สีหน้าของฉู่หมิงชุ่ยเคลิบเคลิ้มราวกับตกอยู่ในความฝัน “ตั้งแต่ข้าอายุสิบเอ็ด ข้ามีความฝันว่าจะแต่งงานกับคนผู้หนึ่ง และเจ้าสาวก็คือข้า เจ้าบ่าวก็คือเขา หยวนชิงหลิงบอกว่านางตอนอายุสิบสามก็ตกหลุมรักเขา แต่ข้ารักเขาก่อนนางมาตั้งนานแล้ว หากไม่ใช่เพราะท่านเป็นโอรสของฝ่าบาท ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดของเสด็จแม่ท่าน ข้าคงไม่ยอมปล่อยเขาไป เขาไม่เคยบอกท่านสินะ? เมื่อหลายวันก่อนข้าไปหาเขาที่โรงเตี้ยมเยวี่ยเต๋อ ข้าคุยกับเขาอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ข้าเพิ่งรู้ว่าในใจของเขายังมีข้าอยู่ เขาหวังว่าข้าจะหย่ากับท่าน เขาจะแต่งข้าเป็นชายารอง เฮ้อ เดิมทีข้าควรได้เป็นพระชายาของเขาแท้ ๆ”นางถอนหายใจออกมาเบา ๆ และก้มหน้าลง หางตานางเห็นใบหน้าซีดขาวของเขาอย่างชัดเจนหยวนหยงอี้คว้ามือนาง ฉุดนางลุกขึ้น และกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “พอได้แล้ว เจ้าหุบปาก และออกไปได้แล้ว”ฉู่หมิงชุ่ยมองหยวนหยงอี้ และกระซิบกับนางว่า "ชายารองหยวน เรื่องนี้เขาควรรู้เอาไว้ อย่างไรเสีย เจ้าเองก็รู้ว่า ข้ากับพี่ห้าพบกันเป็นการส่วนตัว ที่จริงเจ้าเองก็ควรบอกเขาด้วย”ทันใดนั้นอ๋องฉีก็เงยหน้าขึ้นมองหยวนหยงอี้ “เจ้ารู้ด้วยหรอกหรือ?”หยวนหยงอี้รีบเ
อ่านเพิ่มเติม