“ห้ามเข้ามาในห้องครับ แล้วกรุณาเก็บฟีโรโมนไว้ให้หมดด้วย ผมไม่อยากได้กลิ่นคุณตอนนี้” “แต่เขาว่าคนท้องและเด็กจะอารมณ์ดีถ้าได้กลิ่นฟีโรโมนของคนเป็นพ่อนะฟา”
View Moreใต้อาณัติครั้งสุดท้าย The grace of our Lord Jesus Christ be with you all. Amen. (Revelation 22:21)ขอให้พระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา จงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายทุกคนเถิด เอเมน (วิวรณ์ 22:21)+++++“Sentino Alessio” เสียงของแองเจโลเอ่ยขึ้นในตอนที่รับลูกชายมาจากมือของพยาบาล ที่พาเข้ามาในห้องพักฟื้นหลังฟาเบียนตื่นแล้ว ใช่ ฟาเบียนคลอดโดยการผ่าคลอด ก่อนที่ฟาเบียนจะอมยิ้มจ้องมองลูกชายตัวแดงๆ ย่นๆ ในอ้อมกอดของแองเจโล ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงสงสัยว่า“เซนติโนแปลว่าอะไรครับ?” เมื่อได้ยินแองเจโลก็ยกยิ้มก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“นักบุญตัวน้อย ชื่อน่ารักใช่ไหม?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็พยักหน้ารับ ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มแก้มย่นๆ ของลูกชายก่อนที่คุณหมอมิลเลอร์จะเดินมาส่งผลใบตรวจเพศรองของลูกชายครั้งแรกเกิดให้แด๊ดดี้และป่าป๊าดู ฟาเบียนรับมาก่อนจะมองใบหน้าของแองเจโลที่กำลังกอดลูกด้วยท่าทางมีความสุข ก่อนที่แองเจโลจะเงยหน้ามองฟาเบียนแล้วเลิกคิ้วถามว่ามีอะไร“ผลตรวจเซนติโนเป็นอีนิกม่าครับ” เมื่อได้ยินแองเจโลก็พยักหน้ารับ ก่อนจะยกยิ้มกว้าง พลางกดจูบที่หน้าผากของลูกชาย“เก่งมากเจ้าลูกชาย” ฟาเ
ใต้อาณัติครั้งที่ 19 And Adam knew Eve his wife; and she conceived, and bare Cain, and said, I have gotten a man from the LORD. (Genesis 4:1)และอาดัมได้ร่วมกับเอวาภรรยาของเขา และนางได้ตั้งครรภ์ และคลอดคาอิน และกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้รับชายคนหนึ่งจากพระเยโฮวาห์” (ปฐมกาล 4:1)+++++วันนี้แองเจโลกลับบ้านมาไวกว่าทุกครั้ง แม้งานจะกองท่วมหัว แต่รู้ดีว่าฟาเบียนคงมีเรื่องอยากคุยกับตัวเองต่อแน่ๆ ในระหว่างที่เดินขึ้นชั้นบนก็เอ่ยกับเรโมไปด้วยว่า “วันนี้ฉันจะไม่เข้ากาสิโน กับไปที่คลับ นายจัดการดูแลไปก่อนเลย”“ครับ” แล้วเรโมก็หยุดตามแล้วหมุนตัวเดินไปทางอื่น ในขณะที่แองเจโลยกมือขึ้นดึงเนกไทลง ก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสามโดยมีริคกี้ตามมาเฝ้าที่ทางขึ้นบันไดเช่นเดิม และเมื่อเข้าไปในห้องแองเจโลก็นิ่งไปเมื่อเห็นว่าประตูห้องนอนเปิดรออยู่ เลยเดินผ่านห้องนั่งเล่นในห้องนอน เข้าไปในห้องแล้วต้องพรูลมหายใจออกอย่างอึดอัดเมื่อกลิ่นฟีโรโมนกลิ่นกาแฟใส่นมภายในห้องมันคลุ้งไปหมด จนทำเอาเจ้าลูกชายเกือบตื่น ก่อนจะจ้องมองก้อนผ้าห่มบนเตียงด้วยสายตาอ่อนลง แต่ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าไปในห้องเสียงเย็นยะเยือกของคนในผ้าห่มก็ดังขึ้นเ
ใต้อาณัติครั้งที่ 18 So God created man in his own image, in the image of God created he him; male and female created he them. (Genesis 1:27)ดังนั้นพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ในแบบพระฉายของพระองค์เอง ในแบบพระฉายของพระเจ้าพระองค์ได้ทรงสร้างเขา พระองค์ได้ทรงสร้างพวกเขาให้เป็นชายและหญิง (ปฐมกาล 1:27)+++++เรโมจ้องมองภาพที่ลูกน้องตัวเองเดินขยี้ตาออกมาจากสนามบินพร้อมเจ้านายตัวเองที่กำลังโอบเอวอีกฝ่ายเดินออกมาอย่างรักใคร่ด้วยสายตาปลาตาย ก่อนจะก้มหัวลงเพื่อทำความเคารพเจ้านายที่หนีหายหน้าไปเดือนกว่าโดยไม่บอกใครสักคนนอกจากเลขาจอง ด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ ก่อนที่ฟาเบียนจะขืนตัวแล้วเอ่ยเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า “เดี๋ยวผมไปนั่งคันหลัง”“ไม่ต้อง มานั่งกับฉันนี่แหละ” แล้วฟาเบียนก็โดนเจ้านายตัวเองลากไปขึ้นเบาะหลังอย่างงงๆ โดยมีเรโมปิดประตูโบกมือไล่บอดีการ์ดคนอื่นๆ ให้รีบๆ แยกย้ายเตรียมตัวเดินทางกลับคฤหาสน์อะเลสซิโอ โดยที่เรโมขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งข้างคนขับอย่างริคกี้ที่กำลังเหลือบมองตัวเองด้วยสายตาเลิ่กลั่ก เพราะภาพจากเบาะหลังคือ เจ้านายตัวเองกำลังพูดเสียงสองกับฟาเบียนที่กำลังบ่นว่าตัวเองง่วงแค่ไหนด้วยสายตาเ
ใต้อาณัติครั้งที่ 17 He hath led me, and brought me into darkness, but not into light. (Lamentations 3:2)พระองค์ได้ทรงนำข้าพเจ้า และพาข้าพเจ้าเข้ามาในความมืด แต่ไม่เข้าในความสว่าง (เพลงคร่ำครวญ 3:2)+++++“คุณอยากให้ผมใส่เจ้านี่ตลอดเลยใช่ไหมครับ?” ฟาเบียนเอ่ยถามพลางชี้ไปที่ปลอกคอและสายโซ่ที่แองเจโลถืออยู่ในมือ แองเจโลเงยหน้ามองอีกฝ่ายก่อนจะตอบด้วยเสียงราบเรียบว่า“แล้วได้ไหมล่ะ?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ดึงสายโซ่มาจากมืออีกฝ่าย ก่อนจะเป็นฝ่ายใส่สายโซ่กับปลอกคอตัวเอง แล้วเอ่ยด้วยเสียงใจเย็นว่า“แล้วผมจะออกไปเดตกับคุณข้างนอกได้อย่างไรครับ?” เมื่อได้ยินแองเจโลก็มองใบหน้าของฟาเบียนก่อนจะเอ่ยตอบด้วยเสียงราบเรียบว่า“ก็ไม่ต้องออกไป ฉันจะดูแลนายทั้งหมดเอง” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเอนศีรษะพิงไหล่แองเจโล ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า“แต่ผมอยากออกไปเดตกับคุณ มีหลายที่เลยที่ผมอยากไปกับคุณ ผมอยากสร้างความทรงจำมากมายกับคุณ มากกว่าการอยู่ในห้องกันสองคนแบบนี้” ใช่ สัญชาตญาณของอัลฟ่าที่อยากกักขังคู่เอาไว้ใต้ปีกทำไมฟาเบียนจะไม่เข้าใจ ตนเองก็เคยมีความคิดนี้ แต่เพราะฟาเบียนไม่ได้ทำไม่ได้หมายความ
ใต้อาณัติครั้งที่ 16 And when the thousand years are expired, Satan shall be loosed out of his prison, (Revelation 20:7)และเมื่อเวลาหนึ่งพันปีนั้นล่วงไปแล้ว ซาตานจะได้รับการปลดปล่อยออกจากคุกของมัน (วิวรณ์ 20:7)+++++แองเจโลจับลำคอของฟ้าที่กำลังฮีตด้วยสีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ ไม่ได้สนใจเลยว่ากลิ่นฟีโรโมนของอีกฝ่ายจะยั่วยวนมากแค่ไหน เพราะสำหรับอีนิกม่าอย่างแองเจโลแล้วนั้น ฟีโรโมนของโอเมก้าก็เหมือนน้ำหอมที่หวานเลี่ยนจนน่าพะอืดพะอมจนอยากอ้วกเพียงเท่านั้น เพราะฉะนั้นแองเจโลจึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับฟีโรโมนโอเมก้าที่กำลังฮีต นอกจากความกรุ่นโกรธที่เห็นเมียตัวเองกำลังไปจูบกับคนอื่น ก่อนจะปรายตามองฟาเบียนที่กำลังพยายามยันตัวลุกขึ้นด้วยสีหน้าแดงก่ำ และฟีโรโมนที่กำลังผันผวนอย่างรุนแรง “แองเจโล?” เสียงพึมพำของอีกฝ่ายทำให้แองเจโลจิปาก ก่อนจะลากคอโอเมก้าที่กำลังฮีตออกจากห้องด้วยการคว้าหลังคอ แล้วเหวี่ยงลงกระแทกกับพื้นหน้าห้องนอน จนอีกฝ่ายกลิ้งกระเด็นกับพื้นอย่างหมดสภาพ“ฮึก ฮื่อ” อีกฝ่ายร้องไห้โฮเพราะกลิ่นฟีโรโมนของแองเจโลที่ฉุนจมูกจนน่าขนลุก และไหนจะโดนอีกฝ่ายเหวี่ยงกระเด็นล้มกับพื้นจนเจ็บไปทั้งตัวอีก
ใต้อาณัติครั้งที่ 15 And God shall wipe away all tears from their eyes; and there shall be no more death, neither sorrow, nor crying, neither shall there be any more pain: for the former things are passed away. (Revelation 21:4)และพระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของพวกเขา และจะไม่มีความตายอีกต่อไป หรือความโศกเศร้า หรือการร้องไห้ และจะไม่มีการเจ็บปวดใด ๆ อีกต่อไป เพราะว่าสิ่งต่าง ๆ ในกาลก่อนนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว” (วิวรณ์ 21:4)+++++“มีอะไรหรือฟา?” แองเจโลเอ่ยพลางจับแขนของฟาเบียนแน่น เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเหลือบตามองโอเมก้าที่ตัวเล็กกว่าตัวเองด้วยสายตาอันตรายทำเอาอีกฝ่าย ก้มหน้าหลบตาไม่กล้าสบตากับแองเจโล แต่สีหน้าของฟาเบียนกลับเปลี่ยนไป ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบปกติว่า“ไม่มีอะไรครับ แองเจโลไปหยิบของที่อยากทานก่อนได้เลย เดี๋ยวผมตามไปครับ” เมื่อได้ยินแองเจโลก็ยกยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา ทำเอาฟาเบียนกลืนน้ำลาย ก่อนที่แรงบีบที่แขนจะแรงขึ้น แล้วหายไปเมื่อเจ้าตัวปลดมือออก แล้วเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบเย็นชาว่า“อย่านาน” แล้วแองเจโลก็จ้องเขม็งไปที่โอเมก้าร่างเล็กตรงหน้า แล้วเดินจากไป ทิ้งไว้เพ
ใต้อาณัติครั้งที่ 14 Go thy way, eat thy bread with joy, and drink thy wine with a merry heart; for God now accepteth thy works. (Ecclesiastes 9:7)เจ้าจงไปตามทางของเจ้าเถิด จงรับประทานอาหารของเจ้าด้วยความชื่นบาน และดื่มน้ำองุ่นของเจ้าด้วยใจร่าเริง เพราะบัดนี้พระเจ้าทรงเห็นชอบกับการงานทั้งหลายของเจ้าแล้ว (ปัญญาจารย์ 9:7)+++++“ฟาอยากพักร้อนหรือ?” เสียงของแองเจโลเอ่ยขึ้นภายในห้องทำงานของบริษัทหลังจากมาทำงานในตอนเช้าวันนี้ ฟาเบียนยืนตรงหน้าเจ้านายแล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาลงว่า“ผมไม่ได้กลับไปที่บ้านเกิดนานแล้วครับ เลยอยากกลับบ้านไปพักร้อนสักพักครับ” นัยน์ตาของแองเจโลลดลงเมื่อได้ยิน ก่อนจะเอนหลังพิงพนักพิง แล้วประสานมือไว้บนตัก พลางเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบเย็นชาว่า“ถ้าอย่างนั้นฟาอยากพักร้อนนานเท่าไร หนึ่งสัปดาห์พอไหม?” ฟาเบียนเม้มปากเมื่อได้ยิน ก่อนจะเสหลบสายตาของเจ้านายที่กำลังมองตัวเองด้วยสายตาเย็นชา แล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า“หนึ่งสัปดาห์.... ไม่ครับ ผมหมายถึง หนึ่งเดือน ผมอยากไปพักร้อนสักหนึ่งเดือนครับ” เมื่อพูดจบฟาเบียนก็ก้มหน้าลงไม่กล้าสบตากับเจ้านายตัวเอง ต่างจากแองเจโลที่มีรอยยิ้มหยันยกข
ใต้อาณัติครั้งที่ 13 Live joyfully with the wife whom thou lovest all the days of the life of thy vanity, which he hath given thee under the sun, all the days of thy vanity: for that is thy portion in this life, and in thy labour which thou takest under the sun. (Ecclesiastes 9:9)จงอยู่กินด้วยความชื่นบานกับภรรยาซึ่งเจ้ารักตลอดวันทั้งหลายแห่งชีวิตของความอนิจจังของเจ้า ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เจ้าภายใต้ดวงอาทิตย์ ตลอดวันทั้งหลายแห่งความอนิจจังของเจ้า เพราะว่านั่นแหละเป็นส่วนของเจ้าในชีวิตนี้ และในงานหนักของเจ้าซึ่งเจ้ากระทำภายใต้ดวงอาทิตย์ (ปัญญาจารย์ 9:9)+++++ฟาเบียนที่กำลังนั่งอยู่หน้ากระจกในห้องแต่งตัวจ้องมองเจ้านายตัวเองกำลังใส่ปลอกคอที่ตัวเองเลือกเมื่อชั่วโมงที่แล้วให้ด้วยสายตาอ่านยาก แววตาของเจ้านายดูเต็มไปด้วยความพอใจเมื่อเห็นว่าตัวเองถูกใส่ปลอกคอ มือที่ไม่ได้สวมถุงมือของนายท่านลูบไล้ที่ปลอกคอหนังอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า “เหมาะกับนายมากจริงๆ ” ฟาเบียนที่ได้ยินก็จ้องมองเจ้านายตัวเองผ่านกระจก ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า“นายท่านชอบให้ผมใส่มันหรือครับ?” ฟา
ใต้อาณัติครั้งที่ 12 Surely oppression maketh a wise man mad; and a gift destroyeth the heart. (Ecclesiastes 7:7)แน่นอนการบีบบังคับกระทำให้คนที่มีสติปัญญาบ้าได้ และสินบนก็ทำลายใจ (ปัญญาจารย์ 7:7)+++++วันนี้เป็นวันหยุดของฟาเบียนที่ไม่ต้องทำงาน และไม่รู้ว่าเพราะอะไรวันหยุดตัวเองถึงได้ตรงกับของยูตะ หนุ่มชาวญี่ปุ่นที่เป็นสาวกสาว 2D อย่างบ้าคลั่ง วันนี้ฟาเบียนที่มีเรื่องในใจเลยไม่ได้นอนอุตุอยู่ที่ห้องตัวเองเหมือนปกติ แต่มานั่งเล่นเกมกับยูตะที่ห้องอีกฝ่ายแทน แน่นอนว่าฟาเบียนแพ้ยับเพราะเอาแต่คิดเรื่องอื่นในใจจนเหม่อลอยไปไกล จนกระทั่งเสียงของยูตะดังขึ้นว่า “กลับไปนอนไหม?” ยูตะเอ่ยถามเพื่อร่วมงานด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย เพราะหมอนี่เอาแต่เหม่อจนเล่นเกมไม่สนุกเอาเสียเลย ฟาเบียนที่ได้ยินก็เม้มปาก ก่อนจะนอนเกลือกไปกับพื้น แล้วหลับตาทำเอายูตะส่ายหน้าระอา ก่อนจะเล่นเกมต่อโดยไม่สนใจอีกฝ่ายฟาเบียนมีเรื่องในใจ ตั้งแต่เมื่อวันนั้นก็ผ่านมาหลายวันแล้วที่ฟาเบียนเอาแต่คิดและพยายามหาข้ออ้างเพื่อหลบหน้านายท่าน ฟาเบียนอยากเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่สนใจอะไร ยังคงหน้าด้านหน้าทนมีความสัมพันธ์กับนายท่านต่อไป ฟาเบียนอยากท
บทนำ“ฟา... ฟาเบียน!”“ว่าอย่างไรนะ?” ชายหนุ่มกะพริบตาเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตนเอง ก่อนที่ชายคู่สนทนาจะถอนหายใจทิ้ง แล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่เบาลงอีกครั้งว่า“ฉันบอกว่างานนี้เงินดีแน่นอน หมื่นยูโรเป็นอย่างต่ำ ได้ยินว่านายกำลังเร่งใช้เงินใช่ไหม? เพราะฉะนั้นงานนี้นายรับไว้น่าจะดีกว่านะ” ชายหนุ่มที่ชื่อ ‘ฟาเบียน’ เม้มปากเมื่อได้ยิน หากให้เทียบเงินยูโรเป็นค่าเงินบาท ก็คงประมาณสามแสนกว่าๆ นัยน์ตาสีดำสนิทหลุบลงมองมือที่กุมบนตัก ก่อนจะเงยหน้ามองลูกพี่ลูกน้องที่เดินทางมาตั้งรกรากที่ประเทศไทยจากประเทศอิตาลี ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงลังเลว่า“แค่ทำหน้าที่คุ้มกันและขับรถให้ระหว่างเดินทางใช่ไหมครับ พี่กาวีโน่?” กาวีโน่ เป็นชายชาวอิตาลีที่มีคนรักเป็นชาวไทย และย้ายมาทำงานที่นี่เมื่อปีก่อน ซึ่งมีฐานะเป็นญาติของฟาเบียนคนตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า“ใช่ เนื้องานก็เหมือนที่นายเคยทำมาตลอดนั่นแหละ แค่ครั้งนี้จะผิดพลาดไม่ได้เท่านั้น” กาวีโน่พูดเสียงจริงจัง ทำเอาฟาเบียนถอนหายใจบีบมือบนตักแน่น ก่อนจะพยักหน้าแล้วเอ่ยด้วยเสียงที่ตัดสินใจได้ว่า“...
Comments