แชร์

ตอนที่ 6 พี่สาวเยว่

ผู้เขียน: หลี่จินผิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-06 21:00:49

หลังจากสินค้าถูกขายหมดเกลี้ยงแผงภายในเวลาอันรวดเร็ว จางซิ่วอิงจึงพับเก็บผ้าปูไว้ในกระเป๋าผ้าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินดูสินค้าอื่นที่ขายอยู่ภายในตลาดมืดแห่งนี้สักเล็กน้อยแล้วเดินออกมา

ร่างบางเดินตรงไปยังร้านขายผ้าที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ เสื้อผ้าสำเร็จรูปรวมถึงผ้าม้วนมากมายวางเรียงรายละลานตาเต็มไปหมด

“สวัสดีค่ะ ฉันมาดูชุดสำเร็จรูปสักสองชุด พอจะแนะนำให้ได้หรือไม่คะ?”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เปล่งออกไปไม่ดังไม่เบา ทั้งใบหน้าของหญิงสาวยังค่อนข้างเป็นมิตรไม่ต่างจากตอนขายของในตลาดมืด ไม่มีคำไหนที่เธอพูดไม่ดีกับพนักงานคนนี้ด้วยซ้ำ เธอมั่นใจ

แต่ทว่าคำตอบที่ได้รับจากพนักงานของร้านและท่าทางเหยียดหยามของพนักงานที่มีต่อเธอนั้นทำให้จางซิ่วอิงกรุ่นโกรธจนแทบพ่นไฟออกมาเผาหญิงร่างใหญ่ตรงหน้าให้มอดไหม้

“นั่นน่ะ! ดูเอาสิ!!!”พนักงานร่างท้วมตอบค่อนข้างห้วน ขณะนิ้วเรียวชี้มั่ว ๆ ไปยังกองผ้าที่อยู่มุมในสุดของร้าน สายตาที่มองหญิงสาวชาวบ้านชนบทนั้นไม่ได้มีความยินดีอยู่แม้แต่น้อย ยิ่งเห็นเสื้อผ้าเก่า ๆ ที่เธอใส่ยิ่งรู้สึกรังเกียจ

จางซิ่วอิงพยายามผ่อนลมหายใจเข้าออก เพราะเธอก็พอเข้าใจได้ว่าเธออยู่ในชุดที่ออกจะเก่าทั้งยังปะชุนอยู่หลายจุด พนักงานคงกลัวว่าเธอจะมาดูเล่น ๆ แล้วไม่ซื้อก็ได้ จึงตอบรับกลับไปอย่างสุภาพเช่นเคย “ค่ะ ขอเลือกสักครู่นะคะ”

หญิงสาวเดินตรงไปยังมุมหนึ่งของร้าน ที่มีกองผ้าสีไม่สดใสเท่าใดนักกองสุมกันอยู่ ไม่ได้มีการพับให้เรียบร้อยน่าซื้อแต่อย่างใด แต่จนแล้วจนรอดเธอยืนเลือกเสื้อผ้าอยู่นานก็ยังไม่ถูกใจ เพราะเนื้อผ้าแต่ละตัวนั้นค่อนข้างหยาบ และคงใส่ไม่สบายตัวอย่างแน่นอน

สามีของเธอทำงานเป็นทหาร เขาเสียสละร่างกายเพื่อให้ภรรยาอย่างเธอได้อยู่สบาย พอเขากลับมาก็อยากให้เขาอยู่ในที่ดี ๆ ทานอาหารอร่อย ใส่เสื้อผ้าใหม่เนื้อดีให้สบายกายสักหน่อย เป็นการตอบแทน

“ไม่ทราบว่ามีที่เนื้อผ้าดีกว่านี้สักหน่อยหรือเปล่าคะ? คือฉันคิดว่า…”

ยังไม่ทันที่จางซิ่วอิงจะกล่าวจบประโยค พนักงานกลับโต้ตอบเธอขึ้นมาด้วยเสียงที่ดัดจนแหลมเล็กที่ดังไปทั่วทั้งร้าน จนลูกค้าที่เลือกอยู่มุมอื่น ๆ ให้ความสนใจ และกลายเป็นจุดรวมสายตาภายในเวลาอันรวดเร็ว

“โอ๊ยนี่หล่อน!! ผ้าเกรดต่ำพวกนั้นน่ะเหมาะกับหล่อนที่สุดแล้วจ๊ะ! จะอยากดูผ้าเนื้อดีไปทำไมกัน ในเมื่อก็ไม่รู้จะมีปัญญาซื้อหรือเปล่าน่ะ!!”

เธอพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย สายตาที่มองลูกค้าหญิงชนบทจน ๆ ตรงหน้านั้นดูถูกเหยียดหยามอย่างไม่ปิดบัง ปากหนาทาเคลือบด้วยชาดสีแดงฉานบิดยิ้มร้ายก่อนจะเบะปากด้วยความรังเกียจลูกค้าจน ๆ ที่เอาแต่ถามนั่นนี่ไม่เลิก

จางซิ่วอิงสูดหายใจเข้าลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอไม่อยากตัดสินร้านนี้เพราะแค่พนักงานต่ำตมเพียงแค่คนเดียว จึงต้องการพูดคุยกับคนดูแลร้านสักหน่อย อย่างไรเธอเชื่อว่าเธอคงไม่ใช่ลูกค้าคนแรกที่โดนดูถูกดูแคลนเช่นนี้

“ค่ะ!! ฉันขอคุยกับผู้จัดการร้านด้วยค่ะ”แม้น้ำเสียงของหญิงสาวจะไม่ได้เป็นมิตรอย่างในตอนแรก แต่ก็นับว่ายังคงความสุภาพไว้อยู่มากทีเดียว

“ฉันนี่แหละ!! ผู้จัดการร้านที่หล่อนถามหา น้ำหน้าอย่างหล่อนลำพังเสื้อผ้าเกรดต่ำราคาถูกกองนั้นยังไม่แน่ว่าจะมีปัญญาซื้อ แล้วจะถามหาที่ดีกว่านี้อีก คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ห๊า!!”

ร่างอวบอัดของผู้จัดการร้านวัยสามสิบสองยืนประจัญหน้ากับลูกค้าเรื่องมากอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สองมือกอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างเหนือกว่า ปรายตามองร่างผ่ายผอมราวกับขาดสารอาหารอย่างดูถูก

ก็แค่นังบ้านนอกคนหนึ่ง จะมีปัญญาซื้อสักกี่ตัวกันเชียว ชิ!

“เหอะ! ฉันก็เป็นลูกค้าธรรมดาคนหนึ่งนี่ล่ะค่ะ และดูจากท่าทางของผู้จัดการร้านแล้ว ฉันคิดว่าฉันควรไปซื้อร้านที่เขาเต็มใจขายและไม่มีผู้จัดการร้านมารยาททรามแบบร้านนี้จะดีกว่า”

ร่างบางพูดตอบเสียงสั่นเครือ ดวงตาจ้องเขม็งด้วยความกรุ่นโกรธในกายอัดแน่นจนแทบระเบิดออกมาอยู่รอมร่อ สายตาหลายคู่ที่มองมายังจุดที่เธอยืนอยู่ทำให้จางซิ่วอิงพยายามระงับอารมณ์ ไม่เดินไปตบนางมนุษย์ป้าหน้าเมือกนี่

พลันคิดในใจว่าหากเหตุการณ์นี้เกิดในยุคของเธอ สาวสองเลือดนักสู้อย่างลมหนาวไม่มีทางปล่อยให้คนปากแบบนี้มาตวาดเธอได้อยู่สงบสุขแน่ เห็นทีต้องได้ตบตีกันสักยกแน่นอน แต่ด้วยกฎหมายในตอนนี้เป็นเหตุให้ลมหนาวในร่างของหญิงชนบทร่างผอมบางจำต้องกลืนความกรุ่นโกรธลงท้องไปให้หมด

แม้จางซิ่วอิงรู้สึกไม่พอใจอย่างถึงที่สุดแต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรไปมากกว่านี้ มารยาททรามขนาดนี้เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าร้านนี้จะใหญ่โตได้อีกนานแค่ไหน คิดเพียงเท่านั้นร่างบางจึงเดินสะบัดหน้าออกมา ก่อนจะเดินต่อไปอีกราวยี่สิบเมตรก็เจอร้านผ้าขนาดเล็กที่ไม่ค่อยมีคนสนใจมากนัก

ที่นี่เป็นร้านเล็กที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างอับสายตา ภายในร้านมีพนักงานชายหนึ่งคนที่กำลังเคลื่อนย้ายม้วนผ้าขนาดใหญ่ กับพนักงานสาวที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ กำลังง่วนอยู่กับการจัดเรียงสินค้าอยู่

จางซิ่วอิงจึงเดินเข้าไปยังด้านหนึ่งของร้านที่มีเสื้อผ้าสำเร็จรูปวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ แม้จะมีแบบที่ค่อนข้างล้าสมัยและตัวเลือกน้อยกว่าร้านใหญ่เมื่อครู่ แต่ก็นับว่าการจัดเรียงอย่างใส่ใจของร้านนี้ดึงดูดความสนใจจากร่างบางได้มากทีเดียว

ในขณะที่มือเรียวกำลังลูบเนื้อผ้าอยู่นั้น หญิงสาวที่กำลังจัดสินค้าอยู่อีกด้านก็เดินเข้ามาหาลูกค้ารายแรกของวันพลางเริ่มบทสนทนาอย่างกระตือรือร้น

“สวัสดีค่ะ ต้องการเสื้อผ้าสำเร็จรูปแบบไหน สอบถามได้นะคะ”

เสียงใสทั้งสุภาพและอ่อนน้อมแตกต่างจากที่เจอมาก่อนหน้านี้ทำให้อารมณ์ของลูกค้าสาวค่อย ๆ สงบลง จางซิ่วอิงหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของน้ำเสียงเป็นมิตรนั้นด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนไม่ต่างกัน

“คุณคือเถ้าแก่เนี๊ยเหรอคะ?”

“ใช่ค่ะ ฉันพึ่งมารับช่วงต่อร้านนี้จากคุณแม่ได้เพียงเดือนเดียว บางอย่างในร้านอาจจะยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางนัก หากหาอะไรไม่เจอก็สอบถามฉันก่อนได้เลยนะคะ”พูดจบไม่ลืมส่งยิ้มให้ลูกค้าอย่างที่ได้รับสั่งสอนมา

เป็นเพราะปัญหาสุขภาพของคุณแม่ เธอจึงต้องมารับช่วงต่อทันทีหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย โดยนับตั้งแต่วันแรกเธอต้องเรียนรู้เองทุกอย่าง แม้ผู้เป็นมารดาจะคอยให้คำปรึกษา แต่หญิงสาวคิดว่าหากมีมารดามาคอยสอนงานอย่างใกล้ชิด บางทีเธออาจจะทำได้ดีกว่านี้ก็เป็นได้

“เลือกก่อนได้เลยนะคะ เสื้อผ้าทุกชิ้นสามารถลองก่อนได้ และหากซื้อเยอะฉันลดให้พิเศษเลยล่ะค่ะ”เยว่ผิงอันกล่าวต่อพร้อมคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้กับลูกค้า คำพูดต่าง ๆ ล้วนเป็นสิ่งที่แม่เธอสั่งสอนและกำชับให้เธอปฎิบัติอย่างเคร่งครัด แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ยังไม่มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเสียที จนทุนที่มีเริ่มร่อยหรอเต็มที และเธอเองก็เริ่มท้อแท้แล้วเช่นกัน

จางซิ่วอิงยิ้มรับอย่างพึงพอใจ ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบกายครั้งหนึ่ง ร้านนี้ต่อให้อยู่ในทำเลไม่โดดเด่น แต่ทว่าร้านกลับสะอาดสะอ้าน สินค้าเรียงรายเป็นระเบียบเรียบร้อยน่าซื้อหาทั้งที่มีคนดูแลร้านอยู่แค่สองคน แถมเจ้าของร้านยังปฎิบัติกับลูกค้าเป็นอย่างดี ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจที่เธอเห็นแค่หญิสาวจากชนบท

พลันปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นบนใบหน้าของจางซิ่วอิงในทันที

“คุณอยากขายดีหรือเปล่า?”

“ก็ต้องอยากสิคะ”เยว่ผิงอันแม้จะแปลกใจไม่น้อย แต่ก็ยอมรับไปตามตรงอย่างไม่ลังเล ทำการค้าใครบ้างไม่อยากขายดี

“ถ้าอย่างนั้นฉันมีสินค้ามาให้คุณขายค่ะ ช่วงแรกฉันจะฝากวางขายก่อนและแบ่งให้คุณยี่สิบเปอร์เซ็น ขายได้ก็ค่อยเอาเงินมาให้ฉัน”

ขณะพูดใบหน้าได้รูปกลับมารอยยิ้มมั่นใจอยู่เสมอ แววตาของหญิงสาวนั้นทอประกายมุ่งมั่นกว่าครั้งไหน

“แล้วสินค้าที่ว่านั่นคือ…”เธอจำเป็นต้องรู้เสียก่อน เพื่อจะได้ตัดสินใจถูก

แต่ทว่าจางซิ่วอิงเลือกที่จะไม่ตอบอีกฝ่ายไปตามตรง เพราะเธอต้องขอกลับไปดูของในมิติก่อนว่าพร้อมนำออกมาขายจำนวนมากหรือไม่ เธอจำต้องคัดสินค้าเพื่อไม่ให้ดูล้ำสมัยมากเกินไป

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันเอามาให้คุณดูค่ะ ส่วนคุณพอใจจะรับหรือไม่ก็ค่อยตกลงกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ก็ไม่สาย คุณเห็นว่าอย่างไรคะ?”

“อย่างนั้นก็ได้ค่ะ ตกลง ฉันชื่อผิงอัน แซ่เยว่ค่ะ”หญิงสาวหัวสมัยใหม่อย่างเยว่ผิงอันไม่รอช้า ยื่นมือไปตรงหน้าเพื่อทำความรู้จักหญิงสาวที่อาจจะเป็นหุ้นส่วนธุรกิจในวันข้างหน้าของเธอ ซึ่งเยว่ผิงอันนั้นรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูกยิ่งได้เห็นรอยยิ้มและแววตาทอประกายนั่น เธอยิ่งรู้สึกอยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็ว ๆ เสียแล้ว

“ฉันจางซิ่วอิงค่ะ อายุสิบหก”จางซิ่วอิงยื่นมือที่มีแต่หนังหุ้มกระดูกไปจับมือนิ่มตรงหน้า เธอไม่รู้หรอกว่าปกติคนที่นี่แนะนำตัวกันอย่างไร แต่เธอเลือกที่จะบอกอายุก่อนเพื่อจะได้เรียกถูก

“อ่า อย่างนั้นเธอต้องเรียกฉันว่าพี่เยว่ล่ะสิ”

เยว่ผิงอันปีนี้อายุยี่สิบสี่ปีแล้ว ซึ่งจะนับว่าเป็นสาวเทื้อก็ไม่ผิดนัก แต่เธอคิดว่าหากมีการศึกษาที่ดีและสองมือที่ทำมาหากินเลี้ยงตัวเองได้ การมีสามีก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น อีกอย่างเธอยังไม่เจอผู้ชายที่ดีพอน่ะสิ

“ยินดีค่ะ พี่สาวเยว่”

จางซิ่วอิงยิ้มหว้างจนตาหยีให้กับพี่สาวคนใหม่ ก่อนจะขอตัวเดินเลือกเสื้อผ้าที่ต้องการ เธอเลือกเสื้อผ้าคุณภาพปานกลางที่ค่อนข้างหนาหน่อย เพราะอีกไม่นานก็จะเข้าฤดูหนาวแล้ว ซึ่งมีของเธอสองชุด และของสามีอีกสองชุดซึ่งกะขนาดเอาจากความทรงจำเลือนราง ก่อนจะจ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้านไปอย่างอารมณ์ดี เมื่อนึกถึงสิ่งที่จะทำในวันพรุ่งนี้ก็รู้สึกอารมณ์ดีมากขึ้นไปอีก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 7 ทำสัญญาการค้า

    จางซิ่วอิงกลับมาถึงบ้านก็ใกล้เวลาอาหารเย็นเต็มที หญิงสาวเลยเลือกทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ได้จากในมิติมาต้มใส่ผักและเนื้อง่าย ๆ เพื่อเพิ่มสารอาหาร ก่อนจะทานจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาทีร่างบอบบางอาบน้ำชำระร่างกายด้วยด้วยของใช้ที่นำมาจากในมิติ ซึ่งทำให้ห้องน้ำนั้นหอมฟุ้งไม่ต่างจากกลิ่นกายก่อนนอนไม่ลืมตรวจตราความเรียบร้อยรอบบ้านเช่นเคย ก่อนจะนำเงินที่ขายสินค้าในวันนี้ออกมานับ ซึ่งจำนวนที่ได้ในวันนี้ก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจนัก อย่างนี้ความฝันเรื่องบ้านหลังใหม่คงอีกไม่ไกลแล้วในคืนนี้จึงเป็นอีกคืนที่สาวสองในร่างของจางซิ่วอิงหลับไปด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ แม้จะเหนื่อยยากลำบากไปสักหน่อยกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ด้วยหนึ่งสมองและสองมือนี้ลมหนาวจะทำให้ชีวิตของจางซิ่วอิงดีขึ้นให้ได้ ในหัวนั้นวาดฝันอนาคตไปพลาง กระทั่งปิดเปลือกตาลงมุมปากยังคงมีรอยยิ้มเบาบางเช้าวันต่อมาจางซิ่วอิงยังคงทำอาหารง่าย ๆ ทาน ก่อนจะออกจากบ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 8 วางแผนซื้อบ้าน

    จางซิ่วอิงเดินออกมาจากร้านขายผ้าด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ภายในกระเป๋าผ้ามีสัญญาการค้าที่พึ่งเซ็นไป โดยหลังจากนี้เธอจำต้องนำกิ๊บติดผมในมิติออกมารอไว้ทุกวัน เพื่อรวบรวมส่งให้กับพี่สาวเยว่ทุกเจ็ดวันระหว่างทางเดินไปขึ้นเกวียนหญิงสาวเดินผ่านสำนักงานขายที่ดินพอดีพอคำนวนเวลาที่เหลือแล้วคิดว่าพอมีเวลาอยู่นิดหน่อยกว่าเกวียนรอบหน้าจะออก จึงตัดสินใจเข้าไปติดต่อสอบถามเพื่อจะได้รู้ว่าหากต้องการบ้านดี ๆ สักหลังเธอจำต้องทำงานเก็บเงินอีกเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการซื้อที่ดิน บ้าน หรือร้านค้าคะ?”พนักงานสาวที่ยืนรอต้อนรับอยู่ประตูเอ่ยทักทันทีที่จางซิ่วอิงเดินเข้ามา โดยไม่ลืมสอบถามความต้องการของลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ฉันต้องการดูราคาบ้านพร้อมที่ดินค่ะ ขอสอบถามราคาก่อนได้ไหมคะ?”เธอตั้งใจบอกเจตนาของการมาในครั้งนี้ให้กับพนักงานได้ทราบต้งแต่เนิ่น ๆ เพราะวันนี้เธอยังไม่พร้อมจะซื้อจริง ๆ เพียงแค่ต้องการสอบถามราคาไว้ก่อนเพื่อประกอบการตัด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 1 เกิดใหม่ในร่างหญิงแท้

    “ผมตามหาคุณ แต่คุณกลับเดินหนีผมแบบนี้ ช่วยบอกผมหน่อยเถอะว่าระหว่างเรามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม นัยน์ตาคู่คมมองจ้องแฟนสาวนั้นฉายแววเจ็บปวดอย่างไม่ปิดบังหยางซีห่าวบินจากประเทศจีนอย่างเร่งด่วนเพื่อมาตามหาคนรักที่นับจากวันที่พาเธอไปพบกับครอบครัวเธอก็เปลี่ยนไปจนผิดสังเกต ครั้นเมื่อเธอบินกลับบ้านที่ประเทศไทยก็ขาดการติดต่อไปราวกับต้องการหลบหน้าเสียอย่างนั้น“ฉันขอบคุณนะคะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ตลอดเวลาเกือบสองปีคุณดีกับฉันมากจริง ๆ”ลมหนาวแกะมือหนาที่กำลังจับรั้งข้อมือเธออยู่ให้ปล่อยออก ใบหน้าสวยหวานอาบย้อมไปด้วยหยาดน้ำตาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วแก้มขาวเธอจำต้องตัดสัมพันธ์ในครั้งนี้ทั้งที่ยังรัก เพราะเธอไม่อาจเห็นแก่ตัวครอบครองเขาได้อีกต่อไป หลังจากกลับมาจากประเทศจีนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาเธอก็ตระหนักรู้แล้วว่า สิ่งที่ฝ่ายญาติของแฟนหนุ่มต้องการเธอไม่อาจมอบให้เขาได้“ผมไม่เลิก คุณตอบผมมาส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 2 พรข้อที่สอง

    ระหว่างที่ลมหนาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอนเก่าผุพัง ลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอในทีแรกเริ่มติดขัดรุนแรงขึ้นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นภายใต้ความฝันอันยาวนานเปลือกตาบางปิดแน่น คิ้วคู่งามขมวดเข้าหากัน เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายตามกรอบหน้ารูปไข่ ภาพในความฝันที่ยาวนานราวกับกำลังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของใครบางคนให้เธอได้รับรู้…ในความฝันลมหนาวเห็นวิถีชีวิตของเด็กสาวที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับแกะ แม้ในตอนเด็กเธอจะยังคงรูปลักษณ์ของเด็กชาย แต่ผิวพรรณและใบหน้าหวานที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีนั้นไม่ได้ทำให้เธอแตกต่างจากเด็กผู้หญิงมากนักภาพในฝันการแต่งกายย้อนยุคและสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นตา ราวกับว่านั่นเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของตนเองอย่างไรอย่างนั้นหญิงสาวเฝ้ามองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในความฝันอย่างตั้งใจ ภาพตรงหน้าฉายชัดเป็นฉาก ๆ ราวกับกำลังอยู่ในโรงภาพยนตร์ มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายถูกถ่ายทอดออกมา มันชัดเจนเสียจนเธออดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นตัวเธอเอง แต่จะเป็นไปได้อย่างไร ความรู้สึกนึกคิดในฝันนั้นขัดแย้งกันไปมาจนยุ่งเหยิงร่างบางกระสับกระส่ายอยู่นานในที่สุดเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 3 กล่องเหล็กใบน้อย

    จางซิ่วอิงง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อแรกของวัน เครื่องปรุงหลากหลายชนิดที่เธอสามารถหยิบใช้ได้เท่าที่ต้องการทำให้เธออารมณ์ดีที่ไม่ต้องทนกินอาหารรสชาติจืดชืดหลังจากนี้ริมฝีปากอิ่มปรากฏรอยยิ้มเบาบาง มือเรียวควงตะหลิวไปพลาง ปากก็ฮัมเพลงในยุคอนาคตไปพลาง เพียงไม่นานกลิ่นหอมฉุยของอาหารจานเนื้อหนึ่งจานและผัดผักก็อบอวลชวนให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานหลังจากมื้อเช้าจบลงด้วยความเอร็ดอร่อย หญิงสาวเก็บจานชามไปล้างทำความสะอาด ก่อนจะเริ่มเก็บกวาดบ้านเก่าหลังน้อยให้อยู่ในสภาพที่สบายตาและน่าอยู่โดยเริ่มจากห้องครัวที่เธอเดาไม่ออกจริง ๆ ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เก็บกวาดห้องนี้คือกี่ปีมาแล้วมือเล็กปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายตามกรอบหน้าครั้งหนึ่ง ก่อนจะมองห้องครัวที่ผ่านการเก็บกวาดจนเป็นระเบียบอย่างพึงพอใจ ตู้หลังน้อยที่เดิมมีเพียงแค่ไข่ไก่ฟองเดียวก็ถูกเติมจนเต็มโดยสินค้าจากห้างสรรพสินค้ายุค 2024 รวมถึงถังข้าวสาร แป้ง เครื่องปรุง และอุปกรณ์ทำครัวด้วยเช่นกันห้องนอนเป็นพื้นที่ต่อไปที่จะได้รับการเก็บกวาด จางซิ่วอิงรื้อเครื่องนอนเก่าทิ้งทั้งหมด ซึ่งจากที่สำรวจอย่างถี่ถ้วนแล้วมันเก่ามากจริง ๆ แถมผ้าห่มก็เบาบางจนตอนห่มนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 4 ทำการค้าครั้งแรก

    จางซิ่วอิงมารอขึ้นเกวียนก่อนเวลาราวสิบห้านาที ระหว่างนั้นเธอยืนรอเวลาอยู่เพียงเงียบ ๆ สายตารอบข้างที่มองมาราวกับพบเจอสิ่งแปลกประหลาด เสียงตินนินทาลอยแว่วมาตามลมเป็นระยะ หญิงสาวเพียงรับรู้ทว่าไม่ได้ให้ความสนใจเอาความแม้แต่น้อยจากความทรงจำเดิม เจ้าของร่างมักจะถูกมองและนินทาซึ่งหน้าแบบนี้อยู่เป็นประจำ เธออ่อนแอเกินกว่าจะตอบโต้คนเหล่านั้น ในที่สุดจึงทำได้แค่เพียงเดินก้มหน้าอย่างยอมรับชะตากรรมเท่านั้น ต่างจากเธอคนนี้ที่เป็นวิญญาณจากยุคอนาคต แม้จะไม่ได้โต้ตอบแต่ก็ไม่ยอมจำนนอย่างที่แล้วมาพลันดวงตาคู่เรียวตวัดมองเจ้าของเสียงนินทาเหล่านั้นอย่างไม่ยินยอม ก่อนจะเดินเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางมั่นใจ ไม่ต่างจากคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมืองหลังจากรอจนได้เวลา เกวียนสภาพกลางเก่ากลางใหม่ก็เคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางทันที เธอสังเกตเห็นว่าเพื่อนร่วมทางมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับเธอในความทรงจำเดิมคนเหล่านี้นั้นไม่ได้น่าคบหาสักเท่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 5 ตั้งแผงขายในตลาดมืด

    เสียงเรียกของเถ้าแก่เนี๊ยของร้านช่วยฉุดรั้งเธอออกจากภาพฝันในอนาคต จางซิ่วอิงเดินเข้าไปหาลูกค้ารายแรกของเธอทันทีอย่างไม่ลังเล ก่อนจะวางสินค้าตามรายการสั่งซื้อลงบนโต๊ะตรงหน้าให้คุณป้าฟางอิงได้ตรวจสอบ“ดี ๆ ของดีทั้งนั้น นี่ค่าของนับดูก่อนสิ!”หลังจากตรวจนับของที่สั่งไปจนครบถ้วนแล้ว หญิงวัยกลางคนจึงกล่าวขึ้นอย่างพึงพอใจ ในมือนั้นถือขาหมูที่แพ็คมาอย่างดีดูสะอาดน่าทำอาหารมากกว่าหลายร้านที่ซื้อมาก่อนหน้าเป็นอย่างมาก พลันยื่นถุงเงินใบเล็กที่มีเงินอัดแน่นอยู่ในนั้นให้กับหญิงสาวตรงหน้าจางซิ่วอิงรับถุงเงินใบเล็กมา ก่อนจะโยนไว้ในกระเป๋าผ้าคู่กายอย่างไม่คิดมาก แล้วตอบคุณป้าไปด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าว่าเท่าไหร่ก็ตามนั้น”“เธอนี่นะ ไม่กลัวฉันโกงหรืออย่างไร?”แม้จะพูดไปอย่างนั้น แต่แววตาที่มองหญิงสาวคราวลูกก็อ่อนลงไม่น้อย พลันเกิดความรู้สึกเอ็นดูอยู่เล็ก ๆ หลังจากได้เห็นรอยยิ้มใสซื่อนั่นแม้จะไม่อยากเช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05

บทล่าสุด

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 8 วางแผนซื้อบ้าน

    จางซิ่วอิงเดินออกมาจากร้านขายผ้าด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ภายในกระเป๋าผ้ามีสัญญาการค้าที่พึ่งเซ็นไป โดยหลังจากนี้เธอจำต้องนำกิ๊บติดผมในมิติออกมารอไว้ทุกวัน เพื่อรวบรวมส่งให้กับพี่สาวเยว่ทุกเจ็ดวันระหว่างทางเดินไปขึ้นเกวียนหญิงสาวเดินผ่านสำนักงานขายที่ดินพอดีพอคำนวนเวลาที่เหลือแล้วคิดว่าพอมีเวลาอยู่นิดหน่อยกว่าเกวียนรอบหน้าจะออก จึงตัดสินใจเข้าไปติดต่อสอบถามเพื่อจะได้รู้ว่าหากต้องการบ้านดี ๆ สักหลังเธอจำต้องทำงานเก็บเงินอีกเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการซื้อที่ดิน บ้าน หรือร้านค้าคะ?”พนักงานสาวที่ยืนรอต้อนรับอยู่ประตูเอ่ยทักทันทีที่จางซิ่วอิงเดินเข้ามา โดยไม่ลืมสอบถามความต้องการของลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ฉันต้องการดูราคาบ้านพร้อมที่ดินค่ะ ขอสอบถามราคาก่อนได้ไหมคะ?”เธอตั้งใจบอกเจตนาของการมาในครั้งนี้ให้กับพนักงานได้ทราบต้งแต่เนิ่น ๆ เพราะวันนี้เธอยังไม่พร้อมจะซื้อจริง ๆ เพียงแค่ต้องการสอบถามราคาไว้ก่อนเพื่อประกอบการตัด

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 7 ทำสัญญาการค้า

    จางซิ่วอิงกลับมาถึงบ้านก็ใกล้เวลาอาหารเย็นเต็มที หญิงสาวเลยเลือกทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ได้จากในมิติมาต้มใส่ผักและเนื้อง่าย ๆ เพื่อเพิ่มสารอาหาร ก่อนจะทานจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาทีร่างบอบบางอาบน้ำชำระร่างกายด้วยด้วยของใช้ที่นำมาจากในมิติ ซึ่งทำให้ห้องน้ำนั้นหอมฟุ้งไม่ต่างจากกลิ่นกายก่อนนอนไม่ลืมตรวจตราความเรียบร้อยรอบบ้านเช่นเคย ก่อนจะนำเงินที่ขายสินค้าในวันนี้ออกมานับ ซึ่งจำนวนที่ได้ในวันนี้ก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจนัก อย่างนี้ความฝันเรื่องบ้านหลังใหม่คงอีกไม่ไกลแล้วในคืนนี้จึงเป็นอีกคืนที่สาวสองในร่างของจางซิ่วอิงหลับไปด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ แม้จะเหนื่อยยากลำบากไปสักหน่อยกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ด้วยหนึ่งสมองและสองมือนี้ลมหนาวจะทำให้ชีวิตของจางซิ่วอิงดีขึ้นให้ได้ ในหัวนั้นวาดฝันอนาคตไปพลาง กระทั่งปิดเปลือกตาลงมุมปากยังคงมีรอยยิ้มเบาบางเช้าวันต่อมาจางซิ่วอิงยังคงทำอาหารง่าย ๆ ทาน ก่อนจะออกจากบ้า

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 6 พี่สาวเยว่

    หลังจากสินค้าถูกขายหมดเกลี้ยงแผงภายในเวลาอันรวดเร็ว จางซิ่วอิงจึงพับเก็บผ้าปูไว้ในกระเป๋าผ้าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินดูสินค้าอื่นที่ขายอยู่ภายในตลาดมืดแห่งนี้สักเล็กน้อยแล้วเดินออกมาร่างบางเดินตรงไปยังร้านขายผ้าที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ เสื้อผ้าสำเร็จรูปรวมถึงผ้าม้วนมากมายวางเรียงรายละลานตาเต็มไปหมด“สวัสดีค่ะ ฉันมาดูชุดสำเร็จรูปสักสองชุด พอจะแนะนำให้ได้หรือไม่คะ?”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เปล่งออกไปไม่ดังไม่เบา ทั้งใบหน้าของหญิงสาวยังค่อนข้างเป็นมิตรไม่ต่างจากตอนขายของในตลาดมืด ไม่มีคำไหนที่เธอพูดไม่ดีกับพนักงานคนนี้ด้วยซ้ำ เธอมั่นใจแต่ทว่าคำตอบที่ได้รับจากพนักงานของร้านและท่าทางเหยียดหยามของพนักงานที่มีต่อเธอนั้นทำให้จางซิ่วอิงกรุ่นโกรธจนแทบพ่นไฟออกมาเผาหญิงร่างใหญ่ตรงหน้าให้มอดไหม้“นั่นน่ะ! ดูเอาสิ!!!”พนักงานร่างท้วมตอบค่อนข้างห้วน ขณะนิ้วเรียวชี้มั่ว ๆ ไปยังกองผ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 5 ตั้งแผงขายในตลาดมืด

    เสียงเรียกของเถ้าแก่เนี๊ยของร้านช่วยฉุดรั้งเธอออกจากภาพฝันในอนาคต จางซิ่วอิงเดินเข้าไปหาลูกค้ารายแรกของเธอทันทีอย่างไม่ลังเล ก่อนจะวางสินค้าตามรายการสั่งซื้อลงบนโต๊ะตรงหน้าให้คุณป้าฟางอิงได้ตรวจสอบ“ดี ๆ ของดีทั้งนั้น นี่ค่าของนับดูก่อนสิ!”หลังจากตรวจนับของที่สั่งไปจนครบถ้วนแล้ว หญิงวัยกลางคนจึงกล่าวขึ้นอย่างพึงพอใจ ในมือนั้นถือขาหมูที่แพ็คมาอย่างดีดูสะอาดน่าทำอาหารมากกว่าหลายร้านที่ซื้อมาก่อนหน้าเป็นอย่างมาก พลันยื่นถุงเงินใบเล็กที่มีเงินอัดแน่นอยู่ในนั้นให้กับหญิงสาวตรงหน้าจางซิ่วอิงรับถุงเงินใบเล็กมา ก่อนจะโยนไว้ในกระเป๋าผ้าคู่กายอย่างไม่คิดมาก แล้วตอบคุณป้าไปด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าว่าเท่าไหร่ก็ตามนั้น”“เธอนี่นะ ไม่กลัวฉันโกงหรืออย่างไร?”แม้จะพูดไปอย่างนั้น แต่แววตาที่มองหญิงสาวคราวลูกก็อ่อนลงไม่น้อย พลันเกิดความรู้สึกเอ็นดูอยู่เล็ก ๆ หลังจากได้เห็นรอยยิ้มใสซื่อนั่นแม้จะไม่อยากเช

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 4 ทำการค้าครั้งแรก

    จางซิ่วอิงมารอขึ้นเกวียนก่อนเวลาราวสิบห้านาที ระหว่างนั้นเธอยืนรอเวลาอยู่เพียงเงียบ ๆ สายตารอบข้างที่มองมาราวกับพบเจอสิ่งแปลกประหลาด เสียงตินนินทาลอยแว่วมาตามลมเป็นระยะ หญิงสาวเพียงรับรู้ทว่าไม่ได้ให้ความสนใจเอาความแม้แต่น้อยจากความทรงจำเดิม เจ้าของร่างมักจะถูกมองและนินทาซึ่งหน้าแบบนี้อยู่เป็นประจำ เธออ่อนแอเกินกว่าจะตอบโต้คนเหล่านั้น ในที่สุดจึงทำได้แค่เพียงเดินก้มหน้าอย่างยอมรับชะตากรรมเท่านั้น ต่างจากเธอคนนี้ที่เป็นวิญญาณจากยุคอนาคต แม้จะไม่ได้โต้ตอบแต่ก็ไม่ยอมจำนนอย่างที่แล้วมาพลันดวงตาคู่เรียวตวัดมองเจ้าของเสียงนินทาเหล่านั้นอย่างไม่ยินยอม ก่อนจะเดินเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางมั่นใจ ไม่ต่างจากคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมืองหลังจากรอจนได้เวลา เกวียนสภาพกลางเก่ากลางใหม่ก็เคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางทันที เธอสังเกตเห็นว่าเพื่อนร่วมทางมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับเธอในความทรงจำเดิมคนเหล่านี้นั้นไม่ได้น่าคบหาสักเท่

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 3 กล่องเหล็กใบน้อย

    จางซิ่วอิงง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อแรกของวัน เครื่องปรุงหลากหลายชนิดที่เธอสามารถหยิบใช้ได้เท่าที่ต้องการทำให้เธออารมณ์ดีที่ไม่ต้องทนกินอาหารรสชาติจืดชืดหลังจากนี้ริมฝีปากอิ่มปรากฏรอยยิ้มเบาบาง มือเรียวควงตะหลิวไปพลาง ปากก็ฮัมเพลงในยุคอนาคตไปพลาง เพียงไม่นานกลิ่นหอมฉุยของอาหารจานเนื้อหนึ่งจานและผัดผักก็อบอวลชวนให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานหลังจากมื้อเช้าจบลงด้วยความเอร็ดอร่อย หญิงสาวเก็บจานชามไปล้างทำความสะอาด ก่อนจะเริ่มเก็บกวาดบ้านเก่าหลังน้อยให้อยู่ในสภาพที่สบายตาและน่าอยู่โดยเริ่มจากห้องครัวที่เธอเดาไม่ออกจริง ๆ ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เก็บกวาดห้องนี้คือกี่ปีมาแล้วมือเล็กปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายตามกรอบหน้าครั้งหนึ่ง ก่อนจะมองห้องครัวที่ผ่านการเก็บกวาดจนเป็นระเบียบอย่างพึงพอใจ ตู้หลังน้อยที่เดิมมีเพียงแค่ไข่ไก่ฟองเดียวก็ถูกเติมจนเต็มโดยสินค้าจากห้างสรรพสินค้ายุค 2024 รวมถึงถังข้าวสาร แป้ง เครื่องปรุง และอุปกรณ์ทำครัวด้วยเช่นกันห้องนอนเป็นพื้นที่ต่อไปที่จะได้รับการเก็บกวาด จางซิ่วอิงรื้อเครื่องนอนเก่าทิ้งทั้งหมด ซึ่งจากที่สำรวจอย่างถี่ถ้วนแล้วมันเก่ามากจริง ๆ แถมผ้าห่มก็เบาบางจนตอนห่มนั้น

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 2 พรข้อที่สอง

    ระหว่างที่ลมหนาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอนเก่าผุพัง ลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอในทีแรกเริ่มติดขัดรุนแรงขึ้นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นภายใต้ความฝันอันยาวนานเปลือกตาบางปิดแน่น คิ้วคู่งามขมวดเข้าหากัน เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายตามกรอบหน้ารูปไข่ ภาพในความฝันที่ยาวนานราวกับกำลังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของใครบางคนให้เธอได้รับรู้…ในความฝันลมหนาวเห็นวิถีชีวิตของเด็กสาวที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับแกะ แม้ในตอนเด็กเธอจะยังคงรูปลักษณ์ของเด็กชาย แต่ผิวพรรณและใบหน้าหวานที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีนั้นไม่ได้ทำให้เธอแตกต่างจากเด็กผู้หญิงมากนักภาพในฝันการแต่งกายย้อนยุคและสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นตา ราวกับว่านั่นเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของตนเองอย่างไรอย่างนั้นหญิงสาวเฝ้ามองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในความฝันอย่างตั้งใจ ภาพตรงหน้าฉายชัดเป็นฉาก ๆ ราวกับกำลังอยู่ในโรงภาพยนตร์ มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายถูกถ่ายทอดออกมา มันชัดเจนเสียจนเธออดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นตัวเธอเอง แต่จะเป็นไปได้อย่างไร ความรู้สึกนึกคิดในฝันนั้นขัดแย้งกันไปมาจนยุ่งเหยิงร่างบางกระสับกระส่ายอยู่นานในที่สุดเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 1 เกิดใหม่ในร่างหญิงแท้

    “ผมตามหาคุณ แต่คุณกลับเดินหนีผมแบบนี้ ช่วยบอกผมหน่อยเถอะว่าระหว่างเรามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม นัยน์ตาคู่คมมองจ้องแฟนสาวนั้นฉายแววเจ็บปวดอย่างไม่ปิดบังหยางซีห่าวบินจากประเทศจีนอย่างเร่งด่วนเพื่อมาตามหาคนรักที่นับจากวันที่พาเธอไปพบกับครอบครัวเธอก็เปลี่ยนไปจนผิดสังเกต ครั้นเมื่อเธอบินกลับบ้านที่ประเทศไทยก็ขาดการติดต่อไปราวกับต้องการหลบหน้าเสียอย่างนั้น“ฉันขอบคุณนะคะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ตลอดเวลาเกือบสองปีคุณดีกับฉันมากจริง ๆ”ลมหนาวแกะมือหนาที่กำลังจับรั้งข้อมือเธออยู่ให้ปล่อยออก ใบหน้าสวยหวานอาบย้อมไปด้วยหยาดน้ำตาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วแก้มขาวเธอจำต้องตัดสัมพันธ์ในครั้งนี้ทั้งที่ยังรัก เพราะเธอไม่อาจเห็นแก่ตัวครอบครองเขาได้อีกต่อไป หลังจากกลับมาจากประเทศจีนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาเธอก็ตระหนักรู้แล้วว่า สิ่งที่ฝ่ายญาติของแฟนหนุ่มต้องการเธอไม่อาจมอบให้เขาได้“ผมไม่เลิก คุณตอบผมมาส

DMCA.com Protection Status