บททั้งหมดของ ใต้หล้าสยบรัก: บทที่ 631 - บทที่ 640

1015

บทที่ 631

หยวนชิงหลิงยิ้มเย้ยหยันกับสิ่งที่นางพูดออกมา “คนในจวนอ๋องซุนได้ตายด้วยน้ำมือของเจ้าตั้งหลายคนขนาดนี้แล้ว นี่ไม่เป็นการฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจหรอกหรือ?"ฉู่หมิงชุ่ยหัวเราะเหยียดหยาม “มันก็แค่พวกมดปลวกไร้ค่า เจ้าห่วงตัวเองเถอะ”หยวนชิงหลิงมองนาง “เจ้าจะฆ่าข้าอย่างไร?”ฉู่หมิงชุ่ยมองตรงมาที่นาง และยิ้มอย่างมีเลศนัย "อย่ากังวลไปนักเลย ท้องเรือลำนี้แตกแล้ว น้ำจะค่อย ๆ ทะลักเข้ามา เมื่อถึงตอนที่มันจมลงไป ข้ากับเจ้าก็จะตายไปด้วยกัน อาจจะต้องใช้เวลาเล็กน้อย เจ้าก็ค่อย ๆ หวาดกลัวอยู่เช่นนั้นไปอย่างช้า ๆ ถ้าหากตายที่นี่ คงหาศพไม่เจอ และเป็นผีพรายน้ำอยู่ที่นี่ตลอดไป"หยวนชิงหลิงรีบไปหารอยรั่วทันที เมื่อลงไปเจอรอยรั่วที่ท้องเรือขนาดเท่ากำปั้นคน และน้ำกำลังค่อย ๆ ไหลทะลักเข้ามานางลองคำนวนดูแล้วน่าจะใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมงเรือถึงจะจมกุลีพวกนั้นคงไม่ยอมตายที่นี่แน่ พวกเขาต้องเตรียมเรือชูชีพไว้ นางจึงลองเดินหาไปจนถึงท้ายเรือ และก็ได้เจอเรือท้องแบนลำหนึ่งพวกเขาคงรอให้เรืออยู่ห่างจากท่าเรือออกไปก่อน แล้วค่อยหนีไป และทิ้งพวกนางไว้ที่นี่นางว่ายน้ำไม่เป็น ถ้าหากนางจะหนี นางก็ต้องลงเรือลำนี้แ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 632

หยวนชิงหลิงดูสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยของนาง แค่นี้ก็พอยืนยันสิ่งที่นางคาดเดาได้แล้วฉู่หมิงชุ่ยกลัวตาย มิฉะนั้นเมื่อตอนที่นางอยู่ที่จวนอ๋องซุน นางคงจะไม่แสร้งทำเป็นถูกจับเป็นตัวประกันหรอกคน ๆ นี้เสแสร้งตอแหลมาทั้งชีวิต มาถึงขั้นนี้แล้ว นางก็ยังไม่ยอมถอดหน้ากากเพื่อยอมรับความจริง และเผชิญหน้ากับตัวเองว่าเป็นคนเช่นไรไม่ได้ฉู่หมิงชุ่ยมองตาขวางใส่นาง "แล้วอย่างไร? ข้าตายหรือไม่ เจ้าก็ไม่เห็นเหมือนกัน"หยวนชิงหลิงฉีกยิ้มชั่วร้าย และขยับเข้าไปใกล้นาง "เช่นนั้นแล้ว ข้าจะบอกว่าเจ้าต้องตายก่อนข้า ข้าจะได้สบายใจได้"“น่าเสียดาย เจ้าฆ่าข้าไม่ได้หรอก” ฉู่หมิงชุ่ยเอ่ยอย่างเย็นชา“นั่นก็ไม่แน่สักหน่อย..." หยวนชิงหลิงยังไม่ทันจะพูดจบ นางก็หยิบมีดผ่าตัดออกมาปาดเข้าที่ข้อมือของฉู่หมิงชุ่ยนางเข้าใกล้ฉู่หมิงชุ่ย และนางก็ลงมือได้แม่นยำมาก มีดเล่มนั้นกรีดตัดตรงเส้นเลือดแดงที่ข้อมือของนาง เลือดสด ๆ ก็พุ่งทะลักออกมาฉู่หมิงชุ่ยไม่คิดจะตายอยู่แล้ว นางจึงต้องกลับไปที่ฝั่งเพื่อขอความช่วยเหลือ ดังนั้นนางจึงต้องบีบบังคับให้พวกเขาเอาเรือชูชีพลงมาก่อนเวลาฉู่หมิงชุ่ยทั้งโกรธและตกใจมาก นางจับข้อมือของน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 633

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานหนักคือได้เงินมาต่างหาก หากฉู่หมิงชุ่ยตายไป การทำงานหนักของพวกเขาก็จะสูญเปล่าฉู่หมิงชุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด "พวกเจ้าฆ่าเลย อย่าพูดถึงเรื่องอื่น เครื่องประดับบนตัวนางกับข้าที่ใส่อยู่ก็มีราคาเกินหนึ่งพันตำลึงแล้ว บนตัวนางยังมีสร้อยไข่มุกอยู่เส้นราคาหนึ่งหมื่นตำลึง เจ้าไม่เชื่อก็ไปหาดู"ในแววตาของกุลี ปรากฏแสงแห่งความโลภขึ้นมาทันทีหมื่นตำลึง จบงานครั้งนี้พวกเขาพี่น้องก็รามือได้ไม่ต้องทำงานแล้ว และพวกเขาไม่ต้องทำงานถือดาบเปื้อนเลือดอีกต่อไปแล้วแววตาของหยวนชิงหลิงเย็นมืดลง นางกระชากผมของฉู่หมิงชุ่ยและจิกหัวของนาง หยวนชิงหลิงบีบหน้านางให้อยู่นิ่ง ๆ และเอาปลายปิ่นกรีดลงบนหน้านางสองสามรอย และยังแทงใส่หน้านางอีกสองรูฉู่หมิงชุ่ยร้องไห้โหยหวนด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของนางเละเต็มไปด้วยเลือด หยวนชิงหลิงลากนางไปเพื่อสร้างช่องว่างให้หมานเอ๋อร์วรยุทธ์ของหมานเอ๋อร์สู้คนเหล่านี้ไม่ได้ก็จริง แต่นางมีพละกำลังอย่างเต็มเปี่ยมแต่พละกำลังนี้มันทำให้นางเจ็บตัวอยู่เสมอ คนเหล่านั้นโลภอยากได้สร้อยไข่มุกของที่หยวนชิงหลิงสวมอยู่ พวกเขาก็ได้บ้าคลั่งเสียสติไปแล้ว พวกเขาแค่อย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 634

หยวนชิงหลิงกัดฟันแน่น ทนความเจ็บปวดอยู่ครู่หนึ่ง และไปพันแผลให้หมานเอ๋อร์ ตอนนี้รอช้าไม่ได้แล้ว น้ำได้เริ่มท่วมเข้ามาแล้ว เรือลำนี้กำลังจะจมหมานเอ๋อร์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบจะหมดสติแล้ว แต่ความเจ็บปวดทำให้นางฟื้นคืนสติขึ้นมา เมื่อเห็นน้ำเริ่มท่วมทะลักเข้ามาแล้ว นางจับมือของหยวนชิงหลิง และพูดอย่างยากลำบาก "พระชายา ท่านกอดท่อนซุงนี้แล้วโดดลงไป อดทนรอจนกว่าเรือลำอื่นจะมาช่วยท่านนะเพคะ"หยวนชิงหลิงพยายามช่วยพยุงนางลุกขึ้น และพูดขึ้นอย่างร้อนรน "หมานเอ๋อร์ เจ้ายังพอมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่ไหม? มีเรือชูชีพอยู่ที่นี่ เอาแพชูชีพลงน้ำ พวกเราจะได้หนีออกไปจากที่นี่ได้"แววตาของหมานเอ๋อร์มีประกายแสงแห่งการมีชีวิตรอด นางพยายามฝืนจะลุกยืนขึ้น แต่นางลุกขึ้นไม่ไหว ลองพยายามอยู่หลายครั้ง แต่ก็ล้มลงกับพื้นอย่างแรง หนำซ้ำยังทำให้อาการบาดเจ็บรุนแรงขึ้นอีกหยวนชิงหลิงรู้ว่านางถึงขีดจำกัดแล้ว และคงช่วยนางปล่อยแพชูชีพลงน้ำไม่ได้แล้วนางกัดฟันลุกขึ้นยืน ถือมืดสั้นเดินไปอย่างลำบาก น้ำท่วมมาถึงข้อเท้าของนางแล้ว นางค่อย ๆ เดินเท้าเปล่าไปอย่างโงนเงนไม่มั่นคง คลื่นซัดเข้าหานาง ถึงคลื่นไม่สูงเท่าไหร่ แค่ระด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 635

ทั้งสามคนไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้ว แต่ทว่าเรือกำลังจม ถ้าไม่รีบพายออกไปให้เร็วที่สุด แพชูชีพจะถูกกระแสน้ำดูดเข้าไปด้วยเพื่อเอาชีวิตรอด ฉู่หมิงชุ่ยจึงหมอบลง และพายเรือกวักน้ำอย่างแข็งขัน ด้วยแรงและการพายไปในทิศทางเดียวกัน เรือชูชีพแล่นออกจากระยะน้ำดูดของเรือใหญ่ที่จมลงหยวนชิงหลิงนอนฟุบอยู่บนแพชูชีพ มองดูเรือค่อย ๆ จมลงไป และในที่สุดกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ก็ก่อตัวขึ้น ซึ่งดึงดูดขยะและกิ่งไม้รอบ ๆ บริเวณนั้นลงไปในน้ำหมานเอ๋อร์ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติไปแล้วฉู่หมิงชุ่ยหายใจหอบอย่างหนัก ทันใดนั้นนางลุกขึ้นยืน และพุ่งไปหาหยวนชิงหลิงที่นอนแผ่อยู่ หยวนชิงหลิงไม่ได้เตรียมพร้อมตั้งตัวสำหรับการลงมือจู่โจมอย่างกะทันหันเช่นนี้“หยวนชิงหลิง เจ้าตายซะเถอะ!” ฉู่หมิงชุ่ยตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว ใบหน้าของนางดูดุร้ายบ้าคลั่ง มือของนางที่ดูย่ำแย่ไม่ต่างจากกรงเล็บผีที่บีบลงบนคอของหยวนชิงหลิง นางบ้าคลั่งไปแล้ว มีรอยแผลที่มีเลือดไหลซิบบนใบหน้านางมากมาย และเลือดที่ไหลหยดจากบาดแผลพวกนั้น ยิ่งทำให้ดูน่ากลัวและสยดสยองอย่างสุดจะพรรณนาหยวนชิงหลิงที่ไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้วสักนิด ไม่สามารถขยับได้เลย หายใจไม่ออก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 636

ตอนที่เขาอุ้มหยวนชิงหลิงกลับไปยังจวนอ๋องฉู่ อวี่เหวินห่าวยังคงตัวสั่นไม่หยุดด้วยความหวาดหวั่นใจเขาไม่กล้าคิดถึงเหตุการณ์หลังจากนั้น ถ้าหากเขามาช้ากว่านี้อีกแค่ก้าวเดียวตอนที่เขาเห็นฉู่หมิงชุ่ยบีบคอหยวนชิงหลิงจากที่ไกล ๆ ความสิ้นหวังมันเอ่อเต็มหัวใจของเขาในตอนนั้นไปหมดจวนอ๋องฉีถูกวางเพลิง เจ้าเจ็ดติดอยู่ในกองไฟ อีกทั้งเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนทำให้เจ้าเจ็ดหนีออกมาไม่ได้และที่สำคัญที่สุดคือ เจ้าเจ็ดหมดสติ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีไฟไหม้องค์รักษ์เงาที่มาถึงก่อน แต่ตอนนั้นไฟมันก็ลุกไหม้จนไม่สามารถควบคุมได้แล้ว เมื่อไฟลุกไหม้ขึ้นในระยะสิบฟุตยังรู้สึกถึงเปลวไฟได้ตั้งแต่ไหนแต่ไร เจ้าเจ็ดเองก็เป็นคนมีรสนิยมดี ในจวนส่วนใหญ่ทำมาจากไม้และประตูบ้านทั้งหมดทำจากไม้จวี้ เมื่อถูกไฟไหม้ เพลิงจึงลุกไหม้จนกลายเป็นทะเลเพลิง และองค์รักษ์เงาไม่สามารถเข้าใกล้ได้แม้แต่น้อย แม้จะพยายามดิ้นรนฝ่าเข้าไปอย่างสิ้นหวัง ก็ไม่มีทางฝ่าเข้าไปพาตัวอ๋องฉีมาได้เลยตอนที่พวกเขามาถึง เพลิงก็ควบคุมไม่ได้ และลุกลามไปยังบริเวณโดยรอบแล้วเพื่อไม่ให้ไหม้ไปบ้านเรือนบริเวณใกล้เคียง จำต้องดับไฟให้เร็วที่สุดเขาและเจ้าสา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 637

ถังหยางถึงกับอึ้งไปเลย "นี่มัน..."“วางเพลิงเผาจวนอ๋องฉี ข้าเชื่อว่านางสามารถทำได้ แต่ในความจริงแล้วจะวางเพลิงนั้นไม่ง่ายเลย นอกจากนี้ขนาดในจวนอ๋องซุน นางสามารถล่อลวงพวกคนชั่วเข้ามาในจวนได้ด้วยตัวนางเอง ทั้งปล้นฆ่า จากนั้นจัดเตรียมเส้นทางหลบหนี และหาจัดหาเรือ นั้นไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถทำคนเดียวได้"การจะติดต่อพวกมือสังหารได้นั้น ย่อมต้องมีเส้นสายบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยต้องมีการวางแผนอยู่เบื้องหลังพวกองค์กรนักฆ่า พวกเขาไม่มีทางยอมรับคำสั่งส่วนตัวได้ง่ายดายอยู่แล้วยิ่งกว่านั้น พวกเขายังมีกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เคร่งครัด โดยพื้นฐานคือจะไม่รับงานของพวกราชวงศ์ และเจ้าหน้าที่ขุนนางมาทำ เพื่อไม่ให้ถูกคนตามสืบสาวราวเรื่องได้แต่พวกเขากลับตรงไปที่จวนอ๋องซุน สำหรับเพลิงไหม้ในจวนอ๋องฉี พวกเขาสามารถวางเพลิงช่ำชอง และไม่ใช่สิ่งที่สาวใช้จะทำได้คนสองกลุ่มดำเนินแผนก่อการร้ายไปพร้อมกันได้ ฉู่หมิงชุ่ยสามารถควบคุมมันได้ด้วยตัวคนเดียวหรือ?ถังหยางที่ได้สติกลับมาแล้วพูดด้วยใบหน้าซีดเผือด "ท่านอ๋องรอบคอบนัก ข้าน้อยคิดน้อยเกินไป"อวี่เหวินห่าวนั่งข้างเตียงของหยวนชิงหลิง และพูดอย่างเย็นชา "เจ้ากลัว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 638

เขายื่นมือออกไปประคองนางไว้ และพูดออกมาเบา ๆ "อย่าขยับ นอนพักสักหน่อย อีกประเดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว"หยวนชิงหลิงมองเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของเขา ทันใดนั้นนางก็นึกถึงอาซื่อขึ้นมา และรีบถามอย่างกระวนกระวายใจ "อาซื่อเล่า?"อวี่เหวินห่าวเลยตอบคลายกังวลให้นาง "นางได้รับบาดเจ็บที่ท้อง แต่อาการไม่สาหัส นางถูกพากลับไปรักษาตัวที่จวนตระกูลหยวนแล้ว"“แล้วหมานเอ๋อร์?”อวี่เหวินห่าวส่ายหน้า "ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้นางอยู่ไหน"“พยายามอย่างเต็มที่ ช่วยนางให้ได้นะ" หยวนชิงหลิงคว้ามือของเขา เส้นผมของนางกระจัดกระจายอยู่บนหมอน ที่ปลายบางส่วนยังคงมีเลือดเปื้อนอยู่ "ถ้าไม่ใช่เพราะนาง ข้าคงตายไปนานแล้ว”แววตาของเขาหม่นแสงลง และเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบแห้งว่า "เจ้าวางใจเถอะ นางจะต้องไม่เป็นอะไร นางเป็นผู้ฝึกวรยุทธ์ พื้นฐานร่างกายของนางดีกว่าเจ้านัก อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ไม่ใช่จุดสำคัญ แต่แค่เหนื่อยล้าใช้แรงมากเกินไป พักสักหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้ว"หยวนชิงเอนศีรษะของนางซบบนหมอน ตะแคงข้างมองเขา ร่องรอยเลือดฝาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาวซีดของนางเล็กน้อย "ฉู่หมิงชุ่ยล่ะ?"เขายกนิ้วแตะริมฝีปากนาง แววตาพลันเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 639

ถังหยางได้ตรงมาที่จวนและได้พูดคุยกับท่านมหาเสนาบดีก่อน เมื่อได้ยินคำขอของอ๋องฉู่ ท่านมหาเสนาบดีก็เงยหน้าขึ้นมองถังหยางด้วยสายตามเฉียบคม "หากเขาต้องการเช่นนี้ ก็มีแต่สร้างปัญหาให้ตัวเองเดือดร้อนเปล่า ๆ เจ้ากลับไปบอกเขาก่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรื่องนี้ข้ายังสามารถชะลอยับยั้งมันออกไปก่อนได้ และขุนนางในท้องพระโรงหรือเจ้ากรมอื่น ๆ ก็ยังไม่มีคนมาไล่ติดตามเรื่องนี้ แต่คนที่ควรตาย ย่อมสมควรต้องตายแล้ว"ถังหยางได้กระซิบถามขึ้นมาเบา ๆ "ท่านมหาเสนาบดี เรื่องนี้ท่านคิดว่าพระชายาฉีทำคนเดียวได้หรือไม่?"ท่านมหาเสนาบดีตกใจนิ่งไปเล็กน้อย และค่อย ๆ หรี่ตาลงด้วยท่าทางสง่างาม เปล่งบารมีน่าเกรงขาม “ข้าเข้าใจแล้ว เรียกคนพาตัวไปเถอะ”ถังหยางประสานมือคาวระและถอยกลับไปต่อมามีคนจากจวนจิงจ้าวพาตัวฉู่หมิงชุ่ยออกไปคุกในจวนจิงจ้าวทั้งมืดและชื้นฉู่หมิงชุ่ยได้รับการปฏิบัติอย่างดี ได้อยู่ห้องขังที่ค่อนข้างสว่าง เพราะโคมไฟในคุกทั้งหมดถูกวางอยู่ในรูเล็ก ๆ บนกำแพง และวางไม้สนขัดเรียบไว้เพื่อกระจายแสงสว่างแสงริบหรี่ตรงข้ามกับห้องขังของฉู่หมิงชุ่ยสะท้อนลงบนใบหน้าที่ซีดเซียวและว่างเปล่าของนางตั้งแต่นางเข้ามาในห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 640

พระชายาซุนนั่งลงข้างเขาอย่างเงียบ ๆ พิงศีรษะลงไหล่ที่หนาเต็มไปด้วยเนื้อของเขา หัวใจของยังคงเต้นระส่ำไปหมดอ๋องซุนยกแขนขึ้นกอดพระชายาเอาไว้ และพูดออกมาเบา ๆ ว่า "ไม่ต้องกลัว ทุกอย่างจบลงแล้ว ข้าอยู่ที่นี่แล้ว"อ๋องซุนมักเป็นฝ่ายที่ได้รับการปลอบโยนเสมอพระชายาซุนเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง นางสามารถดูแลทุกอย่างในจวนได้ด้วยตัวเองตอนนี้นางทั้งกลัวและอ่อนแอ เมื่ออ๋องซุนพูดแบบนี้ออกมา ขอบตาของนางแดงก่ำไปหมด นางพูดด้วยเสียงขึ้นจมูกออกมา “อื้อ!""เจ้าห้าจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ หากเรื่องนี้ขึ้นศาลเข้าสู่การพิจารณาคดี เจ้าก็แค่พูดไปตามจริง และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับชื่อเสียงของจวนอ๋องซุน" อ๋องซุนพูดอย่างแผ่วเบา“ข้ารู้แล้ว” พระชายาซุนรู้สึกเสียใจต่อพวกบ่าว และคนรับใช้ที่ตายไป และยิ่งเกลียดฉู่หมิงชุ่ยเข้ากระดูกดำเรื่องราวในวังหลวงกลับตาลปัตรเพราะเรื่องนี้ หลังจากที่จักรพรรดิหมิงหยวนได้ยินเรื่องนี้แล้ว เขาก็รู้สึกมันเหลวไหลไร้สาระ ฉู่หมิงชุ่ยแค่คนเดียวเผาจวนอ๋องฉีได้หรือ? อีกทั้งยังทำร้ายคนตระกูลหยวนจนบาดเจ็บสาหัส และยังลักพาตัวพระชายาฉู่ได้อีก?ฟังดูแล้วเป็นเรื่องตลกเสียจริงแต่พวกคนที่
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
6263646566
...
102
DMCA.com Protection Status