Share

ยอมแล้วซึ่งทุกอย่าง

ตอนที่ 8

ยอมแล้วซึ่งทุกอย่าง

         ชม้อยและรุจิราเดินทางมาหาตะวันทันทีที่รู้ข่าว ภาพของ    นิรดาในชุดคลุมท้องที่กำลังนอนหลับอยู่ข้าง ๆ ตัวของคนเจ็บเป็นภาพที่ทำเอาน้ำตาของทุกคนไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่สะเทือนใจ

         “ทราย ตื่นได้แล้วลูก”

         แม่สามีค่อย ๆ ลูบผมของหญิงสาวที่กำลังนอนอยู่ด้วย   ความสงสาร

         “คุณแม่ ! ”

         คนทำผิดทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นทันทีที่เห็นว่าผู้หญิงตรงหน้าคือใคร

         “ทรายขอโทษ พี่ตะวันต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะทราย ทุกคนต้องเดือดร้อนไปกันหมดเพียงเพราะความแค้นบ้า ๆ ที่ทรายคิดไปเองคนเดียว ทรายกราบขอโทษนะคะ”

         ชม้อยรีบประคองลูกสะใภ้ให้ลุกขึ้นเพราะท่าทางที่ดูก้มไม่ถนัดของคนท้องยิ่งทำให้หญิงชราทั้งสงสารและเป็นห่วง

         “มันผ่านไปแล้ว ทุกคนเคยทำผิดกันทั้งนั้น แม่เองก็ทำผิดมาไม่รู้กี่ครั้ง เราย้อนไปแก้ไขไม่ได้ขอแค่ว่าอย่ากลับไปทำผิดอีกก็พอ”

         รุจิราเองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าแล้วก็อดคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อนไม่ได้

         “ลูกคือของขวัญที่มีค่าที่สุดค่ะ ตอนนี้พี่ทั้งสองคนไม่ได้มีแค่ตัวเองแล้วยังมีอีกชีวิตที่ต้องการทั้งพ่อและแม่ พี่ทรายโชคดีที่ยังมีพี่ตะวันอยู่เลิกคิดถึงเรื่องในอดีตและมาช่วยกันสร้างปัจจุบันดีกว่าค่ะ”

         พี่สะใภ้และน้องสามีต่างมองตากันอย่างเข้าใจ รุจิราอดที่จะคิดถึงเอกภพไม่ได้ไม่ถึงแม้ว่าเขาจะเคยทำไม่ดีกับเธอแค่ไหนแต่ตลอดเวลาที่ได้รักกันเธอมีความสุขที่สุดและเอกภพก็ยังได้สร้างของขวัญที่มีค่าให้ไว้กับเธอ

         คุณหมอเดินเข้ามาที่ห้องพักฟื้นพอดีจึงอธิบายถึงอาการและวิธีการรักษาให้ทุกคนได้ฟังอีกครั้ง

         “ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ คนไข้ปลอดภัยแล้วแน่นอนแต่สภาพร่างกายคงต้องประเมินหลังจากที่คนไข้ได้สติแล้ว”

         คนเป็นแม่ได้ยินแบบนี้ก็สบายใจเพราะไม่ว่าลูกชายจะฟื้นมาแบบไหนขอแค่ให้เขายังอยู่กับเธอแค่นี้ชม้อยก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว

         คุณหมอตรวจเสร็จก็เดินกลับไป ครอบครัวจึงมีโอกาสได้อยู่กันพร้อมหน้า

         “อุ้มหลานฉันหนีมาแบบนี้ใจร้ายมากรู้ไหม ตะวันฟื้นเมื่อไหร่กลับไปอยู่ด้วยกันนะ ”

         นิรดาโผเข้ากอดแม่สามีร้องไห้สะอื้นเหมือนคนจะขาดใจ เธอทำไม่ดีไว้กับครอบนี้มากแต่ทุกคนกลับให้อภัยเธอง่าย ๆ มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดและโกรธตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม

         “ตะวันคงดีใจถ้าลืมตาขึ้นมาแล้วเจอว่าหนูทรายกลับมาอยู่ข้าง ๆ เขาแล้ว แม่ฝากลูกชายแม่ด้วยนะ”

         ชม้อยและรุจิรากลับไปนอนที่โรงแรมเพราะออมสินมาด้วยนอนที่โรงพยาบาลคงไม่สะดวก คนเป็นภรรยาจึงทำหน้าที่อยู่                เคียงข้างสามีต่อ

         “แค๊ก ๆ ๆ ”

         หญิงสาวที่กำลังสาละวนอยู่กับการถักถุงเท้าเด็กต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงเหมือนคนไอดังมาจากบนเตียงคนไข้

         “พี่ตะวัน ทรายอยู่นี่ค่ะ”

         สองมือเล็กจับมือของสามีมาจับไว้แน่นด้วยความดีใจจนลืมไปเลยว่านาทีนี้เธอควรจะเรียกพยาบาล

         “พี่ตะวันฟื้นแล้ว มองเห็นทรายไหมคะ”

         ชายหนุ่มพยักหน้ายกมืออีกข้างมาจับมือภรรยาไว้ก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้ง

         หญิงสาวเห็นแล้วรู้สึกตกใจกลัวว่าคนรักของเธอจะสลบไปอีกครั้งจึงรับกดสัญญาณเรียกพยาบาลทันที

         “คนไข้ฟื้นแล้วแต่อยู่ดี ๆ ก็หลับตาไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ”

         นิรดารีบรายงานอาการให้พยาบาลรู้ก่อนที่จะถูกกันให้ออกมาจากบริเวณเตียงเพื่อให้พยาบาลและหมอที่ตามเข้ามาทำงานได้สะดวกมากขึ้น

         “คนไข้ฟื้นแล้วนะครับแต่หลับไปนานดวงตาจึงยังไม่ชินกับแสงแต่เดี๋ยวก็จะดีขึ้นเท่าที่หมอตรวจทุกอย่างปกตินะครับ”

         คุณหมอหันกลับไปตรวจตะวันต่อปล่อยให้คนดีใจยืนอมยิ้มน้ำตาไหลอยู่คนเดียว นับจากนี้หญิงสาวตั้งใจจะดูแลสามีให้ดีที่สุดเพื่อชดใช้กับความผิดที่เธอทำและตอบแทนความรักที่เขามีให้เธออย่างมากมายจนยอมที่จะให้อภัยเธอได้ทุกอย่าง

         ทุกคนออกไปหมดแล้วเวลานี้เหลือแค่เพียงสามีภรรยาที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานอยู่ด้วยกันเพียงสองคนเท่านั้น

         “พี่ตะวัน ทรายขอโทษนะคะ”

         หญิงสาวโน้มตัวเอาหน้าลงไปแนบกับอกของสามีกอดเขาด้วยความรักทั้งหมดที่เธอมีอยู่ในหัวใจ

         “อย่าหนีพี่ไปอีกนะ”

         คนเจ็บพยายามลืมตาแต่ก็ทำได้ยากจึงใช้มือทั้งสองข้างกอดตอบภรรยาแทน

         “ค่ะ ทรายจะไม่ไปไหนแล้วจะอยู่ตรงนี้อยู่กับพี่ตะวัน                 รีบหายไว ๆ นะคะเราจะได้กลับบ้าน ทรายจะทำอาหารที่พี่ชอบกินให้เต็มโต๊ะเลยค่ะ”

         ชายหนุ่มหัวเราะกับคำพูดของภรรยาจนเกือบทำให้สำลัก นิรดาตกใจนึกว่าสามีเป็นอะไรทำท่าจะกดเรียกพยาบาลแต่ถูกตะวันห้ามไว้

         “พี่ไม่ได้เป็นอะไร กลัวพี่ตายหรือกลัวว่าพี่จะไม่อยู่กินอาหารฝีมือเธอกันแน่”

         คนเจ็บยังมีอารมณ์ขันทั้งที่ยังมีแผลอยู่ที่ศีรษะต่างจากคนเฝ้าที่ดูจะเจ็บแทนและยังดูเป็นกังวล

         “พี่ตะวันห้ามตายเด็ดขาดต้องอยู่ช่วยทรายเลี้ยงลูกก่อน”

         คนท้องจับมือของสามีมาลูบเบา ๆ ที่ท้องของเธอเพื่อหวังให้ชีวิตน้อย ๆ ส่งกำลังใจผ่านสัมผัสนี้ไปถึงบิดาเพื่อให้ตะวันมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับบาดแผลต่อไป

         “พี่กำลังจะเป็นพ่อใช่ไหม พี่จะเป็นพ่อคนแล้ว”

         ตะวันพยายามชันตัวให้ลุกขึ้นแต่ก็ทำไม่ได้ คนเฝ้าจึงรีบไปปรับระดับของเตียงเพื่อให้คนเจ็บได้เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง

         ไฟที่คุณหมอปิดไว้เหลือไว้แค่เพียงไฟห้องน้ำทำให้ตอนนี้ตะวันเริ่มจะมองเห็น

         “ขอพี่คุยกับลูกหน่อย”

         คนท้องพยายามเข้าไปใกล้กับสามีที่สุดเพื่อให้เขาได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกที่กำลังเติบโตอยู่ในครรภ์ของเธอ

         ตะวันพูดคุยกับลูกเหมือนกับว่าเคยเจอหน้ากันมาแล้ว              นิรดาอดที่จะขำไม่ได้แต่มันก็เป็นการหัวเราะทั้งน้ำตา ความสุข             ความเศร้ามันปนกันไปหมดในความรู้สึก

         คุณพ่อดูมีความสุขมากที่ได้รู้ว่ามีอีกหนึ่งชีวิตกำลังจะลืมตาดูโลกและวันนี้เขาได้ภรรยากลับคืน ชีวิตของตะวันผ่านความรักที่ผิดหวังมากบางส่วนก็เกิดจากตัวเขาที่ไม่เข้มแข็งพอ เขาจึงตั้งใจที่จะทำครอบครัวของเขาในวันนี้ให้มีความสุขที่สุดสมกับที่ต้องผ่านเรื่องร้ายมาด้วยกันมากมาย

        

         เช้าวันนี้ชม้อยมาหาลูกชายที่โรงพยาบาล หญิงชราสวมกอดแก้วตาดวงใจของเธอด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ตอนที่ติดต่อตะวันไม่ได้หัวใจของคนเป็นแม่แทบจะหยุดเต้น กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีและเธอเองก็ไม่อยากสูญเสียใครไปอีกแล้ว

         “พระคุ้มครองนะลูกชายแม่”

         อ้อมกอดที่อบอุ่นเสมอคงไม่ใช่อ้อมดอดจากใครถ้าไม่ใช่ของมารดา ตะวันคิดมาตลอดว่าแม่คือคนที่ทำให้ผู้หญิงที่ผ่านมาตัดสินใจไปจากเขาแต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าถ้าตัวเขาเข้มแข็งและรักมากพอจะไม่มีใครไปจากเขาแน่นอน ความรักที่จบแบบพังเป็นเพราะว่าเขาและผู้หญิงที่ผ่านมาไม่ได้รักกันจริงต่างหาก

         “อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมันอาจไม่ใช่เรื่องดีแต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ลูกกับหนูทรายได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แม่เองก็ได้หลานเพิ่มอีกหนึ่งคน นับจากนี้ไปครอบครัวของเราจะกลับมามีความสุขกันนะตะวัน”

         นิรดาขอตัวกลับบ้านเพราะตั้งแต่มาเจอตะวันที่โรงพยาบาลเธอยังไม่ได้กลับไปบ้านเลย ตอนนี้แม่สามีและรุจิรามาอยู่เป็นเพื่อนตะวันแล้วหญิงสาวจึงขอตัวกลับบ้านไปเตรียมข้าวของมาเฝ้าสามีต่อในคืนนี้

         สองแม่ลูกได้อยู่คุยกัน ตะวันมีเรื่องหลายอย่างที่อยากให้แม่กับน้องสาวช่วยและเรื่องนี้เขาไม่อยากให้นิรดารู้เมื่อมีโอกาสเขาจึงรีบพูดทันที

        

        

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status