Beranda / วาย / The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg) / ตอนที่ 13 กลิ่นที่ติดจมูกแต่แกล้งทำเป็นไม่ได้กลิ่น

Share

ตอนที่ 13 กลิ่นที่ติดจมูกแต่แกล้งทำเป็นไม่ได้กลิ่น

Penulis: Glita
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-16 21:19:19

          ถึงจะพยายามหลับต่อแต่สิ่งที่ได้กลับเป็นความมืดไร้จุดสิ้นสุด ไม่มีอะไรแปลกประหลาดจนมิวคิดว่าความฝันนั้นมันอาจเป็นเพียงแค่ฝันธรรมดา ที่ผ่านการปรุงแต่งจากจิตใต้สำนึก

          อันที่จริง ‘*Lucid Dream’ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับมิว การรู้ตัวว่ากำลังฝันทำให้มิวสามารถสร้างสนามเด็กเล่นในจินตนาการได้อย่างเพลิดเพลิน แต่นั่นก็ทำให้เขาจำสลับความฝันกับความจริงอยู่บ้าง

          หลังจากตัดใจเลิกนอนต่อ มิวใช้เวลาที่ควรวิ่งในสวนสาธารณะเปลี่ยนเป็นจดจ่ออยู่หน้าแล็ปท็อป เลือกหนังผู้ใหญ่ที่ถูกใจเพื่อทำสิ่งที่ค้างคาให้จบ

          ทว่าทุกอย่างก็เหมือนเดิม ไร้การเคลื่อนไหวอื่นใดจากช่วงล่าง นอกจากฝ่ามือที่พยายามขยับอย่างรวดเร็ว นั่นสร้างความหงุดหงิดให้ชายหนุ่มผู้เปี่ยมล้นด้วยความหวัง

          ความตะขิดตะขวงใจเหล่านี้อึดอัดอยู่ในหัวของมิวตามไปจนถึงที่ทำงาน ชายหนุ่มไม่อาจสลัดความตื่นเต้นที่พบเจอได้เลย 

          ส่วนล่างแม้จะนิ่งสงบ ทว่ามิวยังรู้สึกเต้นตุบๆอยู่ภายใต้ผิวหนังขาวสะอาด ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยถ่านไฟที่คุกรุ่นตามติดไปทุกที่ มันค่อนข้างแปลกแต่เขาก็อยากสัมผัสประสบการณ์เช่นนี้อีก

          ชายหนุ่มเอนกายลงบนพนักเก้าอี้หลังจากทาลิปมันลงบนริมฝีปากเสร็จ โต๊ะเครื่องแป้งตรงกลางใหญ่สุดในบรรดาทั้งสามตัวที่วางใกล้กัน เป็นเหมือนพุ่มเงินพุ่มทองอวยยศของผู้ที่อยู่เหนือสุด

          ด้านขวาเป็นส่วนที่จัดสรรเอาไว้ให้อันดับสอง มีชายอายุมากกว่านั่งเล่นมือถืออยู่ แม้จะเข้าใกล้เลขสามแต่ความอ่อนเยาว์นั้นเทียบเท่ากับเด็กวัยยี่สิบต้นๆอีกคนในห้องได้ไม่ยากเย็น

          มิวชำเลืองมองเจษที่เอาแต่จ้องหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในหัวอยากบอกเล่าเรื่องความฝันแปลกประหลาดอีกครั้ง ทว่าเขาก็ไม่กล้าปรึกษา เพราะกลัวจะโดนไล่ให้ไปหาหมอผีหรือจิตแพทย์อีก

          หัวข้อการสนทนาจึงมีแค่การนินทาลูกค้า รวมถึงเรื่องที่มีเด็กบางคนในร้านถูกเป็นเอกเรียกพบเป็นการส่วนตัว เจษบอกว่าเขาเห็นกับตาว่าเด็กคนนั้นขึ้นรถไปกับผู้จัดการร้านหน้าหล่อตอนเลิกงาน

          “พี่ว่านะ พี่เป็นเอกต้องพาไอ้หนุ่มนั่นไปคั่วกันในโรงแรมแถวนี้แน่เลย” เจษหันรีหันขวาง… เมื่อแน่ใจว่าทั้งห้องมีกันแค่สองคนเลยกล้าพูดชื่อบุคคลอื่นอย่างเต็มปาก ทว่าเพื่อความแน่ใจเขาก็ไม่ลืมลดระดับเสียงเพื่อที่มิวจะได้ยินแค่คนเดียว “ไม่ใช่คนแรกด้วยนะ”

          “ไม่จริงหรอกน่า! ที่ทำงานเราห้ามมีความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือพนักงานภายในองค์กรไม่ใช่เหรอ ก่อนเซ็นสัญญาเข้าทำงานก็มีเขียนตัวเบ้อเริ่ม” มิวแสร้งทำเป็นไม่เห็นด้วยเพื่อให้เรื่องราวถูกตีฟู “พี่เป็นเอกเป็นคนดูแลกฎ ก็ไม่น่าจะทำผิดกฎหรือเปล่าครับ”

          “น้อยไปน่ะสิ พวกออกกฎนี่ตัวแหกกฎเลย”

          “ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย พี่เป็นเอกโสดไม่ใช่เหรอครับ จะพกเด็กกลับบ้านคงไม่เป็นไรหรอก” มิวไม่ได้เดือดร้อนกับกฎห้าม เพราะถึงเขาอยากจะแหกกฎแต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดี

          “แบบนี้เขาเรียกเอาเปรียบ ห้ามคนอื่นแต่ตัวเองทำเอง ยิ่งเป็นผู้จัดการร้านด้วยแล้ว… เผลอๆมาแบ่งฝักแบ่งฝ่ายคนไหนเด็กผู้จัดการ คนไหนไม่ใช่”

          “พี่เจษพูดอย่างกับจะไม่ค่อยชอบกฎข้อนี้เป็นพิเศษ”

          “เอาจริงๆนะมิว!.... เงินที่ลูกค้าเอามาฟาดหัวเพื่อแลกกับการบริการพิเศษมันก็ไม่ใช่น้อยๆนะ” เจษนึกเสียดายที่หลายครั้งต้องปฏิเสธทิปก้อนโตที่ลูกค้าเสนอให้ “พี่ว่าอย่างมิวก็น่าจะรู้ดี”

          เด็กหนุ่มนิ่งเงียบคิดถึงจำนวนเงินที่เคยมีคนหยิบยื่นมาให้ เพื่อแลกกับความสัมพันธ์ทางกายแบบชั่วคราว หากตอนนี้น้องชายของเขายังทำงานได้ปกติ ตอนนี้เงินเก็บในบัญชีคงมีตัวเลขมากกว่าหกหลัก

          “ผมยังไม่สนใจอะไรแบบนั้นหรอกครับ” มิวทำทีเมินเฉย

          “ใช่สิ! เรายังเด็ก เส้นทางในวงการยังอีกไกล พี่นี่สิ… อีกไม่กี่ปีก็จะสามสิบแล้ว ให้ไปทำงานอย่างอื่นก็ทำไม่เป็น”

          “โห! พี่เจษยังหล่ออยู่เลย ลูกค้ายังต่อคิวยาวไปอีกหลายเดือน ไม่เห็นต้องเครียดขนาดนั้น”

          “ดีครับทุกคน…”

          เสียงยานคางของเด็กหนุ่มคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในห้องดังแทรกการสนทนา ดึงความสนใจของชายทั้งสองไปในทันที

          ทั่วทั้งห้องหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะหนึ่ง มีเพียงเสียงเท้าจากเด็กหนุ่มผู้มาใหม่ดังกระทบพื้น

          ชายร่างขาวใสเดินดิ่งตรงไปยังโต๊ะเครื่องแป้งที่ว่างอยู่ทางซ้ายมือของมิว เขาโยนสัมภาระที่พกติดมาด้วยไว้ข้างๆ อย่างไม่ใส่ใจ

          ดวงตาของเด็กหนุ่มลึกโบ๋ แก้มตอบนิดหน่อย แต่ยังคงเหลือเค้าความหล่อเอาไว้ โชคดีที่ผิวของเขาขาวเกลี้ยงเกลา จึงทำให้ความโทรมที่ห่อหุ้มเปลือกนอกนั้น ไม่สามารถทำร้ายได้

          “มาลาออกหรือไง” เจษทักทายอย่างสนิทสนม

          “ผมไม่ออกหรอก ออกแล้วผมจะเอาอะไรกิน” อาร์เต้โต้ตอบพลางเริ่มแต่งหน้า

          “แล้วหายไปไหนมาตั้งหลายวัน” พี่ใหญ่สุดเริ่มซักถาม “พี่เป็นเอกจะเด็ดปีกไปให้คนอื่นอยู่รอมร่อแล้ว”

          “ไม่มีทาง! ผมเช็กยอดของรอบนี้แล้ว ยังไงปีกก็ติดอยู่กับหลังผมนี่แหละ”

          “ว่าแต่หายดีแล้วเหรอ?” มิวแทรกถาม

          “จริงๆผมก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บป่วยอะไร แค่รู้สึกเพลียๆ ง่วงนอน… น่าจะเพราะช่วงก่อนดื่มหนักไม่ได้พักเลย ร่างกายคงน็อค”

          “แล้วผู้ชายคนที่อยู่ในห้องแกเป็นใคร?”

          “คนไหน?”

          “ก็คนที่เปิดประตูให้ตอนพี่ไปหาไง!”

          คำถามของมิวทำเอาเจษหูผึ่ง เขาวางทุกอย่างในมือแล้วตั้งใจฟังอย่างสอดรู้

          “พี่มาหาผมด้วยเหรอ?” อาร์เต้ตอบพลางแต่งใต้ตาให้มีสีสันสดใส “ผมจำแทบไม่ได้”

          “ตอนเช้ามืดไง พี่แวะไปหาที่ห้อง”

          “อ๋อ! เมื่อเช้านี้น่ะเหรอ… ผมเป็นคนเปิดประตูให้พี่นะ”

          คำตอบของอาร์เต้ไม่ตรงกับภาพในความทรงจำของมิว เขาพยายามไม่กระโตกกระตากโวยวาย อาจเพราะเริ่มคุ้นชินกับความประหลาด อีกอย่างมิวไม่มีหลักฐานเพื่อยืนยันคำกล่าวอ้างของตัวเอง

          มิวพยายามคิดไปอีกทางเพื่อความสบายใจ…. อาร์เต้คงเหนื่อยล้าจนสมองสับสนมึนงงจำภาพสลับกัน ไม่ก็คงไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองขลุกอยู่กับผู้ชายจนเสียการเสียงาน

          “พี่เจอใครในห้องของผมด้วยเหรอ?” อาร์เต้วางแปรงแต่งหน้า หันมาถามมิวด้วยความสงสัย แล้วชะโงกเลยไปยังเจษที่ตั้งหน้าตั้งตารอเก็บข้อมูล “ผมไม่มีแรงพาใครขึ้นห้องหรอก หลับเป็นบ้าเป็นหลังติดกันหลายวัน”

          “สงสัยพี่คงเบลอเองแหละ ก่อนไปหาแกก็โดนไปหลายดื่มเหมือนกัน” มิวเออออไหลตามน้ำไปก่อน

          “แต่ผมก็ฝันแปลกอยู่นะช่วงที่หยุดงาน รู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่นทั้งวันทั้งคืน”

          “ฝันว่าไง?” มิวใคร่รู้

          “ไม่รู้สิ… จำไม่ค่อยได้ ทุกอย่างมันเบลอๆไปหมด ขนาดนาฬิกาปลุกดังผมยังคิดว่าฝันอยู่เลย” พูดจบอาร์เต้ก็หัวเราะร่าเริง “แต่หลับไปขนาดนั้นก็ยังรู้สึกเหนื่อย จนพี่มิวแวะมาหาผมถึงรู้สึกดีขึ้น”

          “สงสัยเจ้ากรรมนายเวรมันเปลี่ยนเป้าหมาย” เจษแทรกพลางหยิบพระบนโต๊ะมากำ “ช่วงก่อนมิวก็บ่นว่าฝันแปลกๆไม่ใช่เหรอ”

          “เจ้ากรรมนายเวรมันก็ของใครของมันไหมพี่” มิวหันขวับทันควัน “มันจะเปลี่ยนเป้าหมายกันง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ?”

          “อาจจะเป็นกรรมที่ชาติก่อนก่อร่วมกันก็ได้” เจษหาเหตุผลมาสมอ้าง

          ทั้งมิวและอาร์เต้มองหน้ากัน ก่อนเราะหัวร่วน พวกเขารู้ดีว่าการต่อสู้กับความเชื่อของเจษนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะพี่ใหญ่คนนี้ค่อนข้างแน่วแน่กับเส้นทางของตัวเองในทุกด้าน

          “เอ้อ… แต่ว่าผมจำกลิ่นได้นะ” อาร์เต้จ้องมิวอย่างจริงจัง “ผมได้กลิ่นอะไรสักอย่างช่วงที่นอนสะลึมสะลือ กลิ่นมันเหมือนพี่มิวในตอนนี้เลย”

          คนแรกที่ทำจมูกฟุดฟิดคือเจษ เขาโน้มตัวดมตามเสื้อผ้าของมิว “กลิ่นน้ำหอมชาแนลนี้เหรอ?”

          “ไม่! กลิ่นคล้ายต้นไม้แห้งๆ หรืออะไรสักอย่าง ผมไม่เคยได้กลิ่นจากที่ไหนมาก่อนเลยอธิบายไม่ค่อยถูก”

          แค่นี้มิวก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นกลิ่นแบบไหน เพราะมันติดอยู่ในจมูกของชายหนุ่มมาสักพักแล้ว เพียงแต่เขาไม่ได้สนใจ

          “ต้นไม้?” เจษสูดหายใจเข้าลึกซ้ำอีกหลายรอบ ข้างๆหัวไหล่ของมิว “ไม่เห็นจะได้กลิ่นเลย”

          “ไม่รู้สิ มันเป็นกลิ่นจางๆ ที่ลอยอยู่รอบๆตัวพี่มิว”

          “พี่ว่ากลิ่นธูปแน่เลย” เจษผงะเว้นระยะห่าง “ช่วงวันหยุดไปทำบุญไหมมิว?”

                                                —---------------------

          *Lucid Dream คือการฝันโดยที่ผู้ฝันรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเผชิญกับความฝันไม่ใช่ความจริง บางคนถึงขั้นควบคุมความฝันได้ หรือสื่อสาร พูดคุยกับบุคคลในฝันได้เป็นเรื่องเป็นราว โดยปกติจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ก็มีบางคนพยายามค้นหาวิธีเพื่อให้ตัวเองสามารถควบคุมความฝันได้โดยสมบูรณ์

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 14 เล่นไปตามกฏแบบไม่เต็มใจ

    หมู่เมฆรวมตัวกันหนาจนเต็มท้องฟ้า ปิดบังแสงจันทร์นวลไม่ให้เฉิดฉาย ลมโชยอ่อนนำพาความอุ่นโอบอุ้มร่างกายยามสัมผัส แม้จะใกล้ยามรุ่งสางแล้วทว่าสุดขอบยังมืดมิดไร้ความเคลื่อนไหว ดูเหมือนวันนี้ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างเชื่องช้ามากกว่าวันอื่น มิวหอบสัมภาระชิ้นเล็กติดตัวยืนรออาร์เต้อยู่หน้าร้าน พวกเขานัดว่าจะหาอะไรกินนิดหน่อย แต่เด็กหนุ่มวัยรุ่นติดพันอยู่กับลูกค้าจนเลยเวลาเลิกงานมาสักพักใหญ่ ส่วนตัวของมิวแม้จะเสร็จก่อนแต่ก็ยังถือว่าช้ากว่าตอนปกติอยู่ดี การออกมาสูดอากาศนอกร้านเป็นสิ่งที่ทำให้มิวรู้สึกปลอดโปร่ง อย่างน้อยได้แหงนมองขึ้นมองแผ่นฟ้ากว้างใหญ่ก็ช่วยให้เขาสร่างจากอาการมึนเมาได้บ้าง ดีกว่านั่งอยู่ในห้องแคบๆ มองผนังทั้งสี่ด้านส่ายไปส่ายมาจนเวียนหัว หน้าร้านค่อนข้างเงียบเชียบ เพราะเลยเวลาเลิกงานมานานแล้ว พวกพนักงานที่ไม่มีลูกค้าส่วนใหญ่จะขอกลับก่อน ส่วนที่เหลือพอร้านปิดก็ทยอยกลับพร้อมลูกค้า ไม่ก็แยกย้ายทางใครทางมัน ลูกค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอยู่เลยเวลาปิด เพราะไม่อย่างนั้นพวกเขาจะถูกคะยั้นคะยอให้เปิดห้องวีไอพี หลายคนจึงไม่อยาก

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-17
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 15 กลิ่นของเงินหอมแรงกว่ากลิ่นไหนๆ

    พื้นที่ใช้สอยของห้องในโรงแรมนี้มีไม่มากนัก ถึงกระนั้นก็ยังคงตกแต่งอย่างดีให้ได้รับความรู้สึกหรูหรา ไฟสีนวลจากโคมไฟสาดส่องทั่วทั้งบริเวณให้ดูอบอุ่น ในความเรียบง่ายของชุดเตียงนอนแฝงความปรานีตเอาไว้ในทุกฝีตะเข็บของการถักทอ พื้นพรมก็นำเข้าอย่างดีจากต่างประเทศ ความอ่อนนุ่มยามสัมผัสด้วยฝ่าเท้าเปลือยเปล่า โอบกอดอย่างอ่อนโยนจนรับรู้ความแตกต่างหากเทียบกับของราคาถูก ชายวัยกลางคนใบหน้าแดงก่ำนอนเอกเขนก แขนและขากางเหยียดออกจนสุด หน้าท้องกลมบวมจากการสะสมของไขมันกระเพื่อมรุนแรง รอยยับย่นเห็นได้ชัดเมื่อต้องกับแสงสว่าง ผมสั้นเกือบเกรียนแซมด้วยสีดอกเลา บ่งบอกถึงการผ่านประสบการณ์บนโลกนี้มานานกว่าใครทุกคนในห้อง ความแข็งกร้านเคลือบแฝงอยู่ในประกายของแววตา “ทำไมน้องมิวเขาถึงไม่ยอมรับงานนอก” ชายร่างท้วมถามอย่างหงุดหงิด เมื่อนึกถึงเป้าหมายสำคัญที่หลุดลอยไป “พี่ไม่อยากใช้วิธีรุนแรงแบบสมัยก่อนหรอกนะ แต่ถ้ามันได้ยากก็คงต้องคิดดูสักหน่อย” “พี่อย่าไปทำน้องมันเลยครับ เด็กคนอื่นเต็มใจอีกตั้งเยอะแยะ พี่อย่าเสียแรงกับเรื่องพวกนี้เลย” เจษรู้ว่าอีกฝ่ายทำอะ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-17
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 16 เทวดาทั้งสามถึงคราวสั่นสะเทือน

    “ผมไม่ได้รับลูกค้าพร้อมพี่มิวมาสักพักใหญ่แล้วใช่ไหม ครั้งล่าสุดเดือนที่แล้วหรือเปล่า… ผมจำไม่ค่อยได้แล้ว” เด็กหนุ่มน้ำเสียงสดใส ดวงตาเป็นประกายเปล่งปลั่งอิ่มเอม ใครจะไปเชื่อว่าเมื่อวานสภาพของเขายังแทบดูเหมือนผีดิบไร้ชีวิต ขอบตาสีคล้ำสว่างใสขึ้นมาก จนการปาดเครื่องสำอางเบาบางเพียงครั้งเดียวก็ปกปิดรอยคล้ำจนเกลี้ยง แก้มทั้งสองขาวใสอมชมพูด ริมฝีปากระเรื่อเจือความชุ่มฉ่ำไม่ลอกแตกเป็นขุน การฟื้นฟูแบบพลิกผันของอาร์เต้เกิดขึ้นรวดเร็วในระยะเวลาไม่ถึงยี่สิบชั่วโมง สร้างความประหลาดใจให้มิวไม่น้อย ชายทั้งสองใช้เวลาก่อนเริ่มงานนั่งเอื่อยเฉื่อยบนโซฟากำมะหยี่ตัวยาว มิวค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้ากรรมนายเวรในแถบยุโรป ส่วนอาร์เต้ส่งข้อความคุบกับชายแปลกหน้าในแอปพลิเคชันหาคู่ “ผมไม่ค่อยชอบดูแลลูกค้าผู้หญิงเลย” อาร์เต้บ่นอุบอิบ เขารู้ว่าเป็นเรื่องแย่ที่พูดถึงลูกค้าในเชิงลบ แต่ก็ตามนิสัยเด็กหนุ่มผู้มุทะลุ การระบายให้คนที่ไว้ใจฟังมันง่ายกว่าการเก็บงำไว้คนเดียว “ผู้หญิงสงวนท่าทีเยอะกว่าผู้ชาย อ่านเกมก็ยากกว่าเยอะ ผมชอบลูกค้ารุกเร็วๆรุกแรงๆมากกว่า ไม่ชอบเสีย

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-18
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 17 พนักงานคนใหม่มันสูงดีแฮะ

    ทุกอารมณ์และการเคลื่อนไหวถูกแช่แข็งไปชั่วขณะ ความสนใจพุ่งตรงไปยังชายหน้าใหม่ผู้ซ่อนตัวไม่มิดอยู่หลังเป็นเอก นอกจากจะสูงเด่นเกือบสองเมตรแล้ว ผิวสีน้ำตาลทองที่เนียนละเอียดยังขับให้ทั่วทั้งร่างดูโดดเด่นเมื่อต้องกับแสงไฟ ขนาดเทวดาทั้งสามผู้เป็นตัวท็อปของอมอร์ยังไม่อาจละสายตาทิ้ง ชายผู้มีใบหน้ามาดมั่นยืนอวดรอยยิ้มอยู่ด้านหลังของผู้จัดการร้าน เขี้ยวซี่ขาวยาวทะลุริมฝีปาก ชวนให้นึกถึงใครสักคนที่กำลังอยากทำเรื่องไม่ชอบมาพากล ดวงตากลมโตของมิวพินิจพิจารณาพนักงานใหม่ตั้งศีรษะจรดเท้า เขารู้สึกคุ้นเคยอยากบอกไม่ถูก ทั้งส่วนสูงและสีผิวทำให้ทรวงอกร้อนรุ่ม ถึงจะพอสร้างข้อมูลกระจัดกระจายเอาไว้ในหัวได้ ทว่ามิวก็ไม่กล้าประติดต่อปะต่อเรื่องราวทุกอย่างรวมกัน ด้วยสิ่งที่เขาคิดนั้นมันเหนือความเป็นจริงไปมาก ชายหนุ่มจึงทำได้แค่จ้องมอง “ปกติเด็กใหม่มาไม่เห็นจะต้องพามาแนะนำให้พวกเรารู้จัก” เจษยิงคำถามในขณะที่เริ่มแต่งหน้า หางตาแอบเหล่มองพนักงานตัวสูงใหญ่อย่างระแวดระวัง “ทำไมจู่ๆพี่เป็นเอกถึงพาคนนี้มา” “ก็พามาให้เด็กมันเห็นว่าพวกพี่ๆตัวท็อปของร้านเขา

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-19
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 18 ใครเป็นผู้เลือกหรือผู้ถูกเลือก

    ใครก็ตามที่รู้จักกับดันเต้มาได้สักระยะหนึ่ง จะรู้ได้ว่าพฤติกรรมรวมถึงคำพูดไม่เหมือนคนทั่วไปของเขานั้น เกิดจากการที่เขาไม่ใช่มนุษย์ และหากความทรงจำไม่เลอะเลือนไปเสียก่อนจะจำได้ว่าชายร่างสูง้กือบสองเมตรคนนี้เป็น ‘*ปีศาจคิวบัส’ งานหลักของอมนุษย์พวกนี้คือการปลุกปั่นอารมณ์เพื่อเก็บเกี่ยวพลังงาน ทำให้การดำรงอยู่ของนายเหนือหัวของพวกมันเป็นนิจนิรันดร์ ยิ่งทำให้มนุษย์เกิดอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับความสามารถของตัวเองได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้นายเหนือหัวของพวกมันเข้มแข็งมากขึ้นตามไปด้วย และจะตามมาด้วยการก่อเกิดปีศาจได้อย่างไม่รู้จบ เป็นวัฏจักรในโลกลี้ลับที่หมุนเวียนแบบนี้มาช้านาน ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคือจุดประสงค์หลักจุดประสงค์เดียวที่ทำให้ดันเต้มีตัวตน การทำงานมานับร้อยหรือนับพันปีเช่นนี้ จะพูดว่าเบื่อก็คงบอกได้ไม่เต็มปาก เพราะอสูรเสพกามอย่างเขาไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองเจตจำนงอย่างอื่น การอยู่เพื่อทำหน้าที่ของตนจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกึ่งอมตะ เมื่อก่อนดันเต้มักสิงสู่อยู่แต่ในความฝัน โดยเฉพาะช่วงยุคกลาง… เมื่อมีชายบ้าอำนาจคนหนึ่งองดอ้างว่าตนวิเศษ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-19
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 19 นายทำมันได้แน่

    ถึงจะเป็นห้องวีไอพีขนาดเล็กสุด แต่ความบันเทิงก็มีให้อย่างครบครันไม่ต่างจากห้องใหญ่ ความสนุกถูกย่อให้เล็กลง ทว่ามันก็ยังตื่นตาตื่นใจอยู่ดี เครื่องอำนวยความบันเทิงครบครันในทุกพื้นที่ของห้อง ทั้งโทรทัศน์พร้อมโหมดคาราโอเกะ โซฟาหนังตัวยาว ไฟดิสโก้เปลี่ยนสีทุกวินาทีเพิ่มความมึนเมา และอุปกรณ์เอนเตอร์เทนมากมาย ทว่าทั้งหมดที่จัดแจงเอาไว้กลับแทบไม่ถูกใช้งาน พวกมันถูกตั้งเอาไว้นิ่งๆ และเป็นฝ่ายเฝ้าดูกิจกรรมสันทนาการในห้องแทน ไฟถูกเปิดไม่ให้สว่างเกินไป หน้าจอโทรทัศน์ดับมืดทำหน้าที่สะท้อนภาพสยิวแทนกระจก มีเพียงโซฟาเท่านั้นที่ถูกใช้งาน ชายร่างใหญ่ปลดกระดุมออกจนหมดเพื่อระบายความอัดอั้น กางเกงเข้ารูปสีนาวีถูกปลดกองไว้ที่หน้าแข้ง มือทั้งสองวางพาดบนพนักพิงด้วยท่าทีสบายๆ หว่างขามีชายใส่แว่นง่วนอยู่กับการพยายามจับดุ้นยักษ์เข้าปาก แต่การกระแทกอย่างไม่หยุดยั้งจากด้านหลัง ทำให้เรื่องง่ายๆยากขึ้น “อึก… ” น้ำลายเจิ่งนองถูกลอบกลืนลงคอยามดุ้นยักษ์หลุดออกจากโพรงปาก และตามมาด้วยเสียงสำลักยามมันถูกกลืนกลับไปจนเกือบทะลุคอหอย “อ๊อก… อ่อก…”

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-20
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 20 เด็กใหม่ผู้แทรกแซงเทวดา

    รอยยับยู่และคราบเปียกชื้นบนเสื้อผ้าไม่ได้ทำให้ดันเต้หงุดหงิดเท่าสายตาผู้คนในร้าน เขารู้ว่าตัวเองมีเสน่ห์ชวนหลงใหล แต่สายตาทุกคู่มากมายขนาดนี้ บางครั้งปีศาจผู้บ้าน้ำกามก็เกินจะรับมือไหว ทว่าก็ช่วยไม่ได้… ดันเต้ถือเป็นเด็กใหม่ที่เปิดตัวได้อย่างร้อนแรงและหวือหวาจนทุกคนต่างฮือฮา แม้แต่เป็นเอกเองก็ยังไม่วายต้องจับตามองด้วยความสนใจ อันที่จริงสีผิวที่คล้ำกว่าเพื่อนพนักงานทุกคนในร้าน ทำให้หลายคนมองว่าดันเต้คงไม่อาจเปิดบิลได้ด้วยซ้ำ แต่แค่คืนก็สามารถลบล้างข้อกังขาบนใบหน้าของชายหนุ่มหน้าหยิ่งได้จนสิ้น แต่ก็นั่นแหละ… ดันเต้เป็นปีศาจ ถึงจะต้องพยายามสักหน่อย แต่เขาก็มีเวทมนตร์ พนักงานในร้านบางคนถึงกับพูดว่าดันเต้นี่แหละคือผู้ที่จะเข้ามาเขย่ากลุ่มแองเจิ้ลให้แตก หลังจากที่ไม่มีใครสั่นบัลลังก์ของทั้งสามตัวท็อปได้มานาน ทว่านี่ก็ไม่ใช่เหตุผลหลักที่เขามายังอมิร์ จะเงินทองหรือชื่อเสียงก็เหมือนกระดาษเปล่าเปียกน้ำใบเดียว ไม่ค่อยมีคุณค่าให้ใช้งานได้เท่าไหร่ ดันเต้นั่งเขย่าตัวอย่างตื่นเต้นบนโซฟากำมะหยี่ ของบนโลกจริงสร้างความตื่นเต้นให้กับเขาทุกครั้งที่ได้

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-21
  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 21 แปลกกว่าฉันก็นายนั่นแหละ

    อันที่จริงดันเต้สามารถแวบเข้าไปห้องของมิว แล้วรอดูสีหน้าตกใจของเจ้าของห้องเลยก็ได้ ภาพในหัวสนุกๆแบบนี้เคยเกิดขึ้นจริงมาหลายครั้ง ยกเว้นก็ครั้งนี้ที่เขาไม่สามารถดลบันดาลให้เป็นจริง ปีศาจจำแลงกายตนนี้ต้องพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนมนุษย์ให้มากที่สุด แม้จะไม่ค่อยชอบก็ตาม จะให้ผลุบๆโผล่ๆไปมาอย่างอิสระเหมือนก่อนหน้านี้คงไม่ได้ เพราะปีศาจอย่างเขามีสภาปีศาจคอยร่างกฎการอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ และมีการร่วมมือกันอย่างเหนียวแน่นเพื่อตรวจตราไม่ให้ทุกอย่างเกินกว่าขอบเขตของการควบคุม แน่นอนว่าการมีอยู่ของอมนุษย์หลากหลายเผ่าพันธุ์นั้นมีมนุษย์ผู้มีอำนาจหลายฝ่ายรับรู้ และเป็นส่วนหนึ่งของสภาความมั่นคงนี้ด้วย ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันเพื่อให้การมีอยู่ของสิ่งลี้ลับเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องเล่าในตำนาน เพราะมันอาจส่งผลดีมากกว่า หลายครั้งที่ปีศาจหรือเทวาถูกมนุษย์จับตัวไปทำการทดลอง แน่นอนว่ามนุษย์ผู้หื่นกระหายความรู้มองเวทมนตร์เป็นความท้าทายหนึ่งที่ต้องการปักธงพิชิต นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ที่รับรู้เรื่องราวเหนือธรรมชาตินี้ต่างลงความเห็นคล้ายกันว่า ความก

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-22

Bab terbaru

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 67 มุมมองที่ต่างกัน

    “ทวดของผม” โพรงปากของเด็กหนุ่มอ้าค้างจนมองเห็นลิ้นไก่ข้างในลึกสุด “นี่พี่เกิดสมัยอยุธยาเป็นเมืองหลวงเลยไหมเนี่ย?” “ไม่นานขนาดนั้น” เสียงหัวเราะร่วนของเป็นเอกดัง “พี่เกิดหลังทวดของนายไม่กี่ปี ปี พ.ศ. สองพันสี่ร้อยกว่าเห็นจะได้” “แล้วพี่เป็นใครกันแน่?… ผีบรรพบุรุษส่งให้พี่มาดูแลตระกูลของผมหรือยังไง?” “ฉันว่าเรื่องของนายเหลือเชื่อกว่าเรื่องของฉันอีก” ยังไม่ทันจะต่อความยาวสาวความยืด เสียงฝีเท้าตึงตังก็ดังมาจากบันไดไม้ หญิงสาวแรกรุ่นพรวดพราดเข้ามาในห้องนอนที่ชายทั้งคู่อยู่ เธอกระโจนเข้าหาเป็นเอกและสวมกอดรอบคอจนแน่น “คิดถึงคุณลุงจัง” น้ำเสียงของหญิงสาวสดใสพอกันกับหน้าตา ดวงตาของเธอสุกใสเป็นประกาย ผิวหนังเนียนหนุ่มอ่อนเยาว์สมกับการเป็นสาวแรกรุ่น “คิดถึงลุงหรือคิดถึงของฝากกันแน่” มือของชายผู้แก่กว่ามากลูบศีรษะอย่างเอ็นดู “ก็ต้องคิดถึงคุณลุงอยู่แล้วสิคะ” “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ลุงไม่มีของฝาก นิดหน่อยก็จะยังคิดถึงลุงอยู่ใช่ไหม?” หญิงสาวตัวเล็กยืดตัวขึ้นทำแก้มป่อง “ไม่มีจริงเหรอ?”

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 66 เพื่อนเก่าเพื่อนแก่

    ไม่ได้มีโอกาสบ่อยนักที่อาร์เต้จะได้อ้าแขนกอดรับดวงอาทิตย์ยามสาย ถึงมันออกจะร้อนสักหน่อยก็เถอะแต่สำหรับชายหนุ่มที่ไม่ค่อยชอบชีวิตช่วงกลางคืนเท่าไหร่นัก นี่ก็นับว่าเป็นคุ้มค่าที่จะแลก หลังจากได้ฟังเรื่องราวอันไกลเกินขอบเขตของความเชื่อมาแล้ว แววตาของอาร์เต้ตอนมองเป็นเอกกลับไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ หากไม่ใช่เพราะยังไม่เชื่ออย่างสมบูรณ์แบบบ ก็คงเป็นเพราะอคติบางอย่างที่สร้างความเอนเอียง ความรู้สึกในใจของชายทั้งสองไม่อาจถูกคั่นกลางด้วยสิ่งแปลกปลอม ระยะห่างระหว่างกันยังคงเส้นคงวา ไม่อาจใกล้มากกว่านี้หรือถอยห่างจากที่เป็น ถึงหมุดหมายของทริปนี้เป็นเอกจะบอกไว้ว่าเป็นการออกตามหาความจริง ทว่าอาร์เต้มองแตกต่างออกไป เขาคิดเงียบๆ อยู่คนเดียวว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นเสมือนการออกเดตนอกสถานที่ครั้งแรกของพวกเขา นั่นเลยช่วยทำให้รู้สึกดีมากกว่ากังวล อาร์เต้ไม่เอ่ยถามถึงจุดหมายปลายทาง เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมพูดอะไรแน่นอน ซึ่งเป็นเอกก็คิดเช่นนั้น ชายแก่ในร่างหนุ่มคิดไว้ว่าการอธิบายกลางอากาศอย่างเดียว คงไม่หนักแน่นพอจะยืนยันทุกอย่าง ท้องฟ้าปลอ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 65 เริ่มนับเวลาถอยหลัง

    เมื่อความสุขสุดขีดพุ่งสูงจนทะลุหลอด ความเหนื่อยล้าก็เข้ามาห่อหุ้มร่างกึ่งเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่ม หน้าอกภายใต้เสื้อตัวบางกระเพื่อมหนักหน่วง ริมฝีปากเผยออ้าเติมอากาศเข้าไปทดแทนกับที่ขาดหาย ใบหน้าฝาดก่ำด้วยสีเลือดสดๆ และเข้มมากขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงความดังของเสียงที่เพิ่งเปล่งออกไป ท่อนล่างโล่งโจ้งเลอะเทอะด้วยคราบของเหลวจากร่างกาย ในใจของมิวร้องตะโกนกู่ก้องเมื่อความรู้สึกที่อัดอั้นถูกระบายออกมาได้เสียที นั่นเป็นสิ่งประจักษ์แน่ชัดแล้วว่า ร่างกายและความเป็นชายได้กลับเป็นปกติอย่างที่ควรจะเป็น ทว่าก็ยังรู้สึกติดค้างบางอย่างแถวก้นบึ้งของจิตใต้สำนึก รอยยิ้มกางกว้างบนใบหน้าเรียวงาม เด็กหนุ่มรีบจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อย ด้วยกลัวจะมีใครเปิดประตูเข้ามา การโดนมองเห็นไม่น่าหนักใจเท่ากับการโดนล้อ มิวนึกออกว่าดันเต้จะพูดอะไรบ้างหากเห็นสภาพของเขาในตอนนี้ ‘ไม่คิดจะชวนกันสักหน่อยเหรอ?’ ‘ทำไมนายถึงหนีมาสนุกคนเดียวล่ะ!’ ‘อีกรอบไหม?’ ‘คิดถึงดุ้นยักษ์ของฉันล่ะสิ!’ น้ำเสียงทะลึ่งตึงตังรวมกับสีหน้าหื่นกระหายของดันเต้ ผุดขึ้นมาใน

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 64 กลับไปใช้งานได้

    ความเงียบบรรเลงดนตรีกระซิบข้างใบหู ความเหนื่อยล้าขับกล่อมท่วงทำนองยืดยานจนชายหนุ่มหลับใหลไปอย่างง่ายดาย พื้นที่แสนปลอดภับโอบกอดมิวเอาไว้แน่นไปถึงความฝัน ชายหนุ่มทิ้งความหวาดระแวงเอาไว้ข้างเตียง และปล่อยความอิสระให้คืนสู่จิตใจ เวลาในกำมือหมดไปอย่างรวดเร็ว จนแอบนึกเสียไม่ได้ว่าสิ่งล้ำค่านี้ไม่เคยเพียงพอในหนึ่งชีวิต… ร่างกายของมิวนั้นฟื้นฟูได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งความเหนื่อยล้าหรือบาดแผลบนร่างกาย อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องนอนเลยด้วยซ้ำหากในตัวมีเมล็ดพันธุ์ปีศาจอยู่ ความรู้สึกเบาสบายจากห้วงนิทราถูกความร้อนตรงท้องทำลาย เด็กหนุ่มกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ลำตัวบิดงองุ่นง่าน การข่มตาให้หลับกลายเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที การโดนร่างกายของตัวเองรังควานสร้างความหงุดหงิดนิดๆ มิวลืมตาตื่นนั่งพิงหัวเตียง ดวงตาแจ่มใสทั้งที่เพิ่งนอนไปได้แค่สองชั่วโมง ด้านล่างของลำตัวร้อนรุ่มอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนบาง ปลายเท้าบิดงอเข้าหากัน ต้นขาหนีบแน่นจนสะโพกเกร็ง อาการวูบวาบแผ่ซ่านจากศูนย์รวมความรู้สึกไปยังเส้นประสาท ดวงตาของมิวหั

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 63 กาลเวลาที่ยืดหดได้

    เบื้องบนโปรยแสงรำไรออกมาจากมาจากรูโหว่อันดำมืดของท้องฟ้า เช้าวันใหม่นี้แสนอึมครึมไม่สดใส ส่งผลโดยตรงต่อจิตใจให้ขมุกขมัว หัวงมหรรณพแห่งเวลาสงบเสงี่ยมเฉกเช่นหนุ่มน้อยหน้าตาใสซื่อ ปกติท่าทีของอาร์เต้จะกระโดกกระเดกไม่เรียบร้อย บัดนี้กลับสงวนกิริยาขัดจากนิสัยปกติราวกับเป็นอีกคน อาจเพราะเขาถนัดการซ่อนมุมจริงจังเอาไว้เพื่อบดบังตัวตน จึงมีน้อยคนจะเคยได้เห็นอีกด้าน “ที่จริงแล้วพี่เลือกจะโกหกต่อไปก็ได้ แต่พี่ไม่อยากทำ” ชายวัยกลางคนนั่งบนโซฟาที่คุ้นเคย สายตาจับจ้องร่างเด็กกว่าตรงกันข้ามด้วยความสับสน หลังจากพยายามเลี่ยงการเปิดปากตอนอยู่ในรถอยู่นาน เขาก็มาถึงสถานที่เหมาะแก่การคายทุกอย่างออกมา “พี่รู้ว่ามันอาจจะฟังแล้วเหลือเชื่อไปหน่อย แต่พี่ก็อยากให้อาร์ตเปิดใจ” หนุ่มน้อยเอียงคอสงสัย ปกติเป็นเอกเป็นคนขึงขังอยู่แล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่ทำให้ผู้จัดการร้านคนนี้หัวเสียได้มากกว่าเดิมอีกเหรอ “ผมเปิดใจให้พี่อยู่แล้ว… พี่รู้ใช่ไหม?” “แต่เรื่องที่พี่จะเล่ามันจะเปลี่ยนความคิดของนายที่มีต่อพี่ไปเลย” นี่คือสิ่งที่อาร์เต้ไม่ชอบ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 62 ความจริงที่พูดไม่หมด

    การโดนสปอยด์ตอนจบไม่น่าอภิรมย์ของพิธีกรรมปีศาจที่ได้ยินจากปากของกามเทพ เป็นสิ่งที่มิวพกติดตัวออกจากห้องคุมขังมาด้วย หากเป็นก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มคงดวงตาเบิกโพลง จิตใจแช่มชื่นเมื่อรู้ว่าตัวเองมีส่วนพัวพันกับเรื่องราวลี้ลับที่น้อยคนจะได้พบเจอ ตอนนี้ทุกอย่างตาลปัตรกลับด้านชวนใจหาย เขาเริ่มหวาดกลัวในสิ่งเหนือธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้ และโทษที่ตัวเองคิดน้อยเกินไป บนถนนที่แออัดไปด้วยรถยนต์อุ่นหนาฝาคั่ง ในห้องโดยสารนั้นกลับอึดอัดมากกว่าข้างนอกนั่นหลายเท่า การหายใจไม่อาจทั่วท้องเมื่อต้องนั่งชิดติดอยู่กับความหงุดหงิด บรรยากาศธรรมดาที่สามารถพบเจอได้ทุกวัน ท้องฟ้าขมุกขมัวสาดไปด้วยแสงของดวงดาว เสียงบีบแตรและไฟท้ายของรถที่สะท้อนเข้าดวงตา ทุกอย่างในการมองเห็นตอนนี้กลับพิเศษเมื่อเด็กหนุ่มขาดหายไปหลายวัน ปกติมิวไม่ค่อยชอบคนขับรถที่ซอกแซกชีวิตส่วนตัวของผู้โดยสาร ยกเว้นวันนี้… เขารู้สึกอยากกดทิปให้หลายร้อยบาทเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณที่ช่วยให้สมองวุ่นวายได้คิดเรื่องอื่นบ้าง คำพูดยาวเหยียดก่นด่าไปทั่ว ตั้งแต่ลม ฟ้า อากาศ รวมไปถึงปัญหาค่าครองชีพถูกยัด

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 61 การทดลองต้องมีการเสียสละ

    ฝุ่นผงแห่งความอลหม่านถูกพัดปลิวให้จางหาย ถึงต่างฝ่ายจะยังค้างคาต่อกันไม่ว่าจะเป็นฝั่งปีศาจ เทพ หรือมนุษย์ ทว่าการยอมปล่อยให้เชือกที่ถืออยู่หลุดออกจากมือไปก่อน และรอให้คนของตัวเองได้รับการฟื้นฟู เรื่องอื่นยังพอจะรอกันได้ เมื่อบานประตูพังลงมนต์กำกับก็เสื่อมถอยตาม เฉกเช่นโซ่ที่เชื่อมต่อกันไว้อย่างเหนียวแน่น เมื่อมีสักข้อหลุดออกพลังแห่งการพันธนาการก็สิ้นฤทธิ์ ในบรรดาความยุ่งเหยิงทั้งหมดทั้งมวล มีสิ่งหนึ่งที่เอสันเห็นด้วยกับดันเต้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็คือ เป็นเอกควรเลิกกอดหมอนข้างแล้วทำท่าฟูมฟายเสียที นอกจากมันจะดูตลกในสถานการณ์คับขันแล้ว มันยังไม่ช่วยอะไรเลย ดวงตาแห่งเทพมองเห็นซึ่งความจริงตรงหน้า กลลวงเล็กน้อยจากปีศาจไม่อาจหลบเร้นจากการรู้แจ้งของเอสัน เขามองไปยังร่างของมนุษย์ใกล้ตัวด้วยความสมเพชเจือความขำขัน เพียงการกระดิกและตั้งจิตคิดเล็กน้อย ร่างอ่อนปวกเปียกในอ้อมกอดของเป็นเอกก็คืนกลับไปเป็นหมอนข้างยาวๆ สีหน้าและท่าทางของชายหนุ่มสลับอารมณ์แทบจะในทันที “ไปหาตัวจริงกันเถอะ” คำชักชวนเรียบง่ายจากเอสันดึงความสนใจของเป็นเอก

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 60 เบื้องหลังคือปีกผีเสื้อ

    ตามทางเดินอับชื้นซับซ้อนไร้ซึ่งแสงจากธรรมชาติสาดส่อง สิ่งเดียวที่ทำลายความมืดได้มีเพียงหลอดไฟ มที่ถูกติดอย่างห่างๆ อยู่บนเพดาน ความวังเวงเกาะติดหนึบในทุกเสียงย่ำเท้า ไม่ใช่เพราะนี่เป็นเวลาเลิกงาน แต่เป็นเพราะเส้นทางเหล่านี้เป็นเขตหวงห้าม ผู้คนส่วนใหญ่จึงถูกห้ามไม่ให้เข้ามายุ่มย่ามบริเวณนี้ หัวใจของดันเต้แน่วแน่ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใด แม้ความอึดอัดจะเริ่มคืบคลานไล่ตามหลังเขามาเรื่อยๆ สิ่งเดียวที่ช่วยให้เขามองข้ามความประหวั่นพรั่นพรึงได้หลายได้ คือความมุ่งมั่นต่อภารกิจ ในทุกอย่างก้าวหนักแน่นด้วยการระมัดระวัง ปีศาจคิวบัสเปิดทุกโสตประสาทให้ตื่นรู้ ดวงตาเปล่งประกายสีทองยามถูกเงามืดปกคลุม สิ่งเดียวที่เป็นเอกมีเหนือกว่าคือมันสมองอันชาญฉลาด กระนั้นแค่มนุษย์ก็ไม่อาจทำร้ายปีศาจอย่างดันเต้ได้ ด้วยพละกำลังเหนือกว่าสิบเท่า และเวทมนตร์ลี้ลับในตัว ชายเบื้องหน้าของเขาจึงไม่ถือว่าเป็นตัวอันตราย นอกเสียจากได้รับการช่วยเหลือบางอย่างจากกามเทพ ทางเข้าลับถูกเปิดออก เผยให้เห็นบันไดวนแบบปราสาทยุคกลาง ทุกอย่างข้างล่างนี้ดูแตกต่างจากคุก ทว่ามันกลับถ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 59 สมกับการเป็นปีศาจ

    หลังจากการเฝ้ามองอมอร์ผ่านสายตามาหลายวันนับตั้งแต่ไม่พบใบหน้าของมิว ต้องตอนนี้และห้องนี้เท่านั้นจึงจะเหมาะสมกับการลงมือที่สุด ดันเต้มั่นใจว่าอีกฝ่ายคงรู้ว่าเขาเทียวไล้เที่ยวขื่ออยู่ละแวกนี้ เพราะอย่างไรเสียคิวปิดก็เป็นเทพระดับสูง อีกอย่างที่นี่ถือเป็นถิ่นลับสำหรับกบดาน เขาเองก็ไม่อยากผลีผลามจนเกินไป ร่างสูงใหญ่ห่อหุ้มด้วยความเงียบงันเฝ้ารอให้กลิ่นหวานน่าสะอิดสะเอียนจางหาย ดันเต้จึงพออนุมานได้ว่าเทพปฏิปักษ์ของเขาจากรังลับนี้ไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยชะล่าใจหรือเหตุผลฉ้อฉลอื่นใดก็ตาม ช่วงเวลานี่จึงเหมาะกับการลงมือที่สุด ส่วนที่ว่าทำไมต้องเป็นห้องพักผ่อนของเหล่าแองเจิ้ล ก็เป็นเพราะดันเต้เคยสำรวจที่นี่มาแล้ว บริเวณนี้ไม่ลึกลับจนเกินไปทว่าก็มีความเป็นส่วนตัวสูง ปีศาจหนุ่มไม่อยากเสี่ยงเปิดเผยตัวตนต่อหน้าคนหมู่มาก หรือเผลอพลั้งมือใช้พลังจนเกินการควบคุมของตัวเอง ทุกอย่างถูกคิดมาอย่างดีเท่าที่สมองทึนทึกของดันเต้จะคิดออก รวมไปถึงการบุ่มบ่ามใช้ความรุนแรงโดยไม่จำเป็นกับอาร์เต้ด้วย มันถูกคาดการณ์เอาไว้โดยคร่าวไว้แล้ว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status