แชร์

ตอนที่ 8 วางแผนซื้อบ้าน

ผู้เขียน: หลี่จินผิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-08 21:00:40

จางซิ่วอิงเดินออกมาจากร้านขายผ้าด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ภายในกระเป๋าผ้ามีสัญญาการค้าที่พึ่งเซ็นไป โดยหลังจากนี้เธอจำต้องนำกิ๊บติดผมในมิติออกมารอไว้ทุกวัน เพื่อรวบรวมส่งให้กับพี่สาวเยว่ทุกเจ็ดวัน

ระหว่างทางเดินไปขึ้นเกวียนหญิงสาวเดินผ่านสำนักงานขายที่ดินพอดีพอคำนวนเวลาที่เหลือแล้วคิดว่าพอมีเวลาอยู่นิดหน่อยกว่าเกวียนรอบหน้าจะออก จึงตัดสินใจเข้าไปติดต่อสอบถามเพื่อจะได้รู้ว่าหากต้องการบ้านดี ๆ สักหลังเธอจำต้องทำงานเก็บเงินอีกเท่าไหร่

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการซื้อที่ดิน บ้าน หรือร้านค้าคะ?”พนักงานสาวที่ยืนรอต้อนรับอยู่ประตูเอ่ยทักทันทีที่จางซิ่วอิงเดินเข้ามา โดยไม่ลืมสอบถามความต้องการของลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ฉันต้องการดูราคาบ้านพร้อมที่ดินค่ะ ขอสอบถามราคาก่อนได้ไหมคะ?”เธอตั้งใจบอกเจตนาของการมาในครั้งนี้ให้กับพนักงานได้ทราบต้งแต่เนิ่น ๆ เพราะวันนี้เธอยังไม่พร้อมจะซื้อจริง ๆ เพียงแค่ต้องการสอบถามราคาไว้ก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ

“แน่นอนค่ะ ทางสำนักงานของเรามีบ้านหลากหลายขนาด ไม่ทราบว่าสนใจแบบไหนคะ?”

พนักงานสาวตรงหน้ายังคงโต้ตอบกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเดิม นั่นจึงทำให้จางซิ่วอิงรู้สึกเบาใจขึ้นมาว่าจะไม่โดนขับไล่หรือดูแคลนอย่างที่ผ่านมา

หญิงสาวนิ่งคิดถึงภาพที่วาดไว้ในอนาคต และตกลงกับตัวเองแล้วว่าที่บ้านควรมีสักสามห้องนอนกำลังดี ส่วนห้องน้ำสักสองห้องจะได้ไม่แย่งกัน หากว่าในอนาคตเธอกับสามีมีเจ้าตัวน้อยเกิดขึ้นมาจะได้ไม่ต้องต่อเติมหรือย้ายบ้านให้ยุ่งยาก  หรืออีกทางหากเธอกับสามีไม่อาจไปด้วยกันได้ บ้านหลังนี้ก็ยังคงเป็นทรัพย์สินของเธอที่สามารถปล่อยให้เช่าได้ในอนาคต

“ฉันต้องการบ้านขนาดสามห้องนอนค่ะ ห้องน้ำหากมีสักสองห้องด้วยก็จะดีมาก แล้วก็ขอพื้นที่รอบบ้านสักหน่อยแบบนี้พอมีไหมคะ?”

“บ้านขนาดสามห้องนอน สองห้องน้ำ หนึ่งห้องรับแขกพร้อมที่เปล่าหน้าบ้านอีกเล็กน้อย ตั้งอยู่ภายในตรอกเดียวกันกับสำนักงานนี่เองค่ะ เดินเข้าไปราวห้าสิบเมตรก็ถึง ราคาจะอยู่ที่หนึ่งพันเจ็ดร้อยหยวนค่ะ”

พนักงานสาวบอกราคาและที่ตั้งของบ้านหลังแรกเสร็จสรรพในประโยคเดียว ก่อนจะเอ่ยถึงตัวเลือกที่สองด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ส่วนบ้านอีกหลังมีสามห้องนอนเช่นกัน แต่มีหนึ่งห้องน้ำ พื้นที่รอบบ้านกว้างกว่าหลังแรก อยู่ใกล้กับโรงเรียน ราคาอยู่ที่สองพันหยวนค่ะ รอสักครู่นะคะเดี๋ยวฉันไปหยิบแผนที่บ้านทั้งสองหลังมาให้คุณ”

พูดจบก็เดินกลับไปยังโต๊ะทำงาน ก่อนจะเปิดแฟ้มที่สันค่อนข้างหนา พนักงานสาวพลิกหาแผนที่อยู่เพียงไม่นานก็เดินกลับมาหาหญิงสาวพร้อมกับแผนที่บ้านทั้งสองหลัง

จางซิ่วอิงยอมรับว่าเธอเองสนใจบ้านทั้งสองหลังนี้เป็นอย่างมาก เพราะตั้งใจแต่แรกว่าอยากได้บ้านในย่านนี้ แต่คาดไม่ถึงว่าบ้านจะอยู่ในทำเลที่ดีมากทีเดียว ในอนาคตหากเธอมีลูกกับสามีบ้านหลังที่สองก็ไม่ใช่ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหรอกหรือ พลันหญิงสาวคิดขึ้นได้ว่าเธอนึกถึงการมีลูกเป็นครั้งที่สองของวันก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าว ก่อนจะกระแอมครั้งหนึ่งแล้วกันมาพูดคุยกับพนักงานตรงหน้าต่อ

“ฉันสนใจขนาดสามห้องนอนหนึ่งห้องน้ำนะคะ แต่คงต้องปรึกษาคนที่บ้านก่อน อย่างไรฉันจะรีบกลับมาซื้อบ้านหลังนี้ให้ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”

จางซิ่วอิงตอบกลับยิ้ม ๆ โดยไม่ลืมกล่าวขอบคุณพนักงานคนนี้ที่ให้ข้อมูลเธอได้เป็นอย่างดีโดยไม่มีท่าทีรำคาญแม้แต่น้อย

“ไม่เป็นไรค่ะ เอาตามที่คุณลูกค้าสะดวกได้เลย”พนักงานสาวยังคงตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ถึงอย่างไรเงินมากมายขนาดนี้คงไม่มีใครที่พกติดตัวไปไหนมาไหนอยู่แล้วเธอเข้าใจดี และส่วนใหญ่เมื่อมาถามแล้วก็เงียบหายไป เธอจึงตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแม้สุดท้ายแล้วเธอจะยังขายไม่ได้ก็ตามที

เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนพร้อมแผนที่บ้านในมือเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากสำนักงาน จากนั้นจึงตรงไปยังจุดที่จอดเกวียนซึ่งเป็นเวลาที่กะไว้พอดิบพอดี เพราะเมื่อจางซิ่วอิงเดินไปถึงเพียงไม่นานก็ได้เวลาออกจากจุดจอด

ระหว่างทางหญิงสาวสังเกตเห็นสายตาเคลือบแคลงใจจากเพื่อนร่วมทางได้อย่างชัดเจน ก็แน่ล่ะสิจะมีหญิงสาวที่ไหนขยันเข้าตัวอำเภอได้ทุกวี่ทุกวันอย่างเธอกัน นี่คงไม่ใช่ไปปล่อยข่าวลือให้เธอเสียหายหรอกนะ ไม่อย่างนั้นเธอจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับคนพวกนี้อย่างแน่นอน

เมื่อเกวียนเข้ามาในหมู่บ้าน หญิงสาวจึงจ่ายเงินค่าโดยสารทันทีแล้วเดินออกมาโดยไม่ได้ใส่ใจคนรอบข้าง จางซิ่วอิงยังคงเดินเท้ากลับบ้านอย่างไม่ทุกข์ร้อน

ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในบ้านเสียงน้ำย่อยในกระเพาะนั้นก็เริ่มทำงานในทันที นี่ก็เลยมื้อเที่ยงมาสักพักแล้ว คิดได้ดังนั้นจึงเดินเข้าไปทำอาหารสองอย่างในครัวและอุ่นข้าวขาวที่หุงไว้เมื่อเช้าและนั่งทานเงียบ ๆ

เธอรู้สึกเหนื่อยล้าไม่น้อยหลังจากทะลุมิติเข้ามาก็ทำนั่นนี่ไม่หยุดหย่อน พลันเมื่อทานอาหารเที่ยงจนอิ่มแล้วจึงล้างจานและเก็บเข้าที่ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อนอนกลางวันสักหน่อย ไหน ๆ วันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรต้องทำต่อแล้ว

หญิงสาวตื่นขึ้นมาในช่วงบ่ายคล้อย จึงคิดว่าจะทำความสะอาดห้องครัวอีกสักหน่อยค่อยทานมื้อเย็น แต่ทว่ายังไม่ทันก้าวขาเข้ามาในห้องครัวก็มีเสียงเรียกที่หน้าบ้านดังขึ้น

“จางซิ่วอิง จางซิ่วอิง! เธออยู่บ้านหรือเปล่า?”

จางซิ่วอิงแอบมองผ่านรูตรงขอบประตูก็พบเข้ากับร่างของชายหญิงคู่หนึ่ง เมื่อค้นในความทรงจำก็รู้ว่าเขาคือลูกชายคนโตของหัวหน้าหมู่บ้านและภรรยา ทั้งสองมีสีหน้าไม่สู้ดี พลันลางสังหรณ์ของจางซิ่วอิงก็ทำงานทันที เธอรู้สึกว่ากำลังมีเรื่องไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธออย่างแน่นอน

หญิงสาวเปิดประตูออกไปด้วยท่าทีสงบนิ่ง แม้ในใจจะวูบโหวงอย่างไม่ทราบสาเหตุก็ตามที จางซิ่วอิงยังคงรักษาสีหน้าไม่ให้ตื่นตระหนกไปตามทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี

“พี่ชายโจว พี่สะไภ้ มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?”หญิงสาวพยักหน้าทำความเคารพคนทั้งสอง ก่อนจะถามออกไปด้วยท่าทีสุภาพอ่อนน้อมไม่น้อย เนื่องด้วยคนบ้านนี้ไม่เคยทำเรื่องลำบากใจให้เธอสักครั้ง แม้จะไม่ได้สุงสิงกันแต่ก็นับว่าเป็นคนดีอยู่บ้าง

“สามีเธอกลับมาแล้วนะ ตอนนี้อยู่ที่บ้านใหญ่ แต่ว่า…”เป็นว่านเจียหลินที่พูดขึ้นทันที่เจ้าของบ้านเดินออกมา เพราะสามีอย่างโจวเหยียนนั้นชักช้าจนเกินไป เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้นั้นรอไม่ได้อีกแล้วจึงต้องรีบพาหญิงตรงหน้าไปให้เร็วที่สุด

ท่าทางร้อนใจของสองสามีภรรยาทำเอาคิ้วคู่งามขมวดเข้าหากันปม ก่อนจะถามกลับไปอย่างนึกแปลกใจ

“สามีเหรอคะ? ทำไมถึง…”ล่าสุดก่อนที่เขาจะกลับเข้าค่าย จางซิ่วอิงจำได้ดีว่าเขาจะกลับมาอีกครั้งในสามเดือนข้างหน้า ซึ่งจากความทรงจำคิดว่าเธอไม่น่าจะจำคำพูดสามีผิดไปอย่างแน่นอน แต่หากเขากลับมาตอนนี้แปลว่ามีบางอย่างผิดปกติ คิดมาถึงตรงนี้พลันในใจก็รู้สึกหวั่นเกรงบางอย่างขึ้นมา

“อย่าพึ่งถามเลย ไปกับฉันก่อนเถอะเดี๋ยวก็รู้”โจวเหวินพูดขึ้นบ้าง ตอนนี้พ่อของเขาอยู่จัดการเรื่องที่บ้านใหญ่หยาง เขาเองก็ไม่อยากให้เหตุการณ์ยืดเยื้อไปกว่านี้อีกจึงกล่าวตัดบท

“ได้ค่ะ”หญิงสาวตอบรับเพียงเท่านั้น ก่อนจะหันมาปิดประตูและรั้วบ้านเก่า ๆ ในทีแรกคิดว่าจะไม่ตื่นตระหนก แต่เรื่องนี้มันผิดปกติเกินไปจนเธอไม่อาจวางเฉยได้อีกแล้ว

ทันทีที่จางซิ่วอิงเดินมาถึงบริเวณหน้าบ้านหยางซึ่งตอนนี้มีชาวบ้านหลายสิบคนกำลังมุงดูบางอย่าง ในขณะนั้นก็มีเสียงเอะอะโวยวายคละเคล้ากับเสียงร่ำไห้ปานจะขาดใจของใครบางคนที่เธอก็เดาไม่ออก

โจวเหยียนใช้ความได้เปรียบเรื่องรูปร่างที่สูงใหญ่แหวกกำแพงผู้คนเข้าไปในวงล้อมโดยมือหนาก็จับจูงข้อมือของภรรยาเอาไว้ และว่านเจียหลินเองก็จูงมือจางซิ่วอิงต่ออีกทอดหนึ่ง

และหลังจากที่ฝ่าเข้ามากลางวงล้อมได้สำเร็จดวงตาคู่เรียวพลันหยุดชะงักอยู่ที่ขายาวที่พันผ้าพันแผลสีขาวไว้หนาแน่นจากข้อเท้าจนเลยขึ้นมาเหนือหัวเข่า สายตาเลื่อนขึ้นไปอีกนิดจนปะทะเข้ากับนัยน์ตาคมกริบที่คุ้นเคย

ร่างบางพลันทรุดลงในทันที ดวงตาคู่สวยร้อนผ่าวก่อนจะมีม่านน้ำตาเอ่อคลอจนไหลอาบแก้มในที่สุด “คุณ ฮึก! ซีห่าว”

นอกจากเขาจะชื่อแซ่เดียวกับคนรักของเธอในชาติที่แล้ว หน้าตาหรือแม้แต่รูปร่างก็ราวกับคน ๆ เดียวกันไม่มีผิด ฉะนั้นสายตาที่เธอมองสามีจึงเต็มไปด้วยความคิดถึงผสมปนเปกับความรู้สึกผิดที่กัดกินอยู่ในใจมาตลอดที่ติดตัวมาจากชาติที่แล้ว เธอรู้สึกผิดต่อเขาเหลือเกิน

“ภรรยา คือ…ผม”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 1 เกิดใหม่ในร่างหญิงแท้

    “ผมตามหาคุณ แต่คุณกลับเดินหนีผมแบบนี้ ช่วยบอกผมหน่อยเถอะว่าระหว่างเรามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม นัยน์ตาคู่คมมองจ้องแฟนสาวนั้นฉายแววเจ็บปวดอย่างไม่ปิดบังหยางซีห่าวบินจากประเทศจีนอย่างเร่งด่วนเพื่อมาตามหาคนรักที่นับจากวันที่พาเธอไปพบกับครอบครัวเธอก็เปลี่ยนไปจนผิดสังเกต ครั้นเมื่อเธอบินกลับบ้านที่ประเทศไทยก็ขาดการติดต่อไปราวกับต้องการหลบหน้าเสียอย่างนั้น“ฉันขอบคุณนะคะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ตลอดเวลาเกือบสองปีคุณดีกับฉันมากจริง ๆ”ลมหนาวแกะมือหนาที่กำลังจับรั้งข้อมือเธออยู่ให้ปล่อยออก ใบหน้าสวยหวานอาบย้อมไปด้วยหยาดน้ำตาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วแก้มขาวเธอจำต้องตัดสัมพันธ์ในครั้งนี้ทั้งที่ยังรัก เพราะเธอไม่อาจเห็นแก่ตัวครอบครองเขาได้อีกต่อไป หลังจากกลับมาจากประเทศจีนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาเธอก็ตระหนักรู้แล้วว่า สิ่งที่ฝ่ายญาติของแฟนหนุ่มต้องการเธอไม่อาจมอบให้เขาได้“ผมไม่เลิก คุณตอบผมมาส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 2 พรข้อที่สอง

    ระหว่างที่ลมหนาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอนเก่าผุพัง ลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอในทีแรกเริ่มติดขัดรุนแรงขึ้นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นภายใต้ความฝันอันยาวนานเปลือกตาบางปิดแน่น คิ้วคู่งามขมวดเข้าหากัน เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายตามกรอบหน้ารูปไข่ ภาพในความฝันที่ยาวนานราวกับกำลังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของใครบางคนให้เธอได้รับรู้…ในความฝันลมหนาวเห็นวิถีชีวิตของเด็กสาวที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับแกะ แม้ในตอนเด็กเธอจะยังคงรูปลักษณ์ของเด็กชาย แต่ผิวพรรณและใบหน้าหวานที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีนั้นไม่ได้ทำให้เธอแตกต่างจากเด็กผู้หญิงมากนักภาพในฝันการแต่งกายย้อนยุคและสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นตา ราวกับว่านั่นเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของตนเองอย่างไรอย่างนั้นหญิงสาวเฝ้ามองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในความฝันอย่างตั้งใจ ภาพตรงหน้าฉายชัดเป็นฉาก ๆ ราวกับกำลังอยู่ในโรงภาพยนตร์ มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายถูกถ่ายทอดออกมา มันชัดเจนเสียจนเธออดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นตัวเธอเอง แต่จะเป็นไปได้อย่างไร ความรู้สึกนึกคิดในฝันนั้นขัดแย้งกันไปมาจนยุ่งเหยิงร่างบางกระสับกระส่ายอยู่นานในที่สุดเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 3 กล่องเหล็กใบน้อย

    จางซิ่วอิงง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อแรกของวัน เครื่องปรุงหลากหลายชนิดที่เธอสามารถหยิบใช้ได้เท่าที่ต้องการทำให้เธออารมณ์ดีที่ไม่ต้องทนกินอาหารรสชาติจืดชืดหลังจากนี้ริมฝีปากอิ่มปรากฏรอยยิ้มเบาบาง มือเรียวควงตะหลิวไปพลาง ปากก็ฮัมเพลงในยุคอนาคตไปพลาง เพียงไม่นานกลิ่นหอมฉุยของอาหารจานเนื้อหนึ่งจานและผัดผักก็อบอวลชวนให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานหลังจากมื้อเช้าจบลงด้วยความเอร็ดอร่อย หญิงสาวเก็บจานชามไปล้างทำความสะอาด ก่อนจะเริ่มเก็บกวาดบ้านเก่าหลังน้อยให้อยู่ในสภาพที่สบายตาและน่าอยู่โดยเริ่มจากห้องครัวที่เธอเดาไม่ออกจริง ๆ ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เก็บกวาดห้องนี้คือกี่ปีมาแล้วมือเล็กปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายตามกรอบหน้าครั้งหนึ่ง ก่อนจะมองห้องครัวที่ผ่านการเก็บกวาดจนเป็นระเบียบอย่างพึงพอใจ ตู้หลังน้อยที่เดิมมีเพียงแค่ไข่ไก่ฟองเดียวก็ถูกเติมจนเต็มโดยสินค้าจากห้างสรรพสินค้ายุค 2024 รวมถึงถังข้าวสาร แป้ง เครื่องปรุง และอุปกรณ์ทำครัวด้วยเช่นกันห้องนอนเป็นพื้นที่ต่อไปที่จะได้รับการเก็บกวาด จางซิ่วอิงรื้อเครื่องนอนเก่าทิ้งทั้งหมด ซึ่งจากที่สำรวจอย่างถี่ถ้วนแล้วมันเก่ามากจริง ๆ แถมผ้าห่มก็เบาบางจนตอนห่มนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 4 ทำการค้าครั้งแรก

    จางซิ่วอิงมารอขึ้นเกวียนก่อนเวลาราวสิบห้านาที ระหว่างนั้นเธอยืนรอเวลาอยู่เพียงเงียบ ๆ สายตารอบข้างที่มองมาราวกับพบเจอสิ่งแปลกประหลาด เสียงตินนินทาลอยแว่วมาตามลมเป็นระยะ หญิงสาวเพียงรับรู้ทว่าไม่ได้ให้ความสนใจเอาความแม้แต่น้อยจากความทรงจำเดิม เจ้าของร่างมักจะถูกมองและนินทาซึ่งหน้าแบบนี้อยู่เป็นประจำ เธออ่อนแอเกินกว่าจะตอบโต้คนเหล่านั้น ในที่สุดจึงทำได้แค่เพียงเดินก้มหน้าอย่างยอมรับชะตากรรมเท่านั้น ต่างจากเธอคนนี้ที่เป็นวิญญาณจากยุคอนาคต แม้จะไม่ได้โต้ตอบแต่ก็ไม่ยอมจำนนอย่างที่แล้วมาพลันดวงตาคู่เรียวตวัดมองเจ้าของเสียงนินทาเหล่านั้นอย่างไม่ยินยอม ก่อนจะเดินเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางมั่นใจ ไม่ต่างจากคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมืองหลังจากรอจนได้เวลา เกวียนสภาพกลางเก่ากลางใหม่ก็เคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางทันที เธอสังเกตเห็นว่าเพื่อนร่วมทางมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับเธอในความทรงจำเดิมคนเหล่านี้นั้นไม่ได้น่าคบหาสักเท่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 5 ตั้งแผงขายในตลาดมืด

    เสียงเรียกของเถ้าแก่เนี๊ยของร้านช่วยฉุดรั้งเธอออกจากภาพฝันในอนาคต จางซิ่วอิงเดินเข้าไปหาลูกค้ารายแรกของเธอทันทีอย่างไม่ลังเล ก่อนจะวางสินค้าตามรายการสั่งซื้อลงบนโต๊ะตรงหน้าให้คุณป้าฟางอิงได้ตรวจสอบ“ดี ๆ ของดีทั้งนั้น นี่ค่าของนับดูก่อนสิ!”หลังจากตรวจนับของที่สั่งไปจนครบถ้วนแล้ว หญิงวัยกลางคนจึงกล่าวขึ้นอย่างพึงพอใจ ในมือนั้นถือขาหมูที่แพ็คมาอย่างดีดูสะอาดน่าทำอาหารมากกว่าหลายร้านที่ซื้อมาก่อนหน้าเป็นอย่างมาก พลันยื่นถุงเงินใบเล็กที่มีเงินอัดแน่นอยู่ในนั้นให้กับหญิงสาวตรงหน้าจางซิ่วอิงรับถุงเงินใบเล็กมา ก่อนจะโยนไว้ในกระเป๋าผ้าคู่กายอย่างไม่คิดมาก แล้วตอบคุณป้าไปด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าว่าเท่าไหร่ก็ตามนั้น”“เธอนี่นะ ไม่กลัวฉันโกงหรืออย่างไร?”แม้จะพูดไปอย่างนั้น แต่แววตาที่มองหญิงสาวคราวลูกก็อ่อนลงไม่น้อย พลันเกิดความรู้สึกเอ็นดูอยู่เล็ก ๆ หลังจากได้เห็นรอยยิ้มใสซื่อนั่นแม้จะไม่อยากเช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 6 พี่สาวเยว่

    หลังจากสินค้าถูกขายหมดเกลี้ยงแผงภายในเวลาอันรวดเร็ว จางซิ่วอิงจึงพับเก็บผ้าปูไว้ในกระเป๋าผ้าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินดูสินค้าอื่นที่ขายอยู่ภายในตลาดมืดแห่งนี้สักเล็กน้อยแล้วเดินออกมาร่างบางเดินตรงไปยังร้านขายผ้าที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ เสื้อผ้าสำเร็จรูปรวมถึงผ้าม้วนมากมายวางเรียงรายละลานตาเต็มไปหมด“สวัสดีค่ะ ฉันมาดูชุดสำเร็จรูปสักสองชุด พอจะแนะนำให้ได้หรือไม่คะ?”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เปล่งออกไปไม่ดังไม่เบา ทั้งใบหน้าของหญิงสาวยังค่อนข้างเป็นมิตรไม่ต่างจากตอนขายของในตลาดมืด ไม่มีคำไหนที่เธอพูดไม่ดีกับพนักงานคนนี้ด้วยซ้ำ เธอมั่นใจแต่ทว่าคำตอบที่ได้รับจากพนักงานของร้านและท่าทางเหยียดหยามของพนักงานที่มีต่อเธอนั้นทำให้จางซิ่วอิงกรุ่นโกรธจนแทบพ่นไฟออกมาเผาหญิงร่างใหญ่ตรงหน้าให้มอดไหม้“นั่นน่ะ! ดูเอาสิ!!!”พนักงานร่างท้วมตอบค่อนข้างห้วน ขณะนิ้วเรียวชี้มั่ว ๆ ไปยังกองผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 7 ทำสัญญาการค้า

    จางซิ่วอิงกลับมาถึงบ้านก็ใกล้เวลาอาหารเย็นเต็มที หญิงสาวเลยเลือกทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ได้จากในมิติมาต้มใส่ผักและเนื้อง่าย ๆ เพื่อเพิ่มสารอาหาร ก่อนจะทานจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาทีร่างบอบบางอาบน้ำชำระร่างกายด้วยด้วยของใช้ที่นำมาจากในมิติ ซึ่งทำให้ห้องน้ำนั้นหอมฟุ้งไม่ต่างจากกลิ่นกายก่อนนอนไม่ลืมตรวจตราความเรียบร้อยรอบบ้านเช่นเคย ก่อนจะนำเงินที่ขายสินค้าในวันนี้ออกมานับ ซึ่งจำนวนที่ได้ในวันนี้ก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจนัก อย่างนี้ความฝันเรื่องบ้านหลังใหม่คงอีกไม่ไกลแล้วในคืนนี้จึงเป็นอีกคืนที่สาวสองในร่างของจางซิ่วอิงหลับไปด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ แม้จะเหนื่อยยากลำบากไปสักหน่อยกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ด้วยหนึ่งสมองและสองมือนี้ลมหนาวจะทำให้ชีวิตของจางซิ่วอิงดีขึ้นให้ได้ ในหัวนั้นวาดฝันอนาคตไปพลาง กระทั่งปิดเปลือกตาลงมุมปากยังคงมีรอยยิ้มเบาบางเช้าวันต่อมาจางซิ่วอิงยังคงทำอาหารง่าย ๆ ทาน ก่อนจะออกจากบ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07

บทล่าสุด

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 8 วางแผนซื้อบ้าน

    จางซิ่วอิงเดินออกมาจากร้านขายผ้าด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ภายในกระเป๋าผ้ามีสัญญาการค้าที่พึ่งเซ็นไป โดยหลังจากนี้เธอจำต้องนำกิ๊บติดผมในมิติออกมารอไว้ทุกวัน เพื่อรวบรวมส่งให้กับพี่สาวเยว่ทุกเจ็ดวันระหว่างทางเดินไปขึ้นเกวียนหญิงสาวเดินผ่านสำนักงานขายที่ดินพอดีพอคำนวนเวลาที่เหลือแล้วคิดว่าพอมีเวลาอยู่นิดหน่อยกว่าเกวียนรอบหน้าจะออก จึงตัดสินใจเข้าไปติดต่อสอบถามเพื่อจะได้รู้ว่าหากต้องการบ้านดี ๆ สักหลังเธอจำต้องทำงานเก็บเงินอีกเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการซื้อที่ดิน บ้าน หรือร้านค้าคะ?”พนักงานสาวที่ยืนรอต้อนรับอยู่ประตูเอ่ยทักทันทีที่จางซิ่วอิงเดินเข้ามา โดยไม่ลืมสอบถามความต้องการของลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ฉันต้องการดูราคาบ้านพร้อมที่ดินค่ะ ขอสอบถามราคาก่อนได้ไหมคะ?”เธอตั้งใจบอกเจตนาของการมาในครั้งนี้ให้กับพนักงานได้ทราบต้งแต่เนิ่น ๆ เพราะวันนี้เธอยังไม่พร้อมจะซื้อจริง ๆ เพียงแค่ต้องการสอบถามราคาไว้ก่อนเพื่อประกอบการตัด

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 7 ทำสัญญาการค้า

    จางซิ่วอิงกลับมาถึงบ้านก็ใกล้เวลาอาหารเย็นเต็มที หญิงสาวเลยเลือกทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ได้จากในมิติมาต้มใส่ผักและเนื้อง่าย ๆ เพื่อเพิ่มสารอาหาร ก่อนจะทานจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาทีร่างบอบบางอาบน้ำชำระร่างกายด้วยด้วยของใช้ที่นำมาจากในมิติ ซึ่งทำให้ห้องน้ำนั้นหอมฟุ้งไม่ต่างจากกลิ่นกายก่อนนอนไม่ลืมตรวจตราความเรียบร้อยรอบบ้านเช่นเคย ก่อนจะนำเงินที่ขายสินค้าในวันนี้ออกมานับ ซึ่งจำนวนที่ได้ในวันนี้ก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจนัก อย่างนี้ความฝันเรื่องบ้านหลังใหม่คงอีกไม่ไกลแล้วในคืนนี้จึงเป็นอีกคืนที่สาวสองในร่างของจางซิ่วอิงหลับไปด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ แม้จะเหนื่อยยากลำบากไปสักหน่อยกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ด้วยหนึ่งสมองและสองมือนี้ลมหนาวจะทำให้ชีวิตของจางซิ่วอิงดีขึ้นให้ได้ ในหัวนั้นวาดฝันอนาคตไปพลาง กระทั่งปิดเปลือกตาลงมุมปากยังคงมีรอยยิ้มเบาบางเช้าวันต่อมาจางซิ่วอิงยังคงทำอาหารง่าย ๆ ทาน ก่อนจะออกจากบ้า

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 6 พี่สาวเยว่

    หลังจากสินค้าถูกขายหมดเกลี้ยงแผงภายในเวลาอันรวดเร็ว จางซิ่วอิงจึงพับเก็บผ้าปูไว้ในกระเป๋าผ้าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินดูสินค้าอื่นที่ขายอยู่ภายในตลาดมืดแห่งนี้สักเล็กน้อยแล้วเดินออกมาร่างบางเดินตรงไปยังร้านขายผ้าที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ เสื้อผ้าสำเร็จรูปรวมถึงผ้าม้วนมากมายวางเรียงรายละลานตาเต็มไปหมด“สวัสดีค่ะ ฉันมาดูชุดสำเร็จรูปสักสองชุด พอจะแนะนำให้ได้หรือไม่คะ?”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เปล่งออกไปไม่ดังไม่เบา ทั้งใบหน้าของหญิงสาวยังค่อนข้างเป็นมิตรไม่ต่างจากตอนขายของในตลาดมืด ไม่มีคำไหนที่เธอพูดไม่ดีกับพนักงานคนนี้ด้วยซ้ำ เธอมั่นใจแต่ทว่าคำตอบที่ได้รับจากพนักงานของร้านและท่าทางเหยียดหยามของพนักงานที่มีต่อเธอนั้นทำให้จางซิ่วอิงกรุ่นโกรธจนแทบพ่นไฟออกมาเผาหญิงร่างใหญ่ตรงหน้าให้มอดไหม้“นั่นน่ะ! ดูเอาสิ!!!”พนักงานร่างท้วมตอบค่อนข้างห้วน ขณะนิ้วเรียวชี้มั่ว ๆ ไปยังกองผ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 5 ตั้งแผงขายในตลาดมืด

    เสียงเรียกของเถ้าแก่เนี๊ยของร้านช่วยฉุดรั้งเธอออกจากภาพฝันในอนาคต จางซิ่วอิงเดินเข้าไปหาลูกค้ารายแรกของเธอทันทีอย่างไม่ลังเล ก่อนจะวางสินค้าตามรายการสั่งซื้อลงบนโต๊ะตรงหน้าให้คุณป้าฟางอิงได้ตรวจสอบ“ดี ๆ ของดีทั้งนั้น นี่ค่าของนับดูก่อนสิ!”หลังจากตรวจนับของที่สั่งไปจนครบถ้วนแล้ว หญิงวัยกลางคนจึงกล่าวขึ้นอย่างพึงพอใจ ในมือนั้นถือขาหมูที่แพ็คมาอย่างดีดูสะอาดน่าทำอาหารมากกว่าหลายร้านที่ซื้อมาก่อนหน้าเป็นอย่างมาก พลันยื่นถุงเงินใบเล็กที่มีเงินอัดแน่นอยู่ในนั้นให้กับหญิงสาวตรงหน้าจางซิ่วอิงรับถุงเงินใบเล็กมา ก่อนจะโยนไว้ในกระเป๋าผ้าคู่กายอย่างไม่คิดมาก แล้วตอบคุณป้าไปด้วยรอยยิ้มใสซื่อ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าว่าเท่าไหร่ก็ตามนั้น”“เธอนี่นะ ไม่กลัวฉันโกงหรืออย่างไร?”แม้จะพูดไปอย่างนั้น แต่แววตาที่มองหญิงสาวคราวลูกก็อ่อนลงไม่น้อย พลันเกิดความรู้สึกเอ็นดูอยู่เล็ก ๆ หลังจากได้เห็นรอยยิ้มใสซื่อนั่นแม้จะไม่อยากเช

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 4 ทำการค้าครั้งแรก

    จางซิ่วอิงมารอขึ้นเกวียนก่อนเวลาราวสิบห้านาที ระหว่างนั้นเธอยืนรอเวลาอยู่เพียงเงียบ ๆ สายตารอบข้างที่มองมาราวกับพบเจอสิ่งแปลกประหลาด เสียงตินนินทาลอยแว่วมาตามลมเป็นระยะ หญิงสาวเพียงรับรู้ทว่าไม่ได้ให้ความสนใจเอาความแม้แต่น้อยจากความทรงจำเดิม เจ้าของร่างมักจะถูกมองและนินทาซึ่งหน้าแบบนี้อยู่เป็นประจำ เธออ่อนแอเกินกว่าจะตอบโต้คนเหล่านั้น ในที่สุดจึงทำได้แค่เพียงเดินก้มหน้าอย่างยอมรับชะตากรรมเท่านั้น ต่างจากเธอคนนี้ที่เป็นวิญญาณจากยุคอนาคต แม้จะไม่ได้โต้ตอบแต่ก็ไม่ยอมจำนนอย่างที่แล้วมาพลันดวงตาคู่เรียวตวัดมองเจ้าของเสียงนินทาเหล่านั้นอย่างไม่ยินยอม ก่อนจะเดินเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางมั่นใจ ไม่ต่างจากคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมืองหลังจากรอจนได้เวลา เกวียนสภาพกลางเก่ากลางใหม่ก็เคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายปลายทางทันที เธอสังเกตเห็นว่าเพื่อนร่วมทางมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับเธอในความทรงจำเดิมคนเหล่านี้นั้นไม่ได้น่าคบหาสักเท่

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 3 กล่องเหล็กใบน้อย

    จางซิ่วอิงง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อแรกของวัน เครื่องปรุงหลากหลายชนิดที่เธอสามารถหยิบใช้ได้เท่าที่ต้องการทำให้เธออารมณ์ดีที่ไม่ต้องทนกินอาหารรสชาติจืดชืดหลังจากนี้ริมฝีปากอิ่มปรากฏรอยยิ้มเบาบาง มือเรียวควงตะหลิวไปพลาง ปากก็ฮัมเพลงในยุคอนาคตไปพลาง เพียงไม่นานกลิ่นหอมฉุยของอาหารจานเนื้อหนึ่งจานและผัดผักก็อบอวลชวนให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานหลังจากมื้อเช้าจบลงด้วยความเอร็ดอร่อย หญิงสาวเก็บจานชามไปล้างทำความสะอาด ก่อนจะเริ่มเก็บกวาดบ้านเก่าหลังน้อยให้อยู่ในสภาพที่สบายตาและน่าอยู่โดยเริ่มจากห้องครัวที่เธอเดาไม่ออกจริง ๆ ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เก็บกวาดห้องนี้คือกี่ปีมาแล้วมือเล็กปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายตามกรอบหน้าครั้งหนึ่ง ก่อนจะมองห้องครัวที่ผ่านการเก็บกวาดจนเป็นระเบียบอย่างพึงพอใจ ตู้หลังน้อยที่เดิมมีเพียงแค่ไข่ไก่ฟองเดียวก็ถูกเติมจนเต็มโดยสินค้าจากห้างสรรพสินค้ายุค 2024 รวมถึงถังข้าวสาร แป้ง เครื่องปรุง และอุปกรณ์ทำครัวด้วยเช่นกันห้องนอนเป็นพื้นที่ต่อไปที่จะได้รับการเก็บกวาด จางซิ่วอิงรื้อเครื่องนอนเก่าทิ้งทั้งหมด ซึ่งจากที่สำรวจอย่างถี่ถ้วนแล้วมันเก่ามากจริง ๆ แถมผ้าห่มก็เบาบางจนตอนห่มนั้น

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 2 พรข้อที่สอง

    ระหว่างที่ลมหนาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอนเก่าผุพัง ลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอในทีแรกเริ่มติดขัดรุนแรงขึ้นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นภายใต้ความฝันอันยาวนานเปลือกตาบางปิดแน่น คิ้วคู่งามขมวดเข้าหากัน เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายตามกรอบหน้ารูปไข่ ภาพในความฝันที่ยาวนานราวกับกำลังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของใครบางคนให้เธอได้รับรู้…ในความฝันลมหนาวเห็นวิถีชีวิตของเด็กสาวที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับแกะ แม้ในตอนเด็กเธอจะยังคงรูปลักษณ์ของเด็กชาย แต่ผิวพรรณและใบหน้าหวานที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีนั้นไม่ได้ทำให้เธอแตกต่างจากเด็กผู้หญิงมากนักภาพในฝันการแต่งกายย้อนยุคและสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นตา ราวกับว่านั่นเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของตนเองอย่างไรอย่างนั้นหญิงสาวเฝ้ามองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในความฝันอย่างตั้งใจ ภาพตรงหน้าฉายชัดเป็นฉาก ๆ ราวกับกำลังอยู่ในโรงภาพยนตร์ มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายถูกถ่ายทอดออกมา มันชัดเจนเสียจนเธออดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นตัวเธอเอง แต่จะเป็นไปได้อย่างไร ความรู้สึกนึกคิดในฝันนั้นขัดแย้งกันไปมาจนยุ่งเหยิงร่างบางกระสับกระส่ายอยู่นานในที่สุดเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 1 เกิดใหม่ในร่างหญิงแท้

    “ผมตามหาคุณ แต่คุณกลับเดินหนีผมแบบนี้ ช่วยบอกผมหน่อยเถอะว่าระหว่างเรามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม นัยน์ตาคู่คมมองจ้องแฟนสาวนั้นฉายแววเจ็บปวดอย่างไม่ปิดบังหยางซีห่าวบินจากประเทศจีนอย่างเร่งด่วนเพื่อมาตามหาคนรักที่นับจากวันที่พาเธอไปพบกับครอบครัวเธอก็เปลี่ยนไปจนผิดสังเกต ครั้นเมื่อเธอบินกลับบ้านที่ประเทศไทยก็ขาดการติดต่อไปราวกับต้องการหลบหน้าเสียอย่างนั้น“ฉันขอบคุณนะคะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ตลอดเวลาเกือบสองปีคุณดีกับฉันมากจริง ๆ”ลมหนาวแกะมือหนาที่กำลังจับรั้งข้อมือเธออยู่ให้ปล่อยออก ใบหน้าสวยหวานอาบย้อมไปด้วยหยาดน้ำตาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วแก้มขาวเธอจำต้องตัดสัมพันธ์ในครั้งนี้ทั้งที่ยังรัก เพราะเธอไม่อาจเห็นแก่ตัวครอบครองเขาได้อีกต่อไป หลังจากกลับมาจากประเทศจีนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาเธอก็ตระหนักรู้แล้วว่า สิ่งที่ฝ่ายญาติของแฟนหนุ่มต้องการเธอไม่อาจมอบให้เขาได้“ผมไม่เลิก คุณตอบผมมาส

DMCA.com Protection Status