Share

บทที่ 5

Author: แสงอรุณฤดูใบไม้ผลิ
เมื่อเห็นความเย็นชาในดวงตาของเขา จี้อี่หนิงก็รู้สึกว่าเมื่อก่อนตัวเองนั้นตาบอดจริง ๆ ทำไมถึงได้หลงรักคนแบบนี้

ดวงตาทั้งสองข้างร้อนผ่าว แต่เธอไม่อยากแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเขาแม้แต่น้อย

เธอสะบัดมือเขาออกอย่างแรงจี้อี่หนิงสูดหายใจเข้าลึก หันหลังเดินขึ้นบันได

ตอนนี้ในใจเธอของมีความคิดเดียว คือต้องรีบหางานทำให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ย้ายออกไป และหาทางหย่ากับเสิ่นเยี่ยนจือ

เธอสุ่มหยิบชุดมาเปลี่ยน เสียบปิ่นมวยผมแบบลวก ๆ จี้อี่หนิงก็ลงบันไดมา

เธอเป็นคนสบาย ๆ ไม่ค่อยสนใจเรื่องการแต่งตัว

แต่ก่อนเพื่อให้ตระกูลเสิ่นประทับใจ ตอนไปงานเลี้ยงตระกูลเสิ่นทีไร ก็จะแต่งตัวอย่างดีทุกครั้ง

ตอนนี้ เธอขี้เกียจจะเอาอกเอาใจพวกเขาอีกต่อไปแล้ว

ได้ยินเสียงฝีเท้า เสิ่นเยี่ยนจือก็เงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว

จี้อี่หนิงสวมชุดกี่เพ้าสีขาวแบบทันสมัย เอวบางราวกับต้นหลิว ดูเหมือนจะกำรอบได้ด้วยมือเดียว ผมยาวสีดำมวยด้วยปิ่นหยก เผยให้เห็นลำคอขาวเรียวบาง งดงามจนไม่อาจละสายตา

บรรยากาศอ่อนหวานสงบรอบตัวเธอ ไม่ต่างจากตอนที่พวกเขาเจอกันครั้งแรกเลย

เพียงแต่ สายตาที่เธอมองเขากลับเย็นชาที่สุด ไม่มีความอบอุ่นเหมือนแต่ก่อนเลย

"ไปกันเถอะ"

ระหว่างทางไปตระกูลเสิ่น ทั้งสองต่างเงียบกันตลอดทาง

เมื่อถึงหน้าประตูบ้านตระกูลเสิ่น ทั้งสองกำลังจะลงจากรถ รถแรนจ์โรเวอร์สีดำคันหนึ่งก็พุ่งเข้ามา แล้วเบรกกะทันหัน จอดตรงหน้ารถของเสิ่นเยี่ยนจือพอดี

เมื่อจำได้ว่าเป็นรถของเสิ่นซื่อ สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือก็เปลี่ยนไป

สำหรับอาเล็กคนนี้ เสิ่นเยี่ยนจือทั้งกลัวทั้งไม่ชอบ ไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ด้วยเลย

เพราะเสิ่นซื่อทำอะไรก็เหมือนชื่อของเขา ตามอำเภอใจ เสิ่นเยี่ยนจือรับไม่ได้

ตอนนั้นท่านผู้เฒ่าเสิ่นเตรียมจะให้เขาสืบทอดกิจการเสิ่นซื่อกรุ๊ป แต่เขากลับปฏิเสธแล้วไปสร้างธุรกิจเอง

ทีแรกทุกคนคิดว่าเขาจะล้มเหลว แล้วต้องกลับมารับสืบทอดเสิ่นซื่อกรุ๊ปอย่างหมดท่า แต่ไม่คิดว่าเขาจะประสบความสำเร็จ แถมยังใช้เวลาไม่ถึงห้าปี กิจการก็ขยายได้อย่างใหญ่โตมาก ตอนนี้คงเทียบเท่าเสิ่นซื่อกรุ๊ปได้ห้าถึงหกบริษัทเลย

ต้องยอมรับว่า ที่เสิ่นเยี่ยนจือไม่ชอบเสิ่นซื่อ ก็เพราะมีความอิจฉาริษยาและไม่ยอมรับอยู่บ้าง

แถมเสิ่นซื่อยังขี้เหนียวและเจ้าคิดเจ้าคิดเจ้าแค้น เสิ่นเยี่ยนจือเคยพูดไม่ดีกับเขาไปประโยคหนึ่ง ไม่รู้ใครไปฟ้องเขา หลังจากนั้นเขาก็ปฏิเสธร่วมงานกับเสิ่นซื่อกรุ๊ป ทำให้เสิ่นซื่อกรุ๊ปขาดทุนไปหลายพันล้าน

เสิ่นซื่อแทบไม่เคยมาร่วมงานเลี้ยงครอบครัว เสิ่นเยี่ยนจือคิดว่าครั้งนี้คงไม่เจอเขา ไม่คิดว่าจะโชคร้าย เพิ่งมาถึงหน้าประตูก็เจอกันเสียแล้ว

เพราะอารมณ์ไม่ดี เขาจึงไม่ทันสังเกตว่าจี้อี่หนิงที่อยู่ข้าง ๆ มีสีหน้าเกร็งขึ้นงทันทีที่เห็นเสิ่นซื่อลงจากรถ

เขาเปิดประตูรถแล้วร้องเรียก "อาเล็ก"

เสิ่นซื่อหันมามองเขาแวบหนึ่ง สายตาเหม่อลอยกวาดผ่านที่นั่งข้างคนขับ พยักหน้าอย่างเย็นชาแล้วเดินเข้าบ้านเดิมไป

เมื่อเห็นเขาจากไป จี้อี่หนิงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ตอนที่เสิ่นซื่อมองมา เธอตื่นเต้นจนลืมหายใจ กลัวว่าเขาจะพูดอะไรสะเทือนโลกออกมา

เพราะเสิ่นซื่อมักชอบทำอะไรตามอำเภอใจ ดูอารมณ์ตัวเองอย่างเดียว ถ้าอารมณ์ไม่ดี แม้แต่หมาที่เดินผ่านมาก็โดนเตะ

โชคดีที่เขาไม่ได้พูดอะไร

จี้อี่หนิงครุ่นคิด เดี๋ยวคงต้องหาโอกาสคุยกับเขาตามลำพังสักหน่อย

ตอนที่ทั้งสองเดินเข้าห้องรับแขก ข้างในมีคนมาเยอะแล้ว ขณะนั้นท่านผู้เฒ่าเสิ่นกับท่านแม่เฒ่าเสิ่นกำลังคุยกับเสิ่นซื่ออยู่

บางคนเกิดมาเป็นตัวเอก แค่มองเข้าไปก็เห็นเขาในฝูงชน เสิ่นซื่อเป็นคนแบบนั้น

เมื่อสังเกตเห็นว่าจี้อี่หนิงจ้องมองไปที่เสิ่นซื่อ สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือก็ไม่ค่อยดีนัก

"คุณจ้องอาเล็กทำไม?"

จี้อี่หนิงละสายตากลับมา พูดเรียบๆ ว่า "เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?"

เมื่อรับรู้ถึงความเย็นชาของเธอ เสิ่นเยี่ยนจือก็พูดเสียงเข้ม "อี่หนิง คุณรู้นี่ว่าผมไม่ชอบให้คุณสนใจผู้ชายคนอื่น!"

ตั้งแต่คบกัน เสิ่นเยี่ยนจือก็ควบคุมเธอมาก ไม่ให้จี้อี่หนิงคบหากับผู้ชายคนอื่นเลย

แต่ก่อนจี้อี่หนิงคิดว่านี่เป็นการแสดงความรักของเขา ไม่ได้รังเกียจ กลับรู้สึกหวานซึ้ง

ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้ว รู้สึกแค่ว่าน่าขัน

เธอหัวเราะเยาะ "ฉันก็ไม่ชอบให้คุณไปนอนกับผู้หญิงอื่นเหมือนกัน แต่คุณก็นอนอย่างสนุกไม่ใช่เหรอ?"

เสิ่นเยี่ยนจือกัดฟัน "วันนี้เป็นงานเลี้ยงครอบครัว เรื่องนี้เรากลับไปคุยกันที่บ้าน"

จี้อี่หนิงมองเขาอย่างดูถูก "ไม่อยากให้ฉันพูดถึง ก็อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน"

ที่เขาไม่อยากทะเลาะกันตอนนี้ ก็แค่กลัวจะกระทบเสิ่นซื่อกรุ๊ป กลัวว่าท่านผู้เฒ่าเสิ่นจะไม่พอใจเขาก็เท่านั้น

ถึงแม้ตอนนี้เขาจะบริหารเสิ่นซื่อกรุ๊ป แต่หุ้นของตระกูลเสิ่นก็ยังอยู่ในมือท่านผู้เฒ่าเสิ่นทั้งหมด ไม่ได้ให้เขาสักหุ้น

ขณะที่ทั้งสองคุยกัน ท่านแม่เฒ่าเสิ่นก็เห็นพวกเขา ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า "อี่หนิง เยี่ยนจือ พวกเธอกลับมาแล้วเหรอ เข้ามานั่งสิ!"

จี้อี่หนิงสูดหายใจลึก เมื่อหันหน้าไปก็มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า

ถึงแม้เธอจะไม่ค่อยชอบคบหากับคนในตระกูลเสิ่น แต่มารยาทพื้นฐานต่อผู้ใหญ่ก็ยังต้องมี

เธอเดินไปหน้าท่านแม่เฒ่าเสิ่น พูดด้วยรอยยิ้มว่า "สวัสดีค่ะคุณปู่คุณย่า"

ท่านแม่เฒ่าเสิ่นกำลังเกลี้ยกล่อมให้เสิ่นซื่อตั้งหลักปักฐานแต่งงานมีชีวิตที่ดี เมื่อเห็นเสิ่นเยี่ยนจือกับจี้อี่หนิงมาด้วยกันก็ยิ้มออก

"มานั่งเร็วเข้า"

เมื่อหันไปมองเสิ่นซื่อ ในดวงตาก็มีแววไม่พอใจ

"ดูเยี่ยนจือสิ บริหารบริษัทได้ดี ภรรยาก็สวย อีกปีสองปีก็อาจมีลูกแล้ว แล้วแกล่ะ? อายุจะสามสิบแล้วยังโสดอยู่ คราวหน้าถ้าไม่พาแฟนมาด้วย ก็ไม่ต้องกลับมาอีก!"

เสิ่นซื่อได้ยินแล้วก็กวาดตามองทั้งสองคน พูดยิ้มๆ ว่า "ก็สวยจริง ๆ นั่นแหละ"

แต่ร่างกายเล็กแบบนั้น คลอดลูกจะเจ็บขนาดไหนนะ?

จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว รู้สึกว่าตอนเสิ่นซื่อพูด สายตาที่มองเธอดูกรุ้มกริ่มไม่เหมาะสม

เสิ่นเยี่ยนจือที่นั่งข้าง ๆ ก็สังเกตเห็นว่าสายตาที่เสิ่นซื่อมองจี้อี่หนิงดูแปลก ๆ

เป็นผู้ชายเหมือนกัน เขารู้ดีว่าสายตาที่เสิ่นซื่อมองจี้อี่หนิงไม่ใช่สายตาของผู้ใหญ่มองเด็ก แต่กลับเหมือน...ผู้ชายมองผู้หญิง...

มือที่ห้อยข้างตัวกำแน่นทันที ร่างกายก็เกร็งโดยไม่รู้ตัว

ท่านแม่เฒ่าเสิ่นขมวดคิ้ว "ฉันพูดถึงเรื่องนี้เหรอ? วันนี้แกต้องให้คำตอบชัดเจนกับฉัน ว่าจะพาลูกสะใภ้ของฉันกลับมาเมื่อไหร่!"

"ก็ดูตามสถานการณ์นั่นแหละ ถ้าเจอคนที่อยากแต่งงานด้วย ผมอาจพากลับมาพรุ่งนี้เลยก็ได้"

"ตาของแกมันงอกอยู่บนหัว ถ้าเจอคงจะแปลกแล้ว ฉันจัดงานดูตัวให้แล้ว พรุ่งนี้แกแต่งตัวดี ๆ หน่อย อย่าเอาท่าทีเหลวไหลของแกออกมาโชว์เชียวล่ะ..."

"งั้นพรุ่งนี้ผมคงทำให้คุณแม่ต้องขัดใจกับเพื่อนเก่าอีกคนแล้วล่ะ"

ท่านแม่เฒ่าเสิ่นปวดหัว "แกต้องให้ฉันโมโหตายจริง ๆ ถึงจะพอใจใช่ไหม!"

เสิ่นซื่อเลิกคิ้วมองเสิ่นเยี่ยนจือ "หลานชายแต่งงานมาหลายปีแล้ว แทนที่จะเร่งให้ผมแต่งงาน เร่งให้เขามีลูกเร็วๆ น่าจะได้ผลมากกว่านะ"

ท่านแม่เฒ่าเสิ่นเห็นด้วย ไม่ว่าจะเร่งยังไง เสิ่นซื่อก็คงไม่ฟัง ไอ้เด็กเกเรนี่มีความคิดเป็นของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก

เธอมองไปที่เสิ่นเยี่ยนจือกับจี้อี่หนิงด้วยสีหน้าอ่อนโยน

"อี่หนิง พวกเธอแต่งงานมาหลายปีแล้ว คิดจะมีลูกเมื่อไหร่ล่ะ?"
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 6

    จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้น กำลังจะพูด เสิ่นเยี่ยนจือก็จับมือเธอไว้ พูดยิ้ม ๆ ว่า "คุณย่าครับ พวกเรากำลังเตรียมตัวอยู่ครับ!"เธออยากสะบัดมือเขาออก แต่เสิ่นเยี่ยนจือจับมือเธอไว้แน่นมาก ไม่ให้โอกาสเธอได้ขยับเลยในเมื่อเขาไม่ยอมให้เธอสบายใจ ก็อย่าโทษที่เธอจะทำให้เขาไม่สบายใจบ้างเธอมองไปที่คุท่านแม่เฒ่าเสิ่น "คุณย่าคะ หนูกำลังหางานทำอยู่ค่ะ เรื่องมีลูกคงต้องเลื่อนออกไปก่อนค่ะ"พูดจบ ห้องรับแขกก็ตกอยู่ในความเงียบเสิ่นเยี่ยนจือบีบมือเธอแน่นขึ้น สีหน้าก็ดูมืดครึ้มขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกเจ็บที่ข้อมือ จี้อี่หนิงก็ขมวดคิ้วแน่นเสิ่นซื่อมองไปที่มือของเสิ่นเยี่ยนจือที่บีบจี้อี่หนิงแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนอยู่หนึ่งวินาที ก่อนจะเบือนสายตาไปอย่างเฉยเมยน้าสาวของเสิ่นเยี่ยนจือ เสิ่นซูหว่านหัวเราะเยาะ "อี่หนิง อย่าว่าน้าพูดมากเลยนะ เธอแต่งงานกับเยี่ยนจือมาก็หลายปีแล้ว ถ้ายังไม่มีลูกสักคนมันจะดูยังไงอยู่นะ?""แล้วถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยนจือยืนกรานจะแต่งงานกับเธอ เธอคิดว่าแค่ครอบครัวของเธอจะแต่งเข้าตระกูลเสิ่นได้เหรอ?""อย่าไม่รู้จักบุญคุณกันหน่อยเลย เธอไม่อยากมีลูกให้เยี่ยนจือ ข้างนอกมีผู้หญิงตั้งเยอะที่

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 7

    เสิ่นเยี่ยนจือตัวแข็งทื่อทันที สีหน้าเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดในชั่วพริบตามือที่บีบคางของจี้อี่หนิงกระชับแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผ่านไปหลายวินาทีกว่าจะปล่อยเธอแล้วหันไปมองเสิ่นซื่อเมื่อสบตากับเสิ่นซื่อที่มองมาด้วยสายตากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม เสิ่นเยี่ยนจือก็ฝืนยิ้มออกมา"ไม่เป็นไรครับ อาเล็กมีธุระอะไรเหรอครับ?"เสิ่นซื่อยิ้มมุมปาก "ย่าของนายให้ฉันมาเรียกพวกนายไปกินข้าว""ครับ รบกวนอาเล็กแล้ว""ไม่รบกวนหรอก แต่ที่นี่ถึงยังไงก็คือบ้านเดิม หลานชายควรระวังหน่อยนะ"ขณะพูด สายตาเขาก็เหลือบมองคางของจี้อี่หนิงที่ถูกบีบจนแดง ดวงตาเต็มไปด้วยแววล้อเลียนเมื่อสังเกตเห็นสายตาของเขาที่มองมาที่จี้อี่หนิง เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วแล้วก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเพื่อบังเธอไว้"อาเล็ก ผมเข้าใจแล้วครับ"ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของเขาไม่ค่อยดีนัก มองเสิ่นซื่อด้วยสายตาไม่พอใจ แม้แต่มีท่าทีระแวงอยู่ลึก ๆเสิ่นซื่อหัวเราะเบา ๆ แล้วละสายตาไปอย่างไม่ใส่ใจ"เอาล่ะ ไปกินข้าวกันเถอะ"หลังจากเสิ่นซื่อจากไป เสิ่นเยี่ยนจือหันมาจะจับมือจี้อี่หนิง แต่เธอกลับหลบมือเขาแล้วเดินผ่านเขาไปเลยเสิ่นเยี่ยนจือรีบไล่ตามเธอแล้วคว้ามือ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 8

    เสิ่นเยี่ยนจือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทันที จ้องมองข้อความนั้นอย่างเคร่งเครียด ดวงตาดำมืดไปด้วยความโกรธทุกครั้งที่เขามีอะไรกับฉินจืออี้ เขาก็ใช้วิธีป้องกันเสมอ ดังนั้นไม่ก็เธอกำลังโกหกเขา ก็คือเธอแอบทำอะไรกับถุงยางอนามัยไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน ก็ล้วนแตะต้องขีดจำกัดของเสิ่นเยี่ยนจือทั้งสิ้นเขาโทรหาฉินจืออี้ทันที "ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?"เมื่อได้ยินน้ำเสียงเย็นชาและโกรธเกรี้ยวของเขา หัวใจของฉินจืออี้ก็พลันรู้สึกปวดร้าว"บอส ฉันท้องแล้ว คุณไม่ดีใจเลยเหรอคะ?"เสิ่นเยี่ยนจือหัวเราะอย่างเย็นชา "เธอแน่ใจเหรอว่าท้อง แล้วก็เป็นลูกของฉันน่ะ?""บอสคะ ฉันมีแค่คุณคนเดียว ลูกในท้องฉันจะเป็นของคุณหรือเปล่า คุณจะไม่รู้เหรอคะ?"น้ำเสียงของเธอเจือด้วยการต่อว่าและความน้อยใจ แต่เสิ่นเยี่ยนจือกลับรู้สึกเพียงรำคาญ"งั้นก็ทำแท้งซะ"นอกจากจี้อี่หนิง เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนไหนมามีลูกให้เขาอีกยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้หญิงอย่างฉินจืออี้ที่เข้าหาเขาเองแบบนี้ เขาก็แค่เล่น ๆ เท่านั้น ไม่เคยจริงเอาจังด้วยเลย"ไม่ค่ะ นี่เป็นลูกของฉันกับคุณ ฉันจะคลอดเขาออกมา"เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความรำคาญ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 9

    เสียงร้องไห้ของฉินจืออี้หยุดชะงักทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความน้อยใจ "บอสคะ ฉันจริงใจกับคุณนะคะ"นึกถึงการวางแผนของผู้หญิงคนนี้ที่มีต่อตน ความรู้สึกรังเกียจก็พลุ่งพล่านในใจของเสิ่นเยี่ยนจือ"ความจริงใจของเธอมีค่าเท่าไหร่กัน?"เขาหยิบบัตรเครดิตใบหนึ่งโยนลงบนโต๊ะ มองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ในนี้มีเงินอยู่สองล้าน เอาเงินไปทำแท้งที่โรงพยาบาลเอง หรือจะให้ฉันสั่งบอดี้การ์ดมัดเธอไปโรงพยาบาล เธอน่าจะรู้ว่าควรจะเลือกยังไงนะ"ฉินจืออี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มือสั่นเทาหยิบบัตรเครดิต แล้วเอามือปิดหน้าวิ่งออกจากร้านอาหารไปเมื่อโทรศัพท์สั่งให้บอดี้การ์ดคอยจับตาดูฉินจืออี้ไปโรงพยาบาล เสิ่นเยี่ยนจือจึงได้วางสายอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นรูปจี้อี่หนิงที่เป็นภาพพื้นหลังหน้าจอ สีหน้าของเขาก็อ่อนโยนลงเล็กน้อยโดยไม่ลังเลเลย เขากดโทรหาเธอทันทีเสียงรอสายดังอยู่นานกว่าอีกฝ่ายจะรับสาย "มีเรื่องอะไร?"น้ำเสียงเย็นชาของเธอ เหมือนสาดน้ำเย็นลงบนหัว หัวใจของเสิ่นเยี่ยนจือที่เดิมอุ่นขึ้นเล็กน้อยเพราะคิดถึงเธอ พลันเย็นชาลงในทันทีมือที่จับโทรศัพท์บีบแน่นโดยไม่รู้ตัว พยายามควบคุมไม่ให้เธอรู้ว่าตัวเองผิดหวัง"ไม่มีอะไ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 10

    เสิ่นเยี่ยนจือตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผลอพูดออกมาว่า "แต่ทุกครั้งที่คุณไปร้านดอกไม้ คุณก็ซื้อแต่ดอกนี้นี่นา"จี้อี่หนิงหลบตา เขาคงลืมไปแล้วว่าวันที่เขาสารภาพรักกับเธอ ก็ให้ดอกกุหลาบนี่แหละทว่ามันไม่สำคัญอะไรแล้ว แม้แต่ความรู้สึกของพวกเขาเขายังทรยศได้ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ที่เขาไม่ใส่ใจก็เป็นเรื่องปกติ"นั่นมันเมื่อก่อน"จี้อี่หนิงเดินผ่านเขาเข้าห้องนอนไป เธอรู้สึกได้ว่าสายตาของเสิ่นเยี่ยนจือจับจ้องอยู่ที่เธอตลอด แต่เธอไม่สนใจแล้วว่าเขาจะรู้สึกเสียใจหรือทุกข์ใจกับคำพูดของเธอหรือเปล่าหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ลงมาชั้นล่าง แม่บ้านได้นำอาหารเย็นมาวางบนโต๊ะแล้ว"นายน้อย นายหญิงน้อย อาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ"จี้อี่หนิงพยักหน้า เดินตรงไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ไม่แม้แต่จะมองเสิ่นเยี่ยนจือเสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไร เดินมานั่งตรงข้ามเธออย่างเงียบ ๆป้าหวังสังเกตเห็นบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนไม่ค่อยดี เดาว่าคงทะเลาะกันมาเธออุ้มดอกไม้บนโต๊ะในห้องรับแขกขึ้นมา ยิ้มมองจี้อี่หนิงแล้วพูดว่า "นายหญิงน้อยคะ ดอกไม้นี้ให้จัดแจกันส่งไปไว้ในห้องคุณเหมือนเดิมนะคะ?""ไม่ต้อง โยน

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 11

    น้ำเสียงสั่งการของเขา ทำให้จี้อี่หนิงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว"ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ ฉันก็จะย้ายออกไป"น้ำเสียงเฉยเมยของจี้อี่หนิงทำให้ความโกรธของเสิ่นเยี่ยนจือทวีความรุนแรงขึ้น เสียงของเขาก็ยิ่งดังขึ้นมาก "คุณอย่าลืมนะ ค่ายารักษาพ่อของคุณ…"ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกจี้อี่หนิงขัดขึ้นอย่างเย็นชา"เสิ่นเยี่ยนจือ ถ้าฉันจำไม่ผิด ลูกชายของลุงสองคุณกำลังจะกลับมาจากการเรียนต่อเร็ว ๆ นี้แล้ว คุณก็คงไม่อยากให้เรื่องที่คุณนอกใจถูกคนที่บ้านเดิมรู้ในตอนนี้หรอกใช่ไหม?"เพราะลุงสองของเขาไม่ได้เรื่อง ดังนั้นท่านผู้เฒ่าเสิ่นจึงทุ่มเทความพยายามอย่างมากกับลูกพี่ลูกน้องของเขาเพราะยังไงซะ เสิ่นซื่อกรุ๊ปก็ใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีทางจะให้เสิ่นเยี่ยนจือทั้งหมดได้หรอกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เสิ่นเยี่ยนจือทำตัวดีต่อหน้าท่านผู้เฒ่าเสิ่นมาโดยตลอด ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ จะให้เธอไปพูดเรื่องที่เขานอกใจออกมาได้ในช่วงเวลานี้ไม่ได้จี้อี่หนิงเลือกที่จะย้ายออกไปในเวลานี้ ก็เพราะคำนึงถึงเรื่องนี้เช่นกันที่ปลายสายเงียบไปนาน ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ตามมา"อี่หนิง ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะเป็นกระต่ายที่กัดค

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 12

    วันจันทร์เวลาแปดโมงเช้า จี้อี่หนิงมาถึงเฉิงหยวนตรงเวลาฝ่ายบุคคลทำเรื่องเข้าทำงานให้เธอเสร็จแล้วพาเธอเดินชมรอบบริษัท ให้เธอคุ้นเคยกับตำแหน่งของแต่ละแผนก จากนั้นพาเธอไปที่ห้องทำงานผู้จัดการแผนกวิจัยและพัฒนาของตัวเองแล้วก็จากไปผู้จัดการแผนกวิจัยและพัฒนาชื่อ เจี่ยงหรู เป็นผู้หญิงวัยสี่สิบปีต้น ๆ มีผมสั้นเรียบร้อย ไม่ค่อยยิ้มแย้ม ดูเคร่งขรึมเล็กน้อย"นั่งสิ"หลังจากที่จี้อี่หนิงนั่งลงแล้ว เจี่ยงหรูกล่าวด้วยท่าทางเรียบเฉยว่า "ฉันดูประวัติของเธอแล้ว เธอทำผลงานได้ดีในช่วงที่อยู่มหาวิทยาลัย แต่หลายปีมานี้ไม่ได้เข้าห้องปฏิบัติการอีก เธอเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยก่อนแล้วกัน""ค่ะ"เห็นเธอมีท่าทีสงบ ไม่มีท่าทีไม่พอใจเลยสักนิด เจี่ยงหรูก็รู้สึกพอใจอยู่ในใจเธอชอบลูกน้องที่ทำงานอย่างตั้งใจและจริงจัง ตอนนี้ดูเหมือนว่าจี้อี่หนิงจะเป็นคนที่มีความตั้งใจดีเธอลุกขึ้นยืนและมองไปที่จี้อี่หนิง "ฉันจะพาเธอไปพบปะเพื่อนร่วมงาน"เจี่ยงหรูพาจี้อี่หนิงเข้าไปในแผนกวิจัยและพัฒนา แล้วพูดเสียงดังว่า "ทุกคนหยุดงานสักครู่ วันนี้แผนกของเรามีสมาชิกใหม่ อี่หนิง แนะนำตัวหน่อยสิ"จี้อี่หนิงก้าวไปข้างหน้า ยิ้มเล็กน้อ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 13

    เจี่ยงหรูหันไปมองจี้อี่หนิง "หลายวันมานี้เธอได้ความรู้อะไรจากห้องปฏิบัติการไปบ้าง?""ฉันเคยสังเกตค่ะ ตอนนี้สิ่งที่ห้องปฏิบัติการกําลังทําคือการวิจัยพัฒนายารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ปัจจุบันการวิจัยและพัฒนายาคืบหน้าประมาณ 50% และกําลังเตรียมที่จะใช้หนูทดลองเป็นขั้นตอนการทดลอง"สีหน้าของเจี่ยงหรูที่ได้ยินดังนั้นก็ดีขึ้นมาหน่อย พร้อมกับแววตาที่หันไปมองจี้อี่หนิงก็แฝงไปด้วยความชื่นชม"ดีมาก สำหรับการใช้เครื่องมือทดลอง เธอได้เรียนรู้เป็นยังไงบ้าง?""ก็ศึกษาจนพอได้หมดแล้วค่ะ"หลิ่วอี๋หนิงที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้วหันไปมองจี้อี่หนิง "อี่หนิง ฉันรู้ว่าเธอต้องการที่จะทำการทดลองด้วยตัวเองโดยเร็วที่สุด แต่เธอต้องรู้ว่าการทดลองเป็นสิ่งที่เข้มงวดมาก อีกทั้งมีเครื่องมือหลายชนิดที่ช่วงนี้เรายังไม่เคยใช้ ทำไมเธอถึงพูดว่าเธอศึกษาจนพอได้หมดแล้วล่ะ?"สีหน้าของจี้อี่หนิงนั้นสงบนิ่ง "เครื่องมือพวกนี้สมัยเรียนมหาวิทยาลัยฉันเคยใช้หมดแล้ว""เธอเองก็บอกว่าเรียนในมหาวิทยาลัย เธอไม่ได้เข้าห้องปฏิบัติการมาหลายปีแล้ว ต้องเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น สิ่งที่เราทําคือการพัฒนายา จะประมาทไม่ได้แม้แต่น้อยเลยนะ

Latest chapter

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 260

    "อื้อ..."จี้อี่หนิงเบิกตากว้าง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตกตะลึงเขาบ้าไปแล้วหรือไง?!ครั้งก่อนเขาบังคับจูบเธอในห้องส่วนตัว ตอนนี้กลับกล้าทำแบบนี้ในที่สาธารณะ...ถ้ามีใครมาเห็นเข้า ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างเธอยกมือดันอกเขาหวังจะผลักเขาออกไป แต่ร่างของเขาแข็งแกร่งราวกับกำแพงเหล็ก ต่อให้เธอพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถขยับเขาได้เลยแม้แต่นิดเดียว“อาเล็ก... อื้อ... ปล่อย... ปล่อยฉัน...”เสิ่นซื่อแนบตัวแน่นกับเธอ ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยความโกรธเธอวางแผนให้เสิ่นซื่อเยี่ยนลักพาตัวเธอโดยไม่บอกเขายังพอว่า นี่ยังคิดจะตัดสัมพันธ์กับเขาอีกงั้นเหรอ?ฝันไปเถอะ!เห็นว่าเสิ่นซื่อไม่มีท่าทีจะปล่อยเธอ จี้อี่หนิงก็โกรธเช่นกัน เธอจึงกัดริมฝีปากของเขาเสิ่นซื่ออย่างแรงเสิ่นซื่อเจ็บจนต้องผละออกไป ก่อนจะแสยะยิ้มเย็นชา “เธอเป็นหมาหรือไง?”“มันไม่เกี่ยวกับคุณ! อย่าลืมนะว่า ฉันเป็นภรรยาของหลานชายของคุณ!”เห็นว่าเธอใช้สถานะมากดดันตัวเอง เสิ่นซื่อก็เลิกคิ้วขึ้น “เธอส่งพ่อของเสิ่นเยี่ยนจือเข้าคุก คิดว่าเขายังอยากเป็นสามีของเธออยู่เหรอ?”“มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณเหมือนกัน! ถ้าคุณไม่ปล่อยฉัน ฉันจะตะโกน

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 259

    เขาโกรธที่เธอไม่ปรึกษาเขาก่อน แต่กลับทำเรื่องอันตรายขนาดนั้นอีกอย่างเสิ่นซื่อเยี่ยนทำให้ตระกูลจี้ล้มละลาย ตัวเขาเองก็เป็นคนตระกูลเสิ่นเช่นกัน เขาไม่แน่ใจว่าจี้อี่หนิงจะเกลียดเขาด้วยหรือเปล่าเสิ่นซื่อนั่งอยู่ในรถนานพักใหญ่ กำลังจะขับออกไป ก็เห็นจี้อี่หนิงใส่ชุดอยู่บ้าน ถือถุงขยะสองใบเดินออกมาจากตึกสายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอโดยไม่รู้ตัว ดวงตาที่เย็นชาเมื่อครู่ค่อย ๆ อ่อนโยนลงจี้อี่หนิงก็เห็นรถของเขาเช่นกัน เธอชะงักเท้าไปเล็กน้อยหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอโยนขยะลงถัง แล้วตัดสินใจเดินไปที่รถของเสิ่นซื่อพอเธอยืนห่างจากรถแค่ไม่กี่ก้าว กระจกฝั่งคนขับก็ค่อย ๆ ลดลงสายตาของทั้งสองคนสบกัน ไม่มีใครพูดอะไรผ่านไปพักใหญ่จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากล่าง มองเสิ่นซื่อแล้วพูดอย่างช้า ๆ ว่า “อาเล็ก คุณมาที่นี่... จะมาตำหนิฉันเหรอ?”แววตาของเสิ่นซื่อมืดครึ้มลง ก่อนจะหัวเราะเยาะ “ถ้าฉันจะมาตำหนิเธอจริง ๆ คิดว่าเธอจะยังยืนอยู่ตรงนี้แล้วคุยกับฉันได้สบาย ๆ แบบนี้เหรอ?”สีหน้าของจี้อี่หนิงซีดลงเล็กน้อย ไม่กล้าสบตาเขาโดยตรง เธอจึงหลุบตาลงต่ำ“งั้นคุณมาที่นี่ทำไม...”เห็นเธอพยายามหลบสายตาเสิ่นซื่อข

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 258

    “ลูกชอบเธอจริง ๆ เหรอ?”เสียงของท่านผู้เฒ่าเสิ่นทรงอำนาจโดยไม่ต้องโกรธ เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมของผู้มีอำนาจ“อืน”แววตาของท่านผู้เฒ่าเสิ่นฉายแววอำมหิต พูดเสียงเข้มว่า “งั้นลูกควรรีบตัดใจซะ มิฉะนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาตระกูลจี้จะรับไม่ไหว”จี้อี่หนิงแจ้งตำรวจจับเสิ่นซื่อเยี่ยนเข้าคุก ซึ่งเป็นการละเมิดขีดกำจัดของเขาโดยสิ้นเชิง เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เสิ่นเยี่ยนจือเกี่ยวข้องกับเธออีกแม้แต่นิดเดียว ตระกูลเสิ่นจะไม่มีวันทนรับความอับอายนี้แววตาของเสิ่นซื่อเย็นเยียบ เงยหน้าสบตากับท่านผู้เฒ่าเสิ่นแล้วพูดทีละคำอย่างหนักแน่นว่า “พ่อ ถ้าพ่อเล่นงานตระกูลจี้ ผมก็จะเล่นงานเสิ่นซื่อกรุ๊ปครับ”เสิ่นซื่อกรุ๊ปคืออาณาจักรที่ท่านผู้เฒ่าเสิ่นได้ทุ่มเทความพยายามตลอดครึ่งชีวิตเพื่อสร้างมันขึ้นมา มันคือผลแห่งความทุ่มเทของเขา สิ่งที่เขาภาคภูมิใจที่สุด และยังเป็นการก่อตั้งเสิ่นซื่อกรุ๊ปเขามองเสิ่นซื่อด้วยสายตาโกรธจัด “ลูกจะทำให้ตระกูลเสิ่นต้องพังพินาศเพราะผู้หญิงคนเดียวจริง ๆ เหรอ?”“พ่อ ผมไม่ได้เป็นฝ่ายต่อต้านพ่อ แต่พ่อกำลังเข้ามาก้าวก่ายความรักของผม”“ถ้าลูกรักผู้หญิงที่แม่เลือกให้ ไม่ว่าจะเป็นใคร พ่อแม่ก

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 257

    “แม้ว่าเขาจะเป็นพี่ชายของผม แต่การที่เขาลักพาตัวจี้อี่หนิงก็เป็นความจริง”เฉินเสวี่ยหรงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เห็นเสิ่นซื่อปกป้องจี้อี่หนิงตลอด ดวงตาเธอฉายแววโกรธ“เสิ่นซื่อ นายปกป้องจี้อี่หนิงทุกอย่าง ไม่ใช่เพราะนายชอบเธอหรอกเหรอ? ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง สำคัญกว่าพี่ชายนายหรือไง?!”"อะไรนะ?!"ท่านแม่เฒ่าเสิ่นหันกลับไปมองเฉินเสวี่ยหรงทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อและตกใจ “เธอพูดเพ้อเจ้ออะไร?! เธอบ้าหรือเปล่า?!”เสิ่นซื่อจะไปชอบจี้อี่หนิงได้ยังไง นั่นมันภรรยาของหลานชายนะ!ท่านผู้เฒ่าเสิ่นที่อยู่ข้าง ๆ สีหน้าก็มืดครึ้ม มองเฉินเสวี่ยหรงด้วยสายตาคมกริบราวกับคมมีดเฉินเสวี่ยหรงตัดสินใจพูดออกมา กัดฟันแล้วกล่าวว่า “แม่ ครั้งหนึ่งจี้อี่หนิงเคยเข้าโรงพยาบาล ฉันไปเยี่ยมเธอ แล้วบังเอิญได้ยินมากับหูที่หน้าห้องพัก ฉันกลัวว่าแม่จะรับไม่ได้ เลยไม่ได้บอกแม่”“แต่ตอนนี้เห็นเสิ่นซื่อไม่สนใจแม้แต่พี่ชายของตัวเองเพื่อผู้หญิงคนนั้น ฉันทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ!”ท่านแม่เฒ่าเสิ่นถอยหลังไปสองก้าว ทรุดตัวลงบนโซฟา สีหน้าดูเลื่อนลอยเสิ่นซื่อชอบจี้อี่หนิง?เขาจะไปชอบจี้อี่หนิงได้ยังไง?เขาจะชอบจี้อี่หนิงไม่ไ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 256

    จี้อี่หนิงจับมือของเธอกลางอากาศ ทำให้การตบครั้งนี้ไม่สำเร็จเธอมองที่เฉินเสวี่ยหรงด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ พูดช้าๆ ทีละคำว่า: "ฉันมีพ่อแค่คนเดียว เขาเป็นเหยื่อของการวางแผนจากสามีคุณ บริษัทล้มละลาย ตอนนี้เขานอนอยู่ในโรงพยาบาลรอรับบริจาคไตคะ"เมื่อเจอกับสายตาเย็นชาของจี้อี่หนิง เฉินเสวี่ยหรงรู้สึกละอายใจชั่วขณะหนึ่งเธอสะบัดมือของจี้อี่หนิงออก พูดอย่างโกรธเกรี้ยว: "ฉันไม่เคยเห็นใครส่งพ่อสามีตัวเองเข้าคุกมาก่อน รีบไปอธิบายกับตำรวจให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้!"จี้อี่หนิงรู้มาตลอดว่าเฉินเสวี่ยหรงไม่ค่อยมีเหตุผล แต่ไม่รู้ว่าเธอจะไร้สมองขนาดนี้"คุณเฉิน คุณไม่รู้หรือว่าการลักพาตัวเป็นอาชญากรรม และเขายังวางแผนจะฆ่าฉัน ฉันได้มอบเทปบันทึกเสียงให้ตำรวจแล้ว คุณคิดว่านี่เป็นเกมเด็กเล่นหรือไง?"เฉินเสวี่ยหรงหน้าเสีย กำลังจะพูด ท่านผู้เฒ่าเสิ่นที่เงียบมาตลอดก็พูดขึ้นมาว่า: "กลับมา จะมาทะเลาะกันในสถานีตำรวจทำไม!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉินเสวี่ยหรงกัดฟัน สุดท้ายก็แค่ชำเลืองมองจี้อี่หนิงอย่างโกรธแค้นก่อนกลับไปยืนหลังท่านผู้เฒ่าเสิ่นและท่านแม่เฒ่าเสิ่นท่านผู้เฒ่าเสิ่นมองจี้อี่หนิงด้วย

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 255

    พอมาถึงทางเข้า จู่ๆ ก็มีตำรวจสิบกว่านายพุ่งเข้ามาเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก จนกระทั่งเสิ่นซื่อเยี่ยนถูกตำรวจกดลงกับพื้น ใบหน้าของเขาถึงได้แสดงความตกใจและโกรธ"ปล่อยผม! พวกนายรู้หรือเปล่าว่าผมเป็นใคร?!""ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ตอนนี้คุณต้องสงสัยว่าลักพาตัว เราจับกุมคุณตามกฎหมาย!"เสิ่นซื่อเยี่ยนหันไปมองจี้อี่หนิงอย่างรวดเร็ว ในดวงตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "จี้อี่หนิง เธอวางแผนผม!"ครั้งนี้เขาทำอย่างลับๆ นอกจากคนที่เขาไว้ใจ ไม่มีใครรู้ว่าเขาเตรียมจะลักพาตัวจี้อี่หนิงตำรวจมาเร็วขนาดนี้ มีความหมายอย่างเดียวคือจี้อี่หนิงรู้มาก่อนแล้วว่าเขาจะลักพาตัวเธอ เธอแค่ใช้กลอุบายสวนกลับคิดถึงตรงนี้ เขามองไปที่จี้อี่หนิงด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ราวกับอยากจะเฉือนเนื้อเธอเป็นพันชิ้นจี้อี่หนิงแสดงสีหน้าตกใจ ใบหน้าซีดขาวมองเขา "คุณพูดเหลวไหล ที่จริงคุณนั่นแหละที่ลักพาตัวฉัน หรือฉันจะเอามีดจ่อคอคุณให้คุณลักพาตัวฉันได้ยังไง?"อย่างไรก็ตาม เสิ่นซื่อเยี่ยนเห็นรอยยิ้มและความเย็นชาวูบผ่านในดวงตาเธออย่างชัดเจน"รอดูเถอะ ผมจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ!"จี้อี่หนิงหลบไปอยู่หลังตำรวจคนหนึ่ง มองเขาด้วยใบหน้า

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 254

    เสิ่นซื่อกำลังประชุมอยู่ เมื่อได้ยินคำพูดนั้นเขาลุกพรวดขึ้น พูดเสียงเข้ม: "ผมเข้าใจแล้ว ผมจะให้คนไปตรวจสอบทันที"ซุนสิงที่อยู่ข้างๆ รีบเดินมาข้างเขา "ประธานเสิ่น มีอะไรหรือครับ?""เลิกประชุม พรุ่งนี้ค่อยอภิปรายต่อ คุณติดต่อคนสองคนที่ผมให้คุณส่งไปคุ้มครองจี้อี่หนิงทันที จี้อี่หนิงหายตัวไปแล้ว"ซุนสิงตกใจ รีบตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์"ผมไปทันทีครับ"เสิ่นซื่อเพิ่งกลับมาที่ห้องทำงาน ซุนสิงก็เคาะประตูเข้ามาด้วยสีหน้าไม่ดี"ประธานเสิ่น คนทั้งสองคนบอกว่ารถของคุณจี้กำลังมุ่งออกนอกเมือง ผมสั่งให้พวกเขาหาทางหยุดรถแล้วครับ""อืม ส่งตำแหน่งที่แน่ชัดตอนนี้มาให้ผม""ครับ"พอส่งตำแหน่งเสร็จ โทรศัพท์ของซุนสิงก็ดังขึ้นหลังจากรับสาย คู่สนทนาพูดอะไรบางอย่างที่ไม่รู้ว่าอะไร สีหน้าของซุนสิงก็เปลี่ยนเป็นแย่มาก"ประธานเสิ่น... คนในรถ... ไม่ใช่คุณจี้..."ม่านตาของเสิ่นซื่อหดเล็กลงทันที บรรยากาศรอบตัวเขาเปลี่ยนเป็นน่ากลัวอย่างยิ่ง"คนในรถเป็นใคร?""เป็นคนขับแท็กซี่คนหนึ่ง ตอนที่คุณจี้จ่ายเงินที่ปั๊มน้ำมัน มีคนให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ให้เขาขับรถของคุณจี้ออกไป ตอนนี้คุณจี้หายตัวไปแล้ว""ไร้ป

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 253

    "มีแค่สิ่งที่คุณได้รับจริงๆ เท่านั้นที่สำคัญที่สุด คุณเข้าใจไหม?""ในโลกนี้มีเรื่องไม่ยุติธรรมมากมาย ทุกคนจะได้รับคำขอโทษและความยุติธรรมหรือ? ความยุติธรรมไม่ได้อยู่ข้างความจริง แต่อยู่ข้างอำนาจครับ"จี้อี่หนิงเงยหน้ามองเขา ดวงตาเย็นชา"ดังนั้น ตามที่คุณพูด ฉันควรยอมรับสิ่งที่พวกคุณเรียกว่าค่าชดเชยที่เหมือนการให้ทาน แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นเหรอ?""ผมแค่หวังว่าคุณจะเข้าใจว่าอะไรสำคัญที่สุดสำหรับคุณตอนนี้ เป็นคนที่เห็นความจริงหน่อย ความยุติธรรมที่คุณแสวงหาไม่มีความหมายอะไรเลย"จี้อี่หนิงสูดหายใจลึก "แค่ฉันรู้สึกว่ามันมีความหมายก็พอ"เมื่อเห็นสีหน้าเด็ดเดี่ยวของเธอ แววตาของเสิ่นเยี่ยนจือก็หม่นลง "ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร คุณก็จะมอบหลักฐานให้ตำรวจ ใช่ไหม?""ฉันบอกแล้วว่า ฉันต้องการเวลาคิด"ในที่สุด ความอ่อนโยนสุดท้ายในดวงตาของเสิ่นเยี่ยนจือก็หายไป เขามองที่จี้อี่หนิงและพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย: "ผมเข้าใจแล้ว คุณกลับไปเถอะ"เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้จี้อี่หนิงรู้สึกไม่สบายใจ"คุณรักษาตัวให้ดีนะ ถ้าในอนาคตคุณไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้จริงๆ ฉันจะอยู่ข้างๆ ดูแลคุณ"เสิ่นเยี่ยนจือไม่พู

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 252

    แต่เสิ่นซื่อเยี่ยนเป็นพี่ชายของเขา ถ้าเขารู้เรื่องนี้ ก็คงไม่ช่วยเธอหลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก จี้อี่หนิงก็ยังคิดไม่ออกว่าเป็นอย่างไร จึงตัดสินใจไม่คิดต่อ วางแผนจะหาโอกาสถามเสิ่นซื่อโดยตรงเช้าวันรุ่งขึ้น จี้อี่หนิงไปเยี่ยมเสิ่นเยี่ยนจือที่โรงพยาบาล เมื่อเปิดประตูห้องผู้ป่วยเธอเห็นภาพของฉินจืออี้นั่งอยู่ข้างเตียงกำลังป้อนซุปไก่ให้เสิ่นเยี่ยนจือเธอชะงักฝีเท้า พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ดูเหมือนฉันจะรบกวนพวกคุณนะคะ"เมื่อเห็นเธอ ดวงตาของฉินจืออี้มีประกายท้าทายวูบหนึ่ง แต่รีบวางชามในมือลงและลุกขึ้นด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน "ไม่หรอก... ในเมื่อคุณจี้มาแล้ว ฉันจะกลับก่อน แล้วค่อยมาเยี่ยมเยี่ยนจือหลังจากคุณจี้กลับไป..."จี้อี่หนิงยังไม่ทันพูดอะไร เสิ่นเยี่ยนจือก็เอ่ยขึ้น "จืออี้ออกไปก่อน ผมมีเรื่องจะคุยกับเธอ"ฉินจืออี้พยักหน้า "ได้ ฉันจะรออยู่หน้าประตู ถ้าคุณต้องการอะไรก็เรียกฉันนะ"ขณะที่เดินผ่านจี้อี่หนิง ฉินจืออี้พูดเสียงเบา "จี้อี่หนิง เธอสู้ฉันไม่ได้หรอก"จี้อี่หนิงยิ้มเล็กน้อย "วางใจได้ ฉันไม่เคยคิดจะสู้กับเธอเลย"ผู้ชายที่นอกใจ คงมีแค่เธอเท่านั้นที่ยังเห็นเป็นของมีค่าหลังจากฉินจ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status