แชร์

บทที่ 5

”เช่นนั้นแล้ว องค์ชายมาเพื่อพูดเรื่องถอนหมั้นกับข้าหรือ?” ใบหน้าของฉู่เยว่หลียังคงราบเรียบ สงบนิ่ง

ทว่าสิบนิ้วที่เก็บซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อนั้นจิกเกร็งแน่น

เล็บอันแหลมคม จิกเข้าไปในเนื้อกลางฝ่ามือ เจ็บแสบเล็กน้อย แต่เพราะความเจ็บปวดที่หัวใจ ความเจ็บปวดบนฝ่ามือนั้นจึงไม่หนักหนาต่อไป

คู่หมั้นของนางเอ่ยกันนางด้วยสีหน้าทุกข์ทนว่าเขาชอบหญิงอื่น แต่ต้องการให้นางปลอบโยนเขาเหมือนเช่นเคย

เฮ้อ ใต้นภายิ่งใหญ่ อัศจรรย์ใดก็เกิดขึ้นทั้งนั้น

ช่างน่าขันนัก

“ถอนหมั้น” สองพยางค์นี้ แทงหัวใจของลู่เฟิงจิ่งสาหัสนัก

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร! ข้าจะถอนหมั้นกับเจ้าได้อย่างไร? ชาตินี้ข้าจะไม่มีวันไปจากเจ้า”

เขาตื่นตระหนก กุมมือของฉู่เยว่หลีเอาไว้อีกครั้ง

คราวนี้กำแน่นกว่าคราวไหน บีบเลยด้วยซ้ำ

เล็บมือของฉู่เยว่หลีเดิมทีจ่ออยู่กลางฝ่ามือ เมื่อถูกเขาบีบเช่นนั้น เล็บทั้งเล็บจึงจิกลึกเข้าไปในเนื้อ

ทั้ง ๆ ที่เจ็บยิ่งนัก แต่กลับไม่รู้สึกอันใด

นางมองลู่เฟิงจิ่น น้ำเสียงนิ่งเรียบ “เช่นนั้นแล้วที่องค์ชายมาคืนนี้ อยากจะพูดอะไรกับข้ากันแน่?”

“อาหลี เจ้าอย่าได้เย็นชากับข้าเช่นนี้ได้หรือไม่? เราสองรักกันมานานหลายปี เรื่องผิดใจเล็กน้อยเพียงเท่านี้จะผ่านไปไม่ได้เลยหรือ?”

เขากุมมือนางไว้พลางคว้าขวดเหล้าขึ้นมา ก่อนจะมอมเมาตัวเองไปครึ่งขวด

สุดท้าย เหล้าขวดนั้นก็ถูกเขาฟาดลงกับโต๊ะ เขาใช้ปลายนิ้วประคองหน้าผากของตัวเองเขา หลับตาลง ใบหน้าทุกข์ระทม

“ข้าไม่รู้ว่าข้าเป็นอะไรไป? ทั้ง ๆ ที่นางหน้าตาอัปลักษณ์เช่นนั้น ทั้งผอมแห้งแรกน้อย เทียบเจ้าไม่ติดแม้แต่นิด แต่ทุกคืนยามข้าหลับตาลง ดวงตาคู่นั้นของนางกลับลอยขึ้นมาหัว”

“ดวงตาคู่นั้นของนางกลมโต สุกใสเป็นประกาย เต็มไปด้วยความอวดดี ต่อหน้าข้ายังกล้าสามหาวปานนั้น! ช่างเป็นคนโง่ที่ไม่กลัวตายจริง ๆ”

คำพูดกำลังด่าทอ ทว่าริมฝีปากบนล่างอันงดงามนั้นกลับยกสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าตนเองกำลังยิ้ม เขายังคงเอ่ยอย่างเจ็บปวด “บางทีนางอาจต่างจากหญิงสาวที่ข้าเคยพบเจอ นางไม่เคยประจบประแจงเยินยอข้า ไม่เคยเชื่อฟังข้า ข้าโมโหถึงขั้นอยากฆ่าคนยามนางดื้อด้าน”

“บางทีอาจเป็นเพราะเหตุผลเหล่านี้ ข้าถึงได้ลืมนางไม่ลง” ลู่เฟิงจิ่นพยายามหลับตาลง ในที่สุดก็กลับสู่โลกแห่งความจริง

เขาลืมตามองฉู่เยว่หลี เอ่ยเสียงอ่อนระทวย “อาหลี ขอเวลาสักนิด ข้าจะลืมนาง! ข้าสัญญากับเจ้า ชีวิตนี้จะรักเพียงเจ้า ข้าลู่เฟิงจิ่นผู้นี้พูดคำไหนคำนั้น! อาหลี เจ้าเชื่อข้านะ!”

“ได้สิ” ฉู่เยว่หลีสีหน้าเรียบเฉย ชักมือของตัวเองกลับ มองดูชายที่ตัวเองชอบพอมานานหลายปี

ตอนนางยังเด็ก ปีนั้นยามอายุได้แปดปี เขาช่วยนางออกมาจากทะเลเพลิง นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา นางบอกตัวเองว่าชีวิตนี้จะแต่งงานกับเขาเท่านั้น

เขาในตอนนั้นอายุยังไม่สิบสองปีด้วยซ้ำ แต่กลับเป็นเด็กชายที่สง่างาม องอาจห้าวหาญ ปณิธานแน่วแน่

ฉู่เยว่หลีชอบเขายิ่งนัก

เพื่อให้ตัวเองตามเขาให้ทัน ตั้งแต่เล็กฉู่เยว่หลีก็เรียนวิชาต่าง ๆ นอกจากฉิน หมากล้อม ตำรา วาดภาพ แม้แต่กลยุทธ์ที่ใช้ในศึกสงครามทั้งหมด นางก็เรียกอย่างเอาเป็นเอาตาย

แต่เขาบอกว่า เขาชอบผู้หญิงอ่อนหวาน

เพราะอย่างนั้นต่อให้นางจะตั้งใจเรียนเพียงใด แต่กลับไม่เคยอวดอ้างต่อหน้าเขา ทั้งยังไม่มีทางเผยให้เขาเห็น

ในสายตาของเขา นางคือหญิงสาวที่แสนอ่อนโยนมาโดยตลอด รู้หนังสือ มารยามงาม อ่อนหวาน ผอมบางร่างน้อย

ทว่าวันนี้ เขากลับพูดว่าเขาชอบเด็กแก่นแก้วอวดดี...

ฉู่เยว่หลีลุกยืนขึ้น หลุบตาลงมองลู่เฟิงจิ่นที่เมามาย ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “เช่นนั้นหลังจากองค์ชายกลับไป ขอโปรดสงบจิตสงบใจของท่านด้วย”

“ข้ารู้ว่าเจ้ายังโกรธอยู่ อาหลี แต่คำที่เข้าพูดออกไป ข้านั้นทำได้แน่นอน” ลู่เฟิงจิ่นลุกยืนขึ้น มองใบหน้าแสนงดงามของนางใต้แสงจันทร์

“ขอเวลาข้าสักนิด จะลืมนางให้ได้ ให้เจ้ากลับมาอยู่ในใจข้างอีกครั้ง! ข้าจะต้องตกหลุมรักเจ้าอีกครั้งแน่นอน!”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status