แชร์

บทที่ 20

บทที่ 20

ตู้มมม!!!

เสียงของสองร่างกระแทกน้ำดังขึ้นพร้อมกับการสาดกระเซ็นและการกระเพื่อมของน้ำในสระ อารามตกใจและสัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นอย่างธรินดารีบเกาะไหล่ของปรัชญ์ยึดเอาไว้มั่นเป็นพัลวัน ปรัชญ์ที่ตัวสูงเกือบสองเมตรสามารถยืนในน้ำลึกเมตรครึ่งได้สบายๆ ขณะที่ธรินดากลัวจนไม่กล้าเอาเท้าแตะกับพื้นด้วยซ้ำ 

ปรัชญ์ตวัดแขนข้างหนึ่งกอดเอวเล็กของคนที่กำลังเบียดร่างเข้าหาเพื่อเอาตัวรอด รอยยิ้มผุดขึ้นบนเรียวปากหยักของเขาด้วยความขบขันและพอใจยิ่งนัก

เมื่อถูกกอดความตกใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอย่างอื่น แม้อ้อมแขนนั้นจะทำให้เธอปลอดภัยขึ้น แต่ปรัชญ์ก็ไม่ควรมากอดเธอเช่นนี้ เพราะเขาเพิ่งจะหมั้นมาหยกๆ

“ปล่อยเล็กค่ะคุณปรัชญ์”

“เบื่อจริง เอะอะอะไรก็พูดแต่คำเดิมๆ ว่าปล่อยเล็กๆ เธอลืมไปหรือเปล่าธรินดา ว่าเธอเป็นคนกระเสือกกระสนเข้ามาหาฉันเอง” เขาพูดอย่างคนที่เป็นต่อกว่า โดยอ้อมแขนยังไม่คลายไปจากเอวเล็กแต่อย่างใด ทำให้ธรินดาดิ้นแรงกว่าเดิม

“คุณปรัชญ์ก็รู้ว่าเล็กว่ายน้ำไม่เป็น แล้วดึงเล็กลงมาด้วยทำไมคะ”

“เธอก็รู้ว่าฉันไม่ยอมถูกใครเอาเปรียบ แล้วผลักฉันลงมาทำไมฮึ นี่คือการลงโทษคนที่คิดจะทำร้ายฉัน แต่ว่าแค่นี้มันยังไม่พอ สำหรับเธอมันต้องแถมด้วยแบบนี้”

การแถมของเขาที่ว่าก็คือการโน้มหน้าลงไปหาจนปากเกือบจะชิดกับเรียวปากอิ่ม ทำให้ธรินดาต้องรีบยกมือขึ้นผลักไหล่หนาเอาไว้พร้อมกับเอนหน้าหนีและร้องห้ามด้วยความตื่นตระหนก

“อย่าค่ะคุณปรัชญ์!”

“อย่าอะไรหืม...” ปรัชญ์ยังโน้มหน้าตามไปไม่ห่างและกระซิบถามเสียงกระเส่า ยิ่งเธอทำท่ากลัวและเกลียดเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสนุกมากเท่านั้น

“คุณปรัชญ์กำลังจะรังแกเล็ก อย่านะคะได้โปรด เล็กขอร้อง”

“คิดว่าฉันจะรังแกอะไรเธอ”

“ก็คุณปรัชญ์กำลังจะ...” คำพูดสุดท้ายชะงักอยู่ที่ริมฝีปาก เมื่อเห็นว่าคิ้วเข้มเลิกขึ้นเหมือนกับรอล้อเลียน

“จะอะไร พูดมาให้หมดสิ” ปรัชญ์เร่งเร้าเมื่อเธอหยุดพูดอยู่แค่นั้น

“ไม่ค่ะ” ธรินดาปฏิเสธทันควัน

“ถ้าเธอไม่พูดฉันจะ...” เขาแกล้งเล่นลิ้นบ้าง คราวนี้ได้ผลชะงัดเพราะธรินดารีบหลุดคำพูดที่เขาต้องการได้ยินออกมาอย่างคนถูกยั่วโมโห

“ก็นี่ไงคะ เอะอะอะไรคุณปรัชญ์ก็คอยแต่จะกอดเล็กจูบเล็ก”

“งั้นเหรอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างยียวนอีกรอบ ตามด้วยเสียงหัวเราะขบขัน “เธอคิดว่าฉันจะจูบเธอลงอย่างนั้นเหรอธรินดา ดูสภาพเธอตอนนี้สิ ไม่ต่างอะไรกับพวกเด็กที่เล่นสงกรานต์แล้วโดนสาดด้วยน้ำสี คราวหน้าก็บอกพวกช่างแต่งหน้าด้วยว่าให้ใช้เครื่องสำอางประเภทกันน้ำได้ด้วย เผื่อตกน้ำตกท่ากับผู้ชายคนไหนอีกจะได้ไม่ขายหน้า”

“คนปากร้าย! คนใจร้าย!”

มือเล็กที่เคยใช้ผลักไหล่หนาตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นกำเข้าหากันแน่นแล้วทุบใส่เขารัวๆ เพื่อระบายความเจ็บใจ ปรัชญ์เป็นแบบนี้เสมอ ใจร้ายกับเธอเสมอ ทำให้เธอหลุดจากความเป็นตัวตนของตัวเองเสมอ เมื่อมีโอกาสเขาไม่เคยละเว้นที่จะทำร้ายเธอ ไม่ว่าทางกายหรือทางใจก็ตาม

“ตาปรัชญ์ หนูเล็ก พากันไปทำอะไรในนั้น”

เสียงของแม่เลี้ยงลักษิกาดังขึ้นพร้อมกับการก้าวมายังบริเวณสระน้ำ ทำให้ธรินดาหยุดชะงักมือเล็กที่กำลังประทุษร้ายปรัชญ์ แล้วหันไปทางแม่ใหญ่ของตนอย่างตกใจ

“แม่ใหญ่!”

ใบหน้าหวานเจื่อนลงไปเมื่อนึกถึงสภาพของตัวเองกับปรัชญ์ในเวลานี้ เธอพยายามดิ้นอีกรอบเพื่อให้ปรัชญ์ปล่อย แต่ยิ่งดิ้นปรัชญ์ก็ยิ่งกระชับมือเข้าที่เอวของเธอแน่นกว่าเดิม

“ก็หนูเล็กของแม่เลี้ยงน่ะสิครับ เดินใจลอยไปถึงใครไม่รู้ถึงได้ตกลงมาในสระ ผมกลัวจะจมน้ำตายก็เลยลงมาช่วย แต่ดูลูกสาวแม่เลี้ยงสิ ดิ้นใหญ่เลย แม่เลี้ยงไม่เคยสอนลูกหรือไงครับว่าเวลาตกน้ำแล้วมีคนช่วยไม่ต้องดิ้น เดี๋ยวจะทำให้คนมาช่วยตายไปด้วยกันเปล่าๆ” ปรัชญ์ตอบหน้าตาเฉยมากพลางยอกย้อนอยู่ในตัว เหมือนตัวเองไม่ได้ทำความผิดร้ายแรงใดๆ ต่อหน้าแม่

“คุณโกหกแม่ใหญ่” ธรินดาไม่กล้าพูดเสียงดังเพราะกลัวแม่เลี้ยงลักษิกาจะได้ยิน จึงได้แต่พูดกับเขาเสียงเท่ากระซิบ

“แล้วไง หรือเธออยากให้ฉันพูดความจริงว่าทำไมเราถึงมายืนกอดกันอยู่ในน้ำแบบนี้” ปรัชญ์กระซิบตอบ คิ้วเข้มเลิกขึ้น ตาจ้องใบหน้าหวานๆ นั้นอย่างท้าทาย

“ปล่อยเล็ก...”

“ถ้าปล่อยตอนนี้ก็ไม่เนียนน่ะสิ ทนให้ฉันกอดอีกสักนิดเถอะน่า ไม่อย่างนั้นเธอต้องไปตอบคำถามชวนปวดหัวกับแม่ใหญ่ของเธอเอาเองนะ” คนที่ถือไพ่เหนือกว่ายิ่งขู่สำทับเข้าไปอีก ด้วยรู้ว่ายามนี้ธรินดาไม่มีทางกล้าดื้อกับเขา เพราะมีสายตาของแม่เลี้ยงลักษิกาคอยจับจ้องมองอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

“แล้วนั่นจะคุยกับน้องอีกนานมั้ยตาปรัชญ์ รีบพาน้องขึ้นมาสิ”

เสียงของแม่เลี้ยงลักษิกาดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ปรัชญ์ยิ้มใส่ตาพลางทำเสียงจั๊บๆ ในลำคอและยักไหล่น้อยๆ ก่อนจะกอดตระกองร่างบางพาขยับมาใกล้บันไดทางขึ้น

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status