ตอนที่ 2
สมบัติชิ้นแรก
นิรดาเป็นผู้หญิงสวยนอกจากความสวยคือเสน่ห์ในตัวเธอ ความน่ารักสดใสขี้อ้อนและมีความเป็นผู้ใหญ่ในเวลาที่ควรเป็น ทำให้ตะวันหลงแฟนสาวคนนี้มากกว่าแฟนคนอื่นที่เคยผ่านมา
“แม่ไม่สบายใจหยุดเถอะนะลูก”
นารีรับรู้เพียงว่าลูกสาวกำลังหาทางแก้แค้นแทนพี่ชายแต่ที่เธอไม่รู้ก็คือทุกอย่างเดินหน้ามาจนถึงขั้นจะแต่งงานแล้ว
“คุณแม่คะทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ทรายไม่ได้ทำอะไรเลยที่คุณตะวันกับลูกสนิทกันมันคือแผนการณ์ก็จริง ลูกแค่อยากรู้จักครอบครัวนี้ให้มากขึ้นบางทีเราอาจจะรู้เรื่องอะไรมากขึ้นเกี่ยวกับการจากไปของพี่เอกก็ได้นะคะ”
นิรดาไม่กล้าพอที่จะบอกแผนการจริง ๆ ทั้งหมดให้กับมารดารู้เพราะไม่มีทางที่แม่ของเธอจะยอมแน่ ๆ ที่ลูกสาวยอมเอาทั้งตัวและหัวใจเข้าไปเดิมพันแบบนี้ หญิงสาวบอกให้มารดารับรู้แค่เพียงว่าเธออยากทำความรู้จักกับครอบครัวของรุจิราเพื่อที่จะสืบให้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้พี่ชายของเธอต้องประสบอุบัติเหตุ
เอกภพพี่ชายแท้ของนิรดาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตได้สองปีแล้วทางครอบครัวไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มที่ไม่เคยหันหน้าให้กับของมึนเมากลับดื่มหนักจนทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นแบบนี้
สองพี่น้องสนิทกันมากในช่วงเด็ก ๆ แต่พอมาถึงช่วงที่นิรดาต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศทั้งคู่ก็ติดต่อกันน้อยลงสิ่งเดียวที่น้องสาวจะได้รู้เรื่องของพี่ชายคือจากเฟซบุ๊คเท่านั้น
“พรุ่งนี้ก็จะครบรอบสองปีแล้วที่เอกจากพวกเราไป ทรายพาแม่ไปทำบุญที่วัดหน่อยนะลูก”
นารีลาออกจากงานทันทีหลังจากที่ลูกชายมาจากไป เธอเอาแต่เก็บตัวอยู่กับบ้านโชคดีที่บ้านของเธอมีพื้นที่กว้างขวาง หญิงวัยใกล้หกสิบจึงใช้เวลาทั้งวันไปกับการดูแลต้นไม้และเลี้ยงแมว
“ได้ค่ะ ทรายอยากให้แม่กลับมาสดใสเหมือนคนเดิมจังอย่างน้อยพี่เอกก็จะได้สบายใจถ้ามองลงมาจากสวรรค์ ครอบครัวเราเสียพี่เอกไปแล้วอย่าให้พวกมันมาทำให้คุณแม่ต้องทุกข์ไปอีกคนเลยค่ะ” คนพูดเผลอตัวแสดงความแค้นออกมา
“ไม่เอาไม่คิดแบบนี้ แม่ไม่ได้เป็นอะไรนับวันก็แก่ลงจะให้ไปสดใสร่าเริงเหมือนสาว ๆ ได้อย่างไรกันล่ะลูก แม่ไม่ได้คิดเรื่องพี่เอกแล้วตอนนี้เหลือก็แต่ลูกสาวเท่านั้นที่แม่เป็นห่วง ทุกวันนี้ยิ่งทำตัวมีความลับเยอะอยู่”
นารีไม่รู้เรื่องราวชีวิตของนิรดาเลยเพราะตั้งแต่หญิงสาวตัดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทยทั้งที่ยังเรียนไม่จบเธอก็ทำตัวมีความลับมาโดยตลอด
“ทรายดูแลตัวเองได้ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ คุณแม่รักษาสุขภาพดูแลตัวเองให้ดี ๆ มีอะไรขาดเหลือก็บอกนะคะ ชีวิตของลูกตอนนี้เหลือแค่คุณแม่คนเดียวเท่านั้น”
เธอจะบอกได้อย่างไรว่าตอนนี้เธอกำลังเป็นคนรักของตะวันพี่ชายของรุจิราอดีตคนรักเก่าของพี่ชายเพราะถ้ามารดารู้เรื่องนี้แผนทั้งหมดมีอันต้องพังแน่ นิรดาจึงเลือกให้บุพการีรู้แค่เพียงว่าตอนนี้เธอทำงานที่เดียวกับตะวันเท่านั้น
พรุ่งนี้เป็นวันที่พี่ชายของเธอจากไปได้สองปี พอนึกถึงความแค้นก็ยิ่งทวีคูณร้อนรุ่มแผดเผาในหัวใจ
‘ทรายดูแลแม่นะพี่มันบุญน้อย’
ข้อความสุดท้ายที่เอกภพส่งหาน้องสาวในคืนวันที่เขาเสียชีวิตยังคงเป็นเหมือนเสียงที่ดังก้องอยู่ในทุกความรู้สึกของนิรดาตลอดเวลา
“พวกมันต้องชดใช้ให้พี่เอกค่ะ”
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นหญิงสาวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความจริงคืออะไรแต่นิรดาก็คิดเชื่อมโยงเหตุการณ์ไปเองทั้งหมดว่าเบื้องหลังสาเหตุที่ทำให้พี่ชายของเธอต้องดื่มจนเมามายไร้สติต้องมาจากการบอกเลิกของรุจิราแน่นอนเพราะเธอเห็นข้อความสุดท้ายที่พี่ชาย โพสลงเฟซบุ๊ค มันคือการลงรูปคู่พร้อมด้วยข้อความสั้น ๆ ที่แจ้งกับทุกคนว่าทั้งสองคนได้ยุติความสัมพันธ์ในฐานะคนรักกันแล้ว
รุจิราเก็บตัวเงียบอยู่ที่เชียงใหม่ทำให้นิรดาเลือกที่จะแก้แค้นผ่านทางพี่ชายของรุจิราแทนและมันก็ได้ผลเร็วเกินคาดเพราะแค่ยังไม่ถึงปีชายหนุ่มก็ยอมแต่งงานกับเธอ
“ทรายหายเงียบไปทั้งวันเลยนะรู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง”
ตะวันรีบกรอกเสียงพูดผ่านโทรศัพท์ทันทีที่นิรดายอมรับสายเพราะเขาโทรหาเธอทั้งวันแต่กลับติดต่อไม่ได้
“ทราย....มีเรื่องเครียดนิดหน่อยค่ะแต่ไม่เป็นไรปัญหาที่เราก่อขึ้นมาจะให้ใครมาช่วย ช่วงนี้เราคงไม่ค่อยได้เจอกันไว้ให้ปัญหานี้ทรายหาทางออกได้เมื่อไหร่ไว้เจอกันนะคะ”
“มีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกพี่ คิดคนเดียวมันจะดีกว่าช่วยกันคิดได้อย่างไรกัน ลืมไปแล้วใช่ไหมว่าเราสองคนเป็นแฟนกันนะ”
ตะวันรู้เรื่องราวส่วนตัวของคนรักน้อยมากทุกอย่างที่เขารู้คือผ่านการเล่าจากปากของคนรักเพียงเท่านั้นเวลานี้เขาจึงรู้สึกเป็นห่วงนิรดามาก ๆ ที่เธอต้องเผชิญปัญหาอยู่คนเดียว
“เงินตั้งห้าล้านพี่ตะวันจะให้ทรายดึงพี่มาเดือดร้อนด้วยเหรอคะ”
คนพูดทำเสียงเหมือนคนที่กำลังจะร้องไห้ น้ำเสียงสั่นเครือสิ้นหวังยิ่งทำให้คนฟังทั้งสงสารและเป็นห่วง
“มันเกิดอะไรขึ้นไหนเล่าให้พี่ฟังเงินแค่ห้าล้านทำไมพี่จะช่วยผู้หญิงที่พี่รักไม่ได้”
เงินห้าล้านไม่มากสำหรับนักธุรกิจวัยหนุ่มอย่างตะวันแต่มันก็ไม่น้อยถ้าเขาจะต้องเอาไปใช้อะไรชายหนุ่มก็อยากรู้เหตุผล
“มันเป็นเรื่องที่น่าอายที่สุดมันเป็นความโง่ของทรายเองค่ะ พี่ตะวันอย่ามาเดือดร้อนเพราะความสิ้นคิดของทรายเลยขอให้ผู้หญิงโง่ ๆ ได้อยู่คนเดียวสักพักนะคะ”
น้ำตาก็มาเสียงสั่นจนฟังเหมือนคนกำลังเสียสติยิ่งทำให้อีกฝ่ายเป็นห่วงจนไม่กล้าถามอะไรต่อ
“พี่ไม่ถามแล้ว พรุ่งนี้พี่จะจัดการเรื่องเงินให้นะ”
“ไม่เอาค่ะ ทรายผิดเองที่เชื่อใจเพื่อนยอมไปค้ำประกันเงินกู้นอกระบบให้ พี่ตะวันดีกับทรายทุกอย่างอย่าให้ทรายต้องกลายเป็นผู้หญิงที่เหมือนปลิงมาคอยเกาะพี่ไปมากกว่านี้เลยนะคะ”
นิรดาวางสายทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงสาวแสดงให้เห็นถึงความสะใจเพราะเธอมั่นใจว่าพรุ่งนี้เงินห้าล้านจะต้องถูกโอนเข้าบัญชีเธอแน่นอน
“ได้เวลาหาของขวัญให้พี่เอกแล้ว”
หญิงสาวพูดกับรูปของพี่ชายที่เธอเก็บไว้ใต้หมอน พรุ่งนี้เธอจะเอาเงินห้าล้านไปให้มารดาเป็นเครื่องปลอบใจในวันที่ครอบครัวเธอเสียใจที่สุด
เงินห้าแสนบาทถูกโอนเข้าบัญชีของนิรดาทันทีหลังจากที่วางสายจากแฟนหนุ่มไปได้ไม่ถึงชั่วโมงและก่อนนอนก็ตามาอีกทีละห้าแสนบาทจนคบห้าล้าน ตะวันใช้การโอนจากบัญชีของเขาและของบริษัทจึงทำให้โอนได้มากแบบนี้และเขาไม่รู้สึกสงสัยอะไรเพราะชื่อและนามสกุลของแฟนสาวเป็นชื่อที่เพิ่งถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
ทรายวางแผนเรื่องเลขบัญชีไว้ตั้งแต่แรกก่อนหน้านี้เธอเคยส่งเลขบัญชีไปให้แฟนหนุ่มเพียงเพราะต้องการให้เขาโอนเงินมาให้เธอเพื่อซื้อของให้เขาจึงทำให้ตะวันมีเลขบัญชีของนิรดา ต่อจากนั้นหญิงสาวก็ไม่จำเป็นต้องบอกอีกแล้วครั้งนี้ก็เช่นกัน
เช้าวันนี้สองคนแม่ลูกพากันไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน นารีพยายามทำสีหน้าให้ดูมีความสุขเพราะไม่อยากให้ลูกสาวเป็นกังวลแต่มันก็ไม่สามารถปิดบังแววตาที่เศร้าได้และนี่ยิ่งทำให้นิรดาสงสารมารดาเป็นที่สุด
“แม่คะสาธุหน่อยค่ะ วันนี้ทรายกับแม่จะทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือกัน”
นารีหยิบซองจากมือของลูกสาวมาถือไว้เพราะตั้งใจ จะยกมืออนุโมทนาบุญด้วยแต่ต้องตกใจเมื่อมองจากความหนาของซองที่นิรดาส่งให้
“ทรายไปเอาเงินมาจากไหนมากมายแบบนี้ อย่าทำบุญจนตัวเองเดือดร้อนนะลูก”
คนเป็นแม่เข้าใจว่าลูกสาวอาจจะไปกู้หนี้ยืมสินใครมาเพื่อเอาเงินมาทำบุญในวันนี้
“หนึ่งแสนบาทเองค่ะ ทรายทำผลงานให้บริษัทได้กำไรหลายร้อยล้านบาท โบนัสก็เลยจะหนา ๆ หน่อย คุณแม่สาธุเถอะค่ะจะได้นำเงินไปถวายหลวงพ่อกัน”
หญิงสาวนั่งมองมารดาถวายเงินให้กับหลวงพ่อที่กำลังระดมหาเงินไปช่วยไถ่ชีวิตโคกระบือด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข วันนี้เธอให้ของขวัญแม่และได้ล้างแค้นให้พี่เป็นเงินก้อนใหญ่ถึงห้าล้านแต่เป้าหมายของนิรดามันไม่ใช่แค่เงินแต่มันหมายถึงทั้งชีวิตของรุจิราและครอบครัว
“ทรายโอนเงินเดือนเข้าบัญชีให้แม่แล้วถ้าใช้ไม่พอบอกทรายนะ ส่วนเรื่องซ่อมบ้านไม่ต้องคิดมากพรุ่งนี้ช่างจะมาดู เรื่องเงินทรายมีพร้อมคุณแม่แค่ช่วยดูแลเวลาช่างมาทำงานก็พอค่ะ”
นารีไม่สบายใจเลยที่เห็นลูกสาวมีเงินมากมายแบบนี้ ข้อความจากธนาคารส่งมาบอกว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีเธอถึงห้าแสนบาทมันมากเกินไปสำหรับโบนัสตามที่ลูกสาวบอก คนเป็นแม่ได้แต่เป็นห่วงแต่ก็ไม่กล้าถามต่อ
ตอนที่ 3แผนต่อไป “ขอบคุณพี่ตะวันมาก ๆ นะคะ ชีวิตของทรายโชคร้าย มาตลอดจนวันนี้วันที่ฟ้าส่งพี่ตะวันมา จากเม็ดทรายที่ดูไร้ค่าตอนนี้พี่ทำให้มันกลับกลายมาเป็นเม็ดทรายที่ราคาแพงที่สุดเลยค่ะ” หญิงสาวสวมกอดชายคนรักอย่างเอาใจ สองมือเล็กลูบไล้ไปทั่วหลังที่หนากว้าง ปากเล็กจูบลงไปที่แก้ม ตาทั้งสองดวงมองประสานกันให้ความรู้สึกที่แสนยั่วยวนจนชายหนุ่มเริ่มไม่มีสติเหมือนกำลังถูกอีกฝ่ายสะกดจิตไว้ “ทราย...อย่าล้อเล่นนะ” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือแหบแห้ง สองมือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อตัวเล็กของคนตรงหน้า “ทรายรักพี่ตะวันนะคะ” นิรดากระซิบข้างหูของคนรักทำท่ายั่วยวนอย่างเต็มกำลังแต่เมื่ออีกฝ่ายเริ่มรุกอย่างเต็มที่ เธอกลับผลักเขาออกจากตัวและเล่นบทเศร้าแทน “ปล่อยทรายเถอะค่ะ” “ทำไม! ไหนทรายบอกว่ารักพี่” ตะวันงงและสับสนไปหมดเมื่อครู่หญิงสาวเป็นฝ่ายยั่วยวนเขาแต่เวลานี้ เธอกลับนั่งปิดหน้าร้องไห้เสียอย่างนั้น “ทรายขอโทษแต่ทรายทำไม่ได้ชีวิตนี้มีเรื่องเดียวที่ทำให้ผู้หญิงจน ๆ รู้สึกว่าตัวเองมีค่าก็คือความบริสุทธิ์ขอ
ตอนที่ 4แต่งงานของเธอและฉัน ชม้อยตกหลุมรักอนาคตลูกสะใภ้อย่างไม่รู้ตัว รสชาติอาหารที่อร่อยแบบเฉพาะ การเอาอกเอาใจดูแลที่หญิงวัยใกล้ชราโหยหาจากลูกทั้งสองคนแต่เธอก็ไม่เคยได้รับจนเมื่อนิรดาได้เข้ามาในฐานะคนรักของลูกชาย หญิงสาวดูแลอนาคตแม่สามีเป็นอย่างดีจนตอนนี้ชม้อยติดอนาคตลูกสะใภ้มาก “พรุ่งนี้ไปรับหนูทรายมาแต่เช้านะลูก” วันหยุดคือวันที่หญิงวัยใกล้หกสิบรอคอยเพราะเธอจะได้มีเพื่อนอยู่บ้านและทำของอร่อยให้เธอกินทั้งวัน “ลืมผมแล้วมั้งครับถามหาแต่ทราย เมื่อไหร่คุณแม่จะได้ฤกษ์แต่งงานสักทีครับ ผมกับทรายจะได้อยู่ด้วยกันคุณแม่ก็จะได้มีเพื่อน” ตะวันดีใจที่เห็นมารดาของเขาชอบในตัวคนรักถึงแม้ในช่วงเดือนแรกคนเป็นแม่จะตั้งท่าหาเรื่องก็ตาม “แม่ไปหามาหลายที่แต่ละที่ก็บอกว่าต้องหลังปีหน้าไปแล้ว ไม่ใช่ว่าแม่ไม่อยากให้แต่ง ตะวันจะให้แม่ทำอย่างไรล่ะ” “ก็เอาฤกษ์สะดวกสิครับ คนเรารักกันแต่งตอนไหนก็ฤกษ์ดีทั้งนั้น” ตะวันกับชม้อยนั่งปรึกษากันจนในที่สุดทั้งคู่ก็ลงความเห็นว่าเอาเป็นฤกษ์สะดวกดีกว่า “ตกลงเราจะไม่มีสินสอดจริง ๆ ใช่ไหม”
ตอนที่ 5แค้นก็แค้นรักก็รัก สามวันหลังงานแต่งงานตะวันไม่ยอมปล่อยให้นิรดาได้ออกจากบ้านไปไหนเขาอ้างเหตุผลว่าคนที่เพิ่งแต่งงานมักจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น นอกจากตะวันที่ไม่ยอมไปทำงานอยู่เฝ้าภรรยาตลอดยังมี แม่สามีที่เป็นหูเป็นตาอีกแรง หญิงสาวว้าวุ่นใจไปหมดเพราะสามวันแล้วที่เธอกับเขานอนด้วยกันเธอยังไม่ได้กินยาคุมกำเนิด แผนของเธอจะต้องไม่มีชีวิตน้อย ๆ มาเกี่ยวข้องเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นทุกอย่างจะจบลงทันที “พรุ่งนี้ท่านประธานไปทำงานได้แล้วนะคะ มามัวเฝ้าเมียอยู่แบบนี้อีกไม่นานบริษัทคงไม่ต้องการคนดูแลแล้ว” นิรดาแกล้งพูดแบบทีเล่นทีจริงเพราะเธอคิดว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้นาน ๆ มีหวังเธอต้องพลาดแน่ “ใช่พี่ลืมบอก พรุ่งนี้ทรายต้องไปทำงานกับพี่ เตรียมตัวให้พร้อมนะตำแหน่งเลขาส่วนตัวท่านประธาน” “อะไรกันคะ ทรายไปสมัครตอนไหนไม่เอา ทรายไม่อยากทำงานที่เดียวกับสามีตัวเองเดี๋ยวใคร ๆ จะมองว่าเป็นเด็กเส้น” “เส้นแล้วอย่างไรเส้นใหญ่ด้วยที่พี่บอกไว้ว่าถ้าทรายลาออกพี่จะให้เงินเดือนห้าหมื่นตอนนี้พี่จะเพิ่มให้เป็นแปดหมื่นกับตำแหน่งเลขาส่วนตัว” ตะวัน
ตอนที่ 6เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เราสองคน ค่ำคืนนี้มันคือค่ำคืนสุดท้ายที่นิรดาจะได้นอนกอดสามี เธอยอมรับกับตัวเองอย่างไม่อายเธอรักเขาแต่มันมีม่านของความแค้นมาคอยบังอยู่เสมอแต่วันนี้เมื่อเธอได้รู้ความจริงมากกว่าความรักคือความรู้สึกผิดที่เธอทำร้ายผู้ชายที่รักเธอตลอดเวลาที่ผ่านมา ทรัพย์สินทั้งหมดหญิงสาวตัดสินใจจะคืนให้สามีมีเพียงเรื่องเดียวที่เธออยากหาคำตอบเพื่อให้การจากไปครั้งนี้ของเธอสบายใจที่สุด ประจำเดือนไม่มาสองเดือนแล้วแต่นิรดาก็คิดเอาเองว่าคงเป็นเพราะเดือนที่สองของการแต่งงานเธอกินยาคุมกำเนิดอาจส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ พรุ่งนี้เช้าเธอจะให้ตะวันไปบริษัทก่อนและเธอจะบอกเขาว่าจะตามไปทีหลังแต่ความจริงเธอจะไปจากเขาตลอดชีวิตต่างหาก “เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมร้องไห้” ตะวันหันหลังมาเจอภรรยาที่นอนร้องไห้อยู่จึงถามด้วยความสงสัย “ทรายไม่อยากเห็นพี่เป็นแบบนี้เลยค่ะ พี่ตะวันสัญญาากับทรายได้ไหมว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ไปพี่จะลุกขึ้นสู้และกลับมาเป็นลูกชายที่เข้มแข็งของคุณแม่เหมือนเดิม” ชายหนุ่มคว้าตัวภรรยามากอดแน่นสำหรับเขาแล้วน้
ตอนที่ 7ตามหาหัวใจ นิรดาใช้เวลาซ่อมแซมบ้านของปู่กับย่าไม่ถึงสองสัปดาห์ทันทีที่เธอเข้าอยู่บ้านได้นารีก็กลับบ้านทันที “ไว้อีกสองเดือนแม่จะมาหาใหม่นะ ดูแลตัวเองดี ๆ จะลุกจะนั่งก็ต้องค่อย ๆ ” คนเป็นแม่ถึงแม้จะห่วงลูกสาวแค่ไหนแต่ก็เลือกที่จะกลับไปหาหัวใจที่เธอคิดว่ายังคอยเธออยู่ที่บ้านเสมอ ทันทีที่นารีถึงบ้านเขาก็พบว่ามีผู้ชายที่เขาไม่คุ้นหน้ามายืนรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน “คุณตะวัน” เข็มจิราทำหน้าที่ไปรับมารดาของเพื่อนจากสนามบิน เธอขับรถมาส่งที่บ้านจึงรู้ว่าคนที่มายืนรออยู่คือตะวัน “สวัสดีครับ ทำไมคุณรู้จักผม” “เข็มเป็นเพื่อนสนิทของทรายค่ะ เธอเราทุกเรื่องให้ทรายฟังหมดแล้ว” ยังไม่ทันที่เจ้าของบ้านจะเปิดประตูให้แขกเข้าไปข้างในก็มีเสียงเด็กน้อยดังมาจากในรถ “คุณลุงทำอะไรช้าจังคะ” นารีหันไปตามเสียงและเธอก็ต้องตกใจเมื่อหน้าตาของเด็กน้อยผมเปียเหมือนกับเอกภพมากจนเหมือนว่าใครจับเอาลูกชายเธอตอนเด็ก ๆ มาใส่ผมยาว “ออมสิน เป็นลูกสาวของเอกภพกับรุจิราน้องสาวผมครับ” ตะวันอ่านสายตาออกว่ามารดา
ตอนที่ 8ยอมแล้วซึ่งทุกอย่าง ชม้อยและรุจิราเดินทางมาหาตะวันทันทีที่รู้ข่าว ภาพของ นิรดาในชุดคลุมท้องที่กำลังนอนหลับอยู่ข้าง ๆ ตัวของคนเจ็บเป็นภาพที่ทำเอาน้ำตาของทุกคนไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่สะเทือนใจ “ทราย ตื่นได้แล้วลูก” แม่สามีค่อย ๆ ลูบผมของหญิงสาวที่กำลังนอนอยู่ด้วย ความสงสาร “คุณแม่ ! ” คนทำผิดทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นทันทีที่เห็นว่าผู้หญิงตรงหน้าคือใคร “ทรายขอโทษ พี่ตะวันต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะทราย ทุกคนต้องเดือดร้อนไปกันหมดเพียงเพราะความแค้นบ้า ๆ ที่ทรายคิดไปเองคนเดียว ทรายกราบขอโทษนะคะ” ชม้อยรีบประคองลูกสะใภ้ให้ลุกขึ้นเพราะท่าทางที่ดูก้มไม่ถนัดของคนท้องยิ่งทำให้หญิงชราทั้งสงสารและเป็นห่วง “มันผ่านไปแล้ว ทุกคนเคยทำผิดกันทั้งนั้น แม่เองก็ทำผิดมาไม่รู้กี่ครั้ง เราย้อนไปแก้ไขไม่ได้ขอแค่ว่าอย่ากลับไปทำผิดอีกก็พอ” รุจิราเองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าแล้วก็อดคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อนไม่ได้ “ลูกคือของขวัญที่มีค่าที่สุดค่ะ ตอนนี้พี่ทั้งสองคนไม่ได้มีแค่ตัวเองแล้วยังมีอีกชีวิตที่ต้อง
ตอนที่ 9ไม่มีอะไรติดค้าง ชม้อยและรุจิราเดินทางกลับในเช้าของอีกวันเพราะออมสินต้องไปโรงเรียนและยังมีงานที่บริษัทรออยู่ “แม่ฝากตะวันด้วยนะลูก คุณหมอบอกหนูทรายแล้วใช่ไหมว่าพี่เขาคงต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเดินได้ปกติ” ชม้อยพูดเองเพราะคุณหมอไม่ได้บอกอะไรกับนิรดาเลยตั้งแต่ชม้อยมาถึงทางโรงพยาบาลก็จะคุยทุกอย่างกับเธอมากกว่า “ไม่ได้บอกค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะต่อให้พี่ตะวันจะเดินไม่ได้ ทรายจะเป็นเท้าเป็นมือเป็นทุกอย่างให้สามีของทรายเอง ความรักที่พี่ตะวันมีให้ทรายมันมากเกินกว่าที่ทรายจะตอบแทนได้ หลังจากนี้เราจะใช้ความรักดูแลกันและกันตลอดไปค่ะ” ชม้อยได้ยินแบบนี้ก็ดีใจ เธอรู้สบายใจขึ้นที่ต้องทิ้งตะวันไปแบบนี้แต่ถ้าจะให้อยู่เฝ้าเธอก็อดเป็นห่วงรุจิรากับออมสินไม่ได้เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่งมากอยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังจากที่ไตรมาสที่แล้วผลกำไรลดลงเกือบเท่าตัว หญิงสาวที่กำลังท้องใหญ่ทำอะไรไม่ค่อยถนัดแต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดทั้งเช็ดตัว พาคนป่วยไปเข้าห้องน้ำ เดินขึ้นเดินลงคอยซื้อของให้ ดูแลปรนิบัติอย่างดีที่สุดจนคุณหมออนุญาติให้ตะวันกลับบ้านได
ตอนที่ 1เลขาเด็กเส้น...........“คุณตุลาเซ็นเอกสารไม่ครบหนึ่งหน้าค่ะ”น้ำขิงเลขาสาวที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่ไม่ถึง 2 เดือนเธอเคาะประตูแต่ไม่ได้รับเสียงตอบจากเจ้านายจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องเพราะมีเอกสารเร่งด่วนที่ตุลาลืมเซ็นและเธอต้องส่งให้กับบริษัทของลูกค้าภายในวันนี้“ผมอนุญาตให้คุณเข้ามาแล้วหรือไงไม่เห็นหรือว่าผมกำลังยุ่งอยู่”เจ้านายขึ้นเสียงใส่อารมณ์กับเลขาสาวที่เขาไม่ค่อยชอบขี้หน้าด้วยความหงุดหงิดเพราะตอนนี้อารมณ์ของเจ้านายกำลังอยู่ในสภาวะเหมือนไฟที่กำลังโหมลุกในใจเมื่อเพื่อนชายคนสนิทโทรศัพท์มาเล่าว่าได้พบภรรยาของตุลาที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งความเป็นจริงแล้วภรรยาของเขายืนยันว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งเฝ้า ลูกสาวอยู่ที่โรงเรียน“ไม่มีใครอนุญาตค่ะแต่มีเอกสารสำคัญที่คุณต้องเซ็น”ตุลาคว้าแฟ้มจากมือของลูกน้องที่ดูคล้ายว่าเขาจะกระชากเสียมากกว่า เขารีบเซ็นเอกสารตามที่น้ำขิงต้องการและยื่นให้เธอโดยไม่มองสบสายตาเหมือนว่าตอนนี้หัวใจของเขากำลังล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“น้ำขิงนั่งก่อนสิผมมีอะไรอยากถาม”ตุลาเอ่ยเรียกลูกน้องที่กำลังจะเปิดประตูหน้าห้องออกไปเพราะตอนนี้