าไปเบาๆ เกรงว่าประตูนั้นคงจะเปิดอ้าออกเพื่อให้ท่านได้เข้าไป..” จานีคแย้มยิ้มที่มุมปาก รอยยิ้มนั้นไปไม่ถึงดวงตาด้วยซ้ำ บ่งบอกว่าเธอไม่คิดจะไปหาเขาที่ห้องอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว เขาเสนอให้ขนาดนี้แล้ว หากไม่สนใจก็ช่างปะไร เป็นสตรีที่สวยมากเรื่องนั้นไม่เถียงหรอก ตอนที่เขาหนุ่มๆ เขาเองก็นอนกับสตรีมามากมายแต่ยังไม่มีสตรีคนไหนที่งดงามได้เทียบเท่าความงามบนใบหน้านั้น.. “...ให้โอกาสอีกหน่อยก็แล้วกัน บางทีข้าควรรอคอยให้ความคิดของท่านนักบุญหญิงตกผลึกซะก่อน นางอาจจะเขินอายอัศวินผู้นั้นจึงไม่กล้าพูดความในใจออกมา จริงๆ นางอาจจะตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกพบแล้วก็ได้..ปากแข็งจังเลยนะ หึหึหึ” เคาน์ดาโกแบทเดินพึมพำไปตามทางเดินอย่างอารมณ์ดี แตกต่างจากไมเนอร์ที่กำลังเดินออกมาจากห้องพักของเขาอย่างสิ้นเชิง บนโลกใบนี้มันจะมีอะไรน่าอึดอัดใจ เท่ากับการอยู่ใกล้สตรีที่เขารู้สึกดีด้วยแต่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นเอาไว้ เพราะไม่อยากแย่งชิงเธอมาจากมาไค.. เกิดมาไม่เคยรู้สึกแย่แบบนี้เลย.. “ท่านแกรนด์ดยุค..” เสียงนั้นทำให้ไมเนอร์หยุดฝีเท้า เมื่อเขาหันหลังกลับไปก็พบเจอกับท่านนักบุญหญิงที่กำลังเดินมาทางเขา ที่ด้านหลังของหญิงงามคือมาไคที่มีสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม “โชคดีจังเลยนะคะที่ข้าออกมาพอดี เราเลยได้เดินเข้าไปในการประชุมพร้อมกับ ข้าประหม่าพอสมควรเลยค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นบางอย่างที่ข้าควรกระทำ ข้าจะต้องไม่หลบหนีมันอีก..” หากเขาได้ยินไม่ผิด เธอกำลังบอกว่าจะเข้าประชุมอย่างนั้นหรือ? ภาพเรื่องเมื่อวานเวียนกลับมาอีกหน ถึงภาพที่เราทั้งคู่กำลังทำในเรื่องน่าละอายในห้องประชุม ความกล้าหาญของท่านจานีคน่านับถือยิ่งนัก และเขาเองก็ควรจะเก็บซ่อนทุกความรู้สึกเอาไว้ให้มิดชิดเช่นเดียวครับ “ครับ ในนามของแกรนด์ดยุคแห่งไบร์ดัว ข้าจะปกป้องท่านนักบุญหญิงเอง” รอยยิ้มของจานีคค่อยๆ จางหายอย่างช้าๆ เมื่อเธอมองเห็นท่าทีเย็นชาราวกับคนที่ไม่รู้จักกันของท่านไมเนอร์ นี่เธอทำอะไรผิดงั้นเหรอ ทำไมอยู่ๆ เขาถึงทำท่าทางเหมือนกับว่าเราคือคนแปลกหน้าอะไรแบบนั้น.. ทั้งๆ ที่เมื่อคืนมันดีมาก เขาไม่ได้คิดหรือว่ารู้สึกแบบเดียวกันงั้นเรอะ!! ผู้ชายในเรื่องนี้มันเป็นอะไรกันหมดนะ คนที่เคยแนบชิดมาทำเย็นชา ยังจะมีคนที่อ่อยแทบตายก็ไม่ยอมทำ แล้วที่เจอบ่อยหน่อยก็คนที่อยากทำกับเธอแทบบ้าแต่ไม่รู้สึกอะไรเลย ต้องการแค่เรื่องบนเตียงเพียงอย่างเดียวเรื่องหัวใจไม่ขอข้องเกี่ยว จานีคกลอกตามองบน เธอเชิดรั้นใบหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วเดินผ่านท่านแกรนด์ดยุคไมเนอร์ไปในทันที เขาเชิดใส่เธอได้คนเดียวรึไง เธอเองก็เชิดใส่เขาได้เหมือนกันนั่นแหละ!!มาไคเผลอยิ้มที่มุมปาก เมื่อเขามองเห็นริมฝีปากที่เชิดรั้นขึ้นเล็กน้อยของท่านจานีค หลังจากอยู่ด้วยกันมาสักระยะมันทำให้เขาเข้าใจในทันทีว่าช่วงเวลานี้ คงกำลังมีเรื่องอะไรสักอย่างที่ทำให้ท่านจานีคไม่พอใจ และไอ้เรื่องที่ว่านั่นก็ยืนทึ่มอยู่เบื้องหน้าของเขาหรือไม่..บางทีเขาควรจะพูดคุยกับพี่ชายให้รู้เรื่อง เพราะตัวของไมเนอร์ก็คงแบกความรู้สึกผิดเอาไว้เช่นเดียวกัน กับเขาท่านจานีคเป็นผู้ออกปากพูดคุยแต่กับไมเนอร์ที่ไม่ได้อยู่กับท่านจานีคตลอดเวลา..คงเป็นหน้าที่ของเขาสินะที่จะต้อง..พูดคุยกับพี่ชายให้เข้าใจ“บังเอิญจังเลยนะครับท่านนักบุญ..เรากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ห้องประชุมเหมือนกันพอดีเลย หากว่าท่านไม่รังเกียจเช่นนั้นเข้าไปในนั้นพร้อมกันกับข้าดีไหมครับ”จานีคที่กำลังนึกโกรธทั้งไมเนอร์และมาไค เมื่อเธอมาเจอคนน่ารำคาญอย่างเคาน์ ฟลอยด์ ใจจริงเธออาจจะด่าเขานะ แต่..การใจร้อนไม่ใช่เรื่องที่ดี อีกทั้งในอนาคตเขาคือหนึ่งในตัวละครที่เธอต้องพิชิตใจด้วยนะสิ“ด้วยความยินดีค่ะท่านเคาน์”ฟลอยด์ยิ้มหน้าระรื่น ไม่เสียแรงจริงๆ ที่เขามาดักรออยู่ตรงนี้ บรรยากาศระหว่างท่านนักบุญหญิงและท่านแกรนด์ดยุคไม่ดีเท่าไหร่นัก นี่
แซลัสจ้องมองใบหน้าของจานีคไม่ละสายตา การพบเจอเธอไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไรเลย เพราะเมื่อวานมีชื่อของเธอถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก อาจจะทำให้จานีคคิดว่าเธอควรมาเข้าร่วมประชุมเพื่อไม่ให้ชื่อของตัวเองถูกพูดถึงในทางไม่ดีเธอมาที่นี่ไม่แปลก แต่แปลกที่บุรุษที่เธอเดินมาด้วยคือเคาน์ดาโกแบท บุรุษผู้ได้ชื่อว่านอนกับสตรีไม่เลือกหน้า หรือว่านางอ่อนต่อโลกมากขนาดที่ว่าไม่รู้ชื่อเสียงที่เลวร้ายของท่านเคาน์กันนะ..มิรู้หรืออย่างไรว่าการเดินมากับบุรุษเช่นนั้นจะทำให้ชื่อเสียงของเธอยิ่งแปดเปื้อนมากกว่าเดิม“อันที่จริงข้าจัดเตรียมที่นั่งสำหรับท่านนักบุญหญิงของเราเอาไว้แล้ว..จานีคมานั่งตรงนี้สิ”ความรู้สึกขุ่นเคืองอัดแน่นเต็มอก แต่ แซลัสก็ยังคงปั้นหน้ายิ้มแย้มให้แก่จานีคอยากปฏิเสธชะมัด แต่ก็นั่นแหละคำสั่งของเขาเธอขัดได้ที่ไหนกัน เมื่อข้อความสีแดงเด้งขึ้นมา เธอก็แทบไม่สามารถคงสติเอาไว้ได้เลยด้วยซ้ำ“ขออภัยด้วยนะคะท่านเคาน์..”เธอย่อตัวลงก่อนจะเดินไปยังที่นั่งข้างๆ ท่านคาดินันแซลัส ฟลอยด์กัดฟันกรอด เขาอุตส่าห์ได้โอกาสดีๆ ที่ถือครองเอาไว้ทั้งที เจ้าหัวเหลืองนี่กล้าดีอย่างไรมาแย่งนักบุญจานีคไปจากเขาน่ะเขาขึงตาใส่ค
จานีคกระตุกยิ้มที่มุมปาก..นี่เขายังมีของแบบนั้นเก็บเอาไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานอีกอย่างนั้นหรือ? บางทีรสนิยมของท่านคาดินันอาจจะไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองก็ได้ และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยในการที่จะพิชิตใจเขาได้น่ะ“เรื่องนั้น..ข้าคิดว่าท่านแซลัสควรให้ข้าได้พักหรือว่าทำใจสักหน่อยนะคะ เพราะเมื่อวานนี้กว่าจะนำพาเจ้าแท่งสีเหลืองทองนั้นออกจากร่างกายได้..ข้าก็แทบจะตายเหมือนกัน..หากมันจะเอาออกยากเย็นเช่นนั้นท่านก็ควรจะบอกกล่าวกับข้าก่อนสิคะ..”เธอกะพริบตาเบาๆ เพื่อมองหน้าเขา การแสดงออกของจานีคนั้นสบายๆ มากกว่าทุกวัน นั่นทำให้แซลัสกำลังประเมินความคิดของเธออยู่..ปกติแล้วเธอจะเกร็งมากๆ เมื่ออยู่ใกล้ๆ เขา แถมในแววตานั้นยังมีวี่แววความเกลียดชังฉายชัดออกมาอีกด้วยเขาไม่ชินกับจานีคที่ดูน่ารักและออดอ้อนคนนี้เลย หรือเธอคิดว่านี่นั่งข้างๆ ของเขานั้นปลอดภัย คงคิดว่าในห้องประชุมนี้มีผู้คนมากมาย และเขาคงไม่กล้าที่จะทำอะไรเธออย่างนั้นสินะประมาทเกินไปแล้วจานีค..เขาไม่ใช่คนที่จะยินยอมพลาดโอกาสทองในการทำให้ใบหน้านั้นเกิดการปั่นป่วนจนรอยยิ้มที่แสนมั่นใจนั่นจางหายไปจากใบหน้านั้น..แซลัสยกมือขึ้นมาเท้าคางเขากำลังอยู
“ไมเนอร์..เจ้ารู้ดีว่าน้องเป็นคนอย่างไร มาไคเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขามักจะเก็บทุกเรื่องเอาไว้ในหัวใจดวงน้อยของเขา ฉะนั้นแล้วในฐานะที่เจ้าคือพี่..อย่าปล่อยให้หัวใจดวงน้อยๆ ของมาไคแบกรับเรื่องราวมากมายเอาไว้เพียงลำพังนะลูกรัก..”ไมเนอร์รู้ดีว่าชีวิตของเขาในตอนนี้ คนที่เรียกได้ว่าครอบครัวคือท่านแม่และมาไคท่านพ่อของเราด่วนจากไปด้วยโรคร้าย และในวันที่เขากำลังจะขึ้นเป็นผู้นำตระกูล เหล่าญาติของท่านพ่อก็มาคัดค้านกันอย่างเต็มที่ เพราะทุกคนคิดว่าเด็กอายุ 15 ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะขึ้นเป็นผู้นำ ตระกูลไบร์ดัว แต่อีกเหตุผลหลักก็คือ หากพวกนั้นสามารถผลักเขาออกไปจากตำแหน่งและขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลแทนได้ ทั้งอำนาจและเงินทองมากมายที่ท่านพ่อสร้างมาก็จะตกเป็นของคนผู้นั้น“พินัยกรรมได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงเรื่องที่ข้าจะต้องได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลไบร์ดัว ฉะนั้นแล้วไม่มีเหตุผลอันใดที่ข้าจะต้องทนฟังเสียงของญาติที่กระหายในเงินทองและอำนาจ!!”เขาต้องแข็งแกร่ง ไมเนอร์บอกตัวเองเช่นนั้น หากอยากปกป้องตำแหน่งแกรนด์ ดยุคเอาไว้ ปกป้องท่านแม่และน้องชายเขาจะแสดงด้านที่อ่อนแอออกมาไม่ได้เมื่อพิ
120 ?ค่าตัวเลขที่ปรากฏต่อสายตานั้นทำให้จานีคต้องกะพริบตาซ้ำอีกครั้ง ใช่แล้วในคราแรกเธอคิดว่าตัวเอง..ตาฝาด ตาฝาดไปแน่ๆ แต่ทว่าสิ่งที่บอกกับเธอว่านี่คือเรื่องจริง ตัวเลขที่เธอเห็นมันไม่ใช่ในความฝันก่อนวันหวยออกแต่อย่างใด มันคือค่าเสน่ห์ที่จะต้องพิชิตใจเจ้าของร่างที่นั่งอยู่ข้างเธอจริงๆ“คุณกำลังตกอยู่ในสถานะถูกล่อลวง”“เควสพิเศษปรากฏ ทำความรู้จักตัวละครลึกลับเพื่อปูทางไปยังตอนจบแสนสุข แค่ทำให้ตัวละครลีออน วอลต์ สนใจในตัวคุณเท่านั้น”สำเร็จภารกิจ ได้รับค่าเสน่ห์เพิ่มจำนวน 5 หน่วยภารกิจล้มเหลว –ค่าเสน่ห์ 5 หน่วยหากถูกลบค่าเสน่ห์ ความสามารถในการพิชิตใจของไมเนอร์ ไบร์ดัวจะถูกยกเลิกเพราะคุณผู้เล่นมีค่าพลังไม่ถึง 45 ตามกำหนดกรุณาทำเควสพิเศษ อย่างระมัดระวังด้วยนะคะ“.......”นี่ฉันจะต้องคำเควสในสภาพที่ตัวเองถูกล่อลวงแบบนี้จริงดิ ร่างกายร้อนแทบมอดไหม้ สองแก้มแดงเห่อร้อนคล้ายจะมีควันพุ่งออกมา แค่รับมือท่านคาดินันแซลัสที่กำลังเอาแต่ใจก็เกินความสามารถแล้ว ยังจะต้องมาพบเจอกับการต้องทำให้..นักเวทลีออนสนใจอีกงั้นเรอะ!!แต่การยินยอมนั่งอยู่เฉยๆ เพื่อมองดูค่าเสน่ห์ของตัวเองลดลงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถ
“ตอนนี้เราไม่เหลือทางเลือกแล้วลูกรักไม่ว่าอย่างไร ในเช้าวันพรุ่งนี้รถม้าของวิหารศักดิ์สิทธิ์จะเดินทางมาที่นี่ หากไม่มีสตรีใดเดินขึ้นบนรถม้า เราจะตายกันหมดนะจานีค..นั่นลูกกำลังฟังพ่ออยู่รึเปล่า?”แม่งเอ้ย!! สุดท้ายไอ้เกมบ้านี่ก็ส่งฉันมาในบทบาทสุดรันทดอย่างบทบาทของนักบุญหญิงงั้นเรอะก็บอกว่าไม่เอาบทบาทนี้ไงล่ะโว้ย!!ทันทีที่ฉันบ่นจบ หน้าต่างของเกมเด้งขึ้นมาในทันทีนักบุญหญิง จานีคแห่งตระกูลโอเรียสค่าเสน่ห์ 20พลังเวท -2ความฉลาด 10ความร่ำรวย -20ความสวย 98นั่นแหละ นั่นคือปัญหาที่ฉันกำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ ตัวฉันเห็นแก่เงินอันน้อยนิดในการหาผู้ทดลองเล่นในเกมเสมือนจริง เพราะแบบนั้นก็เลยสมัครไปและได้รับคัดเลือกมา..แต่ทว่าทันทีที่เข้ามาในเกมนี้ฉันก็พบว่าข้อตกลงของเกมที่ได้ให้คำมั่นกับฉันเอาไว้มันไม่ตรงตามที่ตกลงกันเอาไว้เลยข้อแรก..ฉันออกจากเกมนี้ไปไม่ได้จนกว่าจะผ่านรูททั้งหมด ซึ่งตัวละครชายในเกมนี้มีสิบคน..ใช่แล้วสิบคน จะผ่านทั้งสิบคนไปได้ไม่ใช่ว่าจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเลยงั้นเรอะ!และข้อสอง ฉันเขียนลงไปในใบสัญญาด้วยตัวบรรจงว่าบทบาทที่ฉันอยากได้ คือ..องค์หญิง..คือบทบาทองค์หญิงไงละโว้
ผมสีทองของเขานั้นทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังเปล่งประกายอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่เจิดจ้าและในวินาทีที่เขาสั่งให้ฉันเดินเข้าไปหาเขา ฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังถูกมนต์สะกด เพราะค่าเสน่ห์ของเขานั้นมันมากเกินกว่าที่เธอจะยอมรับได้นี่คือตัวละครตัวที่สิบที่ฉันจะต้องพิชิต แต่ทว่าทำไม..ฉันต้องเจอเขาเป็นคนที่สองด้วยนะ นี่มันไม่ยุติธรรมเลยค่าเสน่ห์20ของฉันจะเอาอะไรไปสู้กับค่าเสน่ห์100ของเขากันนะ บ้าชะมัดเลย!“ขออภัยด้วยครับท่านค่าดินัน แต่ท่านนักบุญหญิงพึ่งจะเดินทางมาที่นี่ และข้าอยากพานางไปที่ห้องพักก่อน..อีกทั้งท่านนักบุญหญิงต้องเปลี่ยนชุดและเข้าร่วมพิธีต้อนรับอีกนะครับ..”ดวงตาของแซรัสหรี่ลงเล็กน้อย เขากำลังไม่พอใจ ไม่พอใจอย่างมากที่มาไคกำลังขัดขวางเขาแต่ทว่านี่มันพึ่งจะเริ่มต้น ยังมีเวลาอีกมากมายให้เขาได้เพลิดเพลินไปกับการดื่มด่ำกับร่างกายที่แสนหอมหวานนั่น..“เช่นนั้นเจ้าก็พานักบุญหญิงคนใหม่ของเราไปที่พักเถิดมาไค..”อัศวินศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นไม่ธรรมดาเพราะพี่ชายของเจ้านั่นคือแกรนด์ดยุคและยศของหมอนั่นคือท่านชายด้วยซ้ำเขาไม่อยากจะมีปัญหาที่มากวนใจ อะไรที่ปล่อยไปได้ก็ควรจะปล่อยไปก่
มาไคยกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเอง เมื่อกระดิ่งถูกสั่นขึ้นและในยามนี้เขาจะต้องเดินทางไปที่ห้องนอนของท่านนักบุญหญิงนางงดงาม..ถึงแม้จะมิได้เย้ายวนเท่าไหร่ แต่ทว่ารอยยิ้มนั้นก็ทำให้เขารู้สึกสั่นไหวได้ไม่ยากเขาไม่รู้ว่าท่านนักบุญจะเรียกใช้ด้วยเหตุผลอันใด แต่ทว่าเขาไม่มีเหตุผลให้ตัวเองปฏิเสธการรับใช้ท่านนักบุญหญิงมาไคดึงสติของตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็วเพื่อที่เขาจะได้เดินไปที่ห้องของท่านนักบุญหญิงด้วยใบหน้าที่เฉยชาต่อทุกสิ่ง ทันทีที่เขาเข้ารับการปฏิญาณตน นั่นหมายความว่าเขาจะต้องคงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของตนเอง อีกหน้าที่หนึ่งของอัศวินศักดิ์สิทธิ์คือการรับใช้ท่านนักบุญหญิง รับใช้ที่ว่านั่นคือ..การรับใช้แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงเธอดูเหมือนลูกกระต่ายตัวน้อยที่ตื่นกลัวในยามที่เห็นหน้าท่านคาดินัน ท่านนักบุญหญิงสั่นไหวมากจนเขารู้สึกเป็นห่วง ถึงได้ก้าวเข้าไปเพื่อที่จะขัดขวางการชักชวนของท่านคาดินัน เขารู้ว่านั่นคือการ กระทำที่อุกอาจเป็นอย่างยิ่ง อัศวินเช่นเขาไม่ควรขัดใจท่านคาดินัน..แต่ตัวของท่านคาดินันเองก็ขัดใจเขาไม่ได้เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแค่อัศวินศักดิ์สิทธิ์แต่เพราะยศเก่าของเขาคือยศท่านช
120 ?ค่าตัวเลขที่ปรากฏต่อสายตานั้นทำให้จานีคต้องกะพริบตาซ้ำอีกครั้ง ใช่แล้วในคราแรกเธอคิดว่าตัวเอง..ตาฝาด ตาฝาดไปแน่ๆ แต่ทว่าสิ่งที่บอกกับเธอว่านี่คือเรื่องจริง ตัวเลขที่เธอเห็นมันไม่ใช่ในความฝันก่อนวันหวยออกแต่อย่างใด มันคือค่าเสน่ห์ที่จะต้องพิชิตใจเจ้าของร่างที่นั่งอยู่ข้างเธอจริงๆ“คุณกำลังตกอยู่ในสถานะถูกล่อลวง”“เควสพิเศษปรากฏ ทำความรู้จักตัวละครลึกลับเพื่อปูทางไปยังตอนจบแสนสุข แค่ทำให้ตัวละครลีออน วอลต์ สนใจในตัวคุณเท่านั้น”สำเร็จภารกิจ ได้รับค่าเสน่ห์เพิ่มจำนวน 5 หน่วยภารกิจล้มเหลว –ค่าเสน่ห์ 5 หน่วยหากถูกลบค่าเสน่ห์ ความสามารถในการพิชิตใจของไมเนอร์ ไบร์ดัวจะถูกยกเลิกเพราะคุณผู้เล่นมีค่าพลังไม่ถึง 45 ตามกำหนดกรุณาทำเควสพิเศษ อย่างระมัดระวังด้วยนะคะ“.......”นี่ฉันจะต้องคำเควสในสภาพที่ตัวเองถูกล่อลวงแบบนี้จริงดิ ร่างกายร้อนแทบมอดไหม้ สองแก้มแดงเห่อร้อนคล้ายจะมีควันพุ่งออกมา แค่รับมือท่านคาดินันแซลัสที่กำลังเอาแต่ใจก็เกินความสามารถแล้ว ยังจะต้องมาพบเจอกับการต้องทำให้..นักเวทลีออนสนใจอีกงั้นเรอะ!!แต่การยินยอมนั่งอยู่เฉยๆ เพื่อมองดูค่าเสน่ห์ของตัวเองลดลงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถ
“ไมเนอร์..เจ้ารู้ดีว่าน้องเป็นคนอย่างไร มาไคเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขามักจะเก็บทุกเรื่องเอาไว้ในหัวใจดวงน้อยของเขา ฉะนั้นแล้วในฐานะที่เจ้าคือพี่..อย่าปล่อยให้หัวใจดวงน้อยๆ ของมาไคแบกรับเรื่องราวมากมายเอาไว้เพียงลำพังนะลูกรัก..”ไมเนอร์รู้ดีว่าชีวิตของเขาในตอนนี้ คนที่เรียกได้ว่าครอบครัวคือท่านแม่และมาไคท่านพ่อของเราด่วนจากไปด้วยโรคร้าย และในวันที่เขากำลังจะขึ้นเป็นผู้นำตระกูล เหล่าญาติของท่านพ่อก็มาคัดค้านกันอย่างเต็มที่ เพราะทุกคนคิดว่าเด็กอายุ 15 ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะขึ้นเป็นผู้นำ ตระกูลไบร์ดัว แต่อีกเหตุผลหลักก็คือ หากพวกนั้นสามารถผลักเขาออกไปจากตำแหน่งและขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลแทนได้ ทั้งอำนาจและเงินทองมากมายที่ท่านพ่อสร้างมาก็จะตกเป็นของคนผู้นั้น“พินัยกรรมได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงเรื่องที่ข้าจะต้องได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลไบร์ดัว ฉะนั้นแล้วไม่มีเหตุผลอันใดที่ข้าจะต้องทนฟังเสียงของญาติที่กระหายในเงินทองและอำนาจ!!”เขาต้องแข็งแกร่ง ไมเนอร์บอกตัวเองเช่นนั้น หากอยากปกป้องตำแหน่งแกรนด์ ดยุคเอาไว้ ปกป้องท่านแม่และน้องชายเขาจะแสดงด้านที่อ่อนแอออกมาไม่ได้เมื่อพิ
จานีคกระตุกยิ้มที่มุมปาก..นี่เขายังมีของแบบนั้นเก็บเอาไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานอีกอย่างนั้นหรือ? บางทีรสนิยมของท่านคาดินันอาจจะไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองก็ได้ และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยในการที่จะพิชิตใจเขาได้น่ะ“เรื่องนั้น..ข้าคิดว่าท่านแซลัสควรให้ข้าได้พักหรือว่าทำใจสักหน่อยนะคะ เพราะเมื่อวานนี้กว่าจะนำพาเจ้าแท่งสีเหลืองทองนั้นออกจากร่างกายได้..ข้าก็แทบจะตายเหมือนกัน..หากมันจะเอาออกยากเย็นเช่นนั้นท่านก็ควรจะบอกกล่าวกับข้าก่อนสิคะ..”เธอกะพริบตาเบาๆ เพื่อมองหน้าเขา การแสดงออกของจานีคนั้นสบายๆ มากกว่าทุกวัน นั่นทำให้แซลัสกำลังประเมินความคิดของเธออยู่..ปกติแล้วเธอจะเกร็งมากๆ เมื่ออยู่ใกล้ๆ เขา แถมในแววตานั้นยังมีวี่แววความเกลียดชังฉายชัดออกมาอีกด้วยเขาไม่ชินกับจานีคที่ดูน่ารักและออดอ้อนคนนี้เลย หรือเธอคิดว่านี่นั่งข้างๆ ของเขานั้นปลอดภัย คงคิดว่าในห้องประชุมนี้มีผู้คนมากมาย และเขาคงไม่กล้าที่จะทำอะไรเธออย่างนั้นสินะประมาทเกินไปแล้วจานีค..เขาไม่ใช่คนที่จะยินยอมพลาดโอกาสทองในการทำให้ใบหน้านั้นเกิดการปั่นป่วนจนรอยยิ้มที่แสนมั่นใจนั่นจางหายไปจากใบหน้านั้น..แซลัสยกมือขึ้นมาเท้าคางเขากำลังอยู
แซลัสจ้องมองใบหน้าของจานีคไม่ละสายตา การพบเจอเธอไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไรเลย เพราะเมื่อวานมีชื่อของเธอถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก อาจจะทำให้จานีคคิดว่าเธอควรมาเข้าร่วมประชุมเพื่อไม่ให้ชื่อของตัวเองถูกพูดถึงในทางไม่ดีเธอมาที่นี่ไม่แปลก แต่แปลกที่บุรุษที่เธอเดินมาด้วยคือเคาน์ดาโกแบท บุรุษผู้ได้ชื่อว่านอนกับสตรีไม่เลือกหน้า หรือว่านางอ่อนต่อโลกมากขนาดที่ว่าไม่รู้ชื่อเสียงที่เลวร้ายของท่านเคาน์กันนะ..มิรู้หรืออย่างไรว่าการเดินมากับบุรุษเช่นนั้นจะทำให้ชื่อเสียงของเธอยิ่งแปดเปื้อนมากกว่าเดิม“อันที่จริงข้าจัดเตรียมที่นั่งสำหรับท่านนักบุญหญิงของเราเอาไว้แล้ว..จานีคมานั่งตรงนี้สิ”ความรู้สึกขุ่นเคืองอัดแน่นเต็มอก แต่ แซลัสก็ยังคงปั้นหน้ายิ้มแย้มให้แก่จานีคอยากปฏิเสธชะมัด แต่ก็นั่นแหละคำสั่งของเขาเธอขัดได้ที่ไหนกัน เมื่อข้อความสีแดงเด้งขึ้นมา เธอก็แทบไม่สามารถคงสติเอาไว้ได้เลยด้วยซ้ำ“ขออภัยด้วยนะคะท่านเคาน์..”เธอย่อตัวลงก่อนจะเดินไปยังที่นั่งข้างๆ ท่านคาดินันแซลัส ฟลอยด์กัดฟันกรอด เขาอุตส่าห์ได้โอกาสดีๆ ที่ถือครองเอาไว้ทั้งที เจ้าหัวเหลืองนี่กล้าดีอย่างไรมาแย่งนักบุญจานีคไปจากเขาน่ะเขาขึงตาใส่ค
มาไคเผลอยิ้มที่มุมปาก เมื่อเขามองเห็นริมฝีปากที่เชิดรั้นขึ้นเล็กน้อยของท่านจานีค หลังจากอยู่ด้วยกันมาสักระยะมันทำให้เขาเข้าใจในทันทีว่าช่วงเวลานี้ คงกำลังมีเรื่องอะไรสักอย่างที่ทำให้ท่านจานีคไม่พอใจ และไอ้เรื่องที่ว่านั่นก็ยืนทึ่มอยู่เบื้องหน้าของเขาหรือไม่..บางทีเขาควรจะพูดคุยกับพี่ชายให้รู้เรื่อง เพราะตัวของไมเนอร์ก็คงแบกความรู้สึกผิดเอาไว้เช่นเดียวกัน กับเขาท่านจานีคเป็นผู้ออกปากพูดคุยแต่กับไมเนอร์ที่ไม่ได้อยู่กับท่านจานีคตลอดเวลา..คงเป็นหน้าที่ของเขาสินะที่จะต้อง..พูดคุยกับพี่ชายให้เข้าใจ“บังเอิญจังเลยนะครับท่านนักบุญ..เรากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ห้องประชุมเหมือนกันพอดีเลย หากว่าท่านไม่รังเกียจเช่นนั้นเข้าไปในนั้นพร้อมกันกับข้าดีไหมครับ”จานีคที่กำลังนึกโกรธทั้งไมเนอร์และมาไค เมื่อเธอมาเจอคนน่ารำคาญอย่างเคาน์ ฟลอยด์ ใจจริงเธออาจจะด่าเขานะ แต่..การใจร้อนไม่ใช่เรื่องที่ดี อีกทั้งในอนาคตเขาคือหนึ่งในตัวละครที่เธอต้องพิชิตใจด้วยนะสิ“ด้วยความยินดีค่ะท่านเคาน์”ฟลอยด์ยิ้มหน้าระรื่น ไม่เสียแรงจริงๆ ที่เขามาดักรออยู่ตรงนี้ บรรยากาศระหว่างท่านนักบุญหญิงและท่านแกรนด์ดยุคไม่ดีเท่าไหร่นัก นี่
มาไคยืนอยู่ด้านหลังของท่านนักบุญหญิงจานีค จากมุมที่เขายืนอยู่นี้สามารถมองเห็นแววตาที่ไม่ประสงค์ดีนั้นได้อย่างชัดเจน เขาไม่ชอบขุนนางผู้นี้แต่ก็มิอาจปฏิเสธการเข้าพบนี้ได้เช่นกันถึงเป็นเคาน์แต่ตระกูลดาโกแบทก็มีอำนาจมากพอสมควรในเรื่องของการค้าเรือสำเภาทุกลำในจักรวรรดิแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ติดชื่อของตระกูลดาโกแบทเอาไว้บนลำเรือทั้งนั้น เขาคิดว่าการที่ท่านนักบุญหญิงได้พูดคุยกับท่านเคาน์อาจจะส่งผลดีต่อตัวของท่านนักบุญหญิงเองแต่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อสายตาที่มองมามันเต็มไปด้วยความรู้สึกหยาบช้า!จานีคยกแก้มน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่วงท่าที่สง่างาม เธอไม่มีร่องรอยของความหวั่นไหวใดๆ เลยถึงแม้ว่าจะนั่งตรงข้ามกับบุรุษที่ครองใจสตรีทั่วทั้งจักรวรรดิ..“อย่างที่ท่านนักบุญทราบว่านอกจากราชวงศ์ ตระกูลไบร์ดัว ก็มีตระกูลดาโกแบทของข้าเท่านั้นที่เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในงานวันชาติครั้งนี้ และ..ข้าคือผู้สนับสนุนหลักของวิหาร..เม็ดเงินมหาศาลที่ข้าสั่งให้ช่างปูผนังและหินอ่อนทั่วทุกพื้นที่ของเรือนพักท่านนักบุญ ก็คือความคิดของข้าทั้งนั้น..ข้าเอ่ยมาเช่นนั้นท่านน่าจะพอเดาได้แล้วใช่ไหมครับว่าข้าหมายถึงสิ
แซลัสยกมือขึ้นมาเสยเส้นผมสีทองไปไว้ที่ด้านหลัง เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีอำพันเหม่อมองออกไปยังเรือนพักส่วนที่เป็นหลังคาสีทองและสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลังที่พักของนักบุญหญิง..แล้วแท่งอัญมณีที่เขาเป็นผู้กดแทรกมันเข้าไปในร่างกายของเธอ ยามนี้มันมิได้อยู่ในร่างกายของเธออีกต่อไปเขาแค่นหัวเราะออกมาพร้อมกับคลายชุดคลุมอาบน้ำที่กำลังสวมอยู่เพื่อให้ลมเย็นยามราตรีพัดผ่านร่างกายของเขาไก..อย่างน้อยเขาก็หวังว่าลมเย็นๆ นั่นจะช่วยทำให้ความเร่าร้อนที่อยู่ในใจจางหายไปได้บ้างเขาไม่อยากปล่อยเธอไป ไม่ได้อยากปล่อยมือจากร่างกายนั้นเลย..แต่เพราะการรั้งเอาไว้มันไม่มีประโยชน์..เขาทำร้าย ทรมาน บังคับ และอีกมากมายที่เขากระทำกับเธอเพื่อให้จานีคผู้นั้นตระหนักให้มากว่านางกำลังอยู่ในอุ้งมือของเขา อยากให้นางเห็นว่าเขาคือผู้กุมชีวิตของนางเอาไว้ อยากให้นางเทิดทูนบูชาเขาให้มาก..แต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม คำกล่าวสรรเสริญที่ไร้ค่าไร้ราคาเพราะมันไม่ได้มาจากหัวใจ เธอยังคงต่อต้านเขาเท่าที่มือเล็กๆ ทั้งสองข้างนั้นจะมีแรง..หงุดหงิดชะมัด! หงุดหงิดอย่างถึงที่สุด หงุดหงิดจนไม่อยากจะทำอะไรเลย..ให้ตายสิ!!“ได้เวลาพักผ่อนแล้วนะครับท่า
หลังจากการปลดปล่อยสิ้นสุดลง ความร้อนก็ยังไม่หายไปจากร่างกาย สีหน้าของไมเนอร์สุขสมราวกับตกอยู่ในภวังค์ความสวยงามที่แท้จริงมิใช่ใบหน้าแต่ทว่ามันคือร่างกายและจิตใจของเธอต่างหาก สิ่งที่เย้าย้วนมิใช่ท่าทีหรือการแสดงออก แต่มันเสียงร้องครางแสนหวานที่ทำเอาเขาเกือบคลั่ง ความเบาสบายแผ่กระจายทั่วร่าง เมื่อละอองแห่งความสุขถูกปลดปล่อยออกมาไมเนอร์ฝังปลายจมูกโด่งเป็นสันของเขาซุกไปที่ซอกคอของเธอในยามนี้บางอย่างกำลังประจักษ์แจ้งแก่ใจ ว่าท่านจานีคนั้นเย้ายวนและมีเสน่ห์เป็นที่สุด“ติ้ง!!”“การแจ้งเตือนจากระบบค่ะ ค่าเสน่ห์ของคุณผู้เล่นเพิ่มขึ้นมาจาก 35 เป็น 38 หน่วย ยินดีกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยนะคะ หากค่าเสน่ห์ของคุณผู้เล่นเพิ่มขึ้นถึง 40 หน่วย จะมีเควสพิเศษมาให้ทำเพื่อเพิ่มค่าความสามารถค่ะ ทั้งค่าความฉลาดและค่าพลังเวท พยายามเข้านะคะ”เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้นมา จานีคไม่มีแรงแม้แต่จะปรือตาขึ้นมามองมันด้วยซ้ำ เธอกำลังเหนื่อยเป็นอย่างมาก วันนี้มันหนักหนามากเหลือเกินสำหรับเธอ และในยามนี้ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่งานของเธอก็ยังไม่จบ..ถึงแม้ว่าเธอจะเหนื่อยแต่คำมั่นสัญญาที่ให้เอาไว้กับท่านมาไคก
มือแกร่งแหวกเรียวขาออกกว้างขึ้น ใบหน้ายื่นเข้ามาในจุดนั้นระยะประชิด เขาแนบริมฝีปากลงไปบนก่อนจะเริ่มใช้ลิ้นปาดเลียจากปุ่มเนื้อเล็กๆ ที่นูนขึ้นเพราะร่างกายไวต่อสัมผัสอยู่แล้วทำให้เพียงแค่ถูกลิ้นของเขาสัมผัสนิดหน่อย ร่างก็เหมือนกำลังลอยขึ้นสูงเลยริมฝีปากเจ้าเล่ห์พรมจูบตรงนั้น ทั้งยังดูดดุนพื้นที่น่าอายอีก“อะ..อึ่ก!!”เธอร้องครางออกมาเพราะดูเหมือนปลายนิ้วของไมเนอร์จะแตะสัมผัสลงไปบนแท่งสีทองที่อยู่ในร่างกาย เขาทำในเรื่องที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนนั่นคือการขยับมัน..ไม่ได้ดึงออกแต่กลับขยับมันเบาๆ ให้เคลื่อนไวไปในร่างกายของเธอลิ้นของเขาละเลงบนส่วนนั้น สะกิดเลียกระทั่งเม็ดเสียวขยายใหญ่ ไมเนอร์รวบตัวของจานีคเอาไว้ไม่ยอมให้เธอถดหรือว่าถอยหนีมาไคละริมฝีปากนั้นออกจากกลีบปากที่แสนเย้ายวนของเธอ.. เขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะให้ท่านจานีคพิงลงมาบนร่างกายของเขานี่ดูเหมือนกับว่ามาไคกำลังหวังดีแต่ไม่เลย เพราะมือของเขาสอดมาจากด้านหลังและมันกำลังบีบเคล้นลงไปบนก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นทั้งสองข้าง“อะ..อ๊า!!”บอกตามตรงว่าถึงแม้ว่าตัวเธอจะเคยผ่านเรื่องเช่นนี้มาหลายครั้ง แต่ทว่าไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะได้ทำแบบสามคนสักที