‘พยัคฆ์’พี่ชายที่แสนดีของ ‘เจ้าขา’ ทั้งคู่โตมาด้วยกัน แต่กลับมีเรื่องให้ต้องเหินห่าง พี่ชายคนดีของเธอเปลี่ยนไป เขาไม่เหมือนเดิม แล้วจู่ ๆ เขากลับมา แถมกลับมาคราวนี้ เขาจะจับฉันทำเมียอีก !!!
Voir plusเวลาล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งเข้าสู่เวลา 4 ทุ่มครึ่ง ทีมงานพี่ขิมทยอยกลับกันไปจนเหลือแค่ฉันกับพี่ขิม 2 คน ส่วนบอส…รายนั้นน่าจะกลับไปตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วมั้ง ไม่เห็นเลยตั้งแต่ช่วงนั้น“วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่าน้องเจ้า พรุ่งนี้เราค่อยมาต่อกัน” “ได้ค่ะพี่ แต่เดี๋ยวหนูขอจัดการส่วนนี้ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยลงไป พี่ไปก่อนเลยค่ะ”“งั้นพี่ไปก่อนนะ วันนี้ขอบคุณอีกครั้งนะน้องเจ้า”“ค่ะพี่ สวัสดีค่ะ”เธอนั่งทำงานต่ออีกสักพัก…ไม่นานงานสำหรับวันนี้ก็เสร็จ หญิงสาวเก็บข้าวของเตรียมตัวจะลงไปข้างล่าง“ทำไมยังไม่กลับ ?” หญิงสาวหันไปตามเสียงก็พบกับเจ้านายตัวใหญ่ยืนกอดอกพิงเคาน์เตอร์อยู่“กำลังจะกลับค่ะ”“กลับดึกแบบนี้แฟนไม่โทร.ตามแย่เลยเหรอ ?”นั่นสิ ลืมนึกไปเลย พี่ยักต้องเป็นห่วงมากแน่ ๆ เธอไม่เคยกลับดึกขนาดนี้มาก่อน หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปรากฏว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์หมด แย่แล้ว !“บอกเขาเดี๋ยวผมไปส่ง” ชายหนุ่มยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้“ขอบคุณค่ะ แต่หนูให้แฟนมารับดีกว่า คงไม่เหมาะถ้าจะให้ท่านประธานไปส่ง”“เธอนี่ คิดมากเกินไปไหม” หญิงสาวไม่ตอบ จัดการกดโทรศัพท์โทร.หาแฟนหนุ่ม แต่ทันใดนั้น…ขวับ !“ไม่ต้องโทร.แล
หลายวันต่อมา…หลังจากที่ฉันย้ายเข้าไปทำงานอยู่ในห้องของคุณอัศว ฉันก็ได้ทำงานเอกสารบ้างนิดหน่อย บางครั้งที่เขาไปคุยงานนอกสถานที่ ก็มักจะพาฉันไปด้วย บางครั้งก็จะกินข้าวจากข้างนอกมาเลย แต่ทุกครั้งที่ไปพี่รดาก็จะไม่ได้ไปทุกที พี่รดาก็ดูไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจอะไร กลับอยากให้ฉันไปแทนเธอด้วยซ้ำ เขาไม่ได้ใช้งานอะไรฉันมากนัก ส่วนพี่รดาก็ดูจะไม่ค่อยหางานมาให้แล้วเหมือนกัน ส่วนมากเขาจะชอบถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ของฉันเสียมากกว่า มีอยู่หนหนึ่งตอนไปกินข้าว เขาถามว่าฉันกับพี่พยัคฆ์ว่าเรียกกันว่าอะไร แล้วบอกให้เรียกเขาแบบนั้นบ้าง แต่ฉันก็ปฏิเสธไป บอกเหตุผลว่ามันคงไม่เหมาะ เพราะเขาเป็นเจ้านายเธอเป็นลูกน้อง อีกอย่างฉันก็ไม่ได้อยากเรียกเขาว่าพี่ด้วย มันดูแปลกพิลึกที่เขาชอบถามอะไรและทำตัวแปลก ๆ ใส่ แต่มันก็ดีกว่าการโหมงานหนักจนทำให้ไม่มีเวลากินข้าว แบบนั้นฉันคงจะตายก่อนฝึกงานจบพอดีนี่ก็หมดเวลาไปแล้ว 1 เดือน เหลืออีก 5 เดือนก็ฝึกงานเสร็จ หน้าที่ของเธอในแต่ละวันก็ไม่ค่อยมีอะไร เช้ามาจัดโต๊ะทำงานให้เขา เช็กอีเมล ดูตารางงาน ความจริงหน้าที่พวกนี้ก็คล้าย ๆ เลขานุการอยู่เหมือนกัน แต่ก็ช่างเถอะ จะเป็นอะไรก็ช่าง หล
@บ้านพยัคฆ์ วันนี้ยัยวีวี่มาค้างที่บ้าน สงสัยมีเรื่องจะเมาท์มอยเยอะ เรา 2 คนนั่งอยู่ในห้องที่พี่พยัคฆ์บอกจะเอาไว้ให้ลูก ส่วนเขาน่ะเหรอ นอนห้องนั้นไปคนเดียว…ตอนแรกที่บอกเขาว่ายัยวีวี่มานอนด้วย เขาจะไม่ยอมด้วยซ้ำ บอกว่าจะไม่ได้นอนกอดเธอตั้ง 1 คืน…มันทรมานใจอย่างนู้นอย่างนี้ หาข้ออ้างมาสารพัด จนเธอต้องปลอบไปยกใหญ่ด้วยการใช้ปาก…ก่อนที่ยัยวีวี่จะมา ไม่งั้นไม่ยอมท่าเดียว…คนหื่นที่แท้ทรู !! “ฉันนะแก…เจอเขาแล้วใจเต้นตุ้บ ๆ เลย ยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งหวั่นไหวอะแก…” ยัยวีวี่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ให้เธอฟัง ทำไมมันช่างแตกต่างกับฉันเหลือเกิน ยัยวีวี่บอกว่าเจอพี่ที่ทำงานดีมาก คอยสอนงานให้ทุกอย่าง แถมหล่อบาดใจจนยัยวีวี่ถึงขั้นหลงรักเลยทีเดียว“เออ แล้วแกล่ะ เป็นไงบ้าง ?” “เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ…”“โอ้โฮ ที่ฉันดีใจก่อนหน้านี้ทำให้รู้สึกผิดไปเลยว่ะ ดูแกจะโดนยายรดาเล่นงานเอาซะแล้วแหละ”“ไม่รู้พรุ่งนี้จะโดนอะไรอีกบ้าง”“แต่ฉันสงสัย…ว่าทำไมคุณอัศวต้องพาแกไปกินข้าวด้วยวะ”“ใครอัศว อ๋อ...ประธานตัวใหญ่นั่นน่ะเหรอ เห็นเขาบอกหาเพื่อนกินข้าวน่ะ...สงสัยไม่มีคนคบมั้งแก”“ใช่เหรอวะ…ระดับประธานบริษัทเลยนะ พี
ฉันกำลังนั่งมองเอกสารที่สูงท่วมหัวจนมองไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน…ตอนนี้เที่ยงแล้วก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย…ฮือ ๆ ๆ อยากกลับบ้านจัง หลังจากที่พี่รดาเข้ามาก็แจกแจงงานให้กับนักศึกษาฝึกงานคนอื่น ๆ ยัยวีวี่เองก็พลอยกระเด็นไปอยู่คนละแผนก…ส่วนฉันเหรอ…ทำทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่ถ่ายเอกสาร เรียงเอกสาร เติมหมึกเครื่องพรินต์ ชงกาแฟ ซื้อกาแฟ ตอนนี้ต้องมานั่งคัดแยกเอกสารของแต่ละปีให้เข้าที่…ถึงจะรู้ว่าพี่รดาแกล้งแน่ ๆ แต่ก็พยายามอดทนทำไมน่ะเหรอ...เพราะถ้าไม่ทำต่อที่นี่ ก็ไม่มีที่ให้ไปแล้ว...ดังนั้นจึงต้องอดทนไปก่อน…บอกตัวเองไว้นะเจ้าขา…แกต้องสู้ !เสียงโทรศัพท์ดัง ~~“ฮัลโหลค่ะพี่ยัก…”“กินข้าวยังจ๊ะทูนหัว” แค่ได้ยินเสียงน้ำตาเธอก็จะไหลออกมาแล้ว“กินแล้วค่ะ พึ่งกินกับยัยวี่เมื่อกี้นี้เอง อิ่มมากเลยค่ะ…พี่ยักล่ะคะ” ยังไม่ได้กินเลยต่างหาก หิวจนไส้กิ่วไปหมดแล้ว“เรียบร้อยจ้ะ…เป็นไงบ้างฝึกงานครึ่งวันแรก เหนื่อยไหมคะ ?” เหนื่อยค่ะ เหนื่อยมาก “ไม่เหนื่อยเลยค่ะ สบายมาก” “เหรอคะ ทำได้ใช่ไหม ?”“ได้สิคะ แฟนพี่ยักเก่งอยู่แล้ว”“ตั้งใจทำงานนะคะ ตอนเย็นเจอกันค่ะ…พี่รักหนูนะ”“หนูก็รักพี่ค่ะ”หลังจากวางสายพี่พยัคฆ์ หญิงสา
1 ปีผ่านไป…วันเลือกที่ฝึกงาน…“เอาไงดียัยวี่...ถ้าฉันไม่ไปฝึกงานที่ญี่ปุ่น แต่ฝึกที่ไทยฉันก็จะไม่ได้เป็นคนเลือกบริษัทเอง ถ้าขืนไปบริษัทที่ไม่ดี ฉันไม่ต้องทนอยู่ไปครึ่งปีเลยเหรอ” หญิงสาวร้องโอดครวญ เธอต้องเลือกระหว่างฝึกงานที่ญี่ปุ่น ซึ่งจะห่างจากแฟนหนุ่มแค่ 3 เดือน กับการฝึกงานในไทย ได้อยู่ใกล้กัน แต่ไม่ได้เป็นคนเลือกบริษัทเอง แถมยังต้องฝึก 6 เดือน “เอาไงก็เอาเลยแก…แกเลือกอันไหน ฉันก็จะตามแกไปทุกที่เลย” โชคดีที่ยังมียัยวีวี่ ต่อให้เจออะไรไม่ดี ยัยเพื่อนคนนี้ก็จะคอยปกป้องฉันเสมอ…เอาวะ…ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว“งั้นฝึกในไทยก็แล้วกัน…ฉันไม่อยากห่างจากพี่ยักเลย”“แหม ! ฉันกะอยู่แล้วแหละย่ะ…นี่ไม่รู้ว่าติดผัวหรือติดอย่างอื่นกันแน่นะเนี่ย”“บ้าเหรอยัยวี่ พูดไรน่าเกลียด” ความจริงติดทั้ง 2 อย่างเลยต่างหากล่ะ@บ้านพยัคฆ์ ห้องนอน“หนูเลือกฝึกงานที่นี่เพราะพี่เลยเหรอคะคนสวย...” ชายหนุ่มพูดขณะนอนกางแขนให้แฟนสาวนอนหนุน มือข้างหนึ่งของเขาลูบที่หัวไหล่เธอเบา ๆ“หนูกลัวว่าพี่จะร้องไห้คิดถึงหนูมากกว่าค่ะ”“พี่ต้องร้องแน่ ๆ ถ้าหนูไม่อยู่…แต่ถ้าหนูอยู่ที่นี่ หนูจะเป็นฝ่ายร้องแทนนะคะ” “พี่ยักบ้า ! พูดอะไรล
หลายวันต่อมา…@มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร@โรงอาหาร“พี่ปลาวาฬเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่รดาจริง ๆ !!”“ชัวร์ แหล่งข่าวของฉันคอนเฟิร์มมาแล้ว…2 คนนั้นวางแผนกันมาอย่างดี แกเชื่อฉันสิ” ยัยวีวี่ยืนยันหนักแน่นจากข้อมูลที่ไปสืบมา “ไม่อยากจะเชื่อเลย”“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อย่ะ…วันนั้นที่เกิดเรื่อง แกได้กินอะไรจากใครบ้างไหม ?”“กินอะไรน่ะเหรอ อ้อ ! พี่ปลาวาฬเอาน้ำมาให้ฉันตอนพักเที่ยง…แต่กว่าฉันจะได้กินก็ปาไปช่วงเย็น ๆ แล้ว”“นั่นแหละคือเริ่มต้นแผนการ หวังจะให้แกกินยาให้เพลีย แล้วเข้าไปนอนในห้อง จากนั้นก็ให้พี่รดามาขโมยกุญแจห้องจากฉันไง” “ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง…ทั้ง 2 คนก็เท่ากับทำลายอนาคตฉันเลยนะ”“พี่ปลาวาฬน่ะกะจะแอ้มแกอยู่แล้ว ส่วนยัยรดา…ฉันว่ามันแค้นแกมากกว่า…คงคิดว่าถ้ากำจัดแกไปได้…หล่อนคงจะกลับมาอยู่เคียงข้างกับพี่พยัคฆ์อีกครั้งได้น่ะสิ”“แต่คนตายไปแล้ว ฉันไม่ถือสาหรอก ฉันอโหสิกรรมให้เขาไปแล้วด้วย…”“เออ…จะว่าไป ข่าวก็เงียบหายไปเลยนะแก อย่างกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นแน่ะ คนอะไรจะเมาจนเดินเข้าป่าไปให้ช้างเหยียบ แถมยังโดนพี่ยักแกอัดซะน่วมขนาดนั้นแล้วด้วย…”“นั่นน่ะสิ”“ฉันว่านะ...ยัยรด
“หยาบคายที่สุด ออกไปจากห้องเจ้าเดี๋ยวนี้ ไม่งั้น…” เธอมองหาสิ่งรอบตัวที่พอจะเป็นอาวุธได้บ้าง ทันใดนั้นก็เห็นช้อนส้อมที่กินข้าวเมื่อตอนเย็น แต่ขณะที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบ พี่ปลาวาฬก็เหมือนจะรู้ทันว่าเธอมองสิ่งใดอยู่ เขารีบวิ่งไปปัดจานตก ช้อนส้อมกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทางจากนั้นเขาก็เข้ามารวบร่างเธอแล้วผลักลงบนเตียง…จับแขนเธอยกขึ้นเหนือศีรษะ หญิงสาวพยายามดิ้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี กรีดร้องจนเสียงแทบแหบ เขาใช้มือปิดปากเธอและอีกข้างก็เอามือจับรั้งแขนเธอไว้ พลั่ก !เขาต่อยเข้าที่ท้องเธอทำให้เสียงกรีดร้องเงียบไป แทนที่ด้วยหยาดน้ำตา ชายหนุ่มซุกไซ้ที่ซอกคอขาวผ่องของเธออย่างหื่นกระหาย วินาทีนี้เธอคิดถึงเขา คิดถึงเขาเหลือเกิน ภาวนาด้วยน้ำตาหวังให้เขามาช่วย และถ้าเขาไม่มา เมื่อผ่านคืนนี้ไป เธอจะมองหน้าเขาอย่างไร ก็ในเมื่อเธอไม่สะอาดอีกต่อไปแล้ว เขาจะยังรักเธอเหมือนเดิม หรือจะรังเกียจและทิ้งเธอไป หยดน้ำเอ่อล้นรอบดวงตา เธอร้องไห้อย่างไม่มีเสียง ความเจ็บปวดทั้งกายและใจกลั่นออกมาเป็นน้ำตาปัง ! เสียงพังประตูทำให้ชายหนุ่มที่กำลังคร่อมตัวหญิงสาวชะงักไป “ไอ้สัตว์นรก !!”ผลัวะ ! “มึงกล้ามากเลยนะที่ทำแ
พักเที่ยง…ตอนนี้เธอกำลังนั่งรับประทานอาหารเที่ยงอยู่ที่ลานด้านหน้าโรงแรม หลังจากที่ออกจากหอประชุม ใจเธอก็เต้นรัวเป็นกลองอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะมีใครรู้หรือเปล่าว่าเธอกับพี่พยัคฆ์เป็นแฟนกัน ความจริงเธอไม่ได้อยากปิดบัง แต่ก็ไม่ได้อยากประกาศเปิดเผยแบบวันนี้ ก็ตอนที่เขาพูดว่ามีแฟน สายตาของเขาจ้องมาที่ฉันอย่างกับจะบอกให้คนอื่นรู้อย่างไรอย่างนั้น โชคดีที่เธอไหวตัวทันหันหน้าหนีไปอีกทาง ไม่งั้นสายตาของบรรดาสาว ๆ ในหอประชุมคงจะเพ่งเล็งมาที่เธอแน่ …แล้วหลังจากที่เขาลงจากเวที…ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย สงสัยคงกลับไปทำงานแล้วมั้ง…“พี่ขอนั่งด้วยคนนะคะ” พี่ปลาวาฬพูด ขณะที่เธอกำลังนั่งเขี่ยสปาเกตตีซอสแดงในจานอย่างเหม่อลอย“เชิญค่ะพี่ปลาวาฬ”“ทำไมมานั่งที่นี่คนเดียวล่ะ…วีวี่ไม่มาอยู่เป็นเพื่อนเหรอ”“วี่ไปเอาน้ำน่ะค่ะ เดี๋ยวก็คงมา…แล้วพี่ปลาวาฬกินแล้วเหรอคะ”“เรียบร้อยแล้วจ้ะ...เอ…คนเมื่อเช้านี้…ใช่พี่ชายน้องเจ้าหรือเปล่า หน้าคุ้นมากเลย เหมือนพี่จะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน” ก็คนที่เรียกพี่ว่า ‘ปลาบู่’ ยังไงล่ะคะ“อ้อ ! ใช่ค่ะ พี่…พี่ชายเจ้าเองค่ะ”“งั้นเหรอคะ…”“อืม…พี่ปลาวาฬมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ ?”“อ๋
@บ้านพยัคฆ์ ห้องครัว “พี่ไปด้วยไม่ได้เหรอ ?” “ไปได้ไงล่ะคะ นี่เป็นค่ายของมหา’ลัย มีแต่นักศึกษา ปี 3 ปี 4 ที่เข้าร่วมได้เท่านั้นค่ะ” “ปี 3 ปี 4…งั้นไอ้หน้าตี๋ก็ไปด้วยสิ !” คนตัวโตถาม ขณะที่ก็หยิบมะม่วงที่เธอปอกเข้าปาก“ใครคะ ?”“ก็ไอ้ปลาบู่ไง”“ปลาวาฬค่ะ พี่ปลาวาฬ”“เออ ๆ นั่นแหละ”“ไปสิคะ พี่เขาอยู่ปี 4 นี่”“แล้วหนูไปกี่วัน ? ไปไกลไหม ?” เขาพูดเสียงออดอ้อน เดินอ้อมมากอดเธอทางด้านหลัง “5 วัน 4 คืน ที่เขาใหญ่ค่ะ”“นานจัง…พี่คงคิดถึงหนูแย่เลย…ไม่ให้ไปได้ไหม ?” เขาซุกไซ้ใบหน้าที่ลำคอเธอ สูดกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำที่เธอพึ่งอาบน้ำมา“ไม่ได้ค่ะ…ถ้าไม่ผ่านค่ายนี้ หนูก็จะไม่จบนะคะ…พี่ยักไม่อยากให้หนูเรียนจบเหรอ” หญิงสาวทำเสียงอ้อนตอบ ทำเอาคนข้างหลังเสียวซ่านจนขนลุก“ก็ได้ค่ะ แต่หนูต้องโทร.รายงานพี่ด้วยนะคะ…โทร.ไม่ได้ก็ส่งข้อความมาก็ได้ พี่จะได้สบายใจ…นะคะ”“ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มตาหยี เธอจุ๊บที่ปลายคางเขา ชายหนุ่มลอบมองเธอต่ำลงไป…วันนี้เธอสวมชุดนอนที่เขาซื้อให้…เป็นชุดนอนกระโปรงสั้นเหนือเข่า ผ้าซาตินสายเดี่ยว เขาเลือกเองกับมือ พอมาเห็นเธอใส่จริง ๆ แล้วมันช่างยั่วยว
สาวน้อยผู้มาใหม่เดินชมห้องของตัวเองที่พึ่งจะย้ายเข้ามา ภายในห้องตกแต่งด้วยสีชมพูหวานแหวว มีตุ๊กตาตัวน้อยใหญ่วางเรียงรายเป็นแถวอยู่บนเตียงนอนลายคิตตี้สำหรับเด็กน้อย ซึ่งล้วนเป็นตุ๊กตาของเธอจากบ้านเก่า เหนือเตียงนอนจะเป็นมุ้งเจ้าหญิงสีชมพูแบบที่เธอชอบ ถัดจากเตียงมีโต๊ะเขียนหนังสือเล็ก ๆ ที่นั่งมองวิวนอกหน้าต่างได้ ส่วนที่มุมห้องด้านในเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำตัว เธอเดินมาหยุดนั่งบนเตียง หยิบตุ๊กตากระต่ายตัวโปรดที่แม่ซื้อให้เมื่อวันเกิดมาอุ้มไว้ในอ้อมกอด พลางคุยกับเจ้ากระต่าย“ห้องสวยดีนะพี่ต่าย แต่หนูอยากให้พ่อกับแม่มาอยู่ด้วยจัง” สาวน้อยล้มตัวลงนอนบนเตียง ในใจนึกถึงวันนั้นที่พ่อกับแม่บอกว่าจะมารับเธอที่โรงเรียนตอนเย็น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มาและหลังจากนั้นเธอก็ไม่เจอท่านอีกเลย วันนั้นเธอกลับบ้านกับเหมราชซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อกับแม่ เหมราชบอกกับเด็กน้อยว่าพ่อกับแม่ต้องไปทำงานที่ต่างประเทศด่วนมาก จึงต้องฝากเธอไว้กับเขา“พ่อกับแม่ไปนานไหม จะกลับมารับหนูหรือเปล่า พี่ต่าย หนูคิดถึงพ่อกับแม่จัง…” เด็กน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้นจนไหล่สะท้าน จมูกแดงก่ำราวกับลูกตำลึง เธอเป็นแค่เด็กน้อยวัยเพียง 10 ขวบเท่า...
Commentaires