ตอนที่ 1
เริ่ม...
“ตะวันเรื่องแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล็ก แม่อยากให้ลูกลองคิดทบทวนอีกสักครั้งได้ไหม”
ชม้อยไม่ชอบว่าที่ลูกสะใภ้เสียเท่าไหร่ถึงแม้จะไม่เคยเจอกันแต่ก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาขัดลูกชาย
“ผมตัดสินใจมาดีแล้วครับคุณแม่ เราสองคนอาจจะคบกันได้ไม่นานแต่เรามั่นใจว่าเราทั้งคู่รักกันมากพอที่จะร่วมสร้างครอบครัว คุณแม่เชื่อใจผมนะครับ”
ตะวันโอบกอดมารดาอย่างเอาใจ ตั้งแต่บิดาจากไปครอบครัวชัฏพนาลีก็มีกันอยู่เพียงแค่สามคนแม่ลูก ชม้อยดูแลธุรกิจต่อจากสามีและทำมันได้ดีจนฐานะร่ำรวยส่งลูก ๆ ทั้งสองคนให้ได้เรียนต่อต่างประเทศอย่างที่ลูก ๆ ต้องการ ทุกการตัดสินใจในทุกเรื่องชม้อยจึงเป็นใหญ่ที่สุด
“ในเมื่อแม่ห้ามลูกแล้วลูกไม่ฟังก็คงต้องยอมแต่...คงไม่ใช่แต่งภายในปีนี้นะแม่ขอเป็นคนไปดูฤกษ์เอง”
“ได้เลยครับแค่เราสองคนได้แต่งงานกัน ผมก็มีความสุขที่สุดแล้ว”
คนเป็นแม่ยืดเวลาเพื่อหวังว่างานแต่งงานครั้งนี้จะถูกล้มเลิกก่อนที่วันแต่งงานจะมาถึงเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของลูก ๆ เธอที่อยากแต่งงานแต่ทุกครั้งสุดท้ายก็มีอันต้องยกเลิกก่อนพอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาชม้อยก็อดคิดถึงลูกสาวไม่ได้เพราะเมื่อสองปีที่แล้วรุจิรามาปรึกษาเธอเรื่องจะแต่งงานแต่ยังไม่ทันได้แต่งว่าที่เจ้าบ่าวก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อน
“ฟ้ากลับมาบ้านบ้างสิลูก แม่กับตะวันอยากกินข้าวเย็นพร้อมหน้ากัน”
คนเป็นแม่ทนคิดถึงลูกสาวไม่ไหวจึงตัดสินใจโทรศัพท์หา ตั้งแต่แฟนหนุ่มจากไป ฟ้าก็ย้ายตัวเองไปเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เชียงใหม่ปิดตัวเองจากสังคมชั้นสูงเก็บตัวเงียบนาน ๆ ทีถึงจะกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ของครอบครัว
“คุณแม่ฟ้าขอเวลาสักพักนะคะตอนนี้เพิ่งเปิดสาขาใหม่ไว้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจะรีบบินไปเลยนะคะ”
คำตอบที่ได้ไม่ได้ทำให้คนคิดถึงแปลกใจอะไรเพราะมันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง
ชม้อยไม่ค่อยได้รู้เรื่องส่วนตัวของลูกสาวเพราะรุจิราเป็นผู้หญิงที่โลกส่วนตัวสูง วันที่ลูกสาวพาชายหนุ่มมาแนะนำให้ชม้อยรู้จักและบอกว่าเขาคือคนที่เธอจะแต่งงานด้วยวันนั้นชม้อยตกใจมากและพยายามยืดเวลาเหมือนครั้งนี้ที่ตะวันอยากแต่งงานแต่ยังไม่ทันจะได้รู้จักอนาคตลูกเขยก็ได้ข่าวอีกทีว่าเขาเสียชีวิตแล้ว
รุจิราไม่ยอมให้คนในครอบครัวไปงานศพของคนรักและนับตั้งแต่เหตุการณ์นั้นหญิงสาวก็ย้ายไปอยู่เชียงใหม่และแทบจะไม่กลับมาบ้านอีกเลย
ตะวันลูกชายเพียงคนเดียวดูแลและอยู่เคียงข้างมารดามาตลอดสองปีที่ครอบครัวของเขาเหมือนเหลือกันแค่สองคน ชม้อยจึงรักและหวงลูกชายคนนี้มากจึงเป็นสาเหตุให้การแต่งงานของตะวันต้องพังก่อนทุกครั้งเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนทนกับแม่คนรักที่แสนจะร้ายอย่างชม้อยได้เลยสักคน
“คุณคะฉันไม่อยากเสียลูกไปอีกคน วันนี้ตะวันมาขอจะแต่งงานอีกแล้วค่ะ มันผิดใช่ไหมที่ฉันทำลายความรักของลูกแต่ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวงานแต่งงานจะต้องไม่เกิดขึ้น”
ชม้อยคุยกับรูปของสามีที่ติดอยู่ที่ผนังห้องนอนเพราะตอนนี้เธอกำลังคิดวิธีที่จะทำให้อนาคตลูกสะใภ้ทนไม่ได้และทิ้งลูกชายของเธอไปเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผ่านมา
ตะวันรู้สึกโล่งใจที่ได้บอกกับมารดาเรื่องที่เขาจะแต่งงานจึงรีบขับรถมาหาแฟนสาวที่เขาเพิ่งคบหาได้ไม่ถึงปี
“วันนี้พี่ตะวันมีอะไรหรือเปล่าคะตั้งแต่มาถึงเอาแต่มองหน้าทรายยิ้มไปยิ้มมาอยู่คนเดียวแบบนี้”
นิรดาหรือทรายเป็นคนรักของตะวัน หญิงสาวเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นานพอกลับมาถึงก็พบรักกับชายหนุ่มทันที
“ถ้าพี่บอกรับรองว่าทรายต้องดีใจและอาจจะยิ้มมากกว่าพี่ก็ได้นะ”
ชายหนุ่มลุกมานั่งบนโซฟาข้าง ๆ หญิงสาว มือใหญ่คว้ามือเล็กมาวางไว้บนตักเขา สายตาส่งผ่านความสุขไปหาอีกฝ่ายก่อนที่จะบอกข่าวดี
“พี่บอกคุณแม่แล้วนะเรื่องที่เราจะแต่งงานกัน”
“คุณแม่พี่ตกลงไหมคะ”
นิรดาลืมตัวรีบปล่อยมือที่ถูกอีกฝ่ายจับไว้มาเขย่าตัวคนเล่าอย่างแรง
“ใจเย็นครับทราย” คนพูดยิ้มดีใจที่อีกฝ่ายดูตื่นเต้น
“พี่ตะวันจะให้ทรายใจเย็นได้อย่างไรคะ เราพูดเรื่องนี้กันเกือบทุกวันพี่ตะวันก็เอาแต่บอกว่าไว้หาโอกาสแล้วจะบอกท่านเองจนทรายอดคิดไม่ได้ว่าความจริงแล้วพี่ตะวันนั่นแหละที่เป็นฝ่ายไม่อยากแต่งงานเองเสียมากกว่า”
ชายหนุ่มเมื่อเจอดรามาแบบนี้เข้าไปยิ่งกอดคนรักไว้แน่นหอมแก้มขาวหนึ่งทีด้วยความดีใจที่วันนี้เขากล้าพอแล้ว
“คุณแม่ให้เราแต่งงานกันได้แต่ท่านขอเป็นคนไปดูฤกษ์เอง”
ตะวันเล่าความจริงแค่เพียงครึ่งเดียวเพราะเขาไม่อยากให้คนรักมีความรู้สึกไม่ดีกับมารดาเขา ความรักที่พังมาถึงสองครั้งทำให้ชายหนุ่มพยายามปกป้องความรู้สึกของคนรักให้มากที่สุดเพราะไม่อยากให้ทุกอย่างต้องพังเหมือนเดิม
“ขอบคุณนะคะ ทรายรอได้ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่เพราะงานแต่งงานของเรามันมีค่ามากแม้จะต้องรอคอยนานก็ตาม”
หญิงสาวมองสบตาคนรัก เธอคิดอย่างที่พูดจริง ๆ แต่คำว่ามีค่าของเธอมันไม่ใช่อย่างที่ตะวันกำลังคิดสำหรับหญิงสาวที่ยอมทิ้งทุกอย่างมาเพื่อจะทำให้ชายหนุ่มแต่งงานด้วยมันมีค่ามากกว่าที่ตะวันคิดมากและเหตุผลที่แท้จริงมันจะเป็นความลับที่นอกจาก นิรดาจะไม่มีใครได้รู้ความจริงจนกว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เธอต้องการ
“พรุ่งนี้ทรายไปกินข้าวที่บ้านพี่นะ คุณแม่จะได้รู้จักกับทราย พี่เชื่อว่าถ้าท่านได้เจอสุดที่รักของพี่ได้คุยได้รู้จัก คุณแม่จะต้องรีบหาฤกษ์แน่ ๆ ”
“ไม่” หญิงสาวตะคอกกลับ
“ทำไม” ชายหนุ่มขึ้นเสียงกลับทันที
นิรดารีบตั้งสติเมื่อรู้ว่าอาการที่เธอแสดงออกไปมันจะทำให้เรื่องแย่ทั้งที่มันกำลังจะไปได้ดี
“ทรายขอโทษนะคะที่เผลอพูดเสียงดัง คือ...ทรายกลัวค่ะ พี่ตะวันเคยเล่าให้ฟังเองนี่คะว่าผู้หญิงทั้งสองคนต้องเลิกกับพี่หลังจากที่ได้พบกับคุณแม่แค่เพียงไม่กี่ครั้ง ขอเวลาให้ทรายหน่อยนะคะ”
สาวสวยรูปร่างดีทั้งกอดทั้งคลอเคลียแฟนหนุ่มอย่างเอาใจและมันก็ได้ผลทุกครั้งที่เธอต้องการจะง้ออีกฝ่าย
ตะวันเคยเป็นเสือมาก่อนแต่ความรักที่ผิดหวังถึงสองครั้งติดทำให้ตอนนี้เขากลายเป็นแมวทันทีเพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้งานแต่งงานที่เคยจะเกิดขึ้นต้องพังลงก็เกิดจากตัวเขาเองด้วยที่รักผู้หญิงทั้งสองคนไม่มากพอ
“พี่เข้าใจถ้าอย่างนั้นพาพี่ไปหาคุณแม่ของทรายบ้างได้ไหม เราจะแต่งงานกันแล้วพี่ยังไม่รู้จักครอบครัวของแฟนพี่สักคน”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ชีวิตของทรายตัวคนเดียวเอาจริง ๆ ตอนนี้ทรายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อกับแม่อยู่ที่ไหน เราไม่ได้เจอกันเกือบสิบปีแล้ว งานแต่งงานจะไม่มีญาติฝ่ายเจ้าสาวค่ะ”
ตะวันไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอะไรเพราะหญิงสาวได้บอกไว้ตั้งแต่แรกว่าชีวิตเธอไม่มีพ่อแม่ไม่มีญาติ เธอเติบโตมาได้เพราะช่วยเหลือตัวเองมาตลอดตั้งแต่อายุได้สิบห้าปี ความเจ็บปวดที่นิรดาเล่าให้คนรักฟังมันสมจริงจนตะวันไม่กล้าแม้แต่จะถามอะไรต่อ ได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่คนรักต้องการเท่านั้น
ตอนที่ 2สมบัติชิ้นแรก นิรดาเป็นผู้หญิงสวยนอกจากความสวยคือเสน่ห์ในตัวเธอ ความน่ารักสดใสขี้อ้อนและมีความเป็นผู้ใหญ่ในเวลาที่ควรเป็น ทำให้ตะวันหลงแฟนสาวคนนี้มากกว่าแฟนคนอื่นที่เคยผ่านมา “แม่ไม่สบายใจหยุดเถอะนะลูก” นารีรับรู้เพียงว่าลูกสาวกำลังหาทางแก้แค้นแทนพี่ชายแต่ที่เธอไม่รู้ก็คือทุกอย่างเดินหน้ามาจนถึงขั้นจะแต่งงานแล้ว “คุณแม่คะทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ทรายไม่ได้ทำอะไรเลยที่คุณตะวันกับลูกสนิทกันมันคือแผนการณ์ก็จริง ลูกแค่อยากรู้จักครอบครัวนี้ให้มากขึ้นบางทีเราอาจจะรู้เรื่องอะไรมากขึ้นเกี่ยวกับการจากไปของพี่เอกก็ได้นะคะ” นิรดาไม่กล้าพอที่จะบอกแผนการจริง ๆ ทั้งหมดให้กับมารดารู้เพราะไม่มีทางที่แม่ของเธอจะยอมแน่ ๆ ที่ลูกสาวยอมเอาทั้งตัวและหัวใจเข้าไปเดิมพันแบบนี้ หญิงสาวบอกให้มารดารับรู้แค่เพียงว่าเธออยากทำความรู้จักกับครอบครัวของรุจิราเพื่อที่จะสืบให้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้พี่ชายของเธอต้องประสบอุบัติเหตุ เอกภพพี่ชายแท้ของนิรดาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตได้สองปีแล้วทางครอบครัวไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มที่ไม่เค
ตอนที่ 3แผนต่อไป “ขอบคุณพี่ตะวันมาก ๆ นะคะ ชีวิตของทรายโชคร้าย มาตลอดจนวันนี้วันที่ฟ้าส่งพี่ตะวันมา จากเม็ดทรายที่ดูไร้ค่าตอนนี้พี่ทำให้มันกลับกลายมาเป็นเม็ดทรายที่ราคาแพงที่สุดเลยค่ะ” หญิงสาวสวมกอดชายคนรักอย่างเอาใจ สองมือเล็กลูบไล้ไปทั่วหลังที่หนากว้าง ปากเล็กจูบลงไปที่แก้ม ตาทั้งสองดวงมองประสานกันให้ความรู้สึกที่แสนยั่วยวนจนชายหนุ่มเริ่มไม่มีสติเหมือนกำลังถูกอีกฝ่ายสะกดจิตไว้ “ทราย...อย่าล้อเล่นนะ” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือแหบแห้ง สองมือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อตัวเล็กของคนตรงหน้า “ทรายรักพี่ตะวันนะคะ” นิรดากระซิบข้างหูของคนรักทำท่ายั่วยวนอย่างเต็มกำลังแต่เมื่ออีกฝ่ายเริ่มรุกอย่างเต็มที่ เธอกลับผลักเขาออกจากตัวและเล่นบทเศร้าแทน “ปล่อยทรายเถอะค่ะ” “ทำไม! ไหนทรายบอกว่ารักพี่” ตะวันงงและสับสนไปหมดเมื่อครู่หญิงสาวเป็นฝ่ายยั่วยวนเขาแต่เวลานี้ เธอกลับนั่งปิดหน้าร้องไห้เสียอย่างนั้น “ทรายขอโทษแต่ทรายทำไม่ได้ชีวิตนี้มีเรื่องเดียวที่ทำให้ผู้หญิงจน ๆ รู้สึกว่าตัวเองมีค่าก็คือความบริสุทธิ์ขอ
ตอนที่ 4แต่งงานของเธอและฉัน ชม้อยตกหลุมรักอนาคตลูกสะใภ้อย่างไม่รู้ตัว รสชาติอาหารที่อร่อยแบบเฉพาะ การเอาอกเอาใจดูแลที่หญิงวัยใกล้ชราโหยหาจากลูกทั้งสองคนแต่เธอก็ไม่เคยได้รับจนเมื่อนิรดาได้เข้ามาในฐานะคนรักของลูกชาย หญิงสาวดูแลอนาคตแม่สามีเป็นอย่างดีจนตอนนี้ชม้อยติดอนาคตลูกสะใภ้มาก “พรุ่งนี้ไปรับหนูทรายมาแต่เช้านะลูก” วันหยุดคือวันที่หญิงวัยใกล้หกสิบรอคอยเพราะเธอจะได้มีเพื่อนอยู่บ้านและทำของอร่อยให้เธอกินทั้งวัน “ลืมผมแล้วมั้งครับถามหาแต่ทราย เมื่อไหร่คุณแม่จะได้ฤกษ์แต่งงานสักทีครับ ผมกับทรายจะได้อยู่ด้วยกันคุณแม่ก็จะได้มีเพื่อน” ตะวันดีใจที่เห็นมารดาของเขาชอบในตัวคนรักถึงแม้ในช่วงเดือนแรกคนเป็นแม่จะตั้งท่าหาเรื่องก็ตาม “แม่ไปหามาหลายที่แต่ละที่ก็บอกว่าต้องหลังปีหน้าไปแล้ว ไม่ใช่ว่าแม่ไม่อยากให้แต่ง ตะวันจะให้แม่ทำอย่างไรล่ะ” “ก็เอาฤกษ์สะดวกสิครับ คนเรารักกันแต่งตอนไหนก็ฤกษ์ดีทั้งนั้น” ตะวันกับชม้อยนั่งปรึกษากันจนในที่สุดทั้งคู่ก็ลงความเห็นว่าเอาเป็นฤกษ์สะดวกดีกว่า “ตกลงเราจะไม่มีสินสอดจริง ๆ ใช่ไหม”
ตอนที่ 5แค้นก็แค้นรักก็รัก สามวันหลังงานแต่งงานตะวันไม่ยอมปล่อยให้นิรดาได้ออกจากบ้านไปไหนเขาอ้างเหตุผลว่าคนที่เพิ่งแต่งงานมักจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น นอกจากตะวันที่ไม่ยอมไปทำงานอยู่เฝ้าภรรยาตลอดยังมี แม่สามีที่เป็นหูเป็นตาอีกแรง หญิงสาวว้าวุ่นใจไปหมดเพราะสามวันแล้วที่เธอกับเขานอนด้วยกันเธอยังไม่ได้กินยาคุมกำเนิด แผนของเธอจะต้องไม่มีชีวิตน้อย ๆ มาเกี่ยวข้องเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นทุกอย่างจะจบลงทันที “พรุ่งนี้ท่านประธานไปทำงานได้แล้วนะคะ มามัวเฝ้าเมียอยู่แบบนี้อีกไม่นานบริษัทคงไม่ต้องการคนดูแลแล้ว” นิรดาแกล้งพูดแบบทีเล่นทีจริงเพราะเธอคิดว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้นาน ๆ มีหวังเธอต้องพลาดแน่ “ใช่พี่ลืมบอก พรุ่งนี้ทรายต้องไปทำงานกับพี่ เตรียมตัวให้พร้อมนะตำแหน่งเลขาส่วนตัวท่านประธาน” “อะไรกันคะ ทรายไปสมัครตอนไหนไม่เอา ทรายไม่อยากทำงานที่เดียวกับสามีตัวเองเดี๋ยวใคร ๆ จะมองว่าเป็นเด็กเส้น” “เส้นแล้วอย่างไรเส้นใหญ่ด้วยที่พี่บอกไว้ว่าถ้าทรายลาออกพี่จะให้เงินเดือนห้าหมื่นตอนนี้พี่จะเพิ่มให้เป็นแปดหมื่นกับตำแหน่งเลขาส่วนตัว” ตะวัน
ตอนที่ 6เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เราสองคน ค่ำคืนนี้มันคือค่ำคืนสุดท้ายที่นิรดาจะได้นอนกอดสามี เธอยอมรับกับตัวเองอย่างไม่อายเธอรักเขาแต่มันมีม่านของความแค้นมาคอยบังอยู่เสมอแต่วันนี้เมื่อเธอได้รู้ความจริงมากกว่าความรักคือความรู้สึกผิดที่เธอทำร้ายผู้ชายที่รักเธอตลอดเวลาที่ผ่านมา ทรัพย์สินทั้งหมดหญิงสาวตัดสินใจจะคืนให้สามีมีเพียงเรื่องเดียวที่เธออยากหาคำตอบเพื่อให้การจากไปครั้งนี้ของเธอสบายใจที่สุด ประจำเดือนไม่มาสองเดือนแล้วแต่นิรดาก็คิดเอาเองว่าคงเป็นเพราะเดือนที่สองของการแต่งงานเธอกินยาคุมกำเนิดอาจส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ พรุ่งนี้เช้าเธอจะให้ตะวันไปบริษัทก่อนและเธอจะบอกเขาว่าจะตามไปทีหลังแต่ความจริงเธอจะไปจากเขาตลอดชีวิตต่างหาก “เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมร้องไห้” ตะวันหันหลังมาเจอภรรยาที่นอนร้องไห้อยู่จึงถามด้วยความสงสัย “ทรายไม่อยากเห็นพี่เป็นแบบนี้เลยค่ะ พี่ตะวันสัญญาากับทรายได้ไหมว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ไปพี่จะลุกขึ้นสู้และกลับมาเป็นลูกชายที่เข้มแข็งของคุณแม่เหมือนเดิม” ชายหนุ่มคว้าตัวภรรยามากอดแน่นสำหรับเขาแล้วน้
ตอนที่ 7ตามหาหัวใจ นิรดาใช้เวลาซ่อมแซมบ้านของปู่กับย่าไม่ถึงสองสัปดาห์ทันทีที่เธอเข้าอยู่บ้านได้นารีก็กลับบ้านทันที “ไว้อีกสองเดือนแม่จะมาหาใหม่นะ ดูแลตัวเองดี ๆ จะลุกจะนั่งก็ต้องค่อย ๆ ” คนเป็นแม่ถึงแม้จะห่วงลูกสาวแค่ไหนแต่ก็เลือกที่จะกลับไปหาหัวใจที่เธอคิดว่ายังคอยเธออยู่ที่บ้านเสมอ ทันทีที่นารีถึงบ้านเขาก็พบว่ามีผู้ชายที่เขาไม่คุ้นหน้ามายืนรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน “คุณตะวัน” เข็มจิราทำหน้าที่ไปรับมารดาของเพื่อนจากสนามบิน เธอขับรถมาส่งที่บ้านจึงรู้ว่าคนที่มายืนรออยู่คือตะวัน “สวัสดีครับ ทำไมคุณรู้จักผม” “เข็มเป็นเพื่อนสนิทของทรายค่ะ เธอเราทุกเรื่องให้ทรายฟังหมดแล้ว” ยังไม่ทันที่เจ้าของบ้านจะเปิดประตูให้แขกเข้าไปข้างในก็มีเสียงเด็กน้อยดังมาจากในรถ “คุณลุงทำอะไรช้าจังคะ” นารีหันไปตามเสียงและเธอก็ต้องตกใจเมื่อหน้าตาของเด็กน้อยผมเปียเหมือนกับเอกภพมากจนเหมือนว่าใครจับเอาลูกชายเธอตอนเด็ก ๆ มาใส่ผมยาว “ออมสิน เป็นลูกสาวของเอกภพกับรุจิราน้องสาวผมครับ” ตะวันอ่านสายตาออกว่ามารดา
ตอนที่ 8ยอมแล้วซึ่งทุกอย่าง ชม้อยและรุจิราเดินทางมาหาตะวันทันทีที่รู้ข่าว ภาพของ นิรดาในชุดคลุมท้องที่กำลังนอนหลับอยู่ข้าง ๆ ตัวของคนเจ็บเป็นภาพที่ทำเอาน้ำตาของทุกคนไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่สะเทือนใจ “ทราย ตื่นได้แล้วลูก” แม่สามีค่อย ๆ ลูบผมของหญิงสาวที่กำลังนอนอยู่ด้วย ความสงสาร “คุณแม่ ! ” คนทำผิดทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นทันทีที่เห็นว่าผู้หญิงตรงหน้าคือใคร “ทรายขอโทษ พี่ตะวันต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะทราย ทุกคนต้องเดือดร้อนไปกันหมดเพียงเพราะความแค้นบ้า ๆ ที่ทรายคิดไปเองคนเดียว ทรายกราบขอโทษนะคะ” ชม้อยรีบประคองลูกสะใภ้ให้ลุกขึ้นเพราะท่าทางที่ดูก้มไม่ถนัดของคนท้องยิ่งทำให้หญิงชราทั้งสงสารและเป็นห่วง “มันผ่านไปแล้ว ทุกคนเคยทำผิดกันทั้งนั้น แม่เองก็ทำผิดมาไม่รู้กี่ครั้ง เราย้อนไปแก้ไขไม่ได้ขอแค่ว่าอย่ากลับไปทำผิดอีกก็พอ” รุจิราเองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าแล้วก็อดคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อนไม่ได้ “ลูกคือของขวัญที่มีค่าที่สุดค่ะ ตอนนี้พี่ทั้งสองคนไม่ได้มีแค่ตัวเองแล้วยังมีอีกชีวิตที่ต้อง
ตอนที่ 9ไม่มีอะไรติดค้าง ชม้อยและรุจิราเดินทางกลับในเช้าของอีกวันเพราะออมสินต้องไปโรงเรียนและยังมีงานที่บริษัทรออยู่ “แม่ฝากตะวันด้วยนะลูก คุณหมอบอกหนูทรายแล้วใช่ไหมว่าพี่เขาคงต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเดินได้ปกติ” ชม้อยพูดเองเพราะคุณหมอไม่ได้บอกอะไรกับนิรดาเลยตั้งแต่ชม้อยมาถึงทางโรงพยาบาลก็จะคุยทุกอย่างกับเธอมากกว่า “ไม่ได้บอกค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะต่อให้พี่ตะวันจะเดินไม่ได้ ทรายจะเป็นเท้าเป็นมือเป็นทุกอย่างให้สามีของทรายเอง ความรักที่พี่ตะวันมีให้ทรายมันมากเกินกว่าที่ทรายจะตอบแทนได้ หลังจากนี้เราจะใช้ความรักดูแลกันและกันตลอดไปค่ะ” ชม้อยได้ยินแบบนี้ก็ดีใจ เธอรู้สบายใจขึ้นที่ต้องทิ้งตะวันไปแบบนี้แต่ถ้าจะให้อยู่เฝ้าเธอก็อดเป็นห่วงรุจิรากับออมสินไม่ได้เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่งมากอยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังจากที่ไตรมาสที่แล้วผลกำไรลดลงเกือบเท่าตัว หญิงสาวที่กำลังท้องใหญ่ทำอะไรไม่ค่อยถนัดแต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดทั้งเช็ดตัว พาคนป่วยไปเข้าห้องน้ำ เดินขึ้นเดินลงคอยซื้อของให้ ดูแลปรนิบัติอย่างดีที่สุดจนคุณหมออนุญาติให้ตะวันกลับบ้านได