บททั้งหมดของ แต่งกับขุนนาง: บทที่ 381 - บทที่ 390

458

บทที่ 381

หลังจากที่อวี๋ซื่อชิงพูดประโยคนี้จบ ซูชิงลั่วก็ตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้งดีที่เขาเพียงแค่ยกมือขึ้นมาแล้ววางลงไปบนหมอนที่คั่นอยู่กึ่งกลางเท่านั้นที่แท้ก็พูดประโยคนี้ให้คนนอกฟังซูชิงลั่วโล่งอก หันหน้าไปอีกทางทั้งๆ ที่ร่างกายเหนื่อยล้าเต็มที ทว่าไม่ว่าทำเช่นไรก็นอนไม่หลับเสียงลมหายใจของคนที่อยู่ข้างๆ ทำให้นางไม่เป็นสุขราวกับว่าพื้นที่ที่เดิมเป็นของตนถูกคนแปลกหน้ารุกล้ำ แต่กลับไม่อาจต่อต้านได้ช่างทรมานยิ่งนักเพื่อต่อสู้กับความทรมานนี้ นางนึกถึงลู่เหิงจือขึ้นมาโดยธรรมชาตินึกถึงตอนที่อยู่ในห้องเดียวกันกับลู่เหิงจือเป็นครั้งแรกคือตอนที่อยู่ในกระท่อมไม้ไผ่หลังนั้นเขายืนอยู่ไกลออกไปตรงหน้าต่าง นางจ้องมองเขาอยู่เช่นนั้น ได้กลิ่นลมหายใจที่ลอยเข้ามาก็ทำให้รู้สึกเบาใจอย่างน่าประหลาดหลังจากแต่งงานกันแล้ว ครั้งแรกที่พวกเขานอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ทั้งๆ ที่นางตื่นเต้นเหลือเกิน แต่หลังจากนั้นกลับผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วไม่ได้รู้สึกทรมานเหมือนในตอนนี้ที่ทำได้เพียงแค่คิดถึงลู่เหิงจือไปเรื่อยๆ ถึงจะค่อยๆ ฆ่าเวลาไปได้ทีละนิดๆไม่รู้ว่าลู่เหิงจือจะเป็นเช่นไรบ้างที่ชายแดนถ้าหากรู้ว่าว
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 382

อวี๋ซื่อชิง : “ต่อไปเกรงว่าท่านคงเรียกข้าว่าใต้เท้าอวี๋ไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะดูห่างเหิน”ซูชิงลั่วสติหลุดลอยไปชั่วขณะพลันได้ยินเสียงของลู่เหิงจือดังข้างหูอย่างกะทันหัน : “เรียกข้าพี่สาม”เสียงแว่วไกลและแผ่วเบาอวี๋ซื่อชิงสังเกตเห็นนางเหม่อลอย ในใจพลันปวดร้าวเบาๆสิ่งแรกที่คิดได้คือเกรงว่าจะมีผู้ใดเคยพูดประโยคนี้กับนาง นางถึงได้มีท่าทีเช่นนี้หลังจากนั้นไม่นาน ซูชิงลั่วก็ได้สติกลับมา : “เช่นนั้นข้าควรเรียกใต้เท้าว่าอย่างไร”เรียกท่านพี่ ?แต่งงานยังพอฝืนได้ แต่จะให้เรียกท่านพี่ เกรงว่าลู่เหิงจือคงกลับมาตัดคออวี๋ซื่อชิงเป็นแน่อวี๋ซื่อชิงตอบ : “เรียกชื่อเถอะ”ซูชิงลั่วพยักหน้า ก็คงทำได้เพียงเท่านี้แล้วอวี๋ซื่อชิง : “ต่อไป ข้าอาจจะมาบ่อยๆ”"ได้"“แล้วเรื่องงานแต่ง ท่านคิดว่าเวลาใดเหมาะสม”แน่นอนว่าซูชิงลั่วย่อมหวังว่ายิ่งช้าเท่าใดก็ยิ่งดี แต่โดยทั่วไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องแต่งออกไปก่อนที่ท้องจะโตอีกทั้งนางเองก็รู้ว่าลู่เหิงจือไม่มีทางกลับมาได้ในช่วงเวลาใกล้ๆ นี้ เป่ยตี๋ล้อมเซวียนเฉิงไว้เป็นเวลาเกือบครึ่งปีเมื่อคิดเช่นนี้ ที่จริงแล้วไม่ว่าจะจัดงานเมื่อใดก็ไม่สำคัญ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-15
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 383

เซวียนเฉิงหิมะตกกระหน่ำทั่วแผ่นฟ้าตรงหน้าเป็นเรือนอาศัยเล็กๆ ที่ไม่ดึงดูดสายตา หลังคากระเบื้องสีเทาและผนังอิฐ อยู่ลึกสุดของตรอกลู่เหิงจือคลุมเสื้อคลุม เดินโต้ลมเหยียบย่ำหิมะเข้าไปด้านใน ก่อนจะเอ่ยถาม : "คุณหนูเล่า"สาวใช้ตอบ : "คุณหนูกำลังเขียนหนังสืออยู่ด้านใน"ลู่เหิงจือพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปด้านในลู่ซือไหววางกระดาษและพู่กันในมือลงแล้วเข้ามาต้อนรับ : "พี่ใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว"สองเดือนก่อนหน้านี้ เป่ยตี๋บุกเข้ามาที่เซวียนเฉิงอย่างกะทันหันยามนั้นผู้คนในเมืองอกสั่นขวัญแขวน แม้แต่นางเองก็เก็บกระเป๋าเรียบร้อย เตรียมตัวจะหนีไปด้วยความตื่นตระหนกทว่าคิดไม่ถึงว่าการมาแบบปุบปับของลู่เหิงจือ จะทำให้ทหารของเป่ยตี๋ล่าถอยไปได้ด้วยแผนการและการนำทัพของเขาตั้งแต่ศึกแรกเขากลายเป็นจุดสนใจของผู้คนในเซวียนเฉิงในทันทีนางเพิ่งเคยได้ยินเรื่องราวของลู่เหิงจือเป็นครั้งแรก ได้เป็นอัครมหาเสนาบดีตั้งแต่อายุยังน้อย สติปัญญาหลักแหลม มีความสามารถในการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดนางรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้ขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ แต่กลับคิดไม่ออกว่าเพราะเหตุใดแต่บุคคลที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่มีทางมีความเกี่ย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 384

เพียงแต่ไม่คิดว่าผ่านไปไม่นาน จู่ๆ ก็มีข่าวที่พี่ชายและพี่สะใภ้หย่ากันแพร่มาอย่างกะทันหันครั้นแล้วตอนที่ลู่เหิงจือมาครั้งถัดไป นางจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้นลู่เหิงจือน้ำเสียงเรียบเฉย : "ไม่ใช่ปัญหา เป็นเพียงแค่แผนการส่วนหนึ่ง"นางถึงจะเบาใจครั้งนี้เขาใช้เวลานานขึ้นอีกหน่อย อยู่เป็นเพื่อนนางหนึ่งวันเต็มๆ ทั้งยังเอ่ยถาม : "เจ้ายังเขียนหนังสือได้หรือไม่"ลู่ซือไหวส่ายหน้าเบาๆ : "ได้เพียงแค่ตัวอักษรง่ายๆ ไม่กี่ตัว"ที่นี่ไม่ใช่เจียงหนาน นางเองก็ไม่ใช่เด็กที่ถูกซื้อมาอบรมเลี้ยงดูเพื่อนำไปขายต่อ จึงไม่มีคนสั่งสอน เพียงแค่อาศัยรูปร่างหน้าต่างที่นับว่าพอใช้ได้ ทำให้มีชีวิตรอดมาได้ก็เท่านั้นลู่เหิงจือเอ่ย : "เช่นนั้นข้าเชิญอาจารย์มาสอนเจ้าอ่านหนังสือดีหรือไม่"ลู่ซือไหวดวงตาพลันฉายประกาย "เยี่ยมไปเลย"ขณะนั้นเอง นางเห็นแขนเสื้อของลู่เหิงจือขาดเป็นรูยาว จึงเอ่ย : "ข้าเย็บเสื้อให้พี่ใหญ่ดีกว่า"ลู่เหิงจือตอบตกลงด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะถอดเสื้อด้านนอกยื่นให้นางลู่ซือไหวถามยิ้มๆ : "นี่อาซ้อทำให้พี่ใหญ่หรือ""อืม" แม้แต่น้ำเสียงของลู่เหิงจือก็อ่อนโยนลงมาด้วย "ฝีมือการเย็บของนางไม่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 385

หลังจากที่ซ่งเหวินออกไป ลู่เหิงจือก็วางตะเกียบลง ดูเหมือนจะไม่มีอารมณ์กินแล้วลู่ซือไหวเอ่ยถาม "พี่ใหญ่อารมณ์ไม่ดีหรือ"ลู่เหิงจือ : "นิดหน่อย"ก่อนหน้า น้อยครั้งนักที่เขาจะเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงของตนต่อหน้าผู้อื่น ทว่าตั้งแต่ที่ได้เจอกับซูชิงลั่ว หัวใจของเขาก็เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เริ่มไม่ปิดกั้นการแบ่งปันบอกเล่ากับผู้อื่นยามนี้ยังตามหาลู่ซือไหวที่เป็นน้องสาวแท้ๆ เจอ อยู่ต่อหน้านางไม่มีสิ่งใดต้องปิดบัง เขาจึงพูดความจริงออกมาหลังจากที่พูดออกมา กลับรู้สึกว่าความรู้สึกที่มีคนที่สามารถระบายอารมณ์ด้วยได้เช่นนี้ก็ไม่เลวลู่ซือไหวยิ้มตาหยี : "แม้อาซ้อจะโกรธพี่ใหญ่ แต่นางก็ยังดีกับพี่ใหญ่""เจ้ารู้ได้อย่างไร""ข้าย่อมรู้อยู่แล้ว" ลู่ซือไหวยิ้มมีเลศนัย กำลังจะเอ่ยปากพูด ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงซ่งเหวินวิ่งเหยาะๆ ดังเข้ามาจากด้านนอกหน้าต่าง "ก็อก ก็อก ก็อก" เขาเคาะประตูเบาๆ ไม่รอให้ตอบ จากนั้นก็ถลาเข้ามาด้วยความลนลานลู่เหิงจือขมวดคิ้วมุ่นโดยไม่รู้ตัว "มีเหตุอันใด"หากมีเรื่องใหญ่ องครักษ์ลับคงมารายงานแต่แรกแล้ว ไม่มีทางรอให้ถึงมือซ่งเหวินซ่งเหวินชูจดหมายในมือขึ้นมา ย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 386

เรื่องที่ซูชิงลั่วเพิ่งหย่าขาดกับลู่เหิงจือและตั้งครรภ์อยู่จะแต่งงานกับอวี๋ซื่อชิงนั้น ทำให้คนในตระกูลลู่ทุกคนตกใจมากนางเฉียนก็แอบมาถามนางว่า“เด็กนี่เป็นลูกของอวี๋ซื่อชิงจริงหรือ?”ซูชิงลั่วจึงได้แต่พยักหน้ารับหากนางปฏิเสธ แล้วนางเฉียนจะเอาเรื่องนี้ไปนินทา อาจไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาแน่นางเฉียนมองนางด้วยสีหน้าสับสนแม้ว่านางจะชอบซูชิงลั่วลูกสะใภ้คนนี้มาก ทั้งร่ำรวย ใจกว้าง และกตัญญู ทำให้ชีวิตของนางดีขึ้นมาก แต่นางก็ไม่กล้าจะเห็นด้วยเพราะสตรีควรซื่อสัตย์แต่เมื่อเผชิญหน้ากับซูชิงลั่ว นางก็ไม่อาจพูดจารุนแรง ท้ายที่สุดก็ยิ้มอย่างอึดอัด แล้วเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อลู่เหยียนรู้เรื่องนี้ เขาอดด่าทอในห้องไม่ได้ว่า “ช่างเป็นหญิงสำส่อนเสียจริงๆ”แม้จะด่าทอเช่นนั้น แต่เขาก็อดรู้สึกเคืองใจไม่ได้เฉิงซิ่วเห็นว่าเขาอารมณ์ไม่ดี จึงเข้าไปโอบกอดเขานานแล้วที่ไม่ได้ร่วมห้องกัน ในใจนางยังคงชอบลู่เหยียนมาก จึงก้มศีรษะจูบเขาแต่ลู่เหยียนกลับผลักนางออกทันที “เจ้าก็เป็นหญิงสำส่อนที่ทนเหงาไม่ไหวรึ?”เฉิงซิ่วถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ มองเขาตาค้างราวกับไม่เชื่อว่าคำพูดร้ายกาจเช่นนี้จะออกจากปากของเขาลู่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 387

อวี๋ซื่อชิงพยักหน้ามองซูชิงลั่วนางรู้สึกเขินอายเล็กน้อย รีบให้เขาออกไป เขาก็รู้ดีเขาจึงเอ่ยว่า "ข้าขอยืมตำราอ่านที่นี่สักเล่มสองเล่มหรือไม่ เพิ่งเข้ามาแล้วจะออกไปทันที กลัวว่าจะถูกคนสงสัยเอาได้"ตำราของลู่เหิงจือถูกส่งไปที่ตรอกปาเถียวแล้ว แต่นางเองก็มีตำราอยู่หลายเล่มนางถามว่า "ใต้เท้าต้องการอ่านหนังสือประเภทใด"อวี๋ซื่อชิงกล่าวว่า "อะไรก็ได้ ขอแค่ฆ่าเวลา"ซูชิงลั่วพยักหน้า "โปรดรอสักครู่"ตำราของนางมีบางเล่มที่ไม่สามารถให้อวี๋ซื่อชิงเห็นได้ นางต้องเลือกเองจึงจะได้นางเลือกตำราบันทึกการเดินทางที่ดูเป็นทางการมาสองสามเล่ม แล้วสั่งให้คนไปทำความสะอาดห้องหนึ่งในบ้านข้างเคียงเพื่อให้อวี๋ซื่อชิงใช้เป็นห้องทำงานอวี๋ซื่อชิงไม่ได้พูดอะไรต่อ หันศีรษะเดินเข้าไปในบ้านข้างเคียงทันที ทั้งสองต่างคนต่างอยู่ซูชิงลั่วจึงโล่งอกไม่รู้ทำไม ช่วงเวลาตั้งครรภ์รู้สึกยากลำบากเป็นพิเศษนางเดินไปที่โต๊ะ เปิดสมุดบัญชี มองไปที่ลายมือของลู่เหิงจือที่แข็งแรงชัดเจน ก็รู้สึกน้ำตาคลอเบ้า ราวกับคิดถึงเขาขึ้นมาแล้วยามนี้ จื๋อหยวนเอ่ยว่า “คุณหนู องครักษ์ลับมาแล้วเจ้าค่ะ”ซูชิงลั่วรู้สึกดีใจโดยไม่รู้ตัว
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 388

ร้านขายขนมเกาลัดในเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียดการกินขนมเกาลัดคั่วในฤดูหนาวเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คนท่ามกลางผู้คนแต่งกายเรียบง่าย อวี๋ซื่อชิงในชุดขุนนางสีน้ำเงินก็ดูโดดเด่นเป็นสง่ามีคนรู้จักทักทายเขาว่า “ใ9hเท้าอวี๋คนมาซื้อขนมเกาลัดกินหรือ?”อวี๋ซื่อชิงตอบเสียงเบาว่า “ให้ว่าที่ฮูหยินกินน่ะ”ดวงตาของเขาดูอ่อนโยนราวกับมีความสุขมากฝูงชนก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้าง แต่ก็ฟังไม่ค่อยชัดไม่ต้องตั้งใจฟังก็คาดเดาได้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไรอวี๋ซื่อชิงไม่ได้สนใจ เพราะเขารู้ว่าต้องทำตัวให้สมบทบาทหลังจากซื้อขนมเกาลัดแล้ว เขาก็เดินซื้อผลไม้แห้งตามร้านต่างๆ ด้วยเจ้าของแผงร้านหนึ่งเอ่ยด้วยความกระตือรือร้นว่า “ใต้เท้าอวี๋ผลไม้แห้งประเภทนี้เหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์มากที่สุด”ซึ่งแม้แต่เจ้าของร้านก็รู้ว่าซูชิงลั่วกินอาหารไม่ค่อยได้อวี๋ซื่อชิงพยักหน้าและตอบว่า “หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”ไม่นานข่าวก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงว่าอวี๋ซื่อชิงรักและห่วงใยฮูหยินของอัครมหาเสนาบดีคนใหม่เป็นอย่างมากหลังจากซื้อของเสร็จ อวี๋ซื่อชิงก็ถือของเข้าประตูใหญ่ของจวนตระกูลซูโฉวกว่าง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 389

ดูจากท่าทางแล้ว คล้ายจะแลกจดหมายกันลู่เหิงจือเหลือบมองเขา แล้วหยิบจดหมายของจื๋อหยวนออกมาจากแขนเสื้อให้ซ่งเหวิน ซ่งเหวินจึงยื่นจดหมายฉบับนี้ไปลู่เหิงจือรีบเปิดทันทีในจดหมายเขียนว่า ซูชิงลั่วแพ้ท้องหนักมากหลังจากตั้งครรภ์ กินอะไรแทบไม่ได้เลย กินแต่ข้าวต้มกุ้ยกับขนมเกาลัด ผอมลงไปมากลู่เหิงจือขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกร้อนใจอ่านต่อไปก็เห็นจื๋อหยวนบอกว่าฮูหยินอยากกินซาลาเปาไส้ไก่ แต่แม่นมเหมยมาทำไม่ถูกปาก ถามใต้เท้าว่ามีสูตรหรือไม่ลู่เหิงจือยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว - ฮูหยินยังคงเป็นห่วงเขามากเขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วหยิบปากกาขึ้นมาเขียนวิธีทำซาลาเปาไส้ไก่อย่างละเอียด พร้อมกับเขียนวิธีทำเส้นหมี่ไก่ หมูแดง แพะตุ๋นลงไปทั้งหมดจากนั้นก็เขียนจดหมายถึงบ้าน ให้ซูชิงลั่วดูแลตัวเองให้ดี รอเขากลับมา สุดท้ายยังเขียนเพิ่มเติมว่า คิดถึงนางมาก เขียนจดหมายมาหาข้าหน่อยได้หรือไม่เขายื่นจดหมายและสูตรอาหารให้กับซ่งเหวิน ซ่งเหวินรีบหันหลังออกไปเตรียมส่งให้องครักษ์ลับเมื่อเดินมาถึงประตู ก็ได้ยินลู่เหิงจือร้องเรียกเขา “ช้าก่อน”ลู่เหิงจือกล่าวว่า “เจ้าจงกลับไปส่งจดหมายให้ฮูหยินด้วยตนเอง แล้วแวะซื้อ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 390

ซูชิงลั่วเอนตัวลงบนเก้าอี้ยาว อ่านจดหมายจากลู่เหิงจือไปพลาง ค่อยๆ กินเกาลัดไปพลางจดหมายฉบับแรกที่นางเปิดอ่านคือจดหมายถึงครอบครัวลู่เหิงจือชายชั่วผู้นี้ใจร้ายเหลือเกิน ส่งคนมาบังคับให้นางหย่าร้างได้โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าแต่ก็ต้องยอมรับว่า เมื่อเขาอ่อนโยน เขาก็ช่างทำให้คนหลงใหลจดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายที่ยาวที่สุดในช่วงเวลาที่ผ่านมา เขียนถึงเรื่องราวมากมายเขาเริ่มต้นด้วยการบอกว่านางตั้งครรภ์ ร่างกายอ่อนล้า และบอกว่าไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนนางได้ การที่นางต้องอยู่คนเดียวในเมืองหลวงเป็นความผิดของเขาเองซูชิงลั่วรู้สึกว่าตัวเองก็ไม่เอาไหนเพียงแค่เขาเห็นใจนางเล็กน้อย พูดคำหวานสองสามประโยค นางก็รู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาคลอเบ้า เกาลัดในปากก็ดูเหมือนจะไร้รสชาตินางพยายามกลั้นน้ำตาแล้วอ่านต่อ เป็นเรื่องราวที่ลู่เหิงจือเขียนเกี่ยวกับชายแดน“ชายแดนแม้จะลำบาก แต่ของที่ฮูหยินเตรียมมาให้ครบถ้วน เสื้อคลุมขนสัตว์หลายตัวก็อบอุ่นมาก เสื้อผ้าก็เพียงพอ"“ข้าพบซือไหวแล้ว และได้จัดหาที่พักให้นางเป็นบ้านหลังเล็กๆ เมื่อมีเวลาว่างข้าก็จะไปเยี่ยมนาง"“นางไม่ค่อยรู้หนังสือ และงานเย็บปักถักร้อยก็ไม่ดีเท่า
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
3738394041
...
46
DMCA.com Protection Status