Share

บทที่ 10

Author: แสงอรุณฤดูใบไม้ผลิ
เสิ่นเยี่ยนจือตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผลอพูดออกมาว่า "แต่ทุกครั้งที่คุณไปร้านดอกไม้ คุณก็ซื้อแต่ดอกนี้นี่นา"

จี้อี่หนิงหลบตา เขาคงลืมไปแล้วว่าวันที่เขาสารภาพรักกับเธอ ก็ให้ดอกกุหลาบนี่แหละ

ทว่ามันไม่สำคัญอะไรแล้ว แม้แต่ความรู้สึกของพวกเขาเขายังทรยศได้ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ที่เขาไม่ใส่ใจก็เป็นเรื่องปกติ

"นั่นมันเมื่อก่อน"

จี้อี่หนิงเดินผ่านเขาเข้าห้องนอนไป เธอรู้สึกได้ว่าสายตาของเสิ่นเยี่ยนจือจับจ้องอยู่ที่เธอตลอด แต่เธอไม่สนใจแล้วว่าเขาจะรู้สึกเสียใจหรือทุกข์ใจกับคำพูดของเธอหรือเปล่า

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ลงมาชั้นล่าง แม่บ้านได้นำอาหารเย็นมาวางบนโต๊ะแล้ว

"นายน้อย นายหญิงน้อย อาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ"

จี้อี่หนิงพยักหน้า เดินตรงไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ไม่แม้แต่จะมองเสิ่นเยี่ยนจือ

เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไร เดินมานั่งตรงข้ามเธออย่างเงียบ ๆ

ป้าหวังสังเกตเห็นบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนไม่ค่อยดี เดาว่าคงทะเลาะกันมา

เธออุ้มดอกไม้บนโต๊ะในห้องรับแขกขึ้นมา ยิ้มมองจี้อี่หนิงแล้วพูดว่า "นายหญิงน้อยคะ ดอกไม้นี้ให้จัดแจกันส่งไปไว้ในห้องคุณเหมือนเดิมนะคะ?"

"ไม่ต้อง โยนทิ้งไปเลย"

ก่อนหน้านี้สองคนก็เคยทะเลาะกัน แต่จี้อี่หนิงไม่เคยเย็นชาขนาดนี้มาก่อน

ป้าหวังงงไปชั่วครู่ ก่อนจะหันไปมองเสิ่นเยี่ยนจือโดยไม่รู้ตัว

เสิ่นเยี่ยนจือไม่เงยหน้าขึ้น พูดเสียงเรียบ ๆ "ทำตามที่เธอบอก โยนทิ้งไปซะ"

ป้าหวังรู้สึกเสียใจในใจ และรู้ตัวว่าตัวเองพูดผิดไป รีบวางดอกไม้ลงแล้วหันหลังเข้าครัวไป

หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็ส่งข้อความไปหาแม่ของเสิ่นเยี่ยนจือ

เพราะเธอรู้สึกว่าการทะเลาะกันครั้งนี้ของทั้งสองคน ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมาเลย

หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ จี้อี่หนิงก็วางชามลงแล้วลุกขึ้นกลับห้องนอนทันที

ตอนกำลังจะปิดประตู ก็มีมือหนึ่งยันประตูไว้

"อี่หนิง คุณจะเย็นชากับผมแบบนี้ไปตลอดเลยเหรอ? พวกเราเป็นคู่ชีวิตกันนะ ผมยอมให้คุณตีผม ด่าผม ดีกว่าที่คุณจะใช้ความเงียบทำร้ายผมแบบนี้"

เธอเงยหน้ามองเสิ่นเยี่ยนจือ เห็นเขามองตัวเองด้วยสีหน้าจนใจ เหมือนทุกครั้งที่พวกเขาทะเลาะกันแล้วเขามาง้อเธอไม่มีผิด จี้อี่หนิงไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ บนใบหน้า

เขามักจะพยายามทำให้เรื่องนอกใจดูเบาลง หวังจะใช้ความอ่อนโยนของเธอให้เธอยกโทษให้เขา

แต่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันมาแปดปี เธอรู้จักเขาดีเกินไป ถ้าครั้งนี้เธอยกโทษให้เขา ต่อไปเธอก็จะต้องเผชิญกับการนอกใจของเขาอีกนับครั้งไม่ถ้วน

เพราะเมื่อคนเราทิ้งขีดกำจัดไปแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาจะไม่ใช่ความรู้สึกผิด แต่จะเป็นการทำร้ายที่หนักขึ้นทุกครั้ง

"ถ้าคนที่นอกใจเป็นฉัน คุณจะทำใจให้สงบและให้อภัยได้ในเวลาสั้น ๆ แบบนี้ไหมล่ะ?"

มือของเสิ่นเยี่ยนจือที่จับลูกบิดประตูมีเส้นเลือดปูดขึ้น ดวงตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความดุร้ายและเจตนาฆ่า

ถ้าเขาเห็นภาพจี้อี่หนิงนอนกับผู้ชายคนอื่น เขาต้องทนไม่ไหวฆ่าผู้ชายคนนั้นแน่ๆ!

เมื่อเห็นสีหน้าของเขาเย็นชาลงทันที จี้อี่หนิงก็รู้สึกขำนิด ๆ

"เห็นไหม สิ่งที่คุณเองก็ทำไม่ได้ ก็อย่าไปบังคับคนอื่นเลย"

เสิ่นเยี่ยนจือก้มลงมองจี้อี่หนิง พูดทีละคำ "อี่หนิง ผมจะให้เวลาคุณค่อยๆ ยอมรับเรื่องนี้ แต่ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ ชาตินี้ผมจะไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่"

เขารู้ดีว่าการที่จี้อี่หนิงไปหางานทำ ก็เพื่อเตรียมตัวจากเขาไป

แต่เขาจะทำให้เธอรู้เร็วๆ นี้ว่า ทุกอย่างที่เธอทำไม่มีประโยชน์เลยสักนิด

ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเต็มไปด้วยความเป็นเจ้าของและความคลั่งไคล้ ทำให้หัวใจของจี้อี่หนิงสั่นไหวโดยไม่รู้ตัว และรู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลัง

เธอรู้ดีว่าภายนอกนั้นเสิ่นเยี่ยนจือดูสุภาพอ่อนโยน แต่จริงๆ แล้วถ้าเขาคลั่งขึ้นมาใครก็ห้ามไม่อยู่

ถ้าเธอยืนกรานจะหย่า บทสรุประหว่างพวกเขา...คงไม่จบลงด้วยดีแน่...

เมื่อเห็นความกลัวในดวงตาของเธอ เสิ่นเยี่ยนจือจึงรู้ตัวว่าทำให้เธอตกใจ สีหน้าจึงอ่อนโยนลงเล็กน้อย

"ไม่ต้องกลัว แค่คุณอยู่ข้างๆ ผมดีๆ ผมก็จะไม่ทำร้ายคุณ"

เขายื่นมือจะช่วยเธอเก็บผมที่ตกลงมาข้างแก้มไปไว้หลังหู แต่จี้อี่หนิงถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตัว มือของเขาจึงค้างอยู่กลางอากาศ

บรรยากาศเงียบงันไปสองสามวินาที เสิ่นเยี่ยนจือดึงมือกลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"พรุ่งนี้ผมต้องไปธุระต่างเมือง จะไปครึ่งเดือน พอผมกลับมาจะย้ายกลับมานอนห้องนี้ คุณเตรียมใจไว้ด้วย รีบพักผ่อนเร็วๆ ด้วย"

จี้อี่หนิงปิดประตู หลังของเธอมีเหงื่อซึมบางๆ

เธอเข้าใจดีว่าประโยคสุดท้ายของเสิ่นเยี่ยนจือหมายความว่าอะไร เขาให้เวลาเธอแค่ครึ่งเดือนในการยอมรับและให้อภัยเรื่องที่เขานอกใจ

ดูเหมือนว่าเรื่องย้ายออกไป ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

"ติ๊ง!"

โทรศัพท์มือถือดังขึ้น เป็นข้อความจากฝ่ายบุคคลของเฉิงหยวน

เธอได้รับเลือกแล้ว แค่เงินเดือนต่ำกว่าที่คาดไว้นิดหน่อย

แต่ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือก หลังจากตอบกลับยืนยันว่าเธอสามารถเริ่มงานวันจันทร์หน้าได้ จี้อี่หนิงก็รีบติดต่อนายหน้าทันที

วันรุ่งขึ้น จี้อี่หนิงเซ็นสัญญากับเจ้าของบ้าน เช่าหนึ่งปี จ่ายทุกสามเดือน เจ้าของบ้านรับผิดชอบค่าส่วนกลาง ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ

หลังจากจ่ายค่าเช่าเสร็จ เงินในบัญชีของจี้อี่หนิงก็เหลือเงินแค่ไม่กี่พัน

เธอไม่ได้รีบกลับ แต่ไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นล่างซื้อไม้กวาดและไม้ถูพื้น รวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดอื่นๆ แล้วทำความสะอาดห้องเช่า

หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จก็เป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้ว จี้อี่หนิงเหนื่อยจนแทบยืดตัวไม่ขึ้น แต่เมื่อเห็นห้องเช่าที่สะอาดเอี่ยมอ่อง เธอก็รู้สึกภูมิใจมาก

ในช่วงไม่กี่วันต่อมา เธอจัดของในวิลล่า วันเสาร์สือเวยก็มาช่วยเธอขนของ

เมื่อเห็นเธอลากกระเป๋าเดินทาง ป้าหวังมีสีหน้าสงสัย

"นายหญิงน้อยคะ...นี่คุณนายจะไปเที่ยวเหรอคะ?"

จี้อี่หนิงส่ายหน้า ยิ้มพลางพูดว่า "ฉันเตรียมย้ายออกไปอยู่ข้างนอก ขอบคุณที่ดูแลฉันมาหลายปีนะคะ"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของป้าหวังก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เธอก็รู้สึกว่าจี้อี่หนิงกับเสิ่นเยี่ยนจือมีปัญหากัน เพราะแต่ก่อนเวลาอยู่บ้านทั้งสองคนมักจะอยู่ด้วยกันตลอด แต่ช่วงนี้แทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลย

อีกอย่าง ตลอดหลายวันที่เสิ่นเยี่ยนจือไปธุระต่างเมือง จี้อี่หนิงก็ไม่ได้โทรหาเขาสักครั้ง แม้แต่จะถามไถ่ก็ไม่มี

แต่ก่อนเวลาเสิ่นเยี่ยนจือไปธุระต่างเมือง ทุกคืนเธอจะต้องนั่งอยู่ในห้องรับแขกคุยโทรศัพท์กับเขาเป็นชั่วโมง

"นายหญิงน้อยคะ...คุณกับคุณผู้ชาย ทะเลาะกันหรือเปล่าคะ?"

มือของจี้อี่หนิงที่จับกระเป๋าเดินทางกระชับแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผ่านไปสองสามวินาทีจึงพูดเสียงอ่อนโยนว่า "ไม่ใช่หรอก ฉันหางานได้แล้ว อยู่ข้างนอกจะได้ใกล้ที่ทำงานหน่อย"

พูดจบ เธอก็ค้อมศีรษะให้ป้าหวังเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก

มองร่างที่เดินจากไปของเธอ ความรู้สึกไม่สบายใจในใจของป้าหวังก็ยิ่งรุนแรงขึ้น เธอรีบโทรหาเสิ่นเยี่ยนจือทันที

"นายน้อยคะ นายหญิงน้อยเพิ่งลากกระเป๋าเดินทางออกไปค่ะ!"

ตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากป้าหวัง เสิ่นเยี่ยนจือเพิ่งเจรจาธุรกิจเสร็จและส่งคู่ค้าขึ้นลิฟต์ไป

คำพูดที่ได้ยินจากปลายสายทำให้รอยยิ้มของเขาแข็งค้างอยู่บนใบหน้า อารมณ์ดีที่มีอยู่ก่อนหน้านี้หายวับไปในพริบตา สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นมืดครึ้มอย่างที่สุด

ไม่คิดว่าเธอจะมีฝีมือขนาดนี้ ถึงกับอาศัยจังหวะที่เขาไม่อยู่บ้านหนีออกจากบ้านเลยทีเดียว!

"ฉันรู้แล้ว"

หลังจากตัดสาย เสิ่นเยี่ยนจือก็กดปุ่มโทรด่วน

เห็นหมายเลขที่กะพริบอยู่บนหน้าจอ ในดวงตาของจี้อี่หนิงก็ไม่มีความประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย

เธอรู้ว่าทันทีที่เธอออกจากวิลล่าไป เสิ่นเยี่ยนจือก็จะได้รับข่าวทันที

เธอเม้มริมฝีปาก นิ้วมือปัดหน้าจอโทรศัพท์

ทันทีที่รับสาย ก็ได้ยินเสียงที่แฝงความโกรธของเขาดังขึ้น

"อี่หนิง ผมไม่อนุญาตให้คุณย้ายออกไป กลับบ้านมาเดี๋ยวนี้!"

Related chapters

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 11

    น้ำเสียงสั่งการของเขา ทำให้จี้อี่หนิงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว"ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ ฉันก็จะย้ายออกไป"น้ำเสียงเฉยเมยของจี้อี่หนิงทำให้ความโกรธของเสิ่นเยี่ยนจือทวีความรุนแรงขึ้น เสียงของเขาก็ยิ่งดังขึ้นมาก "คุณอย่าลืมนะ ค่ายารักษาพ่อของคุณ…"ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกจี้อี่หนิงขัดขึ้นอย่างเย็นชา"เสิ่นเยี่ยนจือ ถ้าฉันจำไม่ผิด ลูกชายของลุงสองคุณกำลังจะกลับมาจากการเรียนต่อเร็ว ๆ นี้แล้ว คุณก็คงไม่อยากให้เรื่องที่คุณนอกใจถูกคนที่บ้านเดิมรู้ในตอนนี้หรอกใช่ไหม?"เพราะลุงสองของเขาไม่ได้เรื่อง ดังนั้นท่านผู้เฒ่าเสิ่นจึงทุ่มเทความพยายามอย่างมากกับลูกพี่ลูกน้องของเขาเพราะยังไงซะ เสิ่นซื่อกรุ๊ปก็ใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีทางจะให้เสิ่นเยี่ยนจือทั้งหมดได้หรอกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เสิ่นเยี่ยนจือทำตัวดีต่อหน้าท่านผู้เฒ่าเสิ่นมาโดยตลอด ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ จะให้เธอไปพูดเรื่องที่เขานอกใจออกมาได้ในช่วงเวลานี้ไม่ได้จี้อี่หนิงเลือกที่จะย้ายออกไปในเวลานี้ ก็เพราะคำนึงถึงเรื่องนี้เช่นกันที่ปลายสายเงียบไปนาน ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ตามมา"อี่หนิง ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะเป็นกระต่ายที่กัดค

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 12

    วันจันทร์เวลาแปดโมงเช้า จี้อี่หนิงมาถึงเฉิงหยวนตรงเวลาฝ่ายบุคคลทำเรื่องเข้าทำงานให้เธอเสร็จแล้วพาเธอเดินชมรอบบริษัท ให้เธอคุ้นเคยกับตำแหน่งของแต่ละแผนก จากนั้นพาเธอไปที่ห้องทำงานผู้จัดการแผนกวิจัยและพัฒนาของตัวเองแล้วก็จากไปผู้จัดการแผนกวิจัยและพัฒนาชื่อ เจี่ยงหรู เป็นผู้หญิงวัยสี่สิบปีต้น ๆ มีผมสั้นเรียบร้อย ไม่ค่อยยิ้มแย้ม ดูเคร่งขรึมเล็กน้อย"นั่งสิ"หลังจากที่จี้อี่หนิงนั่งลงแล้ว เจี่ยงหรูกล่าวด้วยท่าทางเรียบเฉยว่า "ฉันดูประวัติของเธอแล้ว เธอทำผลงานได้ดีในช่วงที่อยู่มหาวิทยาลัย แต่หลายปีมานี้ไม่ได้เข้าห้องปฏิบัติการอีก เธอเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยก่อนแล้วกัน""ค่ะ"เห็นเธอมีท่าทีสงบ ไม่มีท่าทีไม่พอใจเลยสักนิด เจี่ยงหรูก็รู้สึกพอใจอยู่ในใจเธอชอบลูกน้องที่ทำงานอย่างตั้งใจและจริงจัง ตอนนี้ดูเหมือนว่าจี้อี่หนิงจะเป็นคนที่มีความตั้งใจดีเธอลุกขึ้นยืนและมองไปที่จี้อี่หนิง "ฉันจะพาเธอไปพบปะเพื่อนร่วมงาน"เจี่ยงหรูพาจี้อี่หนิงเข้าไปในแผนกวิจัยและพัฒนา แล้วพูดเสียงดังว่า "ทุกคนหยุดงานสักครู่ วันนี้แผนกของเรามีสมาชิกใหม่ อี่หนิง แนะนำตัวหน่อยสิ"จี้อี่หนิงก้าวไปข้างหน้า ยิ้มเล็กน้อ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 13

    เจี่ยงหรูหันไปมองจี้อี่หนิง "หลายวันมานี้เธอได้ความรู้อะไรจากห้องปฏิบัติการไปบ้าง?""ฉันเคยสังเกตค่ะ ตอนนี้สิ่งที่ห้องปฏิบัติการกําลังทําคือการวิจัยพัฒนายารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ปัจจุบันการวิจัยและพัฒนายาคืบหน้าประมาณ 50% และกําลังเตรียมที่จะใช้หนูทดลองเป็นขั้นตอนการทดลอง"สีหน้าของเจี่ยงหรูที่ได้ยินดังนั้นก็ดีขึ้นมาหน่อย พร้อมกับแววตาที่หันไปมองจี้อี่หนิงก็แฝงไปด้วยความชื่นชม"ดีมาก สำหรับการใช้เครื่องมือทดลอง เธอได้เรียนรู้เป็นยังไงบ้าง?""ก็ศึกษาจนพอได้หมดแล้วค่ะ"หลิ่วอี๋หนิงที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้วหันไปมองจี้อี่หนิง "อี่หนิง ฉันรู้ว่าเธอต้องการที่จะทำการทดลองด้วยตัวเองโดยเร็วที่สุด แต่เธอต้องรู้ว่าการทดลองเป็นสิ่งที่เข้มงวดมาก อีกทั้งมีเครื่องมือหลายชนิดที่ช่วงนี้เรายังไม่เคยใช้ ทำไมเธอถึงพูดว่าเธอศึกษาจนพอได้หมดแล้วล่ะ?"สีหน้าของจี้อี่หนิงนั้นสงบนิ่ง "เครื่องมือพวกนี้สมัยเรียนมหาวิทยาลัยฉันเคยใช้หมดแล้ว""เธอเองก็บอกว่าเรียนในมหาวิทยาลัย เธอไม่ได้เข้าห้องปฏิบัติการมาหลายปีแล้ว ต้องเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น สิ่งที่เราทําคือการพัฒนายา จะประมาทไม่ได้แม้แต่น้อยเลยนะ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 14

    สีหน้าของจี้อี่หนิงเปลี่ยนไปทันที พร้อมกับรีบแย่งโทรศัพท์คืนจากเสิ่นเยี่ยนจือกะทันหัน"ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ!"เสิ่นเยี่ยนจือคว้ามือของเธอไว้"ผมจะไปกับคุณ"ก็ไม่ให้โอกาสจี้อี่หนิงปฏิเสธ เขาดึงจี้อี่หนิงออกไปข้างนอกทันทีจี้อี่หนิงพยายามสะบัดมือเขา แต่ไม่สำเร็จและอดขมวดคิ้วไม่ได้"ปล่อยฉันนะ ฉันเดินเองได้"เสิ่นเยี่ยนจือหันหน้ากลับมามองเธอ สีหน้าเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย "อี่หนิง ตอนนี้คุณพ่อร่างกายสำคัญกว่า เรื่องที่เราทะเลาะกันค่อยเคลียร์ทีหลัง ได้ไหม?"เดิมทีจี้อี่หนิงอยากจะบอกว่าระหว่างพวกเขาไม่ใช่การทะเลาะกันธรรมดา แต่ตอนนี้เรื่องของพ่อของเธอสําคัญกว่า เธอจึงขี้เกียจเถียงกับเขาอีกทั้งสองรีบไปที่ประตูห้องฉุกเฉิน จากนั้นก็เห็นเวินจิ้งหงนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างทางเดินและรออย่างใจจดใจจ่อ ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ จี้อี่หนิงก็รีบก้าวไปข้างหน้า"คุณน้าคะ มันเกิดบ้าอะไรขึ้น? อาการของพ่อฉันทรงตัวมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ ๆ ถึงเป็นลมกะทันหัน?"ก่อนหน้านี้หมอเคยกล่าวไว้ว่า ตราบใดที่จี้เหว่ยหงไม่ถูกกระตุ้น อาการป่วยโดยทั่วไปก็จะทรงตัวได้เมื่อเห็นจี้อี่หนิง เวินจิ้งหงอดไม่ได้ที่จะสะอึกสะอื้น ผ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 15

    เสิ่นเยี่ยนจือรีบเข้าไปด้านหน้า นั่งยอง ๆ อยู่ข้างจี้หงเหว่ย "คุณพ่อครับ ท่านวางใจได้ว่า ผมจะดีกับอี่หนิงไปตลอดชีวิตแน่นอน""อื้ม ตราบใดที่นายดีกับเธอพ่อก็พอใจแล้ว"เมื่อเห็นดวงตาของจี้หงเหว่ยค่อย ๆ ปิดลง จี้อี่หนิงก็รีบตะโกนเรียกเขา "คุณพ่อคะ ตอนนี้ฤทธิ์ยาสลบยังไม่หมดดี ห้ามนอนหลับค่ะ"จี้อี่หนิงและเสิ่นเยี่ยนจือผลัดกันเรียกจี้เหว่ยหงตลอดทั้งคืน จนกระทั่งท้องฟ้าค่อย ๆ สว่างขึ้น ฤทธิ์ของยาสลบเกือบหมดแล้วจึงปล่อยให้จี้เหว่ยหงนอนหลับเพิ่งรุ่งสางไม่นาน เวินจิ้งหงก็นําซุปที่ปรุงเสร็จแล้วมา"อี่หนิง เยี่ยนจือ เมื่อคืนพวกเธอลำบากมาก พวกเธอกลับไปเถอะ น้าจะดูแลเอง"อดหลับอดนอนข้ามคืน จี้อี่หนิงแทบจะลืมตาไม่ขึ้น พยักหน้าแล้วเอ่ยว่า "ค่ะ น้าเวิน ถ้ามีเรื่องอะไรน้าโทรหาหนูได้เลยนะคะ เสาร์อาทิตย์หนูพักผ่อนอยู่บ้าน"คนพูดพูดโดยไม่ได้คิดอะไร เวินจิ้งหงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวจี้อี่หนิงไม่ได้ทํางานมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงบอกว่าเสาร์อาทิตย์หยุดพักผ่อน?แต่เธอยังไม่ทันได้ถาม พยาบาลก็เข้ามาเตรียมตรวจจี้เหว่ยหง เธอได้แต่เก็บความสงสัยในใจ เตรียมส่งข้อความถามจี้อี่หนิงทีหลังทั้งสองเดินออกจากโรงพย

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 16

    ความเย็นถาโถมเข้ามา จี้อี่หนิงตัวสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว ร่างกายสั่นไม่หยุดเมื่อมองเห็นส่วนนูนโค้งวับ ๆ แวม ๆ บนเนินอกของเธอ ดวงตาของเสิ่นเยี่ยนจือก็มืดลงทันที ทันใดนั้นก็ก้มศีรษะลงไซร้จูบที่กระดูกไหปลาร้าของเธอทันที"อย่ามาโดนฉัน!"จี้อี่หนิงดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ร่างกายเจ้ากรรมถูกเสิ่นเยี่ยนจือกดทับเอาไว้ ความแตกต่างระหว่างความแข็งแกร่งตามธรรมชาติระหว่างผู้ชายและผู้หญิงทําให้เธอไม่มีทางหลบหนีได้สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจและความโกรธ เมื่อถูกเขาสัมผัสเข้า ก็รู้สึกขยะแขยงมาก"อี่หนิง ครั้งนี้คุณปฏิเสธไปก็ไร้ประโยชน์"มีเพียงทำให้เธอตั้งท้องลูกของเขาเท่านั้น เธอถึงจะอยู่กับเขาบังคับฝืนให้ตัวเองไม่สนใจสายตาที่รังเกียจของจี้อี่หนิง เสิ่นเยี่ยนจือก้มหน้าจูบที่ริมฝีปากเธอเสี้ยววินาทีต่อมา ริมฝีปากถูกจี้อี่หนิงกัดอย่างรุนแรงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกลิ่นเลือดก็ตลบอบอวลในปากของทั้งคู่เสิ่นเยี่ยนจือปล่อยเธอและไปเช็ดเลือดที่มุมปาก แสยะยิ้มพร้อมกับบีบคางของเธอ บังคับให้เธอหันมามองตัวเขา"อี่หนิง วันนี้คุณหนีไม่พ้นหรอก"ทันทีที่ก้มหัวลงจูบกระดูกไหปลาร้าของเธอ ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะปร

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 17

    ถ้ารู้แต่แรกว่าฉินจืออี้รับมือยากขนาดนี้ ตอนแรกเขาจะไม่นอนกับเธอด้วยความต้องการที่หุนหันพลันแล่นเด็ดขาดพอวางสาย เขาเหลือบไปมองชั้นบน จากนั้นสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และเดินไปที่โรงรถอย่างรวดเร็วหน้าประตูวิลล่าเสิ่นซื่อเพิ่งจะเดินมาถึงรถ ก็เห็นซุนสิงยืนอยู่ที่หน้ารถ ด้วยสีหน้าแปลก ๆ เล็กน้อย"เกิดอะไรขึ้น?"ซุนสิงมีสีหน้าอยากจะพูดแล้วก็เงียบไป "ประธานเสิ่น คุณดูเองดีกว่าครับ..."เสิ่นซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย จึงเปิดประตูทันทีสิ่งที่เข้าม่านตาก็คือจี้อี่หนิงใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย มองเขาด้วยหน้าตาสั่นเทาพอเห็นฉากนี้โดยไม่รู้ตัว และคาดว่าเขาคงจะทำเรื่องอะไรให้เธอเสียหายถึงชีวิตได้"ปึ้ง!"เสิ่นซื่อสะบัดประตูรถทันที พร้อมเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า "เกิดอะไรขึ้น?""ผะ...ผมเองก็ไม่รู้ครับ เมื่อครู่คุณจี้เดินกะโผลกกะเผลกออกมาจากวิลล่า บอกว่าอยากให้คุณไปส่งเธอหน่อย...""จากนั้นนายก็ให้เธอขึ้นมาบนรถ?"ดวงตาของเสิ่นซื่อหงุดหงิดมาก วันนี้เขามาเตือนเสิ่นเยี่ยนจือ ก็คือชดเชยค่าเสียหายที่เกือบจะชนจี้อี่หนิงในคืนนั้นตั้งแต่วินาทีที่เขาเดินออกมาจากวิลล่า เขาก็ไม่อยากมีอะไรเกี่ยวข้องกับเธออีกเ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 18

    มือที่จี้อี่หนิงประคองประตูรถออกแรงโดยไม่รู้ตัว ปลายนิ้วก็ขาวซีดเล็กน้อยเธอกัดริมฝีปากล่างและหลบตาลง พร้อมกับเอ่ยเสียงเบาว่า "ค่ะ รบกวนอาเล็กแล้ว"วินาทีที่ปิดประตู รถไมบัคสีดําก็แล่นจากไปทันทีดูจากท่าทางของเสิ่นซื่อแล้ว เธอคงน่าจะโดนรังเกียจแล้วเดิมทีนิสัยของเสิ่นซื่อเป็นคนไม่แยแสอยู่แล้ว ทั้งสองพบหน้ากันสองสามครั้งดูไม่ค่อยมีความสุขเลย เขารังเกียจตัวเองก็เป็นเรื่องปกติจี้อี่หนิงหันหลังและเดินไปที่ชุมชนอย่างช้า ๆ จากนั้นก็หายไปในทางเดินของตึกอย่างรวดเร็วบนรถไมบัคสีดำหลังจากที่สังเกตเห็นอายเย็นที่แผ่กระจายรอบตัวของของเสิ่นซื่อ ซุนสิงก้มหน้าก้มตาไม่กล้าพูดตอนแรกเขานึกว่าเสิ่นซื่อจะเห็นแก่ที่จี้อี่หนิงเป็นหลานสะใภ้ของเขาและไว้หน้าของเธอบ้างแต่ว่าเมื่อครู่จี้อี่หนิงอยากจะถอดเสื้อคืนให้เขา เขากลับสั่งให้อีกฝ่ายโยนทิ้งไป นอกจากท่านแม่เฒ่าเสิ่นแล้ว เขาเย็นชากับผู้หญิงคนอื่นมากดูเหมือนว่า ต่อไปจะตัดสินใจเองไม่ได้แล้วเสิ่นซื่อปิดตานอนหลับ แต่ทว่าก็ยังได้กลิ่นหอมสดชื่นของดอกพุดซ้อนที่ส่งมาจากตัวเธอตอนที่จี้อี่หนิงยังนั่งอยู่บนรถด้วย ในใจกระสับกระส่ายพลุ่งพล่านโดยไม่รู้ตัว

Latest chapter

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 100

    "ต่อให้แกแฉออกไปตอนนี้ฉันก็ไม่มีเงิน อีกอย่างถ้าเรื่องนี้ถูกแฉออกไป แกก็ต้องติดคุกเหมือนกัน!"เสียงถกเถียงของทั้งสองคนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดจี้อี่หนิงก็รู้แล้วว่าคนที่ลักพาตัวตนเองคือพ่อของเจิ้งโหยวโหย่ว เจิ้งกั๋วอันแต่ตัวเธอเคยเขาแค่ครั้งเดียวเอง เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่ไหน? อีกทั้งยังแอบซุ่มอยู่ในบ้านเธออีก...เธอสามารถมั่นใจได้ว่า นี่ไม่ใช่วิธีที่แรงงานเกษตรคิดออกมาได้แน่ ๆ ต้องมีคนคอยบงการเขาอยู่เบื้องหลังแน่นอนและคนคนนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นหลิ่วอี๋หนิงผ่านไปสักพัก เสียงถกเถียงข้างนอกก็หยุดลง ตามมาด้วยเสียงสตาร์ทรถยนต์ และไม่นานบริเวณโดยรอบก็เหลือแต่ความเงียบจี้อี่หนิงหายใจช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว ไม่กล้าหอบหายใจเสียงดังทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่ากระเป๋าเดินทางขยับ จากนั้นก็เป็นเสียงล้อลากกับพื้นเมื่อสังเกตได้ว่าอีกฝ่ายกำลังลากตัวเธอไปที่ไหนก็ไม่รู้ ในใจจี้อี่หนิงก็ตื่นตระหนกทันที ครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าจะหนียังไงดีเธอค่อย ๆ รูดซิปบนหัวออก แต่ข้างนอกมืดสนิท มีแค่แสงสว่างเพียงเล็กน้อยคอยส่องทางจากไฟฉายกระบอกหนึ่งในมือของคนข้างหน้าที่ลากกระเป๋าเดินทางจี้อี่หนิงมองไม่ส

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 99

    มีคนแอบซุ่มรอทั้งในห้องนอนและหน้าประตู เห็นทีอีกฝ่ายคงวางแผนมาแล้วเธอลุกขึ้นมาวิ่งไปตรงไปยังห้องครัว แต่เพิ่งเริ่มวิ่งได้สองก้าวก็ถุกคนคว้าแขนเอาไว้ แล้วกระแทกเธอเข้ากับกำแพงอย่างแรง"แกเป็นใคร? ทำไมต้อง...อื้อ..."อีกฝ่ายใช้มือข้างหนึ่งกดจี้อี่หนิงไว้ มืออีกข้างก็ใช้ผ้าผืนหนึ่งอุดจมูกของจี้อี่หนิง ไม่ให้โอกาสจี้อี่หนิงได้พูดเลยสักนิดกลิ่นฉุนเตะจมูก ภาพตรงหน้าของจี้อี่หนิงก็ค่อย ๆ มัวลงช้า ๆผ่านไปไม่นาน ผู้ชายสวมผ้าปิดปากสองคนก็ลากกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งเดินออกไปจากบ้านของจี้อี่หนิงเนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว คนส่วนมาก็เลิกงานกลับบ้านกันหมด ในหมู่บ้านจึงไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตสองคนนี้ไม่นาน ทั้งสองคนก็มาถึงประตูหลังของหมู่บ้าน มีรถตู้ที่ไม่มีป้ายทะเบียนคันหนึ่งจอดอยู่ใต้ต้นไม้ทั้งสองคนเอากระเป๋าเดินทางใส่ไว้ในกระโปรงหลังรถ จากนั้นก็ขับรถมุ่งตรงออกไปยังนอกเมืองทันทีชิงหงกรุ๊ปห้องทำงานประธานซุนสิงถือเอกสารชุดหนึ่งรีบเดินเข้าไปอย่างรีบเร่ง "ประธานเสิ่นครับ เมื่อกี้บริษัทคู่ค้าส่งเอกสารชุดนี้กลับมา บอกว่าข้อมูลการทดลองเหมือนจะมีปัญหา แต่

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 98

    ทันใดนั้น ใบหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือก็ปรากฏเป็นรอยฝ่ามือขึ้นมาทันที แววตาของเขาที่มองจี้อี่หนิงก็กลายเปลี่ยนเป็นความเย็นชาอย่างสุดขั้ว“นี่คุณกล้าตบผมเหรอ?!”จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้นสบตากับแววตาโกรธเคืองของเขา แล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ทำไมฉันจะตบคุณไม่ได้? คนที่นอกใจคือคุณต่างหาก แต่คุณบังอาจวิ่งแจ้นไปใส่ร้ายฉันต่อหน้าพ่อของฉัน คุณไม่สมควรโดนตบรึไง?"ทันทีที่พูดจบ เสิ่นเยี่ยนจือก็บีบคางเธอและกดเธอไว้กับกำแพงทันที รังสีความโหดฉายออกมาในแววตา"อี่หนิง คุณไม่เชื่อฟังคำสั่งของผมก่อนเอง ถ้าคุณเชื่อฟังผมดี ๆ ผมก็ไม่มาหาพ่อตาหรอก"จี้อี่หนิงแค่นหัวเราะออกมา "ถ้าคุณกล้ามาหาพ่อของฉันอีก ฉันก็จะแฉเรื่องที่คุณนอกใจออกมาให้หมด""ถ้าคุณไม่กลัวว่าพ่อจะได้รับแรงกระตุ้นแล้วอาการแย่ลง คุณจะไปบอกตอนนี้เลยก็ได้"น้ำเสียงไม่แยแสของเสิ่นเยี่ยนจือทำให้ความโกรธของจี้อี่หนิงสุมขึ้นในอก มือที่วางข้างลำตัวก็กำแน่นโดยไม่รู้ตัว"เสิ่นเยี่ยนจือ ทำไมคุณกลายเป็นคนหน้าด้านไร้ยางอายได้ขนาดนี้?!"เสิ่นเยี่ยนจือก้มหน้ามองเธอ เมื่อเห็นความเกลียดชังและความโกรธในแววตาของเธอ ม่านตาของเขาก็หดตัวลงแล้วบีบคางเธอแน่นกว่าเดิ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 97

    ฝีเท้าของจี้อี่หนิงหยุดชะงักไป ขมวดคิ้วมองเสิ่นเยี่ยนจือที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยแววตาโกรธเคือง"คุณไปพูดอะไรกับพ่อฉัน?!"เสิ่นเยี่ยนจือยังไม่ทันปริปาก จี้เหว่ยหงก็พูดด้วยความเกรี้ยวกราด "เธอยังกล้าคาดคั้นเยี่ยนจืออีก?! เธอกับอาเล็กของเขาแอบกิ๊กกันเธอไม่รู้สึกผิดกับเขาเลยรึไง?"จี้อี่หนิงโมโหจนหน้าซีด แม้แต่ปลายนิ้วยังสั่นระริกเธอไม่คิดเลยว่าเสิ่นเยี่ยนจือจะหน้าไม่อายขนาดนี้ แว้งกัดต่อหน้าจี้เหว่ยหงก่อนซะงั้นสิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็ถึง จี้เหว่ยหงกลับเชื่อจริง ๆ"พ่อคะ ในสายตาพ่อหนุเป็นคนแบบนั้นเหรอ? พ่อไม่ถามหนูเลยด้วยซ้ำ แค่คำพูดของเสิ่นเยี่ยนจือฝ่ายเดียวก็คิดว่าหนุหักหลังเขาแล้ว?!"จี้อี่หนิงสูดหายใจลึก ตัดสินใจจะไม่ปิดบังเรื่องที่เสิ่นเยี่ยนจือนอกใจแอีกต่อไปแล้ว"พ่อรู้ไหมว่าเขาแอบ...""อี่หนิง เมื่อกี้พ่อเกือบจะเป็นลมเพราะเรื่องของเธอ หมอบอกว่าห้ามให้เขาถูกกระตุ้นแล้ว เธอต้องทำให้พ่อโมโหจนอกแตกตายก่อนถึงจะพอใจใช่ไหม?"เสียงของเสิ่นเยี่ยนจือดังมากจนกลบเสียงของจี้อี่หนิงไปหมดมือที่วางข้างลำตัวของจี้อี่หนิงกำแน่น ในใจเกลียดเสิ่นเยี่ยนจืออย่างสุดขีด"ในเมื่อคุณรู้ว่าพ่อของฉัน

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 96

    เสิ่นซื่อเงยหน้ามองเขา เอ่ยปากด้วยสีหน้าเย็นชา "รู้แล้ว"เมื่อเห็นสีหน้าของเขาเฉยเมย ซุนสิงก็รู้สึกว่าการที่ตัวเองตั้งใจบอกเขาเรื่องนี้โดยเฉพาะมันไม่จำเป็นเลยพร้อมทั้งเตือนเสิ่นซื่อว่ามีประชุมตอนสิบโมง ซุนสิงก็หมุนตัวออกไปช่วงเที่ยง จี้อี่หนิงถือบัตรอาหารไปที่โรงอาหารเพิ่งเดินเข้าไปก็ต้องอึ้งกับความหรูหราของโรงอาหารชิงหง นี่ไม่ใช่โรงอาหารแล้ว ไม่ต่างอะไรกับร้านอาหารติดดาวเลยสักนิดเมื่อกวาดตามองไปแล้วอาหารทุกช่องล้วนประณีตเป็นอย่างมาก แค่มองก็รู้สึกหิวแล้วอีกทั้งราคาอาหารยังถูกมากเทียบเท่ากับโรงอาหารในมหาวิทยาลัยเลยโรงอาหารมีสามชั้นถ้วน มีอาหารครอบคลุมทุกชนิดทั้งอาหารตะวันตก อาหารจีน อีกทั้งยังมีอาหารประจำชาติเฉพาะกลุ่มประเทศอื่น ๆ อีกจี้อี่หนิงยืนต่อแถวอยู่ที่ช่องอาหารไทย สั่งข้าวผัดสับปะรดหนึ่งจานและต้มยำกุ้งหนึ่งถ้วยแล้วหาที่นั่งมุมหนึ่งนั่งลงเมื่อชิมน้ำซุปไปหนึ่งคำ ความเซอร์ไพรส์ก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ นี่มันอร่อยเหมือนที่เธอเคยกินที่ร้านอาหารห้าดาวเลยก่อนหน้านี้บนโซเชียลมีคนพูดกันว่าเรื่องโรงอาหารของชิงหงเทียบเท่าระดับห้าดาว ตอนนั้นจี้อี่หนิงยังคิดว่ากล่าวเกินจร

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 95

    กลับถึงบ้าน จี้อี่หนิงก็ติดต่อซุนสิง สองซุนสิงให้เธอไปตามหาเขาที่ห้องทำงานประธานเช้าวันถัดไป ถึงเวลานั้นจะพาเธอไปแสกนลายนิ้วมือและทำบัตรผ่านประตูหลังจากวางสาย จี้อี่หนิงก็รู้สึกกังวลขึ้นอย่างบอกไม่ถูกเดิมทีเสิ่นเยี่ยนจือก็สงสัยว่าเสิ่นซื่อกำลังวางแผนคิดไม่ซื่อกับเธอ ตอนนี้ตนต้องไปทำงานที่ชิงหง หากเขารู้ ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องวุ่นอะไรขึ้นบ้างแต่สถานการณ์ตอนนี้ ทำได้เพียงเดินหนึ่งก้าวมองหนึ่งก้าวแล้ว รอให้เขารู้จริงๆก่อน ถึงวันนั้นค่อยว่ากันเช้าวันถัดมา จี้อี่หนิงตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็บึ่งรถไปชิงหงจอดรถใต้ตึกชิงหงแล้ว จี้อี่หนิงจึงไปบอกหน้าเคาน์เตอร์ว่ามาหาซุนสิง ทางเคาน์เตอร์ยืนยันตัวตนเธอได้แล้วจึงนำทางเธอไปหน้าลิฟต์"คุณจี้ ห้องทำงานท่านประานอยู่ชั้นบนสุดค่ะ"จี้อี่หนิงพยักหน้า “โอเคค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”หลังจากเข้าลิฟต์ จี้อี่หนิงจึงกดปุ่มชั้นลิฟต์ ประตูลิฟต์ปิดลงก่อนค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นข้างบนนี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาชิงหง ก่อนหน้านี้เคยได้มาว่าลิฟต์ของชิงหงวิวสวยมาก ตอนนี้ได้รู้แล้วว่าเป็นเรื่องจริงคล้อยหลังลิฟต์มุ่งขึ้นด้านบน ภาพทิวทัศน์ของเมืองทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ดูแล

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 94

    เจิ้งกั๋วอันในตอนนี้กำลังอยู่ที่โถงทางเดินโรงพยาบาลมองใบเสร็จด้วยความกังวล ตอบกลับด้วยเสียงจริงจัง “ภายในไม่กี่วันนี่ล่ะ”วันนี้เขาไม่เหลือเงินแม้แต่แดงเดียว ไม่พอเจิ้งโหยวโหย่วยังอยู่สถานีตำรวจ ทำได้เพียงต้องทำตามที่หลิ่วอี๋หนิงบอกเท่านั้นถึงจะมีโอกาสหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้“งั้นฉันจะรอข่างดีจากอาเจิ้งก็แล้วกัน”วางสายเสร็จ มุมปากหลิ่วอี๋หนิงหยักยิ้มหยันขอเพียงเจิ้งกั๋วอันลักพาตัวจี้อี่หนิงไป ถึงเวลานั้นเธอค่อยให้พวกมันทั้งสองตายด้วยกัน หลังจากนั้นตนก็สบายใจไร้กังวลแล้วในห้องปฏิบัติการ จี้อี่หนิงกำลังเตรียมทำการทดลองก่อนหน้านี้ต่อ ก็ได้ข่าวจากเจี่ยงหรู ให้เธอไปห้องทำงานเมื่อถึงห้องทำงาน เจี่ยงหรูยกยิ้มพลางให้เธอนั่งลง"อี่หนิง ลงพื้นที่ปฏิบัติการเมืองหรงกับประธานเสิ่นครั้งนี้รู้สึกยังไงบ้าง?"จี้อี่หนิงเม้มปาก “ก็พอได้ค่ะ พี่หรูมีเรียกฉันมามีเรื่องอะไรเหรอคะ?”“คือว่า ทางสำนักงานใหญ่ให้ความสำคัญกับโครงการที่เธอกำลังพัฒนามาก ประกอบกับโครงการนี้ได้รับการลงทุนจากประธานเสิ่น เพื่อเลี่ยงไม่ให้ต้องคอยวิ่งไปมาติดตามความคืบหน้าของโครงการ ทางสำนักงานใหญ่จึงตั้งใจส่งเธอไปทำงาน

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 93

    พอเห็นจี้อี่หนิงตัวสั่นเบาๆ สายตาเสิ่นเยี่ยนจือพลันฉายแววพอใจจี้อี่หนิงกัดริมฝีปากล่างแน่น ก่อนตอบเสียงเย็นชา "ฉันจะไปเข้างานแล้ว ตอนนี้คุณคงไปได้แล้วใช่ไหม?"เมื่อเห็นท่าทีหัวรั้นไม่สนฟังคำใครของเธอแล้ว สายตาเสิ่นเยี่ยนจือพลันฉายแววคร่ำเคร่งแต่เมื่อนึกขึ้นได้เขาก็ไม่อยากบังคับรีบเร่งอีกฝ่าย ไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองต้องตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน"ผมจะไปส่งคุณ""ไม่ต้องค่ะ"พูดจบ เธอจึงผลักเสิ่นเยี่ยนจือออกประตู ก่อนปิดแล้วจากไปทันทีหลังจากมาถึงบริษัท ก็พบว่าเพื่อร่วมงานในบริษัทต่างแอบมองเธอ สีหน้าจี้อี่หนิงราบเรียบไร้อารมณ์ คาดว่ามุกคนคงเห็นภาพนั้นในอินเทอร์เน็ตหมดแล้วสางของไว้บนโต๊ะทำงานเสร็จ ขณะจี้อี่หนิงกำลังเตรียมตัวไปห้องปฏิบัติการ เซี่ยงอวี่ที่อยู่ข้างๆปรี่เข้ามาฉับพลัน พูดเสียงเบา “อี่หนิง เรื่องภาพในอินเทอร์เน็ตนั้น......เป็นความจริงเหรอ? ประธานเสิ่นชอบเธอจริงๆเหรอ?”ชั่วเวลานั้นผู้คนรอบๆพลันหูผึ่งขึ้นมายังไงซะเรื่องก่อนหน้านี้ที่จี้อี่หนิงทำอุปกรณ์การทดลองระเบิด แล้วเสิ่นซื่อเสี่ยงอันตรายไปช่วยตนนั้นทุกคนก็รู้ดีประกอบกับภาพเมื่อคืนที่ดูมีบรร

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 92

    “ฉันควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาเตือน”คล้อยหลังเสิ่นซื่อพูดจบ ทั่วทั้งห้องทำงานก็ตกสู่ความเงียบงันลุงหลานทั้งสองจดจ้องกันไปมาด้วยท่าทีเย็นยะเยือก ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมถอยซุนสิงที่อยู่ข้างๆเห็นสถานการณ์ท่าไม่ดี จึงรีบเร่งเดินเข้าไป “ประธานเสิ่นเล็ก พอรู้เรื่องรูปภาพในอินเทอร์เน็ตวันนี้แล้ว ประธานเสิ่นก็กำลังจัดการ ไม่อย่างนั้นคุณกลับไปก่อนดีกว่าครับ”เสิ่นเยี่ยนจือหันมองซุนสิง เอ่ยเสียงเยือกเย็น “เลขาซุน คุณอยู่กับอาเล็กมากี่ปีแล้ว หวังว่าคุณจะมีเวลาโน้มน้าวเขา ให้เขาอย่า......”"เสิ่นเยี่ยนจือ!"เสิ่นซื่อตะโกนลั่นตัดบทเขา ความโกรธเกรี้ยวสุดขีดปะทุขึ้นในดวงตา "หากยังพูดจาไร้สาระอีกแค่ประโยคเดียว ก็อย่าคิดว่าจะได้นั่งตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของเสิ่นซื่อกรุ๊ปอย่างมั่นคงอีกเลย"เสิ่นเยี่ยนจือกำหมัดข้างตัวแน่น ความหงุดหงิดอัดแน่นเต็มทรวงถึงขีดสุด แต่ก็ไม่กล้าฉีกหน้าเสิ่นซื่อจริงๆ เพราะเขารู้ดีว่าความสามารถนี้ที่เสิ่นซื่อมีอยู่ สามารถดึงเขาลงจากตำแหน่งได้จริงๆเขามองไปทางเสิ่นซื่อ ก่อนจะเอ่ยเน้นทีละคำชัดเจน "หวังว่าอาเล็กจะทำตัวให้ดีก็แล้วกัน!"พูดจบ เขาก็หันกายเดินออกไ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status