Home / รักโบราณ / เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80 / ตอนที่ 11 ทานข้าวกับสามีครั้งแรก

Share

ตอนที่ 11 ทานข้าวกับสามีครั้งแรก

last update Last Updated: 2025-01-11 21:00:24

จางซิ่วอิงหายไปในครัวไม่นานอย่างที่เธอว่าไว้ ก่อนจะกลับมาพร้อมข้าวขาวเรียงเม็ดสวยร้อน ๆ สองจาน กับอาหารจานผัดหนึ่งจาน และต้มอีกหนึ่ง วันนี้เธออยากกินหมูสามชั้นต้มพร้อมน้ำจิ้มแซ่บซี๊ดเหมือนโลกก่อนจึงทำเพิ่มขึ้นมาอีกจาน เมื่ออาหารพร้อมสรรพบนโต๊ะแล้ว ร่างบางจึงเดินไปเข็นรถให้สามีที่นั่งอยู่ภายในห้องโถงให้มาทานข้าวด้วยกัน

กลิ่นอาหารลอยคลุ้งเต็มบ้านจนกระทบเข้ากับจมูกของหยางซีห่าว กลิ่นหอมที่ไม่คุ้นเคยช่วยเรียกน้ำย่อยในกระเพาะชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี

“ฉันมีเวลาทำอาหารไม่มาก เลยมีแต่อาหารง่าย ๆ คุณลองทานดูนะคะ ว่าถูกปากหรือเปล่า?”เสียงใสกล่าวกับสามีขณะที่พาเขาไปยังโต๊ะอาหาร

แม้จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยไปบ้างเพราะต้องออกแรงมาก รถเข็นในยุคนี้ไม่ได้สะดวกหรือเข็นเองได้เหมือนยุคที่เธอจากมา การเคลื่อนย้ายจึงต้องออกแรงมากหน่อย แต่ก็ไม่ได้ปริปากบ่นเพราะเธอเต็มใจ สำหรับสาวสองที่ตายมาแล้วชาติหนึ่ง การได้อยู่ร่วมบ้าน ได้ดูแลคนรักเช่นนี้เป็นสิ่งที่เธอเต็มใจทำ

“ผมไม่เรื่องมากอยู่แล้ว คุณนั่งเถอะ”หยางซีห่าวเป็นทหารที่ถูกฝึกมาอย่างหนัก ภารกิจเสี่ยงตายล้วนผ่านมาไม่น้อย อาหารการกินล้วนเป็นเรื่องยากลำบาก ฉะนั้นอาหารที่ภรรยาทำมีหรือจะไม่ถูกปาก

นัยน์ตาคมกวาดมองอาหารที่คนเป็นภรรยาพึ่งกล่าวว่ากลัวจะไม่ถูกปากเขาอย่างนึกทึ่ง มีแต่จานเนื้อทั้งนั้น แถมหน้าตาอาหารก็นับได้ว่าไม่ได้หาได้ทั่วไป ผัดผักที่ถูกผัดด้วยน้ำมันจนใบสีเขียวมันวาวใช่ว่าทุกบ้านในชนบทจะกล้าใช้น้ำมันสิ้นเปลืองเช่นนี้ แล้วไหนจะหมูสามชั้นต้มชิ้นยาวที่ถูกหั่นเป็นชิ้นพอดีคำกับน้ำจิ้มสีแดงจัดดูแปลกตานั่นอีก ดูอย่างไรก็น่าทานกว่าโรงอาหารในค่ายเป็นไหน ๆ

จางซิ่วอิงยิ้มบางให้กับคนทานง่าย อย่างน้อยเขาไม่ได้ตำหนิว่าเธอฟุ่มเฟือยหลังจากเห็นอาหารบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยเนื้อ ก่อนจะนึกบางสิ่งขึ้นมาได้พอดีจึงเอ่ยถามขึ้น “คุณมียามาด้วยหรือเปล่าคะ?”

“อยู่ในกระเป๋าครับ”

หยางซีห่าวมองร่างบางที่ค่อนข้างสดใสมีชีวิตชีวากว่าครั้งสุดท้ายที่พบกันมากทีเดียว ย่างก้าวของภรรยานั้นแน่วแน่มั่นคงอย่างที่เขาเองไม่เคยเห็น แถมยังดูแข็งแรง ไหล่บางที่เหยียดตรงไม่ได้ห่องุ้มต่างจากตอนนั้นที่อ่อนแอราวกับจะปลิวไปตามลมได้ทุกเมื่อ

หญิงสาวจัดยาให้สามีเรียบร้อยแล้วจึงเดินกลับมานั่งฝั่งตรงข้ามเขาอีกครั้ง ดวงตาคู่เรียวเหลือบมองหน้าของคนรักครั้งหนึ่ง ก่อนจะคีบหมูสามชั้นต้มที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำวางบนข้าวของสามีอย่างใส่ใจ

“ทานข้าวให้อิ่มท้องเสียก่อนค่ะ แล้วเดี๋ยวฉันจะขอดูแผลของคุณหน่อย ส่วนคุณสงสัยอะไรค่อยถามในตอนนั้นนะคะ” ริมฝีปากได้รูปวาดยิ้มเบาบาง มองสบตาของสามีด้วยแววตาใสซื่อ ก่อนจะลงมือคีบอาหารทานด้วยความหิวโหย ร่างกายนี้คล้ายกำลังฟื้นฟู เมื่อเริ่มคุ้นชินกับมื้ออาหารที่ตรงเวลาแล้ว พอวันนี้เลยมื้ออาหารมาเพียงเล็กน้อยก็หิวจนตาลายเสียแล้ว

รอยยิ้มของภรรยาในวันนี้ช่างต่างจากที่ผ่านมาจนพาลให้หัวใจแกร่งสั่นไหว มือหนากำตะเกียบแน่น ก่อนจะก้มหน้าทานอาหารตรงหน้าเพียงเงียบ ๆ

ทว่าทันทีที่อาหารคำแรกเข้าปากรสชาติแปลกใหม่ แต่กลมกล่อมละมุนลิ้นอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ส่วนน้ำจิ้มรสจัดที่ใช้ทานคู่กับหมูสามชั้นต้มนั้นก็เปรี้ยวเผ็ดและมีรสเค็มตามมาเล็กน้อย ชายหนุ่มนึกทึ่งกับรสมือของภรรยาไม่น้อย เขารู้สึกชื่นชอบอาหารทุกจานบนโต๊ะ แม้แต่ข้าวขาวที่อยู่ตรงหน้ายังอร่อยอย่าบอกใคร

จางซิ่วอิงที่เห็นสามีขยับตะเกียบโกยอาหารเข้าปากเร็วขึ้นก็รู้สึกพอใจ แม้อาหารจะเป็นเพียงแค่ผัดผักใส่หมูง่าย ๆ ที่ไม่ได้ปรุงรสอะไรมากมายเขายังทานโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ ทานง่ายเสียจริง

หลังมื้ออาหารจบลงหญิงสาวจึงให้สามีทานยาหลังอาหาร ส่วนเธอเก็บจานไปล้าง พร้อมทั้งจะเข้าครัวไปต้มน้ำขิงมาดื่มก่อนนอนสักหน่อย เพราะรู้สึกถึงอากาศที่ค่อนข้างหนาวกว่าทุกวัน

“ดื่มน้ำขิงหน่อยสิคะ!”จางซิ่วอิงยื่นแก้วน้ำขิงที่มีไอร้อนลอยอยู่ให้สามี ส่วนอีกมือก็ถือของตัวเองแก้วหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อเรียกกล่องปฐมพยาบาลออกมาจากในมิติ จัดเตรียมผ้าเช็ดตัว และเสื้อผ้าของสามีที่ซื้อเตรียมไว้วางเรียงบนที่นอนอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นจึงไปเอาน้ำอุ่นใส่กะละมังถือมาไว้ในห้องนอนเพื่อให้สามีได้เช็ดเนื้อเช็ดตัว

หยางซีห่าวถูกภรรยาเข็นเข้ามาภายในห้องนอน กลิ่นหอมภายในห้องที่เป็นกลิ่นเดียวกับกลิ่นกายเธอลอยมากระทบจมูกจนเผลอสูดเข้าจนเต็มปอด อันที่จริงไม่ใช่เพียงห้องนี้ที่เปลี่ยนไป เขาสังเกตได้ตั้งแต่เข้ามาในรั้วบ้านแล้ว ทุกสิ่งทั้งรอบบริเวณบ้าน ในบ้านและห้องนี้ล้วนไม่เหมือนเดิม

ชายหนุ่มมองสิ่งที่ภรรยาจัดเตรียมไว้รอก็รู้สึกอุ่นซ่านในอก ก่อนจะเหลือบมองร่างบอบบางที่กำลังเข็นรถของเขามาหยุดอยู่ข้างเตียงด้วยความรู้สึกขอบคุณ ตลอดเวลาที่ปฎิบัติหน้าที่สิ่งที่เขาห่วงที่สุดคือ จางซิ่วอิง

เพราะเธอทั้งบอบบางและขี้กลัว ทั้งยังเจ็บป่วยอยู่บ่อยครั้ง แต่ดูภรรยาในตอนนี้สิ จางซิ่วอิงทั้งดูแข็งแรงและสดใสกว่าทุกครั้งที่เขาพบเจอ ไมได้ดูขี้โรคแต่อย่างใด เพียงเท่านี้ก็บรรเทาความรู้สึกผิดในใจชายหนุ่มลงไปมากทีเดียว

“คุณเช็ดตัวเองได้ไหมคะ? หรืออยากให้ฉันช่วย”

“ผมทำเองได้ครับ คุณไปอาบน้ำเถอะ”อากาศเย็นขึ้นมากแล้ว เขาเกรงว่าหากร่างบางอาบน้ำช้ากว่านี้จะทำให้เธอล้มป่วยเอาได้ ส่วนเรื่องทำความสะอาดร่างกายนั้นไม่ได้ยากเย็นอะไรสำหรับเขาอยู่แล้ว

จางซิ่วอิงส่งเสียงตอบรับในลำคอ ก่อนจะหยิบชุดสำหรับเปลี่ยนและผ้าเช็ดตัวเดินออกจากห้องไป โดยไม่ลืมปิดประตูเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวกับสามี

หลังจากชายหนุ่มเปลื้องผ้าออกจนหมดแล้ว ผิวกายแกร่งเต็มไปด้วยบาดแผลจากการเสียสละ มีทั้งแผลที่หายดีแล้วและแผลที่พึ่งจะแห้งเมื่อไม่นานมานี้ แต่ที่หนักสุดเห็นว่าจะเป็นขาขวาที่ยังคงมีเลือดซึมออกมาจากบาดแผลจนทะลุออกมานอกผ้าพันแผล

มือหนาหยิบผ้าผืนเล็กนุ่มมือขึ้นมาบิดน้ำ ก่อนทำความสะอาดเนื้อตัวจนสะอาดอย่างรวดเร็ว เขาหยิบชุดที่ภรรยาเตรียมไว้ให้ขึ้นมาใส่ สัมผัสเย็นสบายของเนื้อผ้าแม้จะไม่ได้ดีเลิศเช่นคนในเมืองใส่ แต่ก็นับว่าภรรยานั้นใส่ใจไม่น้อย ทั้งขนาดยังพอดีกับตัวเขามากทีเดียว พลันริมฝีปากหยักยกยิ้มมีความสุข

“คุณ! ฉันเข้าไปได้ไหมคะ?”มือเรียวเคาะลงบนประตูสองสามครั้ง ก่อนจะเอ่ยขออนุญาตสามี

“เข้ามาเถอะครับ”

จางซิ่วอิงเปิดประตูเข้ามาก็เป็นตอนที่สามีนั้นจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว เขาอยู่ในชุดใหม่ที่เธอเตรียมไว้ให้ นับว่าเธอเก่งกาจไม่น้อยที่สามารถกะเกณฑ์ขนาดเสื้อผ้าจากความทรงจำได้พอดิบพอดีเช่นนี้ พลันหญิงสาวหยิบเก้าอี้มาวางตรงหน้าเขา ก่อนจะยกท่อนขาข้างขวาขึ้นมาวางไว้บนเก้าอี้โดยมีเจ้าตัวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจึงช่วยเบาแรงเธอได้มาก

“ฉันขอดูแผลหน่อยนะคะ ระหว่างนี้คุณมีอะไรอยากถามฉันไหม?”หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มจาง ๆ ประดับไว้อยู่ตลอดเธอเห็นสีหน้าแปลก ๆ ของเขาก็เดาเอาว่าคนเป็นสามีคงอยากจะพูดอะไรสักอย่าง เสียงหวานจึงเปิดประเด็นขึ้นทันที

หยางซีห่าวมองภรรยาที่กำลังพับขากางเกงเขาขึ้นทีละทบอย่างใจเย็น ก่อนจะหยิบกล่องยาลักษณะแปลกตามาไว้ข้าง ๆ ใช้กรรไกรสีเงินวาววับที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ค่อย ๆ ตัดผ้าพันแผลอันเก่าออกจากขาของเขาอย่างระมัดระวัง

“คุณดู…เปลี่ยนไปนะ”เสียงทุ้มถามออกไปในที่สุด

จางซิ่วอิงหยุดมือ เธอเหลือบมองสีหน้าของสามีครู่หนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มเบาบางแล้วจัดการแผลของเขาต่อ “แล้วแบบนี้ไม่ดีหรือคะ?”

เธอตัดสินใจแล้วว่าชาตินี้จะร่วมหัวจมท้ายกับเขา แต่ก็ต้องการแน่ใจเสียก่อนว่าซีห่าวในตอนนี้นั้นรู้สึกอย่างไรกับภรรยาคนนี้ของเขากันแน่ เพราะทั้งเขาและเธอในตอนนี้นั้นช่างแตกต่างจากชาติก่อนโดยสิ้นเชิง

“ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น เพียงแต่…”ยอมรับว่าการกลับบ้านครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกใจและนึกทึ่งกับหลายสิ่งที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะภรรยา แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีทั้งต่อตัวเธอเองและครอบครัวของเราไม่ใช่หรืออย่างไร

จางซิ่วอิงได้ฟังน้ำเสียงติดขัดของคนเป็นสามีก็ยิ้มขำ ก่อนจะช้อนนัยน์ตาขึ้นมองสบกับดวงตาคู่นั้นของเขาช้า ๆ แล้วถามประโยคต่อมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

สามี! คุณเชื่อใจฉันไหมคะ?

Related chapters

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 12 สามีภรรยาปรับความเข้าใจ

    “เชื่อสิครับ ก็คุณคือภรรยาคนเดียวของผม”และตอนนี้ชีวิตชายพิการเช่นเขาก็มีเพียงเธอเท่านั้น ซ้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเย็นยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของภรรยาที่มีต่อเขาอย่างชัดเจนแม้เธอไม่เคยพูดออกมาว่ารักสามีอย่างเขาหรือไม่ แต่ไหล่เล็กที่พยายามปกป้องเขาในตอนนั้น รวมถึงท่าทีเอาเรื่องกับคนคิดร้ายต่อสามีของเธอก็ทำให้เขารู้สึกโชคดีที่มีภรรยาเช่นจางซิ่วอิง“แล้วเคยคิดจะหย่ากับภรรยาขี้โรคแบบฉันหรือเปล่าคะ?”เธอถามออกไปตามตรง ในขณะที่มือยังคงแกะผ้าพันแผลของเขาออกอย่างตั้งใจหยางซีห่าวอายุเพียงยี่สิบปี หากเขาสามารถรักษาแผลที่ขาหายและเดินได้ปกติ เมื่อกลับเข้ากรมอนาคตของเขาคงไปได้อีกไกล และสามารถเลือกผู้หญิงมาอยู่เคียงข้างที่ดีกว่าหญิงสาวหน้าตาขลาดเขลา แถมยังดูอมโรคแบบเธอได้“ไม่เคย! และไม่มีวันนั้นเด็ดขาด”หยางซีห่าวปฎิเสธขึ้นในทันทีโดยไม่ต้องคิด แม้จะแต่งงานกันโดยไร้รัก แต่เขาก็ไม่เคยคิดเห

    Last Updated : 2025-01-12
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 13 เก็บหอมรอมริบ

    เสียงไก่ขันในยามรุ่งสางปลุกหญิงสาวให้ลืมตาตื่นขึ้นมา ร่างบอบบางขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกถึงบางสิ่งหนักอึ้งที่โอบรัดรอบเอวคอด เมื่อคลำดูจึงได้รู้ว่าเป็นท่อนแขนของสามี ใบหน้าของเขาก็กำลังซุกซบอยู่บริเวณลาดไหล่ของเธอ และเธอก็อยู่ในอ้อมกอดของเขามานานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ พลันใบหน้างามรู้สึกได้ถึงความร้อนที่พาดผ่านแก้มทั้งสองข้างไปจนถึงใบหูขาวและลำคอระหง เมื่อคิดขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเธอนอนหลับในท่านี้ตลอดทั้งคืนลมหายใจอุ่นเป่ารดลำคอระหงอย่างสม่ำเสมอบ่งบอกว่าหยางซีห่าวกำลังหลับสบาย คนเป็นภรรยาจึงค่อย ๆ คลายอ้อมแขนของเขาออกและลงจากเตียงอย่างเงียบเชียบที่สุดเพื่อไม่ให้รบกวนคนเป็นสามีตลอดเวลาที่เขาออกไปปฎิบัติหน้าที่คาดว่าคงไม่ได้กินอิ่มนอนอุ่นได้บ่อยนักในระหว่างรักษาแผลที่ขา เธอคิดว่าควรให้เขาพักมากหน่อย และตั้งใจจะทำอาหารดี ๆ เพื่อบำรุงเขาด้วยร่างบอบบางเดินออกมาจากห้องนอน เดินตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่นอกตัวบ้าน ผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นเป็นมวยกลางศีรษะลวก ๆ และปั

    Last Updated : 2025-01-13
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 14 เก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์

    ทันทีที่หญิงสาวลงจากเกวียน เธอเดินไปสำรวจจุดเดิมที่เคยวางของขาย เมื่อเห็นว่ายังว่างอยู่จึงคลี่ผ้าที่เตรียมมาออกแล้วปูลงบนพื้น จากนั้นจึงเดินเข้าไปยังซอกตึกเพื่อเตรียมสินค้าของวันนี้มาวางขาย เนื่องจากตั้งใจจะปล่อยสินค้าจำนวนมากขึ้น จึงต้องเดินขนของหลายรอบหน่อยกว่าจะได้ของครบเพียงไม่นานแอปเปิ้ลผลใหญ่น่าทานจำนวนสี่ลังก็วางลงบนข้างผืนผ้าเรียบร้อย ข้างกันยังมีสาลี่และองุ่นที่วางอยู่ในลังเช่นกันอีกอย่างละสองลังเธอยังคงขายเนื้อแพ็คอย่างดีเช่นเดิม โดยไม่ลืมของแห้งอย่างหมูแผ่น หมูฝอย และหมูหยองอย่างละสามสิบแพ็ควางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ หลังจากเรียงสินค้าชิ้นสุดท้ายเสร็จก็พอดีกับที่ลูกค้ารายแรกมาติดต่อซื้อพอดีจางซิ่วอิงพอจำได้ว่าหญิงชราที่แต่งตัวดูดีตรงหน้าเป็นลูกค้าประจำของร้านเธอ คุณยายท่านนี้มักมาซื้อเนื้อแพ็คของเธอไปคราวละห้าถึงสิบแพ็คทุกครั้ง คาดว่าคนที่บ้านคงเยอะน่าดู แต่คราวนี้หลังจากหยิบเนื้อเช่นทุกวันแล้ว แทนที่จะจ่ายเงินและจากไปอย่างทุกครั้

    Last Updated : 2025-01-14
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 15 เกิดเรื่องกับสามี

    จางซิ่วอิงแสร้งเก็บเงินที่ได้ไว้ในกระเป๋าผ้าคู่ใจ แต่จริง ๆ แล้วเงินเยอะขนาดนี้เธอแอบโยนมันเข้าไปไว้ในมิติต่างหาก ก่อนออกจากร้านของคุณป้าหลี่หญิงสาวไม่ลืมเลือกซื้อข้าวขาวและแป้งจำนวนหนึ่งติดมือกลับบ้านไปด้วย เพื่อไม่ให้เป็นที่น่าสงสัยจนเกินไปฝีเท้าเล็กมั่นคงก้าวลงจากเกวียนหลังจากจ่ายเงินค่าโดยสารเรียบร้อย จางซิ่วอิงหอบหิ้วของที่ซื้อมาเดินกลับบ้านบนเนินเขาอย่างอารมณ์ดี แต่ทว่าอีกเพียงไม่กี่เมตรก็จะเดินถึงบ้านอยู่แล้ว หญิงสาวนั้นกลับเห็นย่าและลูกพี่ลูกน้องของสามีกำลังพยายามดันรั้วบ้านผุพังของเธอ เห็นดังนั้นริมฝีปากผุดรอยยิ้มหยัน จากนั้นหญิงสาวจึงหมุนตัวกลับไปเพื่อหาพยานคนสำคัญสำหรับเรื่องนี้ทันที“ย่า?”เสียงทุ้มเรียกย่าขึ้นมาอย่างนึกแปลกใจ คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ก่อนสีหน้าเรียบเฉยจะค่อย ๆ เข้มขึ้นด้วยความรู้สึกไม่พอใจที่ถูกบุกรุกบ้านเขาถูกฝึกมาไม่น้อย เสียงเปิดรั้วบ้านแม้จะเบากว่าปกติแต่ก็รับรู้ได้ในทันที แต่ที่คาดไม่ถึงคือย่าและญาติผู

    Last Updated : 2025-01-15
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 16 กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย

    จางซิ่วอิงออกจากห้องครัวมาพร้อมกับข้าวสองอย่าง ข้าวขาวที่หุงเผื่อไว้ตั้งแต่เช้าถูกอุ่นให้ร้อน และยังมีไข่ต้มอีกสามฟองที่ถูกปลอกเปลือกจนเกลี้ยง อาหารทั้งหมดถูกจัดวางบนโต๊ะทานข้าวเก่า ๆ พร้อมทานหญิงสาวจึงเข้าไปรับสามีออกมาทานมื้อเที่ยงด้วยกัน หยางซีห่าวเห็นอาหารตรงหน้าก็ครุ่นคิดบางสิ่งขึ้นมาได้นี่เป็นมื้อที่สามแล้วที่เขาเห็นว่าอาหารของภรรยายังคงมีจานเนื้อ ทั้งที่ชาวบ้านชนบททั่วไปอย่าว่าแต่ทานเนื้อเดือนละครั้งเลย แทบจะทุกบ้านจะทานเนื้อเพียงแค่โอกาสหรือวันสำคัญเท่านั้น เดาว่าภรรยาคงชอบทานเนื้อมากทีเดียว เช่นนั้นเขาควรต้องรีบรักษาตัวเองให้หาย จะได้หาเงินให้มากหน่อยไว้ซื้อเนื้อให้ภรรยาทานทุกมื้อ“ทานสิคะ! คุณต้องบำรุงให้มากหน่อย แผลจะได้หายเร็ว ๆ”ใบหน้าเรียวคลี่ยิ้มหวานขณะตักไข่ต้มสองฟองวางลงในจานข้าวของคนเป็นสามี โดยที่ไม่ได้รู้ความคิดของสามีในตอนนี้แม้แต่น้อย“ทำไมถึง…”

    Last Updated : 2025-01-16
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 17 คุณลวนลามผมอีกแล้ว

    “สามีขา ภรรยากลับมาแล้วววว!!”พรู๊ดดดด!! แค่ก! แค่ก!เสียงหวานใสค่อนไปทางออดอ้อนที่ดังมาจากทางประตูบ้านทำเอาชายหนุ่มที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ถึงกับไอสำลักน้ำหน้าดำหน้าแดง“คุณ! ดีขึ้นไหมคะ?”จางซิ่วอิงเข้ามาในห้องนอนทันได้เห็นสามีทีกำลังไอสำลักอย่างหนักก็ตรงเข้าไปลูบแผ่นหลังของเขาทันที“แค่ก! แค่ก! แค่ก!! อืมม ผมดีขึ้นแล้ว”แม้จะยังคงไออยู่บ้างแต่ก็ดีกว่าตอนแรก พลันหันมองใบหน้าภรรยาที่ยืนทำหน้าตาใสซื่อราวกับไม่รู้เลยว่าเมื่อครู่พูดอะไรออกมา“คุณมองหน้าฉันแบบนี้คือ?”หยางซีห่าวถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน นี่ภรรยาคงไม่รู้จริง ๆ สินะว่าคำพูดของเธอทำให้สามีสำลักน้ำเกือบตาย ช่างน่าจับมาตีก้นจริง ๆ

    Last Updated : 2025-01-17
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 18 มาให้จัดการถึงบ้าน

    สองสามีภรรยาหันมองตากันอย่างเบื่อหน่าย จางซิ่วอิงถอนหายใจเสียงดัง วันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เพียงแค่อยากใช้เวลาร่วมกับสามีเล็กน้อยนี่มันยากเย็นจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นร่างบางก็เดินเข็นรถพาสามีออกมาหน้าบ้านด้วยกันหยางซีห่าวนั่งอยู่บนรถเข็นที่ภรรยาเป็นคนพามา ร่างบางให้เขาหยุดรออยู่ใกล้กลับประตูบ้าน ซึ่งห่างจากรั้วบ้านพอสมควรตอนนี้บริเวณด้านนอกรั้วมีชาวบ้านนับสิบคนมายืนรอชมความสนุก เพราะเสียงก่นด่าหยาบคายของสะไภ้ใหญ่บ้านหยางจางซิ่วอิงเห็นเช่นนั้นก็เข้าใจได้ทันทีว่าเรื่องราวเป็นเช่นไร ดูจากท่าทางฟาดงวงฟาดงาขนาดนี้ไม่แคล้วคงรู้เรื่องของแม่สามีและลูกชายแล้วแน่ ๆร่างบางของเจ้าของบ้านเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงวัยกลางคน ก่อนจะยกมือหนึ่งขึ้นแคะหูด้วยท่าทางยียวนหวงไฉ่หงที่เห็นท่าทางยั่วโมโหของหลานสะไภ้ก็ฉุนจัด ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยว ก่อนจะชี้หน้าเด็กสาวและเริ่มด่าทอ

    Last Updated : 2025-01-18
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 19 ผมชอบคุณตอนนี้ที่สุด

    สบู่เหลวที่ภรรยาเตรียมไว้ให้เมื่อฟอกลงบนผิวกายจนเกิดฟองสีขาว กลิ่นหอมนี้เขาจำได้ว่าเป็นกลิ่นเดียวกับกลิ่นกายของภรรยา พลันมุมปากปรากฎรอยยิ้มจาง ๆ จากนั้นจึงอาบน้ำชำระร่างกายส่วนต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ภรรยารอนานเกินไป ยังดีที่ภรรยาพันแผลด้วยแผ่นใสบาง ๆ ให้ เขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าน้ำจะเข้าแผลจนทำให้อับชื้น“เสร็จแล้วครับ”เสียงทุ้มบอกภรรยาที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำทันทีที่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วจางซิ่วอิงเปิดประตูเข้ามาพอดีกับที่สามีกำลังมองมาที่ประตูพอดี สองสายตาสบประสานกันอย่างพอดิบพอดี ราวกับบรรยากาศโดยรอบหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ก้อนเนื้อในอกพลันเต้นระรัวเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาคู่นั้นของเขา แม้จะชอบหยอกล้อให้เขาต้องเขินอายอยู่บ่อย ๆ แต่พอมาสบตากันตรง ๆ เช่นนี้กลับเป็นเธอเองที่รู้สึกขัดเขินจนใบหน้าร้อนผ่าวด้านสามีเองก็มีท่าทีขัดเขินไม่ต่างกัน ใบหน้าเล็กที่ยื่นเข้ามาก่อนตัวนั้น ไม่ได้ซูบตอบอย่างเช่นที่ผ่านมา ผิวพรรณที่นวลเนียนขึ้นกว่าแต่ก่อน และ

    Last Updated : 2025-01-19

Latest chapter

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 38 ตระกูลจ้าวแห่งปักกิ่ง

    เสียงรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกขับเคลื่อนเข้ามาภายในคฤหาสน์ตระกูลจ้าวในช่วงเย็นย่ำ ก่อนที่คุณชายจ้าวคุนทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลจะก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างอารมณ์ดีคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลจ้าวตั้งอยู่ใจกลางย่านสำคัญของปักกิ่ง ภายนอกรายล้อมไปด้วยสวนไม้ดอกและไม้ยืนต้นที่ถูกดูแลเป็นอย่างดีกินเนื้อที่กว่าสามไร่ ภายในคฤหาสน์ถูกตกแต่งด้วยเครื่องเรือนเก่าแก่ที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น บางชิ้นไม่อาจประเมินค่าเพราะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนโลกก็ว่าได้ร่างสูงโปร่งของคุณชายจ้าวเดินเข้ามาในตัวคฤหาสน์ ใบหน้าหล่อเหลาที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นพ่อแทบทุกระเบียดนิ้วนั้นประดับรอยยิ้มอย่างคุณชายเจ้าสำราญอยู่ตลอด นัยน์ตาคมทอดมองไปยังข้าวของที่วางเรียงรายกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของห้องโถง พลางนึกไปถึงเงินจำนวนมากที่คุณพ่อจ่ายออกไปสำหรับของเหล่านี้เพื่อความสุขของคุณแม่ ครั้งนี้คุณพ่อจ่ายหนักเสียจริง…“สวัสดีครับคุ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 37 แผนงานขั้นต่อไป

    หญิงสาวพยายามเก็บสีหน้าและรักษาท่าทีให้กลับมาสงบดังเดิม ก่อนจะครุ่นคิดถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ เธอสังเกตเห็นท่าทีสงสัยของผู้จัดการเผยคนนี้ ก็ไม่แปลกใจนักกับความคิดของคนในยุคนี้ยุคที่เศรษฐกิจภายในประเทศผันผวนตลอดเวลาเช่นนี้ จะมีใครใจกล้าเช่าหน้าร้านระยะยาวด้วยเงินก้อนโตอย่างเธอบ้าง หรือแม้แต่การเช่าที่ดินทำการเกษตรเธอก็เชื่อว่าคงไม่มีใครเช่าระยะยาวหลายปีเช่นที่เธอกำลังทำอยู่อย่างแน่นอนแต่สำหรับโลกก่อนการเช่าร้านใหญ่ในห้างมีใครบ้างอยากจะเช่าเพียงแค่สามเดือน ถ้าหากเธอขายดีขึ้นมาแล้วเกิดหมดสัญญาเช่าก่อน อย่างนั้นจะไม่เสียเวลาต่อสัญญาหรืออาจจะต้องหาหน้าร้านใหม่หรอกหรือ“อย่างนั้นฉันสนใจเช่าห้าปีทั้งสองร้านค่ะ ทางผู้จัดการเผยเขียนสัญญาและคำนวนค่าเช่าล่วงหน้ามาได้เลยนะคะ”น้ำเสียงจริงจังกล่าวออกไปอย่างไม่ลังเล แม้จะเป็นสีหน้าไม่เข้าใจของพี่สาวเยว่แต่จางซิ่วอิงกลับคิดว่าเธอได้คำนวนมาเป็นอย่างดีแล้วต่างหาก

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 36 สัญญาเช่าระยะยาว

    เนื่องจากห้างสรรพสินค้ายังปรับปรุงไม่เสร็จดีและไม่มีพื้นที่สำหรับการต้อนรับหรือพูดคุย เยว่ผิงอันจึงตกลงนัดหมายการทำสัญญาในวันนี้ที่สำนักงานแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กันกับห้างสรรพสินค้าแทนสำนักงานแห่งนี้เป็นสถานที่ดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบส่วนของงานปรับปรุงซ่อมแซมและใช้สำหรับพูดคุยเรื่องสำคัญที่ห้างสรรพสินค้าสร้างขึ้นมาแยกจากตัวห้างสำหรับใช้งานชั่วคราวระหว่างรอสำนักงานที่อยู่บนชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้าปรับปรุงเสร็จอาคารสำนักงานแห่งนี้มีขนาดสี่สิบตารางวานับว่ากว้างขวางพอสมควร ทั้งยังตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับห้างสรรพสินค้า ถือว่านายทุนของที่แห่งนี้นอกจากมีกำลังทรัพย์มหาศาลแล้วยังมีอิทธิพลค่อนข้างมากระยะทางจากบ้านของเธอมาถึงสำนักงานแห่งนี้นับว่าใกล้กันมาก จางซิ่วอิงจึงนัดหมายกับพี่สาวเยว่มาเจอกันที่นี่แทน สองสามีภรรยาเผื่อเวลาไว้พอสมควร ระหว่างทางจึงไม่ได้รีบร้อน ทั้งคู่เดินไปหยอกล้อกันไปราวกับคู่รักหนุ่มสาวที่พึ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ ก็ไม่ปา

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 35 คนหลงภรรยา

    ในทันทีที่แผ่นหลังบอบบางสัมผัสกับพื้นผิวของเตียงเตาหลังกว้าง ร่างหนาของหยางซีห่าวก็ทิ้งกายลงคร่อมทับภรรยาเอาไว้ สองสายตาสบประสานกันอย่างสื่อความหมายกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกายของหญิงสาวโชยขึ้นมาเตะจมูกของคนเป็นสามีจนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งกายหนา กอปรกับดวงตาคู่เรียวที่ปรือขึ้นมองเขาอย่างยั่วเย้านั้นทำเอาหยางซีห่าวแทบคลั่งพลันริมฝีปากหยักจรดลงบนแก้มนิ่มอย่างอ่อนโยน ช่างขัดกับลมหายใจอุ่นร้อนที่เริ่มติดขัด มือหนาทั้งบีบทั้งเคล้นไปเสียทุกส่วนโค้งเว้าใบหน้าเรียวเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัสอุ่นจูบซับไปตามกรอบหน้า ริมฝีปากบางเผยออ้าราวกับรู้อยู่ก่อนแล้วว่าชายหนุ่มจะประกบจูบลงมาเรียวลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าไปตักตวงความหวานในโพรงปากของภรรยา ก่อนจะถูกร่างบางจูบตอบกลับมาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน สองแขนเรียวเล็กยกขึ้นโอบกอดรอบลำคอหนา พลางเอียงใบหน้าเพื่อสอดรับเรียวลิ้นได้ถนัดถนี่หยางซีห่าวค

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 34 สามีปากหวาน

    หลังจากพูดคุยกันต่ออีกราวสามสิบนาทีจางซิ่วอิงเห็นว่าใกล้เวลามื้อเย็นแล้วจึงชวนสหายรุ่นพี่ให้อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนค่อยกลับซึ่งในทีแรกเยว่ผิงอันมีท่าทีปฏิเสธ แต่ทว่ากลับถูกคะยั้นคะยอจากคู่ค้าคนสำคัญ หนักเข้าจึงตกปากรับคำในเวลาต่อมาด้วยความเกรงใจในยุคนี้ข้าวปลาอาหารล้วนขาดแคลน การซื้อหานับว่าต้องใช้เงิน สินค้าบางอย่างมีการยกเลิกการใช้คูปองไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้ออยู่ดี การทานอาหารบ้านคนอื่นนับเป็นเรื่องที่ต้องเกรงใจให้มากคุณแม่เธอสอนมาอย่างนั้น จึงค่อนข้างเกรงใจสหายไม่อาจรับปากง่าย ๆ ได้จางซิ่วอิงปลีกตัวเข้ามาทำอาหารในครัว โดยปล่อยสหายให้นั่งดูแผนงานรอไปก่อน ซึ่งหยางซีห่าวสบโอกาสใกล้ชิดในทันที ร่างหนาเร่งเดินตามภรรยารักเข้ามาในครัวพร้อมกับออกปากว่าจะช่วยทำกับข้าวในวันนี้หญิงสาวนึกอยากทานไก่คั่วพริกเกลือขึ้นมาจึงเริ่มหยิบเนื้อไก่ขึ้นมาหั่นชิ้นพอดีคำ ก่อนจะเตรียมวัตถุดิบอื่น ๆ จากนั้นจึ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 33 วางแผนธุรกิจใหม่

    เยว่ผิงอันยิ้มกว้างเมื่อเห็นสหายรุ่นน้องและสามีกลับบ้านมาพอดีหลังจากมายืนรออยู่เกือบสิบห้านาทีเธอเคยมาที่บ้านหลังนี้ครั้งหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าสามีของอิงอิงนั้นเป็นทหารที่กำลังพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ แต่ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มกลับยืนเคียงข้างภรรยาอย่างมั่นคง นี่นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากไม่ใช่เหรอ“ฉันจะมาคุยเรื่องร้านใหม่ของเราน่ะสิ!”เยว่ผิงอันตอบอย่างกระตือรือร้นขึ้นมาในทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ถึงเหตุผลของการมาที่บ้านหลังนี้ ใบหน้าเรียวแม้จะดูเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อธุระสำคัญของวันนี้จางซิ่วอิงยิ้มรับพลางพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหยิบลูกกุญแจขึ้นมาไขรั้วบ้านแต่ก็ถูกมือหนาของสามีแย่งไปเสียก่อน เธอจึงทำได้เพียงส่งยิ้มขอบคุณเขาและหันมาให้ความสนใจกับสหายคู่ค้าก่อนเยว่ผิงอันมามองท่าทีสองสามีภรรยาคู่นี้ก็ยิ้มกริ่มขึ้นมา พลางส่งสายตาล้อเลียนไปให้สหาย จนหญิงสาวที่ถูกมองแบบนั้นถึงกับขวยเขิ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 32 หาหมอครั้งสุดท้าย

    เสื้อผ้าเนื้อละเอียดสีเดียวกัน ฝีเข็มปราณีตบ่งบอกถึงราคาที่ไม่ใช่ชาวชนบททั่วไปจะจับต้องได้ ชุดคู่นี้ถูกสวมลงบนกายของทั้งคู่ หากใครเห็นไม่บอกก็พอจะรู้ได้ว่าชายหญิงคู่นี้คือคนรักกันอย่างแน่นอน หลังจากประทินโฉมเพียงเล็กน้อยจางซิ่วอิงก็ได้เวลาออกจากห้องนอน ซึ่งมีสามีมายืนรออยู่ก่อนแล้วจางซิ่วอิงนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งโดยมีสามีเลื่อนให้ ใบหน้าเรียวเล็กวาดยิ้มจนตาหยีก่อนจะกล่าวขอบคุณสามีเสียงหวานความสุขที่อัดแน่นอยู่ในอกถูกแสดงออกผ่านสีหน้าและแววตา ภาพตรงหน้าที่เกิดขึ้นนั้นราวกับความฝันที่เธอไม่อยากจะตื่น พลันหวนนึกถึงที่ที่จากมา ในตอนนั้นชีวิตคู่ของเธอกับพี่ซีห่าวก็นับได้ว่าหวานชื่นไม่แพ้ตอนนี้ แม้จะไม่ได้ตบแต่งกันเช่นชีวิตนี้ แต่เขาก็ดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดีในทุกวันเขาและเธอจะต่างคนต่างทำหน้าที่การงานของตนเอง อาจมีแวะเวียนมาทานมื้อกลางวันด้วยกันบ้าง ทานมื้อเย็นด้วยกันเป็นประจำ ไม่ว่าเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตจะยากเย็นสักแค่ไหน เขาไม่เคยปล่อย

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 31 บอกรักที่ไม่มีคำว่า “รัก”

    รุ่งเช้าของวันใหม่ดวงอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าจนเกิดแสงสีแดงอมส้มที่ลอดผ่านเข้ามาผ่านช่องหน้าต่างเล็ก ๆ ตามมาด้วยเสียงเคลื่อนไหวของบ้านหลังอื่น ๆ ที่อยู่รอบพื้นที่เปลือกตาสีไข่ปรือขึ้นพลางกระพริบขี้นลงถี่รัวเพื่อปรับให้คุ้นชินกับแสงที่กระทบเข้ากับดวงตา ทันทีที่ตื่นเต็มตาเธอหันไปมองร่างหนาที่หลับสนิทอยู่ข้างกาย ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเขากำลังหลับสนิท ท่อนแขนแข็งแกร่งยังคงกอดรัดเอวคอดกิ่วเอาไว้เช่นทุกวันแต่ที่ต่างออกไปเพราะระหว่างทั้งคู่ไม่ได้เพียงแค่หลับไหลอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอย่างเช่นทุกคืน…จางซิ่วอิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคู่เรียวไล่สำรวจใบหน้าหล่อเหลาของสามี สันจมูกคมเด่น กรามได้รูป และลูกกระเดือกใหญ่ที่ข้างกันมีร่องรอยสีแดงจาง ๆ ติดอยู่ พลันใบหน้างามรู้สึกเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงที่มาของรอยนั้น ทั้งลำคอหนา ไหปลาร้า หรือแม้แต่หน้าอกแกร่ง ล้วนมีรอยที่เธอเป็นคนทำขึ้นทั้งสิ้นคล้ายว

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 30 ผมหายดีแล้วครับ

    ภายในรั้วบ้านสีขาวสะอาดตา เนื้อที่หน้าบ้านทั้งหมดถูกเปลี่ยนให้เป็นแปลงผักนานาชนิดที่เจ้าของบ้านช่วยกันปลูกเอาไว้เก็บกิน ดินที่ถูกยกร่องอย่างดีทำให้ง่ายต่อการดูแล หยางซีห่าวกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อย่างใส่ใจ นี่นับเป็นหน้าที่แรกที่ภรรยาเป็นคนมอบหมายให้หลังจากที่เขากลับมาเดินได้เป็นปกติแล้วพลันกลิ่นหอมอบอวลที่ลอยออกมาจากห้องครัวภายในตัวบ้านทำเอาชายหนุ่มที่ยืนรดน้ำแปลงผักอยู่หน้าบ้านรู้สึกหิวขึ้นมา หยางซีห่าวเร่งมือเพื่อทำงานให้เสร็จจากนั้นจึงเดินเข้าไปในครัวอย่างรีบร้อนเขาเห็นร่างบอบบางของภรรยากำลังยืนผัดอาหารอยู่บนเตาก็ยกยิ้มกว้าง พลันเคลื่อนกายเข้าไปสวมกอดเธอจากด้านหลัง กดจมูกฝังลงบนแก้มนุ่มหอม ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อที่เกาะอยู่ตามกรอบหน้าให้อย่างทนุถนอม“หอมจัง คุณทำอะไรครับวันนี้?”เสียงทุ้มอ่อนโยนถามออกไปโดยวงแขนยังคงสวมกอดอยู่บริเวณเอวคอด“ผัดเปรี้ยวหวานค่ะ แล้วก็มีไข่เจียวหมูสั

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status