@กรุงเทพมหานคร
“รับโทรศัพท์พี่ด้วยนะ อย่าลืมกินข้าวเช้า ตอนเย็นอย่ากินของเผ็ดมากเดี๋ยวปวดท้อง แล้วก็อย่าออกมาแอบกินขนมกลางดึกล่ะ แอร์ฯ ก่อนนอนให้เปิด 25 องศาพอ เข้าใจที่พี่พูดไหม”
“ค่าพี่ย้ากกกก บ๊ายบายนะคะ อย่าลืมมาหาหนูด้วยน้า”
เด็กน้อยโบกมือให้พี่ชายที่โผล่หัวออกมาจากรถเอสยูวี ขณะรถกำลังเคลื่อนออกไป เขามองเธอโดยไม่ละสายตาเลยแม้แต่น้อย มือข้างหนึ่งโบกไปมา คล้าย ๆ เหมือนเธอจะเห็นเขาเช็ดน้ำตาที่แก้ม
“พี่รักหนูนะ…ไว้ถึงบ้านแล้วจะโทร.หา”
“หนูก็รักพี่ค่ะ”
วันเวลาล่วงเลยผ่านไป…หลังจากที่ฉันได้เข้ามาเรียนกรุงเทพฯ ช่วงแรก ๆ บอกเลยว่ายังปรับตัวไม่ค่อยได้ แต่โชคดีที่มี “วีวี่” ลูกสาวของลุงวิทย์ เธอเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับฉัน เธอคอยอยู่เป็นเพื่อนตลอด พาไปกินของอร่อย ๆ พาไปเที่ยวเล่นหาอะไรสนุกๆทำแก้เหงา จนฉันเริ่มชินกับการอยู่ที่นี่บ้างแล้ว
ลุงวิทย์เองก็ดูแลฉันเป็นอย่างดี ไปรับ-ส่งที่โรงเรียนพร้อมกับวีวี่ตลอด เขาดูแลวีวี่อย่างไรก็ดูแลฉันแบบนั้น ส่วนพี่พยัคฆ์ในช่วง ม.1-ม.4 เขามาหาบ่อยมาก บ่อยมาก ๆ เรียกได้ว่าแทบทุกอาทิตย์ บางครั้งในวันธรรมดาช่วงเย็น ๆ เขาก็มา ทุกครั้งที่มาก็จะมาค้างที่บ้านลุงวิทย์ เขาจะนอนอยู่ห้องข้าง ๆ วันดีคืนดีตื่นมาก็จะเจอเขานอนกอดอยู่ข้างฉัน พอถามไปเขาก็บอกว่านอนละเมอทุกที
คนอะไรนอนละเมอเก่งจริง ๆ !
ถ้าช่วงไหนที่มาไม่ได้ก็จะโทร.คุยกัน หรือวิดีโอคอลคุยกันตลอด พี่พยัคฆ์จะให้รายงานว่าวันนี้ไปทำอะไร ที่ไหนมาบ้าง เรียนวิชาอะไร เขาเองก็จะคอยรายงานฉันเหมือนกันว่าที่มหาวิทยาลัยตอนนี้เขากำลังทำอะไร ช่วงไหนไม่ค่อยว่างหรือมีงานเร่งด่วนก็จะคอยบอกตลอด เรา 2 คนแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ก็ไม่เคยห่างกันเลย
ฉันเองในทุก ๆ ปีก็จะกลับบ้านไปหาป๋ากับพี่พยัคฆ์พร้อมกับลุงวิทย์และวีวี่ กลับไปทีไรพี่พยัคฆ์เป็นต้องพาเรา 2 คนไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ปีหนึ่งไม่เคยซ้ำที่กันเลย ล่าสุดที่ไปตอน ม.4 เขาพาไปแคมปิงที่เชียงใหม่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รับอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ ตอนนั้นฉันเมาจนอ้วกแล้วอ้วกอีก วีวี่ก็เหมือนกัน คิดแล้วก็ขำ วีวี่อ้วกรดหัวพี่พยัคฆ์เลยด้วย ส่วนคนที่ไม่เมาก็เห็นจะมีแต่พี่พยัคฆ์คนเดียวนั่นแหละ คอทองแดงจริง ๆ !
คืนนั้นฉันจำอะไรไม่ค่อยได้เลย รู้สึกเหมือนโลกหมุนตลอด นอนไม่ได้เลยเหมือนมีคนมาทับด้านบนตัว มันอึดอัดไม่สบายตัว ตื่นมาก็รู้สึกเจ็บปากเจ็บลิ้นอย่างไรบอกไม่ถูก ตามเนื้อตัวก็เป็นจ้ำ ๆ สีแดง โดยเฉพาะบริเวณลำคอและหน้าอก สงสัยคงแพ้แอลกอฮอล์ หลังจากนั้นฉันก็ไม่เคยแตะมันอีกเลย
ระยะเวลา 4 ปี เขาเป็นอย่างนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งฉันขึ้น ม.5 พี่พยัคฆ์เรียนต่อปริญญาโท 2 ปี และ 2 ปีนี้เอง เขา…ก็เริ่มหายไปจากชีวิตฉัน ไม่ค่อยมาหาบ่อย ๆ เหมือนตอนแรก ๆ เวลาโทร.คุยกันก็น้อยลงทุกที พอเธอกลับบ้านไปเขาก็ยุ่งจนไม่ได้พาเธอไปเที่ยวเหมือนเมื่อก่อน พอเธอถามก็บอกว่าต้องส่งวิทยานิพนธ์บ้าง ต้องดูแลธุรกิจใหม่ของเขาบ้าง แรก ๆ ก็พยายามจะเข้าใจว่าการเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยคงจะยุ่งมากแทบจะไม่มีเวลา แต่ใจมันก็อดคิดไม่ได้ มันรู้สึกแปลก ๆ แปลกอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือน…ตัวเองกำลังจะโดนทิ้ง เหมือนเราเป็นส่วนเกินที่คอยยุ่งวุ่นวายกับเขาอย่างไรก็ไม่รู้…
และความคิดที่ว่านี้…มันมั่นใจมากขึ้นก็คือช่วงที่ฉันขึ้นปี 1 การเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยของฉันทำให้เขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ! จากที่ไม่ค่อยมาหา ก็ไม่ได้มาอีกเลย จากที่โทร.คุยกันน้อยลง ก็ไม่เคยได้โทร.มาอีก นาน ๆ ทีจะส่งข้อความมาสักครั้งและที่ส่งมาก็จะเป็นช่วงเทศกาลต่าง ๆ ปีใหม่ วาเลนไทน์ สงกรานต์ ลอยกระทง วันเกิดฉัน ฯลฯ
เป็นอย่างนี้จนกระทั่งฉันขึ้นปี 3 ฉันเริ่มรู้สึกปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันเคยโทร.ไปหาป๋า เขาบอกว่าพี่พยัคฆ์มาทำงานที่กรุงเทพฯ ได้ 2 ปีแล้ว ตอนนั้นฉันอึ้งมาก ทำอะไรไม่ถูกและก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ป๋าฟังมาก แต่ทำไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขามาทำงานกรุงเทพฯ ถ้าเขามาทำงานที่นี่ก็ใกล้ฉันมากนะ ทำไม 2 ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยมาหาฉันเลยสักครั้ง ทั้ง ๆ ที่ฉันก็ยังอยู่ที่เดิมไม่เคยเปลี่ยน
นี่หรือ คือสิ่งที่คนบอกว่ารักเขาทำกัน !
สิ่งเหล่านี้มันเลยทำให้ฉันเข้าใจได้ทันทีว่า เขาไม่ต้องการฉันอีกแล้ว และฉันเอง…ก็จะลืมไปว่า…เคยมีพี่ชายคนนี้อยู่อีก
@บนรถ หญิงสาวนั่งคิดไปถึงวันเวลาเก่า ๆ ของเธอและพี่ชายที่เคยมีร่วมกัน แม้ว่าเธอจะบอกตัวเองอีกสักกี่พันรอบว่าเขาไม่ใช่พี่ชายเธออีกแล้ว แต่ภายในใจก็ยังคงคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาของเขาและเธออยู่ดี หญิงสาวอยู่บนรถปาเจโร สปอร์ต ที่กำลังจอดติดไฟแดง จุดมุ่งหมายคือมหาวิทยาลัย วิทยายังคงเป็นคนไปรับ-ส่งพวกเธออยู่แม้ว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม ในขณะที่เธอกำลังนั่งรถไปเรียนอยู่นั้น… “ยายเจ้า ๆ มานี่ ๆ มาดูนี่ นั่นใช่พี่พยัคฆ์หรือเปล่า ?” เสียงของวีวี่ทำให้เธอหลุดจากภวังค์ วีวี่ชี้ไม้ชี้มือไปยังชายคนหนึ่งที่อยู่ในชุดซูตสีดำทั้งตัวดูภูมิฐาน รูปร่างสูงใหญ่ ไหล่กว้าง ผิวไม่ถึงกับขาวแต่ก็ไม่ดำ และหน้าตาของเขานั้นทำให้เธอนิ่งอึ้งไป สมองของเธอขาวโพลน หัวใจแทบกระเด็นออกมา ใช่ ! เป็นเขาจริง ๆ พี่พยัคฆ์ พี่ชายที่หายไปจากชีวิตเธอ 2 ปีเต็ม ! ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่หน้าตึกตึกหนึ่งที่ใหญ่โตมากทีเดียว เธอจำได้เมื่อ 2 ปีก่อน ตึกนี้กำลังก่อสร้างอยู่เลย ข้าง ๆ เขามีผู้หญิงคนหนึ่ง ! ผู้หญิง ? ที่ดูสวย สง่า ขาว ขายาวเรียว และที่สำคัญนมใหญ่มาก หล่อนใส่ชุดมินิเดรสสีดำแขนยาว เธอยิ้มหัวเราะอยู่กับเขา เขาเองก็พู
ชายหนุ่มเดินออกจากห้อง VVIP ที่อยู่ด้านบนลงมาด้านล่าง แล้วมานั่งตรงบาร์ขนาดกะทัดรัด เขาสั่งเครื่องดื่มบาร์เทนเดอร์เสร็จก็นั่งจมอยู่กับความคิดมากมายตามลำพัง กี่ปีแล้ว ? กี่ปีที่เขาไม่ได้ติดต่อเธอไป 10 ปีหรือเปล่า ? ทำไมมันดูยาวนานเหลือเกิน ความจริงก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ติดต่อเธอไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากไปหา ไม่ใช่ว่าเขาจะทิ้งเธอไปไหนแต่เพราะคำพูดของผู้เป็นพ่อเมื่อ 5 ปีก่อน ตอนที่เขาจบปริญญาตรีใหม่ ๆ ทำให้เขาตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชีวิตตัวเอง จากที่คิดง่าย ๆ แค่จะไปอยู่กับน้องสาวของเขา ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อน ไม่ได้วางแผนชีวิตตัวเอง ตอนนั้นพอฟังคำพูดพ่อแล้ว มันทำให้ต้องเปลี่ยนใจ ตัดใจทำในสิ่งที่เขาควรทำ ‘เพื่อเธอ’ ‘เฮอะ ! ดี มึงไปเลยนะ ไปให้น้องมันหาเลี้ยงมึงเลย มึงคิดว่ากูไม่รู้เหรอว่ามึงคิดยังไงกับน้องน่ะ ฮะ ! ไอ้ยัก !’ ‘ป๋า !!!’ ‘กูไม่ได้ห้ามมึงหรอกนะ กูรู้ว่ามึงรักน้องแบบไหน เพราะงั้นกูเลยต้องคอยบอกคอยสอนมึงอยู่นี่ไง’ ‘...’ ‘ถ้ามึงอยากดูแลน้องจริง ๆ มึงต้องทำให้น้องมั่นใจว่าฝากชีวิตไว้ไม่ผิดคน การมีหน้าที่การงานที่ดีทำก็เป็นอีกทางที่จะทำให้มึงมีอนาคตที่ดี สามารถเลี้ยงดูน้องได้
“เจ้าขา !! ทำไมเมาแบบนี้ !” พยัคฆ์ร้องเรียก เขาเดินเข้าไปอุ้มคนตัวเล็กที่กำลังค่อย ๆ ถกเสื้อขึ้นจนทำให้เห็นบราเซียตัวจิ๋วสีชมพูหวานแหววยายเจ้า ! เขาอยากจะฟาดแม่น้องสาวตัวดีคนนี้เหลือเกิน เขาอุตส่าห์เฝ้าหวง ทะนุถนอมมาหลายปี ไอ้พวกเวรนี่เชียร์ให้ถอดก็จะถอดง่าย ๆ อย่างนี้เลย ชายหนุ่มคิดในใจ“หืมมม อาราย นี่ครายกันน่ะ อ๊ะ ! ปล่อยช้านน้าาา” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงยานคางกว่าปกติ เธอดิ้นพราดอยู่ในอ้อมแขนแกร่งกำยำของเขา น้ำหนักเธอเบาหวิว เขาแทบจะไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังเดินออกไปทางด้านหลังของผับ ก็มีมือมือหนึ่งกระชากที่แขนเขา “เฮ้ย ! ไอ้หน้าหล่อ แกกำลังจะทำอะไรวะ น้องเขาเป็นญาติแกหรือไง จะมาอุ้มมั่ว ๆ แบบนี้ไม่เกินไปหน่อยเหรอ” ชายหน้าเหียกคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่หึ ! ทำเกินไปงั้นเหรอ แล้วทีพวกมึงเชียร์ให้น้องกูถอดเสื้อผ้า มันไม่เกินไปตรงไหน ?ชายหนุ่มไม่ตอบเพียงแต่ก้าวเดินต่อไป“กูถามไม่ได้ยินเหรอ ไอ้หน้าหล่อ”คำก็หล่อ สองคำก็หล่อ เออ กูไม่เถียง เพราะหลักฐานก็เห็น ๆ กันอยู่ !ชายหนุ่มหันหน้ากลับไปตอบไอ้หน้าเหียกนั่นทันที“กูเป็นผัว มึงจะทำไม ! ผัวง้อ
เช้าวันต่อมา…ฉันรู้สึกเหมือนร่างกายเป็นอัมพาตแบบเฉียบพลัน มีบางอย่างมากดทับที่บริเวณช่วงหน้าอกและขา มันชาวาบไปหมด รู้สึกหายใจลำบาก นี่ฉันโดน ‘ผีอำ’ งั้นเหรอหญิงสาวพยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก หันมองรอบ ๆ ตัวอย่างช้า ๆ ก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้าพี่พยัคฆ์ !!ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ไม่สิ…ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ เท่าที่จำได้ เมื่อคืนหลังจากกลับบ้านไปฉันก็แอบออกไป Zeeza Night Club สั่งเหล้ามานั่งดื่มคนเดียว ความอยากลืมภาพที่ได้เห็น ภาพเขาที่หัวเราะพูดคุยกันอย่างมีความสุขกับผู้หญิงคนนั้น หลังจากนั้น ฉันก็จำอะไรไม่ได้เลย รู้ตัวอีกทีก็มานอนให้พี่ชายที่ฉันคิดอยากจะลืมกอดอยู่แบบนี้เธอพยายามผละตัวเองออกจากลำแขนและขาที่แข็งแกร่งของเขา ให้ตายสิ ! หนักเป็นบ้าเลย“อื้ออออ…อะ…อ๊า…เจ้าขา…” นี่เขา…กำลัง…ละเมอคราง ? ชื่อฉันงั้นเหรอ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ไอ้พี่บ้า มีแฟนอยู่แล้ว มาครางชื่อคนอื่นทำไมกันเล่า เธอใช้มืออันน้อยนิดทุบไปหน้าอกเขาด้วยความโมโห“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ไอ้พี่บ้า !!”ชายหนุ่มสะดุ้งตื่น เขามองใบหน้าที่เลอะเปรอเปื้อนไปด้วยเครื่องสำอาง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอลดลงเลย ตื่นแล้วเหรอ ยายตั
ชายหนุ่มรีบเดินเข้าไปขวางหน้าหญิงสาว ก่อนที่คนเจ้าอารมณ์จะเดินออกจากบ้านไปด้วยความโกรธ“หลีกค่ะ ! หนูจะกลับบ้าน”“ไม่ให้ไป”“หนูจะไป”ชายหนุ่มไม่พูดพร่ำทำเพลง เขารวบร่างเล็กของเธอขึ้นพาดบ่าที่กำยำของเขา หญิงสาวดิ้นพราดเอามือทุบที่หลังเขาพลางร้องตะโกนให้ปล่อย“ปล่อยหนู…ปล่อยหนูลงนะ…หนูจะฟ้องป๋า คอยดู !!” ชายหนุ่มอุ้มเธอพาดบ่าแล้วเดินออกจากบ้านไป เขาเจอตรีรดาที่กำลังจะเดินผ่านสวนหย่อมหน้าบ้านพอดี“มีอะไรกันคะ…พะ...พยัคฆ์…นี่คือ...” เธอถาม สีหน้าดูงุนงงอย่างมาก “น้องสาวน่ะ…คุณมาก็ดี…ช่วยเตรียมชุดนักศึกษาให้ผมชุดหนึ่ง…อ้อ ! แล้วก็ช่วยเลื่อนนัดวันนี้ทั้งหมดให้ผมด้วย”“ค่ะ…แต่ว่าพยัคฆ์คะ…นัดนี้สำคั…”“ปล่อยหนูลงเดี๋ยวนี้นะไอ้พี่บ้า !!! หนูไม่ไปไหนทั้งนั้นนนน”เพียะ ! เพียะ ! เขาตีก้นฉัน !! นี่เขากล้าตีก้นฉันต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นเลยเหรอ“ถ้าไม่เงียบ…พี่จะตีเธออีก” “...”@บริษัท พี แอนด์ เจ อินเตอร์เนชันแนลชายหนุ่มพาเธอมาที่บริษัทของเขา ซึ่งเป็นตึกที่เธอเจอเขาเมื่อวาน เขาพาเธอขึ้นมายังชั้นบนสุดและห้องที่เธอกำลังนั่งอยู่นี้เป็นห้องทำงานของเขา ภายในห้องมีกระจกรอบด้าน มีโซฟารับแขกและโต๊ะทำงา
@มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร“สรุปว่าพี่พยัคฆ์เขากลับมาหลังจากหายหน้าไปหลายปี และยังขอเธอเป็นแฟนอีกงั้นเหรอ ?” วีวี่พูดสรุปหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากเจ้าของเรื่อง“อืม… ฉันจะทำยังไงดี…เขา…จูบฉันด้วย”“เขาจูบแกหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอยะ…” ยัยวีวี่พูดกระแทกเสียง ทำเอาคนที่นั่งอยู่รอบ ๆ หันมามองกันเป็นตาเดียว พวกเธอกำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนเลกเชอร์รอเลิกเรียน “มันไม่เหมือนกันสักหน่อย…ตอนนั้นฉันเมาไม่รู้เรื่อง...” เธอพูดไป 2 แก้มก็แดงเห่อร้อนขึ้นมา“แล้วชอบมะ ?”“ก็ดีนะ…เอ๊ย ! ไม่ใช่ แกจะบ้าเหรอ…ขะ…เขาเป็นพี่ชายฉันนะ”“ก็ไม่ใช่พี่แท้ ๆ ซะหน่อย แกจะห่วงอะไร ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบสิ”“ไม่รู้สิ…ฉันเองก็บอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะ...เราไม่เคยพูดเรื่องนี้กันเลย”“เอาอย่างนี้…แกลองถามใจตัวเอง ว่าข้างในลึก ๆ แล้ว…แกชอบพี่เขาไหม ชอบแบบผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ใช่แบบพี่ชาย แกไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้ มั่นใจเมื่อไหร่ก็เซย์เยสไปเลย เข้าใจที่ฉันพูดไหม”หญิงสาวพยักหน้าหงึก ๆ “เข้าใจ”“ดี” เลิกเรียนหน้าตึกคณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศสายตาของใครหลายคนมองตามรถสปอร์ตคันสีดำแวววาวราวอัญมณี
@บนรถ “ปลาวาฬ…พี่เขาชื่อปลาวาฬค่ะ ไม่ใช่ปลาบู่” “ใคร ? ไอ้หน้าตี๋นั่นน่ะนะ…ปลาวาฬ…ปลาบู่ก็หรูแล้ว”“พี่ยัก !!”หญิงสาวขี้เกียจเถียงกับคนตัวโตข้าง ๆ เธอนั่งเงียบตลอดทางจนเลยทางเข้าบ้านลุงวิทย์มาสักพักแล้ว“พี่จะพาหนูไปไหน ?…นี่มันไม่ใช่ทางไปบ้านลุงวิทย์นี่คะ”“ใครบอกพี่จะพาไปบ้านลุงวิทย์ล่ะ” เขาพูดพลางเลี้ยวเข้าบ้านตัวเอง นี่เขาพาฉันมาที่นี่อีกแล้วเหรอ“พี่พาหนูมาที่นี่ทำไม ?”“ต่อไปนี้…หนูจะอยู่กับพี่ที่นี่”“ฮะ !!”“ข้าวของของหนูพี่ให้คนไปขนจากบ้านลุงวิทย์เรียบร้อยแล้ว…” พูดจบก็เดินนำเข้าไปในบ้าน “ทำไมหนูต้องมาอยู่กับพี่ด้วย แล้วป๋ารู้หรือยัง ?” หญิงสาวเดินตามหลังพี่ชายจอมบงการเข้าไปในบ้าน แต่เขาหยุดเดินเอาดื้อ ๆ ทำเอาหน้าน้อย ๆ ชนแผ่นหลังกว้างกำยำของเขาปั้ก !โอ๊ย !“เป็นอะไรหรือเปล่าตัวเล็ก...” เขาจับหน้าเธอหันซ้ายหันขวาดู หน้าเราใกล้กันมากจนจมูกแทบจะชนกัน ลมหายใจของเขามีกลิ่นบุหรี่อ่อน ๆ“มะ…ไม่เป็นไรค่ะ”“พี่เป็นผู้ปกครองหนู ทำไมหนูจะอยู่กับพี่ไม่ได้ หนูคงไม่ได้คิดจะอยู่บ้านลุงวิทย์ตลอดหรอกใช่ไหม อีกอย่าง…ป๋ารู้ทุกเรื่องของเรา เข้าใจที่พี่พูดไหม” จริงสิ เขามีบริษัทอยู่ที่นี่แ
“ยังไม่หลับเหรอ ?” “ค่ะ…หนูนอนไม่หลับ มันแปลกที่”“อ้อ !”“พี่ยักจะไม่ตอบคำถามหนูหน่อยเหรอคะ ?”“ฮะ ! ถามว่า ?”“...” หญิงสาวไม่ตอบ เธอพลิกตัวหันหน้าไปเผชิญกับเขา สายตาเค้นเอาคำตอบ“อยากสิ พี่อยาก อยากมากด้วย”“แล้วทำไมต้องมาแอบทำตอนที่หนูไม่รู้เรื่องแบบนี้ทุกที ไม่ทำตอนหนูเมาก็จะทำตอนหนูหลับ ทำไมพี่ทำแบบนี้กันคะ ?” หญิงสาวเริ่มเสียงดัง น้ำตาที่คลอหน่วยตาค่อย ๆ ร่วงรินผ่าน 2 แก้มแดงของเธอ“พี่...พี่ขอโทษ…อย่าร้องไห้สิ…พี่ไม่ทำแล้ว…พี่ขอโทษ” เขาโอบตัวเธอเข้ามากอด กูนี่มันเหี้ยจริง ๆ เห็นแก่ตัวที่สุด ทำไมทำอะไรไม่คิดอีกแล้ว ปล่อยให้ความรู้สึกของตัวเองมาทำร้ายน้องสาวที่แสนดีแบบนี้ได้อย่างไรวะ !! หลายครั้งมาก ๆ ที่เขาคิดเอาแต่ได้ ไม่เคารพการตัดสินใจของน้องสาว เธอยังไม่ได้ตกลงคบกับเขาด้วยซ้ำ ทำไมถึงกล้าทำแบบนี้อีก ความจริงเธอคงจะอยากเป็นแค่พี่น้อง คงไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกว่านั้น มีแต่เขาเองสินะที่คิดไปเองฝ่ายเดียว“ถ้าวันหนึ่งเราเป็นแฟนกัน…ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปไหมคะ ?”“ไม่…มันจะไม่เปลี่ยน พี่สัญญา ทุกอย่างจะยังเหมือนเดิม” “...” เจ้าขาไม่ตอบ“ตกลงหนูพร้อมจะให้คำตอบพี่แล้วใช่ไหม ?”“ยังค่ะ
เวลาล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งเข้าสู่เวลา 4 ทุ่มครึ่ง ทีมงานพี่ขิมทยอยกลับกันไปจนเหลือแค่ฉันกับพี่ขิม 2 คน ส่วนบอส…รายนั้นน่าจะกลับไปตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วมั้ง ไม่เห็นเลยตั้งแต่ช่วงนั้น“วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่าน้องเจ้า พรุ่งนี้เราค่อยมาต่อกัน” “ได้ค่ะพี่ แต่เดี๋ยวหนูขอจัดการส่วนนี้ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยลงไป พี่ไปก่อนเลยค่ะ”“งั้นพี่ไปก่อนนะ วันนี้ขอบคุณอีกครั้งนะน้องเจ้า”“ค่ะพี่ สวัสดีค่ะ”เธอนั่งทำงานต่ออีกสักพัก…ไม่นานงานสำหรับวันนี้ก็เสร็จ หญิงสาวเก็บข้าวของเตรียมตัวจะลงไปข้างล่าง“ทำไมยังไม่กลับ ?” หญิงสาวหันไปตามเสียงก็พบกับเจ้านายตัวใหญ่ยืนกอดอกพิงเคาน์เตอร์อยู่“กำลังจะกลับค่ะ”“กลับดึกแบบนี้แฟนไม่โทร.ตามแย่เลยเหรอ ?”นั่นสิ ลืมนึกไปเลย พี่ยักต้องเป็นห่วงมากแน่ ๆ เธอไม่เคยกลับดึกขนาดนี้มาก่อน หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปรากฏว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์หมด แย่แล้ว !“บอกเขาเดี๋ยวผมไปส่ง” ชายหนุ่มยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้“ขอบคุณค่ะ แต่หนูให้แฟนมารับดีกว่า คงไม่เหมาะถ้าจะให้ท่านประธานไปส่ง”“เธอนี่ คิดมากเกินไปไหม” หญิงสาวไม่ตอบ จัดการกดโทรศัพท์โทร.หาแฟนหนุ่ม แต่ทันใดนั้น…ขวับ !“ไม่ต้องโทร.แล
หลายวันต่อมา…หลังจากที่ฉันย้ายเข้าไปทำงานอยู่ในห้องของคุณอัศว ฉันก็ได้ทำงานเอกสารบ้างนิดหน่อย บางครั้งที่เขาไปคุยงานนอกสถานที่ ก็มักจะพาฉันไปด้วย บางครั้งก็จะกินข้าวจากข้างนอกมาเลย แต่ทุกครั้งที่ไปพี่รดาก็จะไม่ได้ไปทุกที พี่รดาก็ดูไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจอะไร กลับอยากให้ฉันไปแทนเธอด้วยซ้ำ เขาไม่ได้ใช้งานอะไรฉันมากนัก ส่วนพี่รดาก็ดูจะไม่ค่อยหางานมาให้แล้วเหมือนกัน ส่วนมากเขาจะชอบถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ของฉันเสียมากกว่า มีอยู่หนหนึ่งตอนไปกินข้าว เขาถามว่าฉันกับพี่พยัคฆ์ว่าเรียกกันว่าอะไร แล้วบอกให้เรียกเขาแบบนั้นบ้าง แต่ฉันก็ปฏิเสธไป บอกเหตุผลว่ามันคงไม่เหมาะ เพราะเขาเป็นเจ้านายเธอเป็นลูกน้อง อีกอย่างฉันก็ไม่ได้อยากเรียกเขาว่าพี่ด้วย มันดูแปลกพิลึกที่เขาชอบถามอะไรและทำตัวแปลก ๆ ใส่ แต่มันก็ดีกว่าการโหมงานหนักจนทำให้ไม่มีเวลากินข้าว แบบนั้นฉันคงจะตายก่อนฝึกงานจบพอดีนี่ก็หมดเวลาไปแล้ว 1 เดือน เหลืออีก 5 เดือนก็ฝึกงานเสร็จ หน้าที่ของเธอในแต่ละวันก็ไม่ค่อยมีอะไร เช้ามาจัดโต๊ะทำงานให้เขา เช็กอีเมล ดูตารางงาน ความจริงหน้าที่พวกนี้ก็คล้าย ๆ เลขานุการอยู่เหมือนกัน แต่ก็ช่างเถอะ จะเป็นอะไรก็ช่าง หล
@บ้านพยัคฆ์ วันนี้ยัยวีวี่มาค้างที่บ้าน สงสัยมีเรื่องจะเมาท์มอยเยอะ เรา 2 คนนั่งอยู่ในห้องที่พี่พยัคฆ์บอกจะเอาไว้ให้ลูก ส่วนเขาน่ะเหรอ นอนห้องนั้นไปคนเดียว…ตอนแรกที่บอกเขาว่ายัยวีวี่มานอนด้วย เขาจะไม่ยอมด้วยซ้ำ บอกว่าจะไม่ได้นอนกอดเธอตั้ง 1 คืน…มันทรมานใจอย่างนู้นอย่างนี้ หาข้ออ้างมาสารพัด จนเธอต้องปลอบไปยกใหญ่ด้วยการใช้ปาก…ก่อนที่ยัยวีวี่จะมา ไม่งั้นไม่ยอมท่าเดียว…คนหื่นที่แท้ทรู !! “ฉันนะแก…เจอเขาแล้วใจเต้นตุ้บ ๆ เลย ยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งหวั่นไหวอะแก…” ยัยวีวี่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ให้เธอฟัง ทำไมมันช่างแตกต่างกับฉันเหลือเกิน ยัยวีวี่บอกว่าเจอพี่ที่ทำงานดีมาก คอยสอนงานให้ทุกอย่าง แถมหล่อบาดใจจนยัยวีวี่ถึงขั้นหลงรักเลยทีเดียว“เออ แล้วแกล่ะ เป็นไงบ้าง ?” “เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ…”“โอ้โฮ ที่ฉันดีใจก่อนหน้านี้ทำให้รู้สึกผิดไปเลยว่ะ ดูแกจะโดนยายรดาเล่นงานเอาซะแล้วแหละ”“ไม่รู้พรุ่งนี้จะโดนอะไรอีกบ้าง”“แต่ฉันสงสัย…ว่าทำไมคุณอัศวต้องพาแกไปกินข้าวด้วยวะ”“ใครอัศว อ๋อ...ประธานตัวใหญ่นั่นน่ะเหรอ เห็นเขาบอกหาเพื่อนกินข้าวน่ะ...สงสัยไม่มีคนคบมั้งแก”“ใช่เหรอวะ…ระดับประธานบริษัทเลยนะ พี
ฉันกำลังนั่งมองเอกสารที่สูงท่วมหัวจนมองไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน…ตอนนี้เที่ยงแล้วก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย…ฮือ ๆ ๆ อยากกลับบ้านจัง หลังจากที่พี่รดาเข้ามาก็แจกแจงงานให้กับนักศึกษาฝึกงานคนอื่น ๆ ยัยวีวี่เองก็พลอยกระเด็นไปอยู่คนละแผนก…ส่วนฉันเหรอ…ทำทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่ถ่ายเอกสาร เรียงเอกสาร เติมหมึกเครื่องพรินต์ ชงกาแฟ ซื้อกาแฟ ตอนนี้ต้องมานั่งคัดแยกเอกสารของแต่ละปีให้เข้าที่…ถึงจะรู้ว่าพี่รดาแกล้งแน่ ๆ แต่ก็พยายามอดทนทำไมน่ะเหรอ...เพราะถ้าไม่ทำต่อที่นี่ ก็ไม่มีที่ให้ไปแล้ว...ดังนั้นจึงต้องอดทนไปก่อน…บอกตัวเองไว้นะเจ้าขา…แกต้องสู้ !เสียงโทรศัพท์ดัง ~~“ฮัลโหลค่ะพี่ยัก…”“กินข้าวยังจ๊ะทูนหัว” แค่ได้ยินเสียงน้ำตาเธอก็จะไหลออกมาแล้ว“กินแล้วค่ะ พึ่งกินกับยัยวี่เมื่อกี้นี้เอง อิ่มมากเลยค่ะ…พี่ยักล่ะคะ” ยังไม่ได้กินเลยต่างหาก หิวจนไส้กิ่วไปหมดแล้ว“เรียบร้อยจ้ะ…เป็นไงบ้างฝึกงานครึ่งวันแรก เหนื่อยไหมคะ ?” เหนื่อยค่ะ เหนื่อยมาก “ไม่เหนื่อยเลยค่ะ สบายมาก” “เหรอคะ ทำได้ใช่ไหม ?”“ได้สิคะ แฟนพี่ยักเก่งอยู่แล้ว”“ตั้งใจทำงานนะคะ ตอนเย็นเจอกันค่ะ…พี่รักหนูนะ”“หนูก็รักพี่ค่ะ”หลังจากวางสายพี่พยัคฆ์ หญิงสา
1 ปีผ่านไป…วันเลือกที่ฝึกงาน…“เอาไงดียัยวี่...ถ้าฉันไม่ไปฝึกงานที่ญี่ปุ่น แต่ฝึกที่ไทยฉันก็จะไม่ได้เป็นคนเลือกบริษัทเอง ถ้าขืนไปบริษัทที่ไม่ดี ฉันไม่ต้องทนอยู่ไปครึ่งปีเลยเหรอ” หญิงสาวร้องโอดครวญ เธอต้องเลือกระหว่างฝึกงานที่ญี่ปุ่น ซึ่งจะห่างจากแฟนหนุ่มแค่ 3 เดือน กับการฝึกงานในไทย ได้อยู่ใกล้กัน แต่ไม่ได้เป็นคนเลือกบริษัทเอง แถมยังต้องฝึก 6 เดือน “เอาไงก็เอาเลยแก…แกเลือกอันไหน ฉันก็จะตามแกไปทุกที่เลย” โชคดีที่ยังมียัยวีวี่ ต่อให้เจออะไรไม่ดี ยัยเพื่อนคนนี้ก็จะคอยปกป้องฉันเสมอ…เอาวะ…ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว“งั้นฝึกในไทยก็แล้วกัน…ฉันไม่อยากห่างจากพี่ยักเลย”“แหม ! ฉันกะอยู่แล้วแหละย่ะ…นี่ไม่รู้ว่าติดผัวหรือติดอย่างอื่นกันแน่นะเนี่ย”“บ้าเหรอยัยวี่ พูดไรน่าเกลียด” ความจริงติดทั้ง 2 อย่างเลยต่างหากล่ะ@บ้านพยัคฆ์ ห้องนอน“หนูเลือกฝึกงานที่นี่เพราะพี่เลยเหรอคะคนสวย...” ชายหนุ่มพูดขณะนอนกางแขนให้แฟนสาวนอนหนุน มือข้างหนึ่งของเขาลูบที่หัวไหล่เธอเบา ๆ“หนูกลัวว่าพี่จะร้องไห้คิดถึงหนูมากกว่าค่ะ”“พี่ต้องร้องแน่ ๆ ถ้าหนูไม่อยู่…แต่ถ้าหนูอยู่ที่นี่ หนูจะเป็นฝ่ายร้องแทนนะคะ” “พี่ยักบ้า ! พูดอะไรล
หลายวันต่อมา…@มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร@โรงอาหาร“พี่ปลาวาฬเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่รดาจริง ๆ !!”“ชัวร์ แหล่งข่าวของฉันคอนเฟิร์มมาแล้ว…2 คนนั้นวางแผนกันมาอย่างดี แกเชื่อฉันสิ” ยัยวีวี่ยืนยันหนักแน่นจากข้อมูลที่ไปสืบมา “ไม่อยากจะเชื่อเลย”“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อย่ะ…วันนั้นที่เกิดเรื่อง แกได้กินอะไรจากใครบ้างไหม ?”“กินอะไรน่ะเหรอ อ้อ ! พี่ปลาวาฬเอาน้ำมาให้ฉันตอนพักเที่ยง…แต่กว่าฉันจะได้กินก็ปาไปช่วงเย็น ๆ แล้ว”“นั่นแหละคือเริ่มต้นแผนการ หวังจะให้แกกินยาให้เพลีย แล้วเข้าไปนอนในห้อง จากนั้นก็ให้พี่รดามาขโมยกุญแจห้องจากฉันไง” “ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง…ทั้ง 2 คนก็เท่ากับทำลายอนาคตฉันเลยนะ”“พี่ปลาวาฬน่ะกะจะแอ้มแกอยู่แล้ว ส่วนยัยรดา…ฉันว่ามันแค้นแกมากกว่า…คงคิดว่าถ้ากำจัดแกไปได้…หล่อนคงจะกลับมาอยู่เคียงข้างกับพี่พยัคฆ์อีกครั้งได้น่ะสิ”“แต่คนตายไปแล้ว ฉันไม่ถือสาหรอก ฉันอโหสิกรรมให้เขาไปแล้วด้วย…”“เออ…จะว่าไป ข่าวก็เงียบหายไปเลยนะแก อย่างกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นแน่ะ คนอะไรจะเมาจนเดินเข้าป่าไปให้ช้างเหยียบ แถมยังโดนพี่ยักแกอัดซะน่วมขนาดนั้นแล้วด้วย…”“นั่นน่ะสิ”“ฉันว่านะ...ยัยรด
“หยาบคายที่สุด ออกไปจากห้องเจ้าเดี๋ยวนี้ ไม่งั้น…” เธอมองหาสิ่งรอบตัวที่พอจะเป็นอาวุธได้บ้าง ทันใดนั้นก็เห็นช้อนส้อมที่กินข้าวเมื่อตอนเย็น แต่ขณะที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบ พี่ปลาวาฬก็เหมือนจะรู้ทันว่าเธอมองสิ่งใดอยู่ เขารีบวิ่งไปปัดจานตก ช้อนส้อมกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทางจากนั้นเขาก็เข้ามารวบร่างเธอแล้วผลักลงบนเตียง…จับแขนเธอยกขึ้นเหนือศีรษะ หญิงสาวพยายามดิ้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี กรีดร้องจนเสียงแทบแหบ เขาใช้มือปิดปากเธอและอีกข้างก็เอามือจับรั้งแขนเธอไว้ พลั่ก !เขาต่อยเข้าที่ท้องเธอทำให้เสียงกรีดร้องเงียบไป แทนที่ด้วยหยาดน้ำตา ชายหนุ่มซุกไซ้ที่ซอกคอขาวผ่องของเธออย่างหื่นกระหาย วินาทีนี้เธอคิดถึงเขา คิดถึงเขาเหลือเกิน ภาวนาด้วยน้ำตาหวังให้เขามาช่วย และถ้าเขาไม่มา เมื่อผ่านคืนนี้ไป เธอจะมองหน้าเขาอย่างไร ก็ในเมื่อเธอไม่สะอาดอีกต่อไปแล้ว เขาจะยังรักเธอเหมือนเดิม หรือจะรังเกียจและทิ้งเธอไป หยดน้ำเอ่อล้นรอบดวงตา เธอร้องไห้อย่างไม่มีเสียง ความเจ็บปวดทั้งกายและใจกลั่นออกมาเป็นน้ำตาปัง ! เสียงพังประตูทำให้ชายหนุ่มที่กำลังคร่อมตัวหญิงสาวชะงักไป “ไอ้สัตว์นรก !!”ผลัวะ ! “มึงกล้ามากเลยนะที่ทำแ
พักเที่ยง…ตอนนี้เธอกำลังนั่งรับประทานอาหารเที่ยงอยู่ที่ลานด้านหน้าโรงแรม หลังจากที่ออกจากหอประชุม ใจเธอก็เต้นรัวเป็นกลองอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะมีใครรู้หรือเปล่าว่าเธอกับพี่พยัคฆ์เป็นแฟนกัน ความจริงเธอไม่ได้อยากปิดบัง แต่ก็ไม่ได้อยากประกาศเปิดเผยแบบวันนี้ ก็ตอนที่เขาพูดว่ามีแฟน สายตาของเขาจ้องมาที่ฉันอย่างกับจะบอกให้คนอื่นรู้อย่างไรอย่างนั้น โชคดีที่เธอไหวตัวทันหันหน้าหนีไปอีกทาง ไม่งั้นสายตาของบรรดาสาว ๆ ในหอประชุมคงจะเพ่งเล็งมาที่เธอแน่ …แล้วหลังจากที่เขาลงจากเวที…ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย สงสัยคงกลับไปทำงานแล้วมั้ง…“พี่ขอนั่งด้วยคนนะคะ” พี่ปลาวาฬพูด ขณะที่เธอกำลังนั่งเขี่ยสปาเกตตีซอสแดงในจานอย่างเหม่อลอย“เชิญค่ะพี่ปลาวาฬ”“ทำไมมานั่งที่นี่คนเดียวล่ะ…วีวี่ไม่มาอยู่เป็นเพื่อนเหรอ”“วี่ไปเอาน้ำน่ะค่ะ เดี๋ยวก็คงมา…แล้วพี่ปลาวาฬกินแล้วเหรอคะ”“เรียบร้อยแล้วจ้ะ...เอ…คนเมื่อเช้านี้…ใช่พี่ชายน้องเจ้าหรือเปล่า หน้าคุ้นมากเลย เหมือนพี่จะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน” ก็คนที่เรียกพี่ว่า ‘ปลาบู่’ ยังไงล่ะคะ“อ้อ ! ใช่ค่ะ พี่…พี่ชายเจ้าเองค่ะ”“งั้นเหรอคะ…”“อืม…พี่ปลาวาฬมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ ?”“อ๋
@บ้านพยัคฆ์ ห้องครัว “พี่ไปด้วยไม่ได้เหรอ ?” “ไปได้ไงล่ะคะ นี่เป็นค่ายของมหา’ลัย มีแต่นักศึกษา ปี 3 ปี 4 ที่เข้าร่วมได้เท่านั้นค่ะ” “ปี 3 ปี 4…งั้นไอ้หน้าตี๋ก็ไปด้วยสิ !” คนตัวโตถาม ขณะที่ก็หยิบมะม่วงที่เธอปอกเข้าปาก“ใครคะ ?”“ก็ไอ้ปลาบู่ไง”“ปลาวาฬค่ะ พี่ปลาวาฬ”“เออ ๆ นั่นแหละ”“ไปสิคะ พี่เขาอยู่ปี 4 นี่”“แล้วหนูไปกี่วัน ? ไปไกลไหม ?” เขาพูดเสียงออดอ้อน เดินอ้อมมากอดเธอทางด้านหลัง “5 วัน 4 คืน ที่เขาใหญ่ค่ะ”“นานจัง…พี่คงคิดถึงหนูแย่เลย…ไม่ให้ไปได้ไหม ?” เขาซุกไซ้ใบหน้าที่ลำคอเธอ สูดกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำที่เธอพึ่งอาบน้ำมา“ไม่ได้ค่ะ…ถ้าไม่ผ่านค่ายนี้ หนูก็จะไม่จบนะคะ…พี่ยักไม่อยากให้หนูเรียนจบเหรอ” หญิงสาวทำเสียงอ้อนตอบ ทำเอาคนข้างหลังเสียวซ่านจนขนลุก“ก็ได้ค่ะ แต่หนูต้องโทร.รายงานพี่ด้วยนะคะ…โทร.ไม่ได้ก็ส่งข้อความมาก็ได้ พี่จะได้สบายใจ…นะคะ”“ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มตาหยี เธอจุ๊บที่ปลายคางเขา ชายหนุ่มลอบมองเธอต่ำลงไป…วันนี้เธอสวมชุดนอนที่เขาซื้อให้…เป็นชุดนอนกระโปรงสั้นเหนือเข่า ผ้าซาตินสายเดี่ยว เขาเลือกเองกับมือ พอมาเห็นเธอใส่จริง ๆ แล้วมันช่างยั่วยว