แชร์

ตอนที่ 13 เก็บหอมรอมริบ

ผู้เขียน: หลี่จินผิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-13 21:00:31

เสียงไก่ขันในยามรุ่งสางปลุกหญิงสาวให้ลืมตาตื่นขึ้นมา ร่างบอบบางขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกถึงบางสิ่งหนักอึ้งที่โอบรัดรอบเอวคอด เมื่อคลำดูจึงได้รู้ว่าเป็นท่อนแขนของสามี ใบหน้าของเขาก็กำลังซุกซบอยู่บริเวณลาดไหล่ของเธอ และเธอก็อยู่ในอ้อมกอดของเขามานานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ พลันใบหน้างามรู้สึกได้ถึงความร้อนที่พาดผ่านแก้มทั้งสองข้างไปจนถึงใบหูขาวและลำคอระหง เมื่อคิดขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเธอนอนหลับในท่านี้ตลอดทั้งคืน

ลมหายใจอุ่นเป่ารดลำคอระหงอย่างสม่ำเสมอบ่งบอกว่าหยางซีห่าวกำลังหลับสบาย คนเป็นภรรยาจึงค่อย ๆ คลายอ้อมแขนของเขาออกและลงจากเตียงอย่างเงียบเชียบที่สุดเพื่อไม่ให้รบกวนคนเป็นสามี

ตลอดเวลาที่เขาออกไปปฎิบัติหน้าที่คาดว่าคงไม่ได้กินอิ่มนอนอุ่นได้บ่อยนักในระหว่างรักษาแผลที่ขา เธอคิดว่าควรให้เขาพักมากหน่อย และตั้งใจจะทำอาหารดี ๆ เพื่อบำรุงเขาด้วย

ร่างบอบบางเดินออกมาจากห้องนอน เดินตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่นอกตัวบ้าน ผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นเป็นมวยกลางศีรษะลวก ๆ และปักด้วยตะเกียบไม้ธรรมดาเพื่อให้สะดวกต่อการทำกิจวัตรประจำวัน ตอนนี้ยังไม่สว่างดีแต่ก็พอมองเห็นรอบข้างได้ หญิงสาวเดินไปยังห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัวในยามเช้า ก่อนจะหายเข้าไปในมิติเพื่อหาวัตถุดิบมาทำอาหารรอสามีตื่น

เธอเลือกทำข้าวต้มไก่ฉีกโรยด้วยกระเทียมเจียวหอม ๆ สำหรับเช้านี้ สามีของเธอนั่งอยู่แต่บนรถเข็นไม่ค่อยได้ขยับตัวเท่าไหร่นัก การทานอาหารที่ย่อยยากเกินไปจะทำให้เขาท้องอืดเปล่า ๆ และเพียงเวลาไม่นานกลิ่นข้าวต้มหอมกรุ่นก็ได้ทำการปลุกชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงให้ตื่นขึ้นมาได้ไม่ยาก

บรรยากาศในยามเช้าของพื้นที่ชนบทนั้นบ้านหลายหลังเริ่มตื่นมาหุงหาอาหารกันบ้างแล้ว จางซิ่วอิงได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวภายในห้องนอน พอดีกับที่น้ำในหม้อนั้นเดือดพอดี จางซิ่วอิงจึงผสมน้ำอุ่นใส่กะละมังใบเล็กไปให้สามีในห้องนอนพร้อมกับผ้าผืนเล็กเนื้อนุ่มไม่บาดผิวสีขาวสะอาดตา

“ล้างหน้าล้างตาหน่อยนะคะ”หญิงสาวบอกเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินมานั่งลงตรงปลายเตียงเพื่อคอยช่วยเหลือสามี เผื่อว่าเขาต้องการอะไรเพิ่มเติม

“คุณ…อยากเข้าห้องน้ำหน่อยไหมคะ?”เธอพยายามเลี่ยงคำพูดตรง ๆ เพราะไม่อยากให้เขารู้สึกขัดเขินมากจนเกินไป

แต่ทันทีที่ภรรยาถามเช่นนั้น ร่างหนาถึงกับชะงักงัน ริมฝีปากหยักถึงกับเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง ใบหน้าหล่อเหลาก็ขึ้นริ้วแดงลามไปถึงใบหู

แม้จะแต่งงานกันมาร่วมปี แต่การถ่ายหนักต่อหน้าภรรยาก็ยังเป็นสิ่งที่เขารู้สึกขัดเขินอยู่ดี

จางซิ่วอิงมองท่าทางของสามีก็เข้าใจได้โดยที่เขาไม่ต้องพูดอะไรออกมาสักคำ เพียงแต่ดวงตาคู่เรียวกลับมองไปที่ขาของเขาอย่างพิจารณา เพราะห้องน้ำในยุคนี้ไม่ได้อำนวยความสะดวกได้มากเท่าโลกที่เธอจากมา หากมัวแต่ก้ม ๆ เงย ๆ แล้วล้มขึ้นมาก็อาจจะบาดเจ็บเพิ่มขึ้น และหากจะเข้าไปเฝ้าเขาในห้องน้ำคนขี้อายก็คงไม่ยอมอย่างแน่นอน คิดได้ดังนั้นหญิงสาวพลันนึกบางสิ่งได้และคิดว่าควรลองดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย

“เดี๋ยวฉันพาคุณไปนั่งที่รถเข็นก่อน”

หยางซีห่าวมีสีหน้าแปลกใจ เขาเดาใจภรรยาไม่ถูกจริง ๆ แต่ก็อำนวยความสะดวกให้ภรรยาอย่างว่าง่าย ด้วยขนาดตัวของเขาต่างจากเธอมาก หากทิ้งน้ำหนักมากเกินไปอาจจะพากันล้มก็เป็นได้

หลังจากพาสามีนั่งบนรถเข็นเรียบร้อยแล้ว มือเรียวกอบกุมมือสามีเอาไว้ตามความเข้าใจ ก่อนจะนึกถึงห้างสรรพสินค้าในมิติ

ชายหนุ่มไม่ได้เข้าใจการกระทำของภรรยานัก แต่ทว่าเพียงพริบตาภาพตรงหน้ากลับเปลี่ยนไป บรรยากาศและสิ่งรอบข้างที่ไม่คุ้นตาทำให้เขาหันไปสบตาร่างบางอย่างมีคำถาม

“ที่นี่เรียกว่า ห้างสรรพสินค้าค่ะ คุณกำลังอยู่ในมิติของฉัน”จางซิ่วอิงอธิบายให้สามีฟังด้วยท่าทางตื่นเต้นราวกับเด็กน้อย เธอไม่รู้มาก่อนว่าทำแบบนี้ได้ เมื่อลองครั้งแรกและสำเร็จจึงทำให้ใบหน้างามระบายยิ้มกว้างจนตาหยี

โดยสามีเองก็เพียงแค่ตอบรับอย่างมึนงง แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนักที่ทุกสิ่งตรงหน้าล้วนเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่เขาเชื่อใจภรรยามากทีเดียว

หลังจากเข้ามาในมิติของเธอ หญิงสาวพาเขาไปยังฝั่งหนึ่งที่อยู่ซ้ายสุดของห้างสรรพสินค้า ก่อนเธอจะอธิบายว่าที่นี่คือห้องน้ำที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนที่มีปัญหาการเข้าห้องน้ำแบบปกติ โดยเธอพาเขาเข้าไปภายในห้องน้ำ อธิบายการใช้งานจุดต่าง ๆ และช่วยเขาให้นั่งลงบนที่ปลดทุกข์หน้าตาแปลกประหลาด แล้วเดินออกไปรอด้านนอกห้อง

ขณะที่ปล่อยให้สามีได้ปลดทุกข์ได้อย่างสะดวก หญิงสาวจึงเดินไปสำวจสินค้าที่จะนำไปขายวันนี้คร่าว ๆ ตอนนี้อากาศหนาวขึ้นมาบ้างแล้ว ผักผลไม้สดจะเริ่มลดลงเรื่อย ๆ และขาดตลาดในที่สุด เธอจึงสรุปเอาในใจว่าจากนี้จะนำผักผลไม้ออกมาขายมากขึ้นหน่อย รวมถึงของแห้งหลายอย่างสำหรับบางครอบครัวที่อาจจะเริ่มกักตุนอาหารไว้สำหรับฤดูหนาว

เมื่อเลือกสินค้าในใจไว้แล้ว หญิงสาวจึงเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อรอรับสามี หญิงสาวเคาะประตูสองสามครั้ง เมื่อเขาอนุญาตเธอจึงเดินเข้าไปช่วยพยุงเขาขึ้นนั่งบนรถเข็น จากนั้นจึงพากันออกมาทานอาหารเช้าที่บ้าน

“ฉันจะออกไปขายของที่ตลาดมืดนะคะ แล้วจะกลับมาให้ทันมื้อเที่ยง”หญิงสาวพูดขึ้นขณะเตรียมยาหลังอาหารให้กับคนเป็นสามี จากนั้นจึงเข็นเขาเข้ามาในห้องเพื่อเอนหลังบนเตียงที่ค่อนข้างสบายตัวกว่าหากต้องนั่งนาน ๆ อย่างน้อยตอนที่เธอไม่อยู่ เขาก็สามารถหลับพักผ่อนได้ในทันทีโดยไม่ต้องรอ

หยางซีห่าวได้ยินดังนั้นก็เข้าใจได้ในทันทีว่าภรรยาคงนำสินค้าภายในมิติออกไปปล่อยขายเพื่อแลกเงิน พลันมือหนาจึงเอื้อมหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าที่อยู่ไม่ไกล ก่อนจะหยิบซองน้ำตาลที่ค่อนข้างหนาส่งให้เธอ

“นี่เงินชดเชยครับ คุณไม่จำเป็นต้องเอาของไปขายที่นั่น ผมว่ามันเสี่ยงเกินไป ผมเป็นห่วง”เขาเคยไปสถานที่แห่งนั้นเมื่อนานมาแล้ว สำหรับผู้หญิงรูปร่างบอบบางอย่างเธอการพาตัวเองไปอยู่ตรงนั้นค่อนข้างอันตรายเกินไป เงินในซองนั่นหากใช้ให้ดีอาจจะใช้ได้อีกหลายปีกว่าจะหมด ถึงตอนนั้นขาของเขาอาจจะหายดีแล้วก็ได้

จางซิ่วอิงรับซองเงินชดเชยจากสามีมาถือไว้โดยไม่ได้สนใจจะเปิดมันดู ในเมื่อเขาต้องบาดเจ็บมากขนาดนี้เพื่อได้เงินนี้มา อย่างไรเธอคงไม่กล้านำออกมาใช้และคิดว่าจะเก็บไว้ในมิติให้เขาก่อนก็แล้วกัน

“ตอนนี้ตลาดมืดผ่อนปรนมากแล้วค่ะ อีกอย่างฉันจะเร่งเก็บเงินเพื่อย้ายบ้านให้เร็วที่สุดและถ้าหาลู่ทางเปิดร้านของตัวเองได้ ฉันก็จะไม่ไปตลาดมืดอีก”เธอยิ้มรับในความห่วงใยของสามี แต่จุดประสงค์ของเธอก็ชัดเจนเช่นกัน

อีกอย่างเธอไม่ได้คิดที่จะนำสินค้าปล่อยขายที่นั่นตลอดไปอยู่แล้ว นับวันยิ่งใกล้ฤดูหนาวเข้าไปทุกที หากชักช้าไม่รีบซื้อบ้านใหม่ เห็นที่บ้านหลังนี้คงไม่อาจจะแบกรับหิมะที่ทับถมตลอดฤดูหนาวได้ และบ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านของเธอและสามี เธอจึงไม่มีความคิดที่จะลงทุนซ่อมแซมมันแต่อย่างใด

“ผมเข้าใจแล้วครับ คุณดูแลตัวเองให้ดีนะ”หยางซีห่าวพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะบอกให้ภรรยาดูแลตัวเองให้ดี เพราะอย่างไรเธอก็คือผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หากมีคนคิดร้ายหรืออยากจะปล้นชิงขึ้นมา ร่างบอบบางเช่นนี้จะปกป้องตนเองคงทำได้ยาก คิดมาถึงตรงนี้นัยน์ตาคมก็เลื่อนมองขาไประโยชน์ของตนเองทันที

“ค่ะ แล้วฉันจะรีบกลับให้ทันมื้อเที่ยงนะคะ ฟอดดด!!”หญิงสาวรับปากอย่างแข็งขัน ก่อนออกจากบ้านไม่ลืมหอมแก้มสากของสามีเสียฟอดใหญ่แล้วเดินออกจากบ้านไปอย่างอารมณ์ดี

เธอรักเขามาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ชาตินี้เลยอดไม่ได้ที่จะแสดงความรักต่อคนเป็นสามีเพื่อกระชับความสัมพันธ์

กลับมาที่ร่างหนาแข็งทื่อสติหลุดลอยเมื่อถูกภรรยาจู่โจมโดยทันตั้งตัวและกว่าหยางซีห่าวจะเรียกสติกลับคืนมาได้ ร่างบางของภรรยาก็ก้าวพ้นประตูบ้านไปเรียบร้อยแล้ว เขาจึงได้แต่ทดไว้ในใจก่อน แล้วจากนี้ค่อยเอาคืนเธอให้สาสมกับที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งเสียแล้ว

มือหนาเลื่อนขึ้นมาสัมผัสตรงที่ริมฝีปากนุ่มของภรรยาประทับตราเอาไว้เมื่อครู่ พลันริมฝีปากหยักปรากฏรอยยิ้มราวกับคนโง่งม

‘เขาคงตกหลุมรักภรรยาตัวเองเข้าให้แล้ว’

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 14 เก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์

    ทันทีที่หญิงสาวลงจากเกวียน เธอเดินไปสำรวจจุดเดิมที่เคยวางของขาย เมื่อเห็นว่ายังว่างอยู่จึงคลี่ผ้าที่เตรียมมาออกแล้วปูลงบนพื้น จากนั้นจึงเดินเข้าไปยังซอกตึกเพื่อเตรียมสินค้าของวันนี้มาวางขาย เนื่องจากตั้งใจจะปล่อยสินค้าจำนวนมากขึ้น จึงต้องเดินขนของหลายรอบหน่อยกว่าจะได้ของครบเพียงไม่นานแอปเปิ้ลผลใหญ่น่าทานจำนวนสี่ลังก็วางลงบนข้างผืนผ้าเรียบร้อย ข้างกันยังมีสาลี่และองุ่นที่วางอยู่ในลังเช่นกันอีกอย่างละสองลังเธอยังคงขายเนื้อแพ็คอย่างดีเช่นเดิม โดยไม่ลืมของแห้งอย่างหมูแผ่น หมูฝอย และหมูหยองอย่างละสามสิบแพ็ควางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ หลังจากเรียงสินค้าชิ้นสุดท้ายเสร็จก็พอดีกับที่ลูกค้ารายแรกมาติดต่อซื้อพอดีจางซิ่วอิงพอจำได้ว่าหญิงชราที่แต่งตัวดูดีตรงหน้าเป็นลูกค้าประจำของร้านเธอ คุณยายท่านนี้มักมาซื้อเนื้อแพ็คของเธอไปคราวละห้าถึงสิบแพ็คทุกครั้ง คาดว่าคนที่บ้านคงเยอะน่าดู แต่คราวนี้หลังจากหยิบเนื้อเช่นทุกวันแล้ว แทนที่จะจ่ายเงินและจากไปอย่างทุกครั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 15 เกิดเรื่องกับสามี

    จางซิ่วอิงแสร้งเก็บเงินที่ได้ไว้ในกระเป๋าผ้าคู่ใจ แต่จริง ๆ แล้วเงินเยอะขนาดนี้เธอแอบโยนมันเข้าไปไว้ในมิติต่างหาก ก่อนออกจากร้านของคุณป้าหลี่หญิงสาวไม่ลืมเลือกซื้อข้าวขาวและแป้งจำนวนหนึ่งติดมือกลับบ้านไปด้วย เพื่อไม่ให้เป็นที่น่าสงสัยจนเกินไปฝีเท้าเล็กมั่นคงก้าวลงจากเกวียนหลังจากจ่ายเงินค่าโดยสารเรียบร้อย จางซิ่วอิงหอบหิ้วของที่ซื้อมาเดินกลับบ้านบนเนินเขาอย่างอารมณ์ดี แต่ทว่าอีกเพียงไม่กี่เมตรก็จะเดินถึงบ้านอยู่แล้ว หญิงสาวนั้นกลับเห็นย่าและลูกพี่ลูกน้องของสามีกำลังพยายามดันรั้วบ้านผุพังของเธอ เห็นดังนั้นริมฝีปากผุดรอยยิ้มหยัน จากนั้นหญิงสาวจึงหมุนตัวกลับไปเพื่อหาพยานคนสำคัญสำหรับเรื่องนี้ทันที“ย่า?”เสียงทุ้มเรียกย่าขึ้นมาอย่างนึกแปลกใจ คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ก่อนสีหน้าเรียบเฉยจะค่อย ๆ เข้มขึ้นด้วยความรู้สึกไม่พอใจที่ถูกบุกรุกบ้านเขาถูกฝึกมาไม่น้อย เสียงเปิดรั้วบ้านแม้จะเบากว่าปกติแต่ก็รับรู้ได้ในทันที แต่ที่คาดไม่ถึงคือย่าและญาติผู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 16 กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย

    จางซิ่วอิงออกจากห้องครัวมาพร้อมกับข้าวสองอย่าง ข้าวขาวที่หุงเผื่อไว้ตั้งแต่เช้าถูกอุ่นให้ร้อน และยังมีไข่ต้มอีกสามฟองที่ถูกปลอกเปลือกจนเกลี้ยง อาหารทั้งหมดถูกจัดวางบนโต๊ะทานข้าวเก่า ๆ พร้อมทานหญิงสาวจึงเข้าไปรับสามีออกมาทานมื้อเที่ยงด้วยกัน หยางซีห่าวเห็นอาหารตรงหน้าก็ครุ่นคิดบางสิ่งขึ้นมาได้นี่เป็นมื้อที่สามแล้วที่เขาเห็นว่าอาหารของภรรยายังคงมีจานเนื้อ ทั้งที่ชาวบ้านชนบททั่วไปอย่าว่าแต่ทานเนื้อเดือนละครั้งเลย แทบจะทุกบ้านจะทานเนื้อเพียงแค่โอกาสหรือวันสำคัญเท่านั้น เดาว่าภรรยาคงชอบทานเนื้อมากทีเดียว เช่นนั้นเขาควรต้องรีบรักษาตัวเองให้หาย จะได้หาเงินให้มากหน่อยไว้ซื้อเนื้อให้ภรรยาทานทุกมื้อ“ทานสิคะ! คุณต้องบำรุงให้มากหน่อย แผลจะได้หายเร็ว ๆ”ใบหน้าเรียวคลี่ยิ้มหวานขณะตักไข่ต้มสองฟองวางลงในจานข้าวของคนเป็นสามี โดยที่ไม่ได้รู้ความคิดของสามีในตอนนี้แม้แต่น้อย“ทำไมถึง…”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 17 คุณลวนลามผมอีกแล้ว

    “สามีขา ภรรยากลับมาแล้วววว!!”พรู๊ดดดด!! แค่ก! แค่ก!เสียงหวานใสค่อนไปทางออดอ้อนที่ดังมาจากทางประตูบ้านทำเอาชายหนุ่มที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ถึงกับไอสำลักน้ำหน้าดำหน้าแดง“คุณ! ดีขึ้นไหมคะ?”จางซิ่วอิงเข้ามาในห้องนอนทันได้เห็นสามีทีกำลังไอสำลักอย่างหนักก็ตรงเข้าไปลูบแผ่นหลังของเขาทันที“แค่ก! แค่ก! แค่ก!! อืมม ผมดีขึ้นแล้ว”แม้จะยังคงไออยู่บ้างแต่ก็ดีกว่าตอนแรก พลันหันมองใบหน้าภรรยาที่ยืนทำหน้าตาใสซื่อราวกับไม่รู้เลยว่าเมื่อครู่พูดอะไรออกมา“คุณมองหน้าฉันแบบนี้คือ?”หยางซีห่าวถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน นี่ภรรยาคงไม่รู้จริง ๆ สินะว่าคำพูดของเธอทำให้สามีสำลักน้ำเกือบตาย ช่างน่าจับมาตีก้นจริง ๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 18 มาให้จัดการถึงบ้าน

    สองสามีภรรยาหันมองตากันอย่างเบื่อหน่าย จางซิ่วอิงถอนหายใจเสียงดัง วันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เพียงแค่อยากใช้เวลาร่วมกับสามีเล็กน้อยนี่มันยากเย็นจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นร่างบางก็เดินเข็นรถพาสามีออกมาหน้าบ้านด้วยกันหยางซีห่าวนั่งอยู่บนรถเข็นที่ภรรยาเป็นคนพามา ร่างบางให้เขาหยุดรออยู่ใกล้กลับประตูบ้าน ซึ่งห่างจากรั้วบ้านพอสมควรตอนนี้บริเวณด้านนอกรั้วมีชาวบ้านนับสิบคนมายืนรอชมความสนุก เพราะเสียงก่นด่าหยาบคายของสะไภ้ใหญ่บ้านหยางจางซิ่วอิงเห็นเช่นนั้นก็เข้าใจได้ทันทีว่าเรื่องราวเป็นเช่นไร ดูจากท่าทางฟาดงวงฟาดงาขนาดนี้ไม่แคล้วคงรู้เรื่องของแม่สามีและลูกชายแล้วแน่ ๆร่างบางของเจ้าของบ้านเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงวัยกลางคน ก่อนจะยกมือหนึ่งขึ้นแคะหูด้วยท่าทางยียวนหวงไฉ่หงที่เห็นท่าทางยั่วโมโหของหลานสะไภ้ก็ฉุนจัด ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยว ก่อนจะชี้หน้าเด็กสาวและเริ่มด่าทอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-18
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 19 ผมชอบคุณตอนนี้ที่สุด

    สบู่เหลวที่ภรรยาเตรียมไว้ให้เมื่อฟอกลงบนผิวกายจนเกิดฟองสีขาว กลิ่นหอมนี้เขาจำได้ว่าเป็นกลิ่นเดียวกับกลิ่นกายของภรรยา พลันมุมปากปรากฎรอยยิ้มจาง ๆ จากนั้นจึงอาบน้ำชำระร่างกายส่วนต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ภรรยารอนานเกินไป ยังดีที่ภรรยาพันแผลด้วยแผ่นใสบาง ๆ ให้ เขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าน้ำจะเข้าแผลจนทำให้อับชื้น“เสร็จแล้วครับ”เสียงทุ้มบอกภรรยาที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำทันทีที่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วจางซิ่วอิงเปิดประตูเข้ามาพอดีกับที่สามีกำลังมองมาที่ประตูพอดี สองสายตาสบประสานกันอย่างพอดิบพอดี ราวกับบรรยากาศโดยรอบหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ก้อนเนื้อในอกพลันเต้นระรัวเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาคู่นั้นของเขา แม้จะชอบหยอกล้อให้เขาต้องเขินอายอยู่บ่อย ๆ แต่พอมาสบตากันตรง ๆ เช่นนี้กลับเป็นเธอเองที่รู้สึกขัดเขินจนใบหน้าร้อนผ่าวด้านสามีเองก็มีท่าทีขัดเขินไม่ต่างกัน ใบหน้าเล็กที่ยื่นเข้ามาก่อนตัวนั้น ไม่ได้ซูบตอบอย่างเช่นที่ผ่านมา ผิวพรรณที่นวลเนียนขึ้นกว่าแต่ก่อน และ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 20 รายได้เป็นกอบเป็นกำ

    จางซิ่วอิงกลับมาพร้อมกับเครื่องประดับผมถุงใหญ่ และถุงเสื้อโค้ดกันหนาวอีกหนึ่งถุงใหญ่ ร่างเล็กหอบเอาถุงสินค้าขนาดใหญ่เข้ามาในร้านอย่างทุลักทุเลจนเยว่ผิงอันอดสงสารไม่ได้จึงให้ลูกจ้างในร้านไปช่วยถือ“เสื้อโค้ดบุนวมเหรอ?”เถ้าแก่เนี๊ยรุ่นเยาว์เอ่ยถามอย่างนึกแปลกใจ การจะขายชุดกันหนาวในตอนนี้นับว่าสาวน้อยตรงหน้านั้นมองการณ์ไกลไว้มากทีเดียว ทั้งที่ยังเด็กแต่การเลือกของมาทำการค้าของเธอนั้นเรียกได้ว่าฉลาดเลือกไม่เบา“ถุงนี้ฉันอยากจะฝากพี่ขายที่ร้านได้ไหมคะ? พอดีฉันไม่ค่อยมีเวลาปล่อยของเลย” หญิงสาวรุ่นน้องพูดจบก็แสดงสีหน้ายุ่งยากออกมาในทันทีต้องยอมรับว่าเสื้อกันหนาวพวกนี้เป็นที่ต้องการของลูกค้ามาก แต่การขายออกไปแต่ละตัวต้องใช้เวลา เพราะลูกค้าต้องลองสวมและราคาก็นับว่าสูง อีกอย่างเธอจะต้องรีบขายให้เสร็จเพื่อกลับไปให้ทันขึ้นเกวียนก่อนเที่ยงเพราะมีสามีรออยู่ที่บ้าน ฉะนั้นพี่สาวเยว่ที่ขายเสื้อผ้าอยู่แล้ว หากจะขอฝากขายสักหน่อยก็นับเป็นตั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 21 พาสามีไปหาหมอ

    เสียงไก่ขันในยามเช้าตรู่ที่มีเพียงแสงอาทิตย์เพียงรำไรช่วยปลุกร่างบอบบางตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนแกร่งของสามี ใบหน้าเล็กซุกซบหาความอบอุ่นจากอกกว้าง พลางกอดกระชับแขนเล็กกับเอวสอบไว้หลวม ๆอากาศเช้านี้ดีมากจริง ๆ เธอเริ่มคุ้นชินกับการถูกโอบกอดเช่นนี้เสียแล้วชายหนุ่มที่ถูกใบหน้าเล็กถูไปมาบริเวณอกกว้างพลันตื่นขึ้นมาในทันที ก่อนมือหนาจะกดศีรษะภรรยาเข้ากับอกเพื่อให้เธอหยุดถูไถเสียที เพราะเกรงว่าบางสิ่งที่หลับอยู่ก็คงจะตื่นขึ้นมาในไม่ช้านี้“นอนต่ออีกหน่อยเถอะภรรยา”เสียงทุ้มงัวเงียกล่าวขึ้น พลางลูบลงบนผมนิ่มของร่างในอ้อมแขนแผ่วเบา“ฉันต้องไปขายของนะคะ”หญิงสาวตอบกลับอย่างเป็นกังวล พลันเงยหน้าขึ้นมองปลายคางของสามีด้วยสายตาเว้าวอน เธออยากออกไปทำงาน อยากได้เงินเยอะ ๆ แต่อากาศวันนี้มันดีเกินไปเสียจนทำให้คนขยันอย่างเธออยู่ ๆ ก็รู้สึกขี้เกียจขึ้นมาเสียอย่างนั้นซึ่งหญิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-21

บทล่าสุด

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 38 ตระกูลจ้าวแห่งปักกิ่ง

    เสียงรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกขับเคลื่อนเข้ามาภายในคฤหาสน์ตระกูลจ้าวในช่วงเย็นย่ำ ก่อนที่คุณชายจ้าวคุนทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลจะก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างอารมณ์ดีคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลจ้าวตั้งอยู่ใจกลางย่านสำคัญของปักกิ่ง ภายนอกรายล้อมไปด้วยสวนไม้ดอกและไม้ยืนต้นที่ถูกดูแลเป็นอย่างดีกินเนื้อที่กว่าสามไร่ ภายในคฤหาสน์ถูกตกแต่งด้วยเครื่องเรือนเก่าแก่ที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น บางชิ้นไม่อาจประเมินค่าเพราะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนโลกก็ว่าได้ร่างสูงโปร่งของคุณชายจ้าวเดินเข้ามาในตัวคฤหาสน์ ใบหน้าหล่อเหลาที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นพ่อแทบทุกระเบียดนิ้วนั้นประดับรอยยิ้มอย่างคุณชายเจ้าสำราญอยู่ตลอด นัยน์ตาคมทอดมองไปยังข้าวของที่วางเรียงรายกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของห้องโถง พลางนึกไปถึงเงินจำนวนมากที่คุณพ่อจ่ายออกไปสำหรับของเหล่านี้เพื่อความสุขของคุณแม่ ครั้งนี้คุณพ่อจ่ายหนักเสียจริง…“สวัสดีครับคุ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 37 แผนงานขั้นต่อไป

    หญิงสาวพยายามเก็บสีหน้าและรักษาท่าทีให้กลับมาสงบดังเดิม ก่อนจะครุ่นคิดถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ เธอสังเกตเห็นท่าทีสงสัยของผู้จัดการเผยคนนี้ ก็ไม่แปลกใจนักกับความคิดของคนในยุคนี้ยุคที่เศรษฐกิจภายในประเทศผันผวนตลอดเวลาเช่นนี้ จะมีใครใจกล้าเช่าหน้าร้านระยะยาวด้วยเงินก้อนโตอย่างเธอบ้าง หรือแม้แต่การเช่าที่ดินทำการเกษตรเธอก็เชื่อว่าคงไม่มีใครเช่าระยะยาวหลายปีเช่นที่เธอกำลังทำอยู่อย่างแน่นอนแต่สำหรับโลกก่อนการเช่าร้านใหญ่ในห้างมีใครบ้างอยากจะเช่าเพียงแค่สามเดือน ถ้าหากเธอขายดีขึ้นมาแล้วเกิดหมดสัญญาเช่าก่อน อย่างนั้นจะไม่เสียเวลาต่อสัญญาหรืออาจจะต้องหาหน้าร้านใหม่หรอกหรือ“อย่างนั้นฉันสนใจเช่าห้าปีทั้งสองร้านค่ะ ทางผู้จัดการเผยเขียนสัญญาและคำนวนค่าเช่าล่วงหน้ามาได้เลยนะคะ”น้ำเสียงจริงจังกล่าวออกไปอย่างไม่ลังเล แม้จะเป็นสีหน้าไม่เข้าใจของพี่สาวเยว่แต่จางซิ่วอิงกลับคิดว่าเธอได้คำนวนมาเป็นอย่างดีแล้วต่างหาก

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 36 สัญญาเช่าระยะยาว

    เนื่องจากห้างสรรพสินค้ายังปรับปรุงไม่เสร็จดีและไม่มีพื้นที่สำหรับการต้อนรับหรือพูดคุย เยว่ผิงอันจึงตกลงนัดหมายการทำสัญญาในวันนี้ที่สำนักงานแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กันกับห้างสรรพสินค้าแทนสำนักงานแห่งนี้เป็นสถานที่ดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบส่วนของงานปรับปรุงซ่อมแซมและใช้สำหรับพูดคุยเรื่องสำคัญที่ห้างสรรพสินค้าสร้างขึ้นมาแยกจากตัวห้างสำหรับใช้งานชั่วคราวระหว่างรอสำนักงานที่อยู่บนชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้าปรับปรุงเสร็จอาคารสำนักงานแห่งนี้มีขนาดสี่สิบตารางวานับว่ากว้างขวางพอสมควร ทั้งยังตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับห้างสรรพสินค้า ถือว่านายทุนของที่แห่งนี้นอกจากมีกำลังทรัพย์มหาศาลแล้วยังมีอิทธิพลค่อนข้างมากระยะทางจากบ้านของเธอมาถึงสำนักงานแห่งนี้นับว่าใกล้กันมาก จางซิ่วอิงจึงนัดหมายกับพี่สาวเยว่มาเจอกันที่นี่แทน สองสามีภรรยาเผื่อเวลาไว้พอสมควร ระหว่างทางจึงไม่ได้รีบร้อน ทั้งคู่เดินไปหยอกล้อกันไปราวกับคู่รักหนุ่มสาวที่พึ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ ก็ไม่ปา

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 35 คนหลงภรรยา

    ในทันทีที่แผ่นหลังบอบบางสัมผัสกับพื้นผิวของเตียงเตาหลังกว้าง ร่างหนาของหยางซีห่าวก็ทิ้งกายลงคร่อมทับภรรยาเอาไว้ สองสายตาสบประสานกันอย่างสื่อความหมายกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกายของหญิงสาวโชยขึ้นมาเตะจมูกของคนเป็นสามีจนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งกายหนา กอปรกับดวงตาคู่เรียวที่ปรือขึ้นมองเขาอย่างยั่วเย้านั้นทำเอาหยางซีห่าวแทบคลั่งพลันริมฝีปากหยักจรดลงบนแก้มนิ่มอย่างอ่อนโยน ช่างขัดกับลมหายใจอุ่นร้อนที่เริ่มติดขัด มือหนาทั้งบีบทั้งเคล้นไปเสียทุกส่วนโค้งเว้าใบหน้าเรียวเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัสอุ่นจูบซับไปตามกรอบหน้า ริมฝีปากบางเผยออ้าราวกับรู้อยู่ก่อนแล้วว่าชายหนุ่มจะประกบจูบลงมาเรียวลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าไปตักตวงความหวานในโพรงปากของภรรยา ก่อนจะถูกร่างบางจูบตอบกลับมาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน สองแขนเรียวเล็กยกขึ้นโอบกอดรอบลำคอหนา พลางเอียงใบหน้าเพื่อสอดรับเรียวลิ้นได้ถนัดถนี่หยางซีห่าวค

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 34 สามีปากหวาน

    หลังจากพูดคุยกันต่ออีกราวสามสิบนาทีจางซิ่วอิงเห็นว่าใกล้เวลามื้อเย็นแล้วจึงชวนสหายรุ่นพี่ให้อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนค่อยกลับซึ่งในทีแรกเยว่ผิงอันมีท่าทีปฏิเสธ แต่ทว่ากลับถูกคะยั้นคะยอจากคู่ค้าคนสำคัญ หนักเข้าจึงตกปากรับคำในเวลาต่อมาด้วยความเกรงใจในยุคนี้ข้าวปลาอาหารล้วนขาดแคลน การซื้อหานับว่าต้องใช้เงิน สินค้าบางอย่างมีการยกเลิกการใช้คูปองไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้ออยู่ดี การทานอาหารบ้านคนอื่นนับเป็นเรื่องที่ต้องเกรงใจให้มากคุณแม่เธอสอนมาอย่างนั้น จึงค่อนข้างเกรงใจสหายไม่อาจรับปากง่าย ๆ ได้จางซิ่วอิงปลีกตัวเข้ามาทำอาหารในครัว โดยปล่อยสหายให้นั่งดูแผนงานรอไปก่อน ซึ่งหยางซีห่าวสบโอกาสใกล้ชิดในทันที ร่างหนาเร่งเดินตามภรรยารักเข้ามาในครัวพร้อมกับออกปากว่าจะช่วยทำกับข้าวในวันนี้หญิงสาวนึกอยากทานไก่คั่วพริกเกลือขึ้นมาจึงเริ่มหยิบเนื้อไก่ขึ้นมาหั่นชิ้นพอดีคำ ก่อนจะเตรียมวัตถุดิบอื่น ๆ จากนั้นจึ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 33 วางแผนธุรกิจใหม่

    เยว่ผิงอันยิ้มกว้างเมื่อเห็นสหายรุ่นน้องและสามีกลับบ้านมาพอดีหลังจากมายืนรออยู่เกือบสิบห้านาทีเธอเคยมาที่บ้านหลังนี้ครั้งหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าสามีของอิงอิงนั้นเป็นทหารที่กำลังพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ แต่ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มกลับยืนเคียงข้างภรรยาอย่างมั่นคง นี่นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากไม่ใช่เหรอ“ฉันจะมาคุยเรื่องร้านใหม่ของเราน่ะสิ!”เยว่ผิงอันตอบอย่างกระตือรือร้นขึ้นมาในทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ถึงเหตุผลของการมาที่บ้านหลังนี้ ใบหน้าเรียวแม้จะดูเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อธุระสำคัญของวันนี้จางซิ่วอิงยิ้มรับพลางพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหยิบลูกกุญแจขึ้นมาไขรั้วบ้านแต่ก็ถูกมือหนาของสามีแย่งไปเสียก่อน เธอจึงทำได้เพียงส่งยิ้มขอบคุณเขาและหันมาให้ความสนใจกับสหายคู่ค้าก่อนเยว่ผิงอันมามองท่าทีสองสามีภรรยาคู่นี้ก็ยิ้มกริ่มขึ้นมา พลางส่งสายตาล้อเลียนไปให้สหาย จนหญิงสาวที่ถูกมองแบบนั้นถึงกับขวยเขิ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 32 หาหมอครั้งสุดท้าย

    เสื้อผ้าเนื้อละเอียดสีเดียวกัน ฝีเข็มปราณีตบ่งบอกถึงราคาที่ไม่ใช่ชาวชนบททั่วไปจะจับต้องได้ ชุดคู่นี้ถูกสวมลงบนกายของทั้งคู่ หากใครเห็นไม่บอกก็พอจะรู้ได้ว่าชายหญิงคู่นี้คือคนรักกันอย่างแน่นอน หลังจากประทินโฉมเพียงเล็กน้อยจางซิ่วอิงก็ได้เวลาออกจากห้องนอน ซึ่งมีสามีมายืนรออยู่ก่อนแล้วจางซิ่วอิงนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งโดยมีสามีเลื่อนให้ ใบหน้าเรียวเล็กวาดยิ้มจนตาหยีก่อนจะกล่าวขอบคุณสามีเสียงหวานความสุขที่อัดแน่นอยู่ในอกถูกแสดงออกผ่านสีหน้าและแววตา ภาพตรงหน้าที่เกิดขึ้นนั้นราวกับความฝันที่เธอไม่อยากจะตื่น พลันหวนนึกถึงที่ที่จากมา ในตอนนั้นชีวิตคู่ของเธอกับพี่ซีห่าวก็นับได้ว่าหวานชื่นไม่แพ้ตอนนี้ แม้จะไม่ได้ตบแต่งกันเช่นชีวิตนี้ แต่เขาก็ดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดีในทุกวันเขาและเธอจะต่างคนต่างทำหน้าที่การงานของตนเอง อาจมีแวะเวียนมาทานมื้อกลางวันด้วยกันบ้าง ทานมื้อเย็นด้วยกันเป็นประจำ ไม่ว่าเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตจะยากเย็นสักแค่ไหน เขาไม่เคยปล่อย

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 31 บอกรักที่ไม่มีคำว่า “รัก”

    รุ่งเช้าของวันใหม่ดวงอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าจนเกิดแสงสีแดงอมส้มที่ลอดผ่านเข้ามาผ่านช่องหน้าต่างเล็ก ๆ ตามมาด้วยเสียงเคลื่อนไหวของบ้านหลังอื่น ๆ ที่อยู่รอบพื้นที่เปลือกตาสีไข่ปรือขึ้นพลางกระพริบขี้นลงถี่รัวเพื่อปรับให้คุ้นชินกับแสงที่กระทบเข้ากับดวงตา ทันทีที่ตื่นเต็มตาเธอหันไปมองร่างหนาที่หลับสนิทอยู่ข้างกาย ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเขากำลังหลับสนิท ท่อนแขนแข็งแกร่งยังคงกอดรัดเอวคอดกิ่วเอาไว้เช่นทุกวันแต่ที่ต่างออกไปเพราะระหว่างทั้งคู่ไม่ได้เพียงแค่หลับไหลอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอย่างเช่นทุกคืน…จางซิ่วอิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคู่เรียวไล่สำรวจใบหน้าหล่อเหลาของสามี สันจมูกคมเด่น กรามได้รูป และลูกกระเดือกใหญ่ที่ข้างกันมีร่องรอยสีแดงจาง ๆ ติดอยู่ พลันใบหน้างามรู้สึกเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงที่มาของรอยนั้น ทั้งลำคอหนา ไหปลาร้า หรือแม้แต่หน้าอกแกร่ง ล้วนมีรอยที่เธอเป็นคนทำขึ้นทั้งสิ้นคล้ายว

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 30 ผมหายดีแล้วครับ

    ภายในรั้วบ้านสีขาวสะอาดตา เนื้อที่หน้าบ้านทั้งหมดถูกเปลี่ยนให้เป็นแปลงผักนานาชนิดที่เจ้าของบ้านช่วยกันปลูกเอาไว้เก็บกิน ดินที่ถูกยกร่องอย่างดีทำให้ง่ายต่อการดูแล หยางซีห่าวกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อย่างใส่ใจ นี่นับเป็นหน้าที่แรกที่ภรรยาเป็นคนมอบหมายให้หลังจากที่เขากลับมาเดินได้เป็นปกติแล้วพลันกลิ่นหอมอบอวลที่ลอยออกมาจากห้องครัวภายในตัวบ้านทำเอาชายหนุ่มที่ยืนรดน้ำแปลงผักอยู่หน้าบ้านรู้สึกหิวขึ้นมา หยางซีห่าวเร่งมือเพื่อทำงานให้เสร็จจากนั้นจึงเดินเข้าไปในครัวอย่างรีบร้อนเขาเห็นร่างบอบบางของภรรยากำลังยืนผัดอาหารอยู่บนเตาก็ยกยิ้มกว้าง พลันเคลื่อนกายเข้าไปสวมกอดเธอจากด้านหลัง กดจมูกฝังลงบนแก้มนุ่มหอม ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อที่เกาะอยู่ตามกรอบหน้าให้อย่างทนุถนอม“หอมจัง คุณทำอะไรครับวันนี้?”เสียงทุ้มอ่อนโยนถามออกไปโดยวงแขนยังคงสวมกอดอยู่บริเวณเอวคอด“ผัดเปรี้ยวหวานค่ะ แล้วก็มีไข่เจียวหมูสั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status