ผู้อำนวยการหูเห็นฮั่วจิ้นเฉิงแววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ประธานฮั่ว ลมอะไรหอบคุณมาถึงตี้เซิ่งได้ครับ?”ฮั่วจิ้นเฉิงเงยหน้าขึ้น มองผู้อำนวยการหูด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเหนือกว่า แค่เพียงสบตากัน ฮั่วจิ้นเฉิงก็ชนะไปครึ่งหนึ่งแล้ว“ทำไม ตี้เซิ่งไม่ต้อนรับผมเหรอ?”ผู้อำนวยการหูยิ้มเจื่อน“คุณฮั่วพูดอะไรอย่างนั้นครับ... แต่ตอนนี้คุณหลีคงไม่สะดวกพบคุณหรอก…”คำพูดนี้แฝงไปด้วยความกำกวม!ผู้อำนวยการหูเป็นคนฉลาด พอจะเดาใจฮั่วจิ้นเฉิงออกฮั่วจิ้นเฉิงไม่มองหน้าผู้อำนวยการหูด้วยซ้ำ แต่หันมองไปทางหลีเกอและฉีอวิ๋นเทียน แล้วตอบกลับอย่างไม่เกรงใจ“สะดวกหรือไม่สะดวก ไม่ใช่คุณที่เป็นคนตัดสิน”ผู้อำนวยการหูหน้าเสีย ได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อน “ประธานฮั่วพูดถูกครับ…”แต่ฮั่วจิ้นเฉิงไม่สนใจเขาอีกหลังจากโยนคำพูดทิ้งไว้ฮั่วจิ้นเฉิงก็เดินไปหาหลีเกอหลีเกอเห็นฮั่วจิ้นเฉิงเธอคิ้วขมวดเล็กน้อย ไม่ให้ความสนใจ“หลีเกอ…”ถึงแม้ฮั่วจิ้นเฉิงจะร้องเรียกเธอก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียอย่างนั้นผลักประตูห้องทำงานเข้าไปหลานหนีเกาจมูกตัวเองด้วยความอึดอัด ตัดสินใจเดินเลี่ยงไป“ประธานฮั่ว ฉันจะไปรอคุณข้าง
เขายังรู้ด้วยว่าเธอได้รับบาดเจ็บ และยังตามไปถึงประเทศ Fเพียงแต่ว่า...ตระกูลหลีซ่อนเธอไว้ดีเกินไปเขาอยู่ที่ประเทศ F สิบวันเต็ม ๆ แต่ก็ไม่สามารถเข้าเยี่ยมเธอได้หลังจากที่เขากลับมา เขาก็รอเธออยู่ที่ตี้เซิ่งตลอดหลีเกอซ่อนอารมณ์ทั้งหมดไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คุณฮั่วเป็นห่วงฉันเหรอคะ? แต่ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ เพราะฉันไม่ต้องการความห่วงใยจากคุณ”“เห็นว่าคุณปลอดภัย ผมก็สบายใจแล้ว” ฮั่วจิ้นเฉิงพูดกับตัวเองหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ “ตอนนี้หุ่นยนต์นาโนเทคโนโลยีที่ร่วมมือกับซางรุ่ยกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอย่างเข้มข้น เดือนหน้าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นี่เป็นโครงการแรกที่เราทำงานร่วมกัน ถ้าคุณมีเวลา เราสามารถไปดูด้วยกันได้”ฮั่วจิ้นเฉิงพูดเรื่องงานคราวนี้หลีเกอกลับไม่ปฏิเสธ เพราะนี่เป็นโครงการที่อยู่ในความดูแลของเธอ“ได้ค่ะ ฉันจะหาเวลาเข้าไป”ฮั่วจิ้นเฉิงเพิ่งจะได้ยินบทสนทนาระหว่างหลีเกอกับผู้อำนวยการหู เขาพอเดาได้คร่าว ๆ ว่าหลีเกอที่อยู่ตรงหน้ากำลังต้องการความช่วยเหลือดังนั้นเขาจึงพูดต่อ“คุณหลี ตอนนี้ฮั่วกรุ๊ปกำลังติดต่อโครงการใหม่ ๆ อยู่ ถ้าคุณสนใจ เราสามาร
หลีเกอได้สติกลับคืนมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง “ว่าไงนะ?”ฉีอวิ๋นเทียนดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศพิเศษระหว่างหลีเกอกับฮั่วจิ้นเฉิง เขาจึงพูดด้วยความผิดหวัง “... ถ้าคุณอยากจะกลับไปหาเขา ผมจะเคารพการตัดสินใจของคุณ”หลีเกอหัวเราะออกมา “ทำไมล่ะ? ไม่มั่นใจในตัวเองขนาดนั้นเลยเหรอ?”ฉีอวิ๋นเทียนพูดต่อ “ถ้าคู่แข่งคือฮั่วจิ้นเฉิง แพ้ให้เขาก็ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย แต่ว่านะเทพธิดา คุณต้องคิดให้รอบคอบนะ ปัญหาในตอนนั้นใช่จะคลี่คลายง่าย ๆ ถ้าพวกคุณจะกลับมาคบกันอีกครั้ง อย่างน้อยก็ควรจะสะสางปัญหานั้นก่อน”หลีเกอได้ยินดังนั้นก็รีบขัดจังหวะเขา “ใครบอกว่าฉันจะกลับไปคบกับเขา?”ดวงตาของฉีอวิ๋นเทียนเป็นประกาย จ้องมองเธออย่างจดจ่อ“เทพธิดา คุณไม่ได้…”หลีเกอพยักหน้าเล็กน้อย “อย่างน้อยจนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่มีความคิดที่จะกลับไปคบกับเขา”ฉีอวิ๋นเทียนร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น! “เทพธิดา คำพูดของคุณหมายความว่าผมยังมีโอกาสใช่ไหม?”หลีเกอเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาวันนี้เธอตั้งใจจะใช้โอกาสนี้พูดให้ชัดเจนกับเขาเหมือนกัน“ฉีอวิ๋นเทียน คุณมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าฉันคือตัวเลือกสุดท้ายในชีวิตคุณ?”ฉีอวิ๋นเทียนพ
“อย่าเอาแต่พูดไปเรื่อยสิ”หลีเกอพูดอย่างจริงจัง“ฉันเชื่อเหลือเกินว่าสักวันคุณจะหาความสุขของตัวเองเจอ”ฉีอวิ๋นเทียนทำหน้าสบาย ๆ พยักหน้ารับทราบเขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แววตาของเขากลับแน่วแน่ในการตัดสินใจของตัวเองมากขึ้น...หลายวันต่อมา หลีเกองานยุ่งมากเนื่องจากงานที่คั่งค้างไว้ตั้งแต่ก่อนงานแฟชั่นโชว์ เธอต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อชดเชย จนกระทั่งวันเสาร์มาถึง หลีเกอจึงได้หยุดพักเช้าตรู่เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณย่าฮั่ว“เสี่ยวเกอ วันนี้เธอจะมาที่คฤหาสน์ไหม?”หลีเกอรู้สึกลังเลอยู่บ้าง แต่รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความคาดหวังในน้ำเสียงของคุณย่าฮั่ว จึงตอบตกลง“คุณย่า วันนี้เป็นวันเกิดคุณทั้งที หนูจะไปให้ตรงเวลาแน่นอนค่ะ”เมื่อได้รับคำตอบที่แน่ชัดคุณย่าฮั่วก็มีความสุขมาก รอยยิ้มบนใบหน้าไม่จางหายไป“ดี ดี ดี! งั้นย่าจะรอเธอที่คฤหาสน์นะ”หลังจากวางสายหลีเกอก็เงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่าง แสงแดดตอนเช้าสาดส่องเข้ามาในห้อง สีสันอบอุ่น วันนี้อากาศดีเป็นพิเศษหลีเกอหยิบเครื่องประดับหยกที่ซื้อจากงานประมูลครั้งก่อนออกมาจากตู้เซฟ แล้วเรียกพ่อบ้านเข้ามา“ลุงจาง ช่วยหากล่องของขวัญมาห่
แถมลูกชายอีกฝ่ายยังเก่งขนาดนี้ไม่เหมือนเธอที่ทั้งชีวิตมีลูกสาวอย่างฮั่วอวิ๋นเจินเพียงคนเดียว!แน่นอนว่าเธอต้องด้อยกว่าอีกฝ่ายอยู่แล้ว ดังนั้นระหว่างคนทั้งสองจึงขัดแย้งเหน็บแนมกันเป็นประจำ"ฉันหาคู่ให้เจินเจินของฉัน มันไปขวางหูขวางตาอะไรเธอ ได้ยินมาว่าฮั่วซินถูกจิ้นเฉิงส่งไปแอฟริกาแล้ว คงยังไม่ถึงคิวเธอในเร็ว ๆ นี้หรอกมั้ง"เมื่อได้ยินคำพูดนี้สีหน้าของหลี่ซูฉินก็เปลี่ยนไปทันทีเหมือนเป็นหนามแหลมแทงเข้ามาในหัวใจ"...ซินซินของเราแค่ไปแอฟริกาพักหนึ่ง เดี๋ยวก็กลับมา"แต่เมื่อพูดจบ หลี่ซูฉินก็หมดความมั่นใจและเดินจากไปอย่างหมดอารมณ์กัวเหลียนชนะอย่างราบคาบ เธออดไม่ได้ที่จะดึงมือคุณย่าฮั่ว "แม่ ช่วยดูให้หน่อยนะคะ ประธานของเอฟแอลกรุ๊ป ฟู่ซิวเป่ย หล่อเหลาและมีความสามารถมาก ภายในเวลาไม่กี่เดือนก็ทำให้บริษัทกลายเป็นที่ยอมรับขึ้นมาได้ เขาเป็นคนเก่งกาจมาก..."คุณย่าฮั่วขมวดคิ้วเล็กน้อยและปรามเธอ"พอแล้ว ไว้เดี๋ยวค่อยคุยกัน"กัวเหลียนเม้มริมฝีปากด้วยความไม่พอใจ "ก็ได้ค่ะ คุณแม่"จากนั้นก็หันไปมองฮั่วอวิ๋นเจิน "เจินเจิน ดูสิ! ลูกต้องชอบฟู่ซิวเป่ยคนนี้แน่ ๆ"แต่ฮั่วอวิ๋นเจินกลับไม่สนใจ
โม่อี้เฟยอดไม่ได้ที่จะพูดต่อ "เมื่อก่อนพวกเธอจ้องเล่นงานหลีเกอ ใส่ร้ายหลีเกอสารพัด ไม่เห็นนายจะรู้สึกอะไร""แต่ตอนนี้พูดแค่สองสามคำก็มีปฏิกิริยาขนาดนี้แล้ว ฉันว่านายความรู้สึกช้าไปหน่อยนะ"ฮั่วจิ้นเฉิงตอบอย่างไม่รีบร้อน "วันนี้นายก็พูดมากไปหน่อยเหมือนกัน"โม่อี้เฟยเห็นว่าเขาตอบไม่ตรงคำถาม ก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น เขาเอื้อมมือไปโอบไหล่ฮั่วจิ้นเฉิง "เพื่อน นายกำลังรอใครอยู่หรือเปล่า?"ใครที่โม่อี้เฟยพูดถึงก็คือหลีเกอมุมปากของฮั่วจิ้นเฉิงกระตุก "นายว่างมากหรือไง?"โม่อี้เฟยปฏิเสธอย่างรวดเร็ว "เปล่า แค่เป็นคนอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย""แต่เพื่อน ฉันขอเตือนนายด้วยความหวังดีนะ ถ้าตอนนี้นายรู้ใจตัวเองแล้ว และอยากจะตามง้อหลีเกอกลับมา นายต้องแสดงความจริงใจให้เป็น""เรื่องที่ทำผิดพลาดไปในอดีต นายต้องยอมรับ ต่อให้โดนทุบตีก็ต้องยืนนิ่ง ๆ ให้เธอทำ!"ในดวงตาของโม่อี้เฟยหยีเป็นรอยยิ้ม "ขอพูดประโยคเดียวแล้วกัน ปฏิบัติกับเธอให้ดี"ฮั่วจิ้นเฉิงตอบกลับอย่างไม่พอใจ "ไม่ต้องรอให้นายสอนหรอก!"ขณะที่กำลังคุยกันอยู่นั้น มาเซราติสีขาวก็ปรากฏอยู่ในสายตา โม่อี้เฟยอดไม่ได้ที่จะผิวปาก เสียงของเขาลอยต
"แต่หลีเกอ ฉันได้ยินมาว่าเธอดูแลบริษัทตี้เซิ่งอยู่นี่นา เป็นประธานบริษัทซะด้วย เก่งจริง ๆ เลยนะ บริษัทของอาเขยเธอเมื่อไม่นานมานี้มีการปลดพนักงานออก เขาตกงานอยู่พอดี เธอช่วยดูให้หน่อยได้ไหมว่าเขาพอจะย้ายไปทำงานที่ตี้เซิ่งได้หรือเปล่า?"หลีเกอไม่ได้ตอบแต่ฮั่วซวงซวงกลับไม่รู้สึกโกรธเคือง "ก่อนหน้านี้อาเขยของเธอเป็นแค่หัวหน้าแผนก ฉันว่าถ้าเขาย้ายไปตี้เซิ่ง บางทีอาจจะนั่งแท่นผู้จัดการได้สบาย"คุณย่าฮั่วที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินเข้าก็ทำตาเขียวหลีเกอเห็นดังนั้นจึงพูดว่า "พูดอะไรแบบนี้ คุณเป็นสมาชิกตระกูลฮั่ว บริษัทใหญ่โตอย่างฮั่วกรุ๊ปจะจัดสรรงานให้ญาติสักงานคงไม่ใช่เรื่องยาก บริษัทเราเล็กเกินไป คงไม่สามารถรองรับบุคคลใหญ่โตเช่นนี้ได้"คำพูดของหลีเกอตรงไปตรงมาไร้ความเกรงใจสีหน้าของฮั่วซวงซวงเปลี่ยนไปในทันที หลีเกอพูดจี้จุดอ่อนของเธอ ถ้าเข้าฮั่วกรุ๊ปได้ เธอต้องมาอึดอัดแบบนี้เหรอ?ก็เพราะว่าสามีของเธอไม่มีความสามารถอะไรเลย ฮั่วจิ้นเฉิงถึงเอาแต่ดูถูกเขา!แต่เมื่อหลีเกอพูดออกมา คราวนี้ฮั่วซวงซวงกลับโกรธจนหน้าแดง"หลีเกอ เธอจะหยิ่งอะไรนักหนา! แค่ให้จัดการงานให้สักงานก็ไม่ยอม สมควรแล้วที่จิ้นเ
แต่ตอนนี้สถานะของหลีเกอเปลี่ยนไปเป็นสูงส่งค้ำฟ้า คนส่วนใหญ่ที่เห็นแก่ผลประโยชน์ต่างก็อยากจะเข้าหาเธอ ต่างก็พากันเข้าไปหาหลีเกอ เอาใจหลีเกอเรื่องนี้ทำให้ฮั่วอวิ๋นเจินไม่พอใจมาก"อาคะ รู้ไหมว่าทำไมฮั่วซินถึงถูกเนรเทศไปแอฟริกา?"หลังจากฮั่วซวงซวงแต่งงานออกไป เธอก็ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องภายในตระกูลฮั่ว จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฮั่วซินได้ยินหลี่ซูฉินพูดว่าฮั่วซินย้ายไปเรียนที่แอฟริกาแต่แอฟริกาเป็นสถานที่แบบไหน ตระกูลฮั่วถึงแม้จะตกอับ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะส่งลูกหลานไปเรียนที่นั่น เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังนี้เธอไม่รู้จริง ๆ จึงถามไปว่า "เธอรู้เบื้องลึกเบื้องหลังเหรอ?"ฮั่วอวิ๋นเจินชี้ไปที่หลีเกอซึ่งอยู่ในกลุ่มคน"จะเพราะอะไรได้ล่ะ ก็เพราะเธอไงคะ""หมายถึงหลีเกอเหรอ เธอจะมีความสามารถขนาดนั้นได้ยังไง?"ฮั่วอวิ๋นเจินมีท่าทางเหมือนจะบอกว่าประเมินเธอคนนั้นต่ำเกินไป "ลืมแล้วเหรอว่าเมื่อก่อนป้าสะใภ้รองกับฮั่วซินพากันรุมรังแกเธอยังไงบ้าง เธอเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แก้แค้นสิบปีไม่สาย! ตอนนี้ได้โอกาสแล้ว ก็เลยลงโทษฮั่วซินอย่างหนัก ฉันได้ยินมาว่าฮั่วจิ้นเฉิงถึงขั้นลั่นวาจาว่าฮั่วซินคงจะกลับมาไ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างกายของผู้หญิงกลุ่มนี้ก็สั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเคยลิ้มรสความโหดเหี้ยมของแส้มาก่อนในเวลานี้ เฉวียนเย๋ หัวหน้ากลุ่มก็เดินออกมาดวงตาไร้ความรู้สึกจ้องมองหลีเกอ "ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะเก่งขนาดนี้… ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็หนีออกมาได้แล้ว"หลีเกอมองเขาอย่างเย็นชา น้ำเสียงไร้ความอบอุ่น"ปล่อยเราไป ไม่งั้นฉันจะถล่มที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลอง"ชายคนนั้นกลับหัวเราะราวกับได้ยินเรื่องตลก แล้วก็ตบมือ เดินเข้ามาหาหลีเกอต้องยอมรับว่าหลีเกอมีเครื่องหน้าที่สวยมาก แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมสมบุกสมบันแบบนี้ แต่ก็ยังคงมีความสวยที่แตกต่างออกไป นางฟ้านางสวรรค์แบบนี้ ถ้าพาไปขายในตลาดมืดคงจะได้ราคาดีไม่น้อยแต่ก็เท่านั้นแหละ สวยก็ส่วนสวย แต่กลับเป็นกุหลาบมีหนาม"ปล่อยพวกเธอไปเหรอ ฝันไปเถอะ"พูดจบ เขาก็โบกมือให้บอดี้การ์ดสองสามคนเดินเข้าไปแต่ในเวลานี้ลูกน้องอีกคนก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา "พี่เฉวียน ไม่ดีแล้ว บาร์ของเราถูกปิดล้อมแล้ว"สีหน้าของพี่เฉวียนเปลี่ยนไปทันที ตะโกนด้วยความโกรธ “ได้ยังไงวะ?!""คำสั่งของตระกูลหลี ตระกูลหลีมหาเศรษฐีครับ"พี่เฉวียนคว้าค
"จะทำยังไงดี พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะถูกส่งตัวออกไปแล้ว… จะไม่มีวันได้เจอครอบครัวอีกแล้วใช่ไหม?""ฮือฮือฮือ ฉันไม่อยากตาย ใครก็ได้ช่วยเราที""..."พูดจบก็มีเสียงสะอื้นดังระงมหลีเกอเห็นภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าท่ามกลางสังคมที่เจริญแล้วเช่นนี้ จะยังมีเรื่องราวมืดดำแบบนี้ซุกซ่อนอยู่สายตาของเธอเหลือบมองไปตามเสียงสะอื้นแต่ในวินาทีถัดมา เธอกลับสบเข้ากับดวงตาคู่หนึ่งที่เย็นชาอย่างมาก ซึ่งขัดกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าหญิงสาวดังกล่าวดูอายุประมาณสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี แต่กลับมีความเยือกเย็นและเฉลียวฉลาดเหมือนผู้ใหญ่ใบหน้าของเธอไร้อารมณ์ แต่ดวงตากลับจ้องมองหลีเกอราวกับต้องการจะมองให้ทะลุปรุโปร่งทั้งสองฝ่ายต่างเงียบ ไม่พูดอะไรผ่านไปครึ่งชั่วโมงหญิงสาวจึงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจนัก "คุณจะช่วยเราออกไปได้จริง ๆ เหรอ?"หลีเกอตอบอย่างมั่นใจ "เชื่อฉันสิ เราต้องออกไปได้แน่นอน"ประโยคนี้เปรียบเสมือนผู้ไถ่บาปที่ทำให้บรรดาหญิงสาวมีความหวัง แต่ในวินาทีถัดมา หญิงสาวก็เห็นว่าหลีเกอถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ความหวังที่เพิ่งผุดขึ้นดับวูบลงไปหลีเกอลดสายตาลง
ชายในห้องเดินออกมาหลังจากนั้น เมื่อเห็นหลีเกอก็ตาเป็นประกาย "โอ้โห นี่มันของดีจากไหนกัน..."บางคนจำหลีเกอได้ว่าเป็นคนที่เข้ามาพร้อมกับฉีอวิ๋นเทียน จึงกระซิบบอกชายคนนั้นว่า "พี่เฉวียน คนนี้เป็นแขกที่คุณชายฉีพามาครับ"เมื่อชายคนนั้นได้ยินชื่อฉีอวิ๋นเทียน สีหน้าก็เปลี่ยนไปแล้วก็เดินเข้ามาหาหลีเกอ "เมื่อกี้เธอเห็นอะไร ได้ยินอะไรบ้าง?"หลีเกอจ้องเขม็งมองเขา ไม่มีแววความกลัวในดวงตา "พวกคุณทำธุรกิจอย่างเปิดเผย แต่ที่ไหนได้ กลับมีธุรกิจมืดอีกอย่างหนึ่งซ่อนอยู่ ผู้หญิงในห้องนั้น พวกคุณลักพาตัวมาใช่ไหม?"ชายคนนั้นยิ้ม แววตาแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม "ดูเหมือนวันนี้เธอคงไม่อยากออกไปจากที่นี่แล้ว...แต่ก็ดี ของดีแบบเธอน่ะหายาก"พูดจบก็โบกมือให้ลูกน้องเดินเข้ามาหลีเกอหัวเราะเยาะ "อยากจับฉัน ก็ลองดูสิว่าพวกนายมีปัญญาหรือเปล่า"ทันทีที่พูดจบ ชายร่างกำยำหลายคนก็กรูเข้ามา หลีเกอมีสีหน้าเคร่งขรึม ลงมือสวนกลับอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เตะตัดขาของคู่ต่อสู้ทุกการออกแรงไม่มีความลังเลเลย เตะจนคู่ต่อสู้ถอยหลังไปหลายก้าวชายที่ถูกเรียกว่าพี่เฉวียนรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที "ดูเหมือนตั้งใจมาหาเรื่องสินะ"พูดจบ
ฉีอวิ๋นเทียนพยักหน้ารัวเร็ว "แหงสิ นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญ""แต่ฉันสังหรณ์ใจว่าคุณน่าจะได้เจอกับเนื้อคู่ของคุณเร็ว ๆ นี้"เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉีอวิ๋นเทียนก็ตกใจ "เทพธิดา ล้อกันเล่นหรือเปล่า?"หลีเกอขมวดคิ้ว "ทำไม ไม่เชื่อเหรอ?""ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ในโลกนี้ นอกจากคุณแล้ว หายากมากที่จะมีใครทำให้หัวใจผมสั่นไหวอีก"ฉีอวิ๋นเทียนพูดจบก็ถอนหายใจ "แต่เมื่อเทียบกับตัวผมแล้ว ความสุขของเทพธิดาสำคัญกว่า..."เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ตัดสินใจลาออกจากตี้เซิ่งโดยไม่ลังเล เพื่อให้เธอมีความสุขส่วนความสุขของตัวเขาเองนั้นไม่สำคัญเลย"คืนนี้มีงานเลี้ยง คุณก็อยู่ร่วมด้วยสิ"หลีเกอเพิ่งจะปฏิเสธ ฉีอวิ๋นเทียนกลับทำหน้าตาอ้อนวอน "เทพธิดา มาเถอะนะ ไม่งั้นปู่ผมไม่ยอมปล่อยผมไปแน่ ๆ เลย..."หลีเกอหัวเราะคิกคัก เมื่อนึกว่าฉีอวิ๋นเทียนผู้ไม่เคยหวาดกลัวอะไรเลย กลับมีลาสบอสที่ทำให้เขากลัวหัวหดนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ดี ในที่สุดเธอก็ตอบตกลง "ได้"ฉีอวิ๋นเทียนดีใจมาก "ตกลงตามนั้นนะ ไว้เจอกันตอนเย็น"...ตกเย็นหลีเกอเปลี่ยนไปสวมชุดลำลองสบาย ๆ แล้วก็ออกจากบ้าน สถานที่ที่ฉีอวิ๋นเทียนจั
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายคนนั้น นิ้วของซ่งเซียงเซียงก็จิกเข้าไปในเนื้ออย่างเงียบ ๆ แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเอาซะเลยในเวลานี้ ซ่งฟู่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน เดินตรงมาหาซ่งเซียงเซียงได้ยินเสียงตบดัง ‘เผียะ’ ซ่งเซียงเซียงเอามือปิดหน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา ปากก็พูดด้วยความน้อยใจ "พ่อ ตบฉันทำไมคะ!"ซ่งฟู่โกรธมากเมื่อครู่หลี่หานได้ส่งคนมาเตือนเขาแล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะซ่งเซียงเซียงพยายามกลั่นแกล้งหลีเกอ"ซ่งเซียงเซียง แกนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ก่อนมาฉันเคยเตือนแกว่ายังไง? กล้าดียังไงถึงกล้าไปยุ่งกับคุณหนูหลี!"ซ่งเซียงเซียงปิดหน้าไม่น่าเชื่อว่าพ่อที่รักเธออย่างสุดหัวใจ กลับลงมือตบหน้าเธอต่อหน้าคนอื่นเพราะหลีเกอคนเดียวเธอหลุบตาลง ไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับโทษทุกอย่างว่าเป็นความผิดของหลีเกอซ่งฟู่จ้องเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวสุดขีด แล้วพูดต่อว่า "ถ้าแกทำให้คุณหนูหลีขุ่นเคือง บริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคของเราต้องล่มสลายแน่ รู้ตัวไหมว่าแกทำอะไรลงไป!"ซ่งเซียงเซียงกัดริมฝีปากแน่น ไม่ยอมพูดอะไรซ่งฟู่เห็นว่าเธอยังไม่สำนึก จึงพูดตรง ๆ "อย่ามาทำให้ฉันขายหน้าอยู่ที่นี่ รีบกลับไปเดี๋ยวน
ในทันใดนั้นเอง หลีเกอก็เริ่มบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การบริหารของตัวเองอย่างคล่องแคล่วคำพูดของเธอทั้งแฝงอารมณ์ขันและดึงดูดความสนใจ ไม่โอ้อวดมากเกินไปและไม่ถ่อมตัวจนน่ารำคาญ จับจุดได้อย่างเหมาะเจาะการอธิบายง่าย ๆ สิบนาที ทุกคนในที่นั้นกลับพร้อมใจกันตั้งใจฟัง จนกระทั่งจบลง ห้องประชุมก็เงียบไปหลายวินาที ก่อนที่จะปรบมือกันอย่างกึกก้อง"คุณหนูหลีเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจจริง ๆ!""มีหลักแนวคิดที่ชัดเจน ผ่อนคลายและเข้มงวดในเวลาเดียวกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอบริหารตี้เซิ่งให้เจริญรุ่งเรืองได้""คุณหนูหลีเป็นคนที่เราควรเรียนรู้เอาเป็นเยี่ยงอย่างจริง ๆ! ถึงเธอจะยังอายุน้อย แต่แนวคิดทางธุรกิจของเธอก็มมมีความเป็นปัจเจกสูงมาก""ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณหนูหลี จะถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยล่ะสำหรับพวกเรา!""..."เมื่อได้ยินเสียงสรรเสริญรอบข้าง ซ่งเซียงเซียงก็อึ้งงันไปเดิมทีเธอต้องการหาทางโจมตีหลีเกอแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่คาดคิดว่าจะทำให้เธอโด่งดังในครั้งนี้เป็นไปไม่ได้!เป็นไปได้ยังไงเนี่ย?"เดี๋ยวก่อน..."ซ่งเซียงเซียงส่งเสียงเรียกหลีเกอที่กำลังจะลงจากเวทีไว้ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรทั้งน
เธอเดินหลังตรงไปที่หลังเวทีไม่นานนัก พิธีเปิดการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็เริ่มขึ้น พิธีกรยืนอยู่บนเวทีแล้วกล่าวเปิดงานอย่างคล่องแคล่วในไม่ช้า บรรยากาศของการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็ถึงจุดพีคของงาน"ผมเชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ล้วนเป็นสุดยอดของสุดยอดในแวดวงธุรกิจของเรา ตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิม เราจะสุ่มเลือกผู้โชคดีขึ้นมาแบ่งปันประสบการณ์การบริหารธุรกิจ"เมื่อพิธีกรพูดจบซ่งเซียงเซียงก็เดินออกมาจากหลังเวที หันไปมองหลีเกอด้วยสีหน้ามืดมนในใจก็คิดอะไรบางอย่างหลังจากนั้น เธอก็เดินไปหาคุณนายผู้ร่ำรวยกลุ่มนั้น แล้วก็แสดงสีหน้าเยาะเย้ย "เดี๋ยวรอดูได้เลย มีเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นแน่"คุณนายผู้ร่ำรวยไม่เข้าใจว่าซ่งเซียงเซียงกำลังคิดจะทำอะไร จึงเตือนว่า "คุณหนูซ่ง อย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า"ซ่งเซียงเซียงเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโสโดยไม่พูดอะไรในใจคิดว่าต้องทำให้หลีเกออับอายขายหน้าให้ได้แต่ในเวลานี้ พิธีกรบนเวทีกลับหันไปมองหลีเกอที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน"วันนี้เรามีบุคคลสำคัญผู้ทรงอิทธิพลมากท่านหนึ่งมาร่วมงานของเรา นั่นก็คือประธานบริษัทตี้เซิ่ง คุณหนูหลีเกอ ทางเราขอเชิญคุณหนูหลีเกอขึ้นมาแ
หลีเกอจ้องเขม็งมองเธอ ซ่งเซียงเซียงรู้สึกผิดจึงหดคอลงตีงูต้องตีที่หัวหลีเกอรู้ว่าซ่งเซียงเซียงกังวลสิ่งใดมากที่สุดดังนั้น เธอจึงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา"ถึงเวลาที่สมควรแก่การปฏิรูปบริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคแล้ว งานประชุมสุดยอดทางธุรกิจครั้งนี้ เธอถอนตัวไปเถอะ"เมื่อได้ยินแบบนั้นซ่งเซียงเซียงก็ร้อนรนขึ้นมาจริง ๆ"ไม่ได้"เธอโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังเดียวของครอบครัว ถ้าเธอถอนตัวออกจากการประชุมทางธุรกิจครั้งนี้ บริษัทก็จะได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล"หลีเกอ ฉันจะยอมทำตามที่เธอต้องการทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้ ฉันให้ไม่ได้จริง ๆ"หลีเกอพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ตอนนี้ถ้าถอนตัวไปซะเราก็ยังพอจะประนีประนอมกันได้ แต่ถ้าไม่ยอม เมื่อถึงเวลาที่ต้องถูกบีบให้ถอนตัว คราวนี้เหม่ยห่าวอิเล็กทริคจะถึงคราวพินาศของจริง"ซ่งเซียงเซียงรู้สึกเข่าอ่อนความกลัวจากภายในจู่โจมทั่วทั้งร่าง ไม่คิดเลยว่าหลีเกอจะมีความคิดและกลยุทธ์ที่เฉียบคมแบบนี้ในเวลานี้เธอเสียใจจนแทบจะกลั้นใจตาย แต่ก็ยังพยายามต่อรอง "หลีเกอ เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังของครอบครัวเรา อย่าทำลายมันเลยนะ""ฉ
"คุณหนูหลี ผมทำธุรกิจส่งออก หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมมือกับคุณในอนาคตนะครับ""บริษัทของเราส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ฉันหวังว่าคุณหลีจะให้คำแนะนำแก่ฉันในอนาคต""..."เมื่อเผชิญกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของผู้คน หลีเกอก็ยิ้มตอบอย่างสุภาพ ไม่วางตนโอ้อวดและไม่ดูถูกใคร จึงได้รับความชื่นชมจากผู้คนจำนวนมากแม้แต่นักธุรกิจหลายรายก็เสนอความร่วมมือกับหลีเกอโดยตรง หลีเกอก็ใช้โอกาสนี้กอบโกยคำสั่งซื้อจำนวนมากให้กับบริษัทตี้เซิ่งซ่งเซียงเซียงก็เฝ้าดูเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ตลอดโลกทัศน์ของเธอพังทลายลงตั้งแต่หลีหานแนะนำตัวตนของหลีเกอเธอรู้สึกมึนงงไปหมดเมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงสมัยเรียน เธอกับเพื่อน ๆ ทั้งดูถูก เหยียดหยาม และพูดจาไม่ดีใส่หลีเกอสารพัดคิดแล้วก็ให้รู้สึกเสียใจจนแทบขาดใจทั้ง ๆ ที่มีทรัพยากรที่ดีขนาดนี้อยู่ใกล้ตัว แต่เธอกลับทำลายมันไปเอง"เซียงเซียง มัวยืนอยู่ตรงนี้ทำไม?""พ่อไม่ได้กำชับให้ลูกไปทำความรู้จักกับคุณหนูหลีหรอกเหรอ เพื่อจะได้หาคำสั่งซื้อเพิ่ม แล้วทำอะไรอยู่?"ซ่งฟู่ดึงซ่งเซียงเซียงมาตำหนิเบา ๆซ่งเซียงเซียงยังไม่รู้สึกตัว ตอนนี้เธอจิกเล็บลงไปในเนื้อตัวเองอย่างแ