Accueil / วาย / The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg) / ตอนที่ 6 เหม็นมากกว่ากลิ่นก็ขี้หน้านายนี่แหละ

Share

ตอนที่ 6 เหม็นมากกว่ากลิ่นก็ขี้หน้านายนี่แหละ

Auteur: Glita
last update Dernière mise à jour: 2024-12-13 00:02:30

          ดวงจันทร์เริ่มคล้อยตกอย่างอ่อนแรงราวกับคนที่ทำงานหนักมาทั้งคืน ขอบฟ้าเริ่มทอแสงส้มสว่างอยู่ไกลตา สัญญาณของวันใหม่ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

          พนักงานของอมอร์ก็เริ่มแยกย้ายกันจะเกือบหมด บางคนไม่ได้ลูกค้าก็หน้าตาเหี่ยวแห้งไป เพราะเงินเดือนที่นี่ไม่ได้มากนัก หากอยากอยู่รอดให้ได้ต้องอาศัยทิปจากลูกค้าเท่านั้น

          ส่วนพวกที่ได้ลูกค้ามีบ้างที่นอนเมาแอ๋กลับไปไหวอยู่ที่ห้องพัก บางคนก็แอบนัดแนะไปต่อกับลูกค้า แม้กฎของบริษัทจะระบุเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วก็ตามว่า การค้าประเวณีเป็นเรื่องต้องห้าม พนักงานทุกคนควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

          แต่แน่นอนว่าพนักงานหนุ่มแน่นทุกคนของที่นี่รู้ดีว่าใต้กฎมักมีดอกจันที่มองไม่เห็นแอบซ่อนอยู่เสมอ 

          คืนนี้มิวโดนไปหลายดื่ม ชายหนุ่มจำเป็นต้องใช้ร่างกายเพื่อต่อรองกับเงินซึ่งเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประสบการณ์และการฉอเลาะเท่านั้นที่ทำให้เขาเอาตัวรอดได้คืนต่อคืน โดยไม่ภาพตัดไปเสียก่อน

          รถยนต์จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่มิวยังไม่คิดจะครอบครอง ด้วยอาชีพที่ต้องมึนเมาเป็นอาจิณ การซื้อยานพาหนะก็คงไม่ต่างซื้อเหล็กมาตั้งไว้ให้ผุพัง มิหนำซ้ำยังก่อเกิดรายจ่ายที่ไม่เป็นสำหรับตัวเขาอีกด้วย

          หากไม่ใช่บริการรถสาธารณะก็อาศัยติดรถกลับไปกับเพื่อนพนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยินดีจะเป็นสารถีให้กับมิว อาจเพราะตำแหน่งสูงสุดที่ติดอยู่ข้างหลังเขา ดึงดูดผู้คนเข้าหาโดยตั้งใจ

          ด้วยสติที่ยังพอเหลืออยู่มิวตั้งใจจะแวะไปหาอาร์เต้ รุ่นน้องร่วมกลุ่มทรินิตี้แองเจิ้ลที่ไม่เจอหน้ากันเกือบอาทิตย์เห็นจะได้

          บรรดาสามตัวท็อปของพนักงานทุกคนในอมอร์ อาร์เต้คือคนที่อายุน้อยที่สุด เขาเข้ามาทำงานจากการชักชวนเป็นเอกพนักงานของร้าน

          หลังจากเสร็จพิธีรับปริญญาสามวัน อาร์เต้ก็เดินเข้ามาสมัครงานที่ร้านทันที จากนั้นไม่นานเขาก็ไต่ระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจด้วยหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก บวกกับความอ่อนเยาว์ของเด็กหนุ่ม เลยทำให้ต้องตาต้องใจเหล่าลูกค้ากระเป๋าหนัก

          เกือบปีต่อมาอาร์เต้ก็เข้าสู่กลุ่มทรินิตี้แองเจิ้ลได้ โดยคนก่อนหน้านี้ลาออกไปเนื่องด้วยอาการเจ็บป่วย พนักงานบางคนเมาท์มอยกันว่าเขาติดโรคจากลูกค้า บางคนก็บอกว่าเขาแค่เหนื่อยจากการทำงาน เพราะวันสุดท้ายที่มาลาออกสภาพดูอิดโรย ขอบตาลึกโบ๋ จนจำความสวยงามก่อนหน้านั้นแทบไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดอาร์เต้ก็กลายเป็นน้องที่ทั้งมิวและเจษเอ็นดู

          ระหว่างนั่งแท็กซี่มิวก็คอยส่งข้อความหาอาร์เต้อยู่เรื่อยๆ เขาได้แต่หวังว่าจะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มคนนั้น

          หลังลงจากรถมิวก็บึ่งขึ้นห้องของอาร์เต้ในทันที โชคดีที่พวกเขาสนิทกันมากพอจะมีคีย์การ์ดของกันและกัน

          ไม่นานนักมิวก็หยุดอยู่หน้าประตูไม้บานใหญ่ เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะกดออดเรียกเจ้าของห้อง

          ชั่วลมหายใจเพียงขณะหนึ่งบานประตูก็แง้มออก ข้างในนั้นสลัวเสียจนเหมือนหลุดออกมากหนังสยองขวัญ กลิ่นอับเจือจางพวกพุ่งออกมาพร้อมกับสายลมที่พยายามหลบหนี

          แสงไฟจากโถงทางเดินเป็นเพียงแสงสว่างเดียวที่ทอดยาวเข้าไปในห้อง มิวพยายามเพ่งสายตาสู้กับความมืด

          ชายผู้หลบเร้นกายอยู่ในเงานั้นร่างสูงใหญ่จนมิวมั่นใจได้อย่างชัดเจนว่านั่นไม่ใช่อาร์เต้แน่นอน เด็กหนุ่มคนนั้เตี้ยกว่ามิวที่สูง 178 เซนติเมตรเพียงเล็กน้อย แต่คนตรงหน้านั้นสูงใหญ่กว่าเขาไปมาก

          “อาร์เต้อยู่ไหม?” เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมพูด มิวเลยถือคติเปิดก่อนได้เปรียบ 

          “นอนอยู่” อีกฝ่ายตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา

          ถึงจะรู้ว่าอาร์เต้เป็นเด็กหนุ่มรักสนุกหอบหิ้วทั้งสาวสวยและหนุ่มหล่อมากหน้าหลายตาขึ้นห้องนอนอยู่บ่อย แต่ครั้งนี้มิวกลับรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก

          “ผมขอเข้าไปดูน้องมันหน่อยได้ไหม?” 

          ชายในเงาสลัวพยักหน้าพลางอ้าบานประตูให้กว้างออกพอจะให้มิวแทรกตัวผ่านเข้าไปได้

          ชั่วขณะที่มิวแทรกตัวผ่านชายร่างสูงใหญ่ เขาเหลือบเห็นรอยช้ำที่บริเวณจมูกสูงโด่ง จู่ๆเขาก็นึกสงสัยถึงที่มาของรอยนั้น ท้ายทอยของเขาก็ปวดตุบขึ้นมา

          ทันทีที่ขาก้าวเข้าสู่ห้องกลิ่นแปลกประหลาดก็ลอยเตะจมูกของมิวเข้าอย่างจัง จะว่าหอมก็พูดได้ไม่เต็มปาก จะว่าเหม็นก็เชิง มันคล้ายกลิ่นยางจากไม้เข้มข้น หรือสารหอมระเหยอะไรสักอย่างที่ฉุน

          “ฉันดันเต้” ชายร่างโตแนะนำชื่ออย่างเป็นมิตร

          “ฉันมิว”

          การแจ้งชื่อทำให้ความตึงเครียดลดลงและเพิ่มความเป็นมิตร ถึงมิวจะไม่อยากรู้เรื่องส่วนตัวสักเท่าไหร่นัก ด้วยคิดว่าอีกเดี๋ยวชายตรงหน้าก็คงหายไปจากชีวิตอยู่ดี

          “ให้ฉันไปปลุกเขาให้ไหม?”

          “ไม่เป็นไร! ฉันเป็นเพื่อนร่วมงานของเขา เขาไม่ได้แวะไปทำงานหลายวันแล้ว ก็เลยอยากแวะมาดูว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า”

          “เขาแค่เพลีย ไม่นานก็คงไปทำงานได้”

          “นายเป็นหมอหรือยังไง?”

          “เปล่า? แต่ผมอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้” ดันเต้หัวเราะราวกับพอใจ “เขาไม่เป็นอะไรหรอก นายจะไปดูด้วยตาก็ได้”

          การต้องคอยฉอเลาะใส่ลูกค้าทำให้มิวต้องคอยพูดตาชวนทะลึ่งตึงตังอยู่บ่อยครั้ง แต่การโดนพูดสองแง่สองง่ามใส่ตัวเองนั้น กลับทำให้มิวหงุดหงิดเล็กน้อย อันที่จริงเขารู้สึกไม่ค่อยชอบขี้หน้าของชายที่ชื่อดันเต้สักเท่าไหร่ ถึงแม้จะม่ได้เห็นหน้าอย่างชัดเจนก็ตาม

          มิวย่างเท้าอย่างระมัดระวังในความมืดตรงไปยังห้องนอนของอาร์เต้ เงาตะคุ่มข้างหลังทำให้เขานึกถึงฝันประหลาด ทั่วทั้งสันหลังเย็นวูบวาบ

          ถึงจะไม่ได้หันไปดูแต่มิวก็รู้ว่าคนข้างหลังจ้องเขาไม่วางตา เขาได้แต่เดินตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆไม่กล้ากลับไปมอง

          “อาร์เต้” มิวร้องเรียกเด็กหนุ่มผิวซีดเผือด “ไอ้เต้โว้ย!”

          มือเนียนละเอียดตบเบาๆลงใบหน้าที่หลับพริ้ม พลางขานชื่อไม่หยุดหย่อน แก้มที่ยังอุ่นและผิวหนังที่ยังยืดหยุ่นเป็นสัญญาณดีที่บ่งบอกว่าเจ้าของร่างยังมีชีวิต

          “หือ?”เด็กหนุ่มเปิดเปลือกตาครึ่งหนึ่ง น้ำเสียงหนักอึ้งเสียจนฟังเกือบไม่ได้ศัพท์ 

          “ทำไมไม่ไปทำงาน?”

          ใบหน้าในเงามืดนั้นพร่าเบลอ แต่อาร์เต้ก็จำเสียงนี้ได้ “ผมง่วงๆเพลียๆครับ ไปทำงานไม่ไหว”

          “ไม่สบายหรือเปล่า?” มิวถามพลางยื่นหลังมือแตะหน้าผากของเด็กหนุ่ม

          “ไม่ครับ แค่ง่วง”

          “แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร” เพื่อความแน่ใจมิวใช้หลังมือแตะเข้าซอกคอของเด็กหนุ่มอีกรอบ

          ผิวหนังขาวสว่างของอาร์เต้ขับรอยช้ำให้เด่นชัด มิวเพ่งสายตามองรอยเหล่านั้นตามเนื้อตัวของเด็กหนุ่ม เขาพอเข้าใจความหมายของร่องรอยที่ถูกทิ้งเอาไว้นี้ดี เลยไม่อยากซักไซ้อะไรให้มากความ

          “โอเค! งั้นนอนพักต่อก็แล้วกัน” มิวรู้สึกโล่งอกไปเปลาะหนึ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มจางๆของเด็กหนุ่ม “ถ้าไหวแล้วไปทำงานด้วยล่ะ พี่เป็นเอกรอเด็ดปีกอยู่ถ้าไม่ไปทำงาน”

          “ครับๆ ผมไปวันนี้นี่แหละ”

          พูดจบอาร์เต้ก็ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วราวกับความฝันใหม่เรียกตัวเขาไป

          ธุระเร่งด่วนของมิวจบลงในเวลาอันสั้น เขามองหน้าเด็กหนุ่มท่าทางเหนื่อยหนักอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องนอน

          ชายร่างสูงใหญ่ยังคงยืนคอยอยู่หน้าประตูไม่ขยับ ชั่วครู่เขารู้สึกว่าดวงตาดำขลับนั้นเรืองรองเป็นสีทองในเงามืด ทว่าเมื่อกะพริบตาอยู่สองหรือสามครั้ง แสงสว่างนั้นก็เลือนหายไป

          “ฝากดูแลอาร์เต้หน่อยนะ”

          จู่ๆมิวก็รู้สึกไม่ถูกชะตาดันเต้แทนที่ควรจะกลัว อาจเพราะท่าทางหยิ่งยโส ไม่ก็เพราะกลิ่นแปลกๆที่เหมือนจะลอยออกมาจากตัวของเขา

          “ฉันก็บอกนายแล้วว่าเขาแค่เหนื่อย

          ชายทั้งสองกันโดยไร้ซึ่งคำล่ำลา อาจเพราะไม่ได้รู้สึกสนิทกันและไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก การยกมุมปากขึ้นยิ้มเล็กน้อยก็พอเพียงแล้ว

          คล้อยหลังมิวไม่ทันไรบานประตูก็กลับไปปิดแนบสนิทอีกครั้ง ชายร่างยักษ์เดินตรงเข้าห้องนอนด้วยท่าทางสบายใจ ดวงตาสีเข้มเรืองรองเป็นประกายในความมืดจับจ้องยังร่างเด็กหนุ่มที่นอนไม่ไหวติง

          “จริงๆฉันก็ชอบนายนะ” เสียนุ่มทุ้มดังก้องกังวาน “แต่ฉันว่าฉันคงชอบเพื่อนของนายมากกว่า”

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Related chapter

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 7 พิษร้ายจากปีศาจ

    แสงตะวันสีเหลืองทองค่อยๆไต่ไล่แต่ละยอดตึกอย่างเชื่องช้า สีของมันทอเป็นประกายเฉกเช่นเดียวกับความดวงตาของชายร่างใหญ่ ทว่าในห้องนอนสี่เหลี่ยมเล็กนั้นปิดทึบนั้นต่างจากภายนอกราวกับคนละโลก เด็กหนุ่มใบหน้าอิดโรยพยายามดันตัวให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างยากลำบาก ชายอีกคนยืนอยู่ปลายเตียงไม่มีทีท่าจะเข้าช่วยเหลือ มิหนำซ้ำยังมองเหยียดต่ำลงไปราวกับจ้องมองขยะที่ไร้ประโยชน์ “ฉันชอบนาย” น้ำเสียงของอาร์เต้แหบพร่า “นายไม่ได้ชอบฉันจริงๆหรอกหนุ่มน้อย อีกไม่นานนายก็จะจำฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ” “งั้นก็อยู่กับฉันต่อเรื่อยๆ ฉันจะได้จำนายได้” “ก็อยากอยู่นะ… แต่คงไม่ได้ นายอ่อนแอเกินไป” “จูบฉันสิ ฉันจะพิสูจน์ให้นายเห็นว่าฉันเข้มแข็งพอจะอยู่กับนาย” “น้ำลายของฉันมันก็ได้ผลแต่ชั่วคราว แต่พอหมดฤทธิ์แล้วนายจะแย่เอา “ใครสน!” อาร์เต้ปฏิเสธเสียงแข็ง “ฉันก็แค่อยากมีอะไรกับนาย ต่อให้ร่างกายนี้จะเป็นยังไงก็ช่าง” ดันเต้ได้แต่สั่นหัวเบาๆภายใต้เงามืด ในใจก็นึกโทษตัวเองที่น่าจะทิ้งอาร์เต้ไปให้เร็วกว่านี้ ท

    Dernière mise à jour : 2024-12-13
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 8 อีกรูปแบบของความอำมหิต

    ราตรีถูกทำลายโดยสมบูรณ์เมื่อดวงจันทร์ลาลับจนไร้ซึ่งร่องรอย แสงแห่งชีวิตสาดส่องไปจนทั่วพื้นภิภพ ยกเว้นก็แต่ห้องนอนห้องเล็กนี้ เงามืดยังปกคลุมเป็นส่วนใหญ่ แม้อาทิตย์จะพยายามลอดเล็ดเข้ามา แต่ม่านหนาทึบก็ยังสกัดกั้นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ร่างเล็กกว่าขึ้นคร่อมตักของอีกฝ่ายอย่างมั่นคง ใบหน้าทั้งสองเกือบจะตั้งในระนาบเดียวกัน แม้ว่าอีกฝ่ายจะสูงกว่ามากแต่กลับไม่เป็นปัญหาในท่าทางนี้ ดวงตากลมโตสอดประสานเป็นชิ้นเดียวกัน ทั้งคู่จ้องมองกันอย่างท้าทาย ไม่มีใครยอมโอนอ่อนให้ใคร แก้มของชายทั้งคู่ระเรื่อเจือด้วยสีของเลือดสดๆ บ่งบอกได้ว่าจะมนุษย์หรือปีศาจต่างก็อารมณ์ความรู้สึกไม่ต่างกัน อำนาจของบางสิ่งอยู่เหนือการควบคุม ม่านหมอกสีขาวบดบังนัยน์ตาสุกใสจนขุ่นมัว สัญชาตญาณดิบหลั่งไหลผ่านทุกรูขุมขนบนผิวหนัง อาร์เต้นั่งคร่อมวางก้นกลมกลึงทับท่อนเนื้อขนาดไม่ธรรมดา เอวร่อนร่ายส่ายไปมาราวกับกำลังทรมานชายตรงหน้าให้ขาดใจ “ฉันชอบรอยสักของนาย” เด็กหนุ่มอมยิ้มไปด้วย “ทุกอันล้วนมีความหมาย ถ้าไม่ใช่เครื่องตีตรา ก็เป็นรอยแต่กำ

    Dernière mise à jour : 2024-12-13
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 9 อาหารอีกมื้อ

    กล้ามเนื้อขาของอาร์เต้ยกก้นของตัวเองขึ้นก่อนจะลดลงมาอีกครั้ง ท่อนยักษ์ไถลลื่นเมุดเข้าไปในปากทางสีสดใสนั้นในครั้งเดียว ส่วนปลายบวมเป่งดันกลับเข้าไปยังส่วนลึกที่สุดของช่องภายใน และกระแทกเข้ากับจุดบอบบางแสนอ่อนไหว ประกายไฟฟ้าปะทุขึ้นเล็กตามปลายประสาท ช่องท้องถูกเติมจนเต็มแต่กลับรู้สึกเบาโหวง ความเสียวแปลบกระจายออกจากสะดือไปตามเส้นเลือดปูดโปน “อืม… อึก…” อาร์เต้ร้องโอดครวญแม้จะเป็นฝ่ายกระทำแต่กลับรู้สึกถูกกระทำเสียเอง “รู้สึกดีชะมัด” “โคตรดีต่างหาก… นะ… นาย แน่นมาก ไม่น่าเชื่อว่าเราทำกันแบบนี้แทบไม่หยุดมาหลายวันแล้ว” คำชมปลุกเร้าอารมณ์ของมนุษย์ผู้อ่อนไหว อาร์เต้กดสะโพกขึ้นลงจนสุด แม้ว่าจะรู้สึกว่าข้างในกำลังถูกท่อนเนื้อฉีกให้แยกออกจากกันก็ตาม “ถึงจะตัวเล็กแต่นายแรงเยอะ… เหลือเชื่อเลยแฮะ” “นายชอบแค่แรงของฉันเหรอ” อาร์เต้โอบรัดรอบคอของดันเต้ด้วยวงแขนอ่อนนุ่ม “ส่วนที่เหลือล่ะ?” “นายมีอย่างอื่นที่ดีกว่าไหมล่ะ?” ดันเต้กำรอบท่อนเนื้อที่เล็กกว่า “พิสูจน์สิ!” เด็กหนุ่มเด้งเอวที่นุ่มนวลและค

    Dernière mise à jour : 2024-12-13
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 10 เตือนแล้วก็ไม่ยอมฟัง

    แดดร่มลมตกเป็นเวลาอันตื่นตัวสำหรับมิว เขาชอบวิ่งออกกำลังกายยามแสงขอบฟ้าทอเป็นสีเข้ม มันให้เขารู้สึกสงบเงียบแบบที่หาจากที่ไหนไม่ได้ ลู่วิ่งคอนกรีตทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ชายหนุ่มปล่อยให้สายลมเย็นลูบไล้ใบหน้าและเรือนผม สายตาเหลือบมองผู้คนรอบข้างที่ยิ้มร่าทักทายเขาอย่างมีความสุข ชายทางขวามือ ผู้หญิงที่พึ่งวิ่งผ่าน และเด็กข้างหน้า เหมือนเคยเจอกันมาก่อนจากสักที่ มิววิ่งพร้อมลากความสงสัยติดสอยห้อยตามไปด้วย ‘ใครวิ่งตามมาวะ?’ ชายหนุ่มร่างสันทัดผมสีน้ำตาลเป็นประกายเอะใจ เมื่อเหลือบตาเห็นเงาตะคุ่มวิ่งไล่หลังมา ทว่าเขาก็ไม่กล้าหันไปมอง ทำได้เพียงเร่งฝีเท้าจนเงานั้นเลือนหายไป ไม่นานม่านหมอกทึบสีขาวก็ไล่ตามหลังเด็กหนุ่ม เหตุการณ์เหล่านี้ปลุกการตื่นรู้ของมิว เขาหยุดเรียงลำดับเหตุการณ์ในสมองอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าครุ่นคิดแสดงออกมา ‘นก’ เพียงแค่คิดฝูงนกก็บินทะยานขึ้นท้องฟ้าราวกับกำหนีอะไรสักอย่าง ‘คน’ ฉับพลันผู้คนรอบกายก็ค่อยๆเลือนหายราวกับมีใครลบทิ้งไป ‘แล้วก็ไอ้เวรนั่น!’ เงา

    Dernière mise à jour : 2024-12-14
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 11 เพื่อคืนความสงบมันต้องจบที่เตียง

    ชายหนุ่มกวาดต้อนสายตาไปทั่วทุกมุมห้อง สิ่งของในนี้เหมือนห้องนอนของตัวเองไม่ผิดเพี้ยน สีเย็นสบายของผนัง ผ้าปูสะอาดตา เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง อารมณ์รวมถึงความคิดของมิวกระจัดกระจายกลายเป็นสายหมอก หลอมรวมกับประกายแสงที่รายล้อมรอบตัว เขาไม่มั่นใจอีกต่อไปแล้วว่าอะไรคือความจริงหรือความฝัน “นายนี่โคตรดื้อด้านเลย ฉันไม่เคยเจอใครทำตัวงี่เง่าเท่านายมาก่อน” ปีศาจไร้นามเปล่งเสียงดึงดูดความสนใจ ดวงตากลมโตหรี่เล็ก คิ้วขมวดชนเข้าหากัน หากนับรวมทุกเหตุการณ์ทั้งหมด ดูเหมือนว่าชายผิวเข้มที่นั่งเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าของมิวในตอนนี้ ดูประหลาดมากที่สุด ก่อนจะทันรู้ตัวหรือคิดอะไรเพิ่มเติม ร่างตรงหน้าก็พุ่งขึ้นคร่อมมิวประทับรอยจูบอย่างรวดเร็ว ของเหลวอุ่นร้อนถูกสอดลอดไปกับลิ้น การขัดขืนกลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่มิวอยากทำ เขาเปิดโพรงปากรับรสสัมผัสที่โหยหามาช้านาน ในใจขุ่นมัวถูกตีโอบด้วยหมอกทึบหนา มิวพยายามดึงสติเพื่อไม่ให้เตลิดจนเกินควบคุม เขากำหมัดจนแน่นพยายามดันอีกฝ่ายให้หลุดออก… แต่ก็ไร้ผล “แค่นี้ก็คงพอ” เมื่อทุกอย่างเป็นไปดั่งใจ ปี

    Dernière mise à jour : 2024-12-15
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 12 สองมือดีกว่ามือเดียว

    ด้วยกลิ่นผสมรวมกับความร้อน มิวยอมรับแต่โดยดีว่าเขาเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง ทว่ามันแลกกับการที่เด็กหนุ่มได้รับการเยียวยารักษาจากอาการผิดปกติของร่างกาย เขาก็พร้อมจะยอมเสี่ยง ไม่ว่าจะกี่หมอหรือยากี่ขนานก็ไม่ทำให้เจ้าหนูของมิวฟื้นตื่นขึ้นจากการหลับใหล แม้กระทั่งกระดิกตัวในตอนเช้าก็ไม่ได้ มันเป็นแบบนี้มานานเกือบสองปีแล้วที่เขาต้องเก็บงำความทุกข์เอาไว้เงียบเชียบ ความภูมิใจในความเป็นชายเริ่มลดน้อยถอยลง ในตอนนี้แม้ต้องเซ็นชื่อลงในสัญญาปีศาจเพื่อแลกกับเจ้าหนูที่แข็งแรงดังเดิม มิวก็คงกรีดเลือดเทลงไปโดยไม่อ่านเงื่อนไข แม้จะเริ่มต้นด้วยความหงุดหงิด แต่หากมันจมลงด้วยความสุขสม ก็คงไม่เป็นอะไรนัก เพราะท้ายที่สุดเมื่อมิวตื่นจากฝัน เขาก็จะพบโลกจริงและแยกแยะเรื่องบ้าบอพวกนี้ไว้เป็นเรื่องของความฝัน “มานั่งนี่สิ” ปีศาจร่างใหญ่จับปลายนิ้วของเด็กหนุ่มอย่างทะนุถนอม “มิว” “นะ… นายรู้จักชื่อฉัน… ได้ไง” “ไม่ต้องรีบหาคำตอบหรอก” ปีศาจหนุ่มนั่งลงบนขอบเตียง ขาแน่นหนักทั้งสองฉีกกว้าง ก่อนจะฉุดรั้งร่างเล็กกว่าให้แทรกกายผ่านช่องแยกนั้น “เรามี

    Dernière mise à jour : 2024-12-15
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 13 กลิ่นที่ติดจมูกแต่แกล้งทำเป็นไม่ได้กลิ่น

    ถึงจะพยายามหลับต่อแต่สิ่งที่ได้กลับเป็นความมืดไร้จุดสิ้นสุด ไม่มีอะไรแปลกประหลาดจนมิวคิดว่าความฝันนั้นมันอาจเป็นเพียงแค่ฝันธรรมดา ที่ผ่านการปรุงแต่งจากจิตใต้สำนึก อันที่จริง ‘*Lucid Dream’ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับมิว การรู้ตัวว่ากำลังฝันทำให้มิวสามารถสร้างสนามเด็กเล่นในจินตนาการได้อย่างเพลิดเพลิน แต่นั่นก็ทำให้เขาจำสลับความฝันกับความจริงอยู่บ้าง หลังจากตัดใจเลิกนอนต่อ มิวใช้เวลาที่ควรวิ่งในสวนสาธารณะเปลี่ยนเป็นจดจ่ออยู่หน้าแล็ปท็อป เลือกหนังผู้ใหญ่ที่ถูกใจเพื่อทำสิ่งที่ค้างคาให้จบ ทว่าทุกอย่างก็เหมือนเดิม ไร้การเคลื่อนไหวอื่นใดจากช่วงล่าง นอกจากฝ่ามือที่พยายามขยับอย่างรวดเร็ว นั่นสร้างความหงุดหงิดให้ชายหนุ่มผู้เปี่ยมล้นด้วยความหวัง ความตะขิดตะขวงใจเหล่านี้อึดอัดอยู่ในหัวของมิวตามไปจนถึงที่ทำงาน ชายหนุ่มไม่อาจสลัดความตื่นเต้นที่พบเจอได้เลย ส่วนล่างแม้จะนิ่งสงบ ทว่ามิวยังรู้สึกเต้นตุบๆอยู่ภายใต้ผิวหนังขาวสะอาด ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยถ่านไฟที่คุกรุ่นตามติดไปทุกที่ มันค่อนข้างแปลกแต่เขาก็อยากสัมผัสประสบการณ์เช่นนี้อีก ชายหนุ่

    Dernière mise à jour : 2024-12-16
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 14 เล่นไปตามกฏแบบไม่เต็มใจ

    หมู่เมฆรวมตัวกันหนาจนเต็มท้องฟ้า ปิดบังแสงจันทร์นวลไม่ให้เฉิดฉาย ลมโชยอ่อนนำพาความอุ่นโอบอุ้มร่างกายยามสัมผัส แม้จะใกล้ยามรุ่งสางแล้วทว่าสุดขอบยังมืดมิดไร้ความเคลื่อนไหว ดูเหมือนวันนี้ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างเชื่องช้ามากกว่าวันอื่น มิวหอบสัมภาระชิ้นเล็กติดตัวยืนรออาร์เต้อยู่หน้าร้าน พวกเขานัดว่าจะหาอะไรกินนิดหน่อย แต่เด็กหนุ่มวัยรุ่นติดพันอยู่กับลูกค้าจนเลยเวลาเลิกงานมาสักพักใหญ่ ส่วนตัวของมิวแม้จะเสร็จก่อนแต่ก็ยังถือว่าช้ากว่าตอนปกติอยู่ดี การออกมาสูดอากาศนอกร้านเป็นสิ่งที่ทำให้มิวรู้สึกปลอดโปร่ง อย่างน้อยได้แหงนมองขึ้นมองแผ่นฟ้ากว้างใหญ่ก็ช่วยให้เขาสร่างจากอาการมึนเมาได้บ้าง ดีกว่านั่งอยู่ในห้องแคบๆ มองผนังทั้งสี่ด้านส่ายไปส่ายมาจนเวียนหัว หน้าร้านค่อนข้างเงียบเชียบ เพราะเลยเวลาเลิกงานมานานแล้ว พวกพนักงานที่ไม่มีลูกค้าส่วนใหญ่จะขอกลับก่อน ส่วนที่เหลือพอร้านปิดก็ทยอยกลับพร้อมลูกค้า ไม่ก็แยกย้ายทางใครทางมัน ลูกค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอยู่เลยเวลาปิด เพราะไม่อย่างนั้นพวกเขาจะถูกคะยั้นคะยอให้เปิดห้องวีไอพี หลายคนจึงไม่อยาก

    Dernière mise à jour : 2024-12-17

Latest chapter

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 67 มุมมองที่ต่างกัน

    “ทวดของผม” โพรงปากของเด็กหนุ่มอ้าค้างจนมองเห็นลิ้นไก่ข้างในลึกสุด “นี่พี่เกิดสมัยอยุธยาเป็นเมืองหลวงเลยไหมเนี่ย?” “ไม่นานขนาดนั้น” เสียงหัวเราะร่วนของเป็นเอกดัง “พี่เกิดหลังทวดของนายไม่กี่ปี ปี พ.ศ. สองพันสี่ร้อยกว่าเห็นจะได้” “แล้วพี่เป็นใครกันแน่?… ผีบรรพบุรุษส่งให้พี่มาดูแลตระกูลของผมหรือยังไง?” “ฉันว่าเรื่องของนายเหลือเชื่อกว่าเรื่องของฉันอีก” ยังไม่ทันจะต่อความยาวสาวความยืด เสียงฝีเท้าตึงตังก็ดังมาจากบันไดไม้ หญิงสาวแรกรุ่นพรวดพราดเข้ามาในห้องนอนที่ชายทั้งคู่อยู่ เธอกระโจนเข้าหาเป็นเอกและสวมกอดรอบคอจนแน่น “คิดถึงคุณลุงจัง” น้ำเสียงของหญิงสาวสดใสพอกันกับหน้าตา ดวงตาของเธอสุกใสเป็นประกาย ผิวหนังเนียนหนุ่มอ่อนเยาว์สมกับการเป็นสาวแรกรุ่น “คิดถึงลุงหรือคิดถึงของฝากกันแน่” มือของชายผู้แก่กว่ามากลูบศีรษะอย่างเอ็นดู “ก็ต้องคิดถึงคุณลุงอยู่แล้วสิคะ” “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ลุงไม่มีของฝาก นิดหน่อยก็จะยังคิดถึงลุงอยู่ใช่ไหม?” หญิงสาวตัวเล็กยืดตัวขึ้นทำแก้มป่อง “ไม่มีจริงเหรอ?”

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 66 เพื่อนเก่าเพื่อนแก่

    ไม่ได้มีโอกาสบ่อยนักที่อาร์เต้จะได้อ้าแขนกอดรับดวงอาทิตย์ยามสาย ถึงมันออกจะร้อนสักหน่อยก็เถอะแต่สำหรับชายหนุ่มที่ไม่ค่อยชอบชีวิตช่วงกลางคืนเท่าไหร่นัก นี่ก็นับว่าเป็นคุ้มค่าที่จะแลก หลังจากได้ฟังเรื่องราวอันไกลเกินขอบเขตของความเชื่อมาแล้ว แววตาของอาร์เต้ตอนมองเป็นเอกกลับไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ หากไม่ใช่เพราะยังไม่เชื่ออย่างสมบูรณ์แบบบ ก็คงเป็นเพราะอคติบางอย่างที่สร้างความเอนเอียง ความรู้สึกในใจของชายทั้งสองไม่อาจถูกคั่นกลางด้วยสิ่งแปลกปลอม ระยะห่างระหว่างกันยังคงเส้นคงวา ไม่อาจใกล้มากกว่านี้หรือถอยห่างจากที่เป็น ถึงหมุดหมายของทริปนี้เป็นเอกจะบอกไว้ว่าเป็นการออกตามหาความจริง ทว่าอาร์เต้มองแตกต่างออกไป เขาคิดเงียบๆ อยู่คนเดียวว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นเสมือนการออกเดตนอกสถานที่ครั้งแรกของพวกเขา นั่นเลยช่วยทำให้รู้สึกดีมากกว่ากังวล อาร์เต้ไม่เอ่ยถามถึงจุดหมายปลายทาง เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมพูดอะไรแน่นอน ซึ่งเป็นเอกก็คิดเช่นนั้น ชายแก่ในร่างหนุ่มคิดไว้ว่าการอธิบายกลางอากาศอย่างเดียว คงไม่หนักแน่นพอจะยืนยันทุกอย่าง ท้องฟ้าปลอ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 65 เริ่มนับเวลาถอยหลัง

    เมื่อความสุขสุดขีดพุ่งสูงจนทะลุหลอด ความเหนื่อยล้าก็เข้ามาห่อหุ้มร่างกึ่งเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่ม หน้าอกภายใต้เสื้อตัวบางกระเพื่อมหนักหน่วง ริมฝีปากเผยออ้าเติมอากาศเข้าไปทดแทนกับที่ขาดหาย ใบหน้าฝาดก่ำด้วยสีเลือดสดๆ และเข้มมากขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงความดังของเสียงที่เพิ่งเปล่งออกไป ท่อนล่างโล่งโจ้งเลอะเทอะด้วยคราบของเหลวจากร่างกาย ในใจของมิวร้องตะโกนกู่ก้องเมื่อความรู้สึกที่อัดอั้นถูกระบายออกมาได้เสียที นั่นเป็นสิ่งประจักษ์แน่ชัดแล้วว่า ร่างกายและความเป็นชายได้กลับเป็นปกติอย่างที่ควรจะเป็น ทว่าก็ยังรู้สึกติดค้างบางอย่างแถวก้นบึ้งของจิตใต้สำนึก รอยยิ้มกางกว้างบนใบหน้าเรียวงาม เด็กหนุ่มรีบจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อย ด้วยกลัวจะมีใครเปิดประตูเข้ามา การโดนมองเห็นไม่น่าหนักใจเท่ากับการโดนล้อ มิวนึกออกว่าดันเต้จะพูดอะไรบ้างหากเห็นสภาพของเขาในตอนนี้ ‘ไม่คิดจะชวนกันสักหน่อยเหรอ?’ ‘ทำไมนายถึงหนีมาสนุกคนเดียวล่ะ!’ ‘อีกรอบไหม?’ ‘คิดถึงดุ้นยักษ์ของฉันล่ะสิ!’ น้ำเสียงทะลึ่งตึงตังรวมกับสีหน้าหื่นกระหายของดันเต้ ผุดขึ้นมาใน

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 64 กลับไปใช้งานได้

    ความเงียบบรรเลงดนตรีกระซิบข้างใบหู ความเหนื่อยล้าขับกล่อมท่วงทำนองยืดยานจนชายหนุ่มหลับใหลไปอย่างง่ายดาย พื้นที่แสนปลอดภับโอบกอดมิวเอาไว้แน่นไปถึงความฝัน ชายหนุ่มทิ้งความหวาดระแวงเอาไว้ข้างเตียง และปล่อยความอิสระให้คืนสู่จิตใจ เวลาในกำมือหมดไปอย่างรวดเร็ว จนแอบนึกเสียไม่ได้ว่าสิ่งล้ำค่านี้ไม่เคยเพียงพอในหนึ่งชีวิต… ร่างกายของมิวนั้นฟื้นฟูได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งความเหนื่อยล้าหรือบาดแผลบนร่างกาย อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องนอนเลยด้วยซ้ำหากในตัวมีเมล็ดพันธุ์ปีศาจอยู่ ความรู้สึกเบาสบายจากห้วงนิทราถูกความร้อนตรงท้องทำลาย เด็กหนุ่มกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ลำตัวบิดงองุ่นง่าน การข่มตาให้หลับกลายเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที การโดนร่างกายของตัวเองรังควานสร้างความหงุดหงิดนิดๆ มิวลืมตาตื่นนั่งพิงหัวเตียง ดวงตาแจ่มใสทั้งที่เพิ่งนอนไปได้แค่สองชั่วโมง ด้านล่างของลำตัวร้อนรุ่มอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนบาง ปลายเท้าบิดงอเข้าหากัน ต้นขาหนีบแน่นจนสะโพกเกร็ง อาการวูบวาบแผ่ซ่านจากศูนย์รวมความรู้สึกไปยังเส้นประสาท ดวงตาของมิวหั

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 63 กาลเวลาที่ยืดหดได้

    เบื้องบนโปรยแสงรำไรออกมาจากมาจากรูโหว่อันดำมืดของท้องฟ้า เช้าวันใหม่นี้แสนอึมครึมไม่สดใส ส่งผลโดยตรงต่อจิตใจให้ขมุกขมัว หัวงมหรรณพแห่งเวลาสงบเสงี่ยมเฉกเช่นหนุ่มน้อยหน้าตาใสซื่อ ปกติท่าทีของอาร์เต้จะกระโดกกระเดกไม่เรียบร้อย บัดนี้กลับสงวนกิริยาขัดจากนิสัยปกติราวกับเป็นอีกคน อาจเพราะเขาถนัดการซ่อนมุมจริงจังเอาไว้เพื่อบดบังตัวตน จึงมีน้อยคนจะเคยได้เห็นอีกด้าน “ที่จริงแล้วพี่เลือกจะโกหกต่อไปก็ได้ แต่พี่ไม่อยากทำ” ชายวัยกลางคนนั่งบนโซฟาที่คุ้นเคย สายตาจับจ้องร่างเด็กกว่าตรงกันข้ามด้วยความสับสน หลังจากพยายามเลี่ยงการเปิดปากตอนอยู่ในรถอยู่นาน เขาก็มาถึงสถานที่เหมาะแก่การคายทุกอย่างออกมา “พี่รู้ว่ามันอาจจะฟังแล้วเหลือเชื่อไปหน่อย แต่พี่ก็อยากให้อาร์ตเปิดใจ” หนุ่มน้อยเอียงคอสงสัย ปกติเป็นเอกเป็นคนขึงขังอยู่แล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่ทำให้ผู้จัดการร้านคนนี้หัวเสียได้มากกว่าเดิมอีกเหรอ “ผมเปิดใจให้พี่อยู่แล้ว… พี่รู้ใช่ไหม?” “แต่เรื่องที่พี่จะเล่ามันจะเปลี่ยนความคิดของนายที่มีต่อพี่ไปเลย” นี่คือสิ่งที่อาร์เต้ไม่ชอบ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 62 ความจริงที่พูดไม่หมด

    การโดนสปอยด์ตอนจบไม่น่าอภิรมย์ของพิธีกรรมปีศาจที่ได้ยินจากปากของกามเทพ เป็นสิ่งที่มิวพกติดตัวออกจากห้องคุมขังมาด้วย หากเป็นก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มคงดวงตาเบิกโพลง จิตใจแช่มชื่นเมื่อรู้ว่าตัวเองมีส่วนพัวพันกับเรื่องราวลี้ลับที่น้อยคนจะได้พบเจอ ตอนนี้ทุกอย่างตาลปัตรกลับด้านชวนใจหาย เขาเริ่มหวาดกลัวในสิ่งเหนือธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้ และโทษที่ตัวเองคิดน้อยเกินไป บนถนนที่แออัดไปด้วยรถยนต์อุ่นหนาฝาคั่ง ในห้องโดยสารนั้นกลับอึดอัดมากกว่าข้างนอกนั่นหลายเท่า การหายใจไม่อาจทั่วท้องเมื่อต้องนั่งชิดติดอยู่กับความหงุดหงิด บรรยากาศธรรมดาที่สามารถพบเจอได้ทุกวัน ท้องฟ้าขมุกขมัวสาดไปด้วยแสงของดวงดาว เสียงบีบแตรและไฟท้ายของรถที่สะท้อนเข้าดวงตา ทุกอย่างในการมองเห็นตอนนี้กลับพิเศษเมื่อเด็กหนุ่มขาดหายไปหลายวัน ปกติมิวไม่ค่อยชอบคนขับรถที่ซอกแซกชีวิตส่วนตัวของผู้โดยสาร ยกเว้นวันนี้… เขารู้สึกอยากกดทิปให้หลายร้อยบาทเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณที่ช่วยให้สมองวุ่นวายได้คิดเรื่องอื่นบ้าง คำพูดยาวเหยียดก่นด่าไปทั่ว ตั้งแต่ลม ฟ้า อากาศ รวมไปถึงปัญหาค่าครองชีพถูกยัด

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 61 การทดลองต้องมีการเสียสละ

    ฝุ่นผงแห่งความอลหม่านถูกพัดปลิวให้จางหาย ถึงต่างฝ่ายจะยังค้างคาต่อกันไม่ว่าจะเป็นฝั่งปีศาจ เทพ หรือมนุษย์ ทว่าการยอมปล่อยให้เชือกที่ถืออยู่หลุดออกจากมือไปก่อน และรอให้คนของตัวเองได้รับการฟื้นฟู เรื่องอื่นยังพอจะรอกันได้ เมื่อบานประตูพังลงมนต์กำกับก็เสื่อมถอยตาม เฉกเช่นโซ่ที่เชื่อมต่อกันไว้อย่างเหนียวแน่น เมื่อมีสักข้อหลุดออกพลังแห่งการพันธนาการก็สิ้นฤทธิ์ ในบรรดาความยุ่งเหยิงทั้งหมดทั้งมวล มีสิ่งหนึ่งที่เอสันเห็นด้วยกับดันเต้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็คือ เป็นเอกควรเลิกกอดหมอนข้างแล้วทำท่าฟูมฟายเสียที นอกจากมันจะดูตลกในสถานการณ์คับขันแล้ว มันยังไม่ช่วยอะไรเลย ดวงตาแห่งเทพมองเห็นซึ่งความจริงตรงหน้า กลลวงเล็กน้อยจากปีศาจไม่อาจหลบเร้นจากการรู้แจ้งของเอสัน เขามองไปยังร่างของมนุษย์ใกล้ตัวด้วยความสมเพชเจือความขำขัน เพียงการกระดิกและตั้งจิตคิดเล็กน้อย ร่างอ่อนปวกเปียกในอ้อมกอดของเป็นเอกก็คืนกลับไปเป็นหมอนข้างยาวๆ สีหน้าและท่าทางของชายหนุ่มสลับอารมณ์แทบจะในทันที “ไปหาตัวจริงกันเถอะ” คำชักชวนเรียบง่ายจากเอสันดึงความสนใจของเป็นเอก

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 60 เบื้องหลังคือปีกผีเสื้อ

    ตามทางเดินอับชื้นซับซ้อนไร้ซึ่งแสงจากธรรมชาติสาดส่อง สิ่งเดียวที่ทำลายความมืดได้มีเพียงหลอดไฟ มที่ถูกติดอย่างห่างๆ อยู่บนเพดาน ความวังเวงเกาะติดหนึบในทุกเสียงย่ำเท้า ไม่ใช่เพราะนี่เป็นเวลาเลิกงาน แต่เป็นเพราะเส้นทางเหล่านี้เป็นเขตหวงห้าม ผู้คนส่วนใหญ่จึงถูกห้ามไม่ให้เข้ามายุ่มย่ามบริเวณนี้ หัวใจของดันเต้แน่วแน่ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใด แม้ความอึดอัดจะเริ่มคืบคลานไล่ตามหลังเขามาเรื่อยๆ สิ่งเดียวที่ช่วยให้เขามองข้ามความประหวั่นพรั่นพรึงได้หลายได้ คือความมุ่งมั่นต่อภารกิจ ในทุกอย่างก้าวหนักแน่นด้วยการระมัดระวัง ปีศาจคิวบัสเปิดทุกโสตประสาทให้ตื่นรู้ ดวงตาเปล่งประกายสีทองยามถูกเงามืดปกคลุม สิ่งเดียวที่เป็นเอกมีเหนือกว่าคือมันสมองอันชาญฉลาด กระนั้นแค่มนุษย์ก็ไม่อาจทำร้ายปีศาจอย่างดันเต้ได้ ด้วยพละกำลังเหนือกว่าสิบเท่า และเวทมนตร์ลี้ลับในตัว ชายเบื้องหน้าของเขาจึงไม่ถือว่าเป็นตัวอันตราย นอกเสียจากได้รับการช่วยเหลือบางอย่างจากกามเทพ ทางเข้าลับถูกเปิดออก เผยให้เห็นบันไดวนแบบปราสาทยุคกลาง ทุกอย่างข้างล่างนี้ดูแตกต่างจากคุก ทว่ามันกลับถ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 59 สมกับการเป็นปีศาจ

    หลังจากการเฝ้ามองอมอร์ผ่านสายตามาหลายวันนับตั้งแต่ไม่พบใบหน้าของมิว ต้องตอนนี้และห้องนี้เท่านั้นจึงจะเหมาะสมกับการลงมือที่สุด ดันเต้มั่นใจว่าอีกฝ่ายคงรู้ว่าเขาเทียวไล้เที่ยวขื่ออยู่ละแวกนี้ เพราะอย่างไรเสียคิวปิดก็เป็นเทพระดับสูง อีกอย่างที่นี่ถือเป็นถิ่นลับสำหรับกบดาน เขาเองก็ไม่อยากผลีผลามจนเกินไป ร่างสูงใหญ่ห่อหุ้มด้วยความเงียบงันเฝ้ารอให้กลิ่นหวานน่าสะอิดสะเอียนจางหาย ดันเต้จึงพออนุมานได้ว่าเทพปฏิปักษ์ของเขาจากรังลับนี้ไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยชะล่าใจหรือเหตุผลฉ้อฉลอื่นใดก็ตาม ช่วงเวลานี่จึงเหมาะกับการลงมือที่สุด ส่วนที่ว่าทำไมต้องเป็นห้องพักผ่อนของเหล่าแองเจิ้ล ก็เป็นเพราะดันเต้เคยสำรวจที่นี่มาแล้ว บริเวณนี้ไม่ลึกลับจนเกินไปทว่าก็มีความเป็นส่วนตัวสูง ปีศาจหนุ่มไม่อยากเสี่ยงเปิดเผยตัวตนต่อหน้าคนหมู่มาก หรือเผลอพลั้งมือใช้พลังจนเกินการควบคุมของตัวเอง ทุกอย่างถูกคิดมาอย่างดีเท่าที่สมองทึนทึกของดันเต้จะคิดออก รวมไปถึงการบุ่มบ่ามใช้ความรุนแรงโดยไม่จำเป็นกับอาร์เต้ด้วย มันถูกคาดการณ์เอาไว้โดยคร่าวไว้แล้ว

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status