ซูชิงลั่วที่ใบหน้าผ่อนคลายลง จู่ๆ ก็กลับมาแข็งทื่ออีกครั้งซ่งเหวินเข้าใจดีว่าห้ามเอ่ยถึงลู่เหิงจือเด็ดขาด หากเผลอทำให้ฮูหยินไม่พอใจ ฮูหยินจะไม่ยอมกินแม้แต่ผักดองเขาไหวพริบดี ความคิดดีๆ ก็ผุดขึ้นมาทันที “คุณหนู ผักดองนี้ ท่าเสวี่ยกับบ่าววิ่งวุ่นกันหลายวันหลายคืน ไปเอามาจากเซวียนเฉิง เพื่อท่านโดยเฉพาะ ท่านเห็นแก่ท่าเสวี่ยกับข้าน้อยด้วยเถิด”ซูชิงลั่วแทบหัวเราะออกมาลำบากซ่งเหวินแล้ว ต้องหาเหตุผลโน้มน้าวให้นางกินอาหารของลู่เหิงจือนางรอครู่หนึ่ง ถึงค่อยๆ เอ่ยว่า "ถ้าเช่นนั้น ลองชิมดูก็ได้”ซ่งเหวินโล่งอกซูชิงลั่วไม่ได้เจอท่าเสวี่ยมานาน คิดถึงมันมากแต่นางก็รู้ว่าท่าเสวี่ยเพิ่งเดินทางกลับมาจากชายแดน ยามนี้คงนอนหลับใหลอยู่ในคอกม้า จึงไม่ได้ไปรบกวนมันนางกำชับให้จื๋อหยวนนำตำราอาหารไปให้แม่นมเหมยแม่นมเหมยเหลือบมองพลางเอ่ยว่า “โอ้สวรรค์ วิธีการกินที่ละเอียดละออขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยเห็น ใต้เท้าได้สูตรมาจากที่ใดกัน เยี่ยมมากจริงๆ”นางพูดจบ ก็รีบหันไปยังห้องครัวไม่นานนัก ซาลาเปาไส้ไก่ร้อนๆ ก็ถูกยกเข้ามาไว้ตรงหน้าซูชิงลั่วกลิ่นหอมคุ้นเคยราวกับมิได้รู้สึกน่าขยะแขยงเท
Baca selengkapnya