Semua Bab แต่งกับขุนนาง: Bab 391 - Bab 400

458 Bab

บทที่ 391

ซูชิงลั่วที่ใบหน้าผ่อนคลายลง จู่ๆ ก็กลับมาแข็งทื่ออีกครั้งซ่งเหวินเข้าใจดีว่าห้ามเอ่ยถึงลู่เหิงจือเด็ดขาด หากเผลอทำให้ฮูหยินไม่พอใจ ฮูหยินจะไม่ยอมกินแม้แต่ผักดองเขาไหวพริบดี ความคิดดีๆ ก็ผุดขึ้นมาทันที “คุณหนู ผักดองนี้ ท่าเสวี่ยกับบ่าววิ่งวุ่นกันหลายวันหลายคืน ไปเอามาจากเซวียนเฉิง เพื่อท่านโดยเฉพาะ ท่านเห็นแก่ท่าเสวี่ยกับข้าน้อยด้วยเถิด”ซูชิงลั่วแทบหัวเราะออกมาลำบากซ่งเหวินแล้ว ต้องหาเหตุผลโน้มน้าวให้นางกินอาหารของลู่เหิงจือนางรอครู่หนึ่ง ถึงค่อยๆ เอ่ยว่า "ถ้าเช่นนั้น ลองชิมดูก็ได้”ซ่งเหวินโล่งอกซูชิงลั่วไม่ได้เจอท่าเสวี่ยมานาน คิดถึงมันมากแต่นางก็รู้ว่าท่าเสวี่ยเพิ่งเดินทางกลับมาจากชายแดน ยามนี้คงนอนหลับใหลอยู่ในคอกม้า จึงไม่ได้ไปรบกวนมันนางกำชับให้จื๋อหยวนนำตำราอาหารไปให้แม่นมเหมยแม่นมเหมยเหลือบมองพลางเอ่ยว่า “โอ้สวรรค์ วิธีการกินที่ละเอียดละออขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยเห็น ใต้เท้าได้สูตรมาจากที่ใดกัน เยี่ยมมากจริงๆ”นางพูดจบ ก็รีบหันไปยังห้องครัวไม่นานนัก ซาลาเปาไส้ไก่ร้อนๆ ก็ถูกยกเข้ามาไว้ตรงหน้าซูชิงลั่วกลิ่นหอมคุ้นเคยราวกับมิได้รู้สึกน่าขยะแขยงเท
Baca selengkapnya

บทที่ 392

เมื่อซ่งเหวินและจื๋อหยวนเดินออกมาจากลานกว้าง ก็บังเอิญพบกับอวี๋ซื่อชิงเข้าพอดีเขากำลังเดินออกมาจากเรือนข้างเคียง ดูเหมือนจะกำลังออกไปข้างนอกซ่งเหวินเห็นท่าทางคุ้นเคยของอวี๋ซื่อชิง ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาในทันทีเขาเอ่ยว่า “ใต้เท้าอวี๋ แม้ว่าท่านจะต้องแต่งงานกับคุณหนูด้วยเหตุผลบางประการ แต่ท่านมาที่จวนตระกูลลู่ทุกวันเช่นนี้ ไม่รู้สึกว่าบ่อยเกินไปหน่อยหรือ?”อวี๋ซื่อชิงตอบว่า “จวนอะไรนะ?”ซ่งเหวินนึกขึ้นได้ว่าป้ายจวนตระกูลลู่ถูกถอดออกแล้ว ยามนี้คือจวนตระกูลซูเขานิ่งอึ้งไปแต่หากไม่พูดอะไรเลย เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ ชั่วครู่เขาก็พูดต่อว่า “ใต้เท้าอวี๋ ข้าหวังว่าท่านจะรักษาระยะห่างจากคุณหนูสักหน่อย ท่านต้องรู้ว่าใต้เท้าของเรายังจะต้องกลับมา”อวี๋ซื่อชิงตอบอย่างช้าๆ ว่า “ข้าแค่มาบ่อยนิดหน่อยเอง ก็ทนไม่ได้แล้วหรือ? แล้วหากแต่งงานกันแล้ว ข้าเข้าไปอยู่ในจวน ใต้เท้าของเจ้าจะทำอย่างไร?”ซ่งเหวินทำสีหน้าตกใจ “อะไรนะ? ท่านจะย้ายเข้ามารึ?”เขามองไปที่จื๋อหยวน จื๋อหยวนก็ดึงแขนเสื้อเขาเบาๆ เป็นการส่งสัญญาณไม่ให้เขาพูดอะไรต่อหลังจากขอโทษอวี๋ซื่อชิงแล้ว จื๋อหยวนก็รีบดึงเขาออกไปเสียงของซ่งเห
Baca selengkapnya

บทที่ 393

ก่อนจากไป ซ่งเหวินมองซูชิงลั่วด้วยสายตาเฝ้ารอ “ฮูหยิน ท่านจะไม่คิดจะเขียนจดหมายถึงใต้เท้าสักหน่อยหรือ”ซูชิงลั่ว "เขียนอะไร?""เขียนบอกว่าข้าจะแต่งงานกับคนอื่นแล้ว ขอให้ใต้เท้าช่วยอวยพรด้วย หรือเขียนบอกว่าหลังแต่งงาน อวี๋ซื่อชิงจะย้ายเข้ามาอยู่ในจวนของข้าดีหรือ?"ซ่งเหวิน "......"ครู่หนึ่ง เขาก็บอกขึ้นมาทันทีว่า "ฮูหยินจะยืมกระดาษเปล่าสักแผ่นให้ข้าได้หรือไม่ขอรับ?"ซูชิงลั่วมองเขาด้วยความระแวดระวัง "จะเอาไปทำอะไร?"ซ่งเหวินตอบว่า "อย่างไรเสียก็เป็นกระดาษในห้องฮูหยิน ข้าน้อยเอากลับไปรายงานก็ยังดี"ซูชิงลั่วแทบหัวเราะออกมาซ่งเหวินเองก็ไม่ง่ายเลยนางใจดีขึ้นมาทันทีและพยักหน้าตอบว่า "ก็ได้"จื๋อหยวนรีบเอากระดาษทั้งหมดบนโต๊ะให้ซ่งเหวินซ่งเหวินซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ อย่างไรเสียภรรยาของตนก็ดีที่สุดแล้วเขามาถึงประตูพอดีกับที่อวี๋ซื่อชิงเดินเข้ามา เขามือซ้ายถือกล่องอาหารว่าง มือขวาถือกาสุราไว้อยู่ซ่งเหวินรีบเอ่ยว่า "คุณหนูท้องอยู่ ดื่มสุราไม่ได้"อวี๋ซื่อชิงเลิกคิ้ว แล้วส่งสุราให้กับเขาซ่งเหวินนิ่งอึ้ง "ให้ข้ารึ?"อวี๋ซื่อชิงยิ้ม "ข้างนอกหนาว ดื่มอุ่นๆ เป็นระยะๆ ช่วยทำให้ร่าง
Baca selengkapnya

บทที่ 394

ลู่เหิงจือแม้จะโกรธจัด แต่กลับดูสงบเยือกเย็นภายใต้ความสงบเยือกเย็นนี้ กำลังก่อตัวเป็นพายุอันน่าสะพรึงกลัวซ่งเหวินนึกถึงครั้งสุดท้ายที่เห็นเขาสงบเยือกเย็นเช่นนี้ น่าจะเป็นยามที่บิดามารดาเสียชีวิต และน้องสาวถูกจับตัวไปเขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะลู่เหิงจือจ้องมองด้วยแววตาเคร่งขรึม “เจ้าพูดมาให้ชัดเจน”ซ่งเหวินรีบเล่าเรื่องที่ได้ยินมาทันทีเมื่อได้ยินว่าเป่ยตี๋มาเจรจาสงบศึก แต่ฮ่องเต้กลับจะส่งซูชิงลั่วไปสมรสเพื่อสันติภาพ ใบหน้าของลู่เหิงจือก็เย็นชาลงทันทีมุมปากของเขาก็เผยรอยยิ้มเย้ยหยันเขาเสี่ยงชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ฮ่องเต้กลับไม่ยอมปล่อยภรรยาที่หย่าร้างไปแล้วของเขาทว่าลู่เหิงจือก็ไม่คิดว่าอวี๋ซื่อชิงจะประกาศต่อหน้าทุกคนว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขาเขาเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “กำหนดวันแต่งเมื่อไหร่?”ซ่งเหวินตอบเสียงเบา "อีกหนึ่งเดือนขอรับ"เมื่อเห็นสีหน้าของลู่เหิงจือเปลี่ยนไป เขาก็รีบเสริมว่า “ฮูหยินคงกลัวว่าหากท้องแล้วแต่งงานจะไม่ค่อยเหมาะสม”ลู่เหิงจือถามเสียงเคร่งขรึม “โฉวกว่างตายแล้วหรือ? เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกข้า?”ซ่งเหวินครุ่นคิดในใจว่าใช่แล้ว เขากลับมาครั้งนี้ โฉ
Baca selengkapnya

บทที่ 395

แต่แล้วในวันรุ่งขึ้น เขาก็ได้ทราบสาเหตุทั้งที่เมืองหลวงอยู่ไกล แต่ข่าวก็ค่อยๆ ลือไปถึงเซวียนเฉิง ทำให้ทุกคนมองมาที่ลู่เหิงจือด้วยสายตาเห็นใจยิ่งนักไม่เพียงเห็นใจ แต่รองแม่ทัพยังพยายามหาทางให้เขาคลายเศร้า ด้วยการส่งสาวสองคนเข้าไปในเรือนพักชั่วคราวของเขา ผลลัพธ์ก็คือถูกลู่เหิงจือไล่ออกมาอย่างไร้เยื่อใยลู่เหิงจือเอ่ยเสียงเคร่งขรึมว่า “เจ้าไม่คิดจะหาทางทำสงครามเอาชนะเผ่าเป่ยตี๋ แต่กลับไปคิดเรื่องนอกลู่นอกทาง ออกไปรับไม้สิบที”หากไม่ใช่เพราะเป่ยตี๋ถอยทัพไม่หมด คงไม่ใช่แค่โบยสิบทีเท่านั้นรองแม่ทัพรู้สึกเสียใจมาก เขาตั้งใจจะรับใช้ใต้เท้าด้วยใจจริง แต่ก็ต้องทนรับไม้ไป*ส่วนซูชิงลั่วที่อยู่ในเมืองหลวง ตั้งแต่ที่ซ่งเหวินจากไป อารมณ์ของนางก็ดีขึ้นมากประการแรกคือช่วงนี้นางได้กินอาหารหลากหลายมากขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่กินแค่ข้าวต้มกุ้ยกับขนมเกาลัดประการที่สองคือเมื่อนึกว่าลู่เหิงจือจะต้องทราบข่าวที่นางจะแต่งงานกับอวี๋ซื่อชิง นางก็อดสะใจและเหมือนได้แก้แค้นไม่ได้ในที่สุดลู่เหิงจือก็จะได้ลิ้มลองรสชาติเช่นนี้บ้างขณะที่กินหมี่ไก่ นางหันไปถามจื๋อหยวนว่า “ช่วงนี้เจ้าเขียนจดหมายถึงซ่ง
Baca selengkapnya

บทที่ 396

กลางดึกติ้งอ๋องอ่านจดหมายจากลู่เหิงจือเสร็จก็ถอนหายใจเสียงเบา"ลู่เหิงจือช่างกล้าเกินไปแล้ว"เหยาชั่วโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ "ข้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาต้องหลงใหลในความงามแน่นอน"เซี่ยถิงอวี่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะเคาะโต๊ะเบาๆ โดยไม่ตอบเหยาชั่วเอ่ยว่า "ข้าไม่เข้าใจเลย ในเมื่อมีท่านคอยดูแลเมืองหลวง ลู่เหิงจือจะกลัวอะไรอีก ก็แค่แต่งงานปลอมๆ ไม่ใช่หรือ ก่อนหน้านี้หย่าร้างยังไม่แม้แต่จะกะพริบตาเลย แต่งงานปลอมๆ จะอะไรนักหนา องครักษ์ลับรับรองว่าอวี๋ซื่อชิงเข้าใกล้ห้องของนางซูไม่ได้แน่นอน"เหยาชั่วแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์แล้วก็ได้ยินเซี่ยถิงอวี่กระซิบว่า "ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้"เหยาชั่ว " ? ""เจ้าบ้าไปแล้วรึ"เซี่ยถิงอวี่ยิ้ม "แผนการนี้ ประการแรกสามารถทำลายล้างเป่ยตี๋ได้ ประการที่สอง สามารถช่วยให้ข้าขึ้นครองราชย์ได้ และประการที่สาม สามารถทำให้ลู่เหิงจือรีบกลับมายังเมืองหลวงได้ เพื่อไม่ให้นางซูแต่งงานกับผู้อื่น ถือว่าคุ้มค่ามาก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว แม้ว่าจะเสี่ยงก็ตาม"*เมืองเซวียนเฉิงปกคลุมไปด้วยหิมะอีกครั้งค่ายทหารบรรยากาศแปลกๆ ทหารทุกคนรู้สึกว่าช่วงนี้บรรยากาศผิดปกติไปรา
Baca selengkapnya

บทที่ 397

โฉวกว่างเอ่ยว่า “ได้ยินว่าใต้เท้านำทัพจากเซวียนเฉิงแปดหมื่นนายไปช่วยเมืองเหลียวด้วยตัวเอง”เป็นเช่นนั้นนี่เองซูชิงลั่วรู้สึกโกรธจัดจนแทบอาเจียนอาหารที่เพิ่งกินไปออกมานางคิดว่าลู่เหิงจือคงจะทั้งโกรธและเสียใจ แต่ไม่คิดว่าลู่เหิงจือจะยอมเสี่ยงขนาดนี้ และไม่ยอมให้นางแต่งงานกับอวี๋ซื่อชิงคำพูดที่ว่าจะใจเย็นและเด็ดขาดเป็นเพียงการแสดงล้วนๆ ใช่หรือไม่?จื๋อหยวนเห็นนางเป็นเช่นนี้ จึงรีบนำน้ำมาให้นางกลั้วปากซูชิงลั่วสงบสติอารมณ์ลง แล้วเอ่ยเสียงหนักแน่นว่า “โฉวกว่าง เจ้าไปหาติ้งอ๋อง แล้วบอกว่าเจ้าต้องการจะไปหาลู่เหิงจือโดยเร็ว”โฉวกว่างตกตะลึง “แต่ว่าใต้เท้าไม่ได้อยู่ที่เมืองเหลียวหรอกหรือ”น้ำไกลดับไฟใกล้ไม่ได้หรอกซูชิงลั่วเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ไปประเดี๋ยวนี้”โฉวกว่างไม่กล้ารอช้า รีบกลับไปยังจวนติ้งอ๋องแต่ยามนี้ติ้งอ๋องกลับอยู่ในวังหลวงฮ่องเต้เมื่อได้ยินว่ากองทัพเป่ยตี๋กำลังจะบุกถึงเมืองหลวง จึงรีบเรียกขุนนางเข้ามาหารือในวังหลวง"เป่ยตี๋ใกล้มาถึงแล้ว ใครจะนำทัพ?"ในท้องพระโรงเงียบกริบฮ่องเต้หันมองฉีอ๋อง ฉีอ๋องคุกเข่าลงและเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "ลูกไร้ความสามารถ"การอ
Baca selengkapnya

บทที่ 398

เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องแต่งงานแล้ว อวี๋ซื่อชิงจงใจพูดออกมาเพื่อให้ติ้งอ๋องได้ยินเท่านั้นเซี่ยถิงอวี่ไม่ได้ตอบสิ่งใดอีกเลยแต่ก็ต้องยอมรับว่า อวี๋ซื่อชิงเป็นคนเก่งเรื่องการทำให้คนอื่นโกรธเขารู้สึกอยากเห็นลู่เหิงจือกลับมาแล้วโกรธแค้นเสียเหลือเกินชั่วครู่ เขาก็ตบไหล่อวี๋ซื่อชิงเบาๆ “ไปเตรียมตัว”อวี๋ซื่อชิงพยักหน้าแล้วหันหลังจากไปเมฆดำครึ้มลอยต่ำอยู่เหนือวังหลวงเเซี่ยถิงอวี่ยกชายผ้าขึ้นแล้วก้าวเดินไปข้างหน้า รู้สึกเหมือนลมพัดโชยเย็นยะเยือกราวกับนักรบที่กำลังจะจากไปขี่ม้ากลับวังอย่างรวดเร็ว เขาก็รีบพุ่งไปยังห้องของเมิ่งชิงไต้บ่าวในจวนต่างประหลาดใจ เพราะตั้งแต่แต่งงานกันมา นอกจากวันแต่งงาน ติ้งอ๋องไม่เคยเข้ามาในห้องของเมิ่งชิงไต้เลยวันนี้เกิดอะไรขึ้น?เซี่ยถิงอวี่ผลักประตูเข้ามาเมิ่งชิงไต้กำลังถือดาบเช็ดอยู่ช้าๆ ด้ามดาบยังคงเปล่งประกายระยิบระยับนางเงยหน้าสบตาเขา"ท่านอ๋องเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว?""ใช่" เซี่ยถิงอวี่ตอบ "แต่เจ้าสามารถออกจากเมืองหลวงพร้อมกับซิ่นกั๋วกงได้ เพราะการจะใช้ทหารสองหมื่นนายป้องกันเมืองหลวงสามวัน ข้าก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก"ในจดหมา
Baca selengkapnya

บทที่ 399

นางเฉียนนิ่งอึ้งไปชั่วขณะอะไรกันเนี่ย?นางไม่ได้จะแต่งงานกับคนอื่นแล้วหรือ? ทำไมถึงยังเรียกเขาว่าเหิงจืออีกล่ะ?เหิงจือไม่อยู่เมืองเหลียวหรอกหรือ? ทำไมถึงกลับมา?แล้วก็ได้ยินซูชิงลั่วเอ่ยว่า “หากแม่จะไป ก็อย่าไปไกลนัก เประดี๋ยวจะเหนื่อยกับการเดินทางไปมา”นางยังเรียกนางว่าแม่!นางเฉียนหัวใจเต้นเร็วมาก รู้สึกเหมือนกับว่าตนเองได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่สำคัญมาก คำใบ้ของซูชิงลั่วชัดเจนเกินไปนางจึงอดถามไม่ได้ว่า “เจ้ากับเหิงจือ.......”ยามนี้ฮ่องเต้ก็จากไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรแล้วนางพยักหน้ายิ้ม “เด็กคนนี้เป็นลูกของเขา ก่อนหน้านี้ทำไปเพื่อปกป้องตนเอง”นางเฉียนเข้าใจทันที นายเอ่ยว่า “ข้าเข้าใจแล้ว”นางรีบกลับไปยังเรือนพักของตนลู่จือยังคงเก็บของอยู่ แต่เมื่อเห็นนางเฉียนก็รีบพูดขึ้นมาว่า “รีบเตรียมตัวให้พร้อม อีกหนึ่งชั่วยามเราต้องออกเดินทางแล้ว”นางเฉียนพยักหน้าด้วยความสับสน และเมื่อนึกถึงคำพูดของซูชิงลั่วชั่วครู่ ก็รู้สึกลังเลใจอยู่บ้างขณะนี้เอง บ่าวข้างกายของลู่โย่วก็เดินเข้ามาและเอ่ยว่า “ท่านรองบอกว่าจะเดินทางไปด้วยกัน และระหว่างทางก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก ขอเงินจากท่านใ
Baca selengkapnya

บทที่ 400

ลู่จือเก็บถุงผ้าที่นางเฉียนโยนลงบนพื้นขึ้นมาเมื่อคาดว่าบ่าวคงออกประตูไปหมดแล้ว ลู่จือจึงอดพูดไม่ได้ว่า "เจ้าพูดบ้าอะไร พวกเราต้องมาทะเลาะกันยามนี้ทำไม?"นางเฉียนกะพริบตาให้เขาและเอ่ยเสียงเบาว่า "ชิงลั่วก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปไหน"ลู่จือนิ่งอึ้งไป แล้วเดินเร็วไปหานาง "เจ้าหมายความว่าอย่างไร?""ชิงลั่วบอกกับข้าว่าลูกในท้องของนางว่าเป็นของเหิงจือ ก่อนหน้านี้นางเพียงแค่ต้องการแต่งงานกับอวี๋ซื่อชิงเพื่อความปลอดภัยเท่านั้น"ลู่จืองงงวย "นี่มันอะไรกันเนี่ย""แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญ" นางเฉียนลดเสียงลงและเอ่ยว่า "ชิงลั่วบอกว่าเหิงจือจะกลับมาแล้ว นั่นหมายความว่า......นี่อาจจะเป็น......"นางหยุดชะงักและไม่กล้าเคาเดาไป นางเอ่ยว่า "แต่เมื่อชิงลั่วยังไม่ไปแสดงว่าในเมืองหลวงก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น คนที่นางติดต่อด้วยย่อมรู้มากกว่าที่ลู่โย่วเสียอีก"ลู่จือเอ่ยว่า "แต่ฮ่องเต้ก็......"นางเฉียนรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง นางจึงเอ่ยว่า "ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้ต้องการจะให้ชิงลั่วแต่งออกไปที่เป่ยตี๋ เจ้าว่าเหิงจือจะ.....หรือไม่"นางหมดคำพูดลู่จือเพิ่งจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด“สิ่งที่เจ้าพูดน่ะ เป็นความ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
3839404142
...
46
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status