Share

แผนต่อไป

ตอนที่ 3

แผนต่อไป

         “ขอบคุณพี่ตะวันมาก ๆ นะคะ ชีวิตของทรายโชคร้าย         มาตลอดจนวันนี้วันที่ฟ้าส่งพี่ตะวันมา จากเม็ดทรายที่ดูไร้ค่าตอนนี้พี่ทำให้มันกลับกลายมาเป็นเม็ดทรายที่ราคาแพงที่สุดเลยค่ะ”

         หญิงสาวสวมกอดชายคนรักอย่างเอาใจ สองมือเล็กลูบไล้ไปทั่วหลังที่หนากว้าง ปากเล็กจูบลงไปที่แก้ม ตาทั้งสองดวงมองประสานกันให้ความรู้สึกที่แสนยั่วยวนจนชายหนุ่มเริ่มไม่มีสติเหมือนกำลังถูกอีกฝ่ายสะกดจิตไว้

         “ทราย...อย่าล้อเล่นนะ”

         ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือแหบแห้ง สองมือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อตัวเล็กของคนตรงหน้า

         “ทรายรักพี่ตะวันนะคะ”

         นิรดากระซิบข้างหูของคนรักทำท่ายั่วยวนอย่างเต็มกำลังแต่เมื่ออีกฝ่ายเริ่มรุกอย่างเต็มที่ เธอกลับผลักเขาออกจากตัวและเล่นบทเศร้าแทน

         “ปล่อยทรายเถอะค่ะ”

         “ทำไม! ไหนทรายบอกว่ารักพี่”

         ตะวันงงและสับสนไปหมดเมื่อครู่หญิงสาวเป็นฝ่ายยั่วยวนเขาแต่เวลานี้ เธอกลับนั่งปิดหน้าร้องไห้เสียอย่างนั้น

         “ทรายขอโทษแต่ทรายทำไม่ได้ชีวิตนี้มีเรื่องเดียวที่ทำให้ผู้หญิงจน ๆ รู้สึกว่าตัวเองมีค่าก็คือความบริสุทธิ์ขอให้ถึงวันแต่งงานของเราก่อนนะคะ”

         ตะวันได้แต่ถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่ตอนนี้กำลังพุ่งสูงแต่เขาก็เป็นผู้ชายมากพอที่จะไม่ขืนใจใครถ้าเธอไม่ยอม

         “พี่เข้าใจอย่าคิดมากนะ เรื่องแต่งงานพี่จะเร่งคุณแม่ให้เร็วที่สุด”

         ตะวันโอบกอดคนรักอย่างเข้าใจเพราะชายหนุ่มรู้ดีว่านิรดาหวงตัวเป็นที่สุดและนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ตะวันเลือกที่จะแต่งงานกับเธอนอกจากที่เขารักเธอเต็มหัวใจก็คือคุณค่าของความเป็นผู้หญิงที่เธอคู่ควรต่อการเป็นแม่ของลูกของเขาในอนาคต

         ชายหนุ่มกลับไปแล้วหญิงสาวเดาได้ไม่อยากว่าอีกฝ่ายต้องกำลังไปหาที่ระบายแต่นั่นมันไม่สำคัญอะไรกับเธอ เป้าหมายข้างหน้าทำให้นิรดาเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเกมนี้เธอต้องเป็นคนบังคับไม่ใช่เอาตัวเองตกไปอยู่ในเกมเสียเอง

         แผนต่อไปคือการเข้าไปใกล้ชิดกับครอบครัวของรุจิราให้มากขึ้น คนแค้นจึงตัดสินใจที่จะยอมไปหามารดาของคนรักในเร็ว ๆ นี้เพื่อให้งานแต่งงานเกิดขึ้นให้เร็วที่สุด

         “พี่ดีใจมากเลยนะที่ทรายยอมไปเจอแม่พี่แล้ว”

         “พี่ตะวันคะ ทราย....คิดว่า ไม่เอาดีกว่าแค่นี้ก็รบกวนพี่ตะวันมากไปแล้ว”

         นิรดาทำท่าเกรงใจไม่กล้าพูดต่อ สีหน้าและแววตาของเธอที่ดูเศร้าลงทันทีทำให้คนฟังยิ่งเกิดอาการอยากรู้

         “เป็นแบบนี้อีแล้วมีอะไรก็บอกพี่ เรากำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ”

         “ไม่ใช่ว่าไม่อยากบอกนะคะ บางเรื่องมันก็อายเกินกว่าจะพูด ฐานะของเราที่ต่างกันมาก ทรายเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าจน ๆ ทุกวันนี้ก็ยังเช่าคอนโดอยู่จะมีอะไรไปคู่ควรกับท่านประธานบริษัทที่รวยเป็นร้อย ๆ ล้านได้”

         “ไปเอาความคิดนี้มาจากไหน พี่ไม่เคยคิดแบบนั้น”

         ชายหนุ่มตะคอกกลับสองมือหนาจับไหล่ทั้งสองข้างของ          นิรดาให้หันมามองสบตาเขา

         “พี่ไม่คิดแต่เชื่อเถอะค่ะว่าคุณแม่ของพี่ต้องคิด ชีวิตทรายไม่มีอะไรเป็นของตัวเองสักชิ้นไม่มีอะไรเลยที่จะทำให้แม่ของพี่ยอมรับได้ แค่วันที่จะไปหาคุณแม่ของพี่ทรายยังคิดเลยว่ารถที่ทรายขับอยู่มันก็บ่งบอกให้ท่านรู้ว่าลูกชายคนเดียวที่ท่านรักกำลังจะได้เมียเป็นคนจน”

         ตะวันดึงตัวคนรักเข้ามากอด เขาเข้าใจความรู้สึกของนิรดาก่อนหน้านี้ทั้งสองคนมีแต่เสียงหัวเราะกับรอยยิ้มทุกอย่างเปลี่ยนไปตั้งแต่ที่ตกลงจะแต่งงานกันตะวันแทบจะไม่เคยเห็นคนรักของเขายิ้มเลยและเรื่องนี้น่าจะเป็นสาเหตุสำคัญ

         “ไม่มีเราก็สร้างด้วยกันนะแล้วไม่ต้องปฏิเสธด้วย พรุ่งนี้พี่จะพาไปเลือกรถส่วนเรื่องคอนโดหลังจากไปพบคุณแม่พี่จะพาทรายไปเลือกที่โครงการของเพื่อนพี่ ทุกอย่างจะเป็นชื่อของทราย                    คุณแม่จะต้องยอมรับว่าผู้หญิงที่พี่เลือกถึงแม้จะไม่ได้มาจากตระกูลดังแต่เธอก็มีสมบัติติดตัว”

         นิรดาแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองทำไมตะวันถึงได้เชื่อเธอ                ทุกอย่างแบบนี้ แผนที่เธอวางไว้มันต้องยากเย็นกว่านี้แต่กลายเป็นว่าทุกอย่างง่ายกว่าที่คิดบางครั้งเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายแกล้งโง่เพื่อหลอกเธอหรือเปล่า

         “ขอบคุณนะคะ มื้อเย็นทรายขอทำอาหารเองเพื่อเป็นการขอบคุณพี่ตะวันที่รักและทำทุกอย่างเพื่อทรายมาตลอด สุดที่รักของทราย”

         คำบอกรักที่หญิงสาวใช้มันเปลืองมากทั้งที่หัวใจของเธอไม่เคยรู้สึกรักอีกฝ่ายลึก ๆ มันก็มีบ้างความผูกพันเพราะหลายครั้งที่ไม่ได้เจอหน้ากันนิรดาเองก็เป็นฝ่ายคิดถึงและบ่อยครั้งที่เธอรู้ว่ามีผู้หญิงมายุ่งกับเขาอารมณ์หึงมันก็มาทั้งที่พยายามเตือนตัวเองว่านี่คือเกมแก้แค้นแต่คนเดินเกมก็เผลอตัวอยู่บ่อย ๆ

         “ทำไมปลอกแตงกวาแบบนี้ ผัดแตงกวาไม่ต้องปลอกเปลือกค่ะ พี่ตะวันมาช่วยสับมะละกอดีกว่าวันนี้ทรายจะทำส้มตำให้กิน รับรองพี่ต้องติดใจแน่นอน”

         นิรดาไปเรียนเมืองนอกหลายปีแต่เธอไม่เคยลืมวิธีการทำอาหารไทยและเธอทำได้อร่อยมาก ๆ เพราะคุณยายคอยสอนมาตั้งแต่เด็ก ๆ ฝีมือของหญิงสาวอร่อยจนหลายคนเคยเชียร์ให้เธอเปิดร้านอาหาร

         “หอมไหมคะ ปลาร้าสูตรเด็ดหาซื้อที่ไหนไม่ได้นะคะแบบนี้”

         “หาซื้อไม่ได้...แล้วทรายเอามาจากไหน”

         คนตัวเล็กหลุดปากพูดออกไปมารู้ตัวอีกทีก็ต้องรีบคิดทางออกเธอจะบอกความจริงว่าแม่ของเธอทำปลาร้ามาให้ไม่ได้เด็ดขาด

         “ที่หาซื้อไม่ได้เพราะทรายจะไม่บอกให้พี่ตะวันรู้ว่าซื้อจากไหน พี่จะได้กินฝีมือของทรายคนเดียวเท่านั้น”

         นิรดาแอบถอนหายใจเมื่อเธอหาทางออกได้สำเร็จ                  การโกหกไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะเราต้องจำว่าเราพูดอะไรไว้บ้าง          ไม่เหมือนกับการพูดความจริงที่ไม่ว่าจะพูดกี่ครั้งก็เป็นความจริงเสมอ คำพูดของพ่อที่สอนหญิงสาวไว้ก่อนที่ท่านจะจากไปด้วย            โรคร้ายมันจริงที่สุดวันนี้หญิงสาวยิ่งเข้าใจ

         วันที่ตะวันรอคอยก็มาถึง นิรดายอมมากินข้าวเย็นที่บ้านของเขาเพื่อจะได้ทำความรู้จักกับครอบครัวแต่รุจิราไม่ยอมลงมาจากเชียงใหม่ด้วยเหตุผลเดิม ๆ คือติดงาน

         “สวัสดีค่ะคุณแม่”

         วันนี้หญิงสาวนักเรียนนอกสวมบทสาวน้อยผู้แสนเรียบร้อยดั่งผ้าที่ถูกพับไว้ในตู้

         “สวัสดี ยังไม่ถึงเวลาอาหารเลยทำไมถึงรีบมาแล้วซื้ออะไรกันมาเต็มไม้เต็มมือไปหมด”

         ชม้อยมองมือทั้งสองข้างของคนทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยผักและเนื้อสัตว์ต่าง ๆ

         “วันนี้เราจะกินกับข้าวฝีมือทรายกันครับ รับรองคุณแม่จะต้องติดใจ”

         ตะวันรีบรายงานอย่างภูมิใจเพราะเขารู้ว่ามารดาชอบผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านแม่เรือนซึ่งผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาไม่มีใครทำได้            สักคน

         “ทำเป็นกับทำอร่อยมันต่างกันนะ แต่ก็เอาเถอะกินฝีมือแม่บ้านที่นี่ทุกวันก็เริ่มเบื่อจะได้เปลี่ยนรสชาติบ้างแล้วคงไม่ต้องให้ลูกชายฉันไปช่วยหรอกนะ พอดีว่ามีเรื่องงานจะคุยกับตะวันเขาสักหน่อย”

         คนเป็นแม่คิดว่างานนี้อนาคตลูกสะใภ้คงจะรู้ได้ถึงรังสี                ไม่ต้อนรับของเธอแต่จะให้แผลงฤทธิ์ทันทีชม้อยคิดว่าจะทำให้ไก่ตื่นและเธอไม่อยากให้ตะวันคิดว่าเธอร้ายใส่คนรักจึงเลือกที่จะหาโอกาสให้เหมาะกว่านี้

         “ส้มตำสูตรเด็ดปลาร้าต้มสุกไม่ต้องกลัวท้องเสียค่ะ”

         แม่ครัวชั่วคราวยกส้มตำปูปลาร้ามาให้แม่สามีได้กินถึง            สวนหย่อมข้างบ้านที่แม่ลูกกำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน

“วางไว้แล้วรีบไปทำอาหารเถอะใกล้เวลาอาหารเย็น ปกติฉันเป็นคนกินข้าวตรงเวลา”

ชม้อยยังคงทำท่าวางเฉยไม่ยินดีและไม่ยินร้ายทั้งที่หัวใจของเธออยากจะตะโกนไล่ผู้หญิงของลูกชายให้ออกไปจากบ้านเสียที

“อร่อยไหมครับคุณแม่”

“ก็ธรรมดาแม่ก็แค่...ไม่ค่อยได้กิน”

คำตอบที่ตรงข้ามกับจานที่วางเปล่าเพียงไม่นานส้มตำก็หมดจาน ตะวันแทบจะไม่ได้กินเพราะมัวแต่มีความสุขที่เห็นมารดาของเขาชอบฝีมือของนิรดา

“ถ้าคุณแม่อยากกินให้ทรายทำมาอีกจานได้นะครับ”

“พอแล้ว กินไปอย่างนั้นแหละเสียดายไม่ต้องมายิ้มแซวแม่เลยนะ ลูกชายคนนี้มันน่าตีจริง ๆ ”

สองแม่ลูกยังคงนั่งคุยกันสนุกสนานอยู่ที่สวนย่อม นิรดามองเห็นจากทางหน้าต่างของห้องครัว ความสุขของคนตรงหน้าทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าถ้าวันนี้พี่ชายของเธอยังอยู่ครอบครัวของเธอก็คงมีความสุขแบบนี้เหมือนกัน

“ในเมื่อเธอไม่อยู่ให้ฉันแก้แค้น แม่และพี่ชายของเธอก็ต้องรับกรรมแทนเหมือนที่เธอทำให้ฉันกับแม่ต้องเสียพี่เอกไป รุจิราเธอจะต้องไม่เหลือใครและไม่เหลืออะไร”

นิรดาพูดกับรูปครอบครัวของตะวันที่ติดอยู่ที่ผนังห้องรับแขกระหว่างที่เธอกำลังจะเดินออกมาตามคนทั้งคู่ให้เข้าไปกินอาหารมื้อเย็นที่เธอตั้งใจทำสุดกำลัง งานนี้อนาคตแม่สามีต้องติดใจฝีมือแน่ ๆ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ไม่ได้อยู่ในแผนแต่ถ้าแม่สามีเชื่อและรักลูกสะใภ้ทุกอย่างคือแผนต่อไปที่นิรดาต้องการ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status