Home / โรแมนติก / เศรษฐีสาวขอเอาคืน / บทที่ 222 ช่วงเวลาวิกฤต

Share

บทที่ 222 ช่วงเวลาวิกฤต

Author: เกาลัดไม่หวาน
last update Last Updated: 2024-08-06 11:41:36
แต่เจินซินกลับสำลักไออย่างรุนแรงและส่ายหน้า

น้ำตาไหลอาบแก้ม พูดอย่างยากลำบาก

“หลีหราน จริง ๆ ฉันอยากบอกนายมานานแล้วว่า ฉัน... ฉันชอบนายมานานแล้ว นานมาก ๆ แล้วด้วย…”

แต่หลีหรานกลับไม่ได้ยินคำพูดของเธอ

เห็นว่าเธอทรมานมาก จึงกอดเธอไว้ตลอดเวลา

พูดแค่ว่า “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ตอนนี้ออกซิเจนน้อยลงเรื่อย ๆ ถ้าพูดต่อไปจะยิ่งหายใจไม่ออก”

แต่เจินซินก็ไม่สนใจ

เธอกลับรู้สึกว่าความตายคืบคลานเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ...

แม้ว่าจะไอรุนแรงจนแทบลืมตาไม่ขึ้น แต่เธอก็ยังคงกอดหลีหรานไว้แน่น

แม้ว่าจะเป็นวินาทีสุดท้ายของชีวิต เธอก็ยังอยากอยู่กับเขา

ทุกคนต่างก็น้ำตาคลอเบ้า

บรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุข กลับตกอยู่ในสภาวะเฉียดใกล้ความตาย...

เวลานี้

ฟู่ซิวเป่ยเห็นถังดับเพลิงบนผนังด้านนอก เขาไม่ลังเลเลยที่จะถอดเสื้อผ้าออก แล้วชุบน้ำคลุมหัวตัวเองไว้แล้ววิ่งออกไป

“พี่ซิวเป่ย…”

เนื้อตัวฟู่ซิวเป่ยถูกไฟเผาไหม้

แต่เขาก็รีบหยิบถังดับเพลิงบนผนังลงมาอย่างรวดเร็ว เปิดฝาแล้วฉีดไปทางต้นเพลิง “หลีเกอ รีบออกมา… ทุกคนรีบออกมาเร็ว…”

พร้อมกับเสียงของเขา

ทุกคนก็รีบวิ่งไปยังทางออก

จนกระทั่งวินาทีสุดท้
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 223 ฟู่ซิวเป่ยช่วยเธอไว้

    สายตาของหลีหานมองด้วยความเครียดแล้วพูดว่า “หลีเกอ คราวนี้เธอทำให้ทุกคนตกใจแทบแย่”“โดยเฉพาะคุณปู่ ท่านไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาสามวันแล้ว”หลีเกอหันไปมองหลีเจิ้งเฟยด้วยความรู้สึกผิด “คุณปู่ ขอโทษนะคะ”หลีเจิ้งเฟยจับมือเธอไว้ “เด็กคนนี้ ขอโทษปู่ทำไมกัน! เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นขนาดนี้ จะว่าบาดเจ็บสาหัสก็ว่าได้ โชคดีที่พ่อหนุ่มตระกูลฟู่ไม่กลัวตาย เข้าไปช่วยเธอออกมาจากกองเพลิง…”เมื่อพูดถึงฟู่ซิวเป่ยหลีเกอมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นร่างของเขา จึงถามว่า “คุณปู่ พี่ซิวเป่ยอยู่ไหนคะ?”หลีหานกับหลีหรานที่ยืนอยู่ด้านหลังสบตากัน สุดท้ายหลีหานก็พูดว่า “วางใจได้ ฟู่ซิวเป่ยไม่เป็นอะไร! แค่แขนกับหลังมีแผลไฟไหม้นิดหน่อย ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยข้าง ๆ คุณป้าเฝ้าเขาอยู่น่ะ”หลีเกอทนนอนนิ่งไม่ไหวอีกต่อไปรีบลุกขึ้น “พี่ว่าไงนะ พี่ซิวเป่ยได้รับบาดเจ็บเหรอ?”พูดถึงเรื่องนี้หลีหรานก็รู้สึกผิดมาก ตอนนั้นเขามัวปกป้องเจินซิน แต่ไม่ได้ปกป้องหลีเกอ จึงถูกคุณปู่และบรรดาพี่ ๆ ตำหนิอย่างรุนแรงคราวนี้ต้องขอบคุณฟู่ซิวเป่ยเขาคือผู้มีพระคุณที่แท้จริงของตระกูลหลี“อย่าห่วงเลย หมอฝีมือดีที่สุดในโลกกำลังรั

    Last Updated : 2024-08-06
  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 224 ลงโทษกู้หว่านชิง

    “งั้นก็ดีเลย แล่เนื้อเถือหนังเป็นชิ้นยังน้อยเกินไป เรื่องนี้ฝากพวกเธอจัดการแทนด้วย”ตระกูลหลีและตระกูลฟู่ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยบทสรุปสุดท้ายของกู้หว่านชิงนั้นพอจะคาดการณ์ได้ตั้งแต่แรกแล้วภายในห้องที่ทั้งมืดและอับชื้นมือและเท้าของกู้หว่านชิงถูกมัดติดกันหมดอย่างแน่นหนา สองตาก็ถูกผ้าดำผืนหนึ่งคาดปิดไว้ ปากถูกยัดด้วยถุงเท้าเหม็นเน่า ทำให้พูดอะไรไม่ได้ ได้แต่ส่งเสียงอู้อี้...ในเวลานี้ประตูห้องมืดถูกเปิดออก เสียงฝีเท้าเดินตรงเข้ามาหา กู้หว่านชิงรู้สึกว่ามีคนเข้ามา ก็พยายามดิ้นรนร่างกายอย่างไม่หยุดหย่อน ปากส่งเสียงอู้อี้ราวกับจะขอร้องคนที่เข้ามาหลีเกอยืนอยู่ที่นั่น มองเธอจากมุมสูงด้วยสายตาเย็นยะเยือก สุดท้ายก็พูดว่า “...ฉันเอง หลีเกอ”เมื่อเสียงดังขึ้นการเคลื่อนไหวทั้งหมดของกู้หว่านชิงก็หยุดชะงักลงทันทีเธอหันไปทางหลีเกอ แต่มองไม่เห็นอะไรเลยหลีเกอเอื้อมมือไปแกะผ้าดำออก ทันใดนั้นดวงตาของกู้หว่านชิงก็เต็มไปด้วยความลนลานหวาดกลัว ร่างกายสั่นเทาไม่หยุดหลีเกอหัวเราะเยาะ“กลัวเป็นด้วยเหรอ ตอนวางเพลิงไม่เห็นจะกลัวเลย”กู้หว่านชิงส่ายหัวรัว ๆเพราะความกลัว ดวงตาคู่นั้นจึงเจิ่ง

    Last Updated : 2024-08-06
  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 225 อย่าเล่นกับเจ้าหญิงตระกูลหลี

    สิ้นเสียงกรีดร้องกู้หว่านชิงก็เป็นลมไปทันทีนอกห้อง ทุกคนเห็นเหตุการณ์นี้ผ่านกล้องวงจรปิดหลีหรานอดหัวเราะเยาะไม่ได้ แววตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “งูตัวนี้ไม่มีพิษด้วยซ้ำ ดันกลัวจนเป็นลมไปซะได้”หลีลั่วอดถากถางไม่ได้“ธรรมชาติของผู้หญิงทุกคนกลัวงูอยู่แล้ว ต่อให้จะเป็นงูเหลือมธรรมดาก็เถอะ แต่วันนี้มันเพิ่งจะเริ่มต้น”“เราจะปล่อยงูเข้าไปทุกวัน ดูซิว่าเธอจะทนได้สักแค่ไหน!”“กล้ามาหาเรื่องเจ้าหญิงตระกูลหลี ถ้าไม่ทำให้เสียสติหรือโง่ไปเลย คงจะไม่สาสมกับสิ่งที่เธอกระทำ”“...”หลีหรานขนลุกซู่ไปทั้งตัว“ได้ งั้นทำตามแผนเลย”หลีเกอไม่สนใจเรื่องราวต่อจากนี้ของกู้หว่านชิง หลังจากมอบหมายให้พี่ชายทั้งสองจัดการต่อแล้วเธอก็ไม่ได้ถามอะไรอีก กลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลฟู่ซิวเป่ยอย่างใกล้ชิดที่จริงแล้วอาการของฟู่ซิวเป่ยไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นแต่เพราะถูกพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายกวดขัน เขาจึงต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลกว่าครึ่งเดือนถึงจะออกมาได้หลีเกอที่อยู่ในประเทศ F ตลอด จึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองปินเฉิงจนกระทั่งหลีหรานส่งข่าวที่เห็นในอินเทอร์เน็ตให้อ่าน “นี่ไง งานแสดงแฟชั่นโ

    Last Updated : 2024-08-06
  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 226 ตรวจสอบไม่พบเบาะแส

    แต่หลีหานกลับมองไปที่หลีเกอ“เสี่ยวเกอ! เมื่อกี้เจิ้งหลิ่วโทรมา…”เมื่อพูดถึงเจิ้งหลิ่ว หลีเกอก็เดาได้คร่าว ๆ ว่าเป็นเรื่องอะไร “เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในงานแสดงแฟชั่นโชว์หรือเปล่าคะ?”หลีหานพยักหน้า“เจอตัวคนร้ายที่ตัดชุดแล้ว เขาสารภาพว่าเข้าไปในห้องหลังเวที ใช้กรรไกรตัดชุดหลักที่ใช้เดินแบบ และสารภาพว่าซ่อนใบมีดไว้ในรองเท้าส้นสูงของนางแบบด้วย…”หลีเกอโกรธจนกัดฟันกรอด“แล้วไงต่อ”หลีหานพูดต่อ “แต่พี่เช็กแล้ว เขาเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีภาระและพันธะ ไม่มีอะไรเลย”“บัญชีธนาคารของเขามีเงินโอนเข้ามาหนึ่งล้านหยวนก่อนเกิดเหตุ แต่ตรวจสอบไม่ได้ว่ามาจากไหน”“และเขาก็เอาแต่ปิดปากเงียบ สารภาพแค่ว่าตัวเองทำเรื่องพวกนี้เอง แต่ไม่ยอมรับว่าใครเป็นคนสั่งให้ทำ…”“...”เมื่อได้ยินแบบนี้ หลีเกอก็เข้าใจได้คร่าว ๆ “หมายความว่าสาวไปหาต้นตอไม่ได้แล้วสินะ”หลีหานพยักหน้า“เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายซ่อนตัวอยู่ในที่มืดเพื่อจ้องเล่นงานเธอ แบบนี้ป้องกันได้ยาก ลองคิดแบบจริงจังดูซิว่าเธอเคยไปขัดขาใครบ้าง?”หลีเกอเกาหัว “อันนี้… ฉันก็ไม่รู้ค่ะ”“แต่คนที่ไม่ชอบฉันมีเยอะมาก”สีหน้าของหลีหานยิ่

    Last Updated : 2024-08-06
  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 227 เยาะเย้ย

    หลีหานเห็นเธอพูดแบบนี้ จึงตกลงยอมให้เธอเดินทางไปจากประเทศ Fเมื่อกลับมาที่เมืองปินเฉิง สิ่งแรกที่หลีเกอทำคือไปเยี่ยมศาสตราจารย์โม่มหาวิทยาลัยปินเฉิง ห้องพักคณาจารย์ตอนนี้ศาสตราจารย์โม่กำลังพานักศึกษากลุ่มหนึ่งชมผลงานของหลีเกองานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้“...ศาสตราจารย์โม่ งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่วนใหญ่มาจากผลงานการออกแบบชุดหลักครั้งนี้” โจวผอ นักศึกษารายหนึ่งของศาสตราจารย์โม่กล่าวศาสตราจารย์โม่พยักหน้าเห็นด้วย“ใช่แล้ว การออกแบบครั้งนี้โดดเด่นมาก ภาควิชาของเราได้รับคำเชิญจากงานแสดงแฟชั่นระดับนานาชาติหลายแห่ง”“จริงเหรอคะ อาจารย์! งั้นพวกเรามีโอกาสไปดูงานแสดงแฟชั่นต่างประเทศด้วยหรือเปล่าคะ?” นักศึกษารายหนึ่งตาโตเป็นประกาย“แน่อยู่แล้ว! เพียงแต่โอกาสแบบนี้หายากนัก”“ก่อนหน้านี้วงการแฟชั่นนานาชาติมักปฏิเสธผลงานของเรา แม้กระทั่งดูถูกเราว่าเราออกแบบเสื้อผ้าคนละระดับกับแฟชั่นนานาชาติ แต่ตอนนี้เราได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเราแล้ว”“ช่างน่าปลาบปลื้มใจจริง ๆ เลยค่ะ”...กลุ่มนักศึกษาอายุยี่สิบต้น ๆ ต่างก็ตื่นเต้นกันมากมีเพียงคนเดียวที่ไม่มีสีหน้ายินดีแม้แต่น

    Last Updated : 2024-08-06
  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 228 ฝากตัวเป็นศิษย์ของศาสตราจารย์โม่

    “สวีชาง พูดอะไรน่ะ! พี่หลีเกอใช้ความสามารถที่แท้จริงของเธอเองในการคว้าตำแหน่งผู้ออกแบบหลักในครั้งนี้ งานแฟชั่นโชว์เพิ่งจบลงไป ผลตอบรับในสังคมก็ดีมาก แสดงให้เห็นถึงความสามารถของพี่หลีเกอ เธอที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอย่ามาพูดพล่ามให้มาก”สวีชางไม่สนใจใบหน้าเกือบจะเขียนคำว่าดูถูกตัวโต ๆ เอาไว้แล้ว“ฮ่า ฮ่าเท่านั้นเองเหรอ เรื่องแบบนี้ใคร ๆ ก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหลีเกอคนเดียว!”“สวีชาง พอได้แล้ว!”โจวเทาเข้าไปขวางเขาไว้โดยตรง แต่สวีชางก็ไม่สะทกสะท้าน “หลีเกอ คุณกล้าพูดหรือเปล่าว่าคุณไม่ได้ใช้ฐานะและภูมิหลังของตัวเองเข้าช่วย”เมื่อคำถามนี้หลุดออกมาใบหน้าของหลีเกอกลับไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น เธอเงยหน้าขึ้นมองสวีชาง เธอไม่รู้จักเขาเลย และไม่เข้าใจว่าความเกลียดชังในดวงตาเขามีเหตุผลมาจากไหนแต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอต้องอธิบายให้ชัดเจน“การคัดเลือกผู้ออกแบบหลักในครั้งนี้ เป็นไปอย่างยุติธรรม ไม่มีกลเม็ดเด็ดพรายใด ๆ ตามที่คุณกล่าวหา”เมื่อสวีชางได้ยินก็ระเบิดหัวเราะออกมาสุดเสียง“ก็แค่คำพูด ใครจะเชื่อ พวกเธอเชื่อกันเหรอ?”ในเวลานี้ โจวเทาก็ปกป้องอีกครั้ง “สวีชาง ตำแหน่งผู้ออก

    Last Updated : 2024-08-06
  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 229 ข่าวซุบซิบแห่งศตวรรษ

    หลีเกออมยิ้ม“ตามใจอาจารย์ค่ะ ฉันไม่มีความคิดเห็น”ดังนั้นทุกคนจึงช่วยกันเตรียมพร้อม ในไม่ช้าก็มีคนนำชาถ้วยหนึ่งมาให้หลีเกอหลีเกอรับมาแล้วเดินไปหาอาจารย์โม่ เธอคุกเข่าลงทันที “อาจารย์คะ โปรดรับการคำนับจากศิษย์ด้วยค่ะ!”อาจารย์โม่รับถ้วยชามาจากเธอ แล้วหยิบซองแดงขนาดใหญ่ออกจากกระเป๋าเสื้อส่งให้เธอ“ลูกศิษย์ ลุกขึ้นเถอะ!”“ขอบคุณค่ะอาจารย์!”หลังจากจบพิธีรับศิษย์ อาจารย์โม่ดีใจจนอยากจะอวดศิษย์คนใหม่ของตัวเองไปทั่ว!เขาไม่ได้อยู่เฉยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความไปหาอาจารย์ใหญ่หลายท่านที่เขาสนิทสนมในแวดวงเดียวกันมันมีความหมายเหมือนกับการประกาศให้โลกรู้!...เมื่อออกมาจากมหาวิทยาลัยปินเฉิง หลีเกอก็เห็นเงาร่างสูงโปร่งยืนอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปใกล้ ฉีอวิ๋นเทียนก็สังเกตเห็นเธอก่อนเขาเดินตรงเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว“เทพธิดา! กลับมาจีนแล้วเหรอ?”หลีเกอเห็นว่าเขามีสีหน้าเหนื่อยล้ามาก จึงพูดด้วยความประหลาดใจ “คุณมาที่นี่ทำไม?”ฉีอวิ๋นเทียนกลับมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วพูดว่า “ได้ยินมาว่าเธอติดอยู่ในเหตุไฟไหม้ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า? เป็นอะไรมากไหม?”“ฉันไม่เป็นไ

    Last Updated : 2024-08-06
  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 230 ผู้ร้ายแสร้งทำเป็นคนดี

    ”สองชายแย่งหนึ่งหญิงอะไรกัน คุณลืมประธานฟู่ที่สนิทกับคุณหลีก่อนหน้านี้ไปแล้วเหรอ? ได้ยินมาว่าประธานฟู่ต่างหากที่เป็นคนที่คุณหลีคบอยู่ตอนนี้”“โอ้โห นี่มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกินไปแล้ว!”“...”เสียงยังไม่ทันจะจบ ก็เห็นฮั่วจิ้นเฉิงที่อยู่ไม่ไกลลุกขึ้นจากโซฟา หลานหนีเดินตามเขาโดยเว้นระยะห่างไปครึ่งก้าวตลอดเวลา“ประธานฮั่ว อย่าใส่ใจกับพนักงานชอบนินทาพวกนั้นเลยค่ะ”ฮั่วจิ้นเฉิงไม่ได้พูดอะไรสายตาหม่นหมอง สีหน้าเย็นชา ราวกับเพิ่งออกมาจากห้องแช่แข็งจากนั้นทั้งสองก็เดินเข้าไปในลิฟต์ทีละคน“เทพธิดา ตลาดตานตงยังมีพื้นที่ขยายกิจการอีกมาก ผมเลยวางแผนว่าจะให้ความสำคัญกับที่นั่นเป็นหลักในอีกสามปีข้างหน้า…”“ไอเดียของคุณดีมาก ตลาดตานตงนั่น ถ้าทำกำไรได้รายรับก็จะมหาศาล”“เทพธิดาวางใจให้ผมจัดการได้เลย ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง... น้ำมันดิบเป็นแนวโน้มหลักในการพัฒนาของเราในอนาคต…”ฉีอวิ๋นเทียนและหลีเกอพูดคุยกันไปเดินออกจากลิฟต์ไปพลางแต่ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะ “คุณหลีกลับมาแล้ว!”คำที่ฉีอวิ๋นเทียนกำลังจะพูดหยุดลงกะทันหันหลีเกอมองตามเสียงไปยังชายที่อยู่ไม่ไกลเธอเม้มปาก

    Last Updated : 2024-08-06

Latest chapter

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 340 กุหลาบมีหนาม

    เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างกายของผู้หญิงกลุ่มนี้ก็สั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเคยลิ้มรสความโหดเหี้ยมของแส้มาก่อนในเวลานี้ เฉวียนเย๋ หัวหน้ากลุ่มก็เดินออกมาดวงตาไร้ความรู้สึกจ้องมองหลีเกอ "ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะเก่งขนาดนี้… ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็หนีออกมาได้แล้ว"หลีเกอมองเขาอย่างเย็นชา น้ำเสียงไร้ความอบอุ่น"ปล่อยเราไป ไม่งั้นฉันจะถล่มที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลอง"ชายคนนั้นกลับหัวเราะราวกับได้ยินเรื่องตลก แล้วก็ตบมือ เดินเข้ามาหาหลีเกอต้องยอมรับว่าหลีเกอมีเครื่องหน้าที่สวยมาก แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมสมบุกสมบันแบบนี้ แต่ก็ยังคงมีความสวยที่แตกต่างออกไป นางฟ้านางสวรรค์แบบนี้ ถ้าพาไปขายในตลาดมืดคงจะได้ราคาดีไม่น้อยแต่ก็เท่านั้นแหละ สวยก็ส่วนสวย แต่กลับเป็นกุหลาบมีหนาม"ปล่อยพวกเธอไปเหรอ ฝันไปเถอะ"พูดจบ เขาก็โบกมือให้บอดี้การ์ดสองสามคนเดินเข้าไปแต่ในเวลานี้ลูกน้องอีกคนก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา "พี่เฉวียน ไม่ดีแล้ว บาร์ของเราถูกปิดล้อมแล้ว"สีหน้าของพี่เฉวียนเปลี่ยนไปทันที ตะโกนด้วยความโกรธ “ได้ยังไงวะ?!""คำสั่งของตระกูลหลี ตระกูลหลีมหาเศรษฐีครับ"พี่เฉวียนคว้าค

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 339 เอาชีวิตมาทิ้งหรือไง

    "จะทำยังไงดี พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะถูกส่งตัวออกไปแล้ว… จะไม่มีวันได้เจอครอบครัวอีกแล้วใช่ไหม?""ฮือฮือฮือ ฉันไม่อยากตาย ใครก็ได้ช่วยเราที""..."พูดจบก็มีเสียงสะอื้นดังระงมหลีเกอเห็นภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าท่ามกลางสังคมที่เจริญแล้วเช่นนี้ จะยังมีเรื่องราวมืดดำแบบนี้ซุกซ่อนอยู่สายตาของเธอเหลือบมองไปตามเสียงสะอื้นแต่ในวินาทีถัดมา เธอกลับสบเข้ากับดวงตาคู่หนึ่งที่เย็นชาอย่างมาก ซึ่งขัดกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าหญิงสาวดังกล่าวดูอายุประมาณสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี แต่กลับมีความเยือกเย็นและเฉลียวฉลาดเหมือนผู้ใหญ่ใบหน้าของเธอไร้อารมณ์ แต่ดวงตากลับจ้องมองหลีเกอราวกับต้องการจะมองให้ทะลุปรุโปร่งทั้งสองฝ่ายต่างเงียบ ไม่พูดอะไรผ่านไปครึ่งชั่วโมงหญิงสาวจึงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจนัก "คุณจะช่วยเราออกไปได้จริง ๆ เหรอ?"หลีเกอตอบอย่างมั่นใจ "เชื่อฉันสิ เราต้องออกไปได้แน่นอน"ประโยคนี้เปรียบเสมือนผู้ไถ่บาปที่ทำให้บรรดาหญิงสาวมีความหวัง แต่ในวินาทีถัดมา หญิงสาวก็เห็นว่าหลีเกอถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ความหวังที่เพิ่งผุดขึ้นดับวูบลงไปหลีเกอลดสายตาลง

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 338 ธุรกิจมืด

    ชายในห้องเดินออกมาหลังจากนั้น เมื่อเห็นหลีเกอก็ตาเป็นประกาย "โอ้โห นี่มันของดีจากไหนกัน..."บางคนจำหลีเกอได้ว่าเป็นคนที่เข้ามาพร้อมกับฉีอวิ๋นเทียน จึงกระซิบบอกชายคนนั้นว่า "พี่เฉวียน คนนี้เป็นแขกที่คุณชายฉีพามาครับ"เมื่อชายคนนั้นได้ยินชื่อฉีอวิ๋นเทียน สีหน้าก็เปลี่ยนไปแล้วก็เดินเข้ามาหาหลีเกอ "เมื่อกี้เธอเห็นอะไร ได้ยินอะไรบ้าง?"หลีเกอจ้องเขม็งมองเขา ไม่มีแววความกลัวในดวงตา "พวกคุณทำธุรกิจอย่างเปิดเผย แต่ที่ไหนได้ กลับมีธุรกิจมืดอีกอย่างหนึ่งซ่อนอยู่ ผู้หญิงในห้องนั้น พวกคุณลักพาตัวมาใช่ไหม?"ชายคนนั้นยิ้ม แววตาแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม "ดูเหมือนวันนี้เธอคงไม่อยากออกไปจากที่นี่แล้ว...แต่ก็ดี ของดีแบบเธอน่ะหายาก"พูดจบก็โบกมือให้ลูกน้องเดินเข้ามาหลีเกอหัวเราะเยาะ "อยากจับฉัน ก็ลองดูสิว่าพวกนายมีปัญญาหรือเปล่า"ทันทีที่พูดจบ ชายร่างกำยำหลายคนก็กรูเข้ามา หลีเกอมีสีหน้าเคร่งขรึม ลงมือสวนกลับอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เตะตัดขาของคู่ต่อสู้ทุกการออกแรงไม่มีความลังเลเลย เตะจนคู่ต่อสู้ถอยหลังไปหลายก้าวชายที่ถูกเรียกว่าพี่เฉวียนรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที "ดูเหมือนตั้งใจมาหาเรื่องสินะ"พูดจบ

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 337 ค้นพบห้องลับ

    ฉีอวิ๋นเทียนพยักหน้ารัวเร็ว "แหงสิ นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญ""แต่ฉันสังหรณ์ใจว่าคุณน่าจะได้เจอกับเนื้อคู่ของคุณเร็ว ๆ นี้"เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉีอวิ๋นเทียนก็ตกใจ "เทพธิดา ล้อกันเล่นหรือเปล่า?"หลีเกอขมวดคิ้ว "ทำไม ไม่เชื่อเหรอ?""ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ในโลกนี้ นอกจากคุณแล้ว หายากมากที่จะมีใครทำให้หัวใจผมสั่นไหวอีก"ฉีอวิ๋นเทียนพูดจบก็ถอนหายใจ "แต่เมื่อเทียบกับตัวผมแล้ว ความสุขของเทพธิดาสำคัญกว่า..."เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ตัดสินใจลาออกจากตี้เซิ่งโดยไม่ลังเล เพื่อให้เธอมีความสุขส่วนความสุขของตัวเขาเองนั้นไม่สำคัญเลย"คืนนี้มีงานเลี้ยง คุณก็อยู่ร่วมด้วยสิ"หลีเกอเพิ่งจะปฏิเสธ ฉีอวิ๋นเทียนกลับทำหน้าตาอ้อนวอน "เทพธิดา มาเถอะนะ ไม่งั้นปู่ผมไม่ยอมปล่อยผมไปแน่ ๆ เลย..."หลีเกอหัวเราะคิกคัก เมื่อนึกว่าฉีอวิ๋นเทียนผู้ไม่เคยหวาดกลัวอะไรเลย กลับมีลาสบอสที่ทำให้เขากลัวหัวหดนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ดี ในที่สุดเธอก็ตอบตกลง "ได้"ฉีอวิ๋นเทียนดีใจมาก "ตกลงตามนั้นนะ ไว้เจอกันตอนเย็น"...ตกเย็นหลีเกอเปลี่ยนไปสวมชุดลำลองสบาย ๆ แล้วก็ออกจากบ้าน สถานที่ที่ฉีอวิ๋นเทียนจั

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 336 คนที่ทำให้ขายหน้า

    เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายคนนั้น นิ้วของซ่งเซียงเซียงก็จิกเข้าไปในเนื้ออย่างเงียบ ๆ แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเอาซะเลยในเวลานี้ ซ่งฟู่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน เดินตรงมาหาซ่งเซียงเซียงได้ยินเสียงตบดัง ‘เผียะ’ ซ่งเซียงเซียงเอามือปิดหน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา ปากก็พูดด้วยความน้อยใจ "พ่อ ตบฉันทำไมคะ!"ซ่งฟู่โกรธมากเมื่อครู่หลี่หานได้ส่งคนมาเตือนเขาแล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะซ่งเซียงเซียงพยายามกลั่นแกล้งหลีเกอ"ซ่งเซียงเซียง แกนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ก่อนมาฉันเคยเตือนแกว่ายังไง? กล้าดียังไงถึงกล้าไปยุ่งกับคุณหนูหลี!"ซ่งเซียงเซียงปิดหน้าไม่น่าเชื่อว่าพ่อที่รักเธออย่างสุดหัวใจ กลับลงมือตบหน้าเธอต่อหน้าคนอื่นเพราะหลีเกอคนเดียวเธอหลุบตาลง ไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับโทษทุกอย่างว่าเป็นความผิดของหลีเกอซ่งฟู่จ้องเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวสุดขีด แล้วพูดต่อว่า "ถ้าแกทำให้คุณหนูหลีขุ่นเคือง บริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคของเราต้องล่มสลายแน่ รู้ตัวไหมว่าแกทำอะไรลงไป!"ซ่งเซียงเซียงกัดริมฝีปากแน่น ไม่ยอมพูดอะไรซ่งฟู่เห็นว่าเธอยังไม่สำนึก จึงพูดตรง ๆ "อย่ามาทำให้ฉันขายหน้าอยู่ที่นี่ รีบกลับไปเดี๋ยวน

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 335 ฉายแสงเจิดจ้า

    ในทันใดนั้นเอง หลีเกอก็เริ่มบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การบริหารของตัวเองอย่างคล่องแคล่วคำพูดของเธอทั้งแฝงอารมณ์ขันและดึงดูดความสนใจ ไม่โอ้อวดมากเกินไปและไม่ถ่อมตัวจนน่ารำคาญ จับจุดได้อย่างเหมาะเจาะการอธิบายง่าย ๆ สิบนาที ทุกคนในที่นั้นกลับพร้อมใจกันตั้งใจฟัง จนกระทั่งจบลง ห้องประชุมก็เงียบไปหลายวินาที ก่อนที่จะปรบมือกันอย่างกึกก้อง"คุณหนูหลีเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจจริง ๆ!""มีหลักแนวคิดที่ชัดเจน ผ่อนคลายและเข้มงวดในเวลาเดียวกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอบริหารตี้เซิ่งให้เจริญรุ่งเรืองได้""คุณหนูหลีเป็นคนที่เราควรเรียนรู้เอาเป็นเยี่ยงอย่างจริง ๆ! ถึงเธอจะยังอายุน้อย แต่แนวคิดทางธุรกิจของเธอก็มมมีความเป็นปัจเจกสูงมาก""ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณหนูหลี จะถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยล่ะสำหรับพวกเรา!""..."เมื่อได้ยินเสียงสรรเสริญรอบข้าง ซ่งเซียงเซียงก็อึ้งงันไปเดิมทีเธอต้องการหาทางโจมตีหลีเกอแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่คาดคิดว่าจะทำให้เธอโด่งดังในครั้งนี้เป็นไปไม่ได้!เป็นไปได้ยังไงเนี่ย?"เดี๋ยวก่อน..."ซ่งเซียงเซียงส่งเสียงเรียกหลีเกอที่กำลังจะลงจากเวทีไว้ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรทั้งน

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 334 ได้รับเชิญให้ขึ้นเวที

    เธอเดินหลังตรงไปที่หลังเวทีไม่นานนัก พิธีเปิดการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็เริ่มขึ้น พิธีกรยืนอยู่บนเวทีแล้วกล่าวเปิดงานอย่างคล่องแคล่วในไม่ช้า บรรยากาศของการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็ถึงจุดพีคของงาน"ผมเชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ล้วนเป็นสุดยอดของสุดยอดในแวดวงธุรกิจของเรา ตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิม เราจะสุ่มเลือกผู้โชคดีขึ้นมาแบ่งปันประสบการณ์การบริหารธุรกิจ"เมื่อพิธีกรพูดจบซ่งเซียงเซียงก็เดินออกมาจากหลังเวที หันไปมองหลีเกอด้วยสีหน้ามืดมนในใจก็คิดอะไรบางอย่างหลังจากนั้น เธอก็เดินไปหาคุณนายผู้ร่ำรวยกลุ่มนั้น แล้วก็แสดงสีหน้าเยาะเย้ย "เดี๋ยวรอดูได้เลย มีเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นแน่"คุณนายผู้ร่ำรวยไม่เข้าใจว่าซ่งเซียงเซียงกำลังคิดจะทำอะไร จึงเตือนว่า "คุณหนูซ่ง อย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า"ซ่งเซียงเซียงเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโสโดยไม่พูดอะไรในใจคิดว่าต้องทำให้หลีเกออับอายขายหน้าให้ได้แต่ในเวลานี้ พิธีกรบนเวทีกลับหันไปมองหลีเกอที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน"วันนี้เรามีบุคคลสำคัญผู้ทรงอิทธิพลมากท่านหนึ่งมาร่วมงานของเรา นั่นก็คือประธานบริษัทตี้เซิ่ง คุณหนูหลีเกอ ทางเราขอเชิญคุณหนูหลีเกอขึ้นมาแ

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 333 ตีงูต้องตีที่หัว

    หลีเกอจ้องเขม็งมองเธอ ซ่งเซียงเซียงรู้สึกผิดจึงหดคอลงตีงูต้องตีที่หัวหลีเกอรู้ว่าซ่งเซียงเซียงกังวลสิ่งใดมากที่สุดดังนั้น เธอจึงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา"ถึงเวลาที่สมควรแก่การปฏิรูปบริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคแล้ว งานประชุมสุดยอดทางธุรกิจครั้งนี้ เธอถอนตัวไปเถอะ"เมื่อได้ยินแบบนั้นซ่งเซียงเซียงก็ร้อนรนขึ้นมาจริง ๆ"ไม่ได้"เธอโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังเดียวของครอบครัว ถ้าเธอถอนตัวออกจากการประชุมทางธุรกิจครั้งนี้ บริษัทก็จะได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล"หลีเกอ ฉันจะยอมทำตามที่เธอต้องการทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้ ฉันให้ไม่ได้จริง ๆ"หลีเกอพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ตอนนี้ถ้าถอนตัวไปซะเราก็ยังพอจะประนีประนอมกันได้ แต่ถ้าไม่ยอม เมื่อถึงเวลาที่ต้องถูกบีบให้ถอนตัว คราวนี้เหม่ยห่าวอิเล็กทริคจะถึงคราวพินาศของจริง"ซ่งเซียงเซียงรู้สึกเข่าอ่อนความกลัวจากภายในจู่โจมทั่วทั้งร่าง ไม่คิดเลยว่าหลีเกอจะมีความคิดและกลยุทธ์ที่เฉียบคมแบบนี้ในเวลานี้เธอเสียใจจนแทบจะกลั้นใจตาย แต่ก็ยังพยายามต่อรอง "หลีเกอ เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังของครอบครัวเรา อย่าทำลายมันเลยนะ""ฉ

  • เศรษฐีสาวขอเอาคืน   บทที่ 332 ต้องการอะไร

    "คุณหนูหลี ผมทำธุรกิจส่งออก หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมมือกับคุณในอนาคตนะครับ""บริษัทของเราส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ฉันหวังว่าคุณหลีจะให้คำแนะนำแก่ฉันในอนาคต""..."เมื่อเผชิญกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของผู้คน หลีเกอก็ยิ้มตอบอย่างสุภาพ ไม่วางตนโอ้อวดและไม่ดูถูกใคร จึงได้รับความชื่นชมจากผู้คนจำนวนมากแม้แต่นักธุรกิจหลายรายก็เสนอความร่วมมือกับหลีเกอโดยตรง หลีเกอก็ใช้โอกาสนี้กอบโกยคำสั่งซื้อจำนวนมากให้กับบริษัทตี้เซิ่งซ่งเซียงเซียงก็เฝ้าดูเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ตลอดโลกทัศน์ของเธอพังทลายลงตั้งแต่หลีหานแนะนำตัวตนของหลีเกอเธอรู้สึกมึนงงไปหมดเมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงสมัยเรียน เธอกับเพื่อน ๆ ทั้งดูถูก เหยียดหยาม และพูดจาไม่ดีใส่หลีเกอสารพัดคิดแล้วก็ให้รู้สึกเสียใจจนแทบขาดใจทั้ง ๆ ที่มีทรัพยากรที่ดีขนาดนี้อยู่ใกล้ตัว แต่เธอกลับทำลายมันไปเอง"เซียงเซียง มัวยืนอยู่ตรงนี้ทำไม?""พ่อไม่ได้กำชับให้ลูกไปทำความรู้จักกับคุณหนูหลีหรอกเหรอ เพื่อจะได้หาคำสั่งซื้อเพิ่ม แล้วทำอะไรอยู่?"ซ่งฟู่ดึงซ่งเซียงเซียงมาตำหนิเบา ๆซ่งเซียงเซียงยังไม่รู้สึกตัว ตอนนี้เธอจิกเล็บลงไปในเนื้อตัวเองอย่างแ

DMCA.com Protection Status