แชร์

บทที่ 12

ลู่เฟิงจิ่นก้มลงมอง

กล่องไม้ที่ฉู่เยว่หลีถืออยู่นั้นดูมีแน่น แต่ด้วยนิ้วมือที่เรียวเล็กดุจหยกของนาว กลับทำให้มันดูอ่อนช้อยงดงามขึ้นมา

ลู่เฟิงจิ่นรู้มานานแล้ว ว่านางมีมือที่งดงามที่สุดในโลกหน้า นิ้วเรียวขาวละเอียด ราวกับแกะสลักจากหยก

พูดได้เลยว่าฉู่เยว่หลีเป็นหญิงสาวที่สวรรค์เมตตากว่าผู้ใด ตั้งแต่หัวจรดเท้าหาตำหนิไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

แม้กระทั่งตอนที่นางรีบร้อน เหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย เหงื่อนั้นก็ยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

ลู่เฟิงจิ่นเคยเห็นกับตาของตัวเอง ยามที่นางร่ายรำ หมู่ผีเสื้อนั้นบินวนเวียนรอบกายนางไม่ยอมห่าง

นางเป็นหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบ หาที่ติไม่ได้

ลู่เฟิงจิ่นพลันสับสน

จู่ ๆ ก็ไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่

จนกระทั่งน้ำเสียงเย็นชาของทั่วป๋าเฟยเยวียนดังขึ้น “ข้าคิดว่าคนสูงศักดิ์อย่างองค์ชายจิ่นนั้น มีของดีใดบ้างที่ไม่เคยเห็น แต่กลับหลงใหลในของขวัญเล็ก ๆ น้อยๆ ช่างน่าขันจริง ๆ!”

ความคิดของลู่เฟิงจิ่นพลันกลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง

เขามองกล่องไม้ในมือของฉู่เยว่หลี สีหน้าเปลี่ยนไป “อาหลี ข้าคิดว่าข้าพูดชัดเจนแล้ว! เหตุใดเจ้าต้องทำเช่นนี้?”

“องค์ชายไม่ลองเปิดดูหรือเพคะ?” ฉู่เยว่หลีส่งกล่องไม้ไปข้างหน้า “เป็นพระราชโองการ หากองค์ชายไม่อยากดูด้วยตัวเอง ข้าจะอ่านให้ฟังก็ได้”

“พระราชโองการหรือ?” ความโกรธของลู่เฟิงจิ่นปะทุขึ้นทันที “เจ้าไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้? เจ้าไปพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับเยวียนเอ๋อร์ต่อหน้าฮ่องเต้?”

เขาไม่อยากดู!

ฉู่เยว่หลีจะทำอะไรอีก?

คงจะไปยุฮ่องเต้ให้โกรธเขาและเยวียนเอ๋อร์ แล้วก็พูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับเยวียนเอ๋อร์

เยวียนเอ๋อร์เป็นธิดาโจร ฮ่องเต้และพระสนมรุ่ยเฟยจะต้องไม่ยอมรับแน่นอน

เขายังคงพยายามหาหนทางที่จะทำให้สเด็จพ่อยอมรับเยวียนเอ๋อร์ แต่ฉู่เยว่หลีดันกลับทำให้เขาเสียเรื่อง!

“อาหลี ข้าคิดว่าเจ้านั้นใสซื่อ ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเหมือนกับหญิงในวังพวกนั้น ใช้เล่ห์เหลี่ยมไร้ยางอาย!”

เขาคว้ากล่องไม้แล้วปิดออก ก่อนจะหยิบพระราชโองการออกมา

ทั่วป๋าเฟยเยวียนจ้องลู่เฟิงจิ่น หัวเราะเยาะเย้ย “นี่คือสิ่งที่เจ้าเรียกว่าดีงามหรือ? ไอ้ชาติหมา หลายปีที่ผ่านมา เจ้ายังไม่รู้อีกหรือว่านางเป็นคนเช่นไร เจ้าจะยังมีตาไว้ทำอะไร? สู้เอาไว้...”

“เงียบน่า” เสียงของลู่เฟิงจิ่นฟังอยู่อ้ำอึ้ง

หลังจากที่ได้อ่านพระราชโองการ เขาราวกับกลายเป็นหิน แข็งทื่อไปทั้งตัว

สองทำนั้น เขาด้วยเสียงแผ่วเบา ทว่าทั่วป๋าเฟยเยวียนยังคงได้ยินอย่างชัดเจน

เขาสั่งให้นางเงียบ!

ทั่วป๋าเฟยเยวียนโกรธ “ลู่เฟิงจิ่น เจ้ากล้า...”

“ข้าสั่งให้เจ้าเงียบ!”

ลู่เฟิงจิ่นตะโกน จ้องทั่วป๋าเฟยเยวียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ

ทั่วป๋าเฟยเยวียนชะงักไป ตกใจจนพูดไม่ออก

รู้จักเขามาร่วมเดือน ไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้มาก่อน!

นางรู้สึกน้อยใจ ไม่พอใจ แต่ยามอยู่ต่อหน้าเขาที่ดวงตาแดงก่ำ นางกลับก็ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง

“ที่แท้แล้วทั่วป๋าเฟยเยวียนก็ไม่ได้กล้าหาญขนาดนั้น ยังรู้จักกลัวอยู่บ้าง”

ฉู่เยว่หลียิ้ม หันหลังกลับมานั่ง ยกถ้วยชาขึ้น ดื่มอย่างสบายอ้อยอิ่ง

ทั่วป๋าเฟยเยวียนถูกกระตุ้นอีกครั้ง เอ่ยเสียงขุ่น “ฉู่เยว่หลี!”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ลู่เฟิงจิ่นปล่อยมือนาง เดินไปหาฉู่เยว่หลี มือที่ถือพระราชโองการสั่นเล็กน้อย “อาหลี เจ้าต้องการอะไร?”

ทั่วป๋าเฟยเยวียนไม่เข้าใจ เมื่อครู่เขายังไม่แสแย ยังโกรธอยู่เลยแท้ ๆ

เหตุใดยามสีหน้านั้นนี้กลับดู... ซับซ้อนปานนี้?

นางจ้องมองพระราชโองการในมือของลู่เฟิงจิ่น ขมวดคิ้วเข้าหากัน “พระราชโองการเขียนว่าอย่างไร?”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status