หลายวันต่อมา…@มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร@โรงอาหาร“พี่ปลาวาฬเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่รดาจริง ๆ !!”“ชัวร์ แหล่งข่าวของฉันคอนเฟิร์มมาแล้ว…2 คนนั้นวางแผนกันมาอย่างดี แกเชื่อฉันสิ” ยัยวีวี่ยืนยันหนักแน่นจากข้อมูลที่ไปสืบมา “ไม่อยากจะเชื่อเลย”“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อย่ะ…วันนั้นที่เกิดเรื่อง แกได้กินอะไรจากใครบ้างไหม ?”“กินอะไรน่ะเหรอ อ้อ ! พี่ปลาวาฬเอาน้ำมาให้ฉันตอนพักเที่ยง…แต่กว่าฉันจะได้กินก็ปาไปช่วงเย็น ๆ แล้ว”“นั่นแหละคือเริ่มต้นแผนการ หวังจะให้แกกินยาให้เพลีย แล้วเข้าไปนอนในห้อง จากนั้นก็ให้พี่รดามาขโมยกุญแจห้องจากฉันไง” “ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง…ทั้ง 2 คนก็เท่ากับทำลายอนาคตฉันเลยนะ”“พี่ปลาวาฬน่ะกะจะแอ้มแกอยู่แล้ว ส่วนยัยรดา…ฉันว่ามันแค้นแกมากกว่า…คงคิดว่าถ้ากำจัดแกไปได้…หล่อนคงจะกลับมาอยู่เคียงข้างกับพี่พยัคฆ์อีกครั้งได้น่ะสิ”“แต่คนตายไปแล้ว ฉันไม่ถือสาหรอก ฉันอโหสิกรรมให้เขาไปแล้วด้วย…”“เออ…จะว่าไป ข่าวก็เงียบหายไปเลยนะแก อย่างกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นแน่ะ คนอะไรจะเมาจนเดินเข้าป่าไปให้ช้างเหยียบ แถมยังโดนพี่ยักแกอัดซะน่วมขนาดนั้นแล้วด้วย…”“นั่นน่ะสิ”“ฉันว่านะ...ยัยรด
1 ปีผ่านไป…วันเลือกที่ฝึกงาน…“เอาไงดียัยวี่...ถ้าฉันไม่ไปฝึกงานที่ญี่ปุ่น แต่ฝึกที่ไทยฉันก็จะไม่ได้เป็นคนเลือกบริษัทเอง ถ้าขืนไปบริษัทที่ไม่ดี ฉันไม่ต้องทนอยู่ไปครึ่งปีเลยเหรอ” หญิงสาวร้องโอดครวญ เธอต้องเลือกระหว่างฝึกงานที่ญี่ปุ่น ซึ่งจะห่างจากแฟนหนุ่มแค่ 3 เดือน กับการฝึกงานในไทย ได้อยู่ใกล้กัน แต่ไม่ได้เป็นคนเลือกบริษัทเอง แถมยังต้องฝึก 6 เดือน “เอาไงก็เอาเลยแก…แกเลือกอันไหน ฉันก็จะตามแกไปทุกที่เลย” โชคดีที่ยังมียัยวีวี่ ต่อให้เจออะไรไม่ดี ยัยเพื่อนคนนี้ก็จะคอยปกป้องฉันเสมอ…เอาวะ…ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว“งั้นฝึกในไทยก็แล้วกัน…ฉันไม่อยากห่างจากพี่ยักเลย”“แหม ! ฉันกะอยู่แล้วแหละย่ะ…นี่ไม่รู้ว่าติดผัวหรือติดอย่างอื่นกันแน่นะเนี่ย”“บ้าเหรอยัยวี่ พูดไรน่าเกลียด” ความจริงติดทั้ง 2 อย่างเลยต่างหากล่ะ@บ้านพยัคฆ์ ห้องนอน“หนูเลือกฝึกงานที่นี่เพราะพี่เลยเหรอคะคนสวย...” ชายหนุ่มพูดขณะนอนกางแขนให้แฟนสาวนอนหนุน มือข้างหนึ่งของเขาลูบที่หัวไหล่เธอเบา ๆ“หนูกลัวว่าพี่จะร้องไห้คิดถึงหนูมากกว่าค่ะ”“พี่ต้องร้องแน่ ๆ ถ้าหนูไม่อยู่…แต่ถ้าหนูอยู่ที่นี่ หนูจะเป็นฝ่ายร้องแทนนะคะ” “พี่ยักบ้า ! พูดอะไรล
ฉันกำลังนั่งมองเอกสารที่สูงท่วมหัวจนมองไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน…ตอนนี้เที่ยงแล้วก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย…ฮือ ๆ ๆ อยากกลับบ้านจัง หลังจากที่พี่รดาเข้ามาก็แจกแจงงานให้กับนักศึกษาฝึกงานคนอื่น ๆ ยัยวีวี่เองก็พลอยกระเด็นไปอยู่คนละแผนก…ส่วนฉันเหรอ…ทำทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่ถ่ายเอกสาร เรียงเอกสาร เติมหมึกเครื่องพรินต์ ชงกาแฟ ซื้อกาแฟ ตอนนี้ต้องมานั่งคัดแยกเอกสารของแต่ละปีให้เข้าที่…ถึงจะรู้ว่าพี่รดาแกล้งแน่ ๆ แต่ก็พยายามอดทนทำไมน่ะเหรอ...เพราะถ้าไม่ทำต่อที่นี่ ก็ไม่มีที่ให้ไปแล้ว...ดังนั้นจึงต้องอดทนไปก่อน…บอกตัวเองไว้นะเจ้าขา…แกต้องสู้ !เสียงโทรศัพท์ดัง ~~“ฮัลโหลค่ะพี่ยัก…”“กินข้าวยังจ๊ะทูนหัว” แค่ได้ยินเสียงน้ำตาเธอก็จะไหลออกมาแล้ว“กินแล้วค่ะ พึ่งกินกับยัยวี่เมื่อกี้นี้เอง อิ่มมากเลยค่ะ…พี่ยักล่ะคะ” ยังไม่ได้กินเลยต่างหาก หิวจนไส้กิ่วไปหมดแล้ว“เรียบร้อยจ้ะ…เป็นไงบ้างฝึกงานครึ่งวันแรก เหนื่อยไหมคะ ?” เหนื่อยค่ะ เหนื่อยมาก “ไม่เหนื่อยเลยค่ะ สบายมาก” “เหรอคะ ทำได้ใช่ไหม ?”“ได้สิคะ แฟนพี่ยักเก่งอยู่แล้ว”“ตั้งใจทำงานนะคะ ตอนเย็นเจอกันค่ะ…พี่รักหนูนะ”“หนูก็รักพี่ค่ะ”หลังจากวางสายพี่พยัคฆ์ หญิงสา
@บ้านพยัคฆ์ วันนี้ยัยวีวี่มาค้างที่บ้าน สงสัยมีเรื่องจะเมาท์มอยเยอะ เรา 2 คนนั่งอยู่ในห้องที่พี่พยัคฆ์บอกจะเอาไว้ให้ลูก ส่วนเขาน่ะเหรอ นอนห้องนั้นไปคนเดียว…ตอนแรกที่บอกเขาว่ายัยวีวี่มานอนด้วย เขาจะไม่ยอมด้วยซ้ำ บอกว่าจะไม่ได้นอนกอดเธอตั้ง 1 คืน…มันทรมานใจอย่างนู้นอย่างนี้ หาข้ออ้างมาสารพัด จนเธอต้องปลอบไปยกใหญ่ด้วยการใช้ปาก…ก่อนที่ยัยวีวี่จะมา ไม่งั้นไม่ยอมท่าเดียว…คนหื่นที่แท้ทรู !! “ฉันนะแก…เจอเขาแล้วใจเต้นตุ้บ ๆ เลย ยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งหวั่นไหวอะแก…” ยัยวีวี่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ให้เธอฟัง ทำไมมันช่างแตกต่างกับฉันเหลือเกิน ยัยวีวี่บอกว่าเจอพี่ที่ทำงานดีมาก คอยสอนงานให้ทุกอย่าง แถมหล่อบาดใจจนยัยวีวี่ถึงขั้นหลงรักเลยทีเดียว“เออ แล้วแกล่ะ เป็นไงบ้าง ?” “เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ…”“โอ้โฮ ที่ฉันดีใจก่อนหน้านี้ทำให้รู้สึกผิดไปเลยว่ะ ดูแกจะโดนยายรดาเล่นงานเอาซะแล้วแหละ”“ไม่รู้พรุ่งนี้จะโดนอะไรอีกบ้าง”“แต่ฉันสงสัย…ว่าทำไมคุณอัศวต้องพาแกไปกินข้าวด้วยวะ”“ใครอัศว อ๋อ...ประธานตัวใหญ่นั่นน่ะเหรอ เห็นเขาบอกหาเพื่อนกินข้าวน่ะ...สงสัยไม่มีคนคบมั้งแก”“ใช่เหรอวะ…ระดับประธานบริษัทเลยนะ พี
หลายวันต่อมา…หลังจากที่ฉันย้ายเข้าไปทำงานอยู่ในห้องของคุณอัศว ฉันก็ได้ทำงานเอกสารบ้างนิดหน่อย บางครั้งที่เขาไปคุยงานนอกสถานที่ ก็มักจะพาฉันไปด้วย บางครั้งก็จะกินข้าวจากข้างนอกมาเลย แต่ทุกครั้งที่ไปพี่รดาก็จะไม่ได้ไปทุกที พี่รดาก็ดูไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจอะไร กลับอยากให้ฉันไปแทนเธอด้วยซ้ำ เขาไม่ได้ใช้งานอะไรฉันมากนัก ส่วนพี่รดาก็ดูจะไม่ค่อยหางานมาให้แล้วเหมือนกัน ส่วนมากเขาจะชอบถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ของฉันเสียมากกว่า มีอยู่หนหนึ่งตอนไปกินข้าว เขาถามว่าฉันกับพี่พยัคฆ์ว่าเรียกกันว่าอะไร แล้วบอกให้เรียกเขาแบบนั้นบ้าง แต่ฉันก็ปฏิเสธไป บอกเหตุผลว่ามันคงไม่เหมาะ เพราะเขาเป็นเจ้านายเธอเป็นลูกน้อง อีกอย่างฉันก็ไม่ได้อยากเรียกเขาว่าพี่ด้วย มันดูแปลกพิลึกที่เขาชอบถามอะไรและทำตัวแปลก ๆ ใส่ แต่มันก็ดีกว่าการโหมงานหนักจนทำให้ไม่มีเวลากินข้าว แบบนั้นฉันคงจะตายก่อนฝึกงานจบพอดีนี่ก็หมดเวลาไปแล้ว 1 เดือน เหลืออีก 5 เดือนก็ฝึกงานเสร็จ หน้าที่ของเธอในแต่ละวันก็ไม่ค่อยมีอะไร เช้ามาจัดโต๊ะทำงานให้เขา เช็กอีเมล ดูตารางงาน ความจริงหน้าที่พวกนี้ก็คล้าย ๆ เลขานุการอยู่เหมือนกัน แต่ก็ช่างเถอะ จะเป็นอะไรก็ช่าง หล
เวลาล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งเข้าสู่เวลา 4 ทุ่มครึ่ง ทีมงานพี่ขิมทยอยกลับกันไปจนเหลือแค่ฉันกับพี่ขิม 2 คน ส่วนบอส…รายนั้นน่าจะกลับไปตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วมั้ง ไม่เห็นเลยตั้งแต่ช่วงนั้น“วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่าน้องเจ้า พรุ่งนี้เราค่อยมาต่อกัน” “ได้ค่ะพี่ แต่เดี๋ยวหนูขอจัดการส่วนนี้ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยลงไป พี่ไปก่อนเลยค่ะ”“งั้นพี่ไปก่อนนะ วันนี้ขอบคุณอีกครั้งนะน้องเจ้า”“ค่ะพี่ สวัสดีค่ะ”เธอนั่งทำงานต่ออีกสักพัก…ไม่นานงานสำหรับวันนี้ก็เสร็จ หญิงสาวเก็บข้าวของเตรียมตัวจะลงไปข้างล่าง“ทำไมยังไม่กลับ ?” หญิงสาวหันไปตามเสียงก็พบกับเจ้านายตัวใหญ่ยืนกอดอกพิงเคาน์เตอร์อยู่“กำลังจะกลับค่ะ”“กลับดึกแบบนี้แฟนไม่โทร.ตามแย่เลยเหรอ ?”นั่นสิ ลืมนึกไปเลย พี่ยักต้องเป็นห่วงมากแน่ ๆ เธอไม่เคยกลับดึกขนาดนี้มาก่อน หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปรากฏว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์หมด แย่แล้ว !“บอกเขาเดี๋ยวผมไปส่ง” ชายหนุ่มยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้“ขอบคุณค่ะ แต่หนูให้แฟนมารับดีกว่า คงไม่เหมาะถ้าจะให้ท่านประธานไปส่ง”“เธอนี่ คิดมากเกินไปไหม” หญิงสาวไม่ตอบ จัดการกดโทรศัพท์โทร.หาแฟนหนุ่ม แต่ทันใดนั้น…ขวับ !“ไม่ต้องโทร.แล
ความเร็วของรถที่ขับเคลื่อนอยู่บนท้องถนนไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด สิ่งที่ทำให้เขากลัวมากที่สุดคือการสูญเสียคนที่เขารักต่างหาก จังหวะที่เขาเห็นภาพนั้น ภาพที่ชายคนอื่นซึ่งไม่ใช่เขายื่นหน้าทาบทับใบหน้าเธอ หัวใจเขาแทบจะหลุดออกมา คล้ายมีคนโยนก้อนหินหนัก ๆ ลงในใจ เขาพยายามจะไม่คิดอะไร พยายามจะเชื่อใจเธอ แต่เขาก็ทำไม่ได้จริง ๆ แม้ปากจะบอกไปว่าเชื่อใจไปแล้วก็ตาม พอนึกถึงภาพนั้น หัวใจเขาก็เหมือนถูกบดขยี้ ความโกรธคุกรุ่นอยู่ภายในใจแทบจะระเบิดออกมา ความเกลียดแค้นชิงชังมีมากเมื่อนึกถึงผู้ชายคนนั้น แม้เขาจะเห็นหน้าไม่ชัด แต่ก็พอรู้ตำแหน่งหน้าที่ของมัน…มึงจะได้กลายเป็นศพต่อไปแน่ กูสาบานเลย !!!@บ้านอัศวรถสปอร์ตสีดำจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง…ป้ายหน้าบ้านเขียนว่า ‘ตระกูลเมธาอัครโยธิน’ ชายหนุ่มก้าวลงจากรถแล้วเดินไปกดออดหน้าบ้าน ไม่นานนักก็มีคนงานออกมา“มาหาใคร ?” คนงานวัยกลางคนถาม“อัศว”“นัดไว้หรือเปล่า ?”“ไม่ได้นัด บอกไปว่า กูชื่อพยัคฆ์ เป็นผัวของเจ้าขา” เขาจับปืนที่อยู่ตรงกางเกงขึ้นมาประหนึ่งว่ากูมีปืน ถ้าไม่รีบไปแจ้งนายมึง กระสุนจะได้เจาะที่หัวกะโหลกมึงแน่ คนงานพยักหน้ารับด้วยใบหน
หลังจากคุยกับเพื่อนสนิทหญิงสาวก็กลับเข้าไปทำงานตามปกติ แต่จนแล้วจนรอดเธอกลับไม่มีกะจิตกะใจทำงานแม้แต่น้อย ในหัวเธอเต็มไปด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน คืนที่ทะเลาะกันกับแฟนหนุ่ม ไม่รู้ป่านนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง ความคิดสับสนวุ่นวายจนเธอต้องไปสงบจิตสงบใจบนดาดฟ้าของบริษัทเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาไม่กลับมาบ้าน ไม่โทร.มา ไม่ส่งข้อความหาฉันเลย เขาไม่เชื่อใจ คิดว่าฉันมีคนอื่น คงกะจะทิ้งฉันแล้วจริง ๆ ใช่ไหมคนบ้า ! พี่ยักบ้า ! ทำไมถึงไม่เชื่อใจกันบ้างเลย เธอนั่งกอดเข่าอยู่บนดาดฟ้าของที่ทำงาน แววตาหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มตอนนี้ดูเศร้าลงราวกับจะไม่มีความสุขอีก“ทำไมมานั่งที่นี่คนเดียว ?” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังเดินมาทักเธออัศวเดินมานั่งข้าง ๆ เธอ เขาหันมองเธอด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก วันนี้เธอพยายามหลบหน้าเขามาตลอด เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบคืนนั้นอีก และยิ่งยายวีวี่บอกว่าเขาชอบเธอและอยากแย่งเธอจากแฟนหนุ่ม ยิ่งทำให้เธออยากจะอยู่ให้ห่างจากเขา“แค่มาสูดอากาศน่ะค่ะ” เธอตอบโดยไม่มองหน้าเขา และพยายามจะลุกขึ้นหนีไป แต่ชายหนุ่มก็จับแขนเธอไว้ก่อน“คุยกันก่อนสิ”“ปล่อยค่ะ”“นั่ง
“หยุดร้องไห้แล้วฟังแม่…ที่แม่ตีเพราะต้องการให้ลูกรู้ ว่าการโกหกมันไม่ใช่เรื่องดี แล้วยิ่งโกหกปู่ให้ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้ว ลูกเองก็ยังเล่นสนุกสนานบนความทุกข์ของคนอื่นได้ยังไง พร้อมพบ ไม่ว่าใครชวนทำอะไรไม่ดี หนูก็ต้องปฏิเสธไม่ใช่เข้าร่วม แถมยังเป็นคนคิดให้คนอื่น ๆ โกหกปู่อีก และอีกอย่าง เมื่อทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับผิดของตัวเอง ไม่ใช่โบ้ยความผิดให้พี่เขา มันไม่ดีเลยนะลูก ส่วนพายุ ลูกเป็นพี่คนโต ต้องคอยดูแล ปกป้องน้อง ๆ เป็นตัวอย่างที่ดีของน้อง ๆ สิลูก ไม่ใช่พาน้องไปเล่นพิเรนทร์แบบนี้ พวกลูกเป็นพี่น้องกัน ต้องรักกันไว้ อย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะเมื่อเกิดอะไรขึ้น ก็มีแต่พวกเราพี่น้องเท่านั้นที่จะช่วยเหลือกันและกัน เข้าใจที่แม่พูดไหม ?” เด็กน้อยทั้งหลายพยักหน้าเข้าใจพลางก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นไปด้วย“เอาละ ๆ เข้าใจแล้วก็ดี ปู่เองก็ไม่ได้อยากให้ทำโทษหลาน ๆ หรอก เพียงแต่แค่เป็นห่วงก็เท่านั้นเอง” “ไม่ได้หรอกค่ะพ่อ เดี๋ยวแกจะเคยตัว โตขึ้นเป็นแบบพี่ยักทำไงล่ะคะ” หญิงสาวพูดทำเอาคนโดนพาดพิงหันขวับ เขาไปเกี่ยวไรด้วยว้า !“มาหลาน ๆ มาหาปู่มา เดี๋ยวเราไปอาบน้ำล้างตัวกัน เดี๋ยวปู่เอาสระลมยางให้เล่น”
8 ปีต่อมา…“แยกขาหน่อยสิจ๊ะเมียจ๋า” ชายหนุ่มสั่งขณะที่เขากำลังดันแก่นกายอันใหญ่โตเข้าไปในกายเนื้อหญิงสาวที่นอนหงายอยู่ด้านล่าง หญิงสาวว่าง่ายยอมทำตามโดยไม่อิดออด เสียงเร่งเร้าของเธอทำให้ความเร่าร้อนก่อตัวขึ้นภายในกายเขา ทันทีที่สอดเข้าไป…ความใหญ่โตทำให้หญิงสาวร้องครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่“ร้องดัง ๆ เลยค่ะที่รัก วันนี้ลูกไม่อยู่ บ้านนี้เป็นของเราแล้ว ร้องดัง ๆ สิคะ !” ชายหนุ่มบอก มือของยังเขากอบกุมที่เนินเนื้อของเมียสาวที่นอนครางกระเส่าอย่างได้อารมณ์ “ที่รัก…ขา…หนู…สะ...เสียวมากเลย” “อย่างนั้นแหละจ้ะยาหยี” ชายหนุ่มเร่งเครื่องความเร็วเดินหน้าเต็มกำลัง นานหลายเดือนแล้วที่เขาไม่ได้จัดเมียตัวเอง ตั้งแต่มีลูก...เมียก็เริ่มสนใจแต่ลูก ซึ่งลูกก็มีแต่ผู้ชาย เขาที่อยากมีลูกผู้หญิงก็พยายามหาเวลาเพื่อที่จะผลิตให้ได้สักคน แต่ก็เจอมารผจญ มารที่ว่าก็คือ ลูก ๆ ของเขาเอง ทุกครั้งที่เขาจะทำเรื่องอย่างว่า ก็เหมือนไอ้ 3 หน่อมันจะรู้ทุกครั้ง ครั้งนี้พ่อเขากลับมา ก็ได้โอกาสฝากลูก ๆ ไว้กับพ่อชั่วคราว ส่วนเขาเองก็จะได้มีเวลาปั๊มลูกสาวสักที...แต่ไม่ทันจะได้เสร็จสม…เสียงเรียกจากด้านนอกก็ดังขึ้น“ไอ้ย้ากกก…ม
@งานวัดประจำปีวันนี้เป็นวันลอยกระทง พยัคฆ์พาแฟนสาวไปเที่ยวงานประจำปีที่วัดแถวบ้าน เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ เขาและเธอก็พากันไปงานวัดบ่อย ๆ ชายหนุ่มพาแฟนสาวเดินเที่ยวภายในงาน บรรยากาศค่อนข้างครึกครื้น แสงไฟจากร้านค้าต่าง ๆ หรือซุ้มขายของต่างก็ติดไฟเรียกผู้คนกันระนาว เสียงเพลงบรรเลงอย่างอื้ออึง ซุ้มการละเล่นต่าง ๆ มีคนมุงล้อมเล่นกันอย่างสนุกสนาน ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาจากทั่วทุกที่ ทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่น หรือแม้แต่คนเฒ่าคนแก่ก็มาร่วมงานวัดครั้งนี้ด้วย เพราะมีซุ้มให้ทำบุญอยู่ตรงมุมโบสถ์ของวัด ทั้ง 2 คนเดินมาเรื่อยก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขนมสายไหม “อยากกินเหรอคะ ?” ชายหนุ่มถามแฟนสาวตรงหน้า หญิงสาวระบายยิ้มหวาน พยักหน้าหงึก ๆ เป็นการให้คำตอบ เขาซื้อให้เธอ 1 ไม้ใหญ่สีชมพูฟูฟ่อง หญิงสาวกัดลงคำหนึ่งก็หลับตาปี๋ รสชาติความหวานแล่นถึงโสตประสาท “ขอพี่ชิมมั่ง” หญิงสาวกำลังจะยื่นสายไหมในมือให้แฟนหนุ่มชิม แต่เขากลับเอาหน้าเข้ามาใกล้แล้วตวัดลิ้นเลียที่ริมฝีปากเธอหน้าตาเฉย ทำเอาเจ้าตัวตกใจฟาดมือเล็ก ๆ ไปที่อกเขาอย่างจัง“พี่ยัก ! อายคนเขา”“อายทำไมคะ เขาจะได้รู้ว่าหนูมากับแฟนไง”“แค่ใส่เสื้อคู่เขาก็รู
@บ้านเหมราช“หนูไม่ต้องไปหรอกค่ะ อยู่นี่แหละเดี๋ยวพี่ก็กลับมาแล้ว” พยัคฆ์พูด ก่อนจะเตรียมตัวออกไปทำบุญครบรอบวันตายของแม่เขา“ทุกครั้งเลย วันครบรอบวันตายแม่พี่ทีไรหนูไม่เคยได้ไปเลย ทำไมเหรอคะ กลัวหนูไปรู้อะไรเข้าเหรอ ?” หญิงสาวเอียงคอถามอย่างทะเล้น“เปล่าซะหน่อย ก็เห็นว่าต้องไปดูไร่ชาไม่ใช่หรือไง พี่ไปเดี๋ยวเดียวเอง”“หนูก็อยากทำบุญให้แม่พี่บ้างนี่คะ ตอนเด็ก ๆ ก็ยังไปได้เลย ทำไมตอนนี้ถึงไปไม่ได้แล้วล่ะคะ” “ไปแล้วห้ามซนนะ ถ้าพี่ไม่ให้ไปตรงไหนก็ห้ามไปล่ะ เข้าใจไหมคะ ?” “เข้าใจค่า…พี่ย้ากกก” หญิงสาวเขย่งปลายเท้าจุมพิตเบา ๆ ที่แก้มแฟนหนุ่ม เขายิ้มมองสาวน้อยตรงหน้าด้วยท่าทีมีความสุขล้น จากนั้นทั้ง 2 คนก็ออกเดินทางไปยังวัดแถวบ้าน @วัดหลังจากถวายสังฆทาน สวดมนต์ นำอาหารและเครื่องดื่มมาถวายพระสงฆ์เรียบร้อยแล้ว เหมราชก็นำพยัคฆ์และเจ้าขาไปที่อัฐิของ ‘ลลิน’ หรือแม่ของพยัคฆ์ เพื่อจุดธูปเทียนและวางดอกไม้ที่หน้ารูป“ป๋า ผมขอถามอะไรหน่อยสิ” พยัคฆ์พูดขึ้นหลังจุดธูปเทียนและวางดอกไม้เรียบร้อยแล้ว “ถามอะไร ?”“แม่ไม่ได้ป่วยตายใช่ไหมป๋า”“ใครบอกเอ็ง”“ไม่มีใครบอก แต่ผมรู้สึกได้ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าน
หลังจากที่ฟังผู้เป็นพ่อพูด เรื่องราวที่อัศวเคยเข้าใจกับที่พ่อเล่า มันทำให้เขาหยุดชะงักราวกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกหยุดหมุนไปโดยปริยาย เขาเข้าใจผิดมาตลอดว่าแม่ทิ้งเขาไปเพราะมีชู้ และไม่ยอมรับเขาไปเพราะรังเกียจเขา ที่แท้เป็นเพราะพ่อแท้ ๆ ของเขาเองต่างหากที่ทำผิดต่อแม่ พ่อทิ้งแม่ไปแต่งงานใหม่ นี่มันเรื่องอะไรกัน ! ทำไมเขาต้องมารับรู้อะไรแบบนี้ตอนนี้ด้วย ! เขารู้สึกดีใจที่แม่ไม่ได้คิดจะทิ้งเขา แต่กลับต้องมาเสียใจเพราะคนที่ทิ้งแม่ไปก็คือพ่อเขาเอง “ทำไมพ่อทำแบบนี้ ทำไมถึงทิ้งแม่ไป ทำไมถึงต้องมาพรากแม่ไปจากผม” ชายหนุ่มร้องไห้กอดหญิงสาวตรงหน้าด้วยความอาลัยและคิดถึงผู้เป็นแม่ที่เขารักมากที่สุด“พ่อขอโทษลูก พ่อขอโทษ อภัยให้พ่อด้วย พ่อเองก็เสียใจ และจมอยู่กับมันมามากพอควรกับเรื่องนี้ พ่อขอรับผิดทุกอย่างไว้เอง แกปล่อยน้องเขาลงมาเถอะนะ ถือว่าพ่อขอ” อดิสรเอ่ยปลอบลูกชายปล่อยเธอ ปล่อยเธอไป…ทำไมเขาถึงไม่มีความรู้สึกอยากจะปล่อยหญิงสาวในอ้อมกอดคนนี้ให้ออกจากอ้อมแขนเลย ราวกับว่าเธอคนนี้เป็นของเขามานานแล้ว“ผมปล่อยไม่ได้พ่อ” เพราะเขารักเธอเข้าแล้วจริง ๆ ความจริงรักตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกเลยด้วยซ้ำ หญิงส
“จะดีเหรอวะ...มึงเดี้ยงซะขนาดนี้...ยังจะมาดวลอะไร” อัศวมองน้องชายต่างพ่อตรงหน้าราวกับเป็นขยะชิ้นหนึ่ง“กูไหว...ถ้ามึงแพ้กู…มึงต้องปล่อยเจ้าขาไป” พยัคฆ์ตอบ เขาพยายามจะรวบรวมสติและกำลังกายของตัวเองให้ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง แม้ร่างกายตอนนี้จะไม่อำนวยก็ตาม แต่ใจเขาเชื่ออย่างสุดใจว่าสามารถทำได้ เขาต้องยื้อมันไว้ระหว่างที่พ่อกำลังมา“เฮอะ…สภาพอย่างมึงยังมีหน้ามาต่อรองกูอีก”“หรือมึงกลัวแพ้ ?”“ปากดี...อยากตายก็มาเถอะ กูจะสงเคราะห์ให้” อัศวทิ้งปืนในมือ สาวเท้าเข้าไปปล่อยหมัดหนัก ๆ ปะทะที่ใบหน้าคมคายของผู้เป็นน้อง ความเจ็บปวดพลุ่งพล่านเข้าไปยังโสตประสาทของชายหนุ่มที่นอนกองอยู่บนพื้น“พี่ยัก !! อย่าทำอะไรเขานะ” หญิงสาวที่ซ่อนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ตะโกนเสียงดังออกมา “ออกมาแล้วเหรอคนสวย” อัศวหันมองเธอ…เขาจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้าสะสวยราวกับตุ๊กตามีชีวิตของเธอ “เจ้าอย่าออกมา…กลับไปที่เดิม !!” ชายหนุ่มพยายามลุกขึ้น เขาอาศัยจังหวะที่อัศวมองแฟนสาวของเขา จัดการเตะเข้าที่ขาตามด้วยการพุ่งหมัดปะทะที่ใบหน้าผู้เป็นพี่จนหงายหลังไป อัศวนอนหงายหายใจหอบ เขาถุยเลือดลงบนพื้นและเช็ดเลือดที่มุมปาก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วปะทะกันอ
ก๊อก ๆ ๆ “เสร็จหรือยัง ?” เสียงอัศวเรียกเธอจากด้านนอก ทำให้หญิงสาวต้องหยุดความคิดที่จะหนีไว้ก่อน“เสร็จแล้ว...กำลังไป”“ขอบอกไว้เลยนะ ถ้าคิดหนี…เธอจะไม่ได้เจอหน้ามันอีก !!” เขาขู่ นี่เขากำลังขู่ฉัน ? เขาทำอะไรพี่ยัก ? หรือว่าที่พี่ยักไม่กลับมาเมื่อคืนก็เป็นเพราะเขา ?หญิงสาวรีบเปิดประตูออกมา จ้องหน้าคนตัวใหญ่ตรงหน้าด้วยแววตาเกลียดชัง“เขาอยู่ไหน ? คุณเอาเขาไปไว้ที่ไหน ?” เขาไม่ตอบ แต่กลับจับจูงแขนเธอให้เดินตามเขาไปด้านหน้าของเรือยอช์ต ที่มีเบาะรองนั่งสีขาววางอยู่ ไฟสีเหลืองส่องสะท้อนทะเลยามกลางคืนระยิบระยับ มีเสียงเพลงเปิดคลอเบา ๆ“นั่งลง”เธอนั่งลงตามเขาสั่งอย่างจำใจ…กลัวที่สุดว่าความคิดไม่เข้าท่าของเธอจะเกิดขึ้นจริง ๆ“ตกลงคุณเอาพี่ยักไปไว้ที่ไหน ?”“มันยังไม่ตายหรอก…ไม่ต้องห่วง…แค่เกือบน่ะ”“หมายความว่าไง ? ทำไมเขาถึงโดนทำร้าย คุณทำอะไรเขา ?”“มันต่างหากที่จะฆ่าฉัน…พกปืนเข้าบ้านคนอื่นยามวิกาล แค่นี้ฉันก็ส่งมันเข้าคุกได้แล้ว...ฉันสั่งสอนมันให้จำไว้ว่ามันเล่นผิดคนก็เท่านั้น”พี่ยัก…ทำไมถึงทำอะไรบุ่มบ่ามแบบนี้นะ ! “แล้วคุณจะปล่อยเขาไหม ?”“ขึ้นอยู่กับว่า…คืนนี้เธอจะทำให้ฉัน…พึงพอใ
“ค้นหาตำแหน่งเบอร์นี้ให้ฉัน…ขอด่วนที่สุด !!” พยัคฆ์โทรศัพท์สั่งลูกน้องตัวเองให้หาตำแหน่งเบอร์ของอัศวเพื่อตามล่ามันที่ลักพาตัวแฟนสาวเขา เพียงไม่นานเขาก็ได้รับตำแหน่งซึ่งอยู่กลางทะเลแห่งหนึ่งของภาคใต้ ไอ้ระยำ !! ถ้ากูเจอมึงตอนนี้กูจะสับมึงเป็นชิ้น ๆ แล้วโยนให้ปลาแดกเลยคอยดู !!! ไม่รู้ป่านนี้ยายน้องเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง จะคิดถึงเขาหรือเปล่า หรือว่ากำลังมีความสุขดีกับมัน แต่ขออย่าให้เป็นอย่างหลังเลย ถ้าเป็นแบบนั้น เขาคงรับไม่ได้จริง ๆตอนนี้เขากำลังนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน ‘ภูเก็ต’ ระหว่างนั่งเครื่องใจเขาก็ยังกังวลอยู่หลายเรื่อง ทั้งเรื่องแฟนสาวและยังเรื่องเมื่อคืน ความข้องใจนี้ทำให้เจ้าตัวโทร.ไปหาผู้เป็นบิดาเพื่อถามเอาคำตอบ“ว่าไงไอ้ลูกชาย หายหัวไปเลยนะตั้งแต่ได้อยู่กับสาว ! ลืมกูแล้วสิมึง !!”“ป๋า ผมมีเรื่องอยากจะถาม”“เรื่องไรวะ ?”“ผมเป็นลูกผัวน้อยเหรอวะป๋า”“ผัวน้อยอะไรของมึง…”“ก็ป๋าไปแย่งเมียคนอื่นเขา...ถ้าไม่ใช่ผัวน้อยจะเรียกว่าอะไร ?”“ดะ…เดี๋ยว ๆ มึงไปเอามาจากไหน กูไม่เคยเป็นผัวน้อยใครเว้ย แม่มึงนี่กูเอามาอย่างสุจริตนะจะบอกให้”“แม่เคยแต่งงานมีลูกมาแล้วใช่ไหมล่ะป๋า”“ใครบอก
หลังจากคุยกับเพื่อนสนิทหญิงสาวก็กลับเข้าไปทำงานตามปกติ แต่จนแล้วจนรอดเธอกลับไม่มีกะจิตกะใจทำงานแม้แต่น้อย ในหัวเธอเต็มไปด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน คืนที่ทะเลาะกันกับแฟนหนุ่ม ไม่รู้ป่านนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง ความคิดสับสนวุ่นวายจนเธอต้องไปสงบจิตสงบใจบนดาดฟ้าของบริษัทเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาไม่กลับมาบ้าน ไม่โทร.มา ไม่ส่งข้อความหาฉันเลย เขาไม่เชื่อใจ คิดว่าฉันมีคนอื่น คงกะจะทิ้งฉันแล้วจริง ๆ ใช่ไหมคนบ้า ! พี่ยักบ้า ! ทำไมถึงไม่เชื่อใจกันบ้างเลย เธอนั่งกอดเข่าอยู่บนดาดฟ้าของที่ทำงาน แววตาหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มตอนนี้ดูเศร้าลงราวกับจะไม่มีความสุขอีก“ทำไมมานั่งที่นี่คนเดียว ?” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังเดินมาทักเธออัศวเดินมานั่งข้าง ๆ เธอ เขาหันมองเธอด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก วันนี้เธอพยายามหลบหน้าเขามาตลอด เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบคืนนั้นอีก และยิ่งยายวีวี่บอกว่าเขาชอบเธอและอยากแย่งเธอจากแฟนหนุ่ม ยิ่งทำให้เธออยากจะอยู่ให้ห่างจากเขา“แค่มาสูดอากาศน่ะค่ะ” เธอตอบโดยไม่มองหน้าเขา และพยายามจะลุกขึ้นหนีไป แต่ชายหนุ่มก็จับแขนเธอไว้ก่อน“คุยกันก่อนสิ”“ปล่อยค่ะ”“นั่ง