บททั้งหมดของ เศรษฐีสาวขอเอาคืน: บทที่ 221 - บทที่ 230

340

บทที่ 221 ไฟไหม้

“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง ของหวานมาแล้วค่ะ…”พนักงานเสิร์ฟเดินมาวางของหวานตรงหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็ว ทุกคนไม่ทันสังเกตเห็นอะไรหลังจากที่พนักงานเสิร์ฟเดินออกไป อีกฝ่ายก็จัดการล็อกประตูห้องเอาไว้กู้หว่านชิงถอดกุญแจออกจากเบ้า สีหน้ามืดมัวหลีเกอ แกไม่ให้ฉันมีชีวิตที่ดี ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องตายกันไปข้าง...กู้หว่านชิงไปหยิบน้ำมันมาจากที่ไหนสักแห่งสาดน้ำมันไปทั่วประตูห้องและทางเดินของร้านคาราโอเกะโดยไม่ลังเลหลังจากที่ราดน้ำมันเสร็จ เธอก็หยิบไฟแช็กขึ้นมาแล้วโยนไปตรงน้ำมันทันทีภายในพริบตาไฟก็ลุกโชนขึ้นอย่างรวดเร็วกู้หว่านชิงระเบิดหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งหลีเกอ หลีเกอ วันนี้คือวันตายของแก!“กรี๊ด... ไฟไหม้... ไฟไหม้แล้ว…” พนักงานที่เดินผ่านมาเป็นคนแรกที่เห็นไฟไหม้ จึงรีบกดสัญญาณเตือนภัย!ชั่วพริบตาโถงทางเดินเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วย... ไฟไหม้... ทุกคนวิ่งหนีไปเร็ว”ในห้องส่วนตัวฟู่ซิวเป่ยเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว “แย่แล้ว ไฟไหม้”พูดจบก็ดึงหลีเกอไปที่ประตูโดยไม่ลังเล!ทุกคนต่างก็ตกใจ รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู“อะไรกันเนี่ย ประตูเปิดไม่ออก”
Read More

บทที่ 222 ช่วงเวลาวิกฤต

แต่เจินซินกลับสำลักไออย่างรุนแรงและส่ายหน้าน้ำตาไหลอาบแก้ม พูดอย่างยากลำบาก“หลีหราน จริง ๆ ฉันอยากบอกนายมานานแล้วว่า ฉัน... ฉันชอบนายมานานแล้ว นานมาก ๆ แล้วด้วย…”แต่หลีหรานกลับไม่ได้ยินคำพูดของเธอเห็นว่าเธอทรมานมาก จึงกอดเธอไว้ตลอดเวลาพูดแค่ว่า “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ตอนนี้ออกซิเจนน้อยลงเรื่อย ๆ ถ้าพูดต่อไปจะยิ่งหายใจไม่ออก”แต่เจินซินก็ไม่สนใจเธอกลับรู้สึกว่าความตายคืบคลานเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ...แม้ว่าจะไอรุนแรงจนแทบลืมตาไม่ขึ้น แต่เธอก็ยังคงกอดหลีหรานไว้แน่นแม้ว่าจะเป็นวินาทีสุดท้ายของชีวิต เธอก็ยังอยากอยู่กับเขาทุกคนต่างก็น้ำตาคลอเบ้าบรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุข กลับตกอยู่ในสภาวะเฉียดใกล้ความตาย...เวลานี้ฟู่ซิวเป่ยเห็นถังดับเพลิงบนผนังด้านนอก เขาไม่ลังเลเลยที่จะถอดเสื้อผ้าออก แล้วชุบน้ำคลุมหัวตัวเองไว้แล้ววิ่งออกไป“พี่ซิวเป่ย…”เนื้อตัวฟู่ซิวเป่ยถูกไฟเผาไหม้แต่เขาก็รีบหยิบถังดับเพลิงบนผนังลงมาอย่างรวดเร็ว เปิดฝาแล้วฉีดไปทางต้นเพลิง “หลีเกอ รีบออกมา… ทุกคนรีบออกมาเร็ว…”พร้อมกับเสียงของเขาทุกคนก็รีบวิ่งไปยังทางออกจนกระทั่งวินาทีสุดท้
Read More

บทที่ 223 ฟู่ซิวเป่ยช่วยเธอไว้

สายตาของหลีหานมองด้วยความเครียดแล้วพูดว่า “หลีเกอ คราวนี้เธอทำให้ทุกคนตกใจแทบแย่”“โดยเฉพาะคุณปู่ ท่านไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาสามวันแล้ว”หลีเกอหันไปมองหลีเจิ้งเฟยด้วยความรู้สึกผิด “คุณปู่ ขอโทษนะคะ”หลีเจิ้งเฟยจับมือเธอไว้ “เด็กคนนี้ ขอโทษปู่ทำไมกัน! เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นขนาดนี้ จะว่าบาดเจ็บสาหัสก็ว่าได้ โชคดีที่พ่อหนุ่มตระกูลฟู่ไม่กลัวตาย เข้าไปช่วยเธอออกมาจากกองเพลิง…”เมื่อพูดถึงฟู่ซิวเป่ยหลีเกอมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นร่างของเขา จึงถามว่า “คุณปู่ พี่ซิวเป่ยอยู่ไหนคะ?”หลีหานกับหลีหรานที่ยืนอยู่ด้านหลังสบตากัน สุดท้ายหลีหานก็พูดว่า “วางใจได้ ฟู่ซิวเป่ยไม่เป็นอะไร! แค่แขนกับหลังมีแผลไฟไหม้นิดหน่อย ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยข้าง ๆ คุณป้าเฝ้าเขาอยู่น่ะ”หลีเกอทนนอนนิ่งไม่ไหวอีกต่อไปรีบลุกขึ้น “พี่ว่าไงนะ พี่ซิวเป่ยได้รับบาดเจ็บเหรอ?”พูดถึงเรื่องนี้หลีหรานก็รู้สึกผิดมาก ตอนนั้นเขามัวปกป้องเจินซิน แต่ไม่ได้ปกป้องหลีเกอ จึงถูกคุณปู่และบรรดาพี่ ๆ ตำหนิอย่างรุนแรงคราวนี้ต้องขอบคุณฟู่ซิวเป่ยเขาคือผู้มีพระคุณที่แท้จริงของตระกูลหลี“อย่าห่วงเลย หมอฝีมือดีที่สุดในโลกกำลังรั
Read More

บทที่ 224 ลงโทษกู้หว่านชิง

“งั้นก็ดีเลย แล่เนื้อเถือหนังเป็นชิ้นยังน้อยเกินไป เรื่องนี้ฝากพวกเธอจัดการแทนด้วย”ตระกูลหลีและตระกูลฟู่ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยบทสรุปสุดท้ายของกู้หว่านชิงนั้นพอจะคาดการณ์ได้ตั้งแต่แรกแล้วภายในห้องที่ทั้งมืดและอับชื้นมือและเท้าของกู้หว่านชิงถูกมัดติดกันหมดอย่างแน่นหนา สองตาก็ถูกผ้าดำผืนหนึ่งคาดปิดไว้ ปากถูกยัดด้วยถุงเท้าเหม็นเน่า ทำให้พูดอะไรไม่ได้ ได้แต่ส่งเสียงอู้อี้...ในเวลานี้ประตูห้องมืดถูกเปิดออก เสียงฝีเท้าเดินตรงเข้ามาหา กู้หว่านชิงรู้สึกว่ามีคนเข้ามา ก็พยายามดิ้นรนร่างกายอย่างไม่หยุดหย่อน ปากส่งเสียงอู้อี้ราวกับจะขอร้องคนที่เข้ามาหลีเกอยืนอยู่ที่นั่น มองเธอจากมุมสูงด้วยสายตาเย็นยะเยือก สุดท้ายก็พูดว่า “...ฉันเอง หลีเกอ”เมื่อเสียงดังขึ้นการเคลื่อนไหวทั้งหมดของกู้หว่านชิงก็หยุดชะงักลงทันทีเธอหันไปทางหลีเกอ แต่มองไม่เห็นอะไรเลยหลีเกอเอื้อมมือไปแกะผ้าดำออก ทันใดนั้นดวงตาของกู้หว่านชิงก็เต็มไปด้วยความลนลานหวาดกลัว ร่างกายสั่นเทาไม่หยุดหลีเกอหัวเราะเยาะ“กลัวเป็นด้วยเหรอ ตอนวางเพลิงไม่เห็นจะกลัวเลย”กู้หว่านชิงส่ายหัวรัว ๆเพราะความกลัว ดวงตาคู่นั้นจึงเจิ่ง
Read More

บทที่ 225 อย่าเล่นกับเจ้าหญิงตระกูลหลี

สิ้นเสียงกรีดร้องกู้หว่านชิงก็เป็นลมไปทันทีนอกห้อง ทุกคนเห็นเหตุการณ์นี้ผ่านกล้องวงจรปิดหลีหรานอดหัวเราะเยาะไม่ได้ แววตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “งูตัวนี้ไม่มีพิษด้วยซ้ำ ดันกลัวจนเป็นลมไปซะได้”หลีลั่วอดถากถางไม่ได้“ธรรมชาติของผู้หญิงทุกคนกลัวงูอยู่แล้ว ต่อให้จะเป็นงูเหลือมธรรมดาก็เถอะ แต่วันนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้น”“เราจะปล่อยงูเข้าไปทุกวัน ดูซิว่าเธอจะทนได้สักแค่ไหน!”“กล้ามาหาเรื่องเจ้าหญิงตระกูลหลี ถ้าไม่ทำให้เสียสติหรือโง่ไปเลย คงจะไม่สาสมกับสิ่งที่เธอกระทำ”“...”หลีหรานขนลุกซู่ไปทั้งตัว“ได้ งั้นทำตามแผนเลย”หลีเกอไม่สนใจเรื่องราวต่อจากนี้ของกู้หว่านชิง หลังจากมอบหมายให้พี่ชายทั้งสองจัดการต่อแล้วเธอก็ไม่ได้ถามอะไรอีก กลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลฟู่ซิวเป่ยอย่างใกล้ชิดที่จริงแล้วอาการของฟู่ซิวเป่ยไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นแต่เพราะถูกพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายกวดขัน เขาจึงต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลกว่าครึ่งเดือนถึงจะออกมาได้หลีเกอที่อยู่ในประเทศ F ตลอด จึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองปินเฉิงจนกระทั่งหลีหรานส่งข่าวที่เห็นในอินเทอร์เน็ตให้อ่าน “นี่ไง งานแสดงแฟชั่นโ
Read More

บทที่ 226 ตรวจสอบไม่พบเบาะแส

แต่หลีหานกลับมองไปที่หลีเกอ“เสี่ยวเกอ! เมื่อกี้เจิ้งหลิ่วโทรมา…”เมื่อพูดถึงเจิ้งหลิ่ว หลีเกอก็เดาได้คร่าว ๆ ว่าเป็นเรื่องอะไร “เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในงานแสดงแฟชั่นโชว์หรือเปล่าคะ?”หลีหานพยักหน้า“เจอตัวคนร้ายที่ตัดชุดแล้ว เขาสารภาพว่าเข้าไปในห้องหลังเวที ใช้กรรไกรตัดชุดหลักที่ใช้เดินแบบ และสารภาพว่าซ่อนใบมีดไว้ในรองเท้าส้นสูงของนางแบบด้วย…”หลีเกอโกรธจนกัดฟันกรอด“แล้วไงต่อ”หลีหานพูดต่อ “แต่พี่เช็กแล้ว เขาเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีภาระและพันธะ ไม่มีอะไรเลย”“บัญชีธนาคารของเขามีเงินโอนเข้ามาหนึ่งล้านหยวนก่อนเกิดเหตุ แต่ตรวจสอบไม่ได้ว่ามาจากไหน”“และเขาก็เอาแต่ปิดปากเงียบ สารภาพแค่ว่าตัวเองทำเรื่องพวกนี้เอง แต่ไม่ยอมรับว่าใครเป็นคนสั่งให้ทำ…”“...”เมื่อได้ยินแบบนี้ หลีเกอก็เข้าใจได้คร่าว ๆ “หมายความว่าสาวไปหาต้นตอไม่ได้แล้วสินะ”หลีหานพยักหน้า“เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายซ่อนตัวอยู่ในที่มืดเพื่อจ้องเล่นงานเธอ แบบนี้ป้องกันได้ยาก ลองคิดแบบจริงจังดูซิว่าเธอเคยไปขัดขาใครบ้าง?”หลีเกอเกาหัว “อันนี้… ฉันก็ไม่รู้ค่ะ”“แต่คนที่ไม่ชอบฉันมีเยอะมาก”สีหน้าของหลีหานยิ่
Read More

บทที่ 227 เยาะเย้ย

หลีหานเห็นเธอพูดแบบนี้ จึงตกลงยอมให้เธอเดินทางไปจากประเทศ Fเมื่อกลับมาที่เมืองปินเฉิง สิ่งแรกที่หลีเกอทำคือไปเยี่ยมศาสตราจารย์โม่มหาวิทยาลัยปินเฉิง ห้องพักคณาจารย์ตอนนี้ศาสตราจารย์โม่กำลังพานักศึกษากลุ่มหนึ่งชมผลงานของหลีเกองานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้“...ศาสตราจารย์โม่ งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่วนใหญ่มาจากผลงานการออกแบบชุดหลักครั้งนี้” โจวผอ นักศึกษารายหนึ่งของศาสตราจารย์โม่กล่าวศาสตราจารย์โม่พยักหน้าเห็นด้วย“ใช่แล้ว การออกแบบครั้งนี้โดดเด่นมาก ภาควิชาของเราได้รับคำเชิญจากงานแสดงแฟชั่นระดับนานาชาติหลายแห่ง”“จริงเหรอคะ อาจารย์! งั้นพวกเรามีโอกาสไปดูงานแสดงแฟชั่นต่างประเทศด้วยหรือเปล่าคะ?” นักศึกษารายหนึ่งตาโตเป็นประกาย“แน่อยู่แล้ว! เพียงแต่โอกาสแบบนี้หายากนัก”“ก่อนหน้านี้วงการแฟชั่นนานาชาติมักปฏิเสธผลงานของเรา แม้กระทั่งดูถูกเราว่าเราออกแบบเสื้อผ้าคนละระดับกับแฟชั่นนานาชาติ แต่ตอนนี้เราได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเราแล้ว”“ช่างน่าปลาบปลื้มใจจริง ๆ เลยค่ะ”...กลุ่มนักศึกษาอายุยี่สิบต้น ๆ ต่างก็ตื่นเต้นกันมากมีเพียงคนเดียวที่ไม่มีสีหน้ายินดีแม้แต่น
Read More

บทที่ 228 ฝากตัวเป็นศิษย์ของศาสตราจารย์โม่

“สวีชาง พูดอะไรน่ะ! พี่หลีเกอใช้ความสามารถที่แท้จริงของเธอเองในการคว้าตำแหน่งผู้ออกแบบหลักในครั้งนี้ งานแฟชั่นโชว์เพิ่งจบลงไป ผลตอบรับในสังคมก็ดีมาก แสดงให้เห็นถึงความสามารถของพี่หลีเกอ เธอที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอย่ามาพูดพล่ามให้มาก”สวีชางไม่สนใจใบหน้าเกือบจะเขียนคำว่าดูถูกตัวโต ๆ เอาไว้แล้ว“ฮ่า ฮ่าเท่านั้นเองเหรอ เรื่องแบบนี้ใคร ๆ ก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหลีเกอคนเดียว!”“สวีชาง พอได้แล้ว!”โจวเทาเข้าไปขวางเขาไว้โดยตรง แต่สวีชางก็ไม่สะทกสะท้าน “หลีเกอ คุณกล้าพูดหรือเปล่าว่าคุณไม่ได้ใช้ฐานะและภูมิหลังของตัวเองเข้าช่วย”เมื่อคำถามนี้หลุดออกมาใบหน้าของหลีเกอกลับไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น เธอเงยหน้าขึ้นมองสวีชาง เธอไม่รู้จักเขาเลย และไม่เข้าใจว่าความเกลียดชังในดวงตาเขามีเหตุผลมาจากไหนแต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอต้องอธิบายให้ชัดเจน“การคัดเลือกผู้ออกแบบหลักในครั้งนี้ เป็นไปอย่างยุติธรรม ไม่มีกลเม็ดเด็ดพรายใด ๆ ตามที่คุณกล่าวหา”เมื่อสวีชางได้ยินก็ระเบิดหัวเราะออกมาสุดเสียง“ก็แค่คำพูด ใครจะเชื่อ พวกเธอเชื่อกันเหรอ?”ในเวลานี้ โจวเทาก็ปกป้องอีกครั้ง “สวีชาง ตำแหน่งผู้ออก
Read More

บทที่ 229 ข่าวซุบซิบแห่งศตวรรษ

หลีเกออมยิ้ม“ตามใจอาจารย์ค่ะ ฉันไม่มีความคิดเห็น”ดังนั้นทุกคนจึงช่วยกันเตรียมพร้อม ในไม่ช้าก็มีคนนำชาถ้วยหนึ่งมาให้หลีเกอหลีเกอรับมาแล้วเดินไปหาอาจารย์โม่ เธอคุกเข่าลงทันที “อาจารย์คะ โปรดรับการคำนับจากศิษย์ด้วยค่ะ!”อาจารย์โม่รับถ้วยชามาจากเธอ แล้วหยิบซองแดงขนาดใหญ่ออกจากกระเป๋าเสื้อส่งให้เธอ“ลูกศิษย์ ลุกขึ้นเถอะ!”“ขอบคุณค่ะอาจารย์!”หลังจากจบพิธีรับศิษย์ อาจารย์โม่ดีใจจนอยากจะอวดศิษย์คนใหม่ของตัวเองไปทั่ว!เขาไม่ได้อยู่เฉยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความไปหาอาจารย์ใหญ่หลายท่านที่เขาสนิทสนมในแวดวงเดียวกันมันมีความหมายเหมือนกับการประกาศให้โลกรู้!...เมื่อออกมาจากมหาวิทยาลัยปินเฉิง หลีเกอก็เห็นเงาร่างสูงโปร่งยืนอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปใกล้ ฉีอวิ๋นเทียนก็สังเกตเห็นเธอก่อนเขาเดินตรงเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว“เทพธิดา! กลับมาจีนแล้วเหรอ?”หลีเกอเห็นว่าเขามีสีหน้าเหนื่อยล้ามาก จึงพูดด้วยความประหลาดใจ “คุณมาที่นี่ทำไม?”ฉีอวิ๋นเทียนกลับมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วพูดว่า “ได้ยินมาว่าเธอติดอยู่ในเหตุไฟไหม้ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า? เป็นอะไรมากไหม?”“ฉันไม่เป็นไ
Read More

บทที่ 230 ผู้ร้ายแสร้งทำเป็นคนดี

”สองชายแย่งหนึ่งหญิงอะไรกัน คุณลืมประธานฟู่ที่สนิทกับคุณหลีก่อนหน้านี้ไปแล้วเหรอ? ได้ยินมาว่าประธานฟู่ต่างหากที่เป็นคนที่คุณหลีคบอยู่ตอนนี้”“โอ้โห นี่มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกินไปแล้ว!”“...”เสียงยังไม่ทันจะจบ ก็เห็นฮั่วจิ้นเฉิงที่อยู่ไม่ไกลลุกขึ้นจากโซฟา หลานหนีเดินตามเขาโดยเว้นระยะห่างไปครึ่งก้าวตลอดเวลา“ประธานฮั่ว อย่าใส่ใจกับพนักงานชอบนินทาพวกนั้นเลยค่ะ”ฮั่วจิ้นเฉิงไม่ได้พูดอะไรสายตาหม่นหมอง สีหน้าเย็นชา ราวกับเพิ่งออกมาจากห้องแช่แข็งจากนั้นทั้งสองก็เดินเข้าไปในลิฟต์ทีละคน“เทพธิดา ตลาดตานตงยังมีพื้นที่ขยายกิจการอีกมาก ผมเลยวางแผนว่าจะให้ความสำคัญกับที่นั่นเป็นหลักในอีกสามปีข้างหน้า…”“ไอเดียของคุณดีมาก ตลาดตานตงนั่น ถ้าทำกำไรได้รายรับก็จะมหาศาล”“เทพธิดาวางใจให้ผมจัดการได้เลย ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง... น้ำมันดิบเป็นแนวโน้มหลักในการพัฒนาของเราในอนาคต…”ฉีอวิ๋นเทียนและหลีเกอพูดคุยกันไปเดินออกจากลิฟต์ไปพลางแต่ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะ “คุณหลีกลับมาแล้ว!”คำที่ฉีอวิ๋นเทียนกำลังจะพูดหยุดลงกะทันหันหลีเกอมองตามเสียงไปยังชายที่อยู่ไม่ไกลเธอเม้มปาก
Read More
ก่อนหน้า
1
...
2122232425
...
34
DMCA.com Protection Status