ตอนที่ 7
ตามหาหัวใจ
นิรดาใช้เวลาซ่อมแซมบ้านของปู่กับย่าไม่ถึงสองสัปดาห์ทันทีที่เธอเข้าอยู่บ้านได้นารีก็กลับบ้านทันที
“ไว้อีกสองเดือนแม่จะมาหาใหม่นะ ดูแลตัวเองดี ๆ จะลุกจะนั่งก็ต้องค่อย ๆ ”
คนเป็นแม่ถึงแม้จะห่วงลูกสาวแค่ไหนแต่ก็เลือกที่จะกลับไปหาหัวใจที่เธอคิดว่ายังคอยเธออยู่ที่บ้านเสมอ
ทันทีที่นารีถึงบ้านเขาก็พบว่ามีผู้ชายที่เขาไม่คุ้นหน้ามายืนรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน
“คุณตะวัน”
เข็มจิราทำหน้าที่ไปรับมารดาของเพื่อนจากสนามบิน เธอขับรถมาส่งที่บ้านจึงรู้ว่าคนที่มายืนรออยู่คือตะวัน
“สวัสดีครับ ทำไมคุณรู้จักผม”
“เข็มเป็นเพื่อนสนิทของทรายค่ะ เธอเราทุกเรื่องให้ทรายฟังหมดแล้ว”
ยังไม่ทันที่เจ้าของบ้านจะเปิดประตูให้แขกเข้าไปข้างในก็มีเสียงเด็กน้อยดังมาจากในรถ
“คุณลุงทำอะไรช้าจังคะ”
นารีหันไปตามเสียงและเธอก็ต้องตกใจเมื่อหน้าตาของเด็กน้อยผมเปียเหมือนกับเอกภพมากจนเหมือนว่าใครจับเอาลูกชายเธอตอนเด็ก ๆ มาใส่ผมยาว
“ออมสิน เป็นลูกสาวของเอกภพกับรุจิราน้องสาวผมครับ”
ตะวันอ่านสายตาออกว่ามารดาของภรรยาเขากำลังต้องการคำตอบที่เด็กน้อยทำไมถึงได้หน้าตาเหมือนลูกชายของเธอแบบนี้
ตะวันยังไม่ทันอธิบายอะไร เข็มจิราก็ขอให้เข้าไปคุยกันในบ้านเพราะคุยกันข้างนอกแบบนี้คงไม่สะดวก
เด็กน้อยแสนซนสนิทกับคนง่ายมากไม่นานก็ยอมเล่นกับเข็มตะวันจึงมีโอกาสที่จะได้คุยกับนารี เขาบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเอกภพและน้องสาวของเขา รวมทั้งเรื่องที่เขามาในวันนี้เพื่อตามหาภรรยา
“แม่ดีใจนะที่ครอบครัวของตะวันให้อภัยลูกแม่ ทรายไม่ให้แม่บอกใครแล้วแม่ก็คงไม่ผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับลูกสาว เอาเป็นว่าสิ่งที่แม่พอจะบอกได้ก็คือ ลูกสาวคนนี้ไม่เคยไปไหนมาไหนนอกจากบ้านญาติพี่น้องและครอบครัวของเราก็มีไม่มากนัก ตะวันคงใช้เวลาตามหาไม่นาน แม่คงช่วยได้แค่นี้จริง ๆ ”
ชายหนุ่มเข้าใจและดีใจที่สุดแล้วที่อย่างน้อยวันนี้เขาก็ได้รู้ว่าควรเริ่มตามหาภรรยาจากที่ไหนบ้าง
ออมสินเด็กน้อยหน้าตาน่าเอ็นดู เธอเป็นเด็กพูดเก่งหลังจากที่ตะวันคุยกับนารีเสร็จก็ปล่อยให้หลานกับย่าได้มีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน
“คุณแม่ดูมีความสุขขึ้นนะคะ เข็มอยากให้พาออมสินมาหาท่านบ่อย ๆ อย่างน้อยมันอาจจะช่วยให้ท่านลืมพี่เอกได้บ้าง ทุกวันนี้แทบไม่มีวันไหนที่ท่านจะทิ้งบ้านเลยเพราะคิดว่าพี่เอกยังอยู่ที่บ้าน จากผู้หญิงสวยสง่าตอนนี้ก็ผอมโทรมไปหมดอย่างที่คุณเห็นแหละค่ะ”
เข็มพยายามพูดเรื่องของออมสินเพราะไม่อยากให้ตะวันถามเธอเกี่ยวกับเรื่องของนิรดามาก หญิงสาวกลัวความใจอ่อนของเธอจะเผลอบอกว่าเพื่อนสาวไปแอบหลบอยู่ที่ไหน
“พี่จะหาเวลาพาออมสินมาบ่อย ๆ นะเพราะแม่ของเธอยังไม่พร้อมที่จะมาที่นี่ก็เพราะยังไม่ลืมเรื่องราวในอดีตอีกนั่นและ ”
“อดีตก็ผ่านไปแล้วทำไมหลายคนถึงปล่อยให้มันมาทำร้ายปัจจุบันกันจังคะ”
เข็มจิราถามออกไปโดยลืมว่าหนึ่งคนที่เป็นแบบนั้นก็คือเพื่อนของเธอนั่นเอง
“เพราะแบบนี้พี่จะไม่ปล่อยอดีตให้ทำร้ายพี่กับทราย พี่จะตามภรรยาของพี่ให้เจอ”
ชายหนุ่มขอร้องให้เข็มจิราเล่าเรื่องครอบครัวของภรรยาให้ฟัง เขาหลอกถามไปเรื่อย ๆ จนได้ข้อมูลว่า ญาติ ๆ ของนิรดามีเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนและส่วนมาก็อยู่ที่หมู่บ้านเดียวกันซึ่งเป็นญาติของทางพ่อเสียส่วนใหญ่เพราะมารดาของนิรดาเป็นลูกสาวคนเดียว
วันหยุดนี้ออมสินขอมานอนที่บ้านคุณย่า ตะวันจึงขอร้องให้เข็มมานอนเป็นเพื่อนเพราะเป็นห่วงถ้าคนสูงอายุและเด็กต้องอยู่ด้วยกันตามลำพัง ส่วนตัวตะวันเองจะออกเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อตามหาหัวใจของตัวเขาเอง
บ้านของลุงกับป่าคือหลังแรกที่ตะวันออกตามหาแต่ก็ไม่มีใครเห็นนิรดามาที่นี่ เขาจึงขับต่อไปอีกจังหวัดซึ่งเป็นบ้านของปู่กับย่าและมีอาอยู่ที่หมู่บ้านเดียวกัน
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักท้องฟ้าที่มืดมิดเพราะนาฬิกาบอกเวลาว่าตอนนี้ใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว ตะวันยังคงฝืนขับต่อไปถึงแม้เขาจะไม่ชินทางก็ตามเพราะคิดว่าจากตำแหน่งที่เขาสืบมาไม่กี่กิโลเมตรก็จะถึงบ้านปู่กับย่าของนิรดาแล้ว
ความอ่อนล้าที่ขับรถมาตั้งแต่เช้ามืดจนตอนนี้ยังไม่ได้หยุดพักทำให้ชายหนุ่มเกิดอาการหลับใน สุดท้ายเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ตะวันมารู้ตัวอีกทีเขาก็ขับรถชนต้นไม้ข้างทางเสียแล้ว ความรู้สึกสุดท้ายก่อนที่เขาจะสลบไปคือพยายามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรแต่ไม่ทันจะกดเบอร์ทุกอย่างก็ดับวูบลง
ออมสินสาวน้อยพูดเก่งเข้ามาเติมเต็มหัวใจของคนชราที่ชีวิตเอาแต่คิดถึงลูกชายจนร่างกายทรุดโทรม นิรดาเองก็มัวแต่คิดจะล้างแค้นจนลืมดูแลแม่และยังมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก เข็มเคยคิดว่าอาการของนารีจะต้องทรุดหนักแน่แต่ทุกอย่างกลับตรงข้ามเมื่ออยู่ดี ๆ นารีก็ได้เป็นคุณย่า
“ออมสินนี่พ่อของหนูตอนเด็ก ๆ หล่อไหม ”
“หล่อค่ะคุณย่า คุณแม่เคยเล่าให้ฟังว่าคุณพ่อตัวสูงมาก ออมสินอยากตัวสูงเหมือนคุณพ่อ”
ปกติแล้วนารีจะนั่งดูอัลบั้มรูปของลูกชายเธอทุกวันแต่วันนี้เธอไม่ต้องนั่งดูคนเดียวอีกแล้วเพราะมีสาวน้อยมานั่งดูด้วย
“ไปกินข้าวกันได้แล้วค่ะย่าหลาน”
เข็มจัดโต๊ะอาหารเสร็จก็มาตามย่าหลานให้ไปกินข้าว ออมสินไม่ได้มีแค่หน้าตาที่เหมือนกับบิดาแต่ลักษณะท่าทางยังเหมือนมาก ๆ อีกด้วย ทุกครั้งที่เข็มได้มองเด็กน้อยมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าเอกภพไม่ได้ไปไหนแต่เขายังอยู่ในตัวของลูกสาวต่างหาก
วันหยุดผ่านไปอย่างรวดเร็ว ย่าหลานต้องแยกจากกันกว่าจะได้เจอกันอีกทีก็วันเสาร์อาทิตย์หน้า
“คุณแม่คะ เข็มติดต่อคุณตะวันไม่ได้เลยป่านนี้ยังไม่มารับออมสินอีก เอาแบบนี้ดีกว่าเดี๋ยวเข็มโทรศัพท์ถามทางกับคุณรุจิราแล้วไปส่งออมสินเองดีกว่า เย็นแล้วพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน”
เข็มขอเบอร์โทรศัพท์จากออมสินเพราะเธอจดเบอร์ของทุกคนพกติดตัวตลอด
“พี่ตะวันไม่ติดต่อมาเลยค่ะเมื่อช่วงบ่ายคุณแม่ไปแจ้งความแล้ว ขอบคุณคุณเข็มมากนะคะที่จะมาส่งออมสินให้เพราะทางนี้คงต้องวุ่นกับการตามหาพี่ตะวันกันค่ะ”
เข็มรีบรายงานเรื่องของตะวันให้นารีรู้ คนเป็นแม่รีบโทรศัพท์หาลูกสาวเพราะคิดว่าตะวันต้องขับรถไปตามหานิรดาแน่นอนและกังวลว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนเมื่อครั้งที่ เอกภพออกตามหารุจิรา
“คุณตะวันไม่ได้มาที่นี่ค่ะแม่”
“หรือว่าจะไปแล้วไปไม่ถึง” นารีเผลอพูด
“คือแม่...กลัว ทรายแม่กลัวจะเป็นเหมือนคราวเอก ลูกช่วยเช็คกลับทางตำรวจและโรงพยาบาลได้ไหมว่าสองวันมานี้เกิดอุบัติเหตุขึ้นที่ไหนบ้าง”
หญิงสาวรีบทำตามทันทีและสิ่งที่เธอได้รับคือก่อนถึงหมู่บ้านของเธอไม่ถึงสิบกิโลเมตรมีอุบัติเหตุในคืนวันเสาร์มีคนขับรถตกข้างทางชนกับต้นไม้อาการสาหัส
“ฉันสงสัยว่า คนไข้จะเป็นสามีของฉันค่ะ”
นิรดาตัดสินใจประสานงานกับตำรวจเพื่อพาเธอไปที่โรงพยาบาลเพื่อขอดูข้อมูลและหน้าของคนป่วยที่หญิงสาวคิดว่าอาจจะเป็นตะวันสามีของเธอ
“คุณตะวัน”
ภาพของชายหนุ่มที่ใบหน้ายังคงเหมือนเดิมมีเพียงแค่แผลที่หน้าผากและสายระโยระยางเต็มไปหมดทำให้นิรดาจำได้ทันทีว่าคือสามีของเธอ
“คนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนในส่วนสมองแต่ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วเหลือแต่รอคนไข้ฟื้นแล้วค่อยประเมินการรักษาต่อไป”
คุณหมอแจ้งอาการและแนวทางการรักษาทันทีที่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคือภรรยา
หญิงสาวโทรศัพท์บอกกับเข็มเพื่อให้เพื่อนช่วยแจ้งข่าวครอบครัวของตะวัน นิรดาขนเสื้อผ้ามานอนที่โรงพยาบาลเพื่อเฝ้าสามีทั้งวันทั้งคืน
“พี่ตะวันฟื้นขึ้นมานะคะ มาอยู่กับทรายอยู่กับลูก ทรายสัญญาว่าจะไม่หนีพี่ไปไหนอีก”
ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จากชายหนุ่มที่นอนหลับตานิ่งสงบอยู่บนเตียง นาทีนี้นิรดายอมทุกอย่าง เธอพร้อมจะกลับไปเผชิญหน้ากับทุกคนที่เธอเคยทำร้ายขอแค่เพียงให้สามีของเธอตื่นขึ้นมาไม่ว่าเขาจะฟื้นมาในสภาพใหนก็ตามเธอก็จะอยู่ดูแลเขาตลอดไป
ตอนที่ 8ยอมแล้วซึ่งทุกอย่าง ชม้อยและรุจิราเดินทางมาหาตะวันทันทีที่รู้ข่าว ภาพของ นิรดาในชุดคลุมท้องที่กำลังนอนหลับอยู่ข้าง ๆ ตัวของคนเจ็บเป็นภาพที่ทำเอาน้ำตาของทุกคนไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่สะเทือนใจ “ทราย ตื่นได้แล้วลูก” แม่สามีค่อย ๆ ลูบผมของหญิงสาวที่กำลังนอนอยู่ด้วย ความสงสาร “คุณแม่ ! ” คนทำผิดทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นทันทีที่เห็นว่าผู้หญิงตรงหน้าคือใคร “ทรายขอโทษ พี่ตะวันต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะทราย ทุกคนต้องเดือดร้อนไปกันหมดเพียงเพราะความแค้นบ้า ๆ ที่ทรายคิดไปเองคนเดียว ทรายกราบขอโทษนะคะ” ชม้อยรีบประคองลูกสะใภ้ให้ลุกขึ้นเพราะท่าทางที่ดูก้มไม่ถนัดของคนท้องยิ่งทำให้หญิงชราทั้งสงสารและเป็นห่วง “มันผ่านไปแล้ว ทุกคนเคยทำผิดกันทั้งนั้น แม่เองก็ทำผิดมาไม่รู้กี่ครั้ง เราย้อนไปแก้ไขไม่ได้ขอแค่ว่าอย่ากลับไปทำผิดอีกก็พอ” รุจิราเองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าแล้วก็อดคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อนไม่ได้ “ลูกคือของขวัญที่มีค่าที่สุดค่ะ ตอนนี้พี่ทั้งสองคนไม่ได้มีแค่ตัวเองแล้วยังมีอีกชีวิตที่ต้อง
ตอนที่ 9ไม่มีอะไรติดค้าง ชม้อยและรุจิราเดินทางกลับในเช้าของอีกวันเพราะออมสินต้องไปโรงเรียนและยังมีงานที่บริษัทรออยู่ “แม่ฝากตะวันด้วยนะลูก คุณหมอบอกหนูทรายแล้วใช่ไหมว่าพี่เขาคงต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเดินได้ปกติ” ชม้อยพูดเองเพราะคุณหมอไม่ได้บอกอะไรกับนิรดาเลยตั้งแต่ชม้อยมาถึงทางโรงพยาบาลก็จะคุยทุกอย่างกับเธอมากกว่า “ไม่ได้บอกค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะต่อให้พี่ตะวันจะเดินไม่ได้ ทรายจะเป็นเท้าเป็นมือเป็นทุกอย่างให้สามีของทรายเอง ความรักที่พี่ตะวันมีให้ทรายมันมากเกินกว่าที่ทรายจะตอบแทนได้ หลังจากนี้เราจะใช้ความรักดูแลกันและกันตลอดไปค่ะ” ชม้อยได้ยินแบบนี้ก็ดีใจ เธอรู้สบายใจขึ้นที่ต้องทิ้งตะวันไปแบบนี้แต่ถ้าจะให้อยู่เฝ้าเธอก็อดเป็นห่วงรุจิรากับออมสินไม่ได้เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่งมากอยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังจากที่ไตรมาสที่แล้วผลกำไรลดลงเกือบเท่าตัว หญิงสาวที่กำลังท้องใหญ่ทำอะไรไม่ค่อยถนัดแต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดทั้งเช็ดตัว พาคนป่วยไปเข้าห้องน้ำ เดินขึ้นเดินลงคอยซื้อของให้ ดูแลปรนิบัติอย่างดีที่สุดจนคุณหมออนุญาติให้ตะวันกลับบ้านได
ตอนที่ 1เลขาเด็กเส้น...........“คุณตุลาเซ็นเอกสารไม่ครบหนึ่งหน้าค่ะ”น้ำขิงเลขาสาวที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่ไม่ถึง 2 เดือนเธอเคาะประตูแต่ไม่ได้รับเสียงตอบจากเจ้านายจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องเพราะมีเอกสารเร่งด่วนที่ตุลาลืมเซ็นและเธอต้องส่งให้กับบริษัทของลูกค้าภายในวันนี้“ผมอนุญาตให้คุณเข้ามาแล้วหรือไงไม่เห็นหรือว่าผมกำลังยุ่งอยู่”เจ้านายขึ้นเสียงใส่อารมณ์กับเลขาสาวที่เขาไม่ค่อยชอบขี้หน้าด้วยความหงุดหงิดเพราะตอนนี้อารมณ์ของเจ้านายกำลังอยู่ในสภาวะเหมือนไฟที่กำลังโหมลุกในใจเมื่อเพื่อนชายคนสนิทโทรศัพท์มาเล่าว่าได้พบภรรยาของตุลาที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งความเป็นจริงแล้วภรรยาของเขายืนยันว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งเฝ้า ลูกสาวอยู่ที่โรงเรียน“ไม่มีใครอนุญาตค่ะแต่มีเอกสารสำคัญที่คุณต้องเซ็น”ตุลาคว้าแฟ้มจากมือของลูกน้องที่ดูคล้ายว่าเขาจะกระชากเสียมากกว่า เขารีบเซ็นเอกสารตามที่น้ำขิงต้องการและยื่นให้เธอโดยไม่มองสบสายตาเหมือนว่าตอนนี้หัวใจของเขากำลังล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“น้ำขิงนั่งก่อนสิผมมีอะไรอยากถาม”ตุลาเอ่ยเรียกลูกน้องที่กำลังจะเปิดประตูหน้าห้องออกไปเพราะตอนนี้
ตุลาเปิดประตูห้องทำงานออกมาเขาคิดว่าเวลานี้คงไม่มีใครอยู่ในบริษัทแล้วเพราะปกติบริษัทของเขาให้พนักงานกลับได้ในเวลา ห้าโมงเย็น เต็มที่ทุกคนก็จะอยู่กันไม่เกินหกโมงแต่นี่เลยเวลาเลิกงานมานานแล้วเขากลับพบว่าน้ำขิงยังคงนั่งอยู่ที่หน้าห้องของเขาตามเดิม“ฉันเห็นคุณยังไม่กลับก็เลยคิดว่าบางทีคุณอาจจะกำลังทำงานและฉันในฐานะเลขาก็ควรจะอยู่ก่อนเผื่อคุณจะมีอะไรให้ทำ”“ไปกินข้าวเย็นเป็นเพื่อนหน่อยสิจอดรถไว้ที่บริษัทเดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านเองส่วนพรุ่งนี้เช้าผมก็จะแวะไปรับไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมหรือว่ามีนัดแล้วก็บอก”น้ำขิงแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่เธอกำลังได้ยินตอนนี้เพราะตั้งแต่เธอเข้ามาทำงานเจ้านายของเธอก็แทบจะไม่มีท่าทางแห่งความเป็นมิตรให้เพราะตุลาไม่พอใจที่บิดาของเขาบังคับให้เขาต้องรับน้ำขิงเข้ามาทำงานในตำแหน่งเลขาทั้งที่เขามองว่ามีคนที่เหมาะสมกว่าจึงสบประมาทสาวน้อยว่าเป็นเด็กเส้นและก็จ้องแต่จะจับผิดเธอตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานจนถึงวันนี้ หญิงสาวแทบไม่เชื่อเลยว่าตอนนี้เขาจะเอ่ยปากชวนเธอไปกินข้าวและยอมไปรับไปส่งซึ่งมันคงจะทำให้ฟ้าฝนตกจนกรุงเทพฯน้ำท่วมเป็นแน่“ร้านนี้เป็นร้านอาหารแบบบ้าน ๆ ไม่รู้ว่าเธอจะกิน
ตอนที่ 2เมียพี่มีชู้“วันนี้เราไปรับลูกที่บ้านคุณพ่อกันนะ”ตุลาชวนภรรยาทันทีหลังจากที่เขาตื่นนอนถึงแม้ว่าหญิงสาวข้างๆจะยังไม่ลืมตาก็ตามแต่การพลิกตัวไปมาทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าตอนนี้เธอตื่นแล้ว“คุณไปรับคนเดียวเถอะจะได้มีเวลาอยู่กับพ่อแม่คุณบ้าง วันนี้ดารู้สึกเหนื่อยอยากจะหลับนาน ๆ ไม่อยากไปไหน”คนเป็นสามีได้แต่ถอนหายใจเพราะไม่มีประโยชน์อะไรแล้วที่เขาจะหาเรื่องทะเลาะกับภรรยาที่ผ่านมาตลอด 2 เดือนที่เขาสงสัยว่าเธอกำลังมีคนอื่นทุกครั้งที่เขาเอ่ยถามเธอตรง ๆ นิดาก็มักจะก่อสงครามวาจาขึ้นทันทีตุลาคิดถึงครั้งล่าสุดที่ทั้งคู่ทะเลาะกันถึงขั้นขว้างปาของและคนที่ได้รับผลกระทบก็คือเด็กน้อยขนมจีนที่ร้องไห้มาเคาะห้องนอนของพ่อและแม่ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวคนเป็นพ่อจึงตั้งใจว่าจะไม่ทะเลาะกับภรรยาอีกปู่กับย่ารับรู้เรื่องราวของพ่อและแม่หลานสาวมาโดยตลอดแต่ไม่ใช่จากปากของทั้งคู่แต่เป็นจากแม่บ้านซึ่งเป็นคนสนิทของวลีเธอส่งแม่บ้านให้ไปคอยดูแลลูกชายและรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนั้นทั้งหมด“นิดาเขาดูไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลยนะลูก”ตั้งแต่ลูกชายแต่งงานและแยกบ้านออกไปครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่วลีเลือกที่จะถามเรื่
ตุลาเดินออกมาพร้อมแฟ้มงานยื่นให้เลขา เขากล่าวขอบคุณด้วยใจจริงเพราะเขาไม่คิดว่าหญิงสาวที่เขาเคยพูดไม่ดีด้วยตลอดจะช่วยเลี้ยงลูกโดยเฉพาะสามารถทำให้ขนมจีนมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งวันซึ่งปกติแล้วลูกสาวคนนี้ของเขาจะไม่ค่อยเข้ากับคนแปลกหน้าง่าย ๆ ตุลายังคิดว่าท้ายที่สุดแล้วเขาคงต้องเป็นคนเลี้ยงลูกคนเดียวแน่ถ้าขนมจีนไม่ยอมอยู่กับน้ำขิงแต่สุดท้ายแล้วเด็กน้อยไม่ยอมห่างจากคุณพี่เลขาเลย เจ้านายพาเลขาสาวและขนมจีนไปเลี้ยงอาหารมื้อค่ำเพื่อเป็นการตอบแทนที่วันนี้นอกจากน้ำขิงจะทำหน้าที่เลขาได้เป็นอย่างดี เธอยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับขนมจีนอีก ร้านอาหารที่ทั้งคู่เลือกคราวนี้ไม่ใช่ร้านอาหารอีสานแต่เป็นร้านสเต็กตามแบบที่ขนมจีนชื่นชอบแต่ไม่บ่อยครั้งที่ตุลาจะยอมพาลูกมาเพราะไม่อยากให้ลูกสาวต้องติดนิสัยนอนดึกส่วนมากจึงเลือกที่จะกินแต่อาหารที่บ้านเท่านั้น“วันนี้คุณพ่อใจดีจังค่ะ” ลูกสาวพูดด้วยรอยยิ้มเพราะนานมากแล้วที่เธอไม่มีโอกาสได้มากินอาหารนอกบ้านแบบนี้“พ่อไม่ค่อยมีเวลาวันนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีพ่อก็เลยตามใจลูกเป็นพิเศษหลังจากกินเสร็จแล้วพ่อว่าจะพาขนมจีนไปแวะซื้อของเล่นแต่พ่อให้งบจำกัดและห้าม
ตอนที่ 3เลขาภรรยาข้ามคืน“คุณออกมาหาผมหน่อยได้ไหมแต่ผมคงไม่ได้เข้าไปรับหรอกนะเอาเป็นว่าผมจะรอคุณอยู่ลานจอดรถของที่บริษัท”ตุลาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปที่ไหนหรือควรจะไประบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ใครฟังแล้วคนแรกที่เขาคิดถึงก็คือน้ำขิง ผู้หญิงที่เขาเคยไม่ชอบหน้าและมองว่าเธอเป็นเด็กไม่รู้จักโตตุลาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเวลานี้เขากลับต้องการให้เธอมารับฟังถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยแต่ทุกครั้งที่ได้อยู่กับน้ำขิงเจ้านายอย่างเขากลับรู้สึกสบายใจ“มีอะไรเกิดขึ้นหรือคะถึงได้โทรมาเวลานี้”เลขาสาวรู้สึกงัวเงียเมื่อถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยเสียงโทรศัพท์เพราะตอนนี้ใกล้เวลาจะตีหนึ่งแล้ว“มันคงดึกไปจริง ๆ เธอเองก็เป็นผู้หญิงคงไม่เหมาะที่จะออกมาในเวลานี้...ไม่เป็นไรผมไม่มีอะไรหรอกแค่รู้สึกว่าไม่อยากอยู่คนเดียว”เจ้านายนึกขึ้นมาได้ว่าถึงแม้ว่าน้ำขิงจะเป็นเลขาของเขาแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถโทรเรียกเธอมาเมื่อไหร่ก็ได้เพราะตอนนี้เป็นเวลาที่ดึกมากแล้วแต่สุดท้ายยิ่งสาวกลับตัดสินใจที่จะออกมาตามคำขอร้องของเจ้านายด้วยความเป็นห่วง“ขอบคุณนะที่ยอมออกมา ผมว่าเราไปหาที่สงบคุยกันดีกว่าที่นี่
ชายหนุ่มเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนนี้ก่อนที่เขาจะย้อนไปถึงความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาที่เริ่มไม่เหมือนเดิมตั้งแต่วันที่ นิดาคลอดขนมจีนออกมา น้ำขิงตั้งใจฟังเธอเข้าใจดีว่าชายหนุ่มกำลังต้องการบอกเธอว่าทุกการเปลี่ยนแปลงของนิดาสาเหตุทั้งหมดก็มาจากความจริงในค่ำคืนนี้เธอมีผู้ชายอื่นมาโดยตลอดซึ่งผู้ชายคนนั้นไม่ได้เป็นคนใหม่ที่เข้ามาแต่เขากลับเป็นคนเก่าที่ไม่เคยหายไปจากชีวิตเธอเลย“แล้วคุณจะไปสนใจอะไรกับคนที่ไม่ได้รักคุณ”น้ำขิงคิดอย่างที่พูดจริง ๆ เพราะชีวิตของเธอ เธอไม่เคยมีความรักมาก่อน เธอไม่รู้จักความผิดหวังหรือสมหวังชีวิตของเธอ เธอรู้จักแค่ความรักที่พ่อและแม่มีให้ความฝันของเธอมีความหมายกว่าทุกสิ่ง เธอถึงไม่เข้าใจความรู้สึกของตุลาตอนนี้สำหรับเธอแล้วในเมื่อความรักมันคือทุกข์ เดินออกมาแล้วปล่อยให้นิดาได้ไปมีชีวิตของตัวเองน่าจะดีที่สุด“พูดเหมือนง่าย ใครว่าผมไม่อยากปล่อยนิดาไป ผมพยายามแล้วแต่แค่คิดว่าจะไม่มีเธอผมก็อยู่ไม่ได้”“ทำไมจะอยู่ไม่ได้ก่อนหน้านี้ คุณเกิดมาคุณก็ไม่มีภรรยา คุณมีแค่พ่อกับแม่แล้วก็ชีวิตของคุณเองที่ผู้มีพระคุณให้มาเท่านั้นคุณอย่าเอาข้ออ้างนี้มาใช้ในการทำร้ายตัวเองหร