ตอนที่ 6
เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เราสองคน
ค่ำคืนนี้มันคือค่ำคืนสุดท้ายที่นิรดาจะได้นอนกอดสามี เธอยอมรับกับตัวเองอย่างไม่อายเธอรักเขาแต่มันมีม่านของความแค้นมาคอยบังอยู่เสมอแต่วันนี้เมื่อเธอได้รู้ความจริงมากกว่าความรักคือความรู้สึกผิดที่เธอทำร้ายผู้ชายที่รักเธอตลอดเวลาที่ผ่านมา
ทรัพย์สินทั้งหมดหญิงสาวตัดสินใจจะคืนให้สามีมีเพียงเรื่องเดียวที่เธออยากหาคำตอบเพื่อให้การจากไปครั้งนี้ของเธอสบายใจที่สุด ประจำเดือนไม่มาสองเดือนแล้วแต่นิรดาก็คิดเอาเองว่าคงเป็นเพราะเดือนที่สองของการแต่งงานเธอกินยาคุมกำเนิดอาจส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
พรุ่งนี้เช้าเธอจะให้ตะวันไปบริษัทก่อนและเธอจะบอกเขาว่าจะตามไปทีหลังแต่ความจริงเธอจะไปจากเขาตลอดชีวิตต่างหาก
“เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมร้องไห้”
ตะวันหันหลังมาเจอภรรยาที่นอนร้องไห้อยู่จึงถามด้วยความสงสัย
“ทรายไม่อยากเห็นพี่เป็นแบบนี้เลยค่ะ พี่ตะวันสัญญาากับทรายได้ไหมว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ไปพี่จะลุกขึ้นสู้และกลับมาเป็นลูกชายที่เข้มแข็งของคุณแม่เหมือนเดิม”
ชายหนุ่มคว้าตัวภรรยามากอดแน่นสำหรับเขาแล้วน้ำตามันไหลจนไม่มีให้หยดอีกต่อไป การที่เรารักใครสักคนแล้วรู้ว่าเขาไม่เคยรักเราเลยมันคือความเจ็บปวดที่ตะวันเลือกที่จะเก็บไว้ภายในใจเพียงคนเดียว
“พี่รักทรายมากนะ รักจนยอมทำทุกอย่าง รักมากกว่าชีวิตของพี่ขอเพียงอย่างเดียวให้ทรายยังอยู่ตรงนี้แม้ว่าพี่อาจจะต้องกลายเป็นคนไร้ค่าก็ตาม”
หญิงสาวรู้สึกใจเสียทันทีที่ได้ยินแบบนี้ ทำไมสามีของเธอถึงพูดเหมือนว่าเธอไม่เคยรักเขาทั้งที่ก่อนหน้านี้ตะวันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“พี่ตะวันมีค่ากับทรายมากที่สุด มากจนชีวิตนี้คงไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะรักทรายได้แบบนี้อีก ทรายรักพี่ตะวันะคะ รักที่แปลว่ารักจากหัวใจ”
อ้อมกอดที่เคยนอนกอดทุกคืนแต่วันนี้มันกลับอุ่นที่สุด อุ่นจนนิรดาไม่อยากให้วันพรุ่งนี้มาถึงเพราะนับจากนี้ไปเธอต้องไม่มีเขาอีกแล้ว
เกมนี้ในเมื่อเธอเป็นคนเริ่มเองก็ต้องเป็นคนจบเอง นิรดาเก็บกระเป๋าทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงรถของสามีขับออกไปแต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอตั้งใจจะทำหลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จนั่นคือการพิสูจน์ว่าการจากไปครั้งนี้เธอไปแค่เพียงคนเดียว
“ไม่จริง มันต้องไม่ใช่แบบนี้”
ทุกอย่างผิดแผนไปหมดเรื่อราวของการแก้แค้นที่เธอทำลายชีวิตของผู้ชายที่รักเธอมาแล้วคนหนึ่งตอนนี้เธอกำลังสร้างอีกหนึ่งชีวิตขึ้นมาอีก นิรดาทรุดตัวนั่งลงกับพื้นห้องน้ำด้วยความรู้สึก พ่ายแพ้อ่อนแอไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลือ
“ฉันกำลังจะเป็นแม่คนหรือนี่”
สองมือตบลงไปที่หน้าของตัวเองเพื่อเรียกสติให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวอีกครั้ง หมดเวลาที่จะนั่งเสียใจวันนี้เธอตัดสินใจแล้วทุกอย่างจะต้องเดินหน้าอย่างเดียวเท่านั้น
วันนี้นิรดาตัดสินใจจะเล่าทุกอย่างให้มารดาฟังก่อนที่เธอจะเดินทางไปอยู่ที่บ้านของปู่กับย่าที่ต่างจังหวัด ที่นั่นปล่อยทิ้งร้างมาหลายปีเธอคงต้องไปซ่อมแซมก่อนถึงจะเข้าอยู่ได้ บ้านกลางป่ากลางเขาคงไกลพอที่จะไม่มีใครตามเธอเจอ
“ทุกอย่างก็เป็นตามที่ทรายเล่าให้แม่ฟัง ทรายผิดไปแล้วค่ะแม่”
หญิงสาวนั่งลงกับพื้นก้มกราบไปที่ตักของมารดาด้วยความสำนึกผิดที่เธอปล่อยให้ความแค้นอยู่เหนือเหตุผลและทำให้ทุกอย่างแย่ไปหมด
“ลุกขึ้นเถอะลูก มันผ่านไปแล้วตอนนี้ชีวิตของลูกมีอีกชีวิตต้องดูแลปล่อยให้อดีตที่ผิดพลาดให้มันผ่านไปเริ่มต้นใหม่นะ ลูกแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะทิ้งผู้ชายที่รักลูกไปแบบนี้ ทรายบอกแม่ได้ไหมว่าลูกรักคุณตะวันหรือเปล่า”
นารีแค่มองหน้าลูกสาวก็รู้คำตอบอยู่แล้วแต่เธอแค่อยากให้ลูกสาวได้ถามแล้วตอบหัวใจของตัวเองอีกสักครั้ง
“ทรายรักพี่ตะวัน รักมากถึงได้เอาตัวเองออกมาแบบนี้ ผู้ชายที่แสนดีเหมาะกับผู้หญิงที่ศีลเสมอกัน ทรายอยากให้พี่เขาได้เจอคนที่ดีกว่าค่ะ”
“คนที่ดีกับคนที่รักมันต่างกันนะแต่ในเมื่อลูกตัดสินใจแล้วแม่ก็ไม่ห้าม แม่จะไปอยู่เป็นเพื่อนช่วงสัปดาห์แรกถ้าบ้านซ่อมเสร็จแม่ขอกลับมาอยู่กับพี่เอกที่บ้านของเรานะ”
นารียังคงไม่อยากทิ้งบ้านไปไหนเพราะเธอยังไม่เคยลืม ลูกชายจากความทรงจำ
ตะวันโทรศัพท์หาภรรยาตลอดทั้งวันเมื่อแน่ใจว่าติดต่อไม่ได้และรู้จากแม่บ้านว่านิรดาขับรถออกไปพร้อมกับกระเป๋าหลายใบ ชายหนุ่มจึงรีบกลับมาบ้านทันที
จดหมายถูกวางไว้บนเตียงนอนมันคือสิ่งเดียวที่คนจากไปทิ้งไว้และมันคงมีคำตอบอยู่ในนั้นว่าเพราะอะไรเธอจึงทิ้งสามีไปแบบนี้ มือหนาที่สั่นเทาด้วยความเสียใจค่อย ๆ เปิดจดหมายอ่านทีละบรรทัด ภรรยาของเขาบอกเล่าความจริงทุกอย่าง ยกเว้นเพียงเรื่องเดียวที่หญิงสาวคิดจะปิดเป็นความลับตลอดไปคือเรื่องลูก
“อย่าทิ้งพี่ไปแบบนี้”
ความอ่อนแอที่มีอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้หัวใจของผู้ชายอย่างตะวันหมดแรงจะสู้ต่อไป รุจิรากลับมาดูแลพี่ชายและมารดาทันทีและครั้งนี้เธอยอมที่จะเอาลูกสาวมาด้วยเพราะคิดว่าอีกนานกว่าที่เธอจะได้กลับไปเชียงใหม่
“พี่ตะวันต้องเข้มแข็งนะคะ ผู้หญิงคนนั้นเขาไม่ได้รักพี่ พี่ก็ต้องรักตัวเองให้มาก ๆ ”
คนเป็นน้องเห็นสภาพพี่ชายแล้วยิ่งรู้สึกไม่สบายใจแต่เธอก็รู้ว่าไม่มีคำปลอบไหนจะทำให้คนตรอมใจดีขึ้นเท่ากับการลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเองเพราะเธอเคยผ่านมาแล้ว
“ไม่ใช่ทรายคนเดียวที่ผิด พี่เองก็ผิดด้วยทุกอย่างที่เกิดขึ้นพี่รู้ตั้งแต่ก่อนจะแต่งงาน พี่คิดว่าความรักความจริงใจที่พี่มีให้เธอจะทำให้ทรายรักพี่จริง ๆ แต่สุดท้ายพี่ก็คิดไปเอง ที่พี่อ่อนแอลงไม่ใช่เพราะเรื่องบริษัทแต่เป็นเพราะพี่เสียใจที่ถูกคนที่พี่รักหักหลังแต่ในเมื่อวันนี้ ทรายขอโทษและยอมรับผิดพี่อยากให้เธอกลับมา”
รุจิราจับมือพี่ชายแน่นเธอเข้าใจทุกอย่างและพร้อมจะ ให้อภัยพี่สะใภ้แต่ที่เธอไม่รู้คือตอนนี้หัวใจของนิรดากำลังคิดอะไรอยู่และในนั้นมันมีพี่ชายของเธออยู่บ้างไหม
บริษัทกลับมามีผลกำไรดีขึ้น ชม้อยก็ดูสดใสขึ้นเมื่อลูกสาวพาหลานสาวตัวน้อยในวัยสี่ขวบมาให้เธอเลี้ยง บ้านจากที่เคยเหงาก็กลับมามีชีวิตมีก็แต่เพียงตะวันที่หันหน้าไปพึ่งความเมาเพียงอย่างเดียว
“ถ้าฟ้าเป็นพี่ทราย ฟ้าก็จะยิ่งรู้สึกผิดแล้วไม่มีวันกลับมาตั้งแต่พี่ทรายไปจากที่นี่แทนที่พี่ตะวันจะออกตามหาแต่นี่เอาแต่เมาแบบนี้ บางครั้งคนที่ทำลายทุกอย่างอาจไม่ใช่พี่ทรายแต่คือความอ่อนแอในใจพี่ชายของฟ้ามากกว่า”
น้องสาวทนไม่ไหวกับสิ่งที่พี่ของเธอกำลังเป็นจากที่ทนดูแบบเงียบ ๆ เพราะรู้สึกสงสารตอนนี้เธอเริ่มหันมาสงสารมารดามากกว่าที่ต้องเห็นลูกชายเป็นแบบนี้
คำพูดของรุจิราทำให้ผู้ชายที่กำลังอกหักจนขาดสติกลับมาคิดได้อีกครั้ง ความอ่อนแอของเขาทำให้เขาต้องเสียผู้หญิงที่เขารักไปแล้วถึงเวลาที่เขาต้องเข้มแข้งและกลับมายืนให้แข็งแรงเพื่อไปตามหัวใจกลับมา
“ตะวันจะไปไหนลูก”
ชม้อยถามลูกชายด้วยความแปลกใจที่วันนี้ตะวันตื่นแต่เช้าแต่งตัวหล่อนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร
“วันนี้ผมจะเข้าบริษัทครับ หยุดไปนานกลัวน้องสาวจะตัดเงินเดือนเอา”
ชายหนุ่มพูดจบก็ลุกไปนั่งคุกเข่าก้มกราบไปที่เท้าของมารดาด้วยความรู้สึกผิด
“ผมขอโทษนะครับคุณแม่ ความอ่อนแอทำให้ผมเลือกที่จะไม่ยอมรับความจริงปล่อยให้ทรายเข้าใจผิดและทำร้ายครอบครัวเราแบบนี้”
“แม่ไม่โกรธทั้งลูกและหนูทรายเลย ใคร ๆ ก็รักครอบครัวตัวเองทั้งนั้นในเมื่ออดีตมันแก้ไขไม่ได้แล้ว แม่ขอให้ลูกเลือกทำในสิ่งที่หัวใจลูกมีความสุขก็พอ”
ชายหนุ่มลุกยืนโผเข้ากอดมารดาเหมือนเด็กน้อยที่กำลังต้องการกำลังใจ
“ผมจะไปตามหาและพาทรายกลับมา ขอบคุณคุณแม่ที่ให้อภัยผมกับทรายนะครับ”
ชม้อยโอบกอดให้กำลังใจลูก เธอไม่ได้หายโกรธในสิ่งที่นิรดาทำแต่เธอมองหาความดีในตัวลูกสะใภ้และเลือกที่จะจำในส่วนที่มีความสุข ในเมื่อหญิงสาวคือหัวใจของตะวัน เธอจะทำร้ายหัวใจของลูกชายตัวเองได้อย่างไรกัน
ตอนที่ 7ตามหาหัวใจ นิรดาใช้เวลาซ่อมแซมบ้านของปู่กับย่าไม่ถึงสองสัปดาห์ทันทีที่เธอเข้าอยู่บ้านได้นารีก็กลับบ้านทันที “ไว้อีกสองเดือนแม่จะมาหาใหม่นะ ดูแลตัวเองดี ๆ จะลุกจะนั่งก็ต้องค่อย ๆ ” คนเป็นแม่ถึงแม้จะห่วงลูกสาวแค่ไหนแต่ก็เลือกที่จะกลับไปหาหัวใจที่เธอคิดว่ายังคอยเธออยู่ที่บ้านเสมอ ทันทีที่นารีถึงบ้านเขาก็พบว่ามีผู้ชายที่เขาไม่คุ้นหน้ามายืนรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน “คุณตะวัน” เข็มจิราทำหน้าที่ไปรับมารดาของเพื่อนจากสนามบิน เธอขับรถมาส่งที่บ้านจึงรู้ว่าคนที่มายืนรออยู่คือตะวัน “สวัสดีครับ ทำไมคุณรู้จักผม” “เข็มเป็นเพื่อนสนิทของทรายค่ะ เธอเราทุกเรื่องให้ทรายฟังหมดแล้ว” ยังไม่ทันที่เจ้าของบ้านจะเปิดประตูให้แขกเข้าไปข้างในก็มีเสียงเด็กน้อยดังมาจากในรถ “คุณลุงทำอะไรช้าจังคะ” นารีหันไปตามเสียงและเธอก็ต้องตกใจเมื่อหน้าตาของเด็กน้อยผมเปียเหมือนกับเอกภพมากจนเหมือนว่าใครจับเอาลูกชายเธอตอนเด็ก ๆ มาใส่ผมยาว “ออมสิน เป็นลูกสาวของเอกภพกับรุจิราน้องสาวผมครับ” ตะวันอ่านสายตาออกว่ามารดา
ตอนที่ 8ยอมแล้วซึ่งทุกอย่าง ชม้อยและรุจิราเดินทางมาหาตะวันทันทีที่รู้ข่าว ภาพของ นิรดาในชุดคลุมท้องที่กำลังนอนหลับอยู่ข้าง ๆ ตัวของคนเจ็บเป็นภาพที่ทำเอาน้ำตาของทุกคนไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่สะเทือนใจ “ทราย ตื่นได้แล้วลูก” แม่สามีค่อย ๆ ลูบผมของหญิงสาวที่กำลังนอนอยู่ด้วย ความสงสาร “คุณแม่ ! ” คนทำผิดทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นทันทีที่เห็นว่าผู้หญิงตรงหน้าคือใคร “ทรายขอโทษ พี่ตะวันต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะทราย ทุกคนต้องเดือดร้อนไปกันหมดเพียงเพราะความแค้นบ้า ๆ ที่ทรายคิดไปเองคนเดียว ทรายกราบขอโทษนะคะ” ชม้อยรีบประคองลูกสะใภ้ให้ลุกขึ้นเพราะท่าทางที่ดูก้มไม่ถนัดของคนท้องยิ่งทำให้หญิงชราทั้งสงสารและเป็นห่วง “มันผ่านไปแล้ว ทุกคนเคยทำผิดกันทั้งนั้น แม่เองก็ทำผิดมาไม่รู้กี่ครั้ง เราย้อนไปแก้ไขไม่ได้ขอแค่ว่าอย่ากลับไปทำผิดอีกก็พอ” รุจิราเองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าแล้วก็อดคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อนไม่ได้ “ลูกคือของขวัญที่มีค่าที่สุดค่ะ ตอนนี้พี่ทั้งสองคนไม่ได้มีแค่ตัวเองแล้วยังมีอีกชีวิตที่ต้อง
ตอนที่ 9ไม่มีอะไรติดค้าง ชม้อยและรุจิราเดินทางกลับในเช้าของอีกวันเพราะออมสินต้องไปโรงเรียนและยังมีงานที่บริษัทรออยู่ “แม่ฝากตะวันด้วยนะลูก คุณหมอบอกหนูทรายแล้วใช่ไหมว่าพี่เขาคงต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเดินได้ปกติ” ชม้อยพูดเองเพราะคุณหมอไม่ได้บอกอะไรกับนิรดาเลยตั้งแต่ชม้อยมาถึงทางโรงพยาบาลก็จะคุยทุกอย่างกับเธอมากกว่า “ไม่ได้บอกค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะต่อให้พี่ตะวันจะเดินไม่ได้ ทรายจะเป็นเท้าเป็นมือเป็นทุกอย่างให้สามีของทรายเอง ความรักที่พี่ตะวันมีให้ทรายมันมากเกินกว่าที่ทรายจะตอบแทนได้ หลังจากนี้เราจะใช้ความรักดูแลกันและกันตลอดไปค่ะ” ชม้อยได้ยินแบบนี้ก็ดีใจ เธอรู้สบายใจขึ้นที่ต้องทิ้งตะวันไปแบบนี้แต่ถ้าจะให้อยู่เฝ้าเธอก็อดเป็นห่วงรุจิรากับออมสินไม่ได้เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่งมากอยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังจากที่ไตรมาสที่แล้วผลกำไรลดลงเกือบเท่าตัว หญิงสาวที่กำลังท้องใหญ่ทำอะไรไม่ค่อยถนัดแต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดทั้งเช็ดตัว พาคนป่วยไปเข้าห้องน้ำ เดินขึ้นเดินลงคอยซื้อของให้ ดูแลปรนิบัติอย่างดีที่สุดจนคุณหมออนุญาติให้ตะวันกลับบ้านได
ตอนที่ 1เลขาเด็กเส้น...........“คุณตุลาเซ็นเอกสารไม่ครบหนึ่งหน้าค่ะ”น้ำขิงเลขาสาวที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่ไม่ถึง 2 เดือนเธอเคาะประตูแต่ไม่ได้รับเสียงตอบจากเจ้านายจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องเพราะมีเอกสารเร่งด่วนที่ตุลาลืมเซ็นและเธอต้องส่งให้กับบริษัทของลูกค้าภายในวันนี้“ผมอนุญาตให้คุณเข้ามาแล้วหรือไงไม่เห็นหรือว่าผมกำลังยุ่งอยู่”เจ้านายขึ้นเสียงใส่อารมณ์กับเลขาสาวที่เขาไม่ค่อยชอบขี้หน้าด้วยความหงุดหงิดเพราะตอนนี้อารมณ์ของเจ้านายกำลังอยู่ในสภาวะเหมือนไฟที่กำลังโหมลุกในใจเมื่อเพื่อนชายคนสนิทโทรศัพท์มาเล่าว่าได้พบภรรยาของตุลาที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งความเป็นจริงแล้วภรรยาของเขายืนยันว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งเฝ้า ลูกสาวอยู่ที่โรงเรียน“ไม่มีใครอนุญาตค่ะแต่มีเอกสารสำคัญที่คุณต้องเซ็น”ตุลาคว้าแฟ้มจากมือของลูกน้องที่ดูคล้ายว่าเขาจะกระชากเสียมากกว่า เขารีบเซ็นเอกสารตามที่น้ำขิงต้องการและยื่นให้เธอโดยไม่มองสบสายตาเหมือนว่าตอนนี้หัวใจของเขากำลังล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“น้ำขิงนั่งก่อนสิผมมีอะไรอยากถาม”ตุลาเอ่ยเรียกลูกน้องที่กำลังจะเปิดประตูหน้าห้องออกไปเพราะตอนนี้
ตุลาเปิดประตูห้องทำงานออกมาเขาคิดว่าเวลานี้คงไม่มีใครอยู่ในบริษัทแล้วเพราะปกติบริษัทของเขาให้พนักงานกลับได้ในเวลา ห้าโมงเย็น เต็มที่ทุกคนก็จะอยู่กันไม่เกินหกโมงแต่นี่เลยเวลาเลิกงานมานานแล้วเขากลับพบว่าน้ำขิงยังคงนั่งอยู่ที่หน้าห้องของเขาตามเดิม“ฉันเห็นคุณยังไม่กลับก็เลยคิดว่าบางทีคุณอาจจะกำลังทำงานและฉันในฐานะเลขาก็ควรจะอยู่ก่อนเผื่อคุณจะมีอะไรให้ทำ”“ไปกินข้าวเย็นเป็นเพื่อนหน่อยสิจอดรถไว้ที่บริษัทเดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านเองส่วนพรุ่งนี้เช้าผมก็จะแวะไปรับไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมหรือว่ามีนัดแล้วก็บอก”น้ำขิงแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่เธอกำลังได้ยินตอนนี้เพราะตั้งแต่เธอเข้ามาทำงานเจ้านายของเธอก็แทบจะไม่มีท่าทางแห่งความเป็นมิตรให้เพราะตุลาไม่พอใจที่บิดาของเขาบังคับให้เขาต้องรับน้ำขิงเข้ามาทำงานในตำแหน่งเลขาทั้งที่เขามองว่ามีคนที่เหมาะสมกว่าจึงสบประมาทสาวน้อยว่าเป็นเด็กเส้นและก็จ้องแต่จะจับผิดเธอตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานจนถึงวันนี้ หญิงสาวแทบไม่เชื่อเลยว่าตอนนี้เขาจะเอ่ยปากชวนเธอไปกินข้าวและยอมไปรับไปส่งซึ่งมันคงจะทำให้ฟ้าฝนตกจนกรุงเทพฯน้ำท่วมเป็นแน่“ร้านนี้เป็นร้านอาหารแบบบ้าน ๆ ไม่รู้ว่าเธอจะกิน
ตอนที่ 2เมียพี่มีชู้“วันนี้เราไปรับลูกที่บ้านคุณพ่อกันนะ”ตุลาชวนภรรยาทันทีหลังจากที่เขาตื่นนอนถึงแม้ว่าหญิงสาวข้างๆจะยังไม่ลืมตาก็ตามแต่การพลิกตัวไปมาทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าตอนนี้เธอตื่นแล้ว“คุณไปรับคนเดียวเถอะจะได้มีเวลาอยู่กับพ่อแม่คุณบ้าง วันนี้ดารู้สึกเหนื่อยอยากจะหลับนาน ๆ ไม่อยากไปไหน”คนเป็นสามีได้แต่ถอนหายใจเพราะไม่มีประโยชน์อะไรแล้วที่เขาจะหาเรื่องทะเลาะกับภรรยาที่ผ่านมาตลอด 2 เดือนที่เขาสงสัยว่าเธอกำลังมีคนอื่นทุกครั้งที่เขาเอ่ยถามเธอตรง ๆ นิดาก็มักจะก่อสงครามวาจาขึ้นทันทีตุลาคิดถึงครั้งล่าสุดที่ทั้งคู่ทะเลาะกันถึงขั้นขว้างปาของและคนที่ได้รับผลกระทบก็คือเด็กน้อยขนมจีนที่ร้องไห้มาเคาะห้องนอนของพ่อและแม่ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวคนเป็นพ่อจึงตั้งใจว่าจะไม่ทะเลาะกับภรรยาอีกปู่กับย่ารับรู้เรื่องราวของพ่อและแม่หลานสาวมาโดยตลอดแต่ไม่ใช่จากปากของทั้งคู่แต่เป็นจากแม่บ้านซึ่งเป็นคนสนิทของวลีเธอส่งแม่บ้านให้ไปคอยดูแลลูกชายและรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนั้นทั้งหมด“นิดาเขาดูไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลยนะลูก”ตั้งแต่ลูกชายแต่งงานและแยกบ้านออกไปครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่วลีเลือกที่จะถามเรื่
ตุลาเดินออกมาพร้อมแฟ้มงานยื่นให้เลขา เขากล่าวขอบคุณด้วยใจจริงเพราะเขาไม่คิดว่าหญิงสาวที่เขาเคยพูดไม่ดีด้วยตลอดจะช่วยเลี้ยงลูกโดยเฉพาะสามารถทำให้ขนมจีนมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งวันซึ่งปกติแล้วลูกสาวคนนี้ของเขาจะไม่ค่อยเข้ากับคนแปลกหน้าง่าย ๆ ตุลายังคิดว่าท้ายที่สุดแล้วเขาคงต้องเป็นคนเลี้ยงลูกคนเดียวแน่ถ้าขนมจีนไม่ยอมอยู่กับน้ำขิงแต่สุดท้ายแล้วเด็กน้อยไม่ยอมห่างจากคุณพี่เลขาเลย เจ้านายพาเลขาสาวและขนมจีนไปเลี้ยงอาหารมื้อค่ำเพื่อเป็นการตอบแทนที่วันนี้นอกจากน้ำขิงจะทำหน้าที่เลขาได้เป็นอย่างดี เธอยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับขนมจีนอีก ร้านอาหารที่ทั้งคู่เลือกคราวนี้ไม่ใช่ร้านอาหารอีสานแต่เป็นร้านสเต็กตามแบบที่ขนมจีนชื่นชอบแต่ไม่บ่อยครั้งที่ตุลาจะยอมพาลูกมาเพราะไม่อยากให้ลูกสาวต้องติดนิสัยนอนดึกส่วนมากจึงเลือกที่จะกินแต่อาหารที่บ้านเท่านั้น“วันนี้คุณพ่อใจดีจังค่ะ” ลูกสาวพูดด้วยรอยยิ้มเพราะนานมากแล้วที่เธอไม่มีโอกาสได้มากินอาหารนอกบ้านแบบนี้“พ่อไม่ค่อยมีเวลาวันนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีพ่อก็เลยตามใจลูกเป็นพิเศษหลังจากกินเสร็จแล้วพ่อว่าจะพาขนมจีนไปแวะซื้อของเล่นแต่พ่อให้งบจำกัดและห้าม
ตอนที่ 3เลขาภรรยาข้ามคืน“คุณออกมาหาผมหน่อยได้ไหมแต่ผมคงไม่ได้เข้าไปรับหรอกนะเอาเป็นว่าผมจะรอคุณอยู่ลานจอดรถของที่บริษัท”ตุลาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปที่ไหนหรือควรจะไประบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ใครฟังแล้วคนแรกที่เขาคิดถึงก็คือน้ำขิง ผู้หญิงที่เขาเคยไม่ชอบหน้าและมองว่าเธอเป็นเด็กไม่รู้จักโตตุลาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเวลานี้เขากลับต้องการให้เธอมารับฟังถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยแต่ทุกครั้งที่ได้อยู่กับน้ำขิงเจ้านายอย่างเขากลับรู้สึกสบายใจ“มีอะไรเกิดขึ้นหรือคะถึงได้โทรมาเวลานี้”เลขาสาวรู้สึกงัวเงียเมื่อถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยเสียงโทรศัพท์เพราะตอนนี้ใกล้เวลาจะตีหนึ่งแล้ว“มันคงดึกไปจริง ๆ เธอเองก็เป็นผู้หญิงคงไม่เหมาะที่จะออกมาในเวลานี้...ไม่เป็นไรผมไม่มีอะไรหรอกแค่รู้สึกว่าไม่อยากอยู่คนเดียว”เจ้านายนึกขึ้นมาได้ว่าถึงแม้ว่าน้ำขิงจะเป็นเลขาของเขาแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถโทรเรียกเธอมาเมื่อไหร่ก็ได้เพราะตอนนี้เป็นเวลาที่ดึกมากแล้วแต่สุดท้ายยิ่งสาวกลับตัดสินใจที่จะออกมาตามคำขอร้องของเจ้านายด้วยความเป็นห่วง“ขอบคุณนะที่ยอมออกมา ผมว่าเราไปหาที่สงบคุยกันดีกว่าที่นี่