Share

บทที่ 4

Author: แสงอรุณฤดูใบไม้ผลิ
จี้อี่หนิงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะดิ้นรนสุดแรงทันที

แค่นึกว่าเมื่อคืนเขาเพิ่งจูบผู้หญิงคนอื่น เธอก็รู้สึกขยะแขยงและโกรธแค้น

"อื้อ...ปล่อยฉัน..."

การดิ้นรนของเธอสำหรับเสิ่นเยี่ยนจือเหมือนมดพยายามเขย่าต้นไม้ มือที่กอดเอวเธอไว้ไม่ได้คลายออกแม้แต่น้อย กลับยิ่งกระชับแน่นขึ้น

เพราะพยายามดิ้น ผ้าขนหนูที่พันตัวเธอก็หลุดออกอย่างรวดเร็ว จากมุมมองของเสิ่นเยี่ยนจือ สามารถเห็นหน้าอกของเธอได้อย่างชัดเจน

ดวงตาของเขาหรี่ลง รู้สึกเลือดในร่างกายพุ่งไปรวมกันที่จุดเดียว

ร่างกายทั้งสองแนบชิดกัน จี้อี่หนิงรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเสิ่นเยี่ยนจือได้อย่างรวดเร็ว

เธอทั้งโกรธทั้งแค้น กัดเขาอย่างแรง กลิ่นคาวเลือดแผ่ซ่านในปากของทั้งสองทันที

แต่เขาไม่เพียงไม่ปล่อยเธอ มืออีกข้างกลับลอดเข้าไปใต้เสื้อคลุมอาบน้ำ

เธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ข้างล่างไม่ได้ใส่อะไรเลย

ร่างกายของจี้อี่หนิงแข็งทื่อขึ้นมาทันที ก่อนจะยิ่งดิ้นรนรุนแรงขึ้น

"เสิ่นเยี่ยนจือ ไปให้พ้น!"

เสิ่นเยี่ยนจือทำเหมือนไม่ได้ยิน นิ้วไม่หยุดเร้าต่อมรับความรู้สึกของเธอ

"อี่หนิง เธอก็ต้องการฉันเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?"

จี้อี่หนิงดิ้นรนไม่หยุด แต่กลับไม่ได้ผล ในใจยิ่งสิ้นหวังขึ้นเรื่อย ๆ

ในที่สุด ตอนที่เขาแนบชิดเธอ เธอก็หลับตาลงอย่างสิ้นหวัง

"เสิ่นเยี่ยนจือ อย่าทำให้ฉันเกลียดคุณ"

เสิ่นเยี่ยนจือชะงัก ก้มมองจี้อี่หนิง ม่านตาหดเล็กลงโดยไม่รู้ตัว

เขาไม่เคยเห็นจี้อี่หนิงเป็นแบบนี้มาก่อน ทั้งร่างเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเจ็บปวด เหมือนตุ๊กตาเซรามิกที่ประณีตงดงาม พร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ

เขาต้องการเธอ ต้องการอย่างบ้าคลั่ง

แต่ในขณะเดียวกัน มีเสียงหนึ่งในใจบอกว่า ถ้าเขาทำแบบนี้กับเธอจริง ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็จะจบสิ้นโดยสมบูรณ์

เสิ่นเยี่ยนจือจ้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย มือที่กอดเอวเธอกระชับแน่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ในดวงตาเต็มไปด้วยความขัดแย้ง

ผ่านไปสิบกว่าวินาทีเต็ม ๆ จู่ ๆ เขาก็ปล่อยเธอและลุกจากเตียงเดินออกไปอย่างเร่งรีบ

"ปัง"

ประตูห้องนอนถูกปิดลงอย่างแรง เสียงปิดประตูดังสนั่นทำให้จี้อี่หนิงสะดุ้งโดยไม่รู้ตัว มือที่กอดผ้าห่มก็กระชับแน่นขึ้น

เสิ่นเยี่ยนจือก็ไม่ได้กลับมาอีกหลายวัน

จี้อี่หนิงโทรหาเขาหลายครั้ง อยากให้เขากลับมาคุยเรื่องหย่า แต่เขากลับไม่ตอบกลับเลยแม้แต่น้อย

เวลาผ่านไปจนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ จี้อี่หนิงกำลังส่งเรซูเม่หางานในห้องนั่งเล่น จู่ ๆ ประตูวิลล่าก็ดังขึ้น เสิ่นเยี่ยนจือเดินเข้ามาจากประตู

ไม่เจอกันหลายวัน ดูเหมือนเขาจะดูโทรมลงไม่น้อย

เมื่อสบตากัน ทั้งสองต่างเงียบกริบ

จี้อี่หนิงเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน เธอปิดคอมพิวเตอร์ ลุกขึ้นมองเขาด้วยสายตาสงบนิ่ง

"ในเมื่อคุณกลับมาแล้ว เรามาคุยเรื่องหย่ากันเถอะ"

เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้ว "ผมบอกแล้วว่าผมไม่หย่า วันนี้กลับมาก็เพื่อเตือนคุณว่าคืนนี้ต้องไปกินข้าวที่บ้านเดิม"

ตระกูลเสิ่นมีงานเลี้ยงครอบครัวเดือนละครั้ง ตั้งแต่แต่งงานกับเสิ่นเยี่ยนจือ ทั้งสองก็กลับไปที่บ้านเดิมเดือนละครั้ง

คนในตระกูลเสิ่นล้วนไม่ใช่พวกเข้าไปกับคนง่าย ๆ และก็ไม่ค่อยชอบเธอ ทุกครั้งที่ไปจี้อี่หนิงมักจะถูกกลั่นแกล้งทั้งทางตรงและทางอ้อม

แต่ก่อนเธอยังปลอบใจตัวเองได้ว่าแค่เสิ่นเยี่ยนจือรักเธอก็พอแล้ว ไม่ต้องสนใจคนอื่น แต่หลังจากเห็นภาพในนวันนั้น เธอก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไป

"ฉันไม่อยากไป คุณไปเองเถอะ"

สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือดูจนปัญญา ในดวงตามีแววรำคาญนิด ๆ

"จี้อี่หนิง คุณจะงี่เง่าไปถึงเมื่อไหร่กัน?"

เขาเพิกเฉยต่อโทรศัพท์และข้อความของเธอมาหลายวัน ก็เพื่อให้เธอใจเย็นลงเอง ไม่คิดว่าตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม

"ฉันไม่ได้งี่เง่า ฉันแค่อยากหย่ากับคุณ"

เมื่อได้ยินคำว่าหย่า ความอดทนสุดท้ายของเสิ่นเยี่ยนจือก็หมดลง มองจี้อี่หนิงด้วยสายตาเหมือนมองตัวประหลาด

"หย่า? ตั้งแต่แต่งงานกับผม คุณก็ไม่ได้ออกไปทำงานอีกเลย ถ้าหย่าแล้วคุณจะเอาอะไรกิน? บริษัทไหนจะรับคุณ? ไหนจะยังมีค่ารักษาพยาบาลราคาแพงลิบของพ่อของคุณอีก คุณจ่ายไหวเหรอ?"

"อี่หนิง คุณไม่ใช่เด็กสาวอายุสิบเจ็ดสิบแปดแล้วนะ ตอนนี้คุณอายุยี่สิบแปดแล้ว ช่วยโตเป็นผู้ใหญ่หน่อยได้ไหม?"

"ผมเป็นประธานของเสิ่นซื่อกรุ๊ป ก็มักจะเจอสิ่งล่อใจต่างๆ นอกบ้าน บางครั้งก็ต้านทานไม่ไหว มันก็เป็นเรื่องปกติ แต่ผู้หญิงพวกนั้นไม่มีทางมากระทบตำแหน่งคุณนายเสิ่นของคุณอย่างแน่นอน คุณยังจะเอายังไงอีก?"

ทำไมเธอถึงได้ไม่เข้าใจนะ เขายังรักเธออยู่ แต่ชาตินี้เขาไม่มีทางมีผู้หญิงแค่คนเดียวหรอก

มองดูท่าทางคุกคามของเสิ่นเยี่ยนจือ จี้อี่หนิงทำยังไงก็ไม่สามารถเชื่อมโยงเขากับหนุ่มขี้อายที่หน้าแดงตอนสารภาพรักกับเธอเมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และสัญญาว่าจะไม่ทำให้เธอเสียใจตลอดไปได้เลย

บางที... นี่อาจจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา เห็นแก่ตัว หยิ่งยโส อยู่เหนือกว่าคนอื่น

"ถ้าสิ่งที่คุณเรียกว่าโตเป็นผู้ใหญ่คือต้องทนให้คุณไปมีอะไรกับคนอื่นข้างนอก โทษทีนะ ฉันทำไม่ได้ คุณไปหาผู้หญิงคนอื่นเถอะ นี่คือสัญญาหย่าที่ฉันให้ทนายร่างมา ถ้าคุณว่างก็เซ็นมันด้วย"

เห็นเอกสารที่เธอยื่นมา เสิ่นเยี่ยนจือก็รับมาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย พลิกดูสองสามที พอเห็นส่วนแบ่งทรัพย์สิน ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ

"ไม่นึกเลยนะ คุณนี่โลภไม่เบาทีเดียว ถึงกลับอยากได้ทรัพย์สินของผมไปครึ่งหนึ่ง คุณคิดว่าเป็นไปได้หรือไง?"

"นั่นเป็นสิ่งที่ฉันสมควรได้ ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ?"

เสิ่นเยี่ยนจือหัวเราะเบา ๆ พูดอย่างสบายอารมณ์ "คุณลองดูบ้านหลังนี้สิ มีอะไรบ้างที่คุณควักเงินซื้อ? แล้วตลอดหลายปีที่เราแต่งงานกัน ค่ารักษาพยาบาลของพ่อคุณก็เป็นผมที่จ่ายตลอด ถ้าจะคิดจริง ๆ ล่ะก็ มันก็ควรจะเป็นคุณที่ให้เงินมากกว่า จะให้ทนายลองคำนวณดูหน่อยไหมล่ะ?"

เห็นท่าทางคิดเล็กคิดน้อยของเขา จี้อี่หนิงก็แทบไม่อยากเชื่อว่าตัวเองเคยตกหลุมรักคนแบบนี้

ได้แต่บอกว่าเมื่อก่อนเขาแกล้งทำดีเก่งมาก จนกระทั่งก่อนที่เธอจะจับได้ว่าเขานอกใจ เธอยังคิดว่าเขาเป็นสามีในอุดมคติอยู่เลย

"เสิ่นเยี่ยนจือ อย่าลืมนะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันให้สิทธิบัตรนั้นกับคุณ คุณก็คงไม่ได้นั่งเก้าอี้ประธานของเสิ่นซื่อกรุ๊ปอย่างมั่นคงขนาดนี้หรอก แล้วหลังแต่งงาน คุณเองนั่นแหละที่บอกให้ฉันอยู่บ้าน ถ้าฉันทำวิจัยต่อ ฉันคงหาเงินได้มากกว่าที่คุณให้ฉันมาในหลายปีนี้อีก!"

เสิ่นเยี่ยนจือไม่แยแส พูดด้วยเสียงเรียบ "เรื่องสิทธิบัตรนั่น คุณคิดว่าตอนนี้พูดออกไปใครจะเชื่อ?"

"ผมก็ไม่อยากมาคิดบัญชีกับคุณหรอก แต่คุณเอาแต่พูดเรื่องหย่า ผมก็ต้องคิดบัญชีกับคุณให้ชัดเจน"

"อี่หนิง แค่คุณไม่พูดเรื่องหย่าอีก เงินของผม คุณก็ยังใช้ได้ตามใจชอบเหมือนเดิม"

"เสิ่นเยี่ยนจือ คุณนี่มันหน้าด้านจริง ๆ!"

ในเมื่อเขาไม่ยอมหย่า เธอก็ต้องไปหาทนายฟ้องร้อง

เธอหันหลังจะเดินจากไ แต่ถูกเสิ่นเยี่ยนจือขวางไว้

"ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปงานเลี้ยงครอบครัวกับผม"

"ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ไป คุณก็บอกพวกเขาว่าฉันไม่สบายสิ"

พูดยังไม่ทันขาดคำ เสิ่นเยี่ยนจือก็คว้าข้อมือเธอไว้ พูดเสียงเข้ม "อี่หนิง ผมหมดความอดทนแล้วนะ อย่าบังคับให้ผมตัดค่ารักษาพยาบาลของพ่อคุณ!"

"คุณกล้าเหรอ!"

เสิ่นเยี่ยนจือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเลขาทันที "ฮัลโหล ค่ารักษาพยาบาลเดือนหน้าของพ่อตาผม..."

ไม่คิดว่าเขาจะทำจริงๆ จี้อี่หนิงโกรธจนตาแดง คว้าโทรศัพท์ของเขามาวางสายทันที

"เสิ่นเยี่ยนจือ คุณอย่าทำเกินไปหน่อยเลย"

"เกินไป?"

เสิ่นเยี่ยนจือมองเธอด้วยสายตาดูถูก ดึงเธอมาตรงหน้า มองลงมาจากที่สูงพูดว่า "จี้อี่หนิง ทุกอย่างที่คุณมีตอนนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ผมให้ คุณไม่คิดหรอกเหรอว่า คุณต่างหากที่ทำเกินไป? ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ ไม่งั้นผมมีร้อยวิธีที่จะทำให้คุณยอม"

Related chapters

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 5

    เมื่อเห็นความเย็นชาในดวงตาของเขา จี้อี่หนิงก็รู้สึกว่าเมื่อก่อนตัวเองนั้นตาบอดจริง ๆ ทำไมถึงได้หลงรักคนแบบนี้ดวงตาทั้งสองข้างร้อนผ่าว แต่เธอไม่อยากแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเขาแม้แต่น้อยเธอสะบัดมือเขาออกอย่างแรงจี้อี่หนิงสูดหายใจเข้าลึก หันหลังเดินขึ้นบันไดตอนนี้ในใจเธอของมีความคิดเดียว คือต้องรีบหางานทำให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ย้ายออกไป และหาทางหย่ากับเสิ่นเยี่ยนจือเธอสุ่มหยิบชุดมาเปลี่ยน เสียบปิ่นมวยผมแบบลวก ๆ จี้อี่หนิงก็ลงบันไดมาเธอเป็นคนสบาย ๆ ไม่ค่อยสนใจเรื่องการแต่งตัวแต่ก่อนเพื่อให้ตระกูลเสิ่นประทับใจ ตอนไปงานเลี้ยงตระกูลเสิ่นทีไร ก็จะแต่งตัวอย่างดีทุกครั้งตอนนี้ เธอขี้เกียจจะเอาอกเอาใจพวกเขาอีกต่อไปแล้วได้ยินเสียงฝีเท้า เสิ่นเยี่ยนจือก็เงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัวจี้อี่หนิงสวมชุดกี่เพ้าสีขาวแบบทันสมัย เอวบางราวกับต้นหลิว ดูเหมือนจะกำรอบได้ด้วยมือเดียว ผมยาวสีดำมวยด้วยปิ่นหยก เผยให้เห็นลำคอขาวเรียวบาง งดงามจนไม่อาจละสายตาบรรยากาศอ่อนหวานสงบรอบตัวเธอ ไม่ต่างจากตอนที่พวกเขาเจอกันครั้งแรกเลยเพียงแต่ สายตาที่เธอมองเขากลับเย็นชาที่สุด ไม่มีความอบอุ่นเหมือนแต่ก่อนเลย"

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 6

    จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้น กำลังจะพูด เสิ่นเยี่ยนจือก็จับมือเธอไว้ พูดยิ้ม ๆ ว่า "คุณย่าครับ พวกเรากำลังเตรียมตัวอยู่ครับ!"เธออยากสะบัดมือเขาออก แต่เสิ่นเยี่ยนจือจับมือเธอไว้แน่นมาก ไม่ให้โอกาสเธอได้ขยับเลยในเมื่อเขาไม่ยอมให้เธอสบายใจ ก็อย่าโทษที่เธอจะทำให้เขาไม่สบายใจบ้างเธอมองไปที่คุท่านแม่เฒ่าเสิ่น "คุณย่าคะ หนูกำลังหางานทำอยู่ค่ะ เรื่องมีลูกคงต้องเลื่อนออกไปก่อนค่ะ"พูดจบ ห้องรับแขกก็ตกอยู่ในความเงียบเสิ่นเยี่ยนจือบีบมือเธอแน่นขึ้น สีหน้าก็ดูมืดครึ้มขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกเจ็บที่ข้อมือ จี้อี่หนิงก็ขมวดคิ้วแน่นเสิ่นซื่อมองไปที่มือของเสิ่นเยี่ยนจือที่บีบจี้อี่หนิงแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนอยู่หนึ่งวินาที ก่อนจะเบือนสายตาไปอย่างเฉยเมยน้าสาวของเสิ่นเยี่ยนจือ เสิ่นซูหว่านหัวเราะเยาะ "อี่หนิง อย่าว่าน้าพูดมากเลยนะ เธอแต่งงานกับเยี่ยนจือมาก็หลายปีแล้ว ถ้ายังไม่มีลูกสักคนมันจะดูยังไงอยู่นะ?""แล้วถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยนจือยืนกรานจะแต่งงานกับเธอ เธอคิดว่าแค่ครอบครัวของเธอจะแต่งเข้าตระกูลเสิ่นได้เหรอ?""อย่าไม่รู้จักบุญคุณกันหน่อยเลย เธอไม่อยากมีลูกให้เยี่ยนจือ ข้างนอกมีผู้หญิงตั้งเยอะที่

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 7

    เสิ่นเยี่ยนจือตัวแข็งทื่อทันที สีหน้าเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดในชั่วพริบตามือที่บีบคางของจี้อี่หนิงกระชับแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผ่านไปหลายวินาทีกว่าจะปล่อยเธอแล้วหันไปมองเสิ่นซื่อเมื่อสบตากับเสิ่นซื่อที่มองมาด้วยสายตากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม เสิ่นเยี่ยนจือก็ฝืนยิ้มออกมา"ไม่เป็นไรครับ อาเล็กมีธุระอะไรเหรอครับ?"เสิ่นซื่อยิ้มมุมปาก "ย่าของนายให้ฉันมาเรียกพวกนายไปกินข้าว""ครับ รบกวนอาเล็กแล้ว""ไม่รบกวนหรอก แต่ที่นี่ถึงยังไงก็คือบ้านเดิม หลานชายควรระวังหน่อยนะ"ขณะพูด สายตาเขาก็เหลือบมองคางของจี้อี่หนิงที่ถูกบีบจนแดง ดวงตาเต็มไปด้วยแววล้อเลียนเมื่อสังเกตเห็นสายตาของเขาที่มองมาที่จี้อี่หนิง เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วแล้วก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเพื่อบังเธอไว้"อาเล็ก ผมเข้าใจแล้วครับ"ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของเขาไม่ค่อยดีนัก มองเสิ่นซื่อด้วยสายตาไม่พอใจ แม้แต่มีท่าทีระแวงอยู่ลึก ๆเสิ่นซื่อหัวเราะเบา ๆ แล้วละสายตาไปอย่างไม่ใส่ใจ"เอาล่ะ ไปกินข้าวกันเถอะ"หลังจากเสิ่นซื่อจากไป เสิ่นเยี่ยนจือหันมาจะจับมือจี้อี่หนิง แต่เธอกลับหลบมือเขาแล้วเดินผ่านเขาไปเลยเสิ่นเยี่ยนจือรีบไล่ตามเธอแล้วคว้ามือ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 8

    เสิ่นเยี่ยนจือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทันที จ้องมองข้อความนั้นอย่างเคร่งเครียด ดวงตาดำมืดไปด้วยความโกรธทุกครั้งที่เขามีอะไรกับฉินจืออี้ เขาก็ใช้วิธีป้องกันเสมอ ดังนั้นไม่ก็เธอกำลังโกหกเขา ก็คือเธอแอบทำอะไรกับถุงยางอนามัยไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน ก็ล้วนแตะต้องขีดจำกัดของเสิ่นเยี่ยนจือทั้งสิ้นเขาโทรหาฉินจืออี้ทันที "ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?"เมื่อได้ยินน้ำเสียงเย็นชาและโกรธเกรี้ยวของเขา หัวใจของฉินจืออี้ก็พลันรู้สึกปวดร้าว"บอส ฉันท้องแล้ว คุณไม่ดีใจเลยเหรอคะ?"เสิ่นเยี่ยนจือหัวเราะอย่างเย็นชา "เธอแน่ใจเหรอว่าท้อง แล้วก็เป็นลูกของฉันน่ะ?""บอสคะ ฉันมีแค่คุณคนเดียว ลูกในท้องฉันจะเป็นของคุณหรือเปล่า คุณจะไม่รู้เหรอคะ?"น้ำเสียงของเธอเจือด้วยการต่อว่าและความน้อยใจ แต่เสิ่นเยี่ยนจือกลับรู้สึกเพียงรำคาญ"งั้นก็ทำแท้งซะ"นอกจากจี้อี่หนิง เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนไหนมามีลูกให้เขาอีกยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้หญิงอย่างฉินจืออี้ที่เข้าหาเขาเองแบบนี้ เขาก็แค่เล่น ๆ เท่านั้น ไม่เคยจริงเอาจังด้วยเลย"ไม่ค่ะ นี่เป็นลูกของฉันกับคุณ ฉันจะคลอดเขาออกมา"เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความรำคาญ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 9

    เสียงร้องไห้ของฉินจืออี้หยุดชะงักทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความน้อยใจ "บอสคะ ฉันจริงใจกับคุณนะคะ"นึกถึงการวางแผนของผู้หญิงคนนี้ที่มีต่อตน ความรู้สึกรังเกียจก็พลุ่งพล่านในใจของเสิ่นเยี่ยนจือ"ความจริงใจของเธอมีค่าเท่าไหร่กัน?"เขาหยิบบัตรเครดิตใบหนึ่งโยนลงบนโต๊ะ มองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ในนี้มีเงินอยู่สองล้าน เอาเงินไปทำแท้งที่โรงพยาบาลเอง หรือจะให้ฉันสั่งบอดี้การ์ดมัดเธอไปโรงพยาบาล เธอน่าจะรู้ว่าควรจะเลือกยังไงนะ"ฉินจืออี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มือสั่นเทาหยิบบัตรเครดิต แล้วเอามือปิดหน้าวิ่งออกจากร้านอาหารไปเมื่อโทรศัพท์สั่งให้บอดี้การ์ดคอยจับตาดูฉินจืออี้ไปโรงพยาบาล เสิ่นเยี่ยนจือจึงได้วางสายอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นรูปจี้อี่หนิงที่เป็นภาพพื้นหลังหน้าจอ สีหน้าของเขาก็อ่อนโยนลงเล็กน้อยโดยไม่ลังเลเลย เขากดโทรหาเธอทันทีเสียงรอสายดังอยู่นานกว่าอีกฝ่ายจะรับสาย "มีเรื่องอะไร?"น้ำเสียงเย็นชาของเธอ เหมือนสาดน้ำเย็นลงบนหัว หัวใจของเสิ่นเยี่ยนจือที่เดิมอุ่นขึ้นเล็กน้อยเพราะคิดถึงเธอ พลันเย็นชาลงในทันทีมือที่จับโทรศัพท์บีบแน่นโดยไม่รู้ตัว พยายามควบคุมไม่ให้เธอรู้ว่าตัวเองผิดหวัง"ไม่มีอะไ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 10

    เสิ่นเยี่ยนจือตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผลอพูดออกมาว่า "แต่ทุกครั้งที่คุณไปร้านดอกไม้ คุณก็ซื้อแต่ดอกนี้นี่นา"จี้อี่หนิงหลบตา เขาคงลืมไปแล้วว่าวันที่เขาสารภาพรักกับเธอ ก็ให้ดอกกุหลาบนี่แหละทว่ามันไม่สำคัญอะไรแล้ว แม้แต่ความรู้สึกของพวกเขาเขายังทรยศได้ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ที่เขาไม่ใส่ใจก็เป็นเรื่องปกติ"นั่นมันเมื่อก่อน"จี้อี่หนิงเดินผ่านเขาเข้าห้องนอนไป เธอรู้สึกได้ว่าสายตาของเสิ่นเยี่ยนจือจับจ้องอยู่ที่เธอตลอด แต่เธอไม่สนใจแล้วว่าเขาจะรู้สึกเสียใจหรือทุกข์ใจกับคำพูดของเธอหรือเปล่าหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ลงมาชั้นล่าง แม่บ้านได้นำอาหารเย็นมาวางบนโต๊ะแล้ว"นายน้อย นายหญิงน้อย อาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ"จี้อี่หนิงพยักหน้า เดินตรงไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ไม่แม้แต่จะมองเสิ่นเยี่ยนจือเสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไร เดินมานั่งตรงข้ามเธออย่างเงียบ ๆป้าหวังสังเกตเห็นบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนไม่ค่อยดี เดาว่าคงทะเลาะกันมาเธออุ้มดอกไม้บนโต๊ะในห้องรับแขกขึ้นมา ยิ้มมองจี้อี่หนิงแล้วพูดว่า "นายหญิงน้อยคะ ดอกไม้นี้ให้จัดแจกันส่งไปไว้ในห้องคุณเหมือนเดิมนะคะ?""ไม่ต้อง โยน

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 11

    น้ำเสียงสั่งการของเขา ทำให้จี้อี่หนิงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว"ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ ฉันก็จะย้ายออกไป"น้ำเสียงเฉยเมยของจี้อี่หนิงทำให้ความโกรธของเสิ่นเยี่ยนจือทวีความรุนแรงขึ้น เสียงของเขาก็ยิ่งดังขึ้นมาก "คุณอย่าลืมนะ ค่ายารักษาพ่อของคุณ…"ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกจี้อี่หนิงขัดขึ้นอย่างเย็นชา"เสิ่นเยี่ยนจือ ถ้าฉันจำไม่ผิด ลูกชายของลุงสองคุณกำลังจะกลับมาจากการเรียนต่อเร็ว ๆ นี้แล้ว คุณก็คงไม่อยากให้เรื่องที่คุณนอกใจถูกคนที่บ้านเดิมรู้ในตอนนี้หรอกใช่ไหม?"เพราะลุงสองของเขาไม่ได้เรื่อง ดังนั้นท่านผู้เฒ่าเสิ่นจึงทุ่มเทความพยายามอย่างมากกับลูกพี่ลูกน้องของเขาเพราะยังไงซะ เสิ่นซื่อกรุ๊ปก็ใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีทางจะให้เสิ่นเยี่ยนจือทั้งหมดได้หรอกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เสิ่นเยี่ยนจือทำตัวดีต่อหน้าท่านผู้เฒ่าเสิ่นมาโดยตลอด ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ จะให้เธอไปพูดเรื่องที่เขานอกใจออกมาได้ในช่วงเวลานี้ไม่ได้จี้อี่หนิงเลือกที่จะย้ายออกไปในเวลานี้ ก็เพราะคำนึงถึงเรื่องนี้เช่นกันที่ปลายสายเงียบไปนาน ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ตามมา"อี่หนิง ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะเป็นกระต่ายที่กัดค

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 12

    วันจันทร์เวลาแปดโมงเช้า จี้อี่หนิงมาถึงเฉิงหยวนตรงเวลาฝ่ายบุคคลทำเรื่องเข้าทำงานให้เธอเสร็จแล้วพาเธอเดินชมรอบบริษัท ให้เธอคุ้นเคยกับตำแหน่งของแต่ละแผนก จากนั้นพาเธอไปที่ห้องทำงานผู้จัดการแผนกวิจัยและพัฒนาของตัวเองแล้วก็จากไปผู้จัดการแผนกวิจัยและพัฒนาชื่อ เจี่ยงหรู เป็นผู้หญิงวัยสี่สิบปีต้น ๆ มีผมสั้นเรียบร้อย ไม่ค่อยยิ้มแย้ม ดูเคร่งขรึมเล็กน้อย"นั่งสิ"หลังจากที่จี้อี่หนิงนั่งลงแล้ว เจี่ยงหรูกล่าวด้วยท่าทางเรียบเฉยว่า "ฉันดูประวัติของเธอแล้ว เธอทำผลงานได้ดีในช่วงที่อยู่มหาวิทยาลัย แต่หลายปีมานี้ไม่ได้เข้าห้องปฏิบัติการอีก เธอเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยก่อนแล้วกัน""ค่ะ"เห็นเธอมีท่าทีสงบ ไม่มีท่าทีไม่พอใจเลยสักนิด เจี่ยงหรูก็รู้สึกพอใจอยู่ในใจเธอชอบลูกน้องที่ทำงานอย่างตั้งใจและจริงจัง ตอนนี้ดูเหมือนว่าจี้อี่หนิงจะเป็นคนที่มีความตั้งใจดีเธอลุกขึ้นยืนและมองไปที่จี้อี่หนิง "ฉันจะพาเธอไปพบปะเพื่อนร่วมงาน"เจี่ยงหรูพาจี้อี่หนิงเข้าไปในแผนกวิจัยและพัฒนา แล้วพูดเสียงดังว่า "ทุกคนหยุดงานสักครู่ วันนี้แผนกของเรามีสมาชิกใหม่ อี่หนิง แนะนำตัวหน่อยสิ"จี้อี่หนิงก้าวไปข้างหน้า ยิ้มเล็กน้อ

Latest chapter

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 184

    "ไม่มี เป็นอะไรหรือ?"เธอกำลังคิดว่าจะไปพบหลิ่วอี๋หนิงเมื่อไหร่ จึงไม่ได้สังเกตเห็นเสิ่นเยี่ยนจือเลย"อี่หนิง ที่ผมไม่ได้มาเยี่ยมเธอหลายวันนี้เพราะบริษัทยุ่งมาก อาเล็กตั้งใจกลั่นแกล้งผมด้วยการยกเลิกความร่วมมือกับเสิ่นซื่อกรุ๊ป ผมเพิ่งจะแก้ไขเรื่องนี้เสร็จตอนเย็นนี้ครับ"จี้อี่หนิงพยักหน้า "อืม ฉันเข้าใจแล้ว"เมื่อเห็นท่าทีเย็นชาของเธอ เสิ่นเยี่ยนจือรู้สึกเหนื่อยล้า เขานอนแค่วันละสี่ชั่วโมงในช่วงไม่กี่วันนี้ ดูอิดโรย แต่จี้อี่หนิงกลับทำเป็นมองไม่เห็น ยังคงงอนเขาอยู่ถ้าเป็นเมื่อก่อน เสิ่นเยี่ยนจือคงจะง้อเธอแต่ตอนนี้ เขาไม่อยากพูดอะไรอีกแล้วเขาเงียบลง ในห้องอาหารเหลือเพียงเสียงตะเกียบและจานชามกระทบกันหลังทานอาหารเย็นเสร็จ เสิ่นเยี่ยนจือกลับเข้าห้องทำงานโดยตรง ส่วนจี้อี่หนิงขับรถไปสถานีตำรวจคดีของหลิ่วอี๋หนิงยังไม่มีคำตัดสิน เธอจึงยังถูกกักขังอยู่ในสถานกักกันไม่ได้เจอกันพักหนึ่ง หลิ่วอี๋หนิงดูหน้าซีด สภาพจิตใจก็ทรุดโทรมเมื่อเห็นจี้อี่หนิง ดวงตาของเธอฉายแววเกลียดชัง พูดเสียงเย็น "มาทำไมอีก? มาดูฉันเป็นตัวตลกหรือ?"จี้อี่หนิงมองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันเตรียมจะออกหนังสือใ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 183

    มุมปากของอีกฝ่ายยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา “เงินจะโอนให้คืนนี้ นายรู้ใช่ไหมว่าควรเขียนรายงานว่าอะไร”“ไม่ต้องห่วง ผมเข้าใจดีว่ารับเงินแล้วต้องทำงานให้เรียบร้อยครับ”“ร่วมงานกันอย่างราบรื่น”……หนึ่งวันก่อนออกจากโรงพยาบาล หยูเฟิงในที่สุดก็ส่งข้อความกลับมาจี้อี่หนิงวางแผนว่าจะไปพบเขาหลังออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้ แต่ครั้งนี้ไม่ได้ไปนัดที่บาร์เหมือนเดิม แต่เป็นร้านกาแฟที่ตกแต่งอย่างสงบเรียบง่ายพอเห็นหยูเฟิง จี้อี่หนิงก็ตกตะลึงเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ไม่ได้เจอ ใบหน้าของหยูเฟิงเต็มไปด้วยบาดแผล แขนซ้ายเข้าเฝือก และยังมีไม้เท้าวางอยู่ข้างๆ“ คุณหยู… ทำไมนายถึงบาดเจ็บขนาดนี้?เป็นเพราะเรื่องการสืบสวนหรือเปล่า?”หยูเฟิงยื่นแฟลชไดรฟ์อันหนึ่งมาตรงหน้าเธอแล้วพูดเสียงเข้ม “คุณจี้ครับ ผมสืบมาได้แค่นี้ ต่อไปผมคงสืบต่อไม่ได้อีกแล้ว ไม่อย่างนั้นชีวิตผมจะตกอยู่ในอันตรายครับ”เห็นว่าหยูเฟิงไม่คิดจะพูดถึงเรื่องที่เขาบาดเจ็บ จี้อี่หนิงก็ไม่ได้ถามต่อ เธอก้มหน้ารับแฟลชไดรฟ์แล้วพยักหน้า“เข้าใจแล้ว เดี๋ยวฉันจะโอนค่าตอบแทนให้ ขอบคุณสำหรับความลำบากที่ผ่านมา และฉันขอโทษเรื่องที่นายได้รับบาดเจ็บ”หยูเฟิง

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 182

    เสิ่นซื่อเยี่ยนหน้าตาเคร่งเครียดลง พูดเสียงต่ำว่า: "เรื่องนี้เธอไม่ต้องยุ่งก่อน ผมจะหาทางเองครับ"เฉินเสวี่ยหรงตกใจเล็กน้อย จากนั้นขมวดคิ้วมองเขา "คุณจะหาทางอะไร?""เรื่องนี้เธอไม่ต้องสนใจ แค่เล่นไพ่นกกระจอกของเธอทุกวันก็พอแล้ว เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องให้เธอจัดการครับ"พูดจบ เสิ่นซื่อเยี่ยนก็เดินผ่านเธอไปที่ห้องหนังสือเมื่อเข้าไปในห้องหนังสือ เสิ่นซื่อเยี่ยนครุ่นคิดสักครู่ นึกขึ้นได้ว่าเดือนหน้าเป็นวันเกิดของท่านแม่เฒ่าเสิ่น เขาสามารถลงมือในงานเลี้ยงวันเกิดได้รอจนกระทั่งเสิ่นซื่อกับจี้อี่หนิงทำเรื่องเสร็จ เขาจะปรากฏตัวขึ้นขู่เสิ่นซื่ออีกครั้ง แล้วไม่เชื่อว่าเสิ่นซื่อจะไม่ยอมให้เงินทุนกับเขาคิดถึงตรงนี้เสิ่นซื่อเยี่ยนถอนหายใจยาว ความหงุดหงิดที่กู้เงินไม่ได้ก่อนหน้านี้หายไปหมดในความคิดของเขา ผู้หญิงเป็นเพียงของเล่นเพื่อความบันเทิง ตราบใดที่มีคุณค่าในการใช้งาน แม้แต่ผู้หญิงที่เสิ่นซื่อชอบเป็นเฉินเสวี่ยหรง เขาก็จะทำให้เธอมึนเมาและส่งไปที่เตียงของเสิ่นซื่อ หลังจากนั้นก็แค่ปลอบเธอก็พอส่วนเสิ่นเยี่ยนจือ เขาจะหาคู่แต่งงานที่เหมาะสมกว่าให้ในอนาคตห้องทำงานประธานกรรมการชิงหงกรุ๊ปเ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 181

    เฉินเสวี่ยหรงหายใจเข้าลึกๆ "เรื่องของจี้อี่หนิงกับอาเล็กของคุณ คุณรู้หรือไม่?"เห็นเสิ่นเยี่ยนจือสีหน้าเปลี่ยนไปเฉินเสวี่ยหรงกัดฟันพูดว่า "คุณรู้จริงๆ! หญิงต่ำช้าคนนั้น กล้าทำให้คุณกลายเป็นสามีนอกใจ!"เมื่อได้ยินเฉินเสวี่ยหรงด่าจี้อี่หนิงว่าเป็นหญิงต่ำช้า เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้ว"แม่ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่แม่คิด ไม่เกี่ยวกับอี่หนิงเลย เป็นอาเล็ก เขาที่คิดไปเอง"เฉินเสวี่ยหรงหัวเราะเย็นชา "คิดไปเอง? แม่เป็นคนโง่หรือไง?! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอยั่วยวนเสิ่นซื่อแล้ว เสิ่นซื่อจะสนใจเธอได้ยังไง?!"เสิ่นเยี่ยนจือ สีหน้าเย็นชาลง มองที่เฉินเสวี่ยหรงอย่างเย็นชา "ถ้าแม่ด่าอี่หนิงอีก ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้"เห็นเขาลุกขึ้นจะเดินออกไปเฉินเสวี่ยหรงโกรธจัด "ยืนอยู่ตรงนั้น!"เสิ่นเยี่ยนจือไม่สนใจเธอ เดินต่อไปที่ประตู เฉินเสวี่ยหรงโกรธจนลุกขึ้น ขวางเขาไว้ที่ทางเข้า"ก่อนที่ฉันจะพูดเรื่องนี้จบ อย่าคิดว่าจะออกไปได้!"เห็นเธอไม่ยอมฟังเหตุผล เสิ่นเยี่ยนจือไม่แสดงอารมณ์ใดๆ บนใบหน้า"แม่ยังจะพูดอะไรอีก?""เธอทำให้คุณกลายเป็นสามีนอกใจ คุณจะปล่อยให้เรื่องจบแค่นี้หรือ?""ผมบอกแล้วว่า เธอไม่ได้ชอบอาเล็ก เป็

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 180

    จี้อี่หนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย "อาเล็ก ฉันได้อธิบายให้คุณฟังหลายครั้งแล้ว ถ้าคุณยังจะคิดแบบนี้ ฉันก็ทำอะไรไม่ได้คะ"เสิ่นซื่อยิ้มน้อยๆ ดวงตาเย็นชาของเขากลับมีชีวิตชีวาทันที ทำให้ผู้คนแทบจะละสายตาไปไม่ได้"จี้อี่หนิง การยอมรับว่าชอบผมมันยากขนาดนั้นเลยหรือ?"ถูกจ้องมองด้วยดวงตาสีดำสนิทของเขา หัวใจของจี้อี่หนิงเต้นเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว มือของเธอจับชายเสื้อคนไข้แน่น มีความรู้สึกว่ามีบางสิ่งกำลังเริ่มสูญเสียการควบคุม และเธอก็ไม่สามารถหยุดมันได้เธอเม้มริมฝีปาก ผ่านไปสักพักจึงพูดว่า "อาเล็ก ฉันเป็นภรรยาของหลานชายคุณ ถ้าสิ่งที่คุณพูดเหล่านี้รั่วไหลออกไป คุณรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น?""ผมมีความสามารถที่จะปกป้องคุณคะ"จี้อี่หนิงหัวเราะเบาๆ "เมื่อก่อนเสิ่นเยี่ยนจือก็เคยพูดคำคล้ายๆ กันนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้ขัดขวางเขาจากการนอกใจหลังแต่งงานคะ"เมื่อผู้ชายต้องการผู้หญิงคนหนึ่ง พวกเขาจะพูดคำหวานได้ทุกอย่าง แต่จะทำได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งสีหน้าของเสิ่นซื่อเคร่งขรึมลง "ผมไม่เหมือนเขา"จี้อี่หนิงส่ายหน้า มองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง "แล้วมันต่างกันตรงไหน? คุณให้ฉันยอมรับว่าชอบคุณ แล้วยังไงต่อ? แอบคบก

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 179

    "ยังไม่ได้กินครับ""งั้นคุณไปล้างมือก่อน ฉันจะไปตักข้าว"ตลอดทั้งคืนฉินจืออี้ยิ้มเล่าเรื่องที่เธอเจอในวันนี้ให้เขาฟัง จิตใจของเสิ่นเยี่ยนจือค่อยๆ เอนเอียงไปทางเธอมากขึ้นเพราะหัวใจคนก็ทำจากเนื้อ จี้อี่หนิงเย็นชากับเขามาตลอด ความรู้สึกที่เคยเร่าร้อนของเขาก็ค่อยๆ เย็นลงอีกด้านหนึ่ง จี้อี่หนิงกินอาหารเย็นเสร็จแล้ว กำลังเตรียมลงไปเดินเล่นข้างล่าง ก็ได้รับโทรศัพท์จากนักสืบเอกชน"คุณจี้ ผมถูกลูกน้องของสามีคุณจับได้แล้ว พวกเขาเตือนผมว่าห้ามเข้าใกล้ฉินจืออี้อีก ไม่อย่างนั้นจะแจ้งตำรวจครับ"ตั้งแต่หยูเฟิงไปสืบเรื่องอุบัติเหตุของเภสัชกรรมเหว่ยหง เขาก็ส่งผู้ช่วยคนหนึ่งไปเฝ้าดูฉินจืออี้ผู้ช่วยยังประสบการณ์น้อย เพิ่งผ่านไปไม่นานก็ถูกจับแล้ว"ไม่เป็นไร ต่อไปไม่ต้องเฝ้าดูแล้ว ค่าตอบแทนของคุณเดี๋ยวฉันจะโอนให้โดยตรงค่ะ"เมื่อก่อนที่เฝ้าดูฉินจืออี้ก็เพื่อจะได้หลักฐานการนอกใจของเสิ่นเยี่ยนจือ แต่ตอนนี้มันไม่มีความสำคัญมากแล้วเมื่อเธอได้หลักฐานส่งเสิ่นซื่อเยี่ยนเข้าคุก เสิ่นเยี่ยนจือคงจะเกลียดเธอ และจะไม่ปฏิเสธการหย่าหลังวางสาย จี้อี่หนิงโอนเงินให้อีกฝ่าย พอวางโทรศัพท์ลงก็นึกถึงเรื่องที่เคย

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 178

    เสิ่นเยี่ยนจือมองเธอด้วยสีหน้าที่เย็นชา “ทำไมต้องให้คนไปจับตาดูฉินจืออี้?”จี้อี่หนิงชะงักไปชั่วครู่ขณะตักโจ๊กกิน จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ถ้าไม่ให้คนเฝ้าดูเธอ แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเมื่อไหร่คุณไปพบเธอ แล้วก็เริ่มโกหกฉันอีก?”เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ค่อยๆ คลายออก“อี่หนิง เธอยังแคร์ผมอยู่ ใช่ไหม?”ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ให้คนไปจับตาดูฉินจืออี้ เพื่อตรวจดูว่าพวกเขาเจอกันเมื่อไหร่จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้นมองเขา เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความยินดีของเขา แล้วก็รู้สึกว่าเขามั่นใจเหลือเกิน มั่นใจถึงขนาดคิดว่าเธอยังรักเขาอยู่แต่... ปล่อยให้เขาเข้าใจผิดไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ประหยัดแรงเธอไปได้เยอะ“ฉันแค่ไม่อยากถูกสวมเขาซ้ำๆ และไม่อยากใช้ชีวิตอยู่กับคำโกหกของคุณค่ะ”สีหน้าที่เย็นชาของเธอ ทำให้เสิ่นเยี่ยนจือยิ่งมั่นใจในความคิดของตัวเอง และยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าพฤติกรรมของเธอช่วงนี้เป็นไปเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา ต้องการดึงเขากลับมาจากฉินจืออี้เพราะเขารู้จักนิสัยของเธอเป็นอย่างดี ถ้าไม่รักเขาจริงๆ จะกลับมาหาเขาไม่ได้เขาจงใจเข้าหาเสิ่นซื่อ เพื่อทําให้ตัวเองอิจฉา

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 177

    ถึงแม้ว่าเสิ่นเยี่ยนจือจะกำลังยิ้มอยู่ แต่จางเฉิงกลับรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่แผ่ขึ้นมาจากแผ่นหลัง ใจเต้นระทึกด้วยความหวาดกลัวเขาเงียบไปสิบกว่าวินาที ก่อนจะพยายามเค้นคำพูดออกมา "ประธานเสิ่น... หลานชายผมไม่ได้ตั้งใจ ถ้าท่านยกโทษให้เขาครั้งนี้ ผมสัญญาว่าต่อไปเขาจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้อีก..."มองความหวาดกลัวในดวงตาของเขา เสิ่นเยี่ยนจือไม่รู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อย"ดูเหมือนว่าหลานชายของประธานจางก็ไม่เอาไหนเท่าไหร่ อายุเกือบยี่สิบแล้ว ยังต้องให้ประธานจางก้มหน้าก้มตามาขอร้องคนที่อายุน้อยกว่าแบบผมอีก"เมื่อได้ยินว่าเสิ่นเยี่ยนจือจงใจเอาคำพูดของตัวเองมาประชดประชัน ใบหน้าของประธานจางเขียวคล้ำด้วยความโกรธเขากดความโกรธเอาไว้ แล้วกัดฟันพูดว่า: "ประธานเสิ่น ผมอบรมหลานชายตัวเองได้ไม่ดีพอ""ในเมื่ออบรมหลานชายตัวเองยังไม่ดี ก็อย่ามาชี้โน่นชี้นี่กับผมอีก"จางเฉิงรู้สึกเหมือนทำให้หน้าตัวเองขายหมด แต่ก็ยังต้องฝืนยิ้ม "ประธานเสิ่นพูดถูกแล้ว... แล้วเรื่องของหลานชายผม...""ตราบใดที่ประธานจางรู้จักว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด หลานชายของท่านก็จะไม่เป็นอะไร"จางเฉิงรีบตอบ: "ประธานเสิ่น ผมเข้าใจแล้ว"ห

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 176

    เสิ่นเยี่ยนจือเพิ่งกลับมาที่บริษัท เหล่าผู้ถือหุ้นก็พากันมาที่ห้องทำงานของเขาด้วยความโกรธ"ประธานเสิ่น เรื่องของชิงหงเป็นอย่างไรบ้าง? เมื่อสักครู่ผู้จัดการที่ชิงหงบอกผมว่า ต่อไปพวกเขาไม่ตั้งใจจะร่วมมือกับเสิ่นซื่อกรุ๊ปอีกต่อไป การร่วมมือก่อนหน้านี้คุณเป็นคนเชื่อมสัมพันธ์ คุณต้องรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องนี้ครับ!"หากเสิ่นซื่อกรุ๊ปยกเลิกสัญญากับชิงหง ความเสียหายอย่างน้อยก็หนึ่งร้อยล้านบวกกับเรื่องที่จงเฉิงและจู้ซื่อกรุ๊ปยกเลิกสัญญาก่อนหน้านี้เพราะจี้อี่หนิง ทำให้ผู้ถือหุ้นไม่พอใจกับเสิ่นเยี่ยนจือมากขึ้นเสิ่นเยี่ยนจือเงยหน้ามองทุกคน เห็นพวกเขาล้วนมีใบหน้าโกรธเกรี้ยว จึงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย: "ทุกท่าน ใจเย็นๆ ก่อน ผมจะไปสอบถามเรื่องนี้ให้กระจ่าง และจะให้คำตอบกับทุกท่าน พวกคุณกลับไปทำงานก่อนเถอะ""ไม่ได้ คุณต้องโทรหาเสิ่นซื่อต่อหน้าพวกเรา ไม่อย่างนั้นผมไม่สามารถไว้ใจคุณได้!"เสิ่นเยี่ยนจือเงยหน้าขึ้นอย่างเย็นชา คนที่พูดคือจางเฉิงผู้ถือหุ้น 3%แม้เขาจะถือหุ้นไม่มาก แต่เมื่อท่านผู้เฒ่าเสิ่นเริ่มก่อตั้งธุรกิจ เขาก็ได้ช่วยเหลือหลายอย่าง ดังนั้นเขาจึงถือว่าตัวเองเป็นผู้อาวุโสของบริษัท แล

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status