แชร์

บทที่ 11

“เยวียนเอ๋อร์ เจ้าจะทำอะไร?” ลู่เฟิงจิ่นลุกขึ้นยืนในทันใด คว้าข้อมือของทั่วป๋าเฟยเยวียน “วางมีดลง!”

ด้านนอก องครักษ์ของจวนกั๋วกงพากันวิ่งเข้ามา

ฉินอู่รีบวิ่งเข้าไป ตะโกนเสียงดังลั่น “องค์ชายจิ่นอยู่ที่นี่ ผู้ใดกล้าสามหาว! ถอยไปให้หมด!”

องครักษ์ไม่กล้าทำอะไร

ใครคนหนึ่งรีบหันไปแจ้งให้ฉู่เซียวเหอทราบ

“เยวียนเอ๋อร์ วางมีดลงก่อน” ลู่เฟิงจิ่นบีบข้อมือของนางแน่นขึ้น

ทั่วป๋าเฟยเยวียนโกรธจัด “ใจเจ้ายังมีนางอยู่จริง ๆ ด้วย!”

“เยวียนเอ๋อร์!” ลู่เฟิงจิ่นก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ถึงได้ใจอ่อนกับนางไปเสียทุกครั้ง

เมื่อเห็นเปลวไฟแห่งความโกรธในดวงตาของนาง เขาก็ไม่โมโหแล้ว

“เยวียนเอ๋อร์ ข้ามีแต่เจ้า แต่นี่คือจวนกั๋วกง อย่าได้ก่อเรื่อง วางมีดลงก่อน!”

“หมายความว่า หากนางนางเข้าจวนแล้ว ข้าก็สามารถทำอะไรนางได้ตามใจชอบใช่หรือไม่” ทั่วป๋าเฟยเยวียนหัวเราะเยาะ “แต่ข้ารอไม่ไหวแล้ว!”

“เยวียนเอ๋อร์...”

“แล้วเจ้าต้องการจะทำอะไร?” ฉู่เยว่หลียังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ตั้งแต่ทั่วป๋าเฟยเยวียนเข้ามา มีดที่ส่องแสงแวววาวก็กวัดแกว่งอยู่ตรงหน้า แต่นางก็ยังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆ

ความสงบนิ่งนั้น ทำให้ทั่วป๋าเฟยเยวียนเดือดดาลจนหัวเราะ “ข้าเคยพูดไว้ ผู้ใดล่วงเกินข้า แม้นไกลเพียงใด ก็จะตามแก้แค้น เจ้าทำลายร่างกายข้า ข้าก็จะทำลายเจ้า!”

“เยวียนเอ๋อร์!” เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ลู่เฟิงจิ่นจะปล่อยให้นางทำเรื่องวุ่นวายได้อย่างไร? “เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว”

“สำหรับข้า มันยังไม่ผ่าน!” ทั่วป๋าเฟยเยวียนจ้องเขาอย่างแค้นเคือง “ข้ายอมตกลงให้เจ้าแต่งงานกับนาง แต่นางต้องชดใช้ข้าคืนด้วยหนึ่งมีด! ลู่เฟิงจิ่น หากเจ้ากล้าขัดขวาง ข้าจะออกจากเมืองหลวง ชาตินี้จะไม่เจอหน้าเจ้าอีก!”

“เยวียนเอ๋อร์...” ลู่เฟิงจิ่นสีหน้าแสนลำบากใจ เขารู้จักนิสัยของทั่วป๋าเฟยเยวียนดี นางพูดคำไหนคำนั้น หากไม่ยอมให้แก้แค้น นางคงจากไปอย่างแน่นอน

นางไม่ต้องการชื่อเสียง ไม่ต้องการผลประโยชน์ แม้แต่ความตายก็ไม่กลัว ลู่เฟิงจิ่นทำอะไรนางไม่ได้เลยจริง ๆ

สายตาของเขานั้นแสนลำบากใจ สุดท้ายก็ไปหยุดอยู่บนร่างกายของฉู่เยว่หลี “อาหลี เรื่องนี้... ก็เพราะความเอาแต่ใจของเจ้า เจ้า... หากยังอยากเป็นพระสนม จิ่นอ๋องเฟย ก็... ชดใช้ให้นางด้วยมีดนี้เถิด”

เขาปล่อยมือ

ปลายมีดของทั่วป๋าเฟยเยวียนจ่อที่ฉู่เยว่หลีทันที “ข้าเคยพูดไว้แล้ว...”

“ข้าไม่ยอม” นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เยว่หลีลุกขึ้นยืน นับตั้งแต่นั่งลงบนเก้าอี้ตัวนี้

ในมือของนางยังถือกล่องไม้ใบนั้นอยู่

ทั่วป๋าเฟยเยวียนเอ่ยเยาะเย้ย “เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์หรือ...”

“ที่นี่คือจวนกั๋วกง หากองค์ชายยอมให้ทั่วป๋าเฟยเยวียนทำร้ายข้า ฮ่องเต้และไทเฮาจะต้องเข้าข้างข้า ข้ารับประกัน หากนางแทงข้า นางก็ต้องตายแน่นอน”

“เจ้าคิดว่าข้าสนใจหรือ?” ทั่วป๋าเฟยเยวียนพูดอย่างเย่อหยิ่ง

ลู่เฟิงจิ่นคว้าข้อมือของนางอีกครั้ง แต่จ้องฉู่เยว่หลีอย่างเดือดดาล “มีดนี้เจ้าติดค้างนาง เจ้าย่อมต้งชดใช้! ยิ่งกว่านั้น เยวียนเอ๋อร์ต้องการแค่แก้แค้น ไม่ต้องการชีวิตเจ้า! อาหลี ชดใช้เถอด เจ้าก็ยังคงเป็นพระสนม จิ่นอ๋องเฟย ของข้า ความแค้นในอดีต ก็จบลง ไม่เช่นนั้น...”

“ไม่เช่นนั้น องค์ชายก็จะถอนหมั้น ทำให้ข้าเป็นที่หัวเราะเยาะของคนทั้งเมือง ต้องอยู่โดดเดี่ยวตลอดไป ใช่หรือไม่เพคะ?” ครั้งนี้ฉู่เยว่หลีไม่หัวเราะ เพียงแต่มองกล่องไม้ในมือ ใจเริ่มหมดหวัง

ลู่เฟิงจิ่นเบือนหน้าหนี พูดเสียงเย็นชา “หากข้าถอนหมั้น ในเมืองหลวงนี้ จะมีใครกล้าสู่ขอเจ้าอีก?”

“หยุดพูดมาก!” ทั่วป๋าเฟยเยวียนดีดดิ้นอย่างแรง “ลู่เฟิงจิ่น ปล่อยมือ! ข้าต้องแก้แค้นให้ได้! หากเจ้าไม่ปล่อย อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้า!”

ลู่เฟิงจิ่นรู้ว่านางหมดความอดทนแล้ว

เมื่อนางหมดความอดทน ไม่ว่าเรื่องใดนางก็สามารถทำได้ทั้งนั้น

เมื่อถึงยามนั้นไม่แน่ว่านางอาจจะทำร้ายตัวเองด้วย

ลู่เฟิงจิ่นไม่อยากเห็นนางเจ็บปวด

เขาทำได้เพียงจ้องฉู่เยว่หลี “อาหลี ข้าสัญญา หลังจากที่เจ้าแก้แค้นแล้ว ข้า... ข้าจะรักเจ้า!”

“ข้ารู้ว่าตัวเองไม่มีบุญ ไม่มีวาสนาจะได้รับความรักจากองค์ชาย” ฉู่เยว่หลีเดินไปหาเขา ส่งกล่องไม้ให้ “องค์ชาย ลองดูสิเพคะว่าข้างในมีอะไร”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status