ครั้งหนึ่งท่านจอมมารเคยช่วยเทพบุปผาหมิงหลันเอาไว้ เมื่อนางรู้ข่าวว่าท่านเทพกำลังตามหาสตรีเพื่อลงไปให้กำเนิดองค์รัชทายาทเผ่ามาร นางจึงรีบร้อนอาสาไป ทว่าท่านจอมมารมิได้อ่อนโยนและใจดีอย่างที่หมิงหลันคิด
View Moreปลายนิ้วเรียวยื่นไปสัมผัสอย่างแผ่วเบาบนกลีบดอกเบญจมาศที่ปลูกเอาไว้ด้านหน้าบ้าน ใบหน้างามมิได้แย้มยิ้มเมื่อดอกเบญจมาศที่พึ่งจะออกช่อ แย้มบานทันทีที่ปลายนิ้วของนางแตะลงไปบนนั้นหมิงหลันปรายตามองป่าไผ่รอบๆ นางกำลังรอคอยท่านเจ๋อเชี่ยนที่ยังมิเดินทางกลับมาหลังจากที่ท่านเทพม่อเกวียนเดินทางกลับไปความเงียบก็เข้ามากอบกุมหัวใจของนางเอาไว้ อนาคตที่หมิงหลันเห็นผ่านความฝันมันคือสงครามที่ไร้หนทางหลีกเลี่ยง และทุกสิ่งทุกอย่างจะจบลงหากว่าจงจิ้งโหวตาย..และผู้ที่สามารถทำเช่นนั้นได้กลับมีเพียงแค่นางเท่านั้น เขาจะมาหานางอย่างแน่นอน เพราะชายผู้นั้นต้องการทำลายสามีของนาง“หมิงหลัน..”เสียงเรียกที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนทำให้หมิงหลันเงยหน้าขึ้นมาพร้อมๆ กับระบายยิ้มหวาน นางวิ่งเข้าไปหาสามีพร้อมๆ กับโอบกอดเขาเอาไว้ด้วยความคิดถึง“ข้าผิดเองที่มัวแต่แวะที่ตลาดเพื่อหาซื้อของมาให้เจ้า..แล้วก็อย่าวิ่งเช่นนี้อีก”ฝ่ามือหนาของหลี่เจ๋อเชี่ยนลูบลงไปบนแผ่นหลังของหมิงหลันเบาๆ เขาก้มตัวลงเล็กน้อยก่อนจะช้อนตัวนางขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน“ไปนั่งสิ ข้าจะไปทำอาหารเอง”หมิงหลันหัวเราะเบาๆ ราวกับเรื่องราวที่เลวร้ายเมื่อครู่ได้จ
ป้าจางส่งยิ้มให้กับหมิงหลัน หากว่านางไม่ยินยอมรับเงินนี้เอาไว้ มีหวังได้ยืนเถียงกันอีกนานเป็นแน่หญิงวัยกลางคนจึงยื่นมือไปรับเหรียญเงินที่หมิงหลันส่งให้“ที่ข้ารับเงินนี่เอาไว้เพราะว่าข้าขี้เกียจเถียงกับเจ้าหรอกนะอาหลัน”หมิงหลันหัวเราะเบาๆ นางส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มที่ดูแล้วอายุไม่น่าจะเกินยี่สิบห้า เขากัดกินหมั่นโถวร้อนๆ ในมืออย่างเอร็ดอร่อย นางเดินจากมาโดยมิได้สนใจชายหนุ่มผู้นั้นอีก หมิงหลันคิดว่าวันนี้นางควรจะซื้อเนื้อไปตุ๋นเอาไว้สักหน่อย เพราะว่านางกำลังตั้งครรภ์อยู่ช่วงนี้จึงมิได้หมักสุราเอาไว้เลย แต่ท่านเจ๋อเชี่ยนมิได้ชื่นชอบการร่ำสุราสักเท่าไหร่ อีกทั้งเขายังคออ่อนมากทีเดียว ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจากเผ่ามารจะคออ่อนทุกคนเลยสินะ หลี่เจ๋อฮั่นก็อีกคน“อา..เดี๋ยวก่อนขอรับ”ชายหนุ่มที่พึ่งจะกัดกินหมั่นโถวผู้นั้นวิ่งตามหมิงหลันมาติดๆ ก่อนที่เขาจะส่งมอบถุงหอมให้กับนาง หมิงหลันรีบปฏิเสธในทันทีเพราะว่านางไม่คิดรับถุงหอมจากใครทั้งนั้น“ในตัวข้ามีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่ดูจะมีราคามากกว่าสิ่งอื่น เจ้ารับไปสิคิดซะว่าข้าตอบแทนเรื่องหมั่นโถว”“....”หมิงหลันมองใบหน้าของชายหนุ่มผู้นั้น ก่อนที่นางจะส
หลี่เจ๋อฮั่นยกไหสุราดอกท้อขึ้นมาดื่ม เขามองร่องรอยของผ้าที่บรรจงปิดฝาไหเอาไว้อย่างปรานีตและสวยงาม ป่านนี้พี่ใหญ่และหมิงหลันคงจะได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว ชีวิตคนเช่นเขาพึ่งได้พบเจอสตรีที่มีนิสัยใจคอตรงไปตรงมาอย่างหมิงหลัน การกระทำของเทพบุปผาไม่มีการเสแสร้งหรือว่าแกล้งทำ นางคิดเช่นไรก็กล่าวออกมาเช่นนั้น นิสัยใจคอของหมิงหลันในข้อนี้ทำให้หลี่เจ๋อฮั่นนับถือนางยิ่งนัก“งานที่ข้าสั่งให้เจ้าทำ เสร็จสิ้นแล้วอย่างนั้นหรือถึงได้มาร่ำสุราเช่นนี้”เจ๋อฮั่นหัวเราะเบาๆ ในลำคอ“เหตุใดพี่ใหญ่ไม่พานางกลับมาด้วยเล่า ข้าเองก็คิดถึงหมิงหลันเหมือนกันนะ”“ข้าจะไม่พานางมาที่นี่แล้วเจ๋อฮั่น ที่เผ่ามารมีไอขุ่นมัวมากมายเกินกว่าที่ร่างกายเซียนของนางจะรับไหว และที่ข้ามาหาเจ้าในวันนี้เพราะข้าต้องการจะมาพูดคุยกับเจ้าเรื่อง..ตำแหน่งจอมมาร”หลี่เจ๋อฮั่นมองหน้าพี่ชายที่เปลี่ยนไป พี่ใหญ่ของเขามีสายตาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน คนที่ไม่เคยแยแสหรือว่าสนใจใคร ในยามนี้กลับมีดวงตาที่อ่อนโยนถึงเพียงนี้ได้อย่างไร“ไม่ใช่ว่าพี่จะมายกตำแหน่งจอมมารให้ข้าหรอกใช่ไหม อย่ามากล่าวล้อเล่นกับข้าเช่นนี้สิ”หลี่เจ๋อเชี่ยนยื่นมือไปตบลงบนบ่ากว
ม่อเกวียนที่กำลังมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับเบือนหน้าหนี เขาเองก็ไม่ค่อยจะถูกกับองค์รัชทายาทจงจิ้งโหวสักเท่าไหร่ เพียงแต่ในยามนี้เขาธุระสำคัญที่จะต้องแจ้งแก่พระองค์“ที่ทะเลตงไห่เกิดเหตุกาณ์แปลกๆ และเทพสงครามอันฉีได้เดินทางล่วงหน้าเพื่อไปตรวจดูก่อนแล้วขอรับ”จงจิ้งโหวละสายตาจากใบหน้าของเสวียนม่าน เขาเบนสายตาไปมองหน้าของเทพม่อเกวียน“เช่นนั้นเจ้าก็ควรจะเร่งเดินทางตามเทพสงครามไปสิ ในเมื่อรายงานเสร็จแล้วท่านเทพม่อเกวียนคงไม่มีเรื่องอะไรจะพูดกับข้าแล้ว..”ม่อเกวียนมองหน้าขององค์รัชทายาทสวรรค์นิ่งๆ เขาก้มหน้าลงพร้อมกับยกมือขึ้นเพื่อกล่าวอำลา ก่อนจะเดินจากมาม่อเกวียนได้มองใบหน้าที่ไม่หลงเหลือเค้าเดิมของเทพีเสวียนม่านเลย ทั้งๆ ที่เขาเองก็เจ็บแค้นที่สตรีผู้นั้นทำให้เทียนจุนอยู่ในสภาพเจ็บปวด แต่ทว่าสิ่งที่นางประสบพบเจอนับว่าเลวร้ายยิ่งกว่าสิ่งใดคนที่นางเชื่อใจ กลับไม่เคยรักนางเลย.. องค์รัชทายาทจงจิ้งโหวเพียงหลอกลวงว่ารักนางเพราะอยากจะเอาชนะท่านจอมมารเท่านั้นเองเพียงเพื่อชัยชนะถึงกับยินยอมกระทำเพียงนั้นเชียวหรือ นั่นยังคงเป็นคำถามที่ม่อเกวียนเฝ้าถามในใจถึงการกระทำที่ต่ำช้าเกินกว่าจะเชื่อว่านั
“มิใช่ว่าในยามนี้สัจจะเทพเทียนจุนควรจะลงไปยังเมืองมนุษย์เพื่อไปตามหาเทพบุปผาอย่างนั้นหรือ แล้วเหตุใดเขาถึงได้ปิดวังเงียบเพื่อพักฟื้นพลังปราณ”นางลงแรงไปตั้งเท่าไหร่กว่าจะยุยงสัจจะเทพผู้นั้นได้ แทนที่จะไปแย่งชิงเทพบุปผากลับคืนมา แต่ชายผู้นั้นกลับปิดวังเงียบ ช่างเป็นสัจจะเทพที่โง่เขลายิ่งนัก!!“ท่านเทพี ที่เผ่ามารท่านจอมมารมิได้อยู่ที่นั่นหลายเดือนแล้วเจ้าค่ะ งานต่างๆ ในเผ่ามารท่านหลี่เจ๋อฮั่นเป็นผู้ดูแลทั้งหมด ส่วนท่านเทพซื่อมิ่งก็เดินทางไปฟื้นฟูพลังปราณที่เมืองมนุษย์..”เสวี่ยนม่านยกนิ้วขึ้นมาขบกัดเบาๆ ท่านจอมมารหายตัวไปได้อย่างไร อีกทั้งยังหายไปพร้อมๆ กับที่เทพบุปผาหายตัวไปอีก มิใช่ว่าท่านจอมมารไปหาสตรีผู้นั้นแล้วงั้นหรือ?ไม่ได้การ! นางจะต้องไปหาท่านสัจจะเทพเทียนจุน ต้องยุยงมากกว่านี้เพื่อให้ชายโง่เขลาผู้นั้นเกิดความคับแค้นใจขึ้นมาในขณะที่เสวียนม่านกำลังเดินออกไปจากวังของนาง ผู้ที่ยืนรออยู่ด้านนอกกลับเป็นองค์รัชทายาทเผ่าสวรรค์เสวียนม่านปั้นรอยยิ้มที่แสนงดงามส่งให้จงจิ้งโหวที่ยืนรออยู่ด้านนอก นางมองหน้าเขาด้วยสายตาหวาดหวั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนนางมิรู้ว่าเขาจะได้ยินคำที่นางพูดคุยก
บางอย่างในร่างกายบ่งบอกเอาไว้ว่ามันถึงขีดจำกัดเสียแล้ว ความอดทนที่หลี่เจ๋อเชี่ยนมั่นใจว่าตัวเองมีมากนักหนาในยามนี้มันจางหายไปไหนไม่รู้ เขาจับเข้าที่กลางลำแกร่งก่อนจะยัดส่วนหัวเข้าไปในรูเล็กที่คับแคบเป็นอย่างแรก “อ๊า..มะ..ไม่!” “ชู่ว..เชื่อเถอะว่ากระทำเช่นนี้ดีกว่าการใช้นิ้วเป็นร้อยเท่า” ครั้งที่แล้วมันเจ็บเช่นไร ครั้งนี้ยังคงเจ็บเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลงเลย อาจจะแตกต่างกันตรงที่เขามิได้โหมกระหน่ำซัดกระแทกร่างกายเข้ามาดังครั้งเก่า แต่การกระทำของท่านจอมมารกลับนุ่มนวลอ่อนหวาน เกินกว่าที่หมิงหลันจะคาดคิดได้ เขาพรมจูบซับน้ำตาให้นางด้วยความทะนุถนอมในขณะที่เอวก็ค่อยๆ ดันส่วนที่แข็งตึงนั่นเข้ามาอย่างช้าๆ แน่นอนว่าถึงแม้จะมีความเจ็บปวดแต่ทว่าเมื่อเขาเริ่มขยับ ความรู้สึกบางอย่างก็เข้ามาแทนที่ สะโพกขาวเคลื่อนที่ไปตามแรงสวนกระแทกของแก่นกายใหญ่ เขาหมุนควงแท่งเนื้อร้อนระอุให้แตะครูดไปทั่วทุกพื้นที่ผนังเนื้อนุ่มอย่างชำนาญ ด้านในของเธอโอบรัดท่อนลำแน่นขนัดราวกับสัตว์ป่าที่กำลังหิวโซ ครั้งนี้เขามีสติครบถ้วนอีกทั้งยังตั้งใจกระทำเช่นนี้กับเธอ ในหัวใจและในความรู้สึกคับคั่งไปด้วยความรู้สึกประ
หมิงหลันมองแววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนของหลี่เจ๋อเชี่ยน นางหยักยิ้มขึ้นมาที่มุมปากเมื่อได้มองเห็นความเปลี่ยนไปของท่านจอมมารผู้เย็นชาอันที่จริงไม่ว่าเขาจะเป็นเช่นไรนางล้วนแล้วแต่ยังคงมั่นคงและศรัทธาในความรู้สึกรักที่มีให้เพียงแค่เขาผู้เดียวเท่านั้น แต่เมื่อได้มองเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรักที่เขามองมาที่นางแล้ว..มันเป็นสิ่งบ่งบอกได้อย่างดียิ่งนัก ถึงการตอบแทนความพยายามและความมั่นคงของนาง“ภรรยา..”เสียงของเขามันแหบพร่าอีกทั้งยังบรรจงกระซิบลงมาที่ข้างใบหูของนาง ความวาบหวิวแล่นริ้วขึ้นมาเมื่อเขาสัมผัสที่ผิวกาย ริมฝีปากเปียกชื้นของหลี่เจ๋อเชี่ยนแนบลงมาบนลำคอเพรียวบางระหง ดึงเอาเสียงครางเครือจากลำคอทีละน้อยครานี้เขามิได้เมาเลยสักนิด อีกทั้งสติยังคงมีครบถ้วนเพราะอย่างนั้นหลี่เจ๋อเชี่ยนจึงตั้งใจว่าเขาจะค่อยๆ ลิ้มรสหวานล้ำของภรรยาอย่างเชื่องช้าและไม่เร่งรีบ“มองหน้าข้าสิ มองแค่ข้าก็พอ”แก้วหูสะเทือนด้วยเสียงหวานเครือเมื่อถูกกระซิบด้วยคำที่หมิงหลันมิคิดว่ามันจะถูกกล่าวออกมาจากชายผู้ซึ่งเย็นชาประดุจน้ำแข็งนางเคยคิดว่าท่านจอมมารผู้เย็นชานั้นอาจจะไม่รู้จักความรักและเขาคงไม่คิดรักใคร ทว่าเมื
นิ้วมือของเจ๋อเชี่ยนไล้ไปตามกรอบหน้างามนั่นช้าๆ เขาพรมจูบไปตั้งแต่หน้าผาก ไล้ลงมาที่เปลือกตา จูบไล่มาเรื่อยๆ จนถึงแก้มขาวนวล“มีใครเคยกล่าวหรือไม่ว่าเจ้าช่าง..งดงามมากเหลือเกิน”นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่เขากล่าวชมออกมาว่านางนั้นงดงาม เท่าที่จำได้ที่ผ่านมาท่านจอมมารมีแต่จะทำเย็นชาใส่นางเท่านั้น“มี..เยอะเจ้าค่ะ แต่ไม่มีเลยสักคนที่ชมข้าว่างดงามแล้วข้าจะดีใจเท่ากับที่ท่านชมเชยข้า”หลี่เจ๋อเชี่ยนไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี หมิงหลันทำให้เขาตกหลุมรักนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า..เขาหวนคิดไปถึงคืนวันหนึ่งที่เขาพึ่งจะกลับจากการตรวจตราเขตแดน“เอาไปไม่ได้นะเจ้าคะ!! หากว่าท่านปีศาจงูเอาปราณเซียนของข้าไป ข้าจะกลับไปที่สวรรค์ชั้นฟ้ามิได้อีก..ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะ ข้าแบ่งปราณเซียนให้ท่านก็ได้ เพียงแต่ท่านจะต้องให้ข้าเหลือเอาไว้..”“มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะต้องฟังคำเจ้า นี่คือเมืองมนุษย์ ผู้แข็งแกร่งย่อมอยู่รอด ส่วนผู้ที่อ่อนแอจะต้องตาย นั่นคือสัจธรรมอย่างหนึ่ง เซียนเช่นเจ้าจะต้องเข้าใจสิ!!”หลี่เจ๋อเชี่ยนปรายตามองไปยังป่าไผ่ที่เขากำลังเดินผ่าน หางตาของเขาเหลือบไปมองเจ้าของเสียงที่สั่นเครือนั่นเขาไม่อยากเข้าไปวุ่นวายสักเท่า
ม่อเกวียนหลับตาลงช้าๆ ด้วยความเจ็บปวด เขายืนมองเทียนจุนที่กำลังส่งยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาให้เขา “เทียนจุน หมิงหลันมิได้รักเจ้า หรือหากจะพูดให้ถูกคือนางไม่เคยรักใครเลยนอกจากท่านจอมมาร คำกล่าวของเทพีเสวียนม่านเป็นเพียงเรื่องราวที่นางแต่งขึ้นมา..” ราวกับถูกเข็มแหลมทิ่มแทงข้างในใจ เทียนจุนทรุดนั่งลงบนพื้นที่เย็นข้างๆสระดอกเหลียนฮวาที่ในอดีตหมิงหลันเป็นผู้ดูแล เราต่างหลงว่ายวนอยู่ในวังวนแห่งความรัก เช่นเดียวกับปลาตัวน้อยที่ว่ายวนอยู่ในอ่างบัว แต่ไหนแต่ไรม่อเกวียนคือเทพที่ไม่เคยโกหก สหายผู้นี้หวังดีกับเขามากกว่าใครทั้งนั้น เพราะอย่างนั้นสิ่งใดก็ตามที่ม่อเกวียนกล่าวออกมา มันล้วนแล้วแต่เพราะสหายผู้นี้หวังดีต่อเขา เมื่อได้ลองคิดดูดีๆ แล้ว หมิงหลันไม่เคยมองเขาในฐานะชายคนรักเลยสักครั้งเดียว นางมองเขาด้วยแววตาแบบเดียวกันกับที่นางมองไป๋เฉียนพี่สาวของนาง.. สำหรับหมิงหลันแล้ว เขาไม่เคยเป็นอะไรที่เกินเลยไปมากกว่าคำว่าพี่ชาย อันที่จริงหากว่าเขามีสติมากกว่านี้อีกหน่อย เขาคงจะมองออกถึงเจตนาของเทพีเสวียนม่าน ว่าสตรีผู้นั้นต้องการอะไร นางแค่ต้องการหลอกใช้เขา เพื่อให้เขาแย่งชิงหมิงหลันมาจากอ้อมแข
“หน้าที่ของเจ้าคือต้องตั้งครรภ์ลูกของจอมมาร! อย่าเสียใจไปเลยไป๋เฉียน นี่คือหน้าที่ของเจ้า ที่ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องทำตาม”ฝ่ามือเรียวยาวยกมือมาเช็ดหยาดน้ำตาที่สุกใสราวกับไข่มุกซึ่งกำลังไหลรินลงมาจากดวงตาคู่สวยของเทพบุปผานามว่าไป๋เฉียน ในใจเจ็บปวดราวเข็มนับพันพุ่งแทงเข้ามาในร่าง บนสรวงสวรรค์มีเทพและเทพีมากมายเหตุใดต้องเป็นนางที่มีคนรักอยู่แล้ว“ท่านเทพม่อเกวียน ข้ามิได้อยากฝ่าฝืนบัญชาเพียงแต่ข้าอยากจะร้องขอ ทั่วทั้งแดนสวรรค์นี้ต่างก็รับรู้ว่าข้าและเทพสงครามอันฉีรักกัน แล้วเหตุใดถึงยังมีคำสั่งเช่นนี้ออกมาอีก ท่านจะให้ข้าทำใจรับเรื่องนี้ได้อย่างไร..”ไป๋เฉียนคุกเข่าลงเพื่อวิงวอนต่อท่านเทพม่อเกวียน จะอย่างไรนางก็มิอาจไปที่ดินแดนเผ่ามารได้ หากมิได้ครองคู่รักกับท่านเทพสงครามอันฉี นางยอมกระโดดลงแท่นประหารเซียนแล้วตายตกไปเสียยังจะดีกว่า“ข้าจะไปแทนพี่ใหญ่เอง!”หากจะเปรียบความงามของไป๋เฉียนว่างดงามล่มบ้านล่มเมือง ก็คงจะต้องเปรียบเปรยความงดงามของไป๋หมิงหลันว่างดงามเจิดจ้าราวกับแสงของดวงตะวัน ดอกโบตั๋นที่ชูคออวดโฉมอยู่ในสระว่างามล้ำเลิศและวิจิตรแล้ว ยังมิสามารถเทียบเคียงใบหน้าของไป๋หมิงหลันได้เลย...
Comments