แชร์

บทที่ 16

บทที่ 16

เทอมสุดท้ายของการเรียนปีสี่และการเป็นนักศึกษาเริ่มขึ้นแล้ว ธรินดารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก เพราะการเรียนและงานสารนิพนธ์ที่ทำคู่กับชนิศาทำให้เธอยุ่งจนแทบไม่มีเวลาคิดเรื่องส่วนตัว

                ร่างบางนั่งตรงข้ามกับคู่บัดดี้ทำสารนิพนธ์และต่างก็กำลังจ้องจอแล็ปท็อปอย่างตั้งอกตั้งใจ ก่อนที่ธรินดาจะเป็นฝ่ายสะดุ้งเบาๆ เมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ในกระเป๋าสะพายดังขึ้น มือเล็กรีบเปิดกระเป๋าและหยิบเอาโทรศัพท์ออกมากดรับ เพราะเกรงใจชนิศาที่เสียงโทรศัพท์ของตนรบกวนสมาธิของเพื่อน

                “สวัสดีค่ะแม่ใหญ่” เสียงหวานเอ่ยตอบต้นสายอย่างนุ่มนวลและไม่ใช้เสียงที่ดังเกินไป

                “แม่จองตั๋วให้เรียบร้อยแล้วนะหนูเล็ก”

                “จองตั๋วไปไหนคะแม่ใหญ่” ธรินดาถามแบบงงๆ เล็กน้อย

                “ก็กลับบ้านไงลูก วันเสาร์นี้ก็เป็นวันหมั้นของตาปรัชญ์กับหนูนัสแล้ว หนูเล็กลืมเหรอลูก” แม่เลี้ยงลักษิกาถามกลับแต่ไม่มีความโกรธหรือหงุดหงิดเจืออยู่ เพราะเข้าใจดีว่าธรินดาคงจะยุ่งจนลืมวัน

                “ตายจริง ขอโทษนะคะแม่ใหญ่ เล็กลืมไปเลยค่ะ”

                “ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่เข้าใจว่าหนูเล็กยุ่งกับการเรียน เอาเป็นว่าเตรียมตัวเดินทางนะ เป็นวันศุกร์ช่วงเย็น ส่วนชุดแม่เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว หนูเล็กไม่ต้องกังวล”

                “ขอบคุณแม่ใหญ่มากๆ ค่ะ วันศุกร์นี้เจอกันนะคะ”

                “จ้ะลูก แล้วเจอกัน”

                แม่เลี้ยงลักษิกาวางสายแค่นั้น ธรินดาที่เบี่ยงตัวหันหลังให้หน้าจอคอมพิวเตอร์ตอนรับโทรศัพท์หันกลับมาทางเดิมอีกครั้ง โดยพยายามบังคับให้ตัวเองมีสมาธิจดจ่อกับงานสารนิพนธ์ที่กำลังพิมพ์อยู่เช่นเดิม แต่เหมือนสมาธิจะแตกกระเจิงตั้งแต่ได้ยินว่าต้องกลับบ้านเพื่อไปร่วมงานหมั้นของปรัชญ์แล้ว

                “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเล็ก ดูตาลอยๆ ชอบกล” ชนิศาซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามถามขึ้น เมื่อสังเกตเห็นว่าธรินดาจ้องคอมพิวเตอร์แต่ตากลับดูลอยๆ ซึ่งอาการเช่นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ธรินดาคุยโทรศัพท์เสร็จ

                “เปล่าหรอกศา เพียงแต่ว่าวันศุกร์นี้แม่ใหญ่จะให้กลับบ้านน่ะ ที่บ้านมีงานมงคล”

                “แล้วไม่ดีใจเหรอที่บ้านมีงานมงคล น่าจะเป็นเรื่องดีนะ ทำไมไม่ยิ้มเลย หรือว่ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ”

                “เปล๊า” รีบปฏิเสธเสียงสูง “เราต้องดีใจสิ ก็นี่ไงยิ้มอยู่นี่ไง”

                ว่าแล้วธรินดาก็รีบปรับสีหน้าให้ดูร่าเริงพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีให้ชนิศาดู แม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะไม่ได้มาจากความรู้สึกข้างในเลยสักนิดก็ตาม

                “เราว่าเล็กยิ้มแปลกๆ”

                “อะไรของศา พอไม่ยิ้มก็ว่าเครียด แต่พอยิ้มก็ว่าเราแปลกๆ อีก”

                “ก็มันจริงนี่ ปกติเราไม่เคยเห็นเล็กเป็นแบบนี้”

                “ช่างเถอะ ไม่มีอะไรหรอก ทำงานกันต่อดีกว่า”

                ชนิศาจ้องหน้าหวานใสของคนที่พยายามปกปิดความรู้สึกอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าลงมองหน้าจอแล็ปท็อปเช่นเดิม แม้จะรู้สึกได้ว่าธรินดามีเรื่องบางอย่างอยู่ในใจ แต่ในเมื่อเพื่อนไม่พร้อมจะเล่า เธอก็ไม่คิดจะเซ้าซี้

                บ่ายวันศุกร์ธรินดาตรงไปยังสนามบินทันทีหลังจากที่เลิกเรียน แม้ว่าการเดินทางโดยเครื่องบินจะใช้เวลาไม่มากและแม่ใหญ่บอกเธอเอาไว้ว่าจองตั๋วให้ในช่วงเย็น แต่เธอก็ต้องมาก่อนเวลาเกือบสองชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าจะเช็กอินทันและไม่ตกเครื่อง รอบนี้เธอกลับโดยยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่ และไม่ได้เอาอะไรกลับบ้านด้วย นอกจากกระเป๋าสะพายข้างใบเดียว เพราะบ่ายวันอาทิตย์ก็ต้องกลับมากรุงเทพฯ แล้ว

                เครื่องบินในประเทศร่อนลงจอดในสนามบินนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ในเวลาเกือบหนึ่งทุ่มกว่า ดีเลย์จากเวลาบินปกติประมาณห้านาทีเนื่องจากสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวยเท่าใดนัก โดยกัปตันบนเครื่องได้ประกาศแจ้งล่วงหน้า ซึ่งธรินดาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเวลาเล็กน้อยแค่นั้น เมื่อเทียบกับความปลอดภัยของการบินและคนบนเครื่อง

                ร่างบางลงจากเครื่องได้ก็ตรงเข้าไปยังอาคารผู้โดยสารทันที ใบหน้าหวานใสเริ่มจะมีรอยยิ้มให้เห็น เมื่อคิดว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะได้เจอแม่ใหญ่ผู้ที่รักและเมตตาเธอมากที่สุดแล้ว

                รอยยิ้มเกลื่อนอยู่ทั่วใบหน้าค่อยๆ เจื่อนหายไปฉับพลัน เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนรออยู่ไม่ใช่แม่ใหญ่เหมือนเคย ร่างสูงที่กำลังเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงยีนและจ้องเขม็งมายังเธอราวกับพบเป้าหมายแล้ว ภาพที่ปรัชญ์ถูกหญิงสาวหรือแม้แต่ผู้ชายด้วยกันเองมอง ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับธรินดา เพราะถึงแม้ว่าภาพลักษณ์ของปรัชญ์จะเป็นผู้ชายเซอร์ๆ แต่เขาก็หล่อและดึงดูดสายตาของใครต่อใครแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่สิ่งที่ธรินดาไม่รู้จะรับมืออย่างไรนั่นก็คือการที่พบว่าเขามารอรับเธอ ทั้งๆ ที่คนรออยู่น่าจะเป็นแม่ใหญ่มากกว่า

                ทั้งที่ออกจะตกใจและแปลกใจที่เห็นเขา แต่ธรินดาก็ไม่ได้เดินเลี่ยงไปทางไหน ร่างบางตรงเข้าไปหาเจ้าของร่างสูงนั้นเป็นอัตโนมัติ เหมือนกับว่าเท้าของเธอถูกสายตาคมดุนั้นสะกดให้ต้องเดินไปหาเขา                             

                “สวัสดีค่ะ แม่ใหญ่ไปไหนเหรอคะ ทำไมคุณถึงได้มารับเล็ก” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้เขาพร้อมกับถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย

“แม่ใหญ่ของเธอไม่ว่างเพราะต้องเทกแคร์ครอบครัวว่าที่คู่หมั้นของฉัน อินแปงขับรถให้แม่เลี้ยง ส่วนพี่ปราณต์มีเคสด่วนตอนเย็น เธอจะถามหาใครอีกมั้ย” เขาตอบแบบลงท้ายด้วยการยียวน น้ำเสียงแข็งกระด้างเช่นเดิม ทำให้ธรินดาคร้านจะตอแยด้วย

                “ไม่ค่ะ” เธอปฏิเสธสั้นๆ ดวงหน้าหวานใสราวกับกุหลาบแรกแย้มนั้นยังคงเรียบเฉย แต่ภายในกลับกำลังพยายามข่มความขุ่นมัวของตัวเองอย่างเต็มที่

                “มีกระเป๋ามั้ย” คราวนี้ปรัชญ์เป็นคนถาม

                “ไม่มีค่ะ”

                “งั้นก็กลับ”

                เขาสรุปง่ายๆ แล้วขยับมาใกล้ธรินดา ยกมือแข็งแรงขึ้นโอบเอวเล็กของเธออย่างสนิทสนม            

“ปล่อยเล็กค่ะคุณปรัชญ์” หญิงสาวบอกเสียงแข็ง พลางขยับตัวจะก้าวหนีออกไปที่ลานจอดรถ แต่ถูกมือที่หนึบราวกับหนวดปลาหมึกเกี่ยวเอวเล็กเอาไว้แนบแน่น

“ก็แค่พี่ชายกอดน้องสาวมันจะแปลกตรงไหน”

“แต่เล็กไม่ใช่”

“อ้อ...ลืมไปว่าเธอไม่ใช่น้องสาวฉันแล้ว แต่เป็น...”

“หยุดนะคะคุณปรัชญ์ แล้วก็ปล่อยเล็กด้วย”

ธรินดาอดหน้าร้อนวูบไม่ได้กับสัมผัสและคำพูดที่เกือบจะหลุดจากปากของปรัชญ์ พวงแก้มใสปรากฏริ้วสีแดงระเรื่อขึ้นจนคนที่กำลังก้มลงมองแลเห็นได้ถนัด พร้อมกันนั้นก็ยังพยายามบ่ายเบี่ยงออกจากการถูกโอบด้วยมือแข็งแรง

                “อย่าดีดดิ้นให้มากนัก ไม่งั้นจะกอดและจูบโชว์คนทั้งสนามบิน”

“ห้ามทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นนะคะ” เสียงหวานบอกอย่างร้อนรน มองซ้ายมองขวาด้วยกลัวว่าคนอื่นจะเห็นว่าตัวเองกำลังถูกปรัชญ์โอบเอว แต่นั่นก็ยังไม่มากเท่ากับกลัวว่าเขาจะทำอะไรห่ามๆ แบบที่เขาว่าจริงๆ

“เธอก็รู้ว่าห้ามฉันไม่ได้ถ้าฉันคิดจะทำ เพราะฉะนั้นก็หยุดดื้อกับฉันถ้าไม่อยากอายคน”

เขาก้มลงกระซิบพร่า ทว่าแววตามุ่งมาดจริงจัง จนทำให้ใบหน้าของคนถูกข่มขู่ซีดเผือดลง และในที่สุดก็ไม่กล้าดื้อดึงอีกต่อไป ร่างบางยอมให้เขาโอบเอวจนมาถึงรถ แต่เธอก็ไม่ยอมพูดด้วย แม้ว่าหลังจากขึ้นรถแล้วปรัชญ์จะยั่วแค่ไหนก็ตาม

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status