แชร์

บทที่ 19

บทที่ 19

พิธีเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีเพียงคนของสองครอบครัวที่มาร่วมงาน เมื่อการสวมแหวนหมั้นผ่านพ้นไปด้วยดี ช่างภาพที่แม่เลี้ยงลักษิกาว่าจ้างเอาไว้ก็ถ่ายรูปรวมสองครอบครัวกับภาพคู่ของว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นที่ระลึก ยังถ่ายไม่ทันเสร็จดีจู่ๆ นัสรินก็ทรุดฮวบและพับลงไป เพราะถูกอาการหน้ามืดเล่นงานจนหมดสติ

“ว้าย! ตายแล้วยัยนัส”

ประโยคนั้นแม่ของนัสรินเป็นคนอุทานขึ้น ปรัชญ์ซึ่งยืนอยู่ใกล้ที่สุดเป็นคนย่อตัวลงไปช้อนอุ้มเอาร่างของคู่หมั้นสาวไปนอนยังโซฟา และปราณต์ขยับเข้าไปทรุดตัวนั่งลงใกล้ๆ เพื่อตรวจดูอาการเบื้องต้น

คุณหมอหนุ่มจับชีพจร พร้อมกับหันไปสั่งพนักงานโรงแรมให้นำกระเป๋าปฐมพยาบาลมาให้ เขาบอกกับทุกคนว่าไม่ต้องตกใจเพราะนัสรินเพียงแค่เป็นลม

ปราณต์ใช้เวลาปฐมพยาบาลคู่หมั้นของน้องชายได้ไม่นานนัสรินก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความโล่งอกของทุกคน

“หนูนัสเป็นยังไงบ้าง” แม่เลี้ยงลักษิกาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

“ค่อยยังชั่วแล้วค่ะคุณป้า”

“ป้าเป้ออะไรกัน ต่อไปต้องเรียกแม่ว่าแม่เหมือนตาปรัชญ์แล้วนะหนูนัส ว่าแต่เป็นลมแบบนี้บ่อยๆ เหรอลูก”

“เปล่าค่ะ นัสเพิ่งเป็นครั้งแรก”

“สงสัยจะตื่นเต้นจนกินไม่ได้นอนไม่หลับค่ะแม่เลี้ยง เมื่อวานยัยนัสทานข้าวยังกะแมวดม แถมเมื่อคืนก็นอนดึกและตื่นแต่เช้าอีก” คุณนิภาบอกถึงสาเหตุการเป็นลมครั้งนี้ของลูกสาวให้กับแม่เลี้ยงลักษิกาฟัง

“ก็คงเป็นธรรมดาของผู้หญิงเราค่ะ จะหมั้นจะแต่งก็ตื่นเต้นทั้งนั้น แต่วันแต่งตื่นเต้นกว่านี้อีกนะหนูนัส ถือซะว่าวันนี้เป็นการซ้อมก็แล้วกันนะ” พูดกับคนเป็นแม่เสร็จแม่เลี้ยงลักษิกาก็หันมาบอกว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ค่ะคุณแม่” นัสรินเรียกแม่เลี้ยงลักษิกาตามที่แม่เลี้ยงอยากให้เรียกอย่างเด็กว่าง่าย นั่นยิ่งทำให้แม่เลี้ยงเอ็นดูหญิงสาวมากกว่าเดิม

“น่ารักจริง งั้นเราก็ควรพาหนูนัสไปทานอาหารนะคะ” แม่เลี้ยงลักษิกาชวนพลตรีชยุตกับคุณนิภา จากนั้นก็เดินนำทุกคนไปโต๊ะอาหารในห้องอาหารที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้

สองครอบครัวทานข้าวร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย แต่ยังไม่ทันจะทานข้าวอิ่มดี ปราณต์ก็ถูกตามตัวด่วนจากโรงพยาบาล เพราะมีอุบัติเหตุใหญ่เกิดขึ้นทำให้หมอเวรรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคนเดียวไม่ทัน

หลังจากปราณต์ไปแล้ว ธรินดาก็เหมือนไม่มีเพื่อนคุยไปโดยปริยาย เพราะแม่เลี้ยงลักษิกาคุยกับพ่อแม่ของนัสริน ส่วนปรัชญ์กับนัสรินก็คุยกันตามประสาคู่หมั้น ธรินดาจึงรวบช้อนและกระซิบขอตัวกับแม่ใหญ่เพื่อไปเดินเล่นที่สระน้ำของโรงแรม

แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดแต่ก็เป็นช่วงโลว์ซีซัน แขกจึงเข้าพักในโรงแรมค่อนข้างน้อย และในตอนที่ธรินดาออกไปเดินเล่น ก็ไม่มีแขกมาใช้บริการสระว่ายน้ำของโรงแรมเลย จึงกลายเป็นว่าตอนนี้เธออยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนสงบและเย็นสบายของสถานที่แห่งนั้นคนเดียว

ร่างบางเดินเอื่อยๆ ไปตามขอบสระ และไปหยุดยืนกอดอกทอดสายตามองความใสแจ๋วของน้ำ หวังให้สายน้ำดูดดึงเอาความร้อนรุ่มบางอย่างที่คุกรุ่นอยู่ข้างในให้จางออกไปจากหัวใจดวงน้อยของตน

“อย่าบอกนะว่าเธอกำลังจะคิดสั้น”

เสียงที่ดังขึ้นทำให้ธรินดาสะดุ้งน้อยๆ พร้อมกับมองไปยังต้นเสียง เมื่อเห็นว่าเป็นใคร ปากอิ่มก็อุทานชื่อเขาออกมาอย่างเป็นอัตโนมัติ

“คุณปรัชญ์!” ธรินดาเตรียมจะเดินหนี เมื่อร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ใกล้แค่เอื้อม ใช่...เขากับเธออยู่ใกล้แค่เอื้อมกันตลอดมา และเขาก็คือคนที่ทำให้เธอต้องหนีอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

“เดี๋ยวก่อน จะไปไหน”

ต้นแขนกลมกลึงถูกมือแกร่งคว้าหมับเอาไว้ และดึงเธอให้หันมาเผชิญหน้ากันทันทีที่ธรินดาเดินผ่านหน้าเขาไปในลักษณะของคนที่กำลังหนีหน้า

“ปล่อยเล็กนะคะคุณปรัชญ์!” เสียงหวานร้องอุทธรณ์ และพยายามจะบิดแขนตัวเองออกจากพันธนาการของมือแกร่งทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แล้วว่าปรัชญ์ไม่มีทางปล่อยง่ายๆ

“ไม่ปล่อย จนกว่าเธอจะตอบคำถามฉัน”

“คำถามอะไร?”

“ก็ที่ฉันถามว่าเมื่อกี้เธอคิดจะฆ่าตัวตายหรือเปล่า”

“ทำไมเล็กจะต้องทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นด้วยคะ” ธรินดาย้อนถามคนที่กำลังหาเรื่องรังแกตัวเอง

“ก็เธอเสียใจที่ฉันหมั้นไงล่ะ แถมเมื่อกี้ฉันยังอุ้มคู่หมั้นของฉันต่อหน้าเธออีก”

“ทำไมเล็กจะต้องเสียใจ”

“ก็ลองถามใจตัวเองดูสิว่าทำไม”

“เล็กไม่เสียใจแม้แต่นิดเดียวค่ะ พอใจหรือยังคะ ถ้าพอใจแล้วก็ปล่อยเล็กเสียที เล็กจะไปหาแม่ใหญ่”

“เธอรู้ดีธรินดาว่าเธอเสียใจแค่ไหน ใจเย็นๆ ไม่ต้องเสียใจไปหรอก ฉันแค่หมั้นยังไม่ได้แต่งซะหน่อย”

“คุณปรัชญ์จะหมั้นจะแต่งมันก็ไม่เกี่ยวกับเล็กค่ะ เล็กไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น” ธรินดาบอกเขาเสียงขุ่น พร้อมกับตวัดตามองคนพูดเพื่อยืนยันว่าเธอเองไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างที่เขากล่าวหา

“งั้นก็พิสูจน์สิว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างที่ปากว่า” ไม่ใช่แค่ปากแต่คิ้วเข้มยังเลิกขึ้นพร้อมกับใช้ตาคมจ้องมองหน้าหวานๆ นั้นอย่างท้าทาย

“ก็ได้ค่ะ เล็กจะพิสูจน์ให้คุณปรัชญ์ดู”

“พิสูจน์ยังไง”

“แบบนี้ไงคะ”

แบบนี้ที่ว่าก็คือการยกมือเล็กขึ้นผลักอกเขาเต็มแรง ทำให้ร่างสูงที่ยืนหันหลังให้สระน้ำเสียหลักหงายลงไปในนั้น แต่เขาไม่ได้หล่นลงไปแค่คนเดียว ปรัชญ์ยังคว้าเอามือเล็กของเธอไปด้วย จึงกลายเป็นว่าธรินดาตกน้ำไปพร้อมเขา

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status