”สองชายแย่งหนึ่งหญิงอะไรกัน คุณลืมประธานฟู่ที่สนิทกับคุณหลีก่อนหน้านี้ไปแล้วเหรอ? ได้ยินมาว่าประธานฟู่ต่างหากที่เป็นคนที่คุณหลีคบอยู่ตอนนี้”“โอ้โห นี่มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกินไปแล้ว!”“...”เสียงยังไม่ทันจะจบ ก็เห็นฮั่วจิ้นเฉิงที่อยู่ไม่ไกลลุกขึ้นจากโซฟา หลานหนีเดินตามเขาโดยเว้นระยะห่างไปครึ่งก้าวตลอดเวลา“ประธานฮั่ว อย่าใส่ใจกับพนักงานชอบนินทาพวกนั้นเลยค่ะ”ฮั่วจิ้นเฉิงไม่ได้พูดอะไรสายตาหม่นหมอง สีหน้าเย็นชา ราวกับเพิ่งออกมาจากห้องแช่แข็งจากนั้นทั้งสองก็เดินเข้าไปในลิฟต์ทีละคน“เทพธิดา ตลาดตานตงยังมีพื้นที่ขยายกิจการอีกมาก ผมเลยวางแผนว่าจะให้ความสำคัญกับที่นั่นเป็นหลักในอีกสามปีข้างหน้า…”“ไอเดียของคุณดีมาก ตลาดตานตงนั่น ถ้าทำกำไรได้รายรับก็จะมหาศาล”“เทพธิดาวางใจให้ผมจัดการได้เลย ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง... น้ำมันดิบเป็นแนวโน้มหลักในการพัฒนาของเราในอนาคต…”ฉีอวิ๋นเทียนและหลีเกอพูดคุยกันไปเดินออกจากลิฟต์ไปพลางแต่ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะ “คุณหลีกลับมาแล้ว!”คำที่ฉีอวิ๋นเทียนกำลังจะพูดหยุดลงกะทันหันหลีเกอมองตามเสียงไปยังชายที่อยู่ไม่ไกลเธอเม้มปาก
ผู้อำนวยการหูเห็นฮั่วจิ้นเฉิงแววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ประธานฮั่ว ลมอะไรหอบคุณมาถึงตี้เซิ่งได้ครับ?”ฮั่วจิ้นเฉิงเงยหน้าขึ้น มองผู้อำนวยการหูด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเหนือกว่า แค่เพียงสบตากัน ฮั่วจิ้นเฉิงก็ชนะไปครึ่งหนึ่งแล้ว“ทำไม ตี้เซิ่งไม่ต้อนรับผมเหรอ?”ผู้อำนวยการหูยิ้มเจื่อน“คุณฮั่วพูดอะไรอย่างนั้นครับ... แต่ตอนนี้คุณหลีคงไม่สะดวกพบคุณหรอก…”คำพูดนี้แฝงไปด้วยความกำกวม!ผู้อำนวยการหูเป็นคนฉลาด พอจะเดาใจฮั่วจิ้นเฉิงออกฮั่วจิ้นเฉิงไม่มองหน้าผู้อำนวยการหูด้วยซ้ำ แต่หันมองไปทางหลีเกอและฉีอวิ๋นเทียน แล้วตอบกลับอย่างไม่เกรงใจ“สะดวกหรือไม่สะดวก ไม่ใช่คุณที่เป็นคนตัดสิน”ผู้อำนวยการหูหน้าเสีย ได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อน “ประธานฮั่วพูดถูกครับ…”แต่ฮั่วจิ้นเฉิงไม่สนใจเขาอีกหลังจากโยนคำพูดทิ้งไว้ฮั่วจิ้นเฉิงก็เดินไปหาหลีเกอหลีเกอเห็นฮั่วจิ้นเฉิงเธอคิ้วขมวดเล็กน้อย ไม่ให้ความสนใจ“หลีเกอ…”ถึงแม้ฮั่วจิ้นเฉิงจะร้องเรียกเธอก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียอย่างนั้นผลักประตูห้องทำงานเข้าไปหลานหนีเกาจมูกตัวเองด้วยความอึดอัด ตัดสินใจเดินเลี่ยงไป“ประธานฮั่ว ฉันจะไปรอคุณข้าง
เขายังรู้ด้วยว่าเธอได้รับบาดเจ็บ และยังตามไปถึงประเทศ Fเพียงแต่ว่า...ตระกูลหลีซ่อนเธอไว้ดีเกินไปเขาอยู่ที่ประเทศ F สิบวันเต็ม ๆ แต่ก็ไม่สามารถเข้าเยี่ยมเธอได้หลังจากที่เขากลับมา เขาก็รอเธออยู่ที่ตี้เซิ่งตลอดหลีเกอซ่อนอารมณ์ทั้งหมดไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คุณฮั่วเป็นห่วงฉันเหรอคะ? แต่ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ เพราะฉันไม่ต้องการความห่วงใยจากคุณ”“เห็นว่าคุณปลอดภัย ผมก็สบายใจแล้ว” ฮั่วจิ้นเฉิงพูดกับตัวเองหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ “ตอนนี้หุ่นยนต์นาโนเทคโนโลยีที่ร่วมมือกับซางรุ่ยกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอย่างเข้มข้น เดือนหน้าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นี่เป็นโครงการแรกที่เราทำงานร่วมกัน ถ้าคุณมีเวลา เราสามารถไปดูด้วยกันได้”ฮั่วจิ้นเฉิงพูดเรื่องงานคราวนี้หลีเกอกลับไม่ปฏิเสธ เพราะนี่เป็นโครงการที่อยู่ในความดูแลของเธอ“ได้ค่ะ ฉันจะหาเวลาเข้าไป”ฮั่วจิ้นเฉิงเพิ่งจะได้ยินบทสนทนาระหว่างหลีเกอกับผู้อำนวยการหู เขาพอเดาได้คร่าว ๆ ว่าหลีเกอที่อยู่ตรงหน้ากำลังต้องการความช่วยเหลือดังนั้นเขาจึงพูดต่อ“คุณหลี ตอนนี้ฮั่วกรุ๊ปกำลังติดต่อโครงการใหม่ ๆ อยู่ ถ้าคุณสนใจ เราสามาร
หลีเกอได้สติกลับคืนมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง “ว่าไงนะ?”ฉีอวิ๋นเทียนดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศพิเศษระหว่างหลีเกอกับฮั่วจิ้นเฉิง เขาจึงพูดด้วยความผิดหวัง “... ถ้าคุณอยากจะกลับไปหาเขา ผมจะเคารพการตัดสินใจของคุณ”หลีเกอหัวเราะออกมา “ทำไมล่ะ? ไม่มั่นใจในตัวเองขนาดนั้นเลยเหรอ?”ฉีอวิ๋นเทียนพูดต่อ “ถ้าคู่แข่งคือฮั่วจิ้นเฉิง แพ้ให้เขาก็ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย แต่ว่านะเทพธิดา คุณต้องคิดให้รอบคอบนะ ปัญหาในตอนนั้นใช่จะคลี่คลายง่าย ๆ ถ้าพวกคุณจะกลับมาคบกันอีกครั้ง อย่างน้อยก็ควรจะสะสางปัญหานั้นก่อน”หลีเกอได้ยินดังนั้นก็รีบขัดจังหวะเขา “ใครบอกว่าฉันจะกลับไปคบกับเขา?”ดวงตาของฉีอวิ๋นเทียนเป็นประกาย จ้องมองเธออย่างจดจ่อ“เทพธิดา คุณไม่ได้…”หลีเกอพยักหน้าเล็กน้อย “อย่างน้อยจนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่มีความคิดที่จะกลับไปคบกับเขา”ฉีอวิ๋นเทียนร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น! “เทพธิดา คำพูดของคุณหมายความว่าผมยังมีโอกาสใช่ไหม?”หลีเกอเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาวันนี้เธอตั้งใจจะใช้โอกาสนี้พูดให้ชัดเจนกับเขาเหมือนกัน“ฉีอวิ๋นเทียน คุณมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าฉันคือตัวเลือกสุดท้ายในชีวิตคุณ?”ฉีอวิ๋นเทียนพ
“อย่าเอาแต่พูดไปเรื่อยสิ”หลีเกอพูดอย่างจริงจัง“ฉันเชื่อเหลือเกินว่าสักวันคุณจะหาความสุขของตัวเองเจอ”ฉีอวิ๋นเทียนทำหน้าสบาย ๆ พยักหน้ารับทราบเขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แววตาของเขากลับแน่วแน่ในการตัดสินใจของตัวเองมากขึ้น...หลายวันต่อมา หลีเกองานยุ่งมากเนื่องจากงานที่คั่งค้างไว้ตั้งแต่ก่อนงานแฟชั่นโชว์ เธอต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อชดเชย จนกระทั่งวันเสาร์มาถึง หลีเกอจึงได้หยุดพักเช้าตรู่เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณย่าฮั่ว“เสี่ยวเกอ วันนี้เธอจะมาที่คฤหาสน์ไหม?”หลีเกอรู้สึกลังเลอยู่บ้าง แต่รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความคาดหวังในน้ำเสียงของคุณย่าฮั่ว จึงตอบตกลง“คุณย่า วันนี้เป็นวันเกิดคุณทั้งที หนูจะไปให้ตรงเวลาแน่นอนค่ะ”เมื่อได้รับคำตอบที่แน่ชัดคุณย่าฮั่วก็มีความสุขมาก รอยยิ้มบนใบหน้าไม่จางหายไป“ดี ดี ดี! งั้นย่าจะรอเธอที่คฤหาสน์นะ”หลังจากวางสายหลีเกอก็เงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่าง แสงแดดตอนเช้าสาดส่องเข้ามาในห้อง สีสันอบอุ่น วันนี้อากาศดีเป็นพิเศษหลีเกอหยิบเครื่องประดับหยกที่ซื้อจากงานประมูลครั้งก่อนออกมาจากตู้เซฟ แล้วเรียกพ่อบ้านเข้ามา“ลุงจาง ช่วยหากล่องของขวัญมาห่
แถมลูกชายอีกฝ่ายยังเก่งขนาดนี้ไม่เหมือนเธอที่ทั้งชีวิตมีลูกสาวอย่างฮั่วอวิ๋นเจินเพียงคนเดียว!แน่นอนว่าเธอต้องด้อยกว่าอีกฝ่ายอยู่แล้ว ดังนั้นระหว่างคนทั้งสองจึงขัดแย้งเหน็บแนมกันเป็นประจำ"ฉันหาคู่ให้เจินเจินของฉัน มันไปขวางหูขวางตาอะไรเธอ ได้ยินมาว่าฮั่วซินถูกจิ้นเฉิงส่งไปแอฟริกาแล้ว คงยังไม่ถึงคิวเธอในเร็ว ๆ นี้หรอกมั้ง"เมื่อได้ยินคำพูดนี้สีหน้าของหลี่ซูฉินก็เปลี่ยนไปทันทีเหมือนเป็นหนามแหลมแทงเข้ามาในหัวใจ"...ซินซินของเราแค่ไปแอฟริกาพักหนึ่ง เดี๋ยวก็กลับมา"แต่เมื่อพูดจบ หลี่ซูฉินก็หมดความมั่นใจและเดินจากไปอย่างหมดอารมณ์กัวเหลียนชนะอย่างราบคาบ เธออดไม่ได้ที่จะดึงมือคุณย่าฮั่ว "แม่ ช่วยดูให้หน่อยนะคะ ประธานของเอฟแอลกรุ๊ป ฟู่ซิวเป่ย หล่อเหลาและมีความสามารถมาก ภายในเวลาไม่กี่เดือนก็ทำให้บริษัทกลายเป็นที่ยอมรับขึ้นมาได้ เขาเป็นคนเก่งกาจมาก..."คุณย่าฮั่วขมวดคิ้วเล็กน้อยและปรามเธอ"พอแล้ว ไว้เดี๋ยวค่อยคุยกัน"กัวเหลียนเม้มริมฝีปากด้วยความไม่พอใจ "ก็ได้ค่ะ คุณแม่"จากนั้นก็หันไปมองฮั่วอวิ๋นเจิน "เจินเจิน ดูสิ! ลูกต้องชอบฟู่ซิวเป่ยคนนี้แน่ ๆ"แต่ฮั่วอวิ๋นเจินกลับไม่สนใจ
โม่อี้เฟยอดไม่ได้ที่จะพูดต่อ "เมื่อก่อนพวกเธอจ้องเล่นงานหลีเกอ ใส่ร้ายหลีเกอสารพัด ไม่เห็นนายจะรู้สึกอะไร""แต่ตอนนี้พูดแค่สองสามคำก็มีปฏิกิริยาขนาดนี้แล้ว ฉันว่านายความรู้สึกช้าไปหน่อยนะ"ฮั่วจิ้นเฉิงตอบอย่างไม่รีบร้อน "วันนี้นายก็พูดมากไปหน่อยเหมือนกัน"โม่อี้เฟยเห็นว่าเขาตอบไม่ตรงคำถาม ก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น เขาเอื้อมมือไปโอบไหล่ฮั่วจิ้นเฉิง "เพื่อน นายกำลังรอใครอยู่หรือเปล่า?"ใครที่โม่อี้เฟยพูดถึงก็คือหลีเกอมุมปากของฮั่วจิ้นเฉิงกระตุก "นายว่างมากหรือไง?"โม่อี้เฟยปฏิเสธอย่างรวดเร็ว "เปล่า แค่เป็นคนอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย""แต่เพื่อน ฉันขอเตือนนายด้วยความหวังดีนะ ถ้าตอนนี้นายรู้ใจตัวเองแล้ว และอยากจะตามง้อหลีเกอกลับมา นายต้องแสดงความจริงใจให้เป็น""เรื่องที่ทำผิดพลาดไปในอดีต นายต้องยอมรับ ต่อให้โดนทุบตีก็ต้องยืนนิ่ง ๆ ให้เธอทำ!"ในดวงตาของโม่อี้เฟยหยีเป็นรอยยิ้ม "ขอพูดประโยคเดียวแล้วกัน ปฏิบัติกับเธอให้ดี"ฮั่วจิ้นเฉิงตอบกลับอย่างไม่พอใจ "ไม่ต้องรอให้นายสอนหรอก!"ขณะที่กำลังคุยกันอยู่นั้น มาเซราติสีขาวก็ปรากฏอยู่ในสายตา โม่อี้เฟยอดไม่ได้ที่จะผิวปาก เสียงของเขาลอยต
"แต่หลีเกอ ฉันได้ยินมาว่าเธอดูแลบริษัทตี้เซิ่งอยู่นี่นา เป็นประธานบริษัทซะด้วย เก่งจริง ๆ เลยนะ บริษัทของอาเขยเธอเมื่อไม่นานมานี้มีการปลดพนักงานออก เขาตกงานอยู่พอดี เธอช่วยดูให้หน่อยได้ไหมว่าเขาพอจะย้ายไปทำงานที่ตี้เซิ่งได้หรือเปล่า?"หลีเกอไม่ได้ตอบแต่ฮั่วซวงซวงกลับไม่รู้สึกโกรธเคือง "ก่อนหน้านี้อาเขยของเธอเป็นแค่หัวหน้าแผนก ฉันว่าถ้าเขาย้ายไปตี้เซิ่ง บางทีอาจจะนั่งแท่นผู้จัดการได้สบาย"คุณย่าฮั่วที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินเข้าก็ทำตาเขียวหลีเกอเห็นดังนั้นจึงพูดว่า "พูดอะไรแบบนี้ คุณเป็นสมาชิกตระกูลฮั่ว บริษัทใหญ่โตอย่างฮั่วกรุ๊ปจะจัดสรรงานให้ญาติสักงานคงไม่ใช่เรื่องยาก บริษัทเราเล็กเกินไป คงไม่สามารถรองรับบุคคลใหญ่โตเช่นนี้ได้"คำพูดของหลีเกอตรงไปตรงมาไร้ความเกรงใจสีหน้าของฮั่วซวงซวงเปลี่ยนไปในทันที หลีเกอพูดจี้จุดอ่อนของเธอ ถ้าเข้าฮั่วกรุ๊ปได้ เธอต้องมาอึดอัดแบบนี้เหรอ?ก็เพราะว่าสามีของเธอไม่มีความสามารถอะไรเลย ฮั่วจิ้นเฉิงถึงเอาแต่ดูถูกเขา!แต่เมื่อหลีเกอพูดออกมา คราวนี้ฮั่วซวงซวงกลับโกรธจนหน้าแดง"หลีเกอ เธอจะหยิ่งอะไรนักหนา! แค่ให้จัดการงานให้สักงานก็ไม่ยอม สมควรแล้วที่จิ้นเ