“มุกไม่แต่งค่ะ”
ท่ามกลางห้องรับแขกอันเย็นฉ่ำไปด้วยไอจากเครื่องปรับอากาศ ลูกสาวคนที่สองของบ้านอย่างพรสรวงแทบจะดิ้นร่า ๆ มือกำแน่น ตามองมารดาแบบจริงจัง ตอกย้ำเรื่องที่เจ้าตัวไม่ต้องการ
“ม๊าไปตกลงลับหลังได้ไง มุกไม่ยอมนะ”
พร้อมทำท่าผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้หลุยส์ มัญชุพรผู้พี่ต้องรีบดึงมือไว้
“แต่งงานกับหลานชายคุณยายบัวแก้วไม่ดีตรงไหนฮึ”
นางพิสมัยรินชาอุ่นลงถ้วย หนึ่งยื่นให้สามี สองให้ตัวเอง
“นายกระทิงคนนี้มีดีกว่านายเจมส์ลูกสส.นั่นอีก วันดีคืนดีไม่รู้พ่อเขาจะโดนไข้โป้งวันไหน หมดบารมีพ่อแล้วก็ไม่เหลืออะไร”
“ม๊าไม่เข้าใจอะไรเลย เจมส์เขากำลังทำบริษัทของตัวเอง ไม่พึ่งบารมีพ่อ”
เพราะเขาเป็นคนเช่นนี้อย่างไรเล่า พรสรวงจึงรัก เขาทำทำตัวเป็นโล้เป็นพายกว่าลูกนักการเมืองคนอื่น
“จะเชื่อได้ยังไง คนไม่เคยลำบาก คาบช้อนเงินช้อนท้องมาเกิด บริษัทนั่นไม่ใช่เปิดเพื่อผลาญเงินพ่อเขาเล่นรึ”
นางพิสมัยไม่ใช่พวกตื่นคนรวย หากมองการณ์ไกลกว่านั้น นางมองที่มาของความรวย มองต้นตระกูลซึ่งเหมือนดังรากลึก บ่งบอกการสั่งสอนอบรม อันจะเป็นพื้นฐานนิสัยของคน ลูกนักการเมืองที่เพิ่งรวย นางจึงไม่ชอบ
“ม๊า...”
ห้ามไม่ทันเสียแล้ว ร่างน้องสาวผุดลุกขึ้น
“อย่างน้อยมุกก็ควรมีสิทธิ์จะตัดสินใจสิว่าควรจะแต่งงานกับใคร”
สมาชิกครอบครัวที่นั่งในห้องรับแขกเหล่มองไปที่บิดา
“เตี่ย มุกไม่ยอมนะคะ”
พรสรวงอาศัยความเป็นลูกคนเล็กและเป็นคนโปรดออดอ้อนท่าน
“ลองคบหากันดูก่อนก็ได้ ถ้าไม่โอเคค่อยว่ากัน”
เสี่ยจิวพยายามช่วย แต่พอสบกับสายตาพิฆาตของภรรยา ก็ต้องรีบแกล้งจิบชาหลบ
“ความจริงนายกระทิงก็ไม่เลวนะ ดาร์ค ทอล แอนด์แฮนซัม เสียอย่างเดียวหนวดเครารุงรังไปหน่อย”
จิรัฎฐ์ผู้พี่ หยิบขนมเปี๊ยะเข้าปาก เขาเป็นหนุ่มอวบอ้วนที่รู้สึกว่ากระเพาะตนเองว่างเสมอ จนพรสรวงชอบล้อเขาเล่นว่าเป็น...เฮียเล้งซาลาเปา
“ถ้าแต่งแล้วมุกจะได้เป็นคุณนายไร่ดาวเรืองไง”
“มุกไม่อยากเป็นคุณนาย เฮียแต่งเองเลยไหมล่ะ บางทีไร่นั้นอาจเลี้ยงวัวพันธุ์ดี มีวัวโคขุนให้กินเป็นสเต๊ก”
ชายหนุ่มขำมากกว่ากับคำเหน็บแนมนั้น
“ยังไงก็ตาม ถึงไม่ได้แต่งกับเจมส์ มุกก็จะไม่แต่งกับนายกระทิงนั่นเด็ดขาด”
น้องสาวเดินลงส้นเท้าตึง ๆ ขึ้นบันได ...อันเป็นเรื่องที่ทุกคนในบ้านคาดไว้อยู่แล้ว พรสรวงน่ารักเวลาอารมณ์ดี ด้วยผิวขาวเนียน ผมดำขลับ ปากนิด จมูกหน่อยแบบลูกครึ่งไทยจีน เธอจึงเหมือนนางฟ้าของบ้าน แต่หาพิโรธขึ้นมาเมื่อไร ก็กลับเป็นคนเอาแต่ใจอย่างเหลือเชื่อ
“หมี่ไปดูมุกที”
นางพิสมัยเรียกลูกสาวอีกคน
“หาทางกล่อมให้มุกยอมแต่งงานด้วย”
“โธ่! น้าไหม อย่าไปบังคับมุกเลย เขาไม่อยากแต่งก็ปล่อยไป”
จิรัฎฐ์ไม่ได้เห็นใจพรสรวงด้วยใจจริง เพราะทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน คนที่เขาอยากจะช่วยคือมัญชุพร เธอเป็นเบี้ยล่างให้แม่กับน้องสาวเสมอ
“น้าพยายามหาคนที่ดี เหมาะสมกับมุกที่สุดนะเล้ง”
นางพิสมัยไม่อาจใช้คำว่าแม่กับจิรัฎฐ์ได้ เพราะเป็นเพียงแม่เลี้ยง มัญชุพรก็เป็นลูกติด มีแต่พรสรวงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นลูกสาวนางกับจิว
“อาหมี่ไปดูน้องหน่อยไป”
บิดาเลี้ยงก็พลอยเห็นด้วยกับมารดาบอกตั้งแต่แรก มัญชุพรจึงตามน้องขึ้นไปบนห้อง เคาะจังหวะหนึ่งสอง...หนึ่ง...สองสาม เป็นอันรู้กันระหว่างน้องกับพี่สาว มัญชุพรเปิดเข้าไปก็เห็นเจ้าของห้องนั่งกดมือถืออยู่บนเตียง สักพักก็โยนลงไว้ทั้งอย่างนั้น ตัวล้มลงนอน
“เราไปหาทำบุญกันไหมพี่หมี่ มุกรู้สึกว่าพักนี้ตัวเองดวงตก”
เธอนั่งบนเตียงข้างน้อง หยิบมือถือที่ยังแสดงเมนูสุดท้ายที่เจ้าของเครื่องใช้ คือเบอร์โทรออกในชื่อของเจมส์ แต่ไม่มีคนรับสาย
“งานก็แย่ โปรเจ็คโดนรีเจ็คให้แก้ยับ ม๊ายังมาหาเหาใส่หัวให้อีก”
พรสรวงหลับตา ปากยังบ่น
“มุกอยากมีชีวิตเรียบ ๆ เงียบ ๆ เหมือนพี่หมี่จัง”
มัญชุพรเอื้อมมือไปลูบศีรษะน้องพลางอมยิ้ม หากเลือกได้ เธอก็อยากมีชีวิตอิสระเฉกเช่นน้องสาวเหมือนกัน หลังเรียนมหาวิทยาลัยเปิดจบมัญชุพรมีชีวิตอยู่แค่บ้านแล้วก็ร้าน หน้าที่คือทำบัญชีกับช่วยขายของนิด ๆ หน่อย ๆ เคยขอมารดาเหมือนกันว่าอยากไปทำงานข้างนอก แต่กลับได้รับคำตอบ
“จะไปเป็นลูกจ้างเขาทำไม กิจการเราก็มี ถ้าเบื่อก็มาดูแลแม่ ดูแลเตี่ย”
เธอรู้ว่าแม่รักและเสี่ยจิวก็เอ็นดู แต่มัญชุพรอยากมีอิสระเล็ก ๆ บ้าง ออกไปเห็นโลกกว้างที่มากกว่าอาณาเขตที่แม่จะมาบงการ แต่ดูเหมือนวันนั้นจะไม่มาถึงเสียที
“ชีวิตทุกคนก็ต่างมีปัญหาทั้งนั้นแหละ”
“พูดเหมือนแม่ชีปลงโลกแล้ว”
คนนอนปล่อยเสียงฮึก่อนเอ่ย
“เรียกว่ามองโลกตามความเป็นจริงมากกว่า”
ชีวิตไม่อิสระ ใช่ว่าจะไม่มีความสุข มัญชุพรจึงเลือกคิดในแง่ดี หาอะไรทำที่เป็นประโยชน์ ให้พ้นเสียจากความฟุ้งซ่าน
“ยังไงมุกก็ไม่แต่งกับนายกระทิงเด็ดขาด”
คนชื่อน่ากลัว ทำงานอาบเหงื่อไคลกลางไร่ พรสรวงไม่ใช่ดูถูกคน แต่เธอไม่ชอบแบบนี้ ชอบคนแต่งตัวดี สวมเชิ้ตสีขาวสะอาด ๆ หรือสวมเสื้อยืดกางเกงยีนแบบไม่มอซอ
“เราเคยเห็นเขาแล้วเหรอ นายกระทิงคนนี้”
“แล้วพี่หมี่ล่ะ เคยเจอเขาไหม”
น้องสาวพลิกตัวเป็นนอนหงาย หรี่ตามองอีกฝ่าย
“เขาทำไร่ ต้องเคยมาซื้อของที่ร้านเราสิ”
บ้านเสี่ยจิวเป็นร้านขายเครื่องมือการเกษตรและเมล็ดพันธุ์พืชใหญ่ที่สุดในอำเภอ คนทำไร่ล้วนมาหาเครื่องมือทำมาหากินที่นี่ทั้งนั้น
“ก็...เคยเห็นอยู่นะ”
แบบแว็บ...แว็บ เขาตัวสูงอย่างที่จิรัฎฐ์ว่า ดาร์คไหม ก็น่าจะ เคยเห็นผิวเขาที่โผล่พ้นแขนเสื้อที่เจ้าตัวพบไว้ เป็นสีแทน ส่วนแฮนด์ซัม มัญชุพรไม่รู้ เพราะเขาไว้หนวด เคยเผลอสบตากันครั้งหนึ่ง จำได้ว่าดูดุน่าดู
“เขาเป็นเหมือนเฮียเล้งบอกไหม”
“ก็มีส่วน แต่การที่จะรู้ว่าใครเป็นคนยังไง เราควรต้องไปเจอตัวจริงของเขาเอง”
“โธ่...พี่หมี่ ให้ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์เลย”
น้องปากยู่
“มุกจะเอาข้อมูลไปทำอะไร”
“ก็ในเมื่อเขาอยากแต่งงานก็แสดงว่ากำลังหาเมียอยู่นะสิ มุกเก๊าะ...จะหาคนที่แมชท์กับเขา”
คนเศร้าอยู่ไม่นานเริ่มวางแผน
“ตัวเองพูดอยู่ไม่ใช่เหรอ ว่าไม่อยากโดนบังคับ แล้วนี่จะยังไม่จับคู่ให้เขาอีก”
“มุกแค่ให้สิ่งที่เขาต้องการเอง แบบที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย”
“เธอนี่ชักสมเป็นว่าที่สะใภ้นักการเมืองขึ้นมาทุกที”
พรสรวงยิ้มจนเห็นเขี้ยวเสน่ห์
“เขาต้องมีสเปคบ้างแหละน่า นายกระทิงคนนี้”
สมองเจ้าโปรเจ็คกำลังทำงานเต็มที่ หาทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง
“บางทีเขาอาจจะเป็นเหมือนมุก ที่ไม่ชอบการจับแต่งงานแบบคลุมถุงชนแบบนี้ น่าจะคุยกันได้” มัญชุพรถึงกับพยักหน้าตาม สมองคิดว่าหากเป็นน้องสาว บางทีอาจจะโน้มน้าวให้อีกฝ่ายปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้
“พี่หมี่ต้องคอยช่วยมุกนะ”
น้องลุกขึ้นจับแขน ส่งสายตาอ้อนปิ๊ง ๆ อันเป็นกิริยาประจำที่เจ้าตัวอยากได้อะไรจากใครก็มักใช้ไม้นี้
“จะช่วยเท่าที่ทำได้นะ”
เธอกลอกตาแบบขัดลำบากเสียเหลือเกิน
“มุกจะหาทางทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ได้แต่งงานกับนายกระทิงนั่น”
พรสรวงส่งกำหมัด สูดลมหายใจอย่างมุ่งมั่น โดยไม่รู้เลยว่าอีกฟากหนึ่งในไร่ดาวเรือง ชายหนุ่มอีกคนก็คิดจะเลี่ยงการแต่งงานครั้งนี้เหมือนกัน
“ยายก็แก่แล้ว คงจะอยู่ได้ไม่นาน”
พงศพัศหน้าบึ้งจัด ด้วยเพิ่งกลับมาจากทำงานในไร่เหนื่อย ๆ ยังต้องมานั่งฟังเรื่องกวนใจ
“อยากเห็นทิงเป็นฝั่งเป็นฝา”
มีไม่กี่คนในโลกที่กล้าเรียกชื่อเล่นเขาสั้น ๆ แบบนี้
“ลูกสาวคนเล็กของพิสมัยกับเสี่ยจิวเป็นคนน่ารัก เรียนจบตั้งปริญญาโทการตลาด เพียบพร้อมขนาดนี้ ต้องอยู่กับทิงได้ ช่วยกับบริหารไร่ดาวเรืองให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป”
ยายบัวแก้วนอนพิงหมอนขิดบนตั่ง พูดเหมือนเพ้อ มีสุนีย์คนสนิทคอยพัดวี
“ยายอยากเห็นทิงมีครอบครัวก่อนตาย”
มีการไอประกอบ พงศพัศจำได้ว่าเมื่อวานท่านยังนั่งเล่นไพ่กับพวกแม่ครัวอยู่เลย
“ไม่แต่งนะครับ ถ้าอยากได้เมีย ผมจะหาเอง” เสียงห้าวกับตาดุ ๆ อาจทำให้คนเกรงกลัว แต่มิใช่กับสองหญิงที่เลี้ยงเจ้าตัวมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก
“แล้วไหนละคะ คนที่คุณกระทิงอยากเอาเป็นเมีย”
สุนีย์ลูกคู่ยายบัวแก้วเริ่มทำงาน
“อย่าบอกนะคะว่าจะเอาอีตัวมาเป็นเมีย แม่มน ๆ อะไรนั่นหรือเปล่า ได้ข่าวว่าเข้าเมืองทีไรก็ไปกินกันทุกที”
สาววัยห้าสิบกว่าค้อน ชายหนุ่มกอดอก นึกอยากเตะคนที่เอาเรื่องส่วนตัวเขามาเม้าท์
“ผมก็เลือกน่า สะใภ้ยายต้องเป็นคนดีที่สุด คือตอนนี้ยังหาไม่เจอก็เท่านั้นเอง”
เจ้านายกับลูกน้องสบตากัน...ผิดจากที่คิดไว้เสียที่ไหน คาดว่าเขาต้องปฏิเสธแน่ ต้องดำเนินการแผนต่อไป
“ลองไปพบหนูมุกหน่อยเถอะค่ะ ผู้ใหญ่คุยกันไว้แล้ว อย่าให้เสียหน้าเลย”
สุนีย์เปลี่ยนมาใช้น้ำเสียงอ่อนลง ชายหนุ่มเม้มปากอึดอัด
“ยายไปรับปาก จัดการกันเอง ทำไมมาลำบากที่ผมล่ะ งานในไร่ยิ่งยุ่งอยู่”
“เพราะงานในไร่ยุ่งอย่างนี้ไงคะ คุณกระทิงถึงต้องรีบมีเมียมาช่วยจัดการ”
ลูกคู่ได้ทีรีบเสริม แล้วก็ได้รับสายตาคมดุ จ้องตอบกลับมาแทน
“ยายแค่หวังดีกับหลาน”
คนป่วยไม่จริงแกล้งทำเสียงเครือ
“อยากให้ทิงได้ชีวิตที่ดีที่สุด วิญญาณทองโปรยกับดาวเรือง เวลามองจากฟ้าจะได้เป็นสุข”
ยายบัวแก้วตาลอยมองเพดานประกอบอาการ ไม่ให้เสียชื่อคอละครหลังข่าว บทเศร้าแบบนี้ท่านทำได้สบาย
“พ่อกับแม่ผมตายเป็นยี่สิบปีแล้วครับยาย ป่านนี้ไปเกิดแล้วมั้ง”
“คุณกระทิงอย่าขัดผู้ใหญ่สิคะ ท่านอาจสะเทือนใจ”
มีเสียงสะอื้นฮักจากผู้เป็นยาย
“...เห็นไหม บาปนะคะทำคนแก่ร้องไห้”
สุนีย์เอ็ดเขา เหมือนยังเป็นเด็กชายอายุสิบขวบ
“ยังไงก็ตาม ผมไม่แต่งงานนะครับ บอกไว้เลย มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม ผมไปพักแล้ว เหนื่อยมาทั้งวัน”
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากห้องนั่งเล่น เดินอาด ๆ ขึ้นบันไดไป
“ไม่ได้ผล คุณกระทิงนี่ดื้อจริง ๆ ค่ะคุณยาย”
คนในห้องนั่งเล่นรอจนกว่าเสียงฝีเท้าหนัก ๆ จะหายไป แล้วค่อยคลายอาการ กลับมาเป็นปรกติ
“ก็ดื้อสมกับชื่อมันนั่นแหละหลานคนนี้”
ยายบัวแก้วลุกขึ้นเหยียดแข้งเหยียดขาหลังจากนอนเมื่อยแกล้งป่วยอยู่เป็นนานสองนาน
“ฝั่งโน้นคงเป็นเหมือนกัน”
ผู้อาวุโสแห่งไร่ดาวเรืองหมายถึงบ้านนางพิสมัย
“ยังเหลืออีกแผนค่ะ กลเม็ดเด็ดพรายก้นไห”
บ่าวคนสนิทจีบปากจีบคอ
“รับรองแผนนี้เด็ด แต่เสี่ยงให้ใจหวิว”
“ว่ามาสิ”
สุนีย์เล่าให้นายฟังพร้อมอาการตาโต เอามือทาบอก
“ฉันต้องเสี่ยงถึงขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย”
“อยากได้สะใภ้ก็ต้องเทหมดหน้าตักค่ะ”
ยายบัวแก้วรู้สึกจะเป็นลมขึ้นมาทันที ภาวนาให้ลูกสาวและลูกเขยที่ตายไป ดลบันดาลให้แผนนี้สำเร็จไปด้วยดีเถิด
“ลูกพี่ ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์คุณยายละครับ” การันต์คนสนิทถามในเช้าวันต่อมา ขณะยืนอยู่ข้างรถกระบะมองรถไถคันโตกำลังพรวนดินเพื่อไว้ปลูกพืชรุ่นต่อไป“กูเบื่อ ยายเซ้าซี้จะให้แต่งงาน”ลูกน้องผิวปากล้อเลียน“อ้อยมาประเคนถึงปากช้างแล้ว ทำไมไม่กินเลยล่ะลูกพี่”แซวไปอย่างนั้น เพราะสุนีย์กระจายข่าวเรื่องเขาจะมีเมียให้คนทั้งไร่รู้หมดแล้ว“กูไม่อยากโดนบังคับ”เจ้าของไร่หนุ่มเชิดหน้า ศักดิ์ศรี...ขอมีไว้หน่อยเถอะ การที่มียายหาเมียให้ดูลูกแหง่เกินไปในสายตาเขา“ลูกสาวคุณนายพิสมัยกับเสี่ยจิว ได้ข่าวว่าสวย เรียนจบโทมาจากกรุงเทพฯ”การันต์ได้ยินเสียงลือเล่าอ้างเรื่องพรสรวงมาจากสายข่าวที่ใกล้ชิดยายสุนีย์เช่นเดียวกัน“มึงคิดว่าคนอย่างนั้นจะยอมมาอยู่ไร่แบบนี้เหรอ”ดวงตาคมภายใต้แผงขนตาหนามองกวาดไปทั่วบริเวณไร่ดาวเรือง ที่มีอาณาเขตกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาแรกทีเดียวยายบัวแก้วมีดาวเรืองแม่ของเขาเป็นลูกสาวคนเดียว ตาเป็นทหาร ทั้งสองอยากเห็นลูกมีชีวิตที่ดีไม่ต้องโยกย้ายตามอาชีพเฉกเช่นบิดาเป็น แม่เขาเรียนมหาวิทยาลัย แล้วก็ไปพบรักกับทองโปรย เด็กวัดกำพร้าที่เรียนเกษตรตาคัดค้านหัวชนฝาที่ไปเลือกหนุ่มจน ๆ แถมยังเรียนสาขาที
พงศพัศแปลกใจที่บ้านนี้ให้คนรับใช้มานั่งเทียมเจ้านาย จนนางพิสมัยแนะนำตัวเธอว่าเป็นใคร เขาจึงได้แค่กระแอมในลำคอ พงศพัศไม่ผิด เพราะไม่เคยเจอเธอเลยมัญชุพรก็อาจไม่ผิดด้วยเหมือนกัน เพราะเห็นการแต่งตัวแถมถือถาดมาขนาดนั้น ใครก็ต้องคิดว่าเป็นคนรับใช้พรสรวงเข้าบ้านมาท้ายสุด เธอกลับเร็วด้วยแม่บอกว่าพ่อไม่สบาย“บ่าย ๆ อย่างนี้ต้องดื่มน้ำชา ไปอีกห้องเถอะค่ะคุณยาย ยัยมุกเลือกขนมจีบมาให้ด้วยตัวเองเลยนะคะ ต้องอร่อยแน่ พูดแล้วจะหาว่าคุย ลูกคนนี้รสนิยมดี”พิสมัยปิดปากหัวเราะโฮะ ๆ พรสรวงขมวดคิ้ว จำไม่ได้ว่าตัวเองไปเลือกขนมจีบตอนไหน แล้วยังนายหนวดหน้าดุคนนี้อีก เธอถูกจัดฉากเข้าเสียแล้ว“เอ่อ ต้องขอตัวก่อนนะคะ มุกรู้สึกไม่ค่อยสบาย” หญิงสาวหาแผนเตรียมชิ่งหนี“ไหน เป็นอะไรมาให้แม่ดูหน่อยสิ”มารดายิ้มหวานจนขนลุก เข้ามายกมืออังหน้าผาก“ไม่เห็นเป็นอะไรเลยมุก หนูอาจแค่เหนื่อย”เล็บแต่งเจียนทาสีแดงอย่างดีจิกลงบนแขนลูกสาว“ไปนั่งพักหน่อยก็หาย”สองพี่น้องรู้กันทันที นางพิสมัยกำลังของขึ้น อย่าได้ขัดใจเป็นอันขาด มิเช่นนั้นองค์จะลงพรสรวงแม้จะเอาแต่ใจ แต่ก็กลัวมารดาเป็นที่สุด เพราะนิสัยแรง ๆ ร้าย ๆ เธอถอดแบบมาจากนา
“ทิงนี่ไม่ได้เชื้อพ่อเชื้อตามาเลยนะ”ยายบัวแก้วทำเสียงเวทนาหลาน“ตากับพ่อของทิงน่ะ มีเสน่ห์จนทำให้ยายกับแม่หนีตามมาอยู่ด้วยกัน”เรื่องเล่าประจำตระกูลคือขณะนั้นตาเป็นทหารยศน้อย มาหลงรักลูกสาวคหบดี ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่หาคนที่เหมาะสมให้แล้ว แต่ยายบัวแก้วยังหนีตามมาลำบากอยู่กับตา สร้างครอบครัวน้อย ๆ ด้วยความรัก“ทิงกลัวตัวเองจะทำให้หนูมุกรักจนยอมคืนเงินสิบล้านให้ไม่ได้ใช่ไหม”ยายบัวแก้วเลี้ยงหลานมา รู้ดีถึงนิสัยฆ่าได้หยามไม่ได้ของเขา“ผมจะเอาเงินคืนมาทั้งหมดยี่สิบล้าน”คนตัวโตที่เท้าสะเอวอยู่ประกาศก้อง“งั้นแสดงว่ายอมแต่งงานกับหนูมุกแล้วใช่ไหม”หน้าบึ้งและตาวาว ๆ นั้นเป็นคำตอบว่าเจ้าตัวไร้ซึ่งความเต็มใจ“สุนีย์เดี๋ยวโทรหามัคนายกอนุพงษ์นะ นัดวันไปเจอพระอาจารย์หน่อย เอาสักวันศุกร์ ฉันจะไปขอฤกษ์แต่งกับท่าน”“เอาฤกษ์หมั้นด้วยไหมคะ แบบหมั้นเช้าแต่งเย็น เร็วดี”คนสนิทเจ้าปัญญาแนะ“ดีเหมือนกัน เอาตามนั้น”พงศพัศกลับไปนั่งซดชาอย่างทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เอาว่ะ! อย่างน้อยผู้หญิงคนนี้หน้าตา การศึกษาก็ยังพอทนได้ ที่เหลือก็แค่หว่านเสน่ห์นิดหน่อย ถ้าเธอไม่หลงก็ขู่เอาเลยละกัน ให้เลือกเอาระหว่างชีวิตกับเ
วันเสาร์พรสรวงมีนัดที่ร้านเว็ดดิ้งแพลนเนอร์เที่ยง เธอให้มัญชุพรไปรอที่นั่นเลย พนักงานรีบมาต้อนรับหญิงสาวอย่างนอบน้อม“สนใจบริการด้านไหนของร้านเราคะ”พร้อมยกอัลบั้มรูปเล่มโตมาให้ เธอต้องรีบบอกว่ามาด้วยเรื่องนัดของพรสรวง สักพักรถกระบะคันเก่าของไร่ดาวเรืองก็มาจอดที่ลานใกล้ร้าน รปภ.แทบไม่ให้จอดเพราะคิดว่าพงศพัศมาส่งของ จนเขาต้องบอกว่าเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการ จึงได้จอดชายหนุ่มจงใจจะแกล้งให้พรสรวงเสียหน้า เพราะท่าทางอย่างเธอคงแทบกรี๊ดแน่เมื่อเห็นว่าที่เจ้าบ่าวขับรถโทรม ๆเขาเปิดประตูกระจกใสเข้ามา พนักงานในร้านถึงกับชะงัก ด้วยการแต่งตัวเสื้อยืด กางเกงยีนเก่า ๆ บูทคู่มอซอ ยิ่งผมยาวระต้นคอและหนวด ค้านกับการเป็นแขกผู้มาใช้บริการในสถานที่นี้เหลือเกิน“มาติดต่อเรื่องอะไรคะคุณพี่”หนุ่มหน้าสวยเต็มไปด้วยจริตนางหนึ่งใจกล้าปรี่มาถาม ตาคมเข้มแลกวาดไปทั่วร้าน สะดุดตากับสาวถักผมเปีย สวมชุดแซกแขนตุ๊กตาสีชมพูอ่อน เธอกำลังเปิดดูรูปในอัลบั้มทีละภาพ...ทีละภาพ“น้องสาวเธอล่ะ”เงาทะมึนที่ยืนค้ำศีรษะมัญชุพรถาม ดวงตากลมโตเงยขึ้นมองจนคอแทบตั้งบ่า“เธอไปไหน”หญิงสาวกลืนน้ำลายเอื๊อก ฝืนยิ้มให้“มุกกำลังทำงานอยู่ค
“แม่เธอหลอกยายฉัน”พงศพัศหรี่ตามองพี่ว่าที่เจ้าสาว“ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกคุณ”“ยายฉันแก่แล้ว ไม่ทันเล่ห์แม่เธอหรอก”มีลมร้อนพัดมาวูบ ทำให้ชายกระโปรงชุดแซกยกขึ้นจนเห็นปลีน่องเรียวกลมกลึง ...มีเรื่องให้แปลกใจเยอะจริง ๆ พี่ว่าที่เจ้าสาวเขา“แม่ฉันไม่ใช่คนร้าย”ดวงตากลมโตวาววับเมื่อได้ยินชายหนุ่มพาดพิงถึงมารดา“เขาร้ายมาตั้งแต่ยังสาวนี่ ถึงมาจับเสี่ยจิวได้”ประวัติพิสมัยเป็นที่รู้กันทั่ว นางคือสาวนักขุดทองที่ได้มาเจอเป้าหมายกระเป๋าหนัก จากแม่ม่ายลูกติดผู้ยากจนกลายเป็นเมียเศรษฐีในพริบตา“คุณยายบัวแก้วก็ดูเป็นคนดี ทำไมถึงได้มีหลานปากร้าย ใจสกปรกอย่างคุณ ว่าคนอื่นเขาไปหมด”มัญชุพรหน้าแดง อาจเพราะอากาศปนอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง“อย่าเอายายฉันมาเกี่ยวด้วย!”เขาก็มีจุดอ่อนเรื่องบุพการีเหมือนกัน“ตกลงจะขึ้นรถมากับฉันดี ๆ หรือจะให้ลากขึ้นมา อุตส่าห์ใจดีเห็นไม่มีรถกลับ เธอยังมีตีฝีปากใส่ฉันอีก”“คุณปากร้ายใส่ฉันก่อนนะ แล้วอีกอย่างฉันไม่ยอมนั่งรถไปกับคุณเด็ดขาด”มัญชุพรไม่รู้เลย ว่าคำพูดตนเป็นชนวนให้อะไรในตัวพงศพัศขาดผึ่ง ชายหนุ่มลงจากรถ เดินอาด ๆ มาหาสาวร่างบาง เธอกลัวจนใจไปตกที่ตาตุ่ม ขยับเท้าเ
“มุกทำหมี่ลำบากมากไหม ถ้าไม่โอเคเดี๋ยวต่อไปเวลาเจอนายกระทิงเฮียจะไปกับมุกเอง”มัญชุพรสงสารจิรัฎฐ์ ขาวอวบเป็นซาลาเปาแบบเขาคงแหลกแน่เมื่อตกอยู่ท่ามกลางพายุอารมณ์ของทั้งสอง“ไม่เป็นไรค่ะ หมี่ยังไหว เฮียคอยช่วยเตี่ยทำงานดีกว่า”เธอเรียนรู้ที่จะเป็นเด็กดี อดทนกับทุกอย่าง ตราบใดที่ยังอยู่ใต้ชายคาบ้านหลังนี้ ...บ้านที่มีพระคุณเลี้ยงดูเธอกับแม่ให้มีชีวิตสมบูรณ์พูนสุข“ถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็บอกเฮียนะ ไม่ต้องเกรงใจ”เพราะมัญชุพรอยู่ใกล้แล้วเย็น เหมือนสายน้ำชื่นใจ จิรัฎฐ์จึงชอบ ...มากขนาดมีใจเสน่หา แต่ยังหาจังหวะคุยกับเสี่ยจิวไม่ได้เสียที ความจริงแล้วจิรัฎฐ์รู้ว่าคนมีอำนาจตัดสินใจมากที่สุดในบ้านคือแม่เลี้ยงนางพิสมัยไม่ใช่คนเลวร้าย แต่ไม่รู้มีแผนจะทำอะไรกับมัญชุพรหรือเปล่า การจับคู่ของพรสรวงกับพงศพัศนำพาความหวั่นใจมาสู่เขา กลัวว่านางพิสมัยมีแผนจะให้มัญชุพรแต่งงานกับใครอีกเด็กดีอยู่ในโอวาทแบบเธอต้องยอมแน่ ...แต่จิรัฎฐ์ไม่ยอมหรอก เขาจะปกป้องมัญชุพรเอง หนุ่มขาวอวบให้สัญญาพรสรวงกลับบ้านมาเสียดึก เมื่อเห็นใบหน้าเหนื่อยล้าของน้องมัญชุพรก็สงสารจนไม่กล้าว่าอะไรแรง“พี่ไม่ชอบเรื่องที่มุกทำวันนี้เลย รู้
เวลาแห่งความเคร่งเครียด ยังเดินต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเป็นเม็ด ๆ ราวกับแต่ละคนอมถ่านร้อน ๆ ไว้แล้วนางพิสมัยก็มองไปที่กระจกบนโต๊ะเครื่องแป้ง มันสะท้อนเงานางที่ดูเพิ้ง เกินกว่าจะรับไหว ขณะเดียวกันก็สะท้อนภาพมัชชุพร ที่หน้าขาวซีด“หมี่ ไปอาบน้ำ เปลี่ยนชุด!”มารดาตวัดสายตามาที่ร่างโปร่งระหง“คะ...”มัญชุพรเลิกคิ้ว“ลูกต้องเข้าพิธีแทนน้อง”นางตัดสินใจแล้ว จะให้งานล่มไม่ได้“เฮ้ย!” เป็นจิรัฎฐ์เองที่อุทานลั่น“เร็ว ๆ เลย”มารดาทำหน้าจริงจัง เหมือนตอนกำลังจะทำโทษเธอในวัยเด็กยามทำผิด“ไม่ได้นะน้าไหม มุกหนีไป มันเกี่ยวอะไรกับหมี่ด้วย เขามาขอมุกไม่ใช่หมี่”จิรัฎฐ์ค้านสุดฤทธิ์ ทั้งเพื่อตัวเองและสาวที่หมายปอง“คุณยายคำแก้วขอลูกสาวฉันกับเฮียให้แต่งงานกับหลานเขา ไม่ได้ระบุไว้แต่แรกว่าจะต้องเป็นคนไหน ฉันเองแหละที่เสนอยัยมุกไปเพราะเห็นว่าเหมาะสมดี”นางเฉลยที่มาของการแก้ปัญหา ระหว่างงานแต่งที่ไร้เจ้าสาว กับงานแต่งที่เจ้าสาวเป็นคนละคน นางเลือกอย่างหลังที่ดูฉาวน้อยกว่า“แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นอย่างนี้ ก็ต้องขายผ้าเอาหน้ารอดไป หมี่เข้าพิธีแทนน้อง ถ้าแม่ตามมุกเจอแล
“นี่มันอะไรกัน คุณพิสมัย เสี่ยจิว ทำไมเจ้าสาวผมถึงเป็นคนนี้”หากมีเข็มสักเล่มหล่นในห้อง ทุกคนคงได้ยินทั่วกันหมด เพราะเงียบเหลือเกิน“ขอคุยกันส่วนตัวสักครู่ค่ะ ให้แขกกับพระออกไปก่อน”นางพิสมัยพยักหน้าไปทางพิธีกร ซึ่งรีบเชิญให้แขกออกไปดื่มชากาแฟกันสักครู่ ในห้องจึงเหลือเพียงสมาชิกในครอบครัวเสี่ยจิว ส่วนทางบ้านพงศพัศก็เหลือเขา ยาย และสุนีย์“เกิดอะไรขึ้นเรอะแม่ไหม หนูมุกไปไหน”“ยัยมุกเอ่อ...ไม่ค่อยสบายค่ะ”“เขาเป็นอะไร”พงศพัศกอดอก หรี่ตาจับผิด“มุกอยู่โรงพยาบาลต้องนอนติดเตียงหมอห้ามเยี่ยมค่ะ”“อยู่โรงพยาบาลไหน ผมมีเพื่อนเป็นหมอหลายคน เดี๋ยวจะถามอาการ โรคอย่างนี้แปลกมาก ไม่เคยได้ยิน”“กระทิงหยุดเถอะ”ยายบัวแก้วปราม รู้ว่าหลานกำลังไล่เบี้ย“มีอะไรก็บอกมาตรง ๆ ดีกว่าแม่ไหม”สุนีย์เปิดกระเป๋าเตรียมหยิบยาดมรอยื่นให้ ถึงขนาดเปลี่ยนเจ้าสาว แสดงว่าเรื่องนี้ร้ายแรงแบบไม่ธรรมดา“อามุกอีหนีงานแต่งไปแล้ว”เสี่ยจิวนั่นเองที่เป็นคนเฉลย นางพิสมัยขึงตามองสามีที่มีจิรัฐฎ์จับแขนพยุงอยู่ ยายบัวแก้วยกมือขึ้นแนบอก อีกมือก็รับยาดมจากสุนีย์ พงศพัศกวาดตามองสมาชิกทุกคนในบ้านเสี่ยจิวแล้วขบกราม ส่งสายตาดุดัน มัญช
พงศพัศและมัญชุพรกลับมาที่ไร่ดาวเรืองอีกครั้ง และนี่คือชีวิตแต่งงานที่แท้จริง เขาพาเธอไปร้านเว็ดดิ้งแพลนเนอร์ ลองชุด ถ่ายรูปพรีเว็ดดิ้ง“สวยหล่อสมกันมากเลยค่ะ”เจ้าของร้านกรี๊ดกร๊าด การได้เงินสองรอบจากคู่รักคู่เดิมเกิดขึ้นง่าย ๆ เสียที่ไหน ต้องชมไว้ก่อน เผื่อมีรอบสาม“เอารูปใหญ่ ๆ เลย จะเอาไปติดฝาบ้าน”“รูปติดผนังก็พอมั้งคุณกระทิง”มัญชุพรต้องปราม เขาร่าเริงมากต่างกับพงศพัศคนเดิมเป็นคนละคน“จะเอาติดตามที่ว่างตรงบันไดด้วย ลูกเกิดมาจะได้เห็นว่าแม่น่าเจี๊ยะขนาดไหน”การหยอกล้อ ดูจะเป็นเรื่องปรกติของเขาไปเสียแล้ว“พ่อก็หล่อ แม่ก็สวย ลูกเราต้องเกิดมาหน้าตาดีแน่”คนขี้เห่อลูบพุงที่เริ่มแข็งขึ้นมาแล้วบ้างของเธอ“เกิดลูกได้หน้าดุ ๆ ของคุณ กับผิวตองเหลืองอย่างฉันล่ะ”พงศพัศยักไหล่“ถือว่าหน้าตาดีนะ แบบเอ็กโซติคส์”มัญชุพรกลอกตา ตกลงแบบที่เขาว่ามามันตีความได้กว้างเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไร หากเป็นลูกเขาและเธอ มัญชุพรก็จะรักแกมาก ๆอีกกลุ่มที่เห่อหลานคือเหล่าผู้สูงวัย ต่างหายาจีนและสารพัดเคล็ดลับในการดูแลตัวเองช่วงตั้งครรภ์มาให้เธอ“โชคดีจริง ๆ ที่มุกอยู่ภูเก็ต”น้องสาวหัวเราะยามเฟซไทม์คุยกัน“ไม่มีใค
“รู้ได้ยังไง”“ก็พี่หมี่เศร้า...ร้องไห้ คนรักกันมันต้องไม่เป็นแบบนี้”กลายเป็นเรื่องถกเถียงกันระหว่างสามีภรรยาไปเสียแล้ว คนอีกจังหวัดได้แต่เฝ้าดู“นั่นเพราะพี่หมี่รักเขา คุณกระทิงก็รักพี่หมี่ ไม่งั้นคงไม่มาตากหน้าตามถึงบ้าน ให้โดนด่าฟรี ๆ หรอกใช่ไหมครับเตี่ย”เสี่ยจิวเม้มปากไม่คัดค้าน“ถ้าเขาไม่ได้เลวร้ายอะไร ยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง เราก็ควรปล่อยให้เขาได้ทำความเข้าใจกัน เด็กที่โตมาในครอบครัวที่ขาดพ่อหรือแม่ ต่อให้รวยขนาดไหนก็ไม่มีความสุขหรอกนะครับ”พรสรวงจับแขนเสื้อเขา เพราะนั่นเป็นชีวิตจริงของเจมส์ เขาขาดแม่ พ่อก็ใฝ่หาอำนาจ มีอีหนูเป็นพรวน เจมส์จึงไม่อยากเป็นอย่างนั้น อยากสร้างครอบครัว ธุรกิจเอง“แล้วถ้าเขาทำร้ายหมี่ล่ะ”จิรัฐฎ์ยังไม่ยอม“ผมจะให้คุยกันในที่เปิดโล่ง มีคนของผมดูอยู่ตลอด”เจมส์อาสาเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาครั้งนี้ เพราะเรื่องคาราคาซังของพี่ ก็ทำให้พรสรวงไม่สบายใจเช่นเดียวกัน เมื่อเห็นคนที่รักทุกข์ เขาพลอยไม่สบายใจไปด้วย“เตี่ยกับม๊าก็อยากเห็นพี่หมี่มีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ใช่ไหมครับ”เจมส์ส่งยิ้มอบอุ่น นี่แหละที่สาวเปรี้ยวอย่างเธอหลงเสน่ห์เขา หนุ่มเนิร์ดดธรรมดา ๆ หน้าตาเรี
มือนวลลออจับที่หน้าท้องแบนราบของตน ใบหน้าของคนที่ตั้งอกตั้งใจทำลูกลอยมาในห้วงกมล มัญชุพรจะมีลูกกับพงศพัศจริง ๆ นะหรือ เด็กที่เกิดจากความปรารถนาของบิดาว่าอยากมี แต่ปราศจากความรักเด็กที่หากพงศพัศรู้ เขาจะเอาลูกไปจากเธอ มัญชุพรกุมหน้าท้องอย่างหวงแหน เธอจะไม่ยอมให้ใครเอาลูกไปได้ตอนนี้มัญชุพรอยู่นอกเหนือเขตอาณัติของเขา เธอเป็นอิสระ เธอจะไม่ให้ลูกกับเขาหรอก จะคลอดที่นี่ ลูกดูให้เติบโตเป็นคนน่ารัก อ่อนโยน ไม่หน้าบึ้ง เคราเฟิ้ม เหมือนผู้เป็นพ่อแต่ก่อนอื่นต้องรู้ให้แน่ว่าท้องจริงหรือเปล่า คืนนี้เธอแอบสั่งที่ตรวจครรภ์จากแอปพลิเคชันมาหลายอัน ไม่กี่วันก็มาถึง แบบพรสรวงไม่รู้เพราะมัญชุพรบอกให้ผู้จัดการเก็บไว้ให้ก่อนเมื่อยามดึกมาถึงและเธออยู่ตัวคนเดียว เวลาห้านาทีที่จะเปลี่ยนชีวิตมัญชุพรก็เริ่มขึ้น เธอวางที่ตรวจไว้ในห้องน้ำ ตัวเองออกไปเดินเป็นหนูติดจั่นอยู่ในห้องนอนลมทะเลพัดมาโชยชื่น แต่ไม่อาจระบายความชื้นเหงื่อบนใบหน้าเธอได้ ใจมัญชุพรก็ร้อน จวนเจียนจะระเบิด ในห้องเงียบจนแทบได้ยินเสียงหัวใจตัวเองนาฬิกาที่มือถือตั้งไว้ดังขึ้น บอกว่าเวลาแห่งการรอคอยจบลงแล้ว และที่ตรวจครรภ์มีขีดแดงสองขีดMi_Mhi:
“คุณรักอาหมี่เหรอ”คำถามเสี่ยจิวดังก้องในหัว พงศพัศแค่อยากให้เธออยู่ด้วย เป็นแม่ของลูก กลับมาจากทำงานเหนื่อยก็อยากเห็นหน้าเธอ ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันหนุ่มจากของไร่ดาวเรืองนิ่งต่อหน้าชามก๋วยเตี๋ยว คิดถึงวันที่พาเธอไปกินอาหารด้วยกันครั้งแรก นึกถึงใบหน้าพึงพอใจ เสียงใส ๆ ท่าทางเธอที่ร่าเริงตอนกินไอศกรีม นึกถึงยามกอดกัน กลิ่นกายหอม ผมนุ่มลื่นเหมือนเส้นไหม ริมฝีปากเธอที่ครวญครางชื่อเขา ความแน่นที่ตอดรัด...นี่เขาเกิดอารมณ์ทางเพศในร้านก๋วยเตี๋ยวกลางตลาดอย่างนั้นหรือพงศพัศหยิบน้ำเย็นมาดื่ม หวังดับอะไรที่ตื่นให้สงบลง การันต์กับส้มจี๊ดคุยกันกะหนุงกะหนิง ลูกน้องแบ่งลูกชิ้นที่เป็นของโปรดให้ภรรยา ขณะอีกฝ่ายคีบถั่วงอกที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ชอบให้สามีอิจฉาเขาเพิ่งรู้ซึ้งกับคำนี้ ชีวิตแต่งงานที่ราบเรียบธรรมดา ๆ แค่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันก็สุขเหลือล้น หากเขาอยู่กับมัญชุพรคงเป็นสุขนักยอมรับเสียเถิด ...เขาหลงรักเธอ เสียงในสมองชายหนุ่มสรุป ที่ทำไปทุกอย่าง ยอมไปเฝ้าหน้าบ้าน ยอมเจ็บตัว เขาทำเพราะรัก...คำเดียวเท่านั้นเขาไม่รู้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มัญชุพรเข้ามาแทรกในชีวิต เธอทำให้เขาติดและโหยห
สวนทางกับพงศพัศที่ขับรถมาดักรอหน้าบ้านตั้งแต่เช้า ทำเอารถเจ้าบ้านออกไปไหนไม่ได้“ฉันอยากเจอหมี่”ชายหนุ่มเกาะซี่กรงลูกประตูรั้วแจ้งกับคนรับใช้ จิรัฐฎ์วางช้อนตักโจ้ก กะจะไปฉะฝีปากเสียหน่อย แต่เสี่ยจิวยกมือห้าม“อั้วจะไปคุยกับอาคุณกระทิงเอง”เมื่อเรื่องทั้งหมดคลี่คลาย เสี่ยใหญ่ก็กลับมาแจ่มใส มีแรงต่อสู้กับทุกอย่าง“มันหน้าด้านหน้าทนนะเตี่ย บอกอะไรก็ไม่ฟัง เดี๋ยวความดันจะขึ้น”นางพิสมัยพยักหน้าเห็นด้วย“อั้วจัดการได้น่า อั้วอาบน้ำร้อนมาก่อน”เสี่ยจิวอยากไปดูหน้าอดีตเขย ขอดูหน่อยเถิดว่ามาตามลูกสาวเพราะเหตุใด ดื้อดึง อยากเอาชนะ หรือมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น“สวัสดีครับเตี่ย”คนนอกรั้วยกมือไหว้ สรรพนามเรียกเปลี่ยนไป เพราะเห็นว่าเป็นบิดาของมัญชุพร“ผมมาหาหมี่”เขาบอกความตั้งใจแบบไม่อ้อมค้อม ตาเล็กหยีสบตาคนหนุ่มนิ่ง“มาหาเรื่องอะไร เงินเราก็คืนคุณไปหมดแล้ว”เสี่ยจิวใช้น้ำเสียงราบเรียบ ผู้เป็นพ่อใจเย็นกว่าลูกชาย“ผมมีเรื่องจะคุยกับหมี่ เรื่องส่วนตัว”พงศพัศยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าจะพูดอะไรกับเธอ รู้เพียงอย่างเดียว...เขาอยากเจอ“คุณกับอาหมี่ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว เรื่องวันหย่านัดมาเลย ทางฝั่งผมพร้อม”“ผ
“กูไม่ให้เจอ มึงออกไปจากบ้านกูเลย ไม่งั้นจะเรียกตำรวจ”เมื่อพูดกันดี ๆ สุภาพ ๆ อีกฝ่ายก็ไม่ฟัง จิรัฐฎ์จึงใช้ภาษาพ่อขุน“เรียกมาเลยสิ กูไม่กลัว หมี่...อยู่ไหน มาหาฉันหน่อย”มือใหญ่จับซี่ประตูเหล็ก ส่งเสียงตะโกนเข้าไปในบ้าน จิรัฐฎ์หน้าแดงจัด“พวกแกเฝ้ามันไว้!”แม้เขาจะดูด้อยกำลังกว่า แต่จิรัฐฎ์ก็มีวิธีจัดการเรื่องยุ่งในแบบของตน เขาโทรหาพรสรวง กระซิบบอกว่าพงศพัศมาตามมัญชุพร ให้หลอกล่อเธอให้อยู่แต่ในบ้าน อย่าอยู่ใกล้หน้าต่างเป็นอันขาด เพื่อไม่ให้เห็นพงศพัศจากนั้นก็โทรหานายตำรวจที่เป็นเพื่อนกัน ขอให้ช่วยมาจับพงศพัศไปโรงพัก“ผมมาตามเมีย”ผู้มาเยือนบอกตำรวจเสียงกร้าว“มันทำร้ายน้องสาวผม”จิรัฐฎ์กล่าวหา คะเนจากน้ำตาของมัญชุพรที่เห็น“ผมไม่เคยทำร้ายหมี่ เรียกเธอมาถามได้”ขนาดตำรวจมาถึงสามนายยังเกรง ๆ บรรยากาศมาคุรอบตัวพงศพัศ“มันกำลังจะบุกรุกบ้านผม มาโวยวายสร้างความเดือดร้อน”“กูแค่จะมาเอาเมียคืน”เขาเขย่าลูกกรงเป็นผลให้ประตูทั้งบานสั่น ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด“เห็นไหมคุณตำรวจ มันพยายามจะเข้ามาก่อความวุ่นวาย บ้านผมมีแต่คนแก่กับคนท้องอ่อน ๆ นะครับ”จิรัฐฎ์ผันตัวเป็นลูกอีช่างฟ้อง พร้อมส่งสายตาขอความ
“พี่หมี่”พรสรวงแทบถลาลงจากบ้านเมื่อเห็นมัญชุพรเปิดประตูรถออกมา“อย่าวิ่ง เดินระวัง ๆ หน่อย เธอกำลังท้องอยู่นะมุก”พี่ชายส่งเสียงเอ็ด แล้วไปเปิดหลังรถหยิบกระเป๋าให้คนรับใช้“มุกคิดถึงพี่หมี่มากเลย” น้องกอดเธอไว้แน่น“จ้ะ พี่ก็คิดถึงมุก”เธอยิ้มให้ ทั้ง ๆ ที่ขอบตายังช้ำจากการร้องไห้“นายกระทิงทรมานพี่เหรอ ไปแจ้งความกันไหม”พงศพัศในสายตาพรสรวงเป็นผู้ร้ายเต็มขั้น ทำให้เธอบอกคนรักอย่างไม่อายเลยว่าที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงิน ขอไปไถ่ตัวพี่สาว เจมส์เป็นคนดีและรักพรสรวงมาก รีบโอนเงินให้จิรัฐฎ์ทันที แล้วเขาก็รีบไปพาตัวมัญชุพรมา“เตี่ย ไม่สบายเหรอ”“อือ”เสี่ยจิวไม่ร่าเริง หน้าหมองเศร้า บ่นว่าตนเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่ได้เรื่อง ครั้งหนึ่งก็เหมือนขายลูกสาวแลกเงิน ครั้งที่สองก็เหมือนให้ลูกสาวไปสูบเงินจากฝ่ายชาย“พี่หมี่กลับมาอย่างนี้เตี่ยคงดีใจ สมาชิกในบ้านครบกันสักที”น้องจูงมือพี่ไปยังห้องนั่งเล่น มีเสี่ยจิวนั่งดูข่าวบนเก้าอี้ไม้โยก บิดาเลี้ยงน้ำตารื้นเมื่อลูกสาวคนโตกลับมา“ต่อแต่นี้อั้วจะปกป้องลื้อเองอาหมี่ จะไม่ให้ใครมารังแก ไม่ให้ใครดูถูกได้”นางพิสมัยหงอยลงไปมาก แต่ก็สวมกอดทันทีที่ลูกสาวก้มกร
มัญชุพรตื่นมาด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ด้วยคนตื่นก่อนปลุกเธอด้วยจุมพิตอุ่น “ขี้เซาจริงหมี่”พงศพัศหัวเราะเมื่อภรรยาทางพฤตินัย เบียดหน้าลงกับหมอน“คุณมีอะไรกับฉันเกือบถึงเช้า ขอฉันนอนบ้างเถอะ” เธอประท้วง “ตื่นมาส่งผัวหน่อยเร็ว”เขาสอดมือเข้าใต้หลัง ยกเธอพิงหัวเตียง คนยังง่วงอยู่ในสภาพคอพับคออ่อน“ไปละนะ ดูแลแม่ด้วย”มือสากตบเบา ๆ บนผ้าห่มบริเวณท้องเธอ “บ้าแล้วคุณ มีอะไรกันครั้งเดียวจะท้องเลยได้ยังไง”เธอปรือตาเถียง นางเอกในหนังละคร เวลาตื่นมาในเช้าแรกของการมีอะไรกัน พวกเจ้าหล่อนช่างมีผมยุ่งที่เซ็กซี่ผิดกับในความเป็นจริง ที่มัญชุพรตื่นมาด้วยสภาพผมยุ่ง ...เธอหมายถึงยุ่งจริง ๆ แบบปิดหน้าปิดตาไปหมด“ทำไปตั้งหลายครั้งต่างหาก ฉันจัดไปเต็มแม็กซ์ อยากกินมะม่วงหรือยัง เดี๋ยวเย็นนี้จะเอามาฝาก”คนแรงดีเสียงรื่นเริง“ไม่เอา ไปเลยนะ รีบไปทำงาน”สามีเสยผมเธอออก จุ๊บเหม่งแล้วถึงยอมไป มัญชุพรหลับต่อจนถึงแปดโมงจึงได้ลงมาข้างล่าง“คุณหมี่ ปวดหัวเป็นยังไงบ้างคะ”ส้มจี๊ดส่งสายตาล่อกแล่ก วันนี้เจ้านายใส่เสื้อมีฮู้ดปิดถึงคอ บังไม่ให้เห็นรอยแดงที่กระทิงดุ จอมกินจุทำไว้“ดีขึ้นแล้วจ้
“ถ้าสักวันหนึ่งคุณมีเมียใหม่ล่ะ”มัญชุพรหาเหตุผลมาค้านเท่าที่นึกออก“ไม่มีเป็นตัวเป็นตนหรอก ฉันชอบซื้อกิน”“น่ากลัว เกิดคุณเอาโรคมาติดลูก”เธอเอามือลูบแขนด้วยความขยะแขยง“จะสนไปทำไม ในเมื่อพอคลอดลูกแล้วเธอก็ต้องไป” เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ“ฉันให้ลูกกับคุณไม่ได้หรอก เพราะคุณน่ะขาดคุณสมบัติความเป็นพ่อ ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของลูก”“แต่ฉันต้องการลูก ได้ยินไหม แล้วหน้าที่เธอคือคลอดลูกให้กับฉัน แล้วสิบล้านไม่ต้องใช้คืน เจ๊ากันไป”ข้อเสนอดี ๆ แบบนี้ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงอ้าแขนรับ มีแต่มัญชุพรที่เกิดคุณธรรมสูงขึ้นมา แต่ไม่มีอะไรจะแข็งแกร่งเท่าอำนาจเงินหรอก“แค่นอนนิ่ง ๆ ก็จบแล้ว”“ฉันไม่ยอมมีเซ็กซ์กับคุณแน่ คนบ้ากาม”พงศพัศมองใบหน้าแดงซ่านนั้นแล้วหัวเราะ เธอคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วล่ะสิ“ฉันหมายถึงทำเด็กหลอดแก้วต่างหากล่ะ จืด ๆ อย่างเธอ แค่มานอนดิ้นเตียงฉันก็รำคาญแล้ว”“คุณกระทิงปากร้าย”“เธอนอนดิ้นนะหมี่ จำเอาไว้”“ไหนคุณสาบานว่าจะไม่แตะต้องฉัน”มัญชุพรส่งสายตาไม่ไว้ใจ เมื่อคืนเขาแอบลักเธอหรือเปล่า พงศพัศช่างไม่กลัวเทวดาฟ้าดินลงโทษเอาเสียเลย“แค่มอง นั่นไม่นับ อีกอย่างเธอก็เบียดฉันมาเอง” เขาหั