Home / วาย / The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg) / ตอนที่ 6 เหม็นมากกว่ากลิ่นก็ขี้หน้านายนี่แหละ

Share

ตอนที่ 6 เหม็นมากกว่ากลิ่นก็ขี้หน้านายนี่แหละ

Author: Glita
last update Last Updated: 2024-12-13 00:02:30

          ดวงจันทร์เริ่มคล้อยตกอย่างอ่อนแรงราวกับคนที่ทำงานหนักมาทั้งคืน ขอบฟ้าเริ่มทอแสงส้มสว่างอยู่ไกลตา สัญญาณของวันใหม่ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

          พนักงานของอมอร์ก็เริ่มแยกย้ายกันจะเกือบหมด บางคนไม่ได้ลูกค้าก็หน้าตาเหี่ยวแห้งไป เพราะเงินเดือนที่นี่ไม่ได้มากนัก หากอยากอยู่รอดให้ได้ต้องอาศัยทิปจากลูกค้าเท่านั้น

          ส่วนพวกที่ได้ลูกค้ามีบ้างที่นอนเมาแอ๋กลับไปไหวอยู่ที่ห้องพัก บางคนก็แอบนัดแนะไปต่อกับลูกค้า แม้กฎของบริษัทจะระบุเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วก็ตามว่า การค้าประเวณีเป็นเรื่องต้องห้าม พนักงานทุกคนควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

          แต่แน่นอนว่าพนักงานหนุ่มแน่นทุกคนของที่นี่รู้ดีว่าใต้กฎมักมีดอกจันที่มองไม่เห็นแอบซ่อนอยู่เสมอ 

          คืนนี้มิวโดนไปหลายดื่ม ชายหนุ่มจำเป็นต้องใช้ร่างกายเพื่อต่อรองกับเงินซึ่งเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประสบการณ์และการฉอเลาะเท่านั้นที่ทำให้เขาเอาตัวรอดได้คืนต่อคืน โดยไม่ภาพตัดไปเสียก่อน

          รถยนต์จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่มิวยังไม่คิดจะครอบครอง ด้วยอาชีพที่ต้องมึนเมาเป็นอาจิณ การซื้อยานพาหนะก็คงไม่ต่างซื้อเหล็กมาตั้งไว้ให้ผุพัง มิหนำซ้ำยังก่อเกิดรายจ่ายที่ไม่เป็นสำหรับตัวเขาอีกด้วย

          หากไม่ใช่บริการรถสาธารณะก็อาศัยติดรถกลับไปกับเพื่อนพนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยินดีจะเป็นสารถีให้กับมิว อาจเพราะตำแหน่งสูงสุดที่ติดอยู่ข้างหลังเขา ดึงดูดผู้คนเข้าหาโดยตั้งใจ

          ด้วยสติที่ยังพอเหลืออยู่มิวตั้งใจจะแวะไปหาอาร์เต้ รุ่นน้องร่วมกลุ่มทรินิตี้แองเจิ้ลที่ไม่เจอหน้ากันเกือบอาทิตย์เห็นจะได้

          บรรดาสามตัวท็อปของพนักงานทุกคนในอมอร์ อาร์เต้คือคนที่อายุน้อยที่สุด เขาเข้ามาทำงานจากการชักชวนเป็นเอกพนักงานของร้าน

          หลังจากเสร็จพิธีรับปริญญาสามวัน อาร์เต้ก็เดินเข้ามาสมัครงานที่ร้านทันที จากนั้นไม่นานเขาก็ไต่ระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจด้วยหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก บวกกับความอ่อนเยาว์ของเด็กหนุ่ม เลยทำให้ต้องตาต้องใจเหล่าลูกค้ากระเป๋าหนัก

          เกือบปีต่อมาอาร์เต้ก็เข้าสู่กลุ่มทรินิตี้แองเจิ้ลได้ โดยคนก่อนหน้านี้ลาออกไปเนื่องด้วยอาการเจ็บป่วย พนักงานบางคนเมาท์มอยกันว่าเขาติดโรคจากลูกค้า บางคนก็บอกว่าเขาแค่เหนื่อยจากการทำงาน เพราะวันสุดท้ายที่มาลาออกสภาพดูอิดโรย ขอบตาลึกโบ๋ จนจำความสวยงามก่อนหน้านั้นแทบไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดอาร์เต้ก็กลายเป็นน้องที่ทั้งมิวและเจษเอ็นดู

          ระหว่างนั่งแท็กซี่มิวก็คอยส่งข้อความหาอาร์เต้อยู่เรื่อยๆ เขาได้แต่หวังว่าจะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มคนนั้น

          หลังลงจากรถมิวก็บึ่งขึ้นห้องของอาร์เต้ในทันที โชคดีที่พวกเขาสนิทกันมากพอจะมีคีย์การ์ดของกันและกัน

          ไม่นานนักมิวก็หยุดอยู่หน้าประตูไม้บานใหญ่ เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะกดออดเรียกเจ้าของห้อง

          ชั่วลมหายใจเพียงขณะหนึ่งบานประตูก็แง้มออก ข้างในนั้นสลัวเสียจนเหมือนหลุดออกมากหนังสยองขวัญ กลิ่นอับเจือจางพวกพุ่งออกมาพร้อมกับสายลมที่พยายามหลบหนี

          แสงไฟจากโถงทางเดินเป็นเพียงแสงสว่างเดียวที่ทอดยาวเข้าไปในห้อง มิวพยายามเพ่งสายตาสู้กับความมืด

          ชายผู้หลบเร้นกายอยู่ในเงานั้นร่างสูงใหญ่จนมิวมั่นใจได้อย่างชัดเจนว่านั่นไม่ใช่อาร์เต้แน่นอน เด็กหนุ่มคนนั้เตี้ยกว่ามิวที่สูง 178 เซนติเมตรเพียงเล็กน้อย แต่คนตรงหน้านั้นสูงใหญ่กว่าเขาไปมาก

          “อาร์เต้อยู่ไหม?” เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมพูด มิวเลยถือคติเปิดก่อนได้เปรียบ 

          “นอนอยู่” อีกฝ่ายตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา

          ถึงจะรู้ว่าอาร์เต้เป็นเด็กหนุ่มรักสนุกหอบหิ้วทั้งสาวสวยและหนุ่มหล่อมากหน้าหลายตาขึ้นห้องนอนอยู่บ่อย แต่ครั้งนี้มิวกลับรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก

          “ผมขอเข้าไปดูน้องมันหน่อยได้ไหม?” 

          ชายในเงาสลัวพยักหน้าพลางอ้าบานประตูให้กว้างออกพอจะให้มิวแทรกตัวผ่านเข้าไปได้

          ชั่วขณะที่มิวแทรกตัวผ่านชายร่างสูงใหญ่ เขาเหลือบเห็นรอยช้ำที่บริเวณจมูกสูงโด่ง จู่ๆเขาก็นึกสงสัยถึงที่มาของรอยนั้น ท้ายทอยของเขาก็ปวดตุบขึ้นมา

          ทันทีที่ขาก้าวเข้าสู่ห้องกลิ่นแปลกประหลาดก็ลอยเตะจมูกของมิวเข้าอย่างจัง จะว่าหอมก็พูดได้ไม่เต็มปาก จะว่าเหม็นก็เชิง มันคล้ายกลิ่นยางจากไม้เข้มข้น หรือสารหอมระเหยอะไรสักอย่างที่ฉุน

          “ฉันดันเต้” ชายร่างโตแนะนำชื่ออย่างเป็นมิตร

          “ฉันมิว”

          การแจ้งชื่อทำให้ความตึงเครียดลดลงและเพิ่มความเป็นมิตร ถึงมิวจะไม่อยากรู้เรื่องส่วนตัวสักเท่าไหร่นัก ด้วยคิดว่าอีกเดี๋ยวชายตรงหน้าก็คงหายไปจากชีวิตอยู่ดี

          “ให้ฉันไปปลุกเขาให้ไหม?”

          “ไม่เป็นไร! ฉันเป็นเพื่อนร่วมงานของเขา เขาไม่ได้แวะไปทำงานหลายวันแล้ว ก็เลยอยากแวะมาดูว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า”

          “เขาแค่เพลีย ไม่นานก็คงไปทำงานได้”

          “นายเป็นหมอหรือยังไง?”

          “เปล่า? แต่ผมอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้” ดันเต้หัวเราะราวกับพอใจ “เขาไม่เป็นอะไรหรอก นายจะไปดูด้วยตาก็ได้”

          การต้องคอยฉอเลาะใส่ลูกค้าทำให้มิวต้องคอยพูดตาชวนทะลึ่งตึงตังอยู่บ่อยครั้ง แต่การโดนพูดสองแง่สองง่ามใส่ตัวเองนั้น กลับทำให้มิวหงุดหงิดเล็กน้อย อันที่จริงเขารู้สึกไม่ค่อยชอบขี้หน้าของชายที่ชื่อดันเต้สักเท่าไหร่ ถึงแม้จะม่ได้เห็นหน้าอย่างชัดเจนก็ตาม

          มิวย่างเท้าอย่างระมัดระวังในความมืดตรงไปยังห้องนอนของอาร์เต้ เงาตะคุ่มข้างหลังทำให้เขานึกถึงฝันประหลาด ทั่วทั้งสันหลังเย็นวูบวาบ

          ถึงจะไม่ได้หันไปดูแต่มิวก็รู้ว่าคนข้างหลังจ้องเขาไม่วางตา เขาได้แต่เดินตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆไม่กล้ากลับไปมอง

          “อาร์เต้” มิวร้องเรียกเด็กหนุ่มผิวซีดเผือด “ไอ้เต้โว้ย!”

          มือเนียนละเอียดตบเบาๆลงใบหน้าที่หลับพริ้ม พลางขานชื่อไม่หยุดหย่อน แก้มที่ยังอุ่นและผิวหนังที่ยังยืดหยุ่นเป็นสัญญาณดีที่บ่งบอกว่าเจ้าของร่างยังมีชีวิต

          “หือ?”เด็กหนุ่มเปิดเปลือกตาครึ่งหนึ่ง น้ำเสียงหนักอึ้งเสียจนฟังเกือบไม่ได้ศัพท์ 

          “ทำไมไม่ไปทำงาน?”

          ใบหน้าในเงามืดนั้นพร่าเบลอ แต่อาร์เต้ก็จำเสียงนี้ได้ “ผมง่วงๆเพลียๆครับ ไปทำงานไม่ไหว”

          “ไม่สบายหรือเปล่า?” มิวถามพลางยื่นหลังมือแตะหน้าผากของเด็กหนุ่ม

          “ไม่ครับ แค่ง่วง”

          “แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร” เพื่อความแน่ใจมิวใช้หลังมือแตะเข้าซอกคอของเด็กหนุ่มอีกรอบ

          ผิวหนังขาวสว่างของอาร์เต้ขับรอยช้ำให้เด่นชัด มิวเพ่งสายตามองรอยเหล่านั้นตามเนื้อตัวของเด็กหนุ่ม เขาพอเข้าใจความหมายของร่องรอยที่ถูกทิ้งเอาไว้นี้ดี เลยไม่อยากซักไซ้อะไรให้มากความ

          “โอเค! งั้นนอนพักต่อก็แล้วกัน” มิวรู้สึกโล่งอกไปเปลาะหนึ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มจางๆของเด็กหนุ่ม “ถ้าไหวแล้วไปทำงานด้วยล่ะ พี่เป็นเอกรอเด็ดปีกอยู่ถ้าไม่ไปทำงาน”

          “ครับๆ ผมไปวันนี้นี่แหละ”

          พูดจบอาร์เต้ก็ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วราวกับความฝันใหม่เรียกตัวเขาไป

          ธุระเร่งด่วนของมิวจบลงในเวลาอันสั้น เขามองหน้าเด็กหนุ่มท่าทางเหนื่อยหนักอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องนอน

          ชายร่างสูงใหญ่ยังคงยืนคอยอยู่หน้าประตูไม่ขยับ ชั่วครู่เขารู้สึกว่าดวงตาดำขลับนั้นเรืองรองเป็นสีทองในเงามืด ทว่าเมื่อกะพริบตาอยู่สองหรือสามครั้ง แสงสว่างนั้นก็เลือนหายไป

          “ฝากดูแลอาร์เต้หน่อยนะ”

          จู่ๆมิวก็รู้สึกไม่ถูกชะตาดันเต้แทนที่ควรจะกลัว อาจเพราะท่าทางหยิ่งยโส ไม่ก็เพราะกลิ่นแปลกๆที่เหมือนจะลอยออกมาจากตัวของเขา

          “ฉันก็บอกนายแล้วว่าเขาแค่เหนื่อย

          ชายทั้งสองกันโดยไร้ซึ่งคำล่ำลา อาจเพราะไม่ได้รู้สึกสนิทกันและไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก การยกมุมปากขึ้นยิ้มเล็กน้อยก็พอเพียงแล้ว

          คล้อยหลังมิวไม่ทันไรบานประตูก็กลับไปปิดแนบสนิทอีกครั้ง ชายร่างยักษ์เดินตรงเข้าห้องนอนด้วยท่าทางสบายใจ ดวงตาสีเข้มเรืองรองเป็นประกายในความมืดจับจ้องยังร่างเด็กหนุ่มที่นอนไม่ไหวติง

          “จริงๆฉันก็ชอบนายนะ” เสียนุ่มทุ้มดังก้องกังวาน “แต่ฉันว่าฉันคงชอบเพื่อนของนายมากกว่า”

Related chapters

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 7 พิษร้ายจากปีศาจ

    แสงตะวันสีเหลืองทองค่อยๆไต่ไล่แต่ละยอดตึกอย่างเชื่องช้า สีของมันทอเป็นประกายเฉกเช่นเดียวกับความดวงตาของชายร่างใหญ่ ทว่าในห้องนอนสี่เหลี่ยมเล็กนั้นปิดทึบนั้นต่างจากภายนอกราวกับคนละโลก เด็กหนุ่มใบหน้าอิดโรยพยายามดันตัวให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างยากลำบาก ชายอีกคนยืนอยู่ปลายเตียงไม่มีทีท่าจะเข้าช่วยเหลือ มิหนำซ้ำยังมองเหยียดต่ำลงไปราวกับจ้องมองขยะที่ไร้ประโยชน์ “ฉันชอบนาย” น้ำเสียงของอาร์เต้แหบพร่า “นายไม่ได้ชอบฉันจริงๆหรอกหนุ่มน้อย อีกไม่นานนายก็จะจำฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ” “งั้นก็อยู่กับฉันต่อเรื่อยๆ ฉันจะได้จำนายได้” “ก็อยากอยู่นะ… แต่คงไม่ได้ นายอ่อนแอเกินไป” “จูบฉันสิ ฉันจะพิสูจน์ให้นายเห็นว่าฉันเข้มแข็งพอจะอยู่กับนาย” “น้ำลายของฉันมันก็ได้ผลแต่ชั่วคราว แต่พอหมดฤทธิ์แล้วนายจะแย่เอา “ใครสน!” อาร์เต้ปฏิเสธเสียงแข็ง “ฉันก็แค่อยากมีอะไรกับนาย ต่อให้ร่างกายนี้จะเป็นยังไงก็ช่าง” ดันเต้ได้แต่สั่นหัวเบาๆภายใต้เงามืด ในใจก็นึกโทษตัวเองที่น่าจะทิ้งอาร์เต้ไปให้เร็วกว่านี้ ท

    Last Updated : 2024-12-13
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 8 อีกรูปแบบของความอำมหิต

    ราตรีถูกทำลายโดยสมบูรณ์เมื่อดวงจันทร์ลาลับจนไร้ซึ่งร่องรอย แสงแห่งชีวิตสาดส่องไปจนทั่วพื้นภิภพ ยกเว้นก็แต่ห้องนอนห้องเล็กนี้ เงามืดยังปกคลุมเป็นส่วนใหญ่ แม้อาทิตย์จะพยายามลอดเล็ดเข้ามา แต่ม่านหนาทึบก็ยังสกัดกั้นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ร่างเล็กกว่าขึ้นคร่อมตักของอีกฝ่ายอย่างมั่นคง ใบหน้าทั้งสองเกือบจะตั้งในระนาบเดียวกัน แม้ว่าอีกฝ่ายจะสูงกว่ามากแต่กลับไม่เป็นปัญหาในท่าทางนี้ ดวงตากลมโตสอดประสานเป็นชิ้นเดียวกัน ทั้งคู่จ้องมองกันอย่างท้าทาย ไม่มีใครยอมโอนอ่อนให้ใคร แก้มของชายทั้งคู่ระเรื่อเจือด้วยสีของเลือดสดๆ บ่งบอกได้ว่าจะมนุษย์หรือปีศาจต่างก็อารมณ์ความรู้สึกไม่ต่างกัน อำนาจของบางสิ่งอยู่เหนือการควบคุม ม่านหมอกสีขาวบดบังนัยน์ตาสุกใสจนขุ่นมัว สัญชาตญาณดิบหลั่งไหลผ่านทุกรูขุมขนบนผิวหนัง อาร์เต้นั่งคร่อมวางก้นกลมกลึงทับท่อนเนื้อขนาดไม่ธรรมดา เอวร่อนร่ายส่ายไปมาราวกับกำลังทรมานชายตรงหน้าให้ขาดใจ “ฉันชอบรอยสักของนาย” เด็กหนุ่มอมยิ้มไปด้วย “ทุกอันล้วนมีความหมาย ถ้าไม่ใช่เครื่องตีตรา ก็เป็นรอยแต่กำ

    Last Updated : 2024-12-13
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 9 อาหารอีกมื้อ

    กล้ามเนื้อขาของอาร์เต้ยกก้นของตัวเองขึ้นก่อนจะลดลงมาอีกครั้ง ท่อนยักษ์ไถลลื่นเมุดเข้าไปในปากทางสีสดใสนั้นในครั้งเดียว ส่วนปลายบวมเป่งดันกลับเข้าไปยังส่วนลึกที่สุดของช่องภายใน และกระแทกเข้ากับจุดบอบบางแสนอ่อนไหว ประกายไฟฟ้าปะทุขึ้นเล็กตามปลายประสาท ช่องท้องถูกเติมจนเต็มแต่กลับรู้สึกเบาโหวง ความเสียวแปลบกระจายออกจากสะดือไปตามเส้นเลือดปูดโปน “อืม… อึก…” อาร์เต้ร้องโอดครวญแม้จะเป็นฝ่ายกระทำแต่กลับรู้สึกถูกกระทำเสียเอง “รู้สึกดีชะมัด” “โคตรดีต่างหาก… นะ… นาย แน่นมาก ไม่น่าเชื่อว่าเราทำกันแบบนี้แทบไม่หยุดมาหลายวันแล้ว” คำชมปลุกเร้าอารมณ์ของมนุษย์ผู้อ่อนไหว อาร์เต้กดสะโพกขึ้นลงจนสุด แม้ว่าจะรู้สึกว่าข้างในกำลังถูกท่อนเนื้อฉีกให้แยกออกจากกันก็ตาม “ถึงจะตัวเล็กแต่นายแรงเยอะ… เหลือเชื่อเลยแฮะ” “นายชอบแค่แรงของฉันเหรอ” อาร์เต้โอบรัดรอบคอของดันเต้ด้วยวงแขนอ่อนนุ่ม “ส่วนที่เหลือล่ะ?” “นายมีอย่างอื่นที่ดีกว่าไหมล่ะ?” ดันเต้กำรอบท่อนเนื้อที่เล็กกว่า “พิสูจน์สิ!” เด็กหนุ่มเด้งเอวที่นุ่มนวลและค

    Last Updated : 2024-12-13
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 10 เตือนแล้วก็ไม่ยอมฟัง

    แดดร่มลมตกเป็นเวลาอันตื่นตัวสำหรับมิว เขาชอบวิ่งออกกำลังกายยามแสงขอบฟ้าทอเป็นสีเข้ม มันให้เขารู้สึกสงบเงียบแบบที่หาจากที่ไหนไม่ได้ ลู่วิ่งคอนกรีตทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ชายหนุ่มปล่อยให้สายลมเย็นลูบไล้ใบหน้าและเรือนผม สายตาเหลือบมองผู้คนรอบข้างที่ยิ้มร่าทักทายเขาอย่างมีความสุข ชายทางขวามือ ผู้หญิงที่พึ่งวิ่งผ่าน และเด็กข้างหน้า เหมือนเคยเจอกันมาก่อนจากสักที่ มิววิ่งพร้อมลากความสงสัยติดสอยห้อยตามไปด้วย ‘ใครวิ่งตามมาวะ?’ ชายหนุ่มร่างสันทัดผมสีน้ำตาลเป็นประกายเอะใจ เมื่อเหลือบตาเห็นเงาตะคุ่มวิ่งไล่หลังมา ทว่าเขาก็ไม่กล้าหันไปมอง ทำได้เพียงเร่งฝีเท้าจนเงานั้นเลือนหายไป ไม่นานม่านหมอกทึบสีขาวก็ไล่ตามหลังเด็กหนุ่ม เหตุการณ์เหล่านี้ปลุกการตื่นรู้ของมิว เขาหยุดเรียงลำดับเหตุการณ์ในสมองอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าครุ่นคิดแสดงออกมา ‘นก’ เพียงแค่คิดฝูงนกก็บินทะยานขึ้นท้องฟ้าราวกับกำหนีอะไรสักอย่าง ‘คน’ ฉับพลันผู้คนรอบกายก็ค่อยๆเลือนหายราวกับมีใครลบทิ้งไป ‘แล้วก็ไอ้เวรนั่น!’ เงา

    Last Updated : 2024-12-14
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 11 เพื่อคืนความสงบมันต้องจบที่เตียง

    ชายหนุ่มกวาดต้อนสายตาไปทั่วทุกมุมห้อง สิ่งของในนี้เหมือนห้องนอนของตัวเองไม่ผิดเพี้ยน สีเย็นสบายของผนัง ผ้าปูสะอาดตา เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง อารมณ์รวมถึงความคิดของมิวกระจัดกระจายกลายเป็นสายหมอก หลอมรวมกับประกายแสงที่รายล้อมรอบตัว เขาไม่มั่นใจอีกต่อไปแล้วว่าอะไรคือความจริงหรือความฝัน “นายนี่โคตรดื้อด้านเลย ฉันไม่เคยเจอใครทำตัวงี่เง่าเท่านายมาก่อน” ปีศาจไร้นามเปล่งเสียงดึงดูดความสนใจ ดวงตากลมโตหรี่เล็ก คิ้วขมวดชนเข้าหากัน หากนับรวมทุกเหตุการณ์ทั้งหมด ดูเหมือนว่าชายผิวเข้มที่นั่งเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าของมิวในตอนนี้ ดูประหลาดมากที่สุด ก่อนจะทันรู้ตัวหรือคิดอะไรเพิ่มเติม ร่างตรงหน้าก็พุ่งขึ้นคร่อมมิวประทับรอยจูบอย่างรวดเร็ว ของเหลวอุ่นร้อนถูกสอดลอดไปกับลิ้น การขัดขืนกลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่มิวอยากทำ เขาเปิดโพรงปากรับรสสัมผัสที่โหยหามาช้านาน ในใจขุ่นมัวถูกตีโอบด้วยหมอกทึบหนา มิวพยายามดึงสติเพื่อไม่ให้เตลิดจนเกินควบคุม เขากำหมัดจนแน่นพยายามดันอีกฝ่ายให้หลุดออก… แต่ก็ไร้ผล “แค่นี้ก็คงพอ” เมื่อทุกอย่างเป็นไปดั่งใจ ปี

    Last Updated : 2024-12-15
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 12 สองมือดีกว่ามือเดียว

    ด้วยกลิ่นผสมรวมกับความร้อน มิวยอมรับแต่โดยดีว่าเขาเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง ทว่ามันแลกกับการที่เด็กหนุ่มได้รับการเยียวยารักษาจากอาการผิดปกติของร่างกาย เขาก็พร้อมจะยอมเสี่ยง ไม่ว่าจะกี่หมอหรือยากี่ขนานก็ไม่ทำให้เจ้าหนูของมิวฟื้นตื่นขึ้นจากการหลับใหล แม้กระทั่งกระดิกตัวในตอนเช้าก็ไม่ได้ มันเป็นแบบนี้มานานเกือบสองปีแล้วที่เขาต้องเก็บงำความทุกข์เอาไว้เงียบเชียบ ความภูมิใจในความเป็นชายเริ่มลดน้อยถอยลง ในตอนนี้แม้ต้องเซ็นชื่อลงในสัญญาปีศาจเพื่อแลกกับเจ้าหนูที่แข็งแรงดังเดิม มิวก็คงกรีดเลือดเทลงไปโดยไม่อ่านเงื่อนไข แม้จะเริ่มต้นด้วยความหงุดหงิด แต่หากมันจมลงด้วยความสุขสม ก็คงไม่เป็นอะไรนัก เพราะท้ายที่สุดเมื่อมิวตื่นจากฝัน เขาก็จะพบโลกจริงและแยกแยะเรื่องบ้าบอพวกนี้ไว้เป็นเรื่องของความฝัน “มานั่งนี่สิ” ปีศาจร่างใหญ่จับปลายนิ้วของเด็กหนุ่มอย่างทะนุถนอม “มิว” “นะ… นายรู้จักชื่อฉัน… ได้ไง” “ไม่ต้องรีบหาคำตอบหรอก” ปีศาจหนุ่มนั่งลงบนขอบเตียง ขาแน่นหนักทั้งสองฉีกกว้าง ก่อนจะฉุดรั้งร่างเล็กกว่าให้แทรกกายผ่านช่องแยกนั้น “เรามี

    Last Updated : 2024-12-15
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 13 กลิ่นที่ติดจมูกแต่แกล้งทำเป็นไม่ได้กลิ่น

    ถึงจะพยายามหลับต่อแต่สิ่งที่ได้กลับเป็นความมืดไร้จุดสิ้นสุด ไม่มีอะไรแปลกประหลาดจนมิวคิดว่าความฝันนั้นมันอาจเป็นเพียงแค่ฝันธรรมดา ที่ผ่านการปรุงแต่งจากจิตใต้สำนึก อันที่จริง ‘*Lucid Dream’ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับมิว การรู้ตัวว่ากำลังฝันทำให้มิวสามารถสร้างสนามเด็กเล่นในจินตนาการได้อย่างเพลิดเพลิน แต่นั่นก็ทำให้เขาจำสลับความฝันกับความจริงอยู่บ้าง หลังจากตัดใจเลิกนอนต่อ มิวใช้เวลาที่ควรวิ่งในสวนสาธารณะเปลี่ยนเป็นจดจ่ออยู่หน้าแล็ปท็อป เลือกหนังผู้ใหญ่ที่ถูกใจเพื่อทำสิ่งที่ค้างคาให้จบ ทว่าทุกอย่างก็เหมือนเดิม ไร้การเคลื่อนไหวอื่นใดจากช่วงล่าง นอกจากฝ่ามือที่พยายามขยับอย่างรวดเร็ว นั่นสร้างความหงุดหงิดให้ชายหนุ่มผู้เปี่ยมล้นด้วยความหวัง ความตะขิดตะขวงใจเหล่านี้อึดอัดอยู่ในหัวของมิวตามไปจนถึงที่ทำงาน ชายหนุ่มไม่อาจสลัดความตื่นเต้นที่พบเจอได้เลย ส่วนล่างแม้จะนิ่งสงบ ทว่ามิวยังรู้สึกเต้นตุบๆอยู่ภายใต้ผิวหนังขาวสะอาด ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยถ่านไฟที่คุกรุ่นตามติดไปทุกที่ มันค่อนข้างแปลกแต่เขาก็อยากสัมผัสประสบการณ์เช่นนี้อีก ชายหนุ่

    Last Updated : 2024-12-16
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 14 เล่นไปตามกฏแบบไม่เต็มใจ

    หมู่เมฆรวมตัวกันหนาจนเต็มท้องฟ้า ปิดบังแสงจันทร์นวลไม่ให้เฉิดฉาย ลมโชยอ่อนนำพาความอุ่นโอบอุ้มร่างกายยามสัมผัส แม้จะใกล้ยามรุ่งสางแล้วทว่าสุดขอบยังมืดมิดไร้ความเคลื่อนไหว ดูเหมือนวันนี้ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างเชื่องช้ามากกว่าวันอื่น มิวหอบสัมภาระชิ้นเล็กติดตัวยืนรออาร์เต้อยู่หน้าร้าน พวกเขานัดว่าจะหาอะไรกินนิดหน่อย แต่เด็กหนุ่มวัยรุ่นติดพันอยู่กับลูกค้าจนเลยเวลาเลิกงานมาสักพักใหญ่ ส่วนตัวของมิวแม้จะเสร็จก่อนแต่ก็ยังถือว่าช้ากว่าตอนปกติอยู่ดี การออกมาสูดอากาศนอกร้านเป็นสิ่งที่ทำให้มิวรู้สึกปลอดโปร่ง อย่างน้อยได้แหงนมองขึ้นมองแผ่นฟ้ากว้างใหญ่ก็ช่วยให้เขาสร่างจากอาการมึนเมาได้บ้าง ดีกว่านั่งอยู่ในห้องแคบๆ มองผนังทั้งสี่ด้านส่ายไปส่ายมาจนเวียนหัว หน้าร้านค่อนข้างเงียบเชียบ เพราะเลยเวลาเลิกงานมานานแล้ว พวกพนักงานที่ไม่มีลูกค้าส่วนใหญ่จะขอกลับก่อน ส่วนที่เหลือพอร้านปิดก็ทยอยกลับพร้อมลูกค้า ไม่ก็แยกย้ายทางใครทางมัน ลูกค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอยู่เลยเวลาปิด เพราะไม่อย่างนั้นพวกเขาจะถูกคะยั้นคะยอให้เปิดห้องวีไอพี หลายคนจึงไม่อยาก

    Last Updated : 2024-12-17

Latest chapter

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 55 ไม่เสียชีวิตก็เสียสติ

    ในห้องสี่เหลี่ยมทึบทั้งสี่ด้านไม่มีอะไรให้สังเกตสังกา โดยเฉพาะในช่วงเวลาอันเหนื่อยอ่อนเช่นนี้ เด็กหนุ่มลอบมองไปยังใบหน้าขาวผุดผ่องภายใต้เรือนผมสีทอง เขาไม่อาจคาดเดาได้ว่าข้างในจิตใจของคิวปิดตรงหน้าอยู่นั้น มีความเป็นปีศาจหรือเทวดามากกว่ากัน “เลอะเทอะกว่าที่คิดไว้สักหน่อย” เอสันใช้แรงมหาศาลที่ขัดกับรูปลักษณ์ของตัวเอง ยกเก้าอี้ขึ้นมาตั้งเพื่อให้มิวนั่ง หลังมองเห็นขาเรียวบางของมนุษย์หนุ่มสั่นงันงกแทบยืนไม่ไหว “แต่ก็หวังว่านายจะไม่ได้รับพลังของฉันจนมากเกินไปนะ” “หมายความว่าไง?” มิวถามห้วนๆ หลังพักสะโพกลงบนเก้าอี้บุหนัง จิตใจของเด็กหนุ่มสงบลงหลังเสร็จกิจกามฉบับเร่งด่วน เขามีเวลาได้พักผ่อนร่างนิดหน่อย ถึงกุญแจมือจะเริ่มบาดข้อมือมากขึ้นก็ตาม “ก็ตอนนี้ในตัวนายมีอะไรต่อมิอะไรผสมกันยุ่งเหยิงไปหมด ขืนนายรับเวทมนตร์เล่นงานมั่วซั่วเข้าไปจนเกินพอดี มีหวังนายอาจจะเสียตัวตนไปตลอดกาลก็ได้” เมื่อเห็นแววตาช่างสงสัยของมิว เอสันจึงขยายความต่อสั้นๆ “หมายถึงวิกลจริต” มีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย สีหน้าของมิวซีดเผือด หางคิ้วและดวงตาลู่ต่ำ ในหัวพยายามจับคู่ใบหน้ากับ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่  54 สองครั้ง สองคน สองอารมณ์

    นิ้วมือทั้งสิบของเอสันถูกปกคลุมด้วยเมือกเหลวโดยสมบูรณ์ เมื่อการกระตุกครั้งสุดท้ายสงบนิ่ง กามเทพผู้กระหายก็ปลดปล่อยอีกร่างให้เป็นอิสระ นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด… ทว่ากลับเป็นการเริ่มสู่บทใหม่ที่เร้าใจยิ่งกว่า ท่าทีกระเสือกกระสนด้วยความเสียวซ่านของมิว ปลุกชีพเทวดาน้อยตัวใหญ่ที่สิงสถิตอยู่ระหว่างขาของเอสัน ให้ชูชันพร้อมสำหรับบรรเลงท่วงทำนองการโหมโรง “ฉันถลำลึกเกินไปแล้ว” เอสันบ่นกับตัวเอง เขาทั้งรู้ตัวเองดีและขลาดเขลาไปพร้อมกัน ทุกอย่างในความนึกคิดถูกไฟแห่งความคลุมเครือแผดเผาจนเหลือแต่ตอตะโก “ฉันควรแค่นี้หรือเปล่า” “แล้วมีอะไรให้นายทำอีกหรือยังไง” มิวถามด้วยดวงตาใสซื่อ “ถ้าฉันอยากทำมากกว่านี้ล่ะ” คิวปิดฉายแววเจ้าเล่ห์ผ่านทางคำพูด พลางกดหลังของมิวให้แอ่นโค้ง และยกสะโพกให้เด้งสูง “ยังไงซะ! ก็หวังว่านายจะชอบของขวัญที่ฉันกำลังจะมอบให้นะ” สำหรับมิวของขวัญจากเทพไม่เคยเป็นเรื่องดี รวมถึงในสถานการณ์แสนหมิ่นเหม่ในครั้งนี้เช่นกัน ถึงอยากจะปฏิเสธหรือแข็งขืน แต่ผลลัพธ์คงออกมาไม่ต่างกัน ศาสตราแห่งเทพชูชันแข็งโด่อย่างเต

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 53 ความตื่นเต้นที่ไม่ได้เจอกันบ่อย

    เมื่อโดนทักท้วงถึงความรู้สึกที่ถูกละเลย มิวรู้จึงเริ่มรู้ตัวถึงของเหลวที่ไหลซึมผ่านรอยแยกจากด้านหลัง มันพรั่งพรูออกมาไม่ต่างจากด้านหน้า เด็กหนุ่มไม่แน่ใจว่าเขาควรวิตกกังวลกับเหตุการณ์นี้แล้วหรือยัง “เมล็ดพันธุ์คงกำลังกระตุ้นนายอยู่” เอสันพูดพลาง แสยะยิ้มที่ไม่อาจอ่านความหมาย ใบหน้าเคลือบแฝงความบริสุทธิ์และความร้ายกาจไปพร้อมกัน “ไม่ใช่เลือดหรืออะไรที่เลวร้ายใช่ไหม?” มิวลดคิ้วลงต่ำ พยายามก้มมองลงไปยังหว่างขาที่เปียกโชก แต่ก็ติดโซ่เย็นยะเยือกตรึงร่างเอาไว้ “มันก็แค่น้ำใสๆ เผื่อนายอยากรู้” หมอกจางๆสีสวยยังคงครอบคลุมบรรยากาศโดยรอบให้โอบล้อมด้วยเสน่หา คิวปิดผู้ร่วมชะตากรรมลุกขึ้นยืน สาวเท้าก้าวเล็กๆ เข้าไปในวงเวทย์รูปดาว ดวงตาดุจดวงดาราในห้วงอวกาศจับจ้องไปยังใบหน้าขวยเขินของเด็กหนุ่ม “นายเป็นผู้โอบอุ้ม… น่าจะรู้ดีกว่าใครว่าเมล็ดพันธุ์ต้องการอะไร” พูดพลางเอสันก็ยื่นมือจับไปยังแท่งไฟที่ยังแข็งอยู่กลางลำตัวของมิว “เกสรไม้ย่อมมีน้ำหวานเพื่อล่อหลอกให้แมลงเข้ามาเชยชม ถึงจะได้ดอกผลอันงดงาม” “ฮะ… อึก…” มิวย่นคิ้วใบหน้าเหยเก

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 52 สองมือกำ

    นอกเหนือจากรสสัมผัสทางการมองเห็นจะน่าหลงใหล กลิ่นแก่นร่างกายของเอสันยังชวนให้มิวเคลิบเคลิ้ม จนเขาอดคิดถึงขนมเพิ่งอบใหม่ๆไปเสียไม่ได้ กลิ่นวานิลลาหอมอ่อนๆผสมกับกลิ่นละมุนของเด็กหนุ่มคละเคล้ากัน สร้างความรู้สึกอันหาสิ่งใดเปรียบเปรยไม่ได้ กามเทพหนุ่มมีรูปร่างสมส่วนราวกับปั้นแต่งโดยช่างศิลป์มือทอง ใบหน้าทั้งสองข้างสมมาตรกันพอดิบพอดีไร้ที่ติ ดวงตากลมโตแต้มสีฟ้าทอเป็นประกายงดงาม เส้นผมหยักศกเป็นลอนใหญ่ราวแสงอรุณสีเหลืองทอง ผิวพรรณก็เนียนลออเรียบลื่นไม่ต่างจากหินอ่อน กล้ามเนื้อมัดเล็กช่วยเสริมให้ร่างกายที่ไม่สูงมากนักดูแข็งแรง หากประเมินผ่านๆด้วยสายตา มิวคิดว่าเอสันน่าจะสูงสักร้อยเจ็ดสิบนิดๆ ซึ่งน่าจะเตี้ยกว่าเขาไม่เกินแปดเซนติเมตรโดยประมาณ เมื่อประกอบรวมกับใบหน้าอันอ่อนเยาว์ ทำให้ชายหนุ่มนึกสงสัยว่ากามเทพตรงหน้านั้นอายุถึงวัยทำเรื่องอย่างว่าจริงๆแล้วแน่ใช่ไหม “นายคงไม่สบายตัวแน่ถ้ายังขืนใส่กางเกงเอาไว้แบบนี้” เอสันพูดพลางเคล้นคลึงกลางเป้าที่เปียกแฉะ ยิ่งเขาสัมผัสและบีบแท่งเนื้อในร่มผ้านั้นมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแสดงอาการอึดอัดมากตามเท่านั้น “ให้ฉันถอ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 51 แค่เอาตัวรอด?

    สถานการณ์ที่ไม่อาจควบคุมผันเปลี่ยนเร็ว จนหัวของเด็กหนุ่มตาใสอย่างมิวหมุนตามไม่ทัน สติของเด็กหนุ่มอายุยี่สิบสี่ตั้งรับกับการผันผวนยิ่งกว่าดัชนีตลาดหุ้นไม่ไหว ไม่กี่อาทิตย์ก่อนมิวยังหงุดหงิดเรื่องไอ้จ้อนของตัวเองไม่ยอมกระดิกทำหน้าที่มานานหลายปี พอมาช่วงนี้เขากลับมีเรื่องอย่างว่ารุมล้อมไม่เว้นวัน เหมือนได้ช่วงชีวิตวัยหนุ่มฉกรรจ์ที่ขาดหายคืนมาแบบทบต้นทบดอก อากาศนห้องถึงจะถูกเติมเข้ามาจนหายใจสะดวก ทว่ามิวกลับรู้สึกอึดอัด อาการคันยุบยิบปรากฏแถวท้องน้อย ที่สำคัญเด็กหนุ่มครั่นเนื้อครั่นตัวเป็นพิเศษ อาการเหล่านี้เป็นแบบเดียวกับตอนดันเต้พยายามครอบครองร่างกายของเขา ยิ่งมองสบเข้าไปยังดวงตาสีฟ้าประกายแวววาว มิวยิ่งตกอยู่ในวังวนแห่งเสน่หา จิตวิญญาณบอบบางเหมือนลอยคว้างอยู่กลางอวกาศท่ามกลางหมู่ดาว เหงื่อเม็ดใสแตกซิกๆตามกรอบหน้า รูม่านตาขยายออกจากความตื่นเต้น หัวใจเต้นระริกอยู่ในโพรงอันอบอุ่น หมดทั้งสมองทึ่มทื่อมะลื่อของมิวไม่เหลือพื้นที่ให้สงสัยกามเทพหนุ่มตรงหน้า เมื่อเอสันบอกว่าการกลั่นแกล้งสารพัดเป็นฝีมือของน้องชาย มิวก็ยินยอมเชื่อว่าเป็นฝีมือขอ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 50 ตัวทดลองทั้งสอง

    หลังจากเดินจนครบหนึ่งรอบถ้วนทั่วพื้นที่ห้องสี่เหลี่ยม คิวปิดร่างเล็กก็ทิ้งตัวลงหน้ากรงขัง อันที่จริงเอสันรู้อยู่แล้วว่าทางออกเดียวของที่นี่คือประตูเหล็กบานใหญ่ที่ถูกปิดล็อกจากด้านนอก แต่เขาแค่เพียงอยากหาเรื่องอื่นให้สนใจนอกเหนือจากความปวดแสบกลางลำตัว เวทมนตร์แบบเดียวกับที่ดันเต้โดนเมื่อคราวก่อน มันส่งผลแสลงอย่างร้ายแรงเมื่อผู้รับเป็นปีศาจ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่มีผลอะไรกับคิวปิดผู้เป็นเจ้าของ ความแสบร้อนรวมกระจุกกันอยู่ในช่องท้อง มันไม่ได้ถูกทำให้หาย เพียงแค่กักเก็บเอวไว้เพื่อรอเวลาปลดปล่อยที่เหมาะสม ‘เอสัน’ และ ‘เจสัน’ เป็นคู่พี่น้องฝาแฝดที่ทั้งรักและเกลียด ทว่าความเกลียดส่วนใหญ่จะอยู่กับเจสันผู้เป็นน้องเสียมากกว่า แม่ของทั้งสองเทพเป็นเทพีผู้เรืองนามเรื่องความงามและความรัก จึงทำให้บุตรชายของนางนั้นเป็นที่รักไปด้วย กระนั้นทั้งหมดกลับไปสามารถส่งถึงน้องชายผู้มาทีหลัง จริงๆแล้วอุปนิสัยของเจสันค่อนข้างผิดแผกจากการเป็นเทพทั่วไป ที่มักมีเป้าหมายอย่างชัดเจน แม้จะมีคิวปิดคนอื่นอีกมากมายก็ไม่มีใครเป็นเหมือนเจสันผู้นี้ เขาจึงถูกมองว่าเป

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 49 ภารกิจของคิวปิด

    ‘เอสันสองคน’ หากยังมีแรงมากพอมิวคงหัวเราะให้กับความตลกร้ายตรงหน้า ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้… สมองเพี้ยนๆ ของเขายังสามารถสร้างภาพลวงตาโป้ปดเพื่อลดทอนความรุนแรง ไอ้อาการแบบนี้มิวเคยเจออยู่บ้างนานๆครั้ง ความรู้สึกเหมือนผีอำทำให้ร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้ มองเห็นอะไรแปลกๆ กึ่งหลับกึ่งตื่นแยกแยะหรือคิดอะไรไม่ค่อยออก มันต่างจากตอนเมาจนแฮงค์ ถึงกุญแจมือจะถูกหุ้มด้วยขนสัตว์เทียมอ่อนนุ่ม แต่ภายในยังคงเป็นเหล็ก มันถึงทิ้งรอยบาดเล็กๆ สีแดงช้ำๆ รอบข้อมือของมิว หากความชาถูกนับเป็นความรู้สึกก็ถือว่ามิวมีความก้าวหน้า เขาเริ่มซ่าๆแถวบริเวณที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมานาน และเหมือนว่าจะเริ่มเป็นตะคริวบ้างแล้ว เด็กหนุ่มพยายามกระชากข้อมือให้หลุดจากพันธนาการ เขามั่นใจว่าใช้แรงทั้งหมดที่รวบรวมได้ส่งไปยังท่อนแขนที่ชูเหนือหัว ผลลัพธ์ที่ได้มันเหมือนการกระตุกของกล้ามเนื้อมัดเล็กเสียมากกว่า การเคลื่อนไหวแผ่วเบาไม่อาจสร้างความสนใจได้มากพอ เป็นอีกครั้งที่มิวลองเปล่งเสียงจนสุดกะบังลม เช่นกัน… ผลลัพธ์ที่ได้มีเพียงลมอุ่นๆเล็ดลอดผ่านโพรงปากเพียงเท่านั้น

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 48 กรงขังในกรงขัง

    เสียงอึกทึกครึกโครมครอบคลุมพื้นที่ส่วนบน ยิ่งในวันหยุดด้วยแล้ว… ความโกลาหลและบาปเจ็ดประการรวมกระจุกกันเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ แสงไฟระยิบระยับสว่างไสวจนแสงดาวยังยอมแพ้ ทุกคนจับต้องไปยังเวทีที่จัดแสดงดาวบนดินมากหน้าหลายตา ไม่มีใครอยากแหงนหน้าขึ้นมองหมู่ดวงดาราด้านบนแม้แต่น้อย ลึกลงไปใต้ผืนดินในพื้นที่เดียวกันทุกอย่างกลับเงียบสงบ เขตหวงห้ามนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ถึงการมีอยู่ ทางเดินของชั้นใต้ดินลับนั้นทอดยาวเป็นเส้นตรง ไม่ได้มีความซับซ้อนเหมือนด้านบน แต่ละห้องถูกแบ่งแยกตามแต่ละประเภทของการใช้งานเป็นอย่างดี หนึ่งในนั้นมีห้องสี่เหลี่ยมสีชมพูอ่อนหวาน แต่กลับมีชื่อแสนน่ากลัว กามเทพหนุ่มเรียกมันว่า ‘ห้องสังเกตการณ์’ ห้องสังเกตการณ์ถูกสร้างเพื่อเฝ้าดูปฏิกิริยาตอบโต้ของตัวทดลอง เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่หรือแม้แต่เวทมนตร์คาถาแบบใหม่ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ผิดกฎพันธสัญญาสองโลก กามเทพหนุ่มจอมเพี้ยนจึงปกปิดมัน โดยจำกัดวงของผู้ที่รับรู้ความลับให้อยู่แค่คนที่ไว้ใจได้เท่านั้น ความสดใสของห้อ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 47 ผีเสื้อกระพือปีก

    หลังจากการพยายามมานักต่อนัก อย่างน้อยก็มีสักเรื่องที่ดันเต้พูดถูก คำสารภาพจากชายร่างเล็กเหมือนเด็กวัยรุ่นตรงหน้า เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงที่ปีศาจคิวบัสพร่ำโน้มน้าวมานานนับสัปดาห์ ความทุกข์ใจอันสะสมมานานนับปีแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธผสมความสับสน ปั่นรวมราวน้ำวนเชี่ยวกรากในจิตใจ ลึกสุดของหลุมดำข้างใต้กระแสธารานั้นคือสิ่งที่มิวไม่เข้าใจอยู่อีกเพียบ “นายทำแบบนั้นไปทำไม?” “ง่ายๆ… มันเป็นหน้าที่” แสงไฟอ่อนนุ่มไม่ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าขาวผ่องอ่อนโยนตาม ความหยาบกระด้างเผยอยู่ในเนื้อเสียง ขัดกับดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์ “คงคิดว่าเทพแห่งความรักส่วนใหญ่จะเป็นผู้นำพาความรักมาให้อย่างเดียวสินะ อันที่จริงพวกเรามีหน้าที่ลงทัณฑ์ด้วย” “แล้วฉันทำอะไรผิด ทำไมถึงต้องโดนนายลงโทษด้วย” “นายดูถูกความรักของคนคนหนึ่งจนสร้างบาดแผลที่ไม่อาจลบล้างได้ มนุษย์ผู้น่าสงสารคนนั้นไร้ซึ่งทางออก จึงทำได้เพียงสวดอ้อนวอนให้ความเจ็บปวดเหล่านั้นส่งคืนแก่ผู้ที่กระทำ” ชายร่างเล็กยักไหล่ เล่าอย่างเรียบง่ายราวกับเป็นเพียงตำนานที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง “มันก็ง่ายๆแค่นั้น”

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status