แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: แสงอรุณฤดูใบไม้ผลิ
ระหว่างทางกลับ จี้อี่หนิงลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ตัดสินใจส่งข้อความถึงเสิ่นซื่อที่ไม่เคยติดต่อกันมาสามปีเลย

[อาเล็ก... เรื่องคืนนี้ลืมมันไปได้ไหมคะ ตอนนั้นฉันเมามากจริง ๆ เลยเข้าผิดห้องค่ะ]

รออยู่นานมาก เสิ่นซื่อก็ไม่ตอบ

จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว แล้วส่งข้อความอีกครั้ง

[?]

แต่พอส่งไป ก็เห็นเครื่องหมายตกใจสีแดงขึ้นมาทันที

'อีกฝ่ายเปิดการยืนยันเพื่อน คุณยังไม่ใช่เพื่อนของอีกฝ่าย...'

จี้อี่หนิงเม้มปาก ถึงกับลบเธอทิ้งแล้ว คงหมายความว่าไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกสินะ?

คิดได้เช่นนั้น จี้อี่หนิงก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย

กลับถึงบ้านก็เป็นเวล่ากว่าหกโมงเช้า

เมื่อเปิดประตู ก็เห็นเสิ่นเยี่ยนจือนั่งอยู่บนโซฟา

เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เขาก็หันขวับมา ดวงตาที่มองจี้อี่หนิงแดงก่ำ เห็นชัดว่าไม่ได้นอนทั้งคืน

"ที่รัก เมื่อคืนคุณไปไหนมา? ผมโทรหาคุณสิบกว่าครั้ง ทำไมไม่รับสาย?"

เสิ่นเยี่ยนจือลุกขึ้นเดินเร็วๆ มาหาเธอ ยื่นมือจะจับมือเธอ แต่จี้อี่หนิงกลับหลบเขา

เขาชะงักไป กำลังจะเอ่ยปากพูด แต่จี้อี่หนิงก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "คุณไม่กลับบ้านทั้งคืนได้ แต่ฉันกลับทำบ้างไม่ได้งั้นสิ?"

จี้อี่หนิงเป็นคนนิสัยดีมาก อยู่ด้วยกันมาแปดปี แทบไม่เคยทะเลาะกันเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชาขนาดนี้

สังเกตเห็นว่าเธอนั้นอารมณ์ไม่ดี ดวงตาก็บวมแดง เสิ่นเยี่ยนจือดวงตาวูบไหว มือที่ห้อยข้างตัวค่อย ๆ กำแน่น

"คุณรู้แล้ว ใช่ไหม?"

น้ำเสียงเขาราบเรียบ ไม่มีความตื่นตระหนกหรือร้อนรนเลย ราวกับคาดเดาว่าวันนี้ต้องมาถึงอยู่แล้ว

เห็นท่าทางไม่รู้สึกผิดของเขา อารมณ์ที่จี้อี่หนิงกดไว้ก็ระเบิดออกมาในที่สุด

เธอยกกระเป๋าขึ้นฟาดใส่เขาอย่างแรง ดวงตาแดงก่ำเหมือนคนบ้า

ความดีที่เขาเคยทำ ช่วงเวลาแห่งความสุขของทั้งคู่ ถูกฉีกทิ้งในวินาทีที่เธอเห็นเขานอนกับผู้หญิงอื่นเมื่อคืน ไม่อาจประติดประต่อได้อีก

"เสิ่นเยี่ยนจือ คุณทำเรื่องน่าขยะแขยงแบบนี้ได้ยังไง?! ถ้าไม่รักฉันแล้วก็หย่ากันสิ ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้ด้วย?!"

เธอคิดว่าระหว่างพวกเขาจะไม่มีบุคคลที่สาม แต่ความจริงกลับตบหน้าเธออย่างแรง

ปลุกเธอจากภาพลวงตาที่เขาสร้างขึ้น และทำให้ความรักที่เธอมีต่อเขากลายเป็นเรื่องตลก

เห็นดวงตาแดงก่ำของเธอ เสิ่นเยี่ยนจือรู้สึกเจ็บปวดในอก คว้ามือเธอดึงเข้ามากอด

"อี่หนิง ผมขอโทษ..."

จี้อี่หนิงผลักเขาออก อยากจะหัวเราะ แต่น้ำตากลับไหลไม่หยุด

"อย่าเอามือสกปรกของคุณมาแตะฉัน!"

"การซื่อสัตย์มันยากนักหรือไง?"

"หลังแต่งงานกับคุณ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เจอผู้ชายดี ๆ และก็ไม่ใช่ว่าไม่มีผู้ชายมาจีบฉัน แต่ฉันไม่เคยล้ำเส้น ฉันทำได้ ทำไมคุณถึงทำไม่ได้?"

เห็นความผิดหวังและโกรธแค้นในดวงตาเธอ เสิ่นเยี่ยนจือก็กำมือแน่น

"อี่หนิง ผมรักคุณคนเดียว...กับเธอคนนั้นมันแค่อุบัติเหตุ..."

คำอธิบายของเขาช่างไร้น้ำหนัก จนจี้อี่หนิงรู้สึกทั้งขำทั้งขยะแขยง

"ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ไปนอนกับผู้ชายคนอื่นได้ แล้วบอกคุณว่าเป็นอุบัติเหตุ ร่างกายฉันนอกใจ แต่หัวใจรักแค่คุณคนเดียว ใช่ไหม?"

แววตาของเสิ่นเยี่ยนจือฉายวาบไปด้วยความเย็นชา พูดช้า ๆ ทีละคำ "ถ้าคุณกล้า ผมจะฆ่าคุณไปพร้อมกับผู้ชายคนนั้นบนเตียงเลย"

เมื่อสบกับสายตาเย็นเยียบไร้ความอบอุ่นของเขา จี้อี่หนิงมีแต่รู้สึกเย็นวาบที่หัวใจ

ที่แท้เขาก็รู้ว่าการนอกใจเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ แต่เขาก็ยังนอกใจเธอ

เธอสูดหายใจเข้าลึก พูดช้า ๆ "คุณจำได้ไหม ตอนที่คุณขอฉันแต่งงาน ฉันพูดอะไรกับคุณ?"

เธอบอกว่า ถ้าวันไหนเขานอกใจเธอ เธอจะไม่ให้อภัย จะจากเขาไป

สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือเปลี่ยนไป "ผมไม่มีทางปล่อยคุณไป!"

จี้อี่หนิงเช็ดน้ำตาที่หางตา มองเขาด้วยสายตาเยาะเย้ยปนเกลียดชัง "ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือเปล่า ฉันก็ตัดสินใจแล้ว ฉันจะหย่ากับคุณ คุณไม่คู่ควรได้รับการอภัยจากฉัน"

พูดจบ โดยไม่สนใจปฏิกิริยาของเขา จี้อี่หนิงเดินก็ผ่านเขาขึ้นบันไดไป

เสิ่นเยี่ยนจือจ้องมองเงาหลังของเธอ ดวงตาฉายแววมืดมน

เมื่อกลับมาถึงห้องนอน จี้อี่หนิงเข้าห้องน้ำอาบน้ำทันที กลิ่นเหล้าที่ติดตัวทำให้เธอทนไม่ไหว

ตอนถูสบู่ ก้มมองเห็นรอยแดงบนหน้าอกของตัวเอง มือก็พลันชะงักไปชั่วขณะ

ภาพมือเรียวยาวลูบไล้ร่างกายผุดขึ้นในหัวโดยไม่รู้ตัว เธอขมวดคิ้วแล้วใช้ผ้าขนหนูถูแรง ๆ จนผิวรอบ ๆ แดงไปหมดจึงจะยอมหยุด

ราวกับว่าการทำแบบนี้จะลบรอยที่เขาทิ้งไว้บนตัวเธอได้

อาบน้ำเสร็จเดินออกจากห้องน้ำ ก็เห็นเสิ่นเยี่ยนจือนั่งอยู่บนเตียง ก้มหน้าไม่รู้คิดอะไรอยู่ จี้อี่หนิงขมวดคิ้วแล้วแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น

ถึงยังไง อีกไม่นานพวกเขาก็จะหย่ากันแล้ว

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เสิ่นเยี่ยนจือก็เงยหน้าขึ้น เห็นจี้อี่หนิงพันผ้าขนหนูเดินออกมา

ผมเปียกครึ่งหนึ่งสยายอยู่ด้านหลัง ยังคงมีน้ำหยด แก้มแดงระเรื่อหลังอาบน้ำ เหมือนดอกกุหลาบที่เพิ่งบานชวนให้เด็ด ส่งกลิ่นหอมยั่วยวน ผ้าขนหนูปิดแค่สะโพก เผยให้เห็นขายาวขาวเนียน ชวนให้จินตนาการ

ลมหายใจของเสิ่นเยี่ยนจือหนักขึ้นทันที สายตาเหมือนติดอยู่บนตัวจี้อี่หนิง ไม่อาจละไปได้แม้แต่น้อย

จี้อี่หนิงไม่ทันสังเกตการเปลี่ยนแปลงของเขา เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าจะหยิบชุดนอน จู่ ๆ ก็มีมือคู่หนึ่งโอบกอดเธอจากด้านหลัง

"อี่หนิง..."

เสียงของเขาแหบพร่า เต็มไปด้วยราคะอย่างไม่อาจปิดบังได้

เมื่อครู่ตอนอยู่ชั้นล่าง หลังจี้อี่หนิงจากไป เสิ่นเยี่ยนจือก็คิดหาทางให้เธอเปลี่ยนใจ

สุดท้ายสิ่งเดียวที่คิดออกว่าจะทำให้จี้อี่หนิงอยู่กับเขาได้ คือมีลูกด้วยกัน

เขาขึ้นมาก็ตั้งใจจะคุยเรื่องนี้ ตั้งใจจะค่อย ๆ พูด แต่เมื่อเห็นจี้อี่หนิงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขาก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ท่าทางของเสิ่นเยี่ยนจือแบบนี้มีแต่จะทำให้เธอหวั่นไหว แต่ตอนนี้จี้อี่หนิงรู้สึกเพียงขยะแขยงเท่านั้น

เธอหันมาผลักเขาออก ดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

"อย่าแตะตัวฉัน ฉันรังเกียจ"

ดวงตาของเสิ่นเยี่ยนจือฉายไปด้วยความเจ็บปวด เขาจับมือเธอ พูดอย่างจริงจัง "คุณไม่ได้อยากมีลูกมาตลอดหรอกเหรอ? เรามีกันตอนนี้เลยนะ ได้ไหม?"

เห็นท่าทางเขาทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ จี้อี่หนิงจึงสะบัดมือออก

"นั่นมันเมื่อก่อน ต่อไปฉันอาจจะมีลูก แต่ไม่มีทางเป็นลูกของคุณ"

คำพูดนี้ทำให้เสิ่นเยี่ยนจือโกรธ เขาคว้ามือเธอแล้วผลักลงบนเตียง ตัวเองก็ทาบทับลงไป

"พูดอีกทีสิ!"

ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่จี้อี่หนิงกลับไม่สนใจเลย

"จะให้พูดกี่ครั้งก็เหมือนเดิม ตอนนี้ฉันเห็นหน้าคุณฉันก็รู้สึกขยะแขยง ให้ฉันมีลูกกับคุณ ฉันขอตายดีกว่า"

พูดจบ ก็ถูกเสิ่นเยี่ยนจือจูบอย่างดุดันทันที

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 4

    จี้อี่หนิงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะดิ้นรนสุดแรงทันทีแค่นึกว่าเมื่อคืนเขาเพิ่งจูบผู้หญิงคนอื่น เธอก็รู้สึกขยะแขยงและโกรธแค้น"อื้อ...ปล่อยฉัน..."การดิ้นรนของเธอสำหรับเสิ่นเยี่ยนจือเหมือนมดพยายามเขย่าต้นไม้ มือที่กอดเอวเธอไว้ไม่ได้คลายออกแม้แต่น้อย กลับยิ่งกระชับแน่นขึ้นเพราะพยายามดิ้น ผ้าขนหนูที่พันตัวเธอก็หลุดออกอย่างรวดเร็ว จากมุมมองของเสิ่นเยี่ยนจือ สามารถเห็นหน้าอกของเธอได้อย่างชัดเจนดวงตาของเขาหรี่ลง รู้สึกเลือดในร่างกายพุ่งไปรวมกันที่จุดเดียวร่างกายทั้งสองแนบชิดกัน จี้อี่หนิงรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเสิ่นเยี่ยนจือได้อย่างรวดเร็วเธอทั้งโกรธทั้งแค้น กัดเขาอย่างแรง กลิ่นคาวเลือดแผ่ซ่านในปากของทั้งสองทันทีแต่เขาไม่เพียงไม่ปล่อยเธอ มืออีกข้างกลับลอดเข้าไปใต้เสื้อคลุมอาบน้ำเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ข้างล่างไม่ได้ใส่อะไรเลยร่างกายของจี้อี่หนิงแข็งทื่อขึ้นมาทันที ก่อนจะยิ่งดิ้นรนรุนแรงขึ้น"เสิ่นเยี่ยนจือ ไปให้พ้น!"เสิ่นเยี่ยนจือทำเหมือนไม่ได้ยิน นิ้วไม่หยุดเร้าต่อมรับความรู้สึกของเธอ"อี่หนิง เธอก็ต้องการฉันเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?"จี้อี่หนิงดิ้นรนไม่หยุด แต่กลับไ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 5

    เมื่อเห็นความเย็นชาในดวงตาของเขา จี้อี่หนิงก็รู้สึกว่าเมื่อก่อนตัวเองนั้นตาบอดจริง ๆ ทำไมถึงได้หลงรักคนแบบนี้ดวงตาทั้งสองข้างร้อนผ่าว แต่เธอไม่อยากแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเขาแม้แต่น้อยเธอสะบัดมือเขาออกอย่างแรงจี้อี่หนิงสูดหายใจเข้าลึก หันหลังเดินขึ้นบันไดตอนนี้ในใจเธอของมีความคิดเดียว คือต้องรีบหางานทำให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ย้ายออกไป และหาทางหย่ากับเสิ่นเยี่ยนจือเธอสุ่มหยิบชุดมาเปลี่ยน เสียบปิ่นมวยผมแบบลวก ๆ จี้อี่หนิงก็ลงบันไดมาเธอเป็นคนสบาย ๆ ไม่ค่อยสนใจเรื่องการแต่งตัวแต่ก่อนเพื่อให้ตระกูลเสิ่นประทับใจ ตอนไปงานเลี้ยงตระกูลเสิ่นทีไร ก็จะแต่งตัวอย่างดีทุกครั้งตอนนี้ เธอขี้เกียจจะเอาอกเอาใจพวกเขาอีกต่อไปแล้วได้ยินเสียงฝีเท้า เสิ่นเยี่ยนจือก็เงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัวจี้อี่หนิงสวมชุดกี่เพ้าสีขาวแบบทันสมัย เอวบางราวกับต้นหลิว ดูเหมือนจะกำรอบได้ด้วยมือเดียว ผมยาวสีดำมวยด้วยปิ่นหยก เผยให้เห็นลำคอขาวเรียวบาง งดงามจนไม่อาจละสายตาบรรยากาศอ่อนหวานสงบรอบตัวเธอ ไม่ต่างจากตอนที่พวกเขาเจอกันครั้งแรกเลยเพียงแต่ สายตาที่เธอมองเขากลับเย็นชาที่สุด ไม่มีความอบอุ่นเหมือนแต่ก่อนเลย"

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 6

    จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้น กำลังจะพูด เสิ่นเยี่ยนจือก็จับมือเธอไว้ พูดยิ้ม ๆ ว่า "คุณย่าครับ พวกเรากำลังเตรียมตัวอยู่ครับ!"เธออยากสะบัดมือเขาออก แต่เสิ่นเยี่ยนจือจับมือเธอไว้แน่นมาก ไม่ให้โอกาสเธอได้ขยับเลยในเมื่อเขาไม่ยอมให้เธอสบายใจ ก็อย่าโทษที่เธอจะทำให้เขาไม่สบายใจบ้างเธอมองไปที่คุท่านแม่เฒ่าเสิ่น "คุณย่าคะ หนูกำลังหางานทำอยู่ค่ะ เรื่องมีลูกคงต้องเลื่อนออกไปก่อนค่ะ"พูดจบ ห้องรับแขกก็ตกอยู่ในความเงียบเสิ่นเยี่ยนจือบีบมือเธอแน่นขึ้น สีหน้าก็ดูมืดครึ้มขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกเจ็บที่ข้อมือ จี้อี่หนิงก็ขมวดคิ้วแน่นเสิ่นซื่อมองไปที่มือของเสิ่นเยี่ยนจือที่บีบจี้อี่หนิงแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนอยู่หนึ่งวินาที ก่อนจะเบือนสายตาไปอย่างเฉยเมยน้าสาวของเสิ่นเยี่ยนจือ เสิ่นซูหว่านหัวเราะเยาะ "อี่หนิง อย่าว่าน้าพูดมากเลยนะ เธอแต่งงานกับเยี่ยนจือมาก็หลายปีแล้ว ถ้ายังไม่มีลูกสักคนมันจะดูยังไงอยู่นะ?""แล้วถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยนจือยืนกรานจะแต่งงานกับเธอ เธอคิดว่าแค่ครอบครัวของเธอจะแต่งเข้าตระกูลเสิ่นได้เหรอ?""อย่าไม่รู้จักบุญคุณกันหน่อยเลย เธอไม่อยากมีลูกให้เยี่ยนจือ ข้างนอกมีผู้หญิงตั้งเยอะที่

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 7

    เสิ่นเยี่ยนจือตัวแข็งทื่อทันที สีหน้าเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดในชั่วพริบตามือที่บีบคางของจี้อี่หนิงกระชับแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผ่านไปหลายวินาทีกว่าจะปล่อยเธอแล้วหันไปมองเสิ่นซื่อเมื่อสบตากับเสิ่นซื่อที่มองมาด้วยสายตากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม เสิ่นเยี่ยนจือก็ฝืนยิ้มออกมา"ไม่เป็นไรครับ อาเล็กมีธุระอะไรเหรอครับ?"เสิ่นซื่อยิ้มมุมปาก "ย่าของนายให้ฉันมาเรียกพวกนายไปกินข้าว""ครับ รบกวนอาเล็กแล้ว""ไม่รบกวนหรอก แต่ที่นี่ถึงยังไงก็คือบ้านเดิม หลานชายควรระวังหน่อยนะ"ขณะพูด สายตาเขาก็เหลือบมองคางของจี้อี่หนิงที่ถูกบีบจนแดง ดวงตาเต็มไปด้วยแววล้อเลียนเมื่อสังเกตเห็นสายตาของเขาที่มองมาที่จี้อี่หนิง เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วแล้วก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเพื่อบังเธอไว้"อาเล็ก ผมเข้าใจแล้วครับ"ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของเขาไม่ค่อยดีนัก มองเสิ่นซื่อด้วยสายตาไม่พอใจ แม้แต่มีท่าทีระแวงอยู่ลึก ๆเสิ่นซื่อหัวเราะเบา ๆ แล้วละสายตาไปอย่างไม่ใส่ใจ"เอาล่ะ ไปกินข้าวกันเถอะ"หลังจากเสิ่นซื่อจากไป เสิ่นเยี่ยนจือหันมาจะจับมือจี้อี่หนิง แต่เธอกลับหลบมือเขาแล้วเดินผ่านเขาไปเลยเสิ่นเยี่ยนจือรีบไล่ตามเธอแล้วคว้ามือ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 8

    เสิ่นเยี่ยนจือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทันที จ้องมองข้อความนั้นอย่างเคร่งเครียด ดวงตาดำมืดไปด้วยความโกรธทุกครั้งที่เขามีอะไรกับฉินจืออี้ เขาก็ใช้วิธีป้องกันเสมอ ดังนั้นไม่ก็เธอกำลังโกหกเขา ก็คือเธอแอบทำอะไรกับถุงยางอนามัยไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน ก็ล้วนแตะต้องขีดจำกัดของเสิ่นเยี่ยนจือทั้งสิ้นเขาโทรหาฉินจืออี้ทันที "ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?"เมื่อได้ยินน้ำเสียงเย็นชาและโกรธเกรี้ยวของเขา หัวใจของฉินจืออี้ก็พลันรู้สึกปวดร้าว"บอส ฉันท้องแล้ว คุณไม่ดีใจเลยเหรอคะ?"เสิ่นเยี่ยนจือหัวเราะอย่างเย็นชา "เธอแน่ใจเหรอว่าท้อง แล้วก็เป็นลูกของฉันน่ะ?""บอสคะ ฉันมีแค่คุณคนเดียว ลูกในท้องฉันจะเป็นของคุณหรือเปล่า คุณจะไม่รู้เหรอคะ?"น้ำเสียงของเธอเจือด้วยการต่อว่าและความน้อยใจ แต่เสิ่นเยี่ยนจือกลับรู้สึกเพียงรำคาญ"งั้นก็ทำแท้งซะ"นอกจากจี้อี่หนิง เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนไหนมามีลูกให้เขาอีกยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้หญิงอย่างฉินจืออี้ที่เข้าหาเขาเองแบบนี้ เขาก็แค่เล่น ๆ เท่านั้น ไม่เคยจริงเอาจังด้วยเลย"ไม่ค่ะ นี่เป็นลูกของฉันกับคุณ ฉันจะคลอดเขาออกมา"เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความรำคาญ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 9

    เสียงร้องไห้ของฉินจืออี้หยุดชะงักทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความน้อยใจ "บอสคะ ฉันจริงใจกับคุณนะคะ"นึกถึงการวางแผนของผู้หญิงคนนี้ที่มีต่อตน ความรู้สึกรังเกียจก็พลุ่งพล่านในใจของเสิ่นเยี่ยนจือ"ความจริงใจของเธอมีค่าเท่าไหร่กัน?"เขาหยิบบัตรเครดิตใบหนึ่งโยนลงบนโต๊ะ มองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ในนี้มีเงินอยู่สองล้าน เอาเงินไปทำแท้งที่โรงพยาบาลเอง หรือจะให้ฉันสั่งบอดี้การ์ดมัดเธอไปโรงพยาบาล เธอน่าจะรู้ว่าควรจะเลือกยังไงนะ"ฉินจืออี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มือสั่นเทาหยิบบัตรเครดิต แล้วเอามือปิดหน้าวิ่งออกจากร้านอาหารไปเมื่อโทรศัพท์สั่งให้บอดี้การ์ดคอยจับตาดูฉินจืออี้ไปโรงพยาบาล เสิ่นเยี่ยนจือจึงได้วางสายอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นรูปจี้อี่หนิงที่เป็นภาพพื้นหลังหน้าจอ สีหน้าของเขาก็อ่อนโยนลงเล็กน้อยโดยไม่ลังเลเลย เขากดโทรหาเธอทันทีเสียงรอสายดังอยู่นานกว่าอีกฝ่ายจะรับสาย "มีเรื่องอะไร?"น้ำเสียงเย็นชาของเธอ เหมือนสาดน้ำเย็นลงบนหัว หัวใจของเสิ่นเยี่ยนจือที่เดิมอุ่นขึ้นเล็กน้อยเพราะคิดถึงเธอ พลันเย็นชาลงในทันทีมือที่จับโทรศัพท์บีบแน่นโดยไม่รู้ตัว พยายามควบคุมไม่ให้เธอรู้ว่าตัวเองผิดหวัง"ไม่มีอะไ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 10

    เสิ่นเยี่ยนจือตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผลอพูดออกมาว่า "แต่ทุกครั้งที่คุณไปร้านดอกไม้ คุณก็ซื้อแต่ดอกนี้นี่นา"จี้อี่หนิงหลบตา เขาคงลืมไปแล้วว่าวันที่เขาสารภาพรักกับเธอ ก็ให้ดอกกุหลาบนี่แหละทว่ามันไม่สำคัญอะไรแล้ว แม้แต่ความรู้สึกของพวกเขาเขายังทรยศได้ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ที่เขาไม่ใส่ใจก็เป็นเรื่องปกติ"นั่นมันเมื่อก่อน"จี้อี่หนิงเดินผ่านเขาเข้าห้องนอนไป เธอรู้สึกได้ว่าสายตาของเสิ่นเยี่ยนจือจับจ้องอยู่ที่เธอตลอด แต่เธอไม่สนใจแล้วว่าเขาจะรู้สึกเสียใจหรือทุกข์ใจกับคำพูดของเธอหรือเปล่าหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ลงมาชั้นล่าง แม่บ้านได้นำอาหารเย็นมาวางบนโต๊ะแล้ว"นายน้อย นายหญิงน้อย อาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ"จี้อี่หนิงพยักหน้า เดินตรงไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ไม่แม้แต่จะมองเสิ่นเยี่ยนจือเสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไร เดินมานั่งตรงข้ามเธออย่างเงียบ ๆป้าหวังสังเกตเห็นบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนไม่ค่อยดี เดาว่าคงทะเลาะกันมาเธออุ้มดอกไม้บนโต๊ะในห้องรับแขกขึ้นมา ยิ้มมองจี้อี่หนิงแล้วพูดว่า "นายหญิงน้อยคะ ดอกไม้นี้ให้จัดแจกันส่งไปไว้ในห้องคุณเหมือนเดิมนะคะ?""ไม่ต้อง โยน

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 11

    น้ำเสียงสั่งการของเขา ทำให้จี้อี่หนิงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว"ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ ฉันก็จะย้ายออกไป"น้ำเสียงเฉยเมยของจี้อี่หนิงทำให้ความโกรธของเสิ่นเยี่ยนจือทวีความรุนแรงขึ้น เสียงของเขาก็ยิ่งดังขึ้นมาก "คุณอย่าลืมนะ ค่ายารักษาพ่อของคุณ…"ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกจี้อี่หนิงขัดขึ้นอย่างเย็นชา"เสิ่นเยี่ยนจือ ถ้าฉันจำไม่ผิด ลูกชายของลุงสองคุณกำลังจะกลับมาจากการเรียนต่อเร็ว ๆ นี้แล้ว คุณก็คงไม่อยากให้เรื่องที่คุณนอกใจถูกคนที่บ้านเดิมรู้ในตอนนี้หรอกใช่ไหม?"เพราะลุงสองของเขาไม่ได้เรื่อง ดังนั้นท่านผู้เฒ่าเสิ่นจึงทุ่มเทความพยายามอย่างมากกับลูกพี่ลูกน้องของเขาเพราะยังไงซะ เสิ่นซื่อกรุ๊ปก็ใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีทางจะให้เสิ่นเยี่ยนจือทั้งหมดได้หรอกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เสิ่นเยี่ยนจือทำตัวดีต่อหน้าท่านผู้เฒ่าเสิ่นมาโดยตลอด ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ จะให้เธอไปพูดเรื่องที่เขานอกใจออกมาได้ในช่วงเวลานี้ไม่ได้จี้อี่หนิงเลือกที่จะย้ายออกไปในเวลานี้ ก็เพราะคำนึงถึงเรื่องนี้เช่นกันที่ปลายสายเงียบไปนาน ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ตามมา"อี่หนิง ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะเป็นกระต่ายที่กัดค

บทล่าสุด

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 104

    วินาทีที่กริดทะลุเข้าไปบนหลังมือ จี้อี่หนิงหลุดร้องออกมา เจ็บปวดจนใบหน้าขาวซีดเลือดสดๆ รินไหลจากหลังมือของเธอ ดูน่าสยดสยองเป็นอย่างมากหลิ่วอี๋หนิงหัวเราะ แล้วดึงกริดออกมาจนเลือดพุ่งกระฉูดตามไปด้วย จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากอย่างแรง จึงไม่มีเสียงโหยหวนเล็ดลอดออกมาดูสีหน้าอดทนอดกลั้นของเธอแล้ว มุมปากของหลิ่วอี๋หนิงก็ยกยิ้มกว้างขึ้น"ไม่คิดว่ากระดูกของเธอมันจะแข็งเอาเรื่อง แต่ก็ไม่รู้ว่า มันจะแข็งไปได้ถึงเมื่อไหร่"หล่อนชูกริดขึ้นอีกครั้ง เตรียมจะแทงลงไปยังหน้าอกของจี้อี่หนิงสุดแรงเกิดทว่าจังหวะที่กริดอยู่ห่างจากหน้าอกข้างซ้ายของจี้อี่หนิงเพียงไม่กี่เซนติเมตร จู่ๆ ความปวดร้าวก็ส่งตรงมาจากข้อมือ กริดที่กำอยู่ก็ตกลงบนพื้นเช่นกันหลิ่วอี๋หนิงมองลูกดอกที่แทงใส่ข้อมือของหล่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา แล้วช้อนสายตาขึ้นมองไปยังทิศทางที่ลูกดอกยิงมาในทันที ก่อนจะเห็นร่างใครบางคนกำลังวิ่งมายังที่หล่อนอยู่แววตาของหล่อนเผยความลนลาน รีบก้มหน้าไปเก็บกริด ทว่าจังหวะที่กำลังก้มหน้าอยู่นั้น หล่อนก็ถูกเตะเข้าตรงลิ้นปี่อย่างรุนแรง จนกระเด็นออกไปทั้งร่างร่างกายของหล่อนกระแทกลงบนพื้นราวกับว่าวที่ด้

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 103

    ตอนนี้หากจี้อี่หนิงตายไป นอกจากอีกฝ่ายจะไม่ให้เงินแล้ว ดีไม่ดีจะโยนขี้ให้เขาว่าเป็นคนฆ่าจี้อี่หนิง เขาไม่มีอำนาจ แถมตอนนี้เจิ้งโหยวโหย่วยังโดนขังอยู่ในคุกอีก เขาจะเอาอะไรไปสู้หลิ่วอี๋หนิงเพราะงั้นเวลานี้การที่จี้อี่หนิงมีชีวิตต่อไป จะเป็นผลดีกับเขามากกว่า"แกเป็นบ้าไปแล้วหรอ? ดีไม่ดีตอนนี้เสิ่นเยี่ยนจือรู้แล้วว่าพวกเราจับตัวหล่อนมา ยิ่งชักช้ายิ่งจะไม่เป็นผลดีกับพวกเรา""ฉันแค่ต้องการเห็นเงินก่อน ถ้าคุณอยากฆ่าเธอผมจะไม่ยุ่ง""ดึกดื่นป่านนี้ ฉันจะไปโอนเงินให้แกได้ยังไง อย่างน้อยๆ ก็ต้องรอพรุ่งนี้เช้า ให้เจ้าหน้าที่ธนาคารเข้างานก่อน!"หลิ่วอี๋หนิงโมโหจนจะบ้า เจิ้งกั๋วอันเหมือนกับเจิ้งโหยวโหย่วไม่มีผิด ร่วมมือกับคนโง่ มีแต่จะพาเธอลงเหวอีกอย่างถึงจะโอนเงิน เธอก็ต้องใช้บัญชีต่างประเทศ ไม่งั้นถึงตอนนั้นเธอจะโดนตรวจพบได้"ฉันไม่สน ฉันจะเอาเงิน"ขณะที่ทั้งสองคนกำลังมีปากเสียงกัน แสงไฟจากที่ไกลๆ ก็เคลื่อนตัวเข้ามาเรื่อยๆสีหน้าของหลิ่วอี๋หนิงเปลี่ยนในทันใด เธอสั่งเสียงเย็นชา "เร็ว รีบพาเธอขึ้นบนดาดฟ้า!"เจิ้งกั๋วอันเองก็ตระหนักได้ถึงความตึงเครียดของสถานการณ์ ก็ไม่ได้โต้เถียงกับหลิ่วอ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 102

    สีหน้าของเสิ่นซื่อเปลี่ยนทันที เขาพูดเสียงเย็น "เกิดอะไรขึ้น?""ในบ้านของคุณจี้เละเทะไปหมด โทรศัพท์ของเธอวางอยู่บนโซฟา แต่เจ้าตัวหายไปครับ""รีบไปสืบเดี๋ยวนี้"ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ซุนสิงก็สืบได้ว่าจี้อี่หนิงถูกลักพาตัวไป จีบรีบรายงานเสิ่นซื่อทันทีรถตู้ไม่ติดป้ายทะเบียนเพิ่งจะเข้าเขตตัวเมืองได้ไม่เท่าไหร่ ก็ถูกกลุ่มคนขวางเอาไว้เมื่อเห็นชายชุดดำสิบกว่าคนยืนล้อมตัวรถ ชายหนุ่มก็ชะงักไป เปิดประตูลงจากรถ ขณะกำลังจะถามว่ามีอะไร ก็ถูกคนถีบเข้าอย่างแรง จนทรุดลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น"โอ๊ย!"เขาโอดครวญอย่างน่าสังเวช ความเจ็บปวดจากหัวเข่าที่แตกทำให้เขาหน้าซีด เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มไปหน้าไม่หยุดซุนสิงมีสีหน้าเย็นยะเยือก "แกลักพาตัวคนไปไว้ที่ไหน?"แววตาของชายหนุ่มเผยความลนลานเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะรีบส่ายหน้า "พวกแกพูดอะไร...ฉันไม่รู้เรื่อง"ซุนสิงแค่นหัวเราะเสียงเย็น "ไม่รู้เรื่องใช่ไหม? งั้นก็จะกระทืบจนกว่าจะรู้"วินาทีที่เขาพูดจบ ชายชุดดำสิบกว่าคนรุมเข้าไป เสียงโอดครวญดังเป็นระลอกๆไม่ถึงห้านาที ชายหนุ่มก็พูดอย่างสังเวช "อย่าทำผมเลย...อย่าทำผมเลย ผมจะบอกแล้ว...ผมจะบอก"ซุนสิงส่งซิ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 101

    "ใครน่ะ?"เมื่อฟังออกว่าเป็นฉินจืออี้ สีหน้าของจี้อี่หนิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย"ฉันคือจี้อี่หนิง ฉันต้องการคุยกับเสิ่นเยี่ยนจือ เอาโทรศัพท์ให้เขา"เสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากปลายสาย "เธอบอกว่าเยี่ยนจือน่ะหรอ เขากำลังอาบน้ำอยู่ เกรงว่าจะไม่ว่างรับสายเธอน่ะสิ คุณจี้ มีธุระอะไรกับเขาบอกฉันได้เลย ฉันจะช่วยบอกเขาให้"จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากเล็กน้อย มือที่ทิ้งน้ำหนักลงข้างตัวกำแน่นโดยอัตโนมัติ"ฉินจืออี้ ฉันถูกลักพาตัว..."ยังพูดไม่ทันจบ ฉินจืออี้ก็ตัดบทเธอขึ้นมา "จี้อี่หนิง เธอคิดว่าคำโกหกเงอะงะแบบนี้จะทำให้เยี่ยนจือไปหาเธอได้หรอ? ถ้าเธออยากจะเขาจริงๆ เธอก็มาหาเขาเองสิ แต่คืนนี้เขาต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันกับลูก เกรงว่าจะไม่ว่างสนใจเธอหรอก"เวลานี้เหตุการณ์เกี่ยวพันกับชีวิต จี้อี่หนิงจึงไม่มีเวลามาคิดแค้นหล่อน"ฉันโดนลักพาตัวจริงๆ...ขอแค่เธอบอกเขาเรื่องนี้ก็พอ...""ถ้าเธอโดนลักพาตัวจริง งั้นก็ไปตายซะสิ ถ้าไม่มีเธอสักคน ลูกในท้องของฉันก็เชิดหน้าชูตาเกิดมาได้อย่างภาคภูมิ ฉันเองก็จะได้อยู่กับเยี่ยนจือ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าเธอตายไป ฉันจะเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ทุกปีเลยล่ะ"น้ำเสียงของฉินจืออี้เต

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 100

    "ต่อให้แกแฉออกไปตอนนี้ฉันก็ไม่มีเงิน อีกอย่างถ้าเรื่องนี้ถูกแฉออกไป แกก็ต้องติดคุกเหมือนกัน!"เสียงถกเถียงของทั้งสองคนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดจี้อี่หนิงก็รู้แล้วว่าคนที่ลักพาตัวตนเองคือพ่อของเจิ้งโหยวโหย่ว เจิ้งกั๋วอันแต่ตัวเธอเคยเขาแค่ครั้งเดียวเอง เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่ไหน? อีกทั้งยังแอบซุ่มอยู่ในบ้านเธออีก...เธอสามารถมั่นใจได้ว่า นี่ไม่ใช่วิธีที่แรงงานเกษตรคิดออกมาได้แน่ ๆ ต้องมีคนคอยบงการเขาอยู่เบื้องหลังแน่นอนและคนคนนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นหลิ่วอี๋หนิงผ่านไปสักพัก เสียงถกเถียงข้างนอกก็หยุดลง ตามมาด้วยเสียงสตาร์ทรถยนต์ และไม่นานบริเวณโดยรอบก็เหลือแต่ความเงียบจี้อี่หนิงหายใจช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว ไม่กล้าหอบหายใจเสียงดังทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่ากระเป๋าเดินทางขยับ จากนั้นก็เป็นเสียงล้อลากกับพื้นเมื่อสังเกตได้ว่าอีกฝ่ายกำลังลากตัวเธอไปที่ไหนก็ไม่รู้ ในใจจี้อี่หนิงก็ตื่นตระหนกทันที ครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าจะหนียังไงดีเธอค่อย ๆ รูดซิปบนหัวออก แต่ข้างนอกมืดสนิท มีแค่แสงสว่างเพียงเล็กน้อยคอยส่องทางจากไฟฉายกระบอกหนึ่งในมือของคนข้างหน้าที่ลากกระเป๋าเดินทางจี้อี่หนิงมองไม่ส

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 99

    มีคนแอบซุ่มรอทั้งในห้องนอนและหน้าประตู เห็นทีอีกฝ่ายคงวางแผนมาแล้วเธอลุกขึ้นมาวิ่งไปตรงไปยังห้องครัว แต่เพิ่งเริ่มวิ่งได้สองก้าวก็ถุกคนคว้าแขนเอาไว้ แล้วกระแทกเธอเข้ากับกำแพงอย่างแรง"แกเป็นใคร? ทำไมต้อง...อื้อ..."อีกฝ่ายใช้มือข้างหนึ่งกดจี้อี่หนิงไว้ มืออีกข้างก็ใช้ผ้าผืนหนึ่งอุดจมูกของจี้อี่หนิง ไม่ให้โอกาสจี้อี่หนิงได้พูดเลยสักนิดกลิ่นฉุนเตะจมูก ภาพตรงหน้าของจี้อี่หนิงก็ค่อย ๆ มัวลงช้า ๆผ่านไปไม่นาน ผู้ชายสวมผ้าปิดปากสองคนก็ลากกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งเดินออกไปจากบ้านของจี้อี่หนิงเนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว คนส่วนมาก็เลิกงานกลับบ้านกันหมด ในหมู่บ้านจึงไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตสองคนนี้ไม่นาน ทั้งสองคนก็มาถึงประตูหลังของหมู่บ้าน มีรถตู้ที่ไม่มีป้ายทะเบียนคันหนึ่งจอดอยู่ใต้ต้นไม้ทั้งสองคนเอากระเป๋าเดินทางใส่ไว้ในกระโปรงหลังรถ จากนั้นก็ขับรถมุ่งตรงออกไปยังนอกเมืองทันทีชิงหงกรุ๊ปห้องทำงานประธานซุนสิงถือเอกสารชุดหนึ่งรีบเดินเข้าไปอย่างรีบเร่ง "ประธานเสิ่นครับ เมื่อกี้บริษัทคู่ค้าส่งเอกสารชุดนี้กลับมา บอกว่าข้อมูลการทดลองเหมือนจะมีปัญหา แต่

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 98

    ทันใดนั้น ใบหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือก็ปรากฏเป็นรอยฝ่ามือขึ้นมาทันที แววตาของเขาที่มองจี้อี่หนิงก็กลายเปลี่ยนเป็นความเย็นชาอย่างสุดขั้ว“นี่คุณกล้าตบผมเหรอ?!”จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้นสบตากับแววตาโกรธเคืองของเขา แล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ทำไมฉันจะตบคุณไม่ได้? คนที่นอกใจคือคุณต่างหาก แต่คุณบังอาจวิ่งแจ้นไปใส่ร้ายฉันต่อหน้าพ่อของฉัน คุณไม่สมควรโดนตบรึไง?"ทันทีที่พูดจบ เสิ่นเยี่ยนจือก็บีบคางเธอและกดเธอไว้กับกำแพงทันที รังสีความโหดฉายออกมาในแววตา"อี่หนิง คุณไม่เชื่อฟังคำสั่งของผมก่อนเอง ถ้าคุณเชื่อฟังผมดี ๆ ผมก็ไม่มาหาพ่อตาหรอก"จี้อี่หนิงแค่นหัวเราะออกมา "ถ้าคุณกล้ามาหาพ่อของฉันอีก ฉันก็จะแฉเรื่องที่คุณนอกใจออกมาให้หมด""ถ้าคุณไม่กลัวว่าพ่อจะได้รับแรงกระตุ้นแล้วอาการแย่ลง คุณจะไปบอกตอนนี้เลยก็ได้"น้ำเสียงไม่แยแสของเสิ่นเยี่ยนจือทำให้ความโกรธของจี้อี่หนิงสุมขึ้นในอก มือที่วางข้างลำตัวก็กำแน่นโดยไม่รู้ตัว"เสิ่นเยี่ยนจือ ทำไมคุณกลายเป็นคนหน้าด้านไร้ยางอายได้ขนาดนี้?!"เสิ่นเยี่ยนจือก้มหน้ามองเธอ เมื่อเห็นความเกลียดชังและความโกรธในแววตาของเธอ ม่านตาของเขาก็หดตัวลงแล้วบีบคางเธอแน่นกว่าเดิ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 97

    ฝีเท้าของจี้อี่หนิงหยุดชะงักไป ขมวดคิ้วมองเสิ่นเยี่ยนจือที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยแววตาโกรธเคือง"คุณไปพูดอะไรกับพ่อฉัน?!"เสิ่นเยี่ยนจือยังไม่ทันปริปาก จี้เหว่ยหงก็พูดด้วยความเกรี้ยวกราด "เธอยังกล้าคาดคั้นเยี่ยนจืออีก?! เธอกับอาเล็กของเขาแอบกิ๊กกันเธอไม่รู้สึกผิดกับเขาเลยรึไง?"จี้อี่หนิงโมโหจนหน้าซีด แม้แต่ปลายนิ้วยังสั่นระริกเธอไม่คิดเลยว่าเสิ่นเยี่ยนจือจะหน้าไม่อายขนาดนี้ แว้งกัดต่อหน้าจี้เหว่ยหงก่อนซะงั้นสิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็ถึง จี้เหว่ยหงกลับเชื่อจริง ๆ"พ่อคะ ในสายตาพ่อหนุเป็นคนแบบนั้นเหรอ? พ่อไม่ถามหนูเลยด้วยซ้ำ แค่คำพูดของเสิ่นเยี่ยนจือฝ่ายเดียวก็คิดว่าหนุหักหลังเขาแล้ว?!"จี้อี่หนิงสูดหายใจลึก ตัดสินใจจะไม่ปิดบังเรื่องที่เสิ่นเยี่ยนจือนอกใจแอีกต่อไปแล้ว"พ่อรู้ไหมว่าเขาแอบ...""อี่หนิง เมื่อกี้พ่อเกือบจะเป็นลมเพราะเรื่องของเธอ หมอบอกว่าห้ามให้เขาถูกกระตุ้นแล้ว เธอต้องทำให้พ่อโมโหจนอกแตกตายก่อนถึงจะพอใจใช่ไหม?"เสียงของเสิ่นเยี่ยนจือดังมากจนกลบเสียงของจี้อี่หนิงไปหมดมือที่วางข้างลำตัวของจี้อี่หนิงกำแน่น ในใจเกลียดเสิ่นเยี่ยนจืออย่างสุดขีด"ในเมื่อคุณรู้ว่าพ่อของฉัน

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 96

    เสิ่นซื่อเงยหน้ามองเขา เอ่ยปากด้วยสีหน้าเย็นชา "รู้แล้ว"เมื่อเห็นสีหน้าของเขาเฉยเมย ซุนสิงก็รู้สึกว่าการที่ตัวเองตั้งใจบอกเขาเรื่องนี้โดยเฉพาะมันไม่จำเป็นเลยพร้อมทั้งเตือนเสิ่นซื่อว่ามีประชุมตอนสิบโมง ซุนสิงก็หมุนตัวออกไปช่วงเที่ยง จี้อี่หนิงถือบัตรอาหารไปที่โรงอาหารเพิ่งเดินเข้าไปก็ต้องอึ้งกับความหรูหราของโรงอาหารชิงหง นี่ไม่ใช่โรงอาหารแล้ว ไม่ต่างอะไรกับร้านอาหารติดดาวเลยสักนิดเมื่อกวาดตามองไปแล้วอาหารทุกช่องล้วนประณีตเป็นอย่างมาก แค่มองก็รู้สึกหิวแล้วอีกทั้งราคาอาหารยังถูกมากเทียบเท่ากับโรงอาหารในมหาวิทยาลัยเลยโรงอาหารมีสามชั้นถ้วน มีอาหารครอบคลุมทุกชนิดทั้งอาหารตะวันตก อาหารจีน อีกทั้งยังมีอาหารประจำชาติเฉพาะกลุ่มประเทศอื่น ๆ อีกจี้อี่หนิงยืนต่อแถวอยู่ที่ช่องอาหารไทย สั่งข้าวผัดสับปะรดหนึ่งจานและต้มยำกุ้งหนึ่งถ้วยแล้วหาที่นั่งมุมหนึ่งนั่งลงเมื่อชิมน้ำซุปไปหนึ่งคำ ความเซอร์ไพรส์ก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ นี่มันอร่อยเหมือนที่เธอเคยกินที่ร้านอาหารห้าดาวเลยก่อนหน้านี้บนโซเชียลมีคนพูดกันว่าเรื่องโรงอาหารของชิงหงเทียบเท่าระดับห้าดาว ตอนนั้นจี้อี่หนิงยังคิดว่ากล่าวเกินจร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status