แชร์

บทที่ 12

บทที่ 12

“ปล่อยเล็กค่ะคุณปรัชญ์” ธรินดาดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดของคนชอบหาเรื่อง

“เธอโผเข้ามาให้ฉันกอดเองนะ ช่วยไม่ได้”

“คนกักขฬะ ออกไปจากห้องเล็กนะคะคุณปรัชญ์ ไม่งั้นแม่ใหญ่กลับมาเล็กจะฟ้องแม่ใหญ่” ธรินดาไม่รู้จะช่วยตัวเองให้หลุดพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร จึงได้แต่หยิบยกเอาคนที่คิดว่าปรัชญ์จะเกรงใจที่สุดมาอ้าง

“ฟ้องว่าไง” คิ้วหนาดกดำเป็นปื้นเลิกขึ้นขณะถามอย่างยียวนแกมท้าทาย

“ฟ้องว่าคุณปรัชญ์เข้ามารังแกเล็ก”

“รังแกยังไง” ปรัชญ์ถามต่ออีก

“เล็กจะบอกแม่ใหญ่ว่าคุณปรัชญ์ขืนใจเล็ก” เธอขู่เขาไปเช่นนั้นทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเธอคงไม่กล้าจะบอกเรื่องนี้กับใคร

“ขืนใจงั้นเหรอ แน่ใจนะธรินดา เมื่อคืนฉันบอกเธอแล้วนี่ ว่าถ้าไม่เต็มใจให้บอกฉันให้หยุด แต่ฉันจำได้ว่าไม่ได้ยินเธอพูดคำว่าหยุดสักคำนะ มีแต่บอกว่า อย่าค่ะ...อื้อ...คุณปรัชญ์ขาเล็กเสียว...” ปรัชญ์ยกคำพูดของเธอมาล้อเลียนแบบหน้าตาย ทำเอาธรินดาร้อนวาบไปทั้งหน้า

“คนบ้า! หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ! เล็กไม่ได้พูดอะไรบ้าๆ แบบนั้น เล็กจะฟ้องแม่ใหญ่! เล็กเกลียดคุณ!”

“แม่ใหญ่ของเธอรู้อยู่แล้วมั้งว่าเธอเกลียดฉัน คงไม่ต้องบอกซ้ำหรอก”

แม่ใหญ่น่ะเหรอที่รู้...วันนั้นแม่ใหญ่ยังบอกว่า ‘คุณปรัชญ์ของหนูเล็ก’ อยู่เลย มีแต่เขานั่นแหละที่พาลหาเรื่องเธอและแม่ตัวเองอยู่บ่อยๆ

“ปล่อยเล็กแล้วออกไปจากห้องเล็กเถอะนะคะเล็กขอร้อง คุณปรัชญ์กำลังจะหมั้นนะคะ”

“แล้วไง”

“เล็กอยากให้คุณปรัชญ์ลืมว่าเกิดอะไรขึ้น เล็กเองก็จะลืมเหมือนกัน คุณปรัชญ์อย่าทำให้อะไรๆ มันยุ่งยากเลยนะคะ เล็กไม่อยากเดือดร้อน เล็กไม่อยากทำให้แม่ใหญ่ผิดหวังในตัวเล็ก” เธอพูดกับเขาเสียงอ่อนลง เลิกใช้อารมณ์แต่ใช้เหตุผลขอร้องเขาดีๆ

“เธอลืมได้เหรอ”

ปรัชญ์ย้อนถาม เป็นคำถามที่ทำให้คนถูกถามอึ้งไปพักหนึ่งเหมือนกัน แต่ยังไม่ทันที่ธรินดาจะตอบก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องเสียก่อน

ก๊อก...ก๊อก…

“ปล่อยเล็กค่ะคุณปรัชญ์” ธรินดาดิ้นแรงขึ้นอีกรอบและมองไปยังประตูอย่างเดือดเนื้อร้อนใจ กลัวว่าคนข้างนอกจะเข้ามาเห็นว่าปรัชญ์กำลังกอดเธออยู่

“เล็ก...เล็ก...”

ประโยคดังกล่าวเป็นเสียงของปราณต์ ทำให้ปรัชญ์ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะคลายอ้อมกอด และเป็นฝ่ายลุกไปเปิดประตูให้เสียเอง

“อ้าวปรัชญ์” พี่ชายทักขึ้นและแปลกใจอย่างมากที่เห็นน้องชายเป็นคนเปิดประตูห้องของธรินดา

“พี่ปราณต์มาทำอะไร”

“ฉันเพิ่งกลับมาถึง เห็นบัวคำบอกว่าเล็กไม่สบาย ฉันก็เลยขึ้นมาดู นายเองก็มาดูน้องเหมือนกันเหรอ”

“เปล่า...ผมไม่ได้มาดู”

ตอบแค่นั้นร่างสูงก็เบี่ยงตัวออกจากห้อง ทิ้งให้พี่ชายมองตามอย่างสงสัยในพฤติกรรมและท่าทางแปลกๆ เช่นนั้น แต่ปราณต์ก็ปัดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว เพราะปกติปรัชญ์เป็นคนปากแข็งและชอบตอบอะไรยียวนเช่นนี้อยู่แล้ว

นายแพทย์หนุ่มเดินตรงไปยังเตียงของน้องสาวบุญธรรม ทรุดตัวลงนั่งที่เดิมกับคนที่เพิ่งลุกไป แต่ให้ความรู้สึกที่ต่างกันลิบลับกับผู้เป็นเจ้าของเตียง

“เป็นยังไงบ้าง เห็นบัวคำบอกว่าไม่สบายเหรอ” เสียงทุ้มหล่ออ่อนโยนสมตัวและอาชีพเอ่ยถาม พลางยกมือขึ้นอังที่หน้าผากมนอย่างห่วงใย

“เล็กปวดหัวน่ะค่ะพี่ปราณต์”

“น่าจะมีไข้ต่ำๆ ด้วย เหมือนตัวจะรุมๆ ไปทำอะไรมาถึงได้ไม่สบายหือ เมื่อคืนนอนไม่ห่มผ้าหรือไง”

คำถามของพี่ชายบุญธรรมทำให้ธรินดาหน้าร้อนผ่าวอีกครา แม้จะเป็นคนละความรู้สึกกับที่ปรัชญ์ทำให้เป็นเมื่อครู่ก็ตาม แต่มันก็เกิดจากเรื่องเดียวกัน ใช่...เมื่อคืนนี้เธอแทบไม่ได้ห่มผ้า แถมไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น แต่ร่างกายก็ไม่ได้เหน็บหนาวเพราะมันถูกแผดเผาด้วยไฟพิศวาสอันร้อนแรงของปรัชญ์เกือบตลอดคืน ที่เธอไม่สบายอยู่ตอนนี้ก็เพราะพิษของรสสวาทนั่นต่างหาก

“คงจะใช่ค่ะ” ธรินดาไม่รู้จะตอบเช่นไร จึงได้แต่ตอบไปตามสถานการณ์

“งั้นก็กินยาแล้วนอนซะนะ พี่เตรียมยาขึ้นมาให้ด้วย พรุ่งนี้ก็หายแล้วละ” ปราณต์บอกแล้ววางยาเม็ดที่อยู่ในแผงไว้บนหัวเตียงให้

“ขอบคุณพี่ปราณต์มากนะคะที่ดีกับเล็กมาตลอด” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้เขาด้วยความซาบซึ้งใจ สภาพจิตใจที่ย่ำแย่ทำให้น้ำตาเอ่อล้นและไหลลงอาบแก้มอย่างมิอาจยับยั้งได้ ในบ้านหลังนี้นอกจากแม่ใหญ่แล้ว ก็คงมีแต่ปราณต์เท่านั้นละมังที่รักและดีต่อเธอเสมอมา

“เอ๊า...ขี้แยซะแล้วน้องเล็ก มานี่มา”

ปราณต์หัวเราะเบาๆ นัยน์ตาฉายประกายขบขันเล็กน้อย แล้วดึงร่างบางเข้าไปกอดอย่างอ่อนโยนและถ่ายทอดความอบอุ่นให้ อ้อมกอดของปราณต์ช่างต่างกับอ้อมกอดของคนที่เพิ่งออกไปอย่างสิ้นเชิง ธรินดาสะอื้นฮักกับอกอันแข็งแรงนั้น น้อยครั้งที่ปราณต์จะกอดเธอเช่นนี้ แต่อ้อมกอดของเขาก็ให้ความอบอุ่น เช่นเดียวกับที่เธอเองก็แทบจะไม่เคยถูกปรัชญ์กอดเหมือนกัน แต่ยามใดที่ถูกคนคนนั้นกอดก็มักจะตามมาด้วยการถูกรังแกทุกครั้ง ทว่าเธอก็ไม่เคยต่อต้านเขาได้เลย

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status