Semua Bab ใต้หล้าสยบรัก: Bab 651 - Bab 660

1015 Bab

บทที่ 651

อ๋องฉีส่ายหน้า แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น “ข้าแค่อยากรู้ว่า ทำไมนางถึงอยากฆ่าข้า”“นี่ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ? เพราะท่านหย่ากับนางอย่างไรเล่า” หยวนหยงอี้ที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้นมา อ๋องฉีหันไปมองทางหยวนหยงอี้ และรู้สึกหดหู่ใจขึ้นมายิ่งนัก “หย่าร้าง”“สำหรับนางก็คือการหย่า ทำเรื่องโหดเหี้ยมไร้หัวใจแบบนี้มันก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยท่านจะได้ลืมนางลง” หยวนหยงอี้เอ่ยให้นึกถึงสิ่งนี่นางได้ทำลงไปอ๋องฉีหลุบตาลง “ข้าลืมไปนานแล้ว”หยวนหยงอี้ไม่อยากซักไซ้เขาอีก ถ้าเขาปล่อยวางเรื่องพวกนี้ได้ง่าย ๆ ก็ไม่ใช่อ๋องฉีแล้วอ๋องฉีรู้ว่าหยวนหยงอี้ไม่เชื่อเขา เขาจึงเอ่ยต่อไป “ข้าแค่ไม่เข้าใจเท่านั้น ทำไมพวกเราต้องเกลียดกันถึงขนาดต้องให้ตายจากกันไปข้างหนึ่ง นี่มันโหดร้ายเกินไป สำหรับอย่างอื่นจะโหดร้ายอย่างไรก็ได้ แต่สำหรับความรู้สึกแล้ว ข้าว่ามันไม่ควรเป็นเช่นนี้”หยวนหยงอี้พูดปลอบใจว่า “ท่านก็คิดซะว่าท่านแค่ฝันร้าย มีใครบ้างตอนเป็นเด็กจะไม่เคยเจอคนเลวสักคนสองคนกัน?”อ๋องฉีคิดว่ามันก็จริง คิดซะว่าแค่ฝันร้ายไป แต่ฝันร้ายครานี้ช่างน่ากลัวเหลือเกินตอนที่เขาวิ่งหนีไฟไหม้ออกมา หลังจากฟื้นขึ้นมาได้สติแล
Baca selengkapnya

บทที่ 652

พระชายาซุนมองใบหน้าซีดขาวนั้นก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีก “เจ้าจะกลัวอะไร? เจ้าสู้กับผู้หญิงคนนั้นแค่ครั้งหนึ่งแล้วเป็นอย่างไร? เจ้าก็รู้สึกอยากฆ่าตัวตายเลยหรือ? ความกล้าหาญของเจ้าตั้งแต่แรกเล่า? ความอยากแต่งงานกับเจ้าสามแบบจะเป็นจะตายให้ได้ ตอนนี้มันแปรเปลี่ยนไปเป็นความอ่อนแอขนาดนี้ได้อย่างไร?”พระชายาซุนพูดเสร็จก็หันมาพูดกับหยวนชิงหลิง “เจ้ามาเกลี้ยกล่อมนางหน่อย ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป คงมีสักวันนางได้ฆ่าตัวตายขึ้นมาจริง ๆ เป็นแน่ มันไม่คุ้มกันเลยสักนิด”ที่จริงรอยแผลพวกนั้น หยวนชิงหลิงก็เห็นแล้วตอนที่นางตรวจดูสุขภาพแต่พอเห็นนางรีบปิดรอบแผลพวกนี้ เห็นว่านางไม่อยากให้ใครรู้ นางจึงไม่พูดอะไรอีกตอนนี้ถูกพระชายาซุนเห็นเข้าแล้ว และพระชายาซุนก็เริ่มพูดดุนาง นางจึงรีบกล่าวว่า “พี่สะใภ้รอง ท่านอย่าได้ตื่นตระหนกไป ข้าคิดว่าพี่สะใภ้สามเองไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายเพราะกู้จือหรอก”พระชายาซุนเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่ใช่เพราะเจ้าสาม ยังจะมีใครได้อีก?”หยวนชิงหลิงก้าวไปจูงมือพระชายาเว่ยนั่งลง พระชายาซุนที่เห็นเช่นนั้นจึงค่อย ๆ นั่งลงมาด้วยแววตาพระชายาเว่ยดูหม่นหมอง ริมฝีปากคว่ำลง ขอบตาคล้ำใบหน้าซีดขาวดูไร้ช
Baca selengkapnya

บทที่ 653

“ทำไมถึงเจ็บได้ล่ะ? ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ท่านหมอสั่งยาให้แล้วมิใช่หรือ?” พระชายาเว่ยเอ่ยถามพระชายาซุนนั่งเอียงข้าง หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนกับว่าเจ็บมากจริง ๆ “ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเจ็บอีก หลังจากพระชายาฉู่ถูกลักพาตัวไป ข้าก็เริ่มเจ็บขึ้นมาอีก บางทีคงจะกังวลจนร้อนในขึ้นมา”หยวนชิงหลิงมองหน้าที่ยับย่นของนาง “เจ็บตรงไหนรึ?”พระชายาซุนหน้าแดงแล้วแดงอีก “ก็ที่ก้น”“เส้นประสาทกระดูกก้นรึ? นั่งลงแล้วเจ็บหรือไม่? ใช่ตรงนี้ไหม?” หยวนชิงหลิงยื่นมือไปกดเส้นประสาทแถวกระดูกก้นกบ “ตรงนี้เจ็บไหม?”พระชายาซุนพยักหน้า “ไม่ใช่ แต่บางครั้งก็เจ็บขึ้นมา บางทีก็เจ็บไปทั้งตัว เจ็บจนอกบวมเลยก็มี”หยวนชิงหลิงรู้สึกแปลกใจ “เจ็บจนไปถึงอกได้อย่างไร? ตรงไหนเจ็บบ้าง? ท่านบอกข้าที”พระชายาซุนรีบหันออกไปข้างนอก แล้วส่งสายตาให้พวกสาวใช้ออกไป หลังจากนั้นก็หน้าแดงก่ำ และกล่าวอย่างตะกุกตะกัก “ก็เจ็บตรงนั้น””ตรงไหนกันเล่า?” หยวนชิงหลิงแปลกใจมาก พระชายาซุนยังหน้าแดงอยู่แบบนี้? พระอาทิตย์จะขึ้นทางตะวันตกหรือไรกันพระชายาซุนพูดอย่างกระมิดกระเมี้ยน “ก็ตรงนั้น...”ทันใดนั้นหยวนชิงหลิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที และถามอย่างข
Baca selengkapnya

บทที่ 654

เห็นได้ชัดเลยว่าที่จริงพระชายาเว่ยเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกมาก รอบตัวนางไม่มีคนคอยประคับประคอง แถมชีวิตเจอเรื่องราวโถมกระหน่ำเข้ามาอีก แต่ยังมีใจคิดวิเคราะห์เรื่องของอ๋องเว่ยและกู้จืออย่างมีเหตุผลนี่เป็นคนจำพวกอ่อนนอกแต่แข็งในจริง ๆหลายคนคิดว่าหากมีจิตใจเข้มแข็งจะไม่ป่วยเป็นโรคทางอารมณ์ แต่ที่จริงไม่ใช่แบบนั้นเลย โรคซึมเศร้ามีหลายสาเหตุ ในกรณีของนางที่ป่วยเป็นโรคนี้อย่างกะทันหัน แต่หลังจากที่นางป่วย นางก็ไม่ปล่อยมันลุกลาม แต่พยายามต่อสู้กับมันแต่จะเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่นั้นก็ต้องตรวจเพิ่มเติมดังนั้นแล้วก่อนที่นางจะกลับไป นางจึงพูดกับพระชายาเว่ยว่า "พรุ่งนี้ที่จวนข้าจะจัดงานเลี้ยงชมหิมะ หวังว่าท่านจะมาเข้าร่วมนะ"พระชายาเว่ยมองไปทางพระชายาซุน พระชายาซุนก็รีบกล่าวทันทีว่า "ข้าไปแน่นอน"พระชายาเว่ยยิ้มและพูดว่า "ตกลง ข้าจะไปอย่างแน่นอน"หลังจากที่หยวนชิงหลิงกลับไปแล้ว ก็สั่งให้คนส่งจดหมายถึงพระชายาซุน บอกนางว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมา นางอยากคุยกับพระชายาเว่ยเป็นการส่วนตัวพระชายาซุนเป็นคนที่รู้ความ นางจึงเขียนตอบกลับไป และบอกว่านางรู้ว่าต้องทำอย่างไรอวี่เหวินห่าวไม่อยากให้หยวนชิงห
Baca selengkapnya

บทที่ 655

วันนี้พระชายาเว่ยแต่งตัวด้วยชุดสีขาวล้วน ร่างกายอ่อนแอบอบบางของนางสวมเสื้อคลุมบุนวมที่ทำจากผ้าต่วนเนื้อดี บนผ้าต่วนปักลายเมฆาสีขาวไม่มีการปักตกแต่งสีอื่นนางทำทรงมวยสูงปักปิ่นหยกขาว เพราะต้องออกไปงานข้างนอกจึงสวมสร้อยลูกปัดปะการังสีแดงสด เมื่อสวมสร้อยเส้นนี้กับชุดสีขาว ช่วยทำให้เพิ่มความสดใสให้กับใบหน้าที่ซีดเซียวขึ้นมาทันทีนางพาสาวใช้มาด้วยคนหนึ่ง ดูไม่โดดเด่นมากนัก แต่ท่าทางดูมีมารยาทยิ่งนัก ดูก็รู้เลยว่านางได้รับการอบรมมาอย่างดีหยวนชิงหลิงลุกขึ้นทักทายนาง พระชายาเว่ยมองด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส "พี่สะใภ้รองยังมาไม่ถึงอีกรึ?"หยวนชิงหลิงพูดอย่างเสียใจ "เมื่อครู่นี้นางสั่งให้คนมาแจ้งว่านางไม่สบาย วันนี้นางจึงมาไม่ได้"พระชายาเว่ยถอนหายใจและนั่งลง "บางทีนางอาจจะเป็นไข้หวัด เมื่อวานนี้บอกนางแล้วว่าเตาในห้องน้อยเกินไป นางยังกล้าบอกว่าไม่หนาวอีก"หยวนชิงหลิงมองนาง และเห็นว่าสีหน้าของนางแย่ลงกว่าเมื่อวาน นางจึงถามขึ้นว่า "เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับหรือไม่?"พระชายาเว่ยยกมือลูบหน้าผากตัวเอง “ปวดหัวเหลือเกิน แทบไม่ได้นอนเลย จนฟ้าสางแล้วถึงจะงีบได้แค่ครู่เดียวก็เถอะ”หยวนชิงหลิงเห็นว่า
Baca selengkapnya

บทที่ 656

หยวนชิงหลิงที่ได้ยินเช่นนั้น นางรู้สึกว่ามีอะไรหล่นหายออกไปจากชีวิตของนางฉู่หมิงชุ่ยที่พานางเข้าใกล้เงาแห่งความตาย จนตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันก็ไม่ได้จางหายไปเลยทว่าคนตายแล้วก็เหมือนเปลวเทียนที่มอดดับลง บุญคุณความแค้นมันก็ควรจางหายไปดั่งเมฆหมอกงานศพฉู่หมิงชุ่ยนั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เดิมทีนั้นไม่ควรจะมีงานศพด้วยซ้ำ แต่เพราะเรื่องหย่าร้างยังจัดการไม่เสร็จสิ้น อีกทั้งฝ่าบาทก็ยังทรงไว้หน้าตระกูลฉู่ ดังนั้นจึงยอมอนุญาตให้จัดงานศพให้กับนางได้คนผมหงอกส่งคนผมดำ ทางตระกูลฉู่ก็ต้องย่อมหม่นหมองเป็นธรรมดาหลังจากพระชายาจี้กลับไปแล้ว อวี่เหวินห่าวที่เห็นนางอยู่ในจวนดูเบื่อมาหลายวัน และอีกทั้งอาการบาดเจ็บก็ไม่ได้ร้ายแรงแล้วนั้น จึงอยากพานางออกไปเดินเล่นหน่อยถนนสายยาวที่เดินอยู่นั้น มีอาซื่อและหมานเอ๋อร์เดินนำอยู่ด้านหน้า อากาศหนาวในฤดูหนาวนั้นมีลมพัดผ่านมา ถนนอันว่างเปล่ายิ่งทำให้ความเหน็บหนาวทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีก“ทำไมวันนี้ไม่มีคนเลย?” อาซื่อรู้สึกแปลกใจ เดิมทีผู้คนที่นี่ต่างขวักไขว่ไปมา แม้จะเป็นฤดูหนาวก็ไม่น่าจะเงียบสงบได้เช่นนี้ซูยี่กล่าวตอบข้อสงสัยนั้น “วันนี้มีงานเคลื่อนขบวนส่
Baca selengkapnya

บทที่ 657

นอกเสียจากมีเหตุผลบางอย่างที่บีบให้เขาต้องลงมือฆ่าฉู่หมิงชุ่ยไม่รู้ว่าทำไมเมื่อคิดถึงตรงจุดนี้แล้ว หัวใจนางก็เต้นแรงขึ้นอย่างตื่นตระหนก รู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นจู่ ๆ เสียงปี่แตรงานศพก็ดังขึ้นนี่คือเสียงปี่แตรงานเคลื่อนศพขบวนส่งศพอาซื่อพิงระเบียงและมองดูจากระยะไกล เมื่อเห็นขบวนศพกำลังใกล้เข้ามา นางจึงร้องอุทานด้วยความตกใจ "ทำไมถึงมาทางนี้? ไม่ใช่ออกไปทางนอกเมืองหรอกหรือ?"อวี่เหวินห่าวลุกขึ้น “พวกเราไปกันเถอะ”เขายื่นมือไปจูงหยวนชิงหลิงลุกขึ้นหยวนชิงหลิงเงยหน้ามองเขา “ไม่เป็นไร ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเราก็เคยรู้จักกันมาก่อน พวกเราก็อยู่ที่นี่ส่งนางเถอะ”อวี่เหวินห่าวเอ่ยด้วยความตกใจ “ส่งนางไป? เดิมทีนางจะส่งเจ้าต่างหากเล่า”“ท่านให้อภัยเถิด ตอนนี้เป็นข้าเองที่อยู่ส่งนาง” หยวนชิงหลิงลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียงด้านข้าง มองขบวนศพที่ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ บอกว่าเป็นขบวนก็ดูน่าเวทนาเลยเกิน มีคนเพียงแค่สิบกว่าคนเท่านั้น ข้างหน้ามีหนึ่งคนเป่าปี่ ด้านหลังสี่คนแบกโลงศพสีแดง เหลือแค่ไม่กี่คนที่โปรยกระดาษเงินกระดาษทอง ช่างดูอ้างว้างเหลือเกินใครเหล่าจะไปคิดว่า คนที่นอนอยู่ในโ
Baca selengkapnya

บทที่ 658

อ๋องฉีนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็คุกเข่าลงหยิบกาเหล้า กล่องอาหารเล็ก ๆ และธูปออกมาเขาเปิดกล่องอาหารนั้น ข้างในมีซาลาเปา และยังมีของที่ดูเหมือนจะเป็นรังนกที่ดูเหนียวข้น และเย็นชืดอยู่ถ้วยหนึ่งฉู่ฟูจุดธูปให้เขา เขาปักธูปนั้นลงกระถางธูปหน้าโลงศพ เมื่อลมพัดผ่านขี้ธูปนั้นก็ปลิวว่อนไปตกอยู่ที่ปลายเท้าของอ๋องฉีเขายืนอยู่หน้าโลงศพจ้องมองอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง และกระซิบเสียงเบาว่า “ที่จริงข้าก็ไม่รู้ว่าเจ้าชอบกินอะไร เห็นเจ้ามักจะดื่มรังนกแบบนี้เสมอ เลยคิดว่าเจ้าน่าจะชอบ เจ้าก็มารับมันไว้เถอะนะ”“เป็นสามีภรรยากันมาหนึ่งปี แม้ว่าจะไม่ได้รักกันมากมาย ไม่แม้แต่จะหน้าแดงด้วยความเขินอายเลยก็ตาม จนตอนนี้ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมพวกเราถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ ข้าไม่เข้าใจเลย ทำไมเจ้าถึงอยากฆ่าข้าให้ตาย เจ้าเกลียดข้าขนาดนี้เลยหรือ?”“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ข้าควรเกลียดเจ้า ในใจข้าเกลียดแค้นเจ้าเหลือเกิน แม้แต่ตื่นจากฝันกลับมาแล้ว ข้ายังนึกถึงเพลิงไหม้ใหญ่ในครั้งนั้น มักนึกถึงตอนที่เจ้าเอาปิ่นแทงข้า ข้าไม่เข้าใจ คนที่ดูอ่อนโยนมีเมตตาเช่นนี้ ใยถึงเปลี่ยนกลายเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดนั้นได้”เขาพูดออกม
Baca selengkapnya

บทที่ 659

ซูยี่ยกเก้าอี้มาสองตัวให้พวกเขานั่งอ๋องฉีที่เหม่อลอยเหมือนวิญญาณออกจากร่างไปแล้วนั้น แต่เพราะใบหน้าเคร่งขรึมของอวี่เหวินห่าว เขาจึงได้สติกลับมา และยิ้มเจื่อนออกมา “พี่ห้าก็อยู่ด้วย”“อืม!" อวี่เหวินห่าวตอบกลับอย่างเฉยชา“พี่สะใภ้ห้าก็อยู่ด้วย” อ๋องฉีที่เห็นหยวนชิงหลิงนั้นก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยฉู่หมิงชุ่ยทำร้ายนาง ที่จริงเขาไม่ควรรู้สึกผิดหรือละอายต่อหยวนชิงหลิงเลยด้วยซ้ำหยวนชิงหลิงมองไปที่เขา เห็นเขาไร้ชีวิตชีวาขนาดนี้ ก็อดพูดปลอบเขาไม่ได้ “เรื่องมันผ่านไปแล้ว ก็ให้มันแล้วไปเถอะ”เขากระแอ่มไอและตอบกลับไปอย่าขัดเขิน “ปล่อยวางแล้ว ข้าไม่นึกถึงมันอีก”หยวนชิงหลิงรินน้ำชาให้เขาและหยวนหยงอี้ “พวกเจ้าคงยังไม่ได้กินอะไรมา? กินอะไรกันก่อนเถอะ”หยวนหยงอี้ที่หิวมากจึงรับน้ำใจและกล่าวว่า “ขอบคุณมากเจ้าค่ะ พี่หญิงฉู่หวาง”ตอนที่นางหยิบตะเกียบ นางลอบมองอวี่เหวินห่าวอย่างระมัดระวัง เห็นเขาไม่มีท่าทีอะไรจึงเริ่มกินทันทีอ๋องฉีนั้นไม่กิน เขาเอาแต่ถือแก้วชาโซ่วเหมยเอาไว้ไม่ยอมดื่ม แต่เปลี่ยนสลับมือถือไปซ้ายขวา ราวกับคนเหม่อลอยวิญญาณไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจู่ ๆ เขาก็เงยหน้ามองอวี่เหวินห่
Baca selengkapnya

บทที่ 660

เขาเงยหน้ามองอวี่เหวินห่าวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน “พี่ห้า ข้าไม่ได้บอกว่าท่านทำผิด แต่อย่างใด ข้าแค่ไม่เข้าใจ ทำไมท่านถึงลงมือฆ่านางได้ ท่านทำแบบนี้ได้อย่างไร? พวกท่านเคย...”ทันทีที่เขาพูดก็รีบเหลือบไปมองทางหยวนชิงหลิง และไม่พูดอะไรต่ออีกเขาไม่ได้อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้ฉู่หมิงชุ่ย หรือคิดว่าที่พี่ห้าฆ่านางเป็นความผิดของเขา ความผิดของฉู่หมิงชุ่ยนั้นตายอย่างง่ายดายในคุกเช่นนั้น ก็นับว่าเป็นการหลุดพ้นแล้วอย่างน้อยนางก็ไม่ต้องไปขึ้นศาล ยังคงเหลือไว้ซึ่งหน้าตาและศักดิ์ศรีของนางในใจเขายังคงเกลียดชังคนผู้นี้ แต่เขาอยากรู้เหลือเกินว่า ทำอย่างไรถึงลบคน ๆ นึงออกจากใจได้รวดเร็วเช่นนี้ได้ เขาไม่อยากให้ตัวเองจมปลักอยู่กับนาง เดิมทีคิดว่ามาส่งนางแล้ว ก็ถือเป็นการลาจากกันไป แต่ในใจของเขาตอนนี้กลับไม่สงบลงเลยอวี่เหวินห่าวไม่ตอบคำถามเขา และลุกขึ้นจูงหยวนชิงหลิง“พี่ห้า...” อ๋องฉีรีบลุกขึ้น “ข้าไม่ได้หมายความว่าท่านโหดเหี้ยมอำมหิตหรือเลือดเย็น ข้าแค่อยากรู้ว่าทำไมท่านถึงลืมคน ๆ หนึ่งไปได้รวดเร็วเช่นนี้”อวี่เหวินห่าวจูงหยวนชิงหลิงเดินไปไม่หันกลับไปมองอีกเมื่อขึ้นรถม้า อวี่เหวิ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
6465666768
...
102
DMCA.com Protection Status