แชร์

บทที่ 4

เขายังเป็นองค์ชายจิ่น ทว่าเขากลับเหมือนไม่ใช่ตัวเขา

ลู่เฟิงจิ่นในอดีตนั้นกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา ทว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉู่เยว่หลีในคืนนี้กลับเป็นชายใบหน้าหม่นหมองคนหนึ่ง

เขาถึงขั้นหมดอาลัยตายอยาก

ฉู่เยว่หลีรินเหล้าให้เขา

ลู่เฟิงจิ่นยังคงเหมือนเช่นเคย หากมีเรื่องในใจมักจะมาหานาง ไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจก็จะมาบอกเล่าให้นางฟัง

ค่ำคืนนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่สบายใจ

หลังจากดื่มเหล้าฤทธิ์แรงติดต่อกันไปหลายจอก ลู่เฟิงจิ่นถึงได้มองเห็นฉู่เยว่หลีอย่างชัดเจน ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา “อาการบาดเจ็บของแม่ทัพฉู่ดีขึ้นแล้วหรือไม่?”

“ดีขึ้นแล้ว” ฉู่เยว่หลีตอบเสียงเรียบเฉย ใบหน้าเย็นชา ไม่มีอารมณ์ใดแม้แต่นิด

ลู่เฟิงจิ่นรู้ว่าอาการเช่นนั้น คือถูกตัด ไม่อาจหายดีได้

เขากุมมือฉู่เยว่หลีอย่างแผ่วเบา “อาหลี อย่าโกรธข้าเลย วันนั้นข้าผิดเอง ข้าไม่ควรตวาดเจ้า”

อันที่จริงหลายปีมานี้ เขานั้นดีกับฉู่เยว่หลีมากจริง ๆ

อย่าว่าแต่ตวาดนางเลย หากพูดจาใส่อารมณ์กับนางเพียงเล็กน้อย เขาก็จะขอโทษในทันที

เขาไม่เคยแม้แต่จะเรียกตนเองว่า “องค์ชาย” ต่อหน้านางด้วยซ้ำ ยกเว้นครั้งนั้นเมื่อสามวันก่อน

ฉู่เยว่หลีหลุบตาลง ชักมือของตัวเองกลับตามสัญชาตญาณ

ลู่เฟิงจิ่นกลับกุมมือนางไว้แน่นกว่าเดิม “อาหลี เจ้าอย่าได้... โกธรข้าเลย ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดข้าถึงได้เปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้”

“เปลี่ยไปเป็นเช่นไร?” ฉู่เยว่หลีจ้องใบหน้าเขา

สีหน้าของเขามีแต่ความทุกข์ทน หมดสิ้นหนทาง

เขาคือองค์ชายเทพสงครามแห่งตงหลิงเชียวนะ! ไม่ว่าศึกเล็กศึกใหญ่ก็ล้วนแต่รบมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไม่มีคลื่นยักษ์หรือพายุโหมกระหน่ำใดที่ไม่เคยพบพาน? ต่อให้เขาไท่ซานถล่มลงตรงหน้า เขาก็สามารถเผชิญหน้าได้โดยไม่เกรงกลัว

มีสักกี่หนที่เขาร้อนรนเช่นนี้?

“อาหลี ใจของข้ามีเพียงเจ้า” ลู่เฟิงจิ่นพลันเอ่ย “แต่ก่อนเป็นเช่นไร ยามนี้ก็เป็นเช่นนั้น วันหน้าเองก็เช่นกัน จะไม่มีสิ่งใดมาเปลี่ยนแปลงงานแต่งงานของเราได้! อาหลี เดือนหน้าพวกเราก็จะแต่งงานกันแล้ว จากนี้เป็นต้นไป ข้าจะรักเจ้าเพียงผู้เดียว”

หากฉู่เยว่หลีในสมัยก่อนได้ยินคำพูดนี้ ในใจของหวั่นไหวเป็นแน่

ทว่าเมื่อผ่านพ้นเรื่องราวในวันนั้น หลังจากได้เห็นเขามองนางด้วยสายตาอาฆาต ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด นางถึงพลันรู้สึกว่า ไม่ว่าเขาจะพูดคำใดก็ไร้ความหมายทั้งนั้น

“อาหลี เจ้าไม่ดีใจหรือ?” ท่าทีนิ่งเฉยของฉู่เยว่หลีทำให้ลู่เฟิงจิ่นยิ่งรู้สึกเศร้าหมอง

ฉู่เยว่หลีเลิกคิ้ว ราวกับไม่เข้าใจ “เหตุข้าต้องดีใจด้วย นั่นมิใช่คำสัญญาที่ท่านให้กับข้าไว้ตั้งแต่ก่อนแล้วหรือ? เหตุใดวันนี้องค์ชายถึงได้เอ่ยขึ้นอีกครั้ง?”

พูดเช่นนี้ แท้จริงแล้วพูดให้นางฟัง หรือกำลังเตือนสติตัวเองอีกวิธีหนึ่ง

คราวนี้ลู่เฟิงจิ่นหลบตานาง หลังจากปล่อยมือนาง เขาก็ยกเหล้าขึ้นก่อนจะละเลียดดื่ม

ทว่าฉู่เยว่หลีกลับไม่ทนอีกต่อไป นางยังต้องกลับไปดูแลจื่อซูกับพี่ใหญ่ต่อ

ลู่เฟิงจิ่นมองออกว่านางกำลังหงุดหงิด ในใจก็ยิ่งขุ่นมัว แต่ก่อนนางไม่เคยปฏิบัติเช่นนี้กับเขา

“อาหลี เรื่องในใจของข้า ยังบอกเล่าให้เจ้าฟังได้หรือไม่? พวกยังเหมือนเดิม ใช่หรือไม่?” เหตุใดเขาถึงรักฉู่เยว่หลีแต่เพียงผู้เดียวมานานหลายปีน่ะหรือ? นั่นเป็นเพราะไม่ว่าเขาจะพบเจอสิ่งใด นางนั้นไม่เคยทอดทิ้งเขา

ตอนนั้นเขาไม่ทันระวังเดินชนเสด็จพ่อจึงถูกลงโทษ คนรอบตัวพากันหันไปเอาอกเอาใจท่านพี่องค์ชายสี่ มีเพียงอาหลีที่ยังอยู่ข้างกายเขามาตลอด

นางดุจนั่นชายฝั่งริมอ่าวของเขา ไม่ว่าจะพบเจอพายุคลื่นลมใด เพียงแค่กลับมาอยู่ข้างกายนาง เขาก็จะรู้สึกสงบจิตสงบใจ

ครานี้ เขานั้นก็หวังว่าจะสามารถกลับมาพักหายใจข้างกายนาง

“อาหลี ข้าเหมือนกับ... เหมือนกับจะชอบแม่เด็กนั่นเข้าแล้ว”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status