บททั้งหมดของ ใต้หล้าสยบรัก: บทที่ 641 - บทที่ 650

1015

บทที่ 641

เขาดูอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เหมือนกับที่คนอื่นบอกเลยว่าทั้งดุร้ายและโหดเหี้ยมนางจึงผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อยและไปนั่งด้วยกันอ๋องจี้เทเหล้าและหรี่ตาลง พร้อมยิ้มบาง ๆ ออกมา “เจ้าดื่มได้ไหม?”ฉู่หมิงหยางจัดชายเสื้อของนางเล็กน้อย เทียนสีแดงสะท้อนใบหน้าแดงก่ำ หางตาของนางก็แดงระเรื่อเล็กน้อย "ดื่มได้นิดหน่อยเพคะ"เขาจับมือนางและยิ้มออกมา ปลายนิ้วที่ลูบหลังมือของนาง แล้วพูดออกมาเบา ๆ ว่า "หลังจากดื่มเหล้าจอกนี้แล้ว จากนี้ไปเจ้าจะเป็นชายาของข้า"ฉู่หมิงหยางกระพริบตา "ชายา?"อ๋องจี้ยิ้มด้วยสายตาเป็นประกาย "ใช่แล้ว ในใจข้า เจ้านั้นคือชายาของข้า"ฉู่หมิงหยางเงยหน้าขึ้นมองเขา กระพริบตาจนแพขนตาขยับปริบ ๆ นางหลุบตาลงด้วยใจที่เต้นระรัวเล็กน้อยหลังจากคล้องแขนแลกจอกเหล้าดื่มกันแล้ว แววตาของอ๋องจี้ก็หรี่มืดลง เขาอุ้มนางไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินไปที่เตียงฉู่หมิงหยางฝังหน้าลงกับหน้าอกของเขา นางกำแขนเสื้อตัวเองแน่น และอยู่นิ่งไม่ขยับตัวนางถูกวางลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง อ๋องจี้ก็ลูบแก้มของนางราวกับลูบสมบัติล้ำค่า ดวงตาของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความทะนุถนอมฉู่หมิงหยางเคยเห็นแววตาแบบนี้มาก่อน ในสายตาของอวี่เหวิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 642

ในเช้าวันรุ่งขึ้น อวี่เหวินห่าวและถังหยางกลับไปที่สำนักผู้ตรวจการ และนำพระราชโองการมาถึง สั่งให้กรมอาญาร่วมพิจารณาในคดีนี้ด้วย และเริ่มการพิจารณาคดีในช่วงบ่ายก่อนการสอบสวน เขาได้เรียกองค์รักษ์เงามาสอบถามก่อนเป็นการส่วนตัวองค์รักษ์เงาถูกส่งไปเพื่อปกป้องหยวนชิงหลิงตามพระบัญชาของไท่ซ่างหวง และพวกเขาจะไม่ปลีกตัวออกไปง่าย ๆ อย่างเด็ดขาดอย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น ทำให้พวกเขารีบออกไปทันที ปล่อยให้หยวนชิงหลิงอยู่คนเดียว และต้องมีจุดประสงค์อย่างอื่นแอบแฝงอยู่แน่หลังจากได้สอบถามโดยละเอียด ก็ได้รู้ว่าองค์รักษ์เงามีรายงานลับเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีคนไปที่โรงเตี้ยมหมิงเยว่ ว่าต้องการหัวของอ๋องฉี และให้ค่าหัวราคาห้าหมื่นตำลึงแต่องค์รักษ์เงาไม่ได้ส่งรายงานลับกลับมา และความถูกต้องของเนื้อหานั้นก็ไม่แน่นอน ดังนั้นไท่ซ่างหวงจึงสั่งให้ผู้คนจับตาดูโรงเตี้ยมหมิงเยว่และสำนักมือสังหารอื่น ๆ สำหรับสาเหตุที่ต้องจับตามองที่โรงเตี้ยมหมิงเยว่ แทนที่จะเป็นจวนอ๋องฉี เป็นเพราะไท่ซ่างหวงเชื่อว่ารายงานลับเป็นเท็จ จุดประสงค์ที่แท้จริงอาจไม่ใช่อ๋องฉี แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นตัวอ๋องฉู่ต่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 643

อวี่เหวินห่าวทำการสอบสวนฉู่หมิงชุ่ยเป็นไปไม่ได้เลยที่ฉู่หมิงชุ่ยจะมาขึ้นศาล นางได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถลุกขึ้นมานั่งได้ด้วยซ้ำเช่นนั้นแล้ว อวี่เหวินห่าวจึงต้องไปที่คุกด้วยตนเองในคุกที่ทั้งมืดและอับชื้น แสงสลัวสะท้องบนใบหน้าซีดเซียวของฉู่หมิงชุ่ย นางนอนพิงบนกองฟาง เมื่อหรี่ตาลงเห็นเสื้อคลุมสีแดงเข้มต่อหน้านาง เฉกเช่นเดียวกันกับวันนั้นที่เห็นตัวเองมีเลือดกระฉูดออกมานางยกยิ้มขึ้นมาอย่างช้า ๆ และค่อยๆ ลืมตาขึ้น ชายคนนั้นยืนถือโคมไฟอยู่ด้านหลัง ถึงเห็นหน้าเขาไม่ชัด แต่นางก็รู้ว่าเขามาที่นี่แล้วนางพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง "ท่านมาแล้ว!"อวี่เหวินห่าวเข้ามาพร้อมเสื้อคลุมนั้น นัยน์ตาหงส์ที่เรียวยาวของเขาเปี่ยมไปด้วยความเย็นชา "ได้ยินมาว่าเจ้าจะสารภาพก็ต่อเมื่อเจ้าเห็นข้าแล้วเท่านั้น"นางหัวเราะ พยายามหัวเราะหนักมาก จนดูเหมือนก้อนสำลีอุดอยู่ในคอ และนางก็ไอออกมาอย่างหนักเหมือนเอาก้อนสำลีนั้นออกไม่ได้"ข้า..." นางค่อย ๆ ลุกขึ้นพยายามนั่งตัวตรง แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรง และในที่สุดก็วางมือลงอย่างเหนื่อยล้า "เดิมทีข้าคิดว่า ถ้าหากฆ่าหยวนชิงหลิงแล้ว พวกเราจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ ทำไมท่านถึง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 644

อวี่เหวินห่าวเอ่ยว่า "ตกลง ข้าสัญญา"“ท่านใช้ชีวิตของหยวนชิงหลิงสาบานสิ!” ฉู่หมิงชุยไม่เชื่อคำพูดเขาอวี่เหวินห่าวกล่าวด้วยสีหน้าเฉยเมย "ข้าขอสาบานด้วยชีวิตของพระชายาฉู่ ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าจนวาระสุดท้าย"ฉู่หมิงชุ่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ข้าจะเชื่อท่านเป็นครั้งสุดท้าย"นางวางมือลงบนพื้นแล้วพยายามดันตัวไปข้างหน้าด้วยแรงที่เหลืออยู่ คราบเลือดสีแดงที่เหมือนรอยแตกร้าวบนกำแพงเมือง คดเคี้ยวไปมาไม่สม่ำเสมอ ภายใต้การสะท้อนของแสงสลัว มันจึงดูน่ากลัวเป็นพิเศษ“คือท่านปู่ของข้าเอง!” นางออกแรงกระซิบสี่คำนี้ใส่หูเขาหลังจากพูดจบ นางก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ และมองเขาอย่างเศร้าสร้อยริมฝีปากของอวี่เหวินห่าวเหยียดโค้งขึ้น เขายิ้มอย่างเคร่งขรึมเย็นชา "ข้าเองก็คิดว่าเป็นเขา ใครจะไปมีแผนการที่ละเอียดถี่ถ้วนเช่นนี้อีก?""ก็ใช่น่ะสิ จะมีใครควบคุมทุกอย่างได้อย่างเขาบ้าง?" แววตาของฉู่หมิงชุ่ยว่างเปล่า "อันที่จริง เขาก็อยากจะฆ่าข้าเช่นกัน? ตั้งแต่แรกตกลงกันแล้วว่าเขาจะช่วยชีวิตข้า แค่ให้หยวนชิงหลิงตายไปซะ เขาจะช่วยข้าจัดการปัญหาทุกอย่าง ข้ายังคงเป็นคุณหนูคนโตของจวนมหาเสนาบดีเหมือนดั่งวันวาน แต่ในความเป
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 645

อวี่เหวินห่าวเฝ้าดูภาพตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเขาพูดกระซิบเสียงเบา “เจ้าใช้ปู่ของเจ้ามาก่อความสับสน แต่ข้าก็มองออกอยู่ดี ข้าคอยระวังเขาอยู่แล้ว เจ้าอย่าคิดว่าเขาจะฆ่าหยวนชิงหลิงแทนเจ้าได้เลย"ก่อนที่นางจะตาย อวี่เหวินห่าวก็โน้มตัวลงมากระซิบชื่อ ๆ หนึ่งข้างหูของนางดวงตาของฉู่หมิงชุ่ยเบิกโพล่งและชักกระตุกอย่างรุนแรง เสียงครางต่ำที่ดังออกมาจากลำคอจนร่างกายหดเกร็ง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเสียใจฉู่หมิงชุ่ยตายตาไม่หลับเสื้อคลุมสีแดงเข้มที่ลากผ่านลูกกรงเหล็กของเรือนจำ อวี่เหวินห่าวเดินจากไปด้วยสีหน้าเฉยเมยและเย็นชาการพิจารณาคดีร่วมกันกับกรมอาญาในช่วงบ่ายถูกยกเลิกไป เนื่องจากพัศดีในคุกได้มารายงานว่าฉู่หมิงชุ่ยฆ่าตัวตายและเสียชีวิตแล้วคนที่เป็นเหมือนกุญแจสำคัญก็ตายไปแล้ว คำสารภาพของโจรทั้งสองก็ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันออกมา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีการพิจารณาคดี และสำหรับข้อกล่าวหาทั้งหมดจึงตกเป็นของฉู่หมิงชุ่ยไปกุลีสองคนนั้นถูกตัดสินให้ถูกตัดศีรษะ ในข้อหาร่วมกันสังหารและลักพาตัวพระชายาฉู่อวี่เหวินห่าวสั่งให้ฝูเฉิงทำการสืบสวนอย่างลับ ๆ ว่ามีใครที่เข้าม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 646

ถังหยางนิ่งเงียบแบบนั้นอยู่นาน ลมพัดแรงเข้ามาจากทางหน้าต่าง ทำให้กระดาษบนโต๊ะให้ปลิวกระจัดกระจาย อวี่เหวินห่าวหยิบที่ทับกระดาษหยกขาวมาทับกระดาษพวกนั้นไว้ และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ดูเหมือนจะมีหลายคนคิดถึงครรภ์ของเหล่าหยวนจริง ๆ”ถังหยางกล่าวว่า "ตั้งแต่ตอนนั้นที่ข่าวได้แพร่ออกไปว่าพระชายาได้ดื่มยาต้มจื่อจินลงไป ผู้คนย่อมจับตาดูว่าจะเก็บรักษาทารกไว้ได้หรือไม่ ตอนนี้เข้าเดือนที่สี่ และครรภ์นางเข้าสู่ช่วงคงที่แล้ว ดังนั้นพวกนั้นคงจะอดทนต่อไปไม่ได้แล้วเช่นกัน"อวี่เหวินห่าวยิ้มเย้ยหยัน "เจ้าสี่ปิดบังซ่อนเร้นได้เก่งเกินไปแล้ว"เจ้าสี่ อ๋องอัน หรืออวี่เหวินอัน เป็นโอรสของพระสนมกุ้ยเฟย ซึ่งมีตาเป็นแม่ทัพใหญ่ตี้เว่ยหมิง และยังเป็นหัวหน้าครูฝึกขององค์รักษ์เงาอวี่เหวินอันและอวี่เหวินห่าวนั้นไม่ได้แตกต่างกันเลย ในสมัยตอนเป็นเด็กทั้งคู่ต่างฝึกฝนในกองทัพ อวี่เหวินอันทุ่มเทลงแรงมีส่วนร่วมมากมายในสนามรบ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขานำทัพไปปราบปรามกองโจร และทำผลงานได้อย่างโดดเด่น เมื่ออายุยี่สิบปี เขาได้รับพระราชทานอัญมณีล้ำค่าจากชิงอ๋อง ดังนั้นผู้คนจึงเรียกเขาว่าอ๋องชิงเป่าถังหยางพูดด้วยน้ำเสีย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 647

เมื่อฟังอาซื่อพูดถึงเรื่องของหมานเอ๋อร์ หยวนชิงหลิงก็หันไปมองทางอวี่เหวินห่าวหลังจากอวี่เหวินห่าวทายาให้เสร็จแล้วก็จัดแขนเสื้อลง และพล่างเอ่ยถาม “เจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร?”หยวนชิงหลิงจึงตอบกลับเขาไป “หมานเอ๋อร์มีบุญคุณช่วยชีวิตข้าไว้”“เจ้าอยากให้นางอยู่นี่ก็ตามสบายเถอะ” อวี่เหวินห่าวกล่าวอย่างยิ้ม ๆหยวนชิงหลิงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก นางยกแขนกอดคอเขาไว้ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ดีมากเลย"อวี่เหวินห่าวบีบแก้มนางเล่น “เพื่อรอยยิ้มของเจ้า ต่อให้ต้องตายข้าก็ยอม”อาซือทำตัวไม่ถูก นางเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ"ทำไมท่านอ๋องเป็นคนกะล่อนได้ขนาดนี้?"อวี่เหวินห่าวกลอกตามอง อาซือขมวดคิ้วพยายามซ่อนรอยยิ้มที่คุมไม่ได้ "จะกะล่อนหรือไม่มันไม่เกี่ยวกับเจ้าสักหน่อย ยุ่งจริง พระชายาของข้าชอบฟังเป็นอันใช้ได้แล้ว"อาซื่อจึงเดินออกไปพร้อมทิ้งท้ายหยอกล้อเล็กน้อย "รู้สึกเลี่ยนขึ้นมาเล็กน้อยเลยเจ้าค่ะ"หยวนชิงหลิงอดขำขึ้นมาไม่ได้นางมองอวี่เหวินห่าว เห็นเขาใจลอยแบบนี้ จึงเอ่ยถามเรียกสติ "ถูกอาซื่อล้อท่านไม่พอใจหรือ?"อวี่เหวินห่าวเก็บกล่องยาให้นาง และพูดลอย ๆ ว่า "ไม่สักหน่อย ใช่แล้ว สองสามวันนี้ข้าจะอยู่ที่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 648

สำหรับพระชายาจี้ มันเป็นเรื่องอยากที่ยอมรับทัศนคติแบบนี้ของนาง "เจ้าไม่รู้หรือ อีกนิดเดียวเจ้าเกือบตายด้วยน้ำมือของนางแล้วนะ? เจ้าไม่ควรถามเรื่องนี้อย่างละเอียดหรืออย่างไรกัน? ชีวิตเป็นของเจ้าเอง และเจ้าเองก็ควรรู้ตัว และควรระมัดระวังเอาไว้"หยวนชิงหลิงก้มหน้าก้มตาฉีดยาให้นาง พลางเอ่ยไปด้วย "ข้าเชื่อเจ้าห้า เขาเป็นคนตัดสินคดีนี้ เขาต้องรู้อยู่แก่ใจดี"“เชื่อใจผู้ชายน่ะหรือ?” พระชายาจี้พูดอย่างดูถูก “ตอนนี้เขากำลังดูแลเจ้าอย่างดี แล้ววันหลังเล่า? หากพวกเจ้าทั้งคู่ตกอยู่ในอันตรายขึ้นมาเล่า? เจ้ามั่นใจได้หรือว่าเขาจะออกหน้ามาช่วยเจ้า? อย่าไร้เดียงสาให้มันมากนักเลย บนโลกใบนี้สิ่งที่ไว้ใจไม่ได้ที่สุดก็คือผู้ชาย"อวี่เหวินห่าวที่กลับเข้ามาพอดี และได้ยินเช่นนั้น เขาก็รีบก้าวเข้ามา "พี่สะใภ้ใหญ่ คนทำเลวทำชั่วทั้งหมดบนโลกนี้ล้วนเป็นผู้ชายหรือ?"พระชายาจี้เองก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะอยู่ที่นี่ เมื่อก่อนนางเคยแสร้งทำเป็นคนดีต่อหน้าทุกคน นางจะไม่พูดจะคำทิ่มแทงเช่นนี้ นางอยู่กับหยวนชิงหลิงมาได้สักพัก ก็เริ่มพูดจาตรงไปตรงมาจากก้นบึ้งของหัวใจนางได้ เมื่อได้ฟังสิ่งที่อวี่เหวินห่าวพูด นางก็รู้สึกประหม่าไ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 649

“ข้าไม่โทษเขาหรอก” อวี่เหวินห่าวพูดให้หยวนชิงหลิงสบายใจ“อื้อ!” หยวนชิงหลิงเขย่งตัวขึ้นหอมเขาเป็นรางวัล “เรื่องคืนตำแหน่งของท่าน ท่านยังต้องให้เขาช่วยพูดแทนท่านต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ ดังนั้นถ้าจำเป็นแล้วล่ะก็ ต้องพูดจาดี ๆ ให้มากหน่อยนะ”อวี่เหวินห่าวคลี่ยิ้มออกมา "เจ้านี่น้า หัดไปเรียนรู้เรื่องประจบประแจงมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"หยวนชิงหลิงถอนหายใจออกมาเบา ๆ “ข้ารั้งกายท่านไว้ได้ แต่รั้งใจท่านไม่ได้ ท่านคิดถึงสำนักผู้ตรวจการ ข้ารู้ดี การพูดจาดี ๆ มันไม่ได้ทำให้ตัวเองดูแย่หรอก คนอื่นชอบฟังกันทั้งนั้น และยังทำให้พวกเขามีความสุขได้อีกด้วย”"เจ้าคือพยาธิตัวกลมในท้องของข้าจริงเชียว รู้ใจข้ายิ่งนัก" อวี่เหวินห่าวไม่สามารถปล่อยสำนักผู้ตรวจการไปได้จริง ๆ ไม่ใช่เพราะเขาทุ่มเทมาก แต่เพราะมีคนในสำนักผู้ตรวจการที่ต้องระวังต่างหากหยวนชิงหลิงยืนอยู่ที่ประตู และมองดูเขาเดินจากไป เสื้อคลุมสีขาวของเขาแทบจะกลืนเป็นสีเดียวกับหิมะไปแล้ว นางมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เกล็ดหิมะค่อยลอยล่องลงมาน่ามองมาก เพียงแต่เมื่อถูกแสงแดดสาดส่องลงมา มันกลับทำให้ใจคนมองนั้นพลันเศร้าหมองอย่างบอกไม่ถูกเตาถูกจุดขึ้นในห้องหนังส
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 650

มหาเสนาบดีฉู่ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมาอีก ราวกับว่าที่เขาพูดถึงเงื่อนงำนั้นก็เป็นอันใช้ได้แล้วเขาจิบชาพุทรา และเงยหน้าขึ้นพูดกับนางข้าหลวงสี่ว่า "ดื่มแต่ชารู้สึกท้องว่าง เจ้าทำอะไรกินหน่อยได้หรือไม่?"นางข้าหลวงสี่จึงกล่าวว่า “ได้สิ ท่านคุยกับท่านอ๋องไปก่อน ข้าจะไปทำของกินมาให้”มหาเสนาบดีฉู่เอ่ยว่า “ข้าคุยจบแล้ว”เขาหยิบแก้วและกาน้ำชาเดินออกไป “ไปทำของกินเถอะ”นางข้าหลวงสี่ถึงกับนิ่งไป นี่คุยกันจบแล้วหรือ?อวี่เหวินห่าวคิดว่าเขาจะถามเกี่ยวกับฉู่หมิงชุ่ยอีกสักหน่อย แต่เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะหยุดพูดคุยเช่นนี้ ซึ่งค่อนข้างน่าแปลกใจไปสักหน่อยนางข้าหลวงสี่และมหาเสนาบดีฉู่ออกไปด้วยกันมหาเสนาบดีฉู่ก็กระซิบบอกนางเบา ๆ "ดูท่าท่านอ๋องของเจ้าจะโชคร้ายเอาเสียแล้ว"นางข้าหลวงสี่ตกใจมาก "โชคร้าย? เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงโชคร้ายได้? ท่านอย่าทำให้ข้าตกใจเช่นนี้"มหาเสนาบดีฉู่เอ่ยว่า "ข้าไม่ได้แหย่ให้ตกใจ มันเป็นความจริง"“ท่านรีบพูดสิ โชคร้ายอะไร” นางข้าหลวงสี่หยุดประท้วงเขาแววตาของมหาเสนาบดีฉู่ดูล้ำลึกไร้ขอบเขต และเอ่ยขึ้นมา "ห่อเกี๊ยวเป็นหรือไม่?"“เป็นสิ!”“เช่นนั้นเจ้าทำเกี๊ยวก่อน ไว้ข้ากินเ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
6364656667
...
102
DMCA.com Protection Status